นิรันดร์รัตติกาล
-
เขียนโดย zarat
วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 04.28 น.
7 ตอน
2 วิจารณ์
1,700 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 22.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ความฝัน2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”เสียงที่คุ้นหูพูดพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง อลิซค่อยๆตั้งสติแล้วมองไปรอบๆ ภาพที่เห็นคือห้องนั่งเล่นที่คุ้นเคย และชาย 6 คนที่นั่งรอเธออยู่ เนื่องจากความทรงจำยังกลับมาไม่หมด เธอจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็นึกออก นี่คือพี่ชายทั้ง 6 คนของเธอนั่นเอง พอคิดได้ดังนั้นอลิซก็น้ำตาไหลพลั่งพลูออกมาไม่หยุด ทุกคนต่างลุกขึ้นและเดินเข้าไปรุมกอดเธอ
“ร้องไห้เป็นเด็กไปได้”อเล็กซ์พูดแซว
“อย่าว่าน้องสิ น้องยังเป็นยัยหนูน้อยของพวกเราเสมอแหละหน่า”เอไลจาห์รีบปกป้อง
“พาน้องมานั่งเถอะ ยืนกอดกันแบบนี้ จะคุยกันยังไง”เอเดนบอกคนอื่นๆแล้วพาอลิซไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ คนอื่นๆก็ตามมานั่งด้วย
“ไหน มาดูหน้าให้ชัดๆหน่อยสิ ยัยหนูโตเป็นสาวแล้วนี่นา”เอเลียสพูดพลางเอา2มือจับหน้าอลิซขึ้นมา พร้อมทั้งเช็ดน้ำตาให้ราวกับอลิซยังเป็นเด็ก อลิซยังพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองหน้าทุกๆคนเหมือนอยากจะเก็บเกี่ยวความทรงจำนี้ไว้หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน
“ผ่านทุกอย่างมาด้วยตัวคนเดียว คงเหนื่อยมากสินะ แต่น้องพี่เก่งที่สุดอยู่แล้ว”ออสก้าพูดกับอลิซ
“ไหนๆ เล่าให้ฟังบ้างสิ ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง ทีกับอิไลอัส พูดจ้อไม่หยุดเลย”ออสก้าพูดพลางเอามือกอดอก ทำท่าเหมือนจะงอน เดิมทีออสก้าก็ไม่ค่อบชอบอิไลอัสอยู่แล้ว เพราะคิดว่ามาแย่งความรักของน้องสาวไปจากเค้า อารมณ์แบบอยากให้น้องรักเค้าคนเดียว
“ใช่เวลามางอนน้องเหรอออสก้า”อาบีพูดแซว แล้วเอามือมาล้อกคอออสก้าไว้
“ถ้ามันทำให้เธอไม่สบายใจ บอกพี่ได้เลย เดี๋ยวพี่จัดการมันให้เอง”อาบีหันมาพูดกับอลิซ แต่มือก็ยังล็อกคอออสก้าอยู่ ออสก้าก็พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการโดนล็อก กลายเป็นทั้งสองคนลงไปเล่นมวยปล้ำกันที่พื้น
“555555”อลิซหัวเราะกับเหตุการณ์ตรงหน้า เพราะสองคนอายุรวมกันก็เกือบพันปี แต่ยังตีกันเหมือนเด็กๆ
“ยัยหนูหัวเราะได้แล้ว ดีจังเลยน้า”อิไลจาพูดขึ้นพลางเอามือลูบหัวอลิซ
“พวกพี่ยังเหมือนเดิมเลย ฉันคิดถึงพวกพี่มากๆ คิดถึงตอนที่เราได้อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้”อลิซพูดพร้อมยิ้มให้กับทุกคน พลางหันไปมองออสก้ากับอาบีที่ยังคงเล่นปล้ำกันอยู่
“พวกเราก็คิดถึงเธอ แล้วก็เป็นห่วงมากด้วย ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่ข้างๆ พวกเราก็เสียใจที่อยู่ปกป้องเธอไม่ได้”อเล็กซ์พูดกับอลิซด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
“เมื่อสามร้อยปีก่อนพวกพี่ปกป้องฉันแล้ว ถ้าพวกพี่ไม่เสียสละในวันนั้น ฉันก็คงไม่รอด”อลิซตอบกลับ
“เอาหน่า! อย่าคิดมาก มันหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วที่ต้องปกป้องเธอ”เอไลจาพูดกับอลิซ
“ตื่นเถิดอลิเซีย!!”เสียงเรียกจากแม่มดมาเรียแว่วเข้ามา อลิซสะดุ้งแล้วหันไปมองตามเสียง
“มาเรียคงเรียกแล้วสิท่า”เอเดนหันมาถาม
“น่าจะใช่”อลิซตอบ
“เรายังพอมีเวลา ไปหาพ่อกับแม่ก่อน แล้วนายสองคนจะเล่นกันอีกนานมั้ยเนี่ย”เอเลียสหันไปพูดกับออสก้าและอาบีพร้อมกับดึงมืออลิซเพื่อเดินไปอีกห้องหนึ่ง พี่ๆคนอื่นๆก็เดินมาด้วย อาบีกับออสก้าหยุดตีกันแล้วจึงเดินตามมา อลิซเดินท่ามกลางพี่ๆทั้ง 6 ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางคิดถึงวันวาน
ฉันมีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ทุกคนมีพ่อคนเดียวกันคืออาร์เทอร์ คาร์วีนัส แต่คนละแม่
อเล็กซ์(พี่คนแรก) ด้วยความเป็นพี่คนโตก็จะสุขุมที่สุด จัดการเรื่องสำคัญๆได้หมดทุกอย่าง เป็นที่ไว้วางใจของพ่อและแม่ เหมือนจะดุแต่จริงๆก็รักน้องอ่ะแหละ
ออสก้า(พี่คนที่2) นิสัยเป็นเด็ก ขี้งอน เอาแต่ใจนิดๆ อยากเป็นคุณพี่เบอร์หนึ่งของอลิเซีย
อาบี(พี่คนที่3) ตลก ขบขัน คารมดีเลิศ เจ้าชู้ที่1 สาวๆเพียบ สามคนนี้เป็นลูกของคุณแม่แคทเทอรีน
เอเดน(พี่คนที่4) นิ่งๆ เงียบๆ พูดน้อยต่อยหนัก
เอไลจา(พี่คนที่5) ห้าวๆห้วนๆ แต่กับน้องสาวอ่อนหวานมาก
เอเลียส(พี่คนที่6) อ่อนโยน นุ่มนวล ละมุนบอย สามคนนี้เป็นลูกของคุณแม่เอเลน่า
ส่วนฉันอลิซหรือชื่อจริงคืออลิเซีย เป็นลูกของคุณแม่ดาฟนี่
ด้วยความที่ฉันเป็นน้องสาวคนเดียว พี่ๆทั้ง 6 คือตามใจฉันสุดฤทธิ์มาก ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ตอนฉันเกิดมาพ่อกับแม่เล่าให้ฟังว่าพี่ๆแทบจะฆ่ากันตายเพื่อแย่งกันเลี้ยงฉัน
แล้วทุกคนก็เดินมาหยุดตรงหน้าประตูบานใหญ่บานหนึ่ง อเล็กซ์ผลักประตูนั้นเข้าไป
“ดูสิใครมา”เอเลียสพูดพลางจูงอลิซเซียเข้าไปในห้องที่มีพ่อกับเหล่าแม่ๆรออยู่
“อลิเซีย”เหล่าแม่ๆเรียกพร้อมกันพลางเดินมาสวมกอด
“ลูกสาวเราโตขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”เอเลน่าพูด
“นางสวยเหมือนฉันแล้ว”แคทเทอรีนพูดต่อด้วยความภาคภูมิใจ “เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยมากสินะ”ดาฟนี่พูดพร้อมเอามือลูบหน้าอลิเซียเบาๆ
“หนูสบายดีค่ะ คิดถึงทุกคนนะคะ”อลิเซียตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ด้วยความที่เป็นครอบครัวใหญ่ ปกติครอบครัวคนอื่นจะเก่งแย่งชิงดี ตีกันวุ่นวาย ผิดกับตระกูลเรา เหล่าแม่ๆและลูกๆรักกันดี จะทะเลาะกันก็แค่ตอนจะแย่งลูกกันเลี้ยง แม้บางคนจะไม่ได้เกิดออกมาเองแต่เหล่าแม่ๆก็รักเหมือนลูกตัวเองทุกคน
“ยัยหนูของพ่อ”อาร์เธอร์เดินเข้ามากอด
“นี่พวกพี่ๆแกล้งอะไรหนูรึเปล่า บอกพ่อเลย เดี๋ยวพ่อจัดการเอง”อาร์เธอร์ถามอลิเซีย
“ไม่มี 555”อลิเซียตอบพลางหัวเราะ
“ลูกมาเหนื่อยๆ มานั่งพักกินข้าวกันดีกว่า วันนี้ฤกษ์ดี ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย”ดาฟนี่พูดพร้อมกวาดมือไปบนโต๊ะอาหาร แล้วอาหารมากมายก็ปรากฏขึ้นมา ที่ทำแบบนั้นได้เพราะดาฟนี่เป็นแม่มดสายขาว ต่างจากแม่ๆท่านอื่นที่เป็นแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์กันหมด ด้วยเหตุนี้อลิเซียจึงเป็นแวมไพร์เลือดผสมระหว่างแม่มดกับแวมไพร์
“ว้าว น่ากินสุดๆเลย”อาบีพูดขึ้นพร้อมเดินไปนั่งที่โต๊ะคนแรก จากนั้นคนอื่นๆก็เดินตามมา แล้วทุกคนก็ร่วมรับประทานอาหารกันอย่างมีความสุข พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ปล่อยเวลาแห่งความสุขให้ผ่านไปช้าๆ โดยปกติแล้วแวมไพร์ทั่วไปจะต้องดื่มเลือดเป็นอาหารเพื่อดำรงชีวิต แต่ถ้าเป็นพวกแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ไม่จำเป็นจะต้องดื่มเลือดก็ได้ หรือถ้านึกอยากดื่มขึ้นมาจริงๆก็จะดื่มเลือดจากแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ด้วยกันเอง ดังนั้นพวกแวมไพร์เลือดบริสุทธ์สามารถกินอาหารปกติได้ ส่วนอลิเซียที่เป็นเลือดผสมยังคงต้องดื่มเลือดอยู่ พวกพี่ๆก็มักจะแบ่งเลือดตัวเองให้น้องเสมอ อีกทั้งเลือดจากแวมไพร์บริสุทธิ์ยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บหรือบาดแผลรุนแรงจากการสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นได้ การที่แวมไพร์เลือดผสมได้ดื่มเลือดแวมไพร์บริสุทธิ์จะทำให้เพิ่มความแข็งแกร่งและระงับความกระหายได้นานเป็นพิเศษ
แต่แล้วช่วงเวลาแห่งความสุขก็หมดลง
“ตื่นเถิดอลิเซีย!”เสียงเรียกจากแม่มดมาเรียแว่วเข้ามา อลิเซียสะดุ้งแล้วหันไปมองตามเสียงอีกครั้ง
“มาเรียคงเรียกลูกแล้วใช่มั๊ย”ดาฟนี่หันมาถามอลิเซีย
“ใช่ค่ะ”อลิเซียตอบ
“งั้นไปเถอะ เวลาของพวกเราก็ใกล้หมดแล้วหล่ะ ดูแลตัวเองดีๆนะ พวกเราอยู่ที่นี่เป็นกำลังใจให้เสมอ”ดาฟนี่พูดกับอลิเซีย
“หนูไม่อยากกลับไป ยังอยากอยู่ที่นี่กับทุกคน”อลิเซียพูดไปร้องไห้ไป ไม่ทันได้ร่ำลา ร่างของทุกคนก็ค่อยๆหายไป
“ตื่นเถิดอลิเซีย!”เสียงเรียกครั้งที่3 อลิเซียหันกลับไปมองตามเสียง ตอนนี่มีประตูอีกบานตั้งอยู่ซึ่งมันก็คือประตูห้องใต้หลังคาบ้านเธอนั่นเอง เธอจึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
“ร้องไห้เป็นเด็กไปได้”อเล็กซ์พูดแซว
“อย่าว่าน้องสิ น้องยังเป็นยัยหนูน้อยของพวกเราเสมอแหละหน่า”เอไลจาห์รีบปกป้อง
“พาน้องมานั่งเถอะ ยืนกอดกันแบบนี้ จะคุยกันยังไง”เอเดนบอกคนอื่นๆแล้วพาอลิซไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ คนอื่นๆก็ตามมานั่งด้วย
“ไหน มาดูหน้าให้ชัดๆหน่อยสิ ยัยหนูโตเป็นสาวแล้วนี่นา”เอเลียสพูดพลางเอา2มือจับหน้าอลิซขึ้นมา พร้อมทั้งเช็ดน้ำตาให้ราวกับอลิซยังเป็นเด็ก อลิซยังพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองหน้าทุกๆคนเหมือนอยากจะเก็บเกี่ยวความทรงจำนี้ไว้หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน
“ผ่านทุกอย่างมาด้วยตัวคนเดียว คงเหนื่อยมากสินะ แต่น้องพี่เก่งที่สุดอยู่แล้ว”ออสก้าพูดกับอลิซ
“ไหนๆ เล่าให้ฟังบ้างสิ ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง ทีกับอิไลอัส พูดจ้อไม่หยุดเลย”ออสก้าพูดพลางเอามือกอดอก ทำท่าเหมือนจะงอน เดิมทีออสก้าก็ไม่ค่อบชอบอิไลอัสอยู่แล้ว เพราะคิดว่ามาแย่งความรักของน้องสาวไปจากเค้า อารมณ์แบบอยากให้น้องรักเค้าคนเดียว
“ใช่เวลามางอนน้องเหรอออสก้า”อาบีพูดแซว แล้วเอามือมาล้อกคอออสก้าไว้
“ถ้ามันทำให้เธอไม่สบายใจ บอกพี่ได้เลย เดี๋ยวพี่จัดการมันให้เอง”อาบีหันมาพูดกับอลิซ แต่มือก็ยังล็อกคอออสก้าอยู่ ออสก้าก็พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการโดนล็อก กลายเป็นทั้งสองคนลงไปเล่นมวยปล้ำกันที่พื้น
“555555”อลิซหัวเราะกับเหตุการณ์ตรงหน้า เพราะสองคนอายุรวมกันก็เกือบพันปี แต่ยังตีกันเหมือนเด็กๆ
“ยัยหนูหัวเราะได้แล้ว ดีจังเลยน้า”อิไลจาพูดขึ้นพลางเอามือลูบหัวอลิซ
“พวกพี่ยังเหมือนเดิมเลย ฉันคิดถึงพวกพี่มากๆ คิดถึงตอนที่เราได้อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้”อลิซพูดพร้อมยิ้มให้กับทุกคน พลางหันไปมองออสก้ากับอาบีที่ยังคงเล่นปล้ำกันอยู่
“พวกเราก็คิดถึงเธอ แล้วก็เป็นห่วงมากด้วย ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่ข้างๆ พวกเราก็เสียใจที่อยู่ปกป้องเธอไม่ได้”อเล็กซ์พูดกับอลิซด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
“เมื่อสามร้อยปีก่อนพวกพี่ปกป้องฉันแล้ว ถ้าพวกพี่ไม่เสียสละในวันนั้น ฉันก็คงไม่รอด”อลิซตอบกลับ
“เอาหน่า! อย่าคิดมาก มันหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วที่ต้องปกป้องเธอ”เอไลจาพูดกับอลิซ
“ตื่นเถิดอลิเซีย!!”เสียงเรียกจากแม่มดมาเรียแว่วเข้ามา อลิซสะดุ้งแล้วหันไปมองตามเสียง
“มาเรียคงเรียกแล้วสิท่า”เอเดนหันมาถาม
“น่าจะใช่”อลิซตอบ
“เรายังพอมีเวลา ไปหาพ่อกับแม่ก่อน แล้วนายสองคนจะเล่นกันอีกนานมั้ยเนี่ย”เอเลียสหันไปพูดกับออสก้าและอาบีพร้อมกับดึงมืออลิซเพื่อเดินไปอีกห้องหนึ่ง พี่ๆคนอื่นๆก็เดินมาด้วย อาบีกับออสก้าหยุดตีกันแล้วจึงเดินตามมา อลิซเดินท่ามกลางพี่ๆทั้ง 6 ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางคิดถึงวันวาน
ฉันมีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ทุกคนมีพ่อคนเดียวกันคืออาร์เทอร์ คาร์วีนัส แต่คนละแม่
อเล็กซ์(พี่คนแรก) ด้วยความเป็นพี่คนโตก็จะสุขุมที่สุด จัดการเรื่องสำคัญๆได้หมดทุกอย่าง เป็นที่ไว้วางใจของพ่อและแม่ เหมือนจะดุแต่จริงๆก็รักน้องอ่ะแหละ
ออสก้า(พี่คนที่2) นิสัยเป็นเด็ก ขี้งอน เอาแต่ใจนิดๆ อยากเป็นคุณพี่เบอร์หนึ่งของอลิเซีย
อาบี(พี่คนที่3) ตลก ขบขัน คารมดีเลิศ เจ้าชู้ที่1 สาวๆเพียบ สามคนนี้เป็นลูกของคุณแม่แคทเทอรีน
เอเดน(พี่คนที่4) นิ่งๆ เงียบๆ พูดน้อยต่อยหนัก
เอไลจา(พี่คนที่5) ห้าวๆห้วนๆ แต่กับน้องสาวอ่อนหวานมาก
เอเลียส(พี่คนที่6) อ่อนโยน นุ่มนวล ละมุนบอย สามคนนี้เป็นลูกของคุณแม่เอเลน่า
ส่วนฉันอลิซหรือชื่อจริงคืออลิเซีย เป็นลูกของคุณแม่ดาฟนี่
ด้วยความที่ฉันเป็นน้องสาวคนเดียว พี่ๆทั้ง 6 คือตามใจฉันสุดฤทธิ์มาก ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ตอนฉันเกิดมาพ่อกับแม่เล่าให้ฟังว่าพี่ๆแทบจะฆ่ากันตายเพื่อแย่งกันเลี้ยงฉัน
แล้วทุกคนก็เดินมาหยุดตรงหน้าประตูบานใหญ่บานหนึ่ง อเล็กซ์ผลักประตูนั้นเข้าไป
“ดูสิใครมา”เอเลียสพูดพลางจูงอลิซเซียเข้าไปในห้องที่มีพ่อกับเหล่าแม่ๆรออยู่
“อลิเซีย”เหล่าแม่ๆเรียกพร้อมกันพลางเดินมาสวมกอด
“ลูกสาวเราโตขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”เอเลน่าพูด
“นางสวยเหมือนฉันแล้ว”แคทเทอรีนพูดต่อด้วยความภาคภูมิใจ “เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยมากสินะ”ดาฟนี่พูดพร้อมเอามือลูบหน้าอลิเซียเบาๆ
“หนูสบายดีค่ะ คิดถึงทุกคนนะคะ”อลิเซียตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ด้วยความที่เป็นครอบครัวใหญ่ ปกติครอบครัวคนอื่นจะเก่งแย่งชิงดี ตีกันวุ่นวาย ผิดกับตระกูลเรา เหล่าแม่ๆและลูกๆรักกันดี จะทะเลาะกันก็แค่ตอนจะแย่งลูกกันเลี้ยง แม้บางคนจะไม่ได้เกิดออกมาเองแต่เหล่าแม่ๆก็รักเหมือนลูกตัวเองทุกคน
“ยัยหนูของพ่อ”อาร์เธอร์เดินเข้ามากอด
“นี่พวกพี่ๆแกล้งอะไรหนูรึเปล่า บอกพ่อเลย เดี๋ยวพ่อจัดการเอง”อาร์เธอร์ถามอลิเซีย
“ไม่มี 555”อลิเซียตอบพลางหัวเราะ
“ลูกมาเหนื่อยๆ มานั่งพักกินข้าวกันดีกว่า วันนี้ฤกษ์ดี ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย”ดาฟนี่พูดพร้อมกวาดมือไปบนโต๊ะอาหาร แล้วอาหารมากมายก็ปรากฏขึ้นมา ที่ทำแบบนั้นได้เพราะดาฟนี่เป็นแม่มดสายขาว ต่างจากแม่ๆท่านอื่นที่เป็นแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์กันหมด ด้วยเหตุนี้อลิเซียจึงเป็นแวมไพร์เลือดผสมระหว่างแม่มดกับแวมไพร์
“ว้าว น่ากินสุดๆเลย”อาบีพูดขึ้นพร้อมเดินไปนั่งที่โต๊ะคนแรก จากนั้นคนอื่นๆก็เดินตามมา แล้วทุกคนก็ร่วมรับประทานอาหารกันอย่างมีความสุข พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ปล่อยเวลาแห่งความสุขให้ผ่านไปช้าๆ โดยปกติแล้วแวมไพร์ทั่วไปจะต้องดื่มเลือดเป็นอาหารเพื่อดำรงชีวิต แต่ถ้าเป็นพวกแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ไม่จำเป็นจะต้องดื่มเลือดก็ได้ หรือถ้านึกอยากดื่มขึ้นมาจริงๆก็จะดื่มเลือดจากแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ด้วยกันเอง ดังนั้นพวกแวมไพร์เลือดบริสุทธ์สามารถกินอาหารปกติได้ ส่วนอลิเซียที่เป็นเลือดผสมยังคงต้องดื่มเลือดอยู่ พวกพี่ๆก็มักจะแบ่งเลือดตัวเองให้น้องเสมอ อีกทั้งเลือดจากแวมไพร์บริสุทธิ์ยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บหรือบาดแผลรุนแรงจากการสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นได้ การที่แวมไพร์เลือดผสมได้ดื่มเลือดแวมไพร์บริสุทธิ์จะทำให้เพิ่มความแข็งแกร่งและระงับความกระหายได้นานเป็นพิเศษ
แต่แล้วช่วงเวลาแห่งความสุขก็หมดลง
“ตื่นเถิดอลิเซีย!”เสียงเรียกจากแม่มดมาเรียแว่วเข้ามา อลิเซียสะดุ้งแล้วหันไปมองตามเสียงอีกครั้ง
“มาเรียคงเรียกลูกแล้วใช่มั๊ย”ดาฟนี่หันมาถามอลิเซีย
“ใช่ค่ะ”อลิเซียตอบ
“งั้นไปเถอะ เวลาของพวกเราก็ใกล้หมดแล้วหล่ะ ดูแลตัวเองดีๆนะ พวกเราอยู่ที่นี่เป็นกำลังใจให้เสมอ”ดาฟนี่พูดกับอลิเซีย
“หนูไม่อยากกลับไป ยังอยากอยู่ที่นี่กับทุกคน”อลิเซียพูดไปร้องไห้ไป ไม่ทันได้ร่ำลา ร่างของทุกคนก็ค่อยๆหายไป
“ตื่นเถิดอลิเซีย!”เสียงเรียกครั้งที่3 อลิเซียหันกลับไปมองตามเสียง ตอนนี่มีประตูอีกบานตั้งอยู่ซึ่งมันก็คือประตูห้องใต้หลังคาบ้านเธอนั่นเอง เธอจึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ