Zone D Hunter
7.7
เขียนโดย จูเนียร์เคะ
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.18 น.
20 chapter
3 วิจารณ์
21.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2562 18.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) อดีตที่น่าจดจำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 16
อดีตที่น่าจดจำ
--------------------
สามสิบปีก่อน ในช่วงฤดูฝนตกชุก เสียงประกาศเตือนแผ่นดินใหว
มาจากสถานที่ๆหนึ่ง บนผืนดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนแสงแดดสีส้มยาม
เย็นส่องทองลงมา พื้นดินสั่นสะเทือนเงาดำขนาดใหญ่มหึมากำลังเคลื่อน
มาอย่างน่ากลัว
"ประกาศจากเมืองลอสแองเจอร์ลิส ในพื้นที่เขตแดนนักล่ามีแรง
สั่นสะเทือนแผ่นดินไหวขนาดแปดริกเตอร์ ทางกลมตรวจสอบคาดว่าเป็น
เมืองที่มีขนาดใหญ่มโหราญมาก ขอให้ทุกคนโปรดระวัง"
วิทยุจากกลมอุทุธรณีวิทยาประกาศผ่านวิทยุของเติอนทั่วทุกเมือง
เสียประกาศนั่นได้ถูกบันทึกและเปิดกระจายเสียงให้เมืองน่างกุ้งฟัง แผ่นดิน
ไหวขนาดระดับแปดนี้มาจากเมืองย่างกุ้ง ที่มีขนาดใหญ่มหึมากำลังเคลื่อน
ที่อย่างรวดเร็ว มันมีขนาดใหญ่กว่าลอนดอนครึ่งหนึ่ง
"ยิงพลุส่งสัญญาณ!" ลีในอายุก่อนวัยกลางคน เธอดูดีมาก เธอยืน
เกาะรางเหล็กอยู่ข้างนอกหน้าห้องควบคุมและอยู่หน้าสุดของเมือง เธอ
สั่งให้หน่อยทหารจุดพลุสัญญาณสีเขียวที่แสดงถึงความปลอดภัยขึ้นฟ้า
แสงรัเบิดกระจายส่องสว่างบนท้องฟ้า เง่แสงสะท้อนหน่องน้ำ
บนพื้นดิน เมืองชุมชนขนาดเล็กได้วิ่งเหยียบน้ำผ่านไป คนบนเมืองคนหนึ่ง
ยืนมองหน้าประตูเมืองน่างกุ้งอย่างเกรงกลัว หน้าประตูเมืองทาสีขาวรูป
นางฟ้าที่มีปีกสองค้างใบหน้าตรงพร้อมกับกำช่อดอกกุหลาบไว้ "พวกนั้น
จะล่าเราเหรอ!?!" คนเมืองคนหนึ่งถาม
"ฉันก็ไม่รู้" คนที่สองตอบกลับ เขาบังคับพวงมาลัยขับเมืองอย่าง
เกรงตัว "พวกเค้าจะเอาเราไปเป็นทาสแน่ๆ!"
"แต่พวกเข้ายิงพลุส่งสัญญาณมาให้เรา!" ชายคนที่หนึ่งชี้บอก
"พวกเขาอาจจะช่วยเรา!"
คนขับตั้งหน้าตั้งตาขับไปไม่หันมองสิ่งรอบตัว เขาคงกลัวโดนจับมาก
"เราจะรู้ได้ยังไงกัรละ!?!" เขาตะโกนถามกลับไป ชายที่ยืนมองอยู่ก็ไม่รู้จะ
พูดอะไรออกไปนอกจากจะมองดูเหตุการณ์ของเมืองย่างกุ้งต่อไป
"ท่านคะ ฉันคาดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเราจะช่วย" เพื่อนคนหนึ่งบอก
ลียังมองดูเหตุการณ์เมืองเล็กๆนั่นต่อไป กระแสลมพัดทรงผมสบัดเบาๆ
"ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงเหมือนกัน..." ลีพูดพร้อมกับดูเหตุการณ์ต่อไป
"เธอมีทางใหนที่จะช่วยได้บ้าง?" ลีหันถาม
"มีอยู่ทางเดียวคะ" เพื่อนคนรั้นพูด ก่อนจะหันวิ่งจากไป เธอวิ่งลงลิฟท์
ที่ทำจากชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่สีขาวลงไปยังท่าจอดยาน เมื่อประตูเปิด
ออก เธอก็วิ่งสุดชีวิตพร้อมกับตะโกนประกาศข่าว "ทุกคน! เตรียมออกยาน!
...ไปช่วยบอกพวกเขา!"
นักบินยานรบได้แยกย้ายกันวิ่งขึ้นไปสตาร์ทยานบิน ฐานเมือง
ชั้นสองของย้างกุ้งค่อยๆถูกยกดันขึ้น ถนนที่มีรถวิ่งก็มีป้านเหล็กยหนา
สีดำสลับเหลืองเลื่อนมากั้นจากด้านข้าง ยานรบได้บินออกจากช่องฐานเมือง
ชั้นสองทั้งรอบด้าน ยานบินรูปร่างคล้ายปลาทองกำลังบินร่อนไปยัง
เมืองที่กำลังวิ่งหลบหนีอยู่ไร้เดียงสา
"พระเจ้าช่วย...!!!" คนขับเห็นยานบินสี่ลำมาดักหน้า เขาไม่ได้ตั้งสติ
ในตอนนั้น แทนที่จะเลี้ยวหลบ แต่ก็ดันเหยียบเบรกหยุดล้อตาย มัน
ก็เข้าช่องทางของลีพอดิบพอดี
"พวกเราไม่ได้มาล่าเมือง ขอย้ำ พวกเราไม่ได้มาล่าเมือง!" คนขับ
ยานคนหนึ่งพูดผ่านไมล์โครโฟนเสียงถูกส่งผ่านลำโพงเล็กๆด้านข้างยานบิน
ที่เร่งระดับเสียงไว้ดัง "ได้โปรดมากับพวกเรา พวกเรามีคนอพยบและหนีตาย
อยู่กับเราเป็นจำนวนมาก พวกเราไม่ได้ล่าเมืองแต่พวกเราจะช่วยให้
พวกคุณพ้นภัย"
ผู้คุมเมืองได้เปิดเสียงประกาศฟังกันท่วนหน้า ลียืนมองเหล่ายาน
บินที่กำลังล้อมและเจรจาคนบนเมืองนั้น เธอเอี้ยวหูฟังคำประกาศของพวกเขา
พวกเขามีการเถียงกันและยังไม่เชื่อใจกันอีกด้วย นั่นทำให้งานช่วยชีวิต
มันยากเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง
จู่ๆแสงสว่างของยานบินที่ลอยอยู่ก็กระพริบส่งสัญญาณกลับมา
ลีชโงกหน้ามองดู นั่นเป็นสัญญาณที่ดี พวกชาวเมืองเล็กๆคงไว้ใจพวกเขา
แล้ว ลีไม่รีรอที่จะออกคำสั่ง "ผู้คุม! เปิดภาพชาวเมือง!" ลีหันเดินไปพร้อม
กับออกคำสั่ง
"มีคลิปวิดีโอส่งมาจากย่างกุ้งครับ" คนขับบอก ทุกคนได้รีบสารเดียวกัน
"พวกเรามีภาพบนเมืองมาให้ชมดู! หวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะ!" คนประกาศ
รีบเอ่ยบอก กลุ่มคนหันมองหน้ากันสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้น มันจริงหรือไม่ก็ยัง
ไม่มีใครเชื่อ จนกระทั้งใต้ท้องยานบินมีช่องเล็กๆเปิดออก กล้องสีดำขนาด
เล็กเลิ่อนออกมาและฉายแสงภาพลงไปที่กำแพงตึกๆหนึ่ง ทุกคนต่าง
หันไปมอง เห็นผู้คนบนย่างกุ้งกำลังยิ้มทักทายและโบกมือให้ มีทั้งเด็ก
คนสูงอายุ ภาพเหล่านี้ทำให้ทุกคนบนเมืองเล็กๆ ต่างคล้อยใจตาม
"ที่นี่ย่างกุ้ง~!" ผู้หญิงในวิดีโอกระโดดยิ้มบอก
"มาอยู่กับพวกหนูสิคะ" เด็กผู้หญิงอายุสี่ขวบที่กำลังอุ้มอยู่ตะโกนพูด
และโบกมือให้กล้อง
คนเมืองมองดูวิดีโออย่างซาบซึ้งใจแต่ละคนดูจะน้ำตาเอ่อตกใน
ด้วยซ้ำ เสียงตอบกลับดังขึ้นในวิทยุบนห้องควบคุมและชานเมือง
"ผม..........ตกลง" คนขับตอบ คนบนเมืองย่างกุ้งต่างส่งเสียงดีใจเฮลั่น
ทั่วทั้งเมือง
"ยินดีต้อนรับสู่อย่างกุ้ง" คนประกาศพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม
"ตามพวกเรามาได้เลย" ยานลำนี้บินออกหน้ากลุ่มยานผ่านหลังเมืองไป
ยานลำอื่นบินตามหลายต่อกันไป
แสงไฟส่องมาที่ดวงตาของลี เธอยิ้มทันทีที่เห็น เมืองชุมชนขนาดเล็ก
กำลังค่อยวิ่งตามกลังกลุ่มยานบินมา "เปิดประตูต้อนรับพวกเขา..."
คนคุมประตูพยักหน้าก่อนจะโยกสวิตช์คันโยกสีดำลงช้าๆ
ประตูรูปสลักนางฟ้าสีขาวได้เปิดเอียงลงทาบพื้นดิน รถเมืองสืบสวนขับออก
มาทั้งสองข้างมุมประตู คนบนนั้นเปิดแท่งไฟสีแดงกับขาวโบกส่งสัญญาณ
"เข้ามาเลยๆ!"
เมืองสืบสวนขนาดเล็กยิ่งตะขอเจาะเข้าโครงเหล็ก เมืองสั่นสะเทือน
เล็กน้อย คนในชุมชนนึกว่าพวกนั้นจะฆ่าเราแล้ว แต่ที่จริงไม่... พวกพยายาม
ถึงเมืองขึ้นมาและประคองเมืองให้ขับเข้าไปได้ง่ายขึ้น
"ปิดประตูได้" ลีสั่ง ประตูเมืองย่างกุ้งได้ปิดลง คนชุมชนได้เพร่งมอง
เข้าไปด้านในตัวเมืองย้างกุ้ง ทุกคนทำสีหน้าตื้นเต้นกันใหญ่เมื่อได้เห็น
เมืองเคลื่อนที่ขนาดเล็กๆต่างจอดเก็บไว้เต็มไปหมด แถมยังมีการล้างทำ
ความสะอาดด้วย เมื่อรถเมืองชุมชนนี้หนุดจอด สะพายเชื่อมก็เลื่อนมาต่อ
เข้ากับตัวเมืองชุมชน ลีเดินนำหน้ามา คนขับเมืองชุมชนก็ออกเดินนำหน้า
มาเช่นกัน
"ยินดีต้อนรับ...." ลียิ้มพร้อมกับยื่นมือทันทาย
"ผมเป็นผู้นำเมืองลอสแองเจอร์ลิส" คนขับยืนมือจับมือทักทายกัน
"ยินดีต้อนรับ สู่ย่างกุ้ง...ที่หลบภัยของประชาชนทุกคน"
พวกเราล่าเมืองเพื่อช่วยเมืองที่หนีตาย ทุกเมืองต่างยอมรับ
และขอให้พวกเราส่งข่าวประกาศไปทั่วทุกสารทิศ แต่ว่า...ในช่วงคืนที่
ฝนตกหนักนั้น มีบางอย่างตามเรามา
"ฝนตกหน้าขนาดนี้ ถ้าเจอหนองน้ำมีหวังจมโคลนลุกแน่"
"คิดแบบนั้นเหมือนกัน!" ทหารสองคนคุยกัน ภายในก้องควบคุม
สายน้ำจากฝนใหลลงบนแผ่นกระจกสีเขียวแดมน้ำเงิน ฟ้าแลบเป็นครั้งคราว
"ตอนนี้สัญญาณเรด้าแย่มาก" ผู้คุมสัญญาณบอก ลีหันมองดูทุกคน
ที่กำลังทำหน้าที่อย่างแข็งขัน
"เครื่องนิตรอนลดความร้องลงได้เยอะเลย"
"การเคลื่อนที่ของโซ่จะขาบดูจะจมเลนแล้วครับ"
"เรด้าขัดข้องอย่างหนัก!"
"คลื่นสัญญาณไม่ดีเลยครับ"
เมืองย่างกุ้งไม่สามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆได้ในจอนฝนตก นั่นคือจุด
เริ่มต้นของศกนาฏกรรมของฉัน เมื่อจู่ในเรด้าที่ดูขัดข้องก็ได้ทีจุดแดงๆ
ขาดใหญ่เคลื่อนตามหลังมาติดๆ "ท่านคะ มีบางอย่างมาคะ" ฉันมองดูแล้ว
มันทำให้ฉันรู้สึกสงสัยไม่น้อยและที่ยิ่งกว่านั้น ฉันวิ่งไปที่ท้ายเมืองไม่สนใจ
น้ำฝนที่เปียกลงบนตัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อวิ่งไปจนสุดท้ายเมือง ฉันก็ได้
เห็นเข้ากับบางสิ่ง ทหารแถวนั้นต่างมองดูมันไม่สนใจฝนเลย แสงฟ้าแลบ
กระพริบขึ้นมาถี่ และสิ่งนั้นก็ทำให้ฉันต้องกลัวและจดจำไปชั่วชีวิต
เสียงหวอเตือนภัยดังขึ้น "ทุกคนรีบหนีออกไปจากย่างกุ้ง ขึ้นเมืองของ
ท่านละขับออกไปโดยเร็ว" ผู้คนแตกตื่นหนีลงไปนังฐานชั้นหนึ่งและเข้าเมือง
ประตูหน้าเมืองย่างกุ้งเปิดออก รถเมืองต่างๆวิ่งออกไปอย่างกันมดส่องแสงไฟ
ยานที่หน้ากลัว มีแต่เหล็กคล้ายหนาแหลมงออยู่ทั่วทั้งตัวมัน
มันลอยเข้ามาและทันปล่อยตัวทับเมืองฉัน หน้าเมืองยกหน้า และกระแทกลง
กับพื้นๆ พื้นดินสะเทือนอย่างแรงๆ มันรุมยิง...ฉันเกือบไม่รอด ไฟลุกโชน
ไปทั้วเมือง ตอนที่วิ่งหน้าตายฉันได้หันไปเห็นชื่อมัน มันเขียนว่า...
"อินโดมีนัส.........."
หลังจากนั้นมันก็หายไป นอกจากจะต้องแก้แค้นลอนดอนแล้วยังต้อง
มาสู้สิ่งปริศนานี้อีก หลายปีผ่านไป คนชาวเมืองของฉันช่วยกันสร้างเมือง
ขึ้นมาใหม่ สร้างเมืองลอยฟ้าและอาศัยอยู่บนอากาศแทนผืนดิน พวกเราอยู่
กันสงบสุขตลอดมา จนมาเจอพวกเองนี่แหละ
********************
อดีตที่น่าจดจำ
--------------------
สามสิบปีก่อน ในช่วงฤดูฝนตกชุก เสียงประกาศเตือนแผ่นดินใหว
มาจากสถานที่ๆหนึ่ง บนผืนดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนแสงแดดสีส้มยาม
เย็นส่องทองลงมา พื้นดินสั่นสะเทือนเงาดำขนาดใหญ่มหึมากำลังเคลื่อน
มาอย่างน่ากลัว
"ประกาศจากเมืองลอสแองเจอร์ลิส ในพื้นที่เขตแดนนักล่ามีแรง
สั่นสะเทือนแผ่นดินไหวขนาดแปดริกเตอร์ ทางกลมตรวจสอบคาดว่าเป็น
เมืองที่มีขนาดใหญ่มโหราญมาก ขอให้ทุกคนโปรดระวัง"
วิทยุจากกลมอุทุธรณีวิทยาประกาศผ่านวิทยุของเติอนทั่วทุกเมือง
เสียประกาศนั่นได้ถูกบันทึกและเปิดกระจายเสียงให้เมืองน่างกุ้งฟัง แผ่นดิน
ไหวขนาดระดับแปดนี้มาจากเมืองย่างกุ้ง ที่มีขนาดใหญ่มหึมากำลังเคลื่อน
ที่อย่างรวดเร็ว มันมีขนาดใหญ่กว่าลอนดอนครึ่งหนึ่ง
"ยิงพลุส่งสัญญาณ!" ลีในอายุก่อนวัยกลางคน เธอดูดีมาก เธอยืน
เกาะรางเหล็กอยู่ข้างนอกหน้าห้องควบคุมและอยู่หน้าสุดของเมือง เธอ
สั่งให้หน่อยทหารจุดพลุสัญญาณสีเขียวที่แสดงถึงความปลอดภัยขึ้นฟ้า
แสงรัเบิดกระจายส่องสว่างบนท้องฟ้า เง่แสงสะท้อนหน่องน้ำ
บนพื้นดิน เมืองชุมชนขนาดเล็กได้วิ่งเหยียบน้ำผ่านไป คนบนเมืองคนหนึ่ง
ยืนมองหน้าประตูเมืองน่างกุ้งอย่างเกรงกลัว หน้าประตูเมืองทาสีขาวรูป
นางฟ้าที่มีปีกสองค้างใบหน้าตรงพร้อมกับกำช่อดอกกุหลาบไว้ "พวกนั้น
จะล่าเราเหรอ!?!" คนเมืองคนหนึ่งถาม
"ฉันก็ไม่รู้" คนที่สองตอบกลับ เขาบังคับพวงมาลัยขับเมืองอย่าง
เกรงตัว "พวกเค้าจะเอาเราไปเป็นทาสแน่ๆ!"
"แต่พวกเข้ายิงพลุส่งสัญญาณมาให้เรา!" ชายคนที่หนึ่งชี้บอก
"พวกเขาอาจจะช่วยเรา!"
คนขับตั้งหน้าตั้งตาขับไปไม่หันมองสิ่งรอบตัว เขาคงกลัวโดนจับมาก
"เราจะรู้ได้ยังไงกัรละ!?!" เขาตะโกนถามกลับไป ชายที่ยืนมองอยู่ก็ไม่รู้จะ
พูดอะไรออกไปนอกจากจะมองดูเหตุการณ์ของเมืองย่างกุ้งต่อไป
"ท่านคะ ฉันคาดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเราจะช่วย" เพื่อนคนหนึ่งบอก
ลียังมองดูเหตุการณ์เมืองเล็กๆนั่นต่อไป กระแสลมพัดทรงผมสบัดเบาๆ
"ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงเหมือนกัน..." ลีพูดพร้อมกับดูเหตุการณ์ต่อไป
"เธอมีทางใหนที่จะช่วยได้บ้าง?" ลีหันถาม
"มีอยู่ทางเดียวคะ" เพื่อนคนรั้นพูด ก่อนจะหันวิ่งจากไป เธอวิ่งลงลิฟท์
ที่ทำจากชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่สีขาวลงไปยังท่าจอดยาน เมื่อประตูเปิด
ออก เธอก็วิ่งสุดชีวิตพร้อมกับตะโกนประกาศข่าว "ทุกคน! เตรียมออกยาน!
...ไปช่วยบอกพวกเขา!"
นักบินยานรบได้แยกย้ายกันวิ่งขึ้นไปสตาร์ทยานบิน ฐานเมือง
ชั้นสองของย้างกุ้งค่อยๆถูกยกดันขึ้น ถนนที่มีรถวิ่งก็มีป้านเหล็กยหนา
สีดำสลับเหลืองเลื่อนมากั้นจากด้านข้าง ยานรบได้บินออกจากช่องฐานเมือง
ชั้นสองทั้งรอบด้าน ยานบินรูปร่างคล้ายปลาทองกำลังบินร่อนไปยัง
เมืองที่กำลังวิ่งหลบหนีอยู่ไร้เดียงสา
"พระเจ้าช่วย...!!!" คนขับเห็นยานบินสี่ลำมาดักหน้า เขาไม่ได้ตั้งสติ
ในตอนนั้น แทนที่จะเลี้ยวหลบ แต่ก็ดันเหยียบเบรกหยุดล้อตาย มัน
ก็เข้าช่องทางของลีพอดิบพอดี
"พวกเราไม่ได้มาล่าเมือง ขอย้ำ พวกเราไม่ได้มาล่าเมือง!" คนขับ
ยานคนหนึ่งพูดผ่านไมล์โครโฟนเสียงถูกส่งผ่านลำโพงเล็กๆด้านข้างยานบิน
ที่เร่งระดับเสียงไว้ดัง "ได้โปรดมากับพวกเรา พวกเรามีคนอพยบและหนีตาย
อยู่กับเราเป็นจำนวนมาก พวกเราไม่ได้ล่าเมืองแต่พวกเราจะช่วยให้
พวกคุณพ้นภัย"
ผู้คุมเมืองได้เปิดเสียงประกาศฟังกันท่วนหน้า ลียืนมองเหล่ายาน
บินที่กำลังล้อมและเจรจาคนบนเมืองนั้น เธอเอี้ยวหูฟังคำประกาศของพวกเขา
พวกเขามีการเถียงกันและยังไม่เชื่อใจกันอีกด้วย นั่นทำให้งานช่วยชีวิต
มันยากเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง
จู่ๆแสงสว่างของยานบินที่ลอยอยู่ก็กระพริบส่งสัญญาณกลับมา
ลีชโงกหน้ามองดู นั่นเป็นสัญญาณที่ดี พวกชาวเมืองเล็กๆคงไว้ใจพวกเขา
แล้ว ลีไม่รีรอที่จะออกคำสั่ง "ผู้คุม! เปิดภาพชาวเมือง!" ลีหันเดินไปพร้อม
กับออกคำสั่ง
"มีคลิปวิดีโอส่งมาจากย่างกุ้งครับ" คนขับบอก ทุกคนได้รีบสารเดียวกัน
"พวกเรามีภาพบนเมืองมาให้ชมดู! หวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะ!" คนประกาศ
รีบเอ่ยบอก กลุ่มคนหันมองหน้ากันสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้น มันจริงหรือไม่ก็ยัง
ไม่มีใครเชื่อ จนกระทั้งใต้ท้องยานบินมีช่องเล็กๆเปิดออก กล้องสีดำขนาด
เล็กเลิ่อนออกมาและฉายแสงภาพลงไปที่กำแพงตึกๆหนึ่ง ทุกคนต่าง
หันไปมอง เห็นผู้คนบนย่างกุ้งกำลังยิ้มทักทายและโบกมือให้ มีทั้งเด็ก
คนสูงอายุ ภาพเหล่านี้ทำให้ทุกคนบนเมืองเล็กๆ ต่างคล้อยใจตาม
"ที่นี่ย่างกุ้ง~!" ผู้หญิงในวิดีโอกระโดดยิ้มบอก
"มาอยู่กับพวกหนูสิคะ" เด็กผู้หญิงอายุสี่ขวบที่กำลังอุ้มอยู่ตะโกนพูด
และโบกมือให้กล้อง
คนเมืองมองดูวิดีโออย่างซาบซึ้งใจแต่ละคนดูจะน้ำตาเอ่อตกใน
ด้วยซ้ำ เสียงตอบกลับดังขึ้นในวิทยุบนห้องควบคุมและชานเมือง
"ผม..........ตกลง" คนขับตอบ คนบนเมืองย่างกุ้งต่างส่งเสียงดีใจเฮลั่น
ทั่วทั้งเมือง
"ยินดีต้อนรับสู่อย่างกุ้ง" คนประกาศพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม
"ตามพวกเรามาได้เลย" ยานลำนี้บินออกหน้ากลุ่มยานผ่านหลังเมืองไป
ยานลำอื่นบินตามหลายต่อกันไป
แสงไฟส่องมาที่ดวงตาของลี เธอยิ้มทันทีที่เห็น เมืองชุมชนขนาดเล็ก
กำลังค่อยวิ่งตามกลังกลุ่มยานบินมา "เปิดประตูต้อนรับพวกเขา..."
คนคุมประตูพยักหน้าก่อนจะโยกสวิตช์คันโยกสีดำลงช้าๆ
ประตูรูปสลักนางฟ้าสีขาวได้เปิดเอียงลงทาบพื้นดิน รถเมืองสืบสวนขับออก
มาทั้งสองข้างมุมประตู คนบนนั้นเปิดแท่งไฟสีแดงกับขาวโบกส่งสัญญาณ
"เข้ามาเลยๆ!"
เมืองสืบสวนขนาดเล็กยิ่งตะขอเจาะเข้าโครงเหล็ก เมืองสั่นสะเทือน
เล็กน้อย คนในชุมชนนึกว่าพวกนั้นจะฆ่าเราแล้ว แต่ที่จริงไม่... พวกพยายาม
ถึงเมืองขึ้นมาและประคองเมืองให้ขับเข้าไปได้ง่ายขึ้น
"ปิดประตูได้" ลีสั่ง ประตูเมืองย่างกุ้งได้ปิดลง คนชุมชนได้เพร่งมอง
เข้าไปด้านในตัวเมืองย้างกุ้ง ทุกคนทำสีหน้าตื้นเต้นกันใหญ่เมื่อได้เห็น
เมืองเคลื่อนที่ขนาดเล็กๆต่างจอดเก็บไว้เต็มไปหมด แถมยังมีการล้างทำ
ความสะอาดด้วย เมื่อรถเมืองชุมชนนี้หนุดจอด สะพายเชื่อมก็เลื่อนมาต่อ
เข้ากับตัวเมืองชุมชน ลีเดินนำหน้ามา คนขับเมืองชุมชนก็ออกเดินนำหน้า
มาเช่นกัน
"ยินดีต้อนรับ...." ลียิ้มพร้อมกับยื่นมือทันทาย
"ผมเป็นผู้นำเมืองลอสแองเจอร์ลิส" คนขับยืนมือจับมือทักทายกัน
"ยินดีต้อนรับ สู่ย่างกุ้ง...ที่หลบภัยของประชาชนทุกคน"
พวกเราล่าเมืองเพื่อช่วยเมืองที่หนีตาย ทุกเมืองต่างยอมรับ
และขอให้พวกเราส่งข่าวประกาศไปทั่วทุกสารทิศ แต่ว่า...ในช่วงคืนที่
ฝนตกหนักนั้น มีบางอย่างตามเรามา
"ฝนตกหน้าขนาดนี้ ถ้าเจอหนองน้ำมีหวังจมโคลนลุกแน่"
"คิดแบบนั้นเหมือนกัน!" ทหารสองคนคุยกัน ภายในก้องควบคุม
สายน้ำจากฝนใหลลงบนแผ่นกระจกสีเขียวแดมน้ำเงิน ฟ้าแลบเป็นครั้งคราว
"ตอนนี้สัญญาณเรด้าแย่มาก" ผู้คุมสัญญาณบอก ลีหันมองดูทุกคน
ที่กำลังทำหน้าที่อย่างแข็งขัน
"เครื่องนิตรอนลดความร้องลงได้เยอะเลย"
"การเคลื่อนที่ของโซ่จะขาบดูจะจมเลนแล้วครับ"
"เรด้าขัดข้องอย่างหนัก!"
"คลื่นสัญญาณไม่ดีเลยครับ"
เมืองย่างกุ้งไม่สามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆได้ในจอนฝนตก นั่นคือจุด
เริ่มต้นของศกนาฏกรรมของฉัน เมื่อจู่ในเรด้าที่ดูขัดข้องก็ได้ทีจุดแดงๆ
ขาดใหญ่เคลื่อนตามหลังมาติดๆ "ท่านคะ มีบางอย่างมาคะ" ฉันมองดูแล้ว
มันทำให้ฉันรู้สึกสงสัยไม่น้อยและที่ยิ่งกว่านั้น ฉันวิ่งไปที่ท้ายเมืองไม่สนใจ
น้ำฝนที่เปียกลงบนตัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อวิ่งไปจนสุดท้ายเมือง ฉันก็ได้
เห็นเข้ากับบางสิ่ง ทหารแถวนั้นต่างมองดูมันไม่สนใจฝนเลย แสงฟ้าแลบ
กระพริบขึ้นมาถี่ และสิ่งนั้นก็ทำให้ฉันต้องกลัวและจดจำไปชั่วชีวิต
เสียงหวอเตือนภัยดังขึ้น "ทุกคนรีบหนีออกไปจากย่างกุ้ง ขึ้นเมืองของ
ท่านละขับออกไปโดยเร็ว" ผู้คนแตกตื่นหนีลงไปนังฐานชั้นหนึ่งและเข้าเมือง
ประตูหน้าเมืองย่างกุ้งเปิดออก รถเมืองต่างๆวิ่งออกไปอย่างกันมดส่องแสงไฟ
ยานที่หน้ากลัว มีแต่เหล็กคล้ายหนาแหลมงออยู่ทั่วทั้งตัวมัน
มันลอยเข้ามาและทันปล่อยตัวทับเมืองฉัน หน้าเมืองยกหน้า และกระแทกลง
กับพื้นๆ พื้นดินสะเทือนอย่างแรงๆ มันรุมยิง...ฉันเกือบไม่รอด ไฟลุกโชน
ไปทั้วเมือง ตอนที่วิ่งหน้าตายฉันได้หันไปเห็นชื่อมัน มันเขียนว่า...
"อินโดมีนัส.........."
หลังจากนั้นมันก็หายไป นอกจากจะต้องแก้แค้นลอนดอนแล้วยังต้อง
มาสู้สิ่งปริศนานี้อีก หลายปีผ่านไป คนชาวเมืองของฉันช่วยกันสร้างเมือง
ขึ้นมาใหม่ สร้างเมืองลอยฟ้าและอาศัยอยู่บนอากาศแทนผืนดิน พวกเราอยู่
กันสงบสุขตลอดมา จนมาเจอพวกเองนี่แหละ
********************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ