ความฝันแห่งความเศร้า
8.0
เขียนโดย สาวน้อยร่างบางS
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 21.27 น.
9 chapter
2 วิจารณ์
10.75K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 21.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) หายไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ป้อนด้วย”ขนมปังพูดแล้วอ้าปากรอ เอาใหญ่เลยนะ
“ได้”ผมก็ป้อนอาหารเข้าปากขนมปังไป
“โอ้ย!ครูแกล้งอ่ะ ลิ้นฟองหมดแล้ว”ผมอดขำไม่ได้จริงๆ
“555+”
“ห้ามขำ ป้อนต่อเลยหิวแล้วเนี้ย แต่เป่าด้วยนะ”
ผมก็เป่า แล้วค่อยป้อนใส่ปากน้อยๆขอเธอ น่ารักจริงๆอยากจะอยู่แกล้งเธอแบบนี้บ่อยๆ ผมก็ใช้มือแตะหน้าผาก แต่ตัวก็ยังร้อนอยู่เลยให้ขนมปังพักผ่อนและห่มผ้าให้ ส่วนผมก็ไปล้างจานเก็บกวาดบ้าน เอ๊ะ!จะว่าไปโต๊ะไปไหนวะ
ฝั่งโต๊ะ
สมหวังกันซักที ผมก็คงทำให้เธอได้เท่านี้ แต่อนาคตของขนมปังมันมืดมิด ไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แค่ว่าผมได้ยินเสียงพี่ของอนาคตของขนมปัง ทุกคนสามารถส่งสัญญาณจิตหากันได้ ซึ่งตอนนี้ผมก็พยายามจะติดต่อพี่อยู่ ซึ่งมันก็สำเร็จ
“ว่าไงน้องชาย”เสียงที่คุณเคยก็ดังเข้ามาในหูผม
“พี่ต้องการอะไรจากเธอ”ผมถาม
“ถ้าบอกตอนนี้ก็ไม่สนุกนะสิ”พี่ของผมพูดและหัวเราะในลำคอ จนผมขนลุก แต่ยังไงผมก็ต้องรู้ให้ได้
“งั้นเหรอ งั้นผมกับพี่มาสู้กัน ถ้าผมชนะ ผมจะต้องรู้ว่าพี่จะเอาเธอไปทำอะไร”ผมพูด ผมไม่คิดหรอกว่าผมจะแพ้ เพราะผมต้องชนะและรู้ความจริงให้ได้
“แล้วถ้านายแพ้ นายจะต้องพาขนมปังมาหาพี่”ผมได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปเลย แต่ยังไงผมก็มั่นใจในตัวเอง ผมไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว
“ยังจำได้ไหม ว่าตอนเด็กพี่ชนะมาโดยตลอดนะ คิดดูให้ดี”ผมเหมือนโดนมนต์สะกดกับคนนั้น แต่ผมจะไม่ลังเล
“ครับ”
จากนั้นผมกับพี่ก็ได้มาเจอกันที่ที่หนึ่ง ซึ่งผมได้พาไปโลกอีกมิติหนึ่ง เพราะถ้าสู้ในความฝันของขนมปังละก็ จะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี
ผมคิดว่า ยังไงผมก็ต้องชนะและผมก็ไม่มีวันยกขนมปังให้ใครเป็นอันขาด ถึงแม้มันจะต้องแลกด้วยชีวิตผมก็ตาม ผมได้แต่คิด และแล้วพี่ก็มา
พี่ผมไม่รีรอซัดอาวุธและเวทมากระหน่ำผมอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมก็ได้แต่หลบไม่โต้ตอบ
“คิดว่าจะหนีไปอย่างเดียวงั้นเหรอ”
ผมได้แต่หยุดคิด ผมคิดว่าจะสู้แบบไหนที่จะให้ตัวเองชนะ ผมได้แต่คิดเพราะถ้าเราใช้พลังไปโดยไร้ประโยชน์ มันก็จะไม่ดีกับตัว
“ไม่สนุกนึกว่าจะเป็นของเล่นชั้นดีซะอีก คงต้องจัดการแล้วซิ” พี่ได้ใช้อาวุธประจำกายคือ ไม้กระบองควงเป็นพายุ เพื่อจะให้ลมนั้นมาฉีกผม ผมคงไม่มีเวลาคิดอะไรแล้ว คงต้องทำตามสัญชาตญาณ
ผมหลบลมนั้นได้สบายๆ จนทำให้พี่อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มมุมปาก
“คงต้องถอนคำพูด นายเหมาะจะเป็นของเล่นของฉันจริงๆ”
ตอนนี้ฉันกับพี่สู้กันอย่างเมามัน ซึ่งอาวุธประจำกายผมคือ กงจักร ซึ่งตั้งแต่เด็กผมนั้นอาจจะแพ้พี่มาโดยตลอดแต่ตอนนี้ผมมีสิ่งที่ต้องปกป้อง และผมจะไม่ปล่อยเธอไปแน่
“จุดจบของพี่ ผมจะเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นเอง”ผมได้ใช้พลังเวทคือ เวทน้ำแข็งซึ่งผมไม่ต้องการให้พี่เจ็บปวดและผมคงทำไม่ได้แน่ เวทนี้เป็นเวทผนึกซึ่งคนที่ทำการผนึกก็จะกลายเป็นน้ำแข็งปกคลุมร่างของคนนั้น ผมพร้อมที่จะสละชีพ
“ไอซ์ ดายชิ่ง”ผมพูดเสร็จร่างกายของผมก็ค่อบจะสลาย แต่เวทกับโดนทำลายแค่มือของคนที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเหมือนปีศาลมาก
“อย่ามาทำตัวเป็นเด็กอ่อนแอเหมือนแต่ก่อนสิ แค่นี้ทำร้ายพี่ไม่ได้หรอก ฮะฮะฮ่า”พี่หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างสะใจมาก แต่ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ไม่ได้นะ นี้เราปกป้องคนที่เรารักไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ เรานี้มันร้ค่าจริงๆ
“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วค่อยมาเจอกันใหม่น้องสุดที่รัก”
เมื่อพี่พูดเสร็จก็ได้หายตัวไป ส่วนผมก็ได้แต่คิดว่า เรายังไม่แข็งแรงพอที่จะปกป้องขนมปังได้เลย วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ผมก็อยากให้ขนมปังจำความทรงจำนี้ไว้ ผมจึงกลับไปหาขนมปัง
“ไปไหนมา”เสียงเพื่อนที่ทำหน้าเครียดคิ้วขมวด แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ผมไว้ใจ และรักมาโดยตลอด
“เดินเล่น”ผมบอกแบบนั้น เพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วง
“งั้นเหรอ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว มาทำงันนี้ให้ขนมปังมีความสุขกัน”ผมเห็นหน้าตาของดิวนั้น เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ในใจกลับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามที่มันพูด
ตอนนี้ผมก็ได้แต่รอ รอมันไปหาขนมปังเพราะผมก็ไม่อยากไปเป็น ก.ข.ค หรอกนะ
ฝั่งครูดิว
นึกว่าไม่รู้เหรอ ว่าแกไปไหนมา แกทำไมต้องทำแบบนี้ รู้นะว่าแกก็รักขนมปัง อยากปกป้อง แต่ก็ควรบอกผมบ้าง ไม่ใช่ไปแบบนี้ แต่ก็ดีนะที่แกปลอดภัย
ผมรู้สึกแปลกๆในห้องของขนมปัง มันเป็นกลิ่นอายของมนต์ดำ เอ๊ะ!หรือว่า 0_0 ผมรีบเปิดประตูไปทันที ซึ่งในห้องไม่มีใครอยู่เลย นอกจากขนนกสีดำที่เป็นปริศนาไว้
“ได้”ผมก็ป้อนอาหารเข้าปากขนมปังไป
“โอ้ย!ครูแกล้งอ่ะ ลิ้นฟองหมดแล้ว”ผมอดขำไม่ได้จริงๆ
“555+”
“ห้ามขำ ป้อนต่อเลยหิวแล้วเนี้ย แต่เป่าด้วยนะ”
ผมก็เป่า แล้วค่อยป้อนใส่ปากน้อยๆขอเธอ น่ารักจริงๆอยากจะอยู่แกล้งเธอแบบนี้บ่อยๆ ผมก็ใช้มือแตะหน้าผาก แต่ตัวก็ยังร้อนอยู่เลยให้ขนมปังพักผ่อนและห่มผ้าให้ ส่วนผมก็ไปล้างจานเก็บกวาดบ้าน เอ๊ะ!จะว่าไปโต๊ะไปไหนวะ
ฝั่งโต๊ะ
สมหวังกันซักที ผมก็คงทำให้เธอได้เท่านี้ แต่อนาคตของขนมปังมันมืดมิด ไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แค่ว่าผมได้ยินเสียงพี่ของอนาคตของขนมปัง ทุกคนสามารถส่งสัญญาณจิตหากันได้ ซึ่งตอนนี้ผมก็พยายามจะติดต่อพี่อยู่ ซึ่งมันก็สำเร็จ
“ว่าไงน้องชาย”เสียงที่คุณเคยก็ดังเข้ามาในหูผม
“พี่ต้องการอะไรจากเธอ”ผมถาม
“ถ้าบอกตอนนี้ก็ไม่สนุกนะสิ”พี่ของผมพูดและหัวเราะในลำคอ จนผมขนลุก แต่ยังไงผมก็ต้องรู้ให้ได้
“งั้นเหรอ งั้นผมกับพี่มาสู้กัน ถ้าผมชนะ ผมจะต้องรู้ว่าพี่จะเอาเธอไปทำอะไร”ผมพูด ผมไม่คิดหรอกว่าผมจะแพ้ เพราะผมต้องชนะและรู้ความจริงให้ได้
“แล้วถ้านายแพ้ นายจะต้องพาขนมปังมาหาพี่”ผมได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปเลย แต่ยังไงผมก็มั่นใจในตัวเอง ผมไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว
“ยังจำได้ไหม ว่าตอนเด็กพี่ชนะมาโดยตลอดนะ คิดดูให้ดี”ผมเหมือนโดนมนต์สะกดกับคนนั้น แต่ผมจะไม่ลังเล
“ครับ”
จากนั้นผมกับพี่ก็ได้มาเจอกันที่ที่หนึ่ง ซึ่งผมได้พาไปโลกอีกมิติหนึ่ง เพราะถ้าสู้ในความฝันของขนมปังละก็ จะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี
ผมคิดว่า ยังไงผมก็ต้องชนะและผมก็ไม่มีวันยกขนมปังให้ใครเป็นอันขาด ถึงแม้มันจะต้องแลกด้วยชีวิตผมก็ตาม ผมได้แต่คิด และแล้วพี่ก็มา
พี่ผมไม่รีรอซัดอาวุธและเวทมากระหน่ำผมอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมก็ได้แต่หลบไม่โต้ตอบ
“คิดว่าจะหนีไปอย่างเดียวงั้นเหรอ”
ผมได้แต่หยุดคิด ผมคิดว่าจะสู้แบบไหนที่จะให้ตัวเองชนะ ผมได้แต่คิดเพราะถ้าเราใช้พลังไปโดยไร้ประโยชน์ มันก็จะไม่ดีกับตัว
“ไม่สนุกนึกว่าจะเป็นของเล่นชั้นดีซะอีก คงต้องจัดการแล้วซิ” พี่ได้ใช้อาวุธประจำกายคือ ไม้กระบองควงเป็นพายุ เพื่อจะให้ลมนั้นมาฉีกผม ผมคงไม่มีเวลาคิดอะไรแล้ว คงต้องทำตามสัญชาตญาณ
ผมหลบลมนั้นได้สบายๆ จนทำให้พี่อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มมุมปาก
“คงต้องถอนคำพูด นายเหมาะจะเป็นของเล่นของฉันจริงๆ”
ตอนนี้ฉันกับพี่สู้กันอย่างเมามัน ซึ่งอาวุธประจำกายผมคือ กงจักร ซึ่งตั้งแต่เด็กผมนั้นอาจจะแพ้พี่มาโดยตลอดแต่ตอนนี้ผมมีสิ่งที่ต้องปกป้อง และผมจะไม่ปล่อยเธอไปแน่
“จุดจบของพี่ ผมจะเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นเอง”ผมได้ใช้พลังเวทคือ เวทน้ำแข็งซึ่งผมไม่ต้องการให้พี่เจ็บปวดและผมคงทำไม่ได้แน่ เวทนี้เป็นเวทผนึกซึ่งคนที่ทำการผนึกก็จะกลายเป็นน้ำแข็งปกคลุมร่างของคนนั้น ผมพร้อมที่จะสละชีพ
“ไอซ์ ดายชิ่ง”ผมพูดเสร็จร่างกายของผมก็ค่อบจะสลาย แต่เวทกับโดนทำลายแค่มือของคนที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเหมือนปีศาลมาก
“อย่ามาทำตัวเป็นเด็กอ่อนแอเหมือนแต่ก่อนสิ แค่นี้ทำร้ายพี่ไม่ได้หรอก ฮะฮะฮ่า”พี่หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างสะใจมาก แต่ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ไม่ได้นะ นี้เราปกป้องคนที่เรารักไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ เรานี้มันร้ค่าจริงๆ
“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วค่อยมาเจอกันใหม่น้องสุดที่รัก”
เมื่อพี่พูดเสร็จก็ได้หายตัวไป ส่วนผมก็ได้แต่คิดว่า เรายังไม่แข็งแรงพอที่จะปกป้องขนมปังได้เลย วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ผมก็อยากให้ขนมปังจำความทรงจำนี้ไว้ ผมจึงกลับไปหาขนมปัง
“ไปไหนมา”เสียงเพื่อนที่ทำหน้าเครียดคิ้วขมวด แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ผมไว้ใจ และรักมาโดยตลอด
“เดินเล่น”ผมบอกแบบนั้น เพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วง
“งั้นเหรอ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว มาทำงันนี้ให้ขนมปังมีความสุขกัน”ผมเห็นหน้าตาของดิวนั้น เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ในใจกลับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามที่มันพูด
ตอนนี้ผมก็ได้แต่รอ รอมันไปหาขนมปังเพราะผมก็ไม่อยากไปเป็น ก.ข.ค หรอกนะ
ฝั่งครูดิว
นึกว่าไม่รู้เหรอ ว่าแกไปไหนมา แกทำไมต้องทำแบบนี้ รู้นะว่าแกก็รักขนมปัง อยากปกป้อง แต่ก็ควรบอกผมบ้าง ไม่ใช่ไปแบบนี้ แต่ก็ดีนะที่แกปลอดภัย
ผมรู้สึกแปลกๆในห้องของขนมปัง มันเป็นกลิ่นอายของมนต์ดำ เอ๊ะ!หรือว่า 0_0 ผมรีบเปิดประตูไปทันที ซึ่งในห้องไม่มีใครอยู่เลย นอกจากขนนกสีดำที่เป็นปริศนาไว้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ