The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา

9.7

เขียนโดย Killolat

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.

  27 บท
  1 วิจารณ์
  5,933 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) -ไฮเดรนเยีย-

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
[ห้ามพาผู้ชายเข้าห้อง]
 
อรุณสวัสดิ์เช้าแสนหดหู่ =_=
 
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวจี๊ด ซึ่งเป็นเอฟเฟคจากการร้องไห้ และสิ่งที่ทำให้ไมเกรนพุ่งปรี๊ดตอนนี้คือ ‘โน้ตจากคุณรูมเมท’
 
ปลาดาวรู้สินะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง…ฉันไม่โทษเธอหรอกที่ไม่ช่วยเอาค้อนทุบหัวอีตาทวิตซ์แล้วโยนออกหน้าต่างไปซะ ควรขอบคุณด้วยซ้ำที่ไม่ร้อง
ตะโกนตกใจหรือปล่อยข่าวฉาวว่อนโรงเรียน
 
รู้สึกผิดจังที่เธอต้องมารับรู้เรื่องงี่เง่าพรรค์นี้ แค่แกล้งเมินตอนฉันแอ๊บแบ้วเล่นกับแมวก็เกรงใจจะแย่ ไว้ค่อยซื้อขนมอร่อยๆ มาวางไถ่โทษละกัน
 
หัวจะระเบิดอยู่แล้ว ไม่อยากเข้าเรียนเลย ขอนอนต่อดีกว่า…ถึงมันจะเป็นข้ออ้างก็เถอะ 
 
ความจริงฉันไม่อยากเจอหน้าไอ้คนเมื่อคืนต่างหาก - -*
 
ฉันเหม่อมองนาฬิกาบนฝาผนัง ตอนนี้เข็มชี้เลข 12 ตั้งเป้าว่าอยากนอนทั้งวัน แต่ด้วยความเคยชิน ตอนนี้ฉันล้างหน้า แปรงฟัน สวมชุดลำลอง
เรียบร้อย…แถมกำลังนั่งอ่านหนังสือ
 
อ่า…นี่แหละข้อเสียของฉัน ต่อให้ตายก็ขี้เกียจไม่เป็น เพราะมีปมที่เคยเป็นเด็กโง่โดนบูลลี่บีบให้ต้องผลักดันตัวเอง ดูเป็นนิสัยที่ดีใช่มั้ยล่ะ? แต่ไม่เลย
ฉันกลายเป็นพวกบ้างานขั้นสุด - -; ยิ่งถ้าอยู่คนเดียวอย่าหวังว่าจะได้พัก
 
ก๊อกๆๆ 
 
เสียงเคาะกระจกดังจากทางหลังห้อง
 
เมื่อฉันหันไปมองก็พบอีตาทวิตซ์ยืนจังก้าอยู่
 
ไม่อยากเปิด! ไม่อยากเจอ! 
 
แต่ถ้าไม่ยอมเปิด ทุกคนต้องเห็นแน่ว่ามีผู้ชายตัวเบ้อเร่อที่ระเบียงห้องฉัน >-<
 
ก๊อกๆๆ 
 
ตานั่นยังเคาะต่อไม่หยุด 
 
ตามติดเป็นสังขเวสีแบบนี้ ชาติก่อนฉันไปทำอะไรให้นายนักหนาย๊ะ!!
 
เอาวะ! เปิดก็เปิด!!
 
ครืด~
 
ฉันเลื่อนประตูกระจกออก เปิดให้สิ่งมีชีวิตรูปงามแสนประหลาดที่ทำให้ฉันผู้เยือกเย็นถึงจุดเดือดได้ครั้งแล้วครั้งเล่า - -* นายต้องไม่เชื่อแน่ว่าฉัน
เกลียดนายมากพอจะฆ่าให้ตายเป็นพันรอบ ถ้าไม่ติดว่าต้องไปกินข้าวแดงในคุก
 
ขอใช้สิทธิ์ไม่สบตา แล้วก็จะไม่คุยด้วย! นับแต่นี้ฉันจะแบนนายชั่วชีวิต! 
 
จงรับรู้ถึงความเกลียดชังที่ฉันมีต่อนายซะเถอะย่ะ!
 
“ยูแช” 
 
น้ำเสียงออดอ้อนลอยเข้าหู 
 
พระเจ้าคะ อย่างน้อยช่วยใส่ความขี้เหร่ให้หมอนี่สักนิดเถอะ ทำไมแค่เสียงต้องหล่อด้วย ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ >///<
 
“…” 
 
ฉันแกล้งเมินทำเนียนอ่านหนังสือ
 
“เป็นห่วงนะ คิดถึงด้วย ดีกันเถอะ~” 
 
ไอ้บทสนทนาฟีลแฟนนี่มันอะไร?! เสียงออเซาะขั้นสุด พนันได้เลยว่าตอนนี้ก็ทำหน้าอ้อนสุดๆ 
 
ไม่มีทาง! ฉันจะไม่ยกโทษให้เพราะนายน่ารักหรอกย่ะ >0</// 
 
“ยูแช~”
 
ลมแทบจับ พอฉันเมินเขายิ่งยื่นหน้ามาใกล้จนเริ่มได้กลิ่นหอมๆ
 
สเต็ปต่อไปนายจะสิงฉันใช่มั้ย?
 
ฟู่ว
 
“อ๊ายย~”
 
จู่ๆ ตานั่นก็เป่าลมใส่หูฉันทำเอาขนลุกซู่ เผลอหลุดร้องเสียงหลงและพลาดท่าหันไปสบตาเจ้าเล่ห์จนได้
 
อีกครั้งที่ใบหน้าสวยเกินชายเผยยิ้มพึงพอใจตอกย้ำความพ่ายแพ้
 
เออใช่! นายมันหล่อแถมยียวนกวนประสาท ฉันผิดเองแหละที่เกิดมาแพ้คนหล่อ! พอใจรึยังฮะ!!! >[]<//
 
“มีอะไร” 
 
ฉันพยายามคุมโทนเสียงให้สงบ ทั้งที่ยังรู้สึกจั๊กจี้ในหูแปลกๆ 
 
“เอาเอกสารมาส่งให้ประธานคร้าบ ^^” 
 
ทวิตซ์ปลดเป้ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงฉัน 
 
คงต้องหาเวลาซักผ้าปูแล้วล่ะ ถ้าไม่อยากให้หมอนี่ตามหลอกหลอนถึงในฝัน =_=
หนุ่มหน้าสวยยื่นเอกสารปึกหนาคุ้นตาให้
 
ถามจริง? นายจะเอาแผนสร้างม่านรูดมาให้ฉันแสลงตาอีกทำไม?
 
“เคยอ่านแล้ว” 
 
“ถึงหน้าสุดท้ายรึยัง?” 
 
“…” 
 
ไม่ใช่ธุรกงการอะไรของนายหนิ
 
ร่างสูงตื้อไม่เลิก เดินมาหยิบเอกสารเจ้าปัญหาไปเปิดอ่าน
 
“ผอ.มีข้อเสนอว่าถ้าเธอยอมรับตำแหน่งอีฟและช่วยดำเนินนโยบาย ‘โรแมนติก สคูล’ ครบจบทั้งเล่ม จะให้สิทธิ์สอบโดยไม่ต้องเข้าเรียนหรือทำกิจกร
รมใดๆ”
 
และนั่นคือทั้งหมดที่ฉันสมควรได้ในฐานะประธานนักเรียน ถ้านายไม่เจ๋อทำตัวเป็นลูกไอ้ช่างฟ้องไงยะ -*- แบบนี้เท่ากับบังคับให้ฉันเป็นขี้ข้ายัย ผอ.
ทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง แทนที่จะเป็นขี้ข้าพวกอาจารย์ทำงานงกๆ ไปวันๆ สินะ
 
ถ้านี่คือแผนการทั้งหมดที่วางไว้แต่แรกเพื่อบีบฉัน ทั้งนายและยัย ผอ.เชอรี่ก็ร้ายกาจเกินบรรยาย!
 
แต่ถ้านั่นทำให้ฉันไม่ต้องเจอสังคมแย่ๆ ในคลาสเรียน…มันอาจคุ้ม 
 
“ก็ได้” 
 
ฉันตอบรับชัดถ้อยชัดคำ 
 
กะอีแค่นโยบายงี่เง่าคงอยู่ได้ไม่นานหรอก ตำแหน่งอดัมกับอีฟด้วย เห็นลือว่าคนเป็นอีฟต้องพบเจอเรื่องร้ายทุกปี ประเพณีสยองแบบนั้นเดี๋ยวก็คง
ยกเลิกกันไปเอง 
 
เอ๊ะ…หรือเพราะแบบนี้ฉันถึงถูกโหวตนะ?
 
“ว้าว…” 
 
ทวิตซ์แกล้งรีเอคกวนประสาท
 
จะเยาะเย้ยที่ฉันแพ้รึไง? -*-
 
“พิธีสาบานรักมีบทจูบด้วยล่ะ”
“ห๊าาา?!!” 
 
อยากอุทานให้ถึงระยอง 
 
เดี๋ยวๆๆ ตั้งสติหน่อย แค่แกล้งจูบมุมกล้องใช่มั้ย? แบบพวกนักแสดงไง ใครจะให้นักเรียนจูบจริงบ้ารึเปล่า?!
 
ฉันดึงตำราม่านรูดจากมือทวิตซ์มาอ่านอย่างละเอียด
 
“พิธีสาบานรักต้องจูบจริงเห็นชัดแบบ 360 องศา เพื่อความน่าเชื่อถือ ถ้าไม่ทำจะถือว่าข้อตกลงทั้งหมดเป็นโมฆะ” 
 
ตานั่นโพล่งประโยคที่ฉันไม่อยากได้ยินที่สุดในสามโลกออกมาเสียงดังฟังชัด 
 
ไร้ยางอาย! นายมันไร้ยางอาย!
 
“ถ…ถ้านายยอมตกลงก็หมายความว่า ยอมจูบกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่แฟน ขอแค่เป็นอีฟหรอ?!” 
 
ฉันถามเพราะรู้สึกไม่แฟร์ที่ตัวเองเหมือนตกเป็นเหยื่ออยู่คนเดียว
 
“บ้าหรอ…ต้องเป็นเธอสิ” 
 
เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 
 
แต่ไม่รู้ทำไมใจต้องเต้นแรงด้วย…
 
ซึ่งมันก็เต้นได้ไม่นานนัก เพราะประโยคถัดมาทำเอาฉุนกึก
 
“เป็นแฟนถึงจะจูบ? หัวโบราณชะมัด เธอหมกมุ่นกับการจูบมากไปรึเปล่า? นักแสดงเค้าก็จูบกันเป็นปกติ ฝรั่งยังจูบทักทายเลย”
 
ไม่ย่ะ! นายแหละผิดปกติ แค่ได้ยินคำว่าจูบจากนายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันล่ะอยากเอาหัวจุ่มชักโครกตายให้รู้แล้วรู้รอด…หรือเพราะเขาเป็นลูกครึ่งเลยเฉยๆ
กับเรื่องพวกนี้
 
เอ๊ะ สรุปใครผิด? ฉันหรอ? ชักไม่แน่ใจแล้วนะ -*-
 
“แต่ฉันชอบนะ ที่เธอทำตัวหน่อมแน้มน่ารักแบบนี้ ^-^” 
 
ตานั่นลูบหัวฉันเหมือนลูกหมา พยายามพูดตะล่อมเมื่อเห็นฉันหัวเสีย
 
“ไม่ปล่อยให้เธอมีซีนแย่ๆ ต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนหรอกน่า” 
 
ทวิตซ์ใช้วงแขนกว้างเท้าโต๊ะคร่อมร่างฉันไว้ 
 
ฉันที่นั่งเกร็งอยู่บนเก้าอี้ตัวแข็งทื่อ เพราะถูกทั้งรูป กลิ่น เสียง จู่โจมฉับพลัน 
 
“ซ้อมได้นะ…” 
 
เสียงกระซิบวาบหวิวเปล่งออกมาอย่างแผ่วเบาและสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว 
 
ทุกอย่างของเขาช่างเย้ายวนเหมือนดอกไม้ที่ล่อลวงแมลงหน้าโง่บินเข้าหา
 
กลิ่นเหงื่อผสมสวนดอกไม้อบอุ่นเจือจางซึมผ่านปอด เม็ดเหงื่อไหลพรมตามซอกคอดูเซ็กซี่ คงเพราะปีนขึ้นมาถึงชั้นสอง ชุดเครื่องแบบนักเรียนเชิต
ขาวบางยิ่งขลับให้เห็นกล้ามเนื้อชัดเจน
 
เดี๋ยว! นี่ฉันมองอะไรอยู่เนี่ย!? 
 
อุตส่าห์เลี่ยงหน้าสวยๆ นั่น แต่กลายเป็นว่าพอหลุบตามองต่ำยิ่งอันตรายกว่าเดิม >///< 
 
ต่อไปฉันจะมองหน้า! ไม่หลบตาแล้ว!
 
ฉันฮึบสู้เงยจ้องตาทวิตซ์…แต่กลายเป็นว่ามุมนี้ทำให้หน้าเราใกล้กันกว่าเดิมจนแทบเห็นรูขุมขน 
 
สายตาหวานเยิ้มกำลังกลืนกินฉันทั้งตัว ริมฝีปากได้รูปเผยอขึ้นเล็กน้อยเคลื่อนเข้าใกล้ทุกวินาที…
 
ควับ!
 
ฉันรวบรวมสติเพียงน้อยนิดที่เหลืออยู่หันหน้าหนี ริมฝีปากร้อนผ่าวแสนเย้ายวนเลยจบลงที่แก้มแทน 
 
แต่นั่นก็มากพอจะทำให้สาวน้อยไร้เดียงสาอย่างฉันใจเต้นโครมคราม 
 
ทวิตซ์เค่นหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ 
ขอบคุณพระเจ้า! ในที่สุดเขาก็ผละออก -///- นานกว่านี้ฉันคงหัวใจวายตายแน่
 
“เป็นแฟนกันมั้ย?” 
 
คนตรงหน้าพูดในสิ่งที่ต้องใช้ความกล้ามหาศาลออกมาอย่างง่ายดายทำเอาฉันช็อคค้าง
 
“คบกันแล้ว เธอจะจูบบ่อยแค่ไหนก็ได้” 
 
พนันเลยว่านั่นเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั้งโรงเรียนใฝ่ฝัน
 
แต่ไม่ใช่ฉัน!
 
“…ไม่ได้รักซะหน่อย” 
 
สติสตังเพียงแค่นี้ พูดได้ก็บุญแล้ว
 
ฉันพยายามสื่อสิ่งที่คิดออกมา แม้การเรียบเรียงประโยคจะห่วยแตกหน่อมแน้มเหลือทนจนอยากมุดดินหนี! >///<
 
“อ่า” 
 
ทวิตซ์ถอยกลับอย่างสมบูรณ์ ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง ก่อนเริ่มร่ายยาวในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ
 
“สำหรับฉันรักเป็นแค่สมการที่ต้องทำให้สมดุล รักมากรักน้อยไม่สำคัญ แค่ความรู้สึกสมดุลกันก็พอ”
 
“ห๊ะ?”
 
พูดอะไรของมันวะ - -^ สอนคณิตศาสตร์ฉันอยู่หรอ?
 
“ตราบใดที่ไม่มีใครรักมากกว่า ก็ไม่เจ็บใช่มั้ยล่ะ?” 
 
ประโยคนี้ทำฉันเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้าง 
 
เหมือนวลีที่ว่า ‘อย่าเอาใจลงไปเล่น' สินะ
 
“คิดว่าความรู้สึกมันบังคับกันได้หรอ? ถ้าคิดแบบนั้น คงมีแต่คนไร้หัวใจเท่านั้นแหละที่คบกับนายได้” 
 
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องแรงด้วย แต่พอได้ยินเขาพูดแบบนั้น ฉันไม่สบอารมณ์เอาซะเลย
 
เป็นครั้งแรกที่เห็นทวิตซ์ทำหน้าอึ้ง ก่อนเปลี่ยนกลับเป็นรอยยิ้มตามปกติอย่างรวดเร็ว แต่แววตาสีหม่นยังคงแฝงความเศร้า…
 
เหมือนฉันเผลอพูดแทงใจดำ แต่ไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
 
ทวิตซ์หยิบสมุดเล่มนึงวางทิ้งไว้บนเตียงแล้วกลับออกไปเงียบๆ
 
นี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกันใช่มั้ย…?
 
.
 
ก๊อกๆๆ
 
รายงานสถานการณ์ภาคค่ำ 
 
เวลา 19.00 น. มีหนุ่มโรคจิตหน้าสวยในชุดนอนลายทางยืนเคาะห้องฉันอยู่ค่ะ = =*
 
ก๊อกๆๆ
 
เชื่อเค้าเลย! ไอ้หมอนี่มันมีสิ่งที่เรียกว่า ‘สามัญสำนึก’ บ้างมั้ยเนี่ย?
 
ก๊อกๆๆ
 
ฉันแอบเหลือบมองรูมเมท ดูเหมือนเธอจะทำเป็นไม่สนใจอีกแล้ว 
 
ช่างมีมารยาทจริงๆ เป็นคนดีจนฉันยังเกรงใจ T T ต่างจากไอ้คนนอกห้องราวฟ้ากับเหว
 
ก๊อกๆๆ
 
โอ้ยย หงุดหงิดโว้ย!!! 
 
เออ! เปิดแล้ว! ฉันยอมแล้ว >o<
 
ครืด~
 
เป็นอีกครั้งที่ฉันอัญเชิญซาตานเข้าห้อง คราวนี้เขามาพร้อมของขวัญจากขุมนรกในถุงก๊อบแก๊บ
 
ไอ้ปีศาจหน้าสวยที่สามารถดลบรรดาลให้ทุกอย่างเป็นดังใจ ถอดอีแตะช้างดาวก่อนก้าวเข้าห้องด้วยดวงตาเป็นประกาย ไม่หวั่นเกรงสายตาพิฆาตมาร
ของฉันแม้แต่น้อย - -+
 
ถ้าคิดว่าหมอนั่นจะพุ่งมาทางฉันล่ะก็…เปล่า 
 
เค้าทำสิ่งที่คาดไม่ถึง!! 
 
เดินไปหาปลาดาวแล้วเอานมรสกาแฟวางแหมะตรงหน้าเธอ!!! 
 
โอ้มายก็อด O[]o
 
“ซื้อมาฝากครับ ^-^” 
 
รอยยิ้มหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้าน
 
ปลาดาวผู้ไม่เคยผละออกจากจอคอมลุกลี้ลุกลนถอดหูฟัง เธอหน้าแดงนิดๆ ก่อนกล่าวคำขอบคุณแบบเก้ๆ กังๆ
 
“ข…ขอบคุณค่ะ” 
 
“ว้าว เกมนี้ฉันเคยเล่นนะ มันต้อง#%@&฿%”
 
“แต่ว่ามัน…#%#&฿$€”
 
“ไม่สิถ้า ฿&^#%#$% จะ..%¥”^&#”
 
แล้วสองคนนั้นก็พูดภาษาเอเลี่ยนอยู่ 2-3 นาที จนฉันขี้เกียจจับใจความ
 
ช่วยบอกที นี่มันสถานการณ์บ้าอะไร? 
 
“ขอบคุณที่คอยดูแลยูแชนะ” 
 
จู่ๆ หมอนั่นก็เปลี่ยนเรื่อง 
 
แต่เฮ้ย! ไหงนายมาทำตัวเป็นผู้ปกครองฉันล่ะย๊ะ!
 
“พรุ่งนี้อยากกินอะไรมั้ย? เดี๋ยวซื้อมาฝาก ^0^” 
 
ยังไม่หยุดอีก! 
 
“ม…ไม่เป็นไรจ้ะ >\\\<" 
 
รูมเมทฉันอายม้วนไปเรียบร้อย
 
“งั้นเอาเป็นโดนัดกาแฟละกัน ^^” 
 
รอยยิ้มอาบยาพิษนั่นทำฉันอดหมันไส้ไม่ได้จริงๆ
 
ไอ้หมอนี่คิดจะจีบรูมเมทฉันหรอ! ฝันไปเหอะ!
 
ป๊อก!
 
ฉันหยิบของใกล้มือเขวี้ยงใส่หัวตานั่น แล้วก็แม่นมากซะด้วย - -+ 
 
“นิสัยเสียชะมัด” 
 
ทวิตซ์คิ้วกระตุกเปลี่ยนเป้าหมายมุ่งตรงมาทางฉัน 
 
“เธอโยนสมุดฉันสองรอบแล้วนะ…!” 
 
น้ำเสียงนุ่มทุ้มกดเข้มกว่าทุกที สายตาของคนตัวสูงทอดมองฉันแน่นิ่ง 
 
ส่วนปลาดาวเห็นท่าไม่ดีใส่หูฟังหนีเข้าโลกส่วนตัวไปแล้ว
 
อะไรเล่า! ไม่กลัวหรอก! 
 
ถ้านายทำอะไรฉัน เป็นไงเป็นกัน! คราวนี้แจ้งตำรวจแน่! 
 
หมับ!
 
มือใหญ่จับหัวฉันโยกเยกจนตัวเอียงตามแรงควบคุมราวกับเป็นของเล่น
 
“อ๊ายย”
 
หยุดนะย๊าาาา >[]<
 
“หิวก็บอกดีๆ สิ~ ^^” 
 
เสียงทะเล้นยั่วน้ำโหแล่นเข้าหู
 
ซึ่งตอนนี้ฉันทำได้แค่หลับตาปี๋ เพราะกำลังต่อสู้กับอาการโลกหมุน
 
…เมามือเขาซะแล้ว @-@
 
“อะ นมสตรอเบอรี่” 
 
พอได้สติก็สัมผัสถึงกล่องนมเย็นๆ แปะหน้าผาก
 
เดี๋ยวนะ ทำไมเป็นสตรอเบอรี่? 
 
“ฉันเกลียดสตรอเบอรี่! -o-*”
 
ฉันกระแทกเสียงใส่ นั่งไขว้ห้างกอดอก เบือนหน้าหนีไม่สบอารมณ์ 
 
หน็อย…ซื้อมาเซ่นทั้งทีก็เอาที่มันกินได้หน่อยเซ่! 
 
ทีของรูมเมทฉันยังดูใส่ใจกว่าอีก…ฉันรู้นะว่านายตั้งใจเลือกนมกาแฟมา เพราะเดาได้ว่าเธอชอบเล่นเกมดึกๆ 
 
สรุปตานี่จะจีบรูมเมทฉันจริงดิ ที่เข้ามาตีซี้เพราะปลาดาวน่ารักหรอ?
 
ไม่น่าล่ะ คงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากยุ่งกับยัยถังน้ำแข็งแบบฉันอยู่แล้วหนิ…
 
เป็นงั้นก็ดี ฉันจะได้เลิกว้าวุ่นใจเพราะนายสักที
 
…แต่ทั้งที่ควรดีใจแท้ๆ ทำไมถึงรู้สึกโหวงๆ
 
อาจเพราะฉันไม่ชอบถูกใช้เป็นเครื่องมือ…
 
“แย่จัง” 
 
คนเจ้าเล่ห์คลายยิ้มสนุกสนาน ย่อตัวลงให้ระดับความสูงเสมอกันและยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อกระซิบบางอย่าง 
 
“สีชมพูออกจะ…” 
 
ทวิตซ์เว้นช่วงลากเสียงยาวอย่างมีเลศนัย ก่อนคายคำพูดที่เหลือออกมาจนจบประโยคด้วยน้ำเสียงกึ่งคราง
 
“เหมาะกับเธอ”
 
ประหนึ่งเลือดทั้งตัวฉูบฉีดขึ้นหน้าฉับพลัน แก้มฉันแดงก่ำจนถึงหู เพราะรู้ว่าเขากำลังสื่ออะไร!!! 0///0
 
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
 
ฉันรัวมือทุบอกเขาอย่างบ้าคลั่ง ร่างกำยำไม่สะท้าน ล้มตัวนั่งลงกับพื้นยอมให้ทุบตามใจชอบ 
 
เหมือนมีประกายวิ้งๆ เจิดจ้าทะลักออกมาตอนที่เขากำลังหัวเราะด้วย
 
ใช่แล้ว…มันคือออร่าความหล่อ >///<
 
พระเจ้าช่างร้ายกาจ สร้างเขามาได้สมบูรณ์แบบเหลือเกิน!
 
บ้าจริง! ฉันควรทุบหน้าสวยๆ นั่นให้ยุบมากกว่าอกแข็งๆ นี่สินะ 
 
ฉันทุบจนมือเจ็บ นั่งหอบแฮ่กเหมียนหมาสิ้นสภาพ 
 
มือใหญ่ข้างนึงเอื้อมประคองใบหน้า ปลายนิ้วเรียวบรรจงปาดเม็ดเหงื่อที่เกือบไหลเข้าตาให้อย่างทะนุถนอม
 
“ช่วยอ่อนโยนกว่านี้หน่อยสิ ฉันชักอิจฉาแมวส้มแล้วนะ~” 
 
ชายหนุ่มสูงชะลูดในชุดนอนลายทางหลวมโคร่งสีเดียวกับนัยน์ตาดูเซ็กซี่นิดๆ จ้องมองฉันอย่างออดอ้อนส่งผลให้สมองหยุดทำงานชั่วขณะ เพราะ
หลอมละลายไปกับน้ำเสียงแสนหวาน
 
ไม่ใช่แค่ใบหน้าแดงก่ำที่ตอบสนองต่อปฏิกริยายั่วยวน หัวใจก็เต้นแรงเหมือนมันจะกระเด้งออกจากอก
 
ฆ่าฉันที…ฆ่าฉันเถอะ! ถ้านายจะทำแบบนี้! ไม่งั้นฉันคงได้กลายเป็นพวกบ้าผู้ชายเข้าสักวัน >\\\\<
 
เป็นอีกครั้งที่เราสบตากัน เพราะเริ่มดึกรึเปล่า สายตาเขาถึงดูหวานเยิ้มกว่าปกติ…
 
ปลายนิ้วโป้งร้อนผ่าวค่อยๆ เลื่อนมาหยุดตรงริมฝีปากของฉัน ออกแรงกดเบาๆ พาร่างกายอ่อนยวบเหมือนต้องมนต์ 
 
ในหัวโล่งไปหมด…สายตาฉันเผลอจดจ่อที่ริมฝีปากเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
 
“อยากจูบจัง…” 
 
เสียงทุ้มแผ่วลอยตามลมพร้อมกลิ่นสวนดอกไม้อ่อนๆ เจือกลิ่นหอมสบู่และแชมพู
 
ไออุ่นจากริมฝีปากเริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ 
 
อีกเพียง 1 เซนติเมตร ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะ…
 
“…แต่ไม่ใช่แฟนนี่นา” 
 
ดับฝันไว้เพียงเท่านี้ 
 
ทวิตซ์ถอยห่างในระยะปลอดภัย ส่งยิ้มให้ฉันที่วิญญาญหลุดออกจากร่าง
 
“ไว้มาใหม่นะ ^^” 
 
มือหนาลูบหัวป่อยๆ พยุงตัวลุกโบกมือลาปลาดาว แล้วเดินชิลล์ออกจากห้องไป 
 
ปล่อยฉันนั่งเคว้งคว้างอยู่กับความงุนงง
 
ติดสตั้นท์ 5 นาที ก่อนตระหนักได้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือ ‘ปั่นหัวฉันเล่น’ 
 
ฉันกำหมัดแน่นเล็บจิกเนื้อ โกรธจนตัวสั่นระริก
 
ไม่คิดเลยว่านายจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น! 
 
มันชัดเจนตั้งแต่เรื่องจูบ แฟน ไหนจะนมสตอเบอรี่! 
 
จงใจแก้เผ็ดกันชัดๆ!
 
ได้สิ ไอ้เจ้าชาย…อยากเปิดศึกนักใช่มั้ย? 
 
คราวหน้าฉันไม่ยอมเป็นเหยื่อแน่!!! 
 
.
 
เช้าตรู่แสนสดใส ฉันออกมาวิ่งจ็อกกิ้งตามปกติ 
 
เห็นอย่างนี้แต่ฉันออกกำลังกายแทบทุกวัน ยกเว้นตอนฝนตก ป่วยและยุ่ง
 
เหตุผลหลักไม่ใช่เพราะรักสุขภาพหรืออยากหุ่นดี แต่ต้องทำเพื่อเอาตัวรอด 
 
เป็นคนที่ทั้งโรงเรียนรุมเกลียด วันดีคืนดีอาจโดนดักตบ
 
ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะได้ป้องกันตัวหรืออย่างน้อยแค่หนีให้ทัน
 

 
ฉันหยุดฝีเท้าลงหน้าหอหญิงและบิดตัวยืดเส้นคลายกล้ามเนื้อ 
 
รักโรงเรียนยามเช้าจัง แสงแดดอ่อนๆ อากาศเย็นสบาย ไม่มีเสียงโหวกเหวกโวยวาย 
 
อ๊ะ..! นั่นสวีทพีนี่นา
 
“เมี๊ยวๆ~ มาเดินเล่นหรอ? ^^”
 
ฉันยิ้มหวานกวักมือเรียกป่อยๆ
 
ตามประสาแมวจรหยิ่งผยอง สวีทพีไม่สน เดินดุ่มๆ ไปหลังหอ 
 
ไหนๆ ก็มีเวลาเหลือ แอบย่องตามหน่อยดีกว่า 
 
สวีทพีหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของชายคนหนึ่งและเอาตัวถูไถนอนหงายกลิ้งน่าเอ็นดู 
 
“มอนิ่งแมวส้ม~ อยู่กับสาวสวยแล้วตัวอ้วนตั๊บเลยน้า ^^” 
 
หนุ่มหล่อผมเงินย่อตัวลงเกาพุงให้เจ้าเหมียว
 
แหงแซะ เดาไม่ผิดหรอก ผมเงินหน้าตาดีมีคนเดียวทั้งโรงเรียน 
 
‘เจ้าชายดอกไม้’ ไงล่ะ! 
 
เดี๋ยวสิ! เขามาทำอะไรตอนเช้ามืดหรือกำลังคิดพิเรนปีนหออีก? 
 
จุดนี้ตรงตำแหน่งห้องฉันพอดีด้วย… 
 
ฉันซ่อนตัวหลังมุมตึกตัดสินใจแอบดูต่ออีกหน่อย
 
ชี่~
 
จู่ๆ สวีทพีก็ส่งเสียงขู่สู้ วิ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทวิตซ์ที่มองตามร่างปราดเปรียวของแมวน้อยเจอฉันเข้า ส่วนเจ้าแมวตัวดีไล่ตะครุบนก
นางแอ่นไปไกลแล้ว
 
“…”
 
“…”
 
กลายเป็นว่าตอนนี้เรากำลังเล่นเกมจ้องตากัน
 
 ทำไมถึงเงียบล่ะ? หรือเพราะสถานะปัจจุบันฉันคือพวกถ้ำมอง เขาถึงรอให้ปริปากพูดอะไรสักอย่าง?
 
แต่ไม่ล่ะ เผ่นดีกว่า…
 
“มอนิ่ง” 
 
น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยทักทาย 
 
เท้าที่ก้าวเดินหยุดชะงักอย่างไร้สาเหตุ 
 
เหลือเชื่อ! แม้แต่เท้ายังไม่เชื่อฟังเจ้าของ!
 
ไอ้เท้าบ้า! แกน่ะพอๆ กับจมูกและหัวใจเลย! 
 
หมับ!
 
“คิดถึงจัง~” 
 
ร่างสูงเข้าประชิดตัวในเสี้ยววิฯ
 
ตอนนี้ฉันจึงถูกไอ้คนไร้ยางอายจับกอดจากด้านหลังแล้วเอาหน้าฟุบไหล่ 
 
ถ…ถ้าใครผ่านมาเห็นต้องกลายเป็นข่าวฉาวแน่! >///<
 
"ปะ ปล่อยฉันนะ!” 
 
ตัวฉันแข็งทื่อเพราะถูกจู่โจมกะทันหัน
 
“ไม่” 
 
วงแขนแกร่งรัดเอวแน่นกว่าเดิม
 
“มอนิ่งก่อน” 
 
ทวิตซ์ยืนยันเสียงแข็ง แกล้งเอาหน้าซุกซอกคอ
 
“มะ มอนิ่ง…” 
 
ฉันจำใจพูดทักทายกลับด้วยเสียงสั่นเครือเพราะสัมผัสแปลกๆ
 
ทำไมไม่เงยหน้าขึ้นมาสักทีล่ะย๊ะ! นายชักจะทำตัวลามปามแล้วนะ!! 
 
“กลิ่นเหงื่อเธอ…เซ็กซี่จัง~”
 
ตุ๊บ!
 
“โอ๊ย!”
 
ฉันเหยียบเท้าตานั่นเข้าอย่างจังและบดขยี้ต่อไม่ยั้งจนเขายอมถอนกอด
 
“โอ๊ย…ปล่อยแล้วๆ! ไม่ทำแล้วคร้าบ~ \(T T)/” 
 
ทวิตซ์ยอมแพ้ แบมือชูขึ้นเหนือหัว
 
ฉันตั้งท่าเท้าสะเอวจ้องเขม็งชี้หน้าสั่งสอนไอ้โรคจิต
 
“ถ้าทำอีกนายโดนแน่!” 
 
“^^;” 
 
ตั้งใจดุจริงจังแล้วนะ แต่หมอนี่มันแอบยิ้มกระหยิ่มอะไรเนี่ย? 
 
น่าโมโหชะมัด! -*-
 
“ไม่ใช่ความผิดฉันคนเดียวซะหน่อย…ก็เธอน่ารักนี่น่า”
 
หุบปาก! คิดว่าใช้ใบหน้าฟ้าประทานพูดด้วยน้ำเสียงชวนหลงแล้วจะรอดเหรอย๊ะ! 
 
มันไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้นเลยสักนิด! 
 
…แล้วทำไมฉันต้องเอามือปิดปากเพราะกลัวเผลอหลุดยิ้มด้วยเนี่ย >x<
 
สุดท้ายฉันจึงตัดสินใจเบือนหน้าหนี บ่ายเบี่ยงพูดเรื่องอื่นแทน
 
“นายมาทำอะไรที่นี่? บอกไว้ก่อน ถ้าคิดปีนหออีกฉันแจ้งตำรวจแน่!”
 
“ฉันเพิ่งกลับจากชมรม ผ่านทางเจอแมวส้มพอดี ไม่ได้คิดเรื่องเธอเลยสักนี๊ด~” 
 
ทำเสียงสูงกวนประสาททำไมย๊ะ! - -*
 
“ชมรมอะไรเปิดตอนเช้า? -o-” 
 
ฉันถามติงจับโป๊ะจอมลวงโลก แต่ดันได้คำตอบน่าเหลือเชื่อ
 
“ทุกชมรมที่ฉันต้องการ” 
 
“เท่าที่รู้คือทุกชมรมเปิด 10 โมงย่ะ”
 
“ฉันมีกุญแจสำรองทุกชมรมนั่นแหละ ^^” 
 
โกหกน่า! พ่อเป็นภารโรงเหรอ? 
 
ทวิตซ์เห็นฉันทำหน้าไม่เชื่อจึงโม้ต่อ 
 
“ฉันไม่รู้ว่าชอบอะไรเลยลองเข้าทุกชมรม ไม่ได้จริงจังหรอกแค่ ‘ทำได้ดี’ รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ห้องคิงแล้ว ^0^”
 
แหม~ จ้าาา ไอ้คนมีพรสวรรค์ ไอ้เก่งไม่รู้ตัว! ขิงเกิ๊นน 
 
แต่พวกเด็กห้องคิงไม่ธรรมดาจริงๆ
โรงเรียนนี้มีรับเข้า 2 แบบคือ ยัดใต้โต๊ะแพงหูฉี่กับสอบเข้า สังคมที่นี่เลยแบ่งชนชั้นชัดเจนระหว่างพวก ‘เด็กเก่ง’ กับ ‘บ้านรวย’ ซึ่งส่วนใหญ่พวกผู้
หญิงจะมีอุดมการณ์เดียวกันคือเข้ามาหวีดหนุ่มหล่อ เพราะที่นี่นอกจากโรงเรียนสวย ผอ. มีเส้นสาย ก็ขึ้นชื่ออยู่เรื่องเดียวคือ ‘เจ้าชาย’ 
 
ส่วนฉันเป็นข้อยกเว้น สอบเข้าเพราะบ้านใกล้เฉยๆ 
 
“แฟนเธอเก่งใช่มั้ยล่าา~ ^o^” 
 
อีตาทวิตซ์ยืดตัวมือทาบอกยิ้มย่องภาคภูมิใจ
 
“แฟนไหน?! อย่ามาเนียน! >o<//” 
 
คิดเองเออเอง! เกิดใครได้ยินเข้ามีหวังฉันศพไม่สวย
 
“ยังไม่อ่านอีก?” 
 
หนุ่มหน้าสวยเอียงหัวแคลงใจ ก่อนเข้าโหมดจริงจังร่ายยาวสั่งสอนฉัน 
 
“สะเพร่าแบบนี้อย่าไปทำธุรกรรมกับใครเชียว มีหวังโดนต้มหมดตัวแน่”
 
“คือ…?” 
 
กลายเป็นฉันเองที่ทำหน้างงมองเขาตาแป๋ว
 
“นโยบาย ‘โรแมนติก สคูล’ หน้า 33 ว่าด้วยเรื่อง ‘การเป็นพรีเซนเตอร์’ ระบุว่า…” 
 
ทวิตซ์เว้นช่วงรอคำตอบ
 
ซึ่งฉันส่ายหัวด๊อกแด๊กเป็นตุ๊กตาหน้ารถ 
 
อย่าถามเลย =0= ฉันมิทราบ ไม่เคยคิดจะเปิดอ่านมันด้วยซ้ำ 
 
แล้วไหงนายจำแม่นขนาดนี้ เชื่อแล้วว่าสมองพวกห้องคิงคือ ‘ซูเปอร์คอมพิวเตอร์’
 
“จนกว่านโยบายจะสำเร็จเสร็จสมบูรณ์…ทั้งคู่ต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่าความรักสวยงามแค่ไหน ด้วยการคงอยู่ในสถานะ ‘แฟน’ หากมีคนรู้ว่าทั้งหมด
เป็นเพียงการแสดงและสิ้นศรัทธาในความรัก ข้อตกลงถือเป็นโมฆะ” 
 
เสียงฉะฉานชัดเจนทำให้ฉันเข้าใจแจ่มแจ้งทุกประโยคและช็อคจัดจนสมองไหล O_O 
 
“เพราะแบบนี้ฉันถึงต้องเข้าเรียน เธอเองก็ควรทำนะ ไม่งั้นความแตกขึ้นมามีหวังซ้ำชั้นแน่ ^^” 
 
เจ้าชายรูปงามพูดด้วยความห่วงใย มือหนาลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู
 
“เข้าใจแล้ว…มีแค่ฉันคนเดียวสินะ ที่เอาอนาคตมาแขวนไว้กับไอ้นโยบายงี่เง่านี่ เพราะแบบนั้นนายถึงไม่เคยปฏิเสธสักครั้งตอนถูกหาว่าคบกัน แล้วยัง
ทำตัวแปลกๆ” 
 
ทุกอย่างเริ่มสมเหตุสมผล
 
“แปลกเหรอ?” 
 
ทวิตซ์ถามย้ำเหมือนไม่ค่อยถูกใจคำนี้เท่าไหร่ 
 
“ดูดีๆ สิ! ฉันน่ารักจะตาย” 
 
เออย่ะ เอาที่นายสบายใจ - -*
 
“…” 
 
เอาไงดี แบบนี้ฉันคงต้องเข้าเรียนจริงจัง
 
“ถ้าเธอรู้สึกไม่แฟร์ ฉันโดดด้วยก็ได้นะ” 
 
“ห๊าา?!?” 
 
คนตรงหน้าพูดสิ่งที่ไม่คาดคิดออกมาจนฉันหลุดร้องเสียงหลง 
 
“นายจะทำแบบนั้นไปทำไม? เสียเวลากับคนอย่างฉันมันสนุกนักหรอ?!”
 
ดวงตาสีน้ำค้างเปล่งประกายฟ้าระยิบเหมือนโรยด้วยกริซเตอร์ 
 
ริมฝีปากที่แย้มยิ้มอยู่แล้ว ฉีกยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม 
 
“ยิ่งกว่าสนุกอีก…ช่วงนี้ฉันรู้สึกสนใจเธอเป็นพิเศษ จนไม่อยากทำอะไรเลยล่ะ” 
 
นิ้วเรียวม้วนผมฉันเล่น แววตาเต็มไปด้วยแพชชั่นเปี่ยมล้นเมื่อจ้องมอง 
 
เป็นพลังงานรุนแรงบางอย่างที่บอกไม่ได้ว่า ‘บวก’ หรือ ‘ลบ’
 
มีปีศาจซ่อนอยู่ในตัวเขา…
 
นั่นรึเปล่า? สาเหตุที่ทำให้ฉันรู้สึกขนลุก
 

 
(จบตอน)
 
ไฮเดรนเยีย; ขอบคุณที่เข้าใจและยอมรับหัวใจด้านชาของฉัน
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา