The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา
เขียนโดย Killolat
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.
แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) -สวีทพี-
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
(ณ โรงอาหาร)
ฉันโดนลากมาอย่างจนใจ - -; ระหว่างทางเกิดเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งฉันภาวนาให้ไม่มีโต๊ะว่างจะได้ชิงตัดจบอีเว้นต์นี้ซักที
“ทวิตซ์~ นั่งด้วยกันสิ”
เสียงใสกิ๊งตะโกนเรียก ขณะที่ฉันกับอีตาหน้าสวยกำลังมองสำรวจรอบๆ
สาวน้อยน่ารักโบกมือส่งยิ้มให้จากมุมนึงของโรงอาหาร เธอรายล้อมด้วยแก๊งชะนีอีก 2-3 นาง
“แฟนนายเรียกน่ะ”
ฉันไม่รู้ว่าตานั่นเห็นรึเปล่าเลยกระตุกแขนเสื้อเขาชวนให้มอง
“ไม่ใช่นะ”
ทวิตซ์ตอบเสียงเรียบ วงแขนกว้างคล้องคอฉันอย่างถือวิสาสะก่อนส่งยิ้มโบกมือให้สาวน้อยคนนั้น
อะไรเนี่ย ทำตัวยังกะพวกเพลย์บอย - -*
“ไปมั้ย?”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบถาม
แม้ที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายและกลิ่นอาหารตีรวน แต่กลิ่นหอมดอกไม้จากตัวเขายังเด่นชัด พออยู่ในท่านี้ยิ่งได้กลิ่นเหงื่อที่สมกับเป็นผู้ชายด้วย
“เอาไง ไปมั้ย?”
ทวิตซ์ถามซ้ำอีกครั้ง นิ้วซนจิ้มแก้มเล่นเมื่อเห็นฉันนิ่งเงียบ
พอได้สติฉันจึงรีบปัดเขาออก
“แล้วแต่นายสิ!“
นั่งไหนไม่สำคัญ รีบทำให้มันจบๆ เหอะ
.
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงถูกพามานั่งร่วมวงกับสาวน้อยผมสีน้ำตาลอ่อนหน้าตาบ้องแบ๊ว
โห…ขนาดมองใกล้ๆ ยังน่ารัก นี่มันสเป็กสาวในอุดมคติชายไทยชัดๆ
“สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อ ‘หวาน’ นะ”
เธอส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรตรงข้ามกับผองเพื่อนที่มองค้อนอย่างไม่เก็บอาการ
“แฟนหรอ?”
สาวตาแป๋วยิงคำถาม
“อื้ม!”
ทวิตซ์ตอบกลับฉับไวทำเธอติดสตั้น
อื้มพ่อง!
ฉันหันไปหยิกเอวไอ้คนข้างๆ ทันที
“โอ้ยๆ! ใจร้ายอ่ะ T T”
ดวงตาสีน้ำข้าวหวานหยาดเยิ้มมองอ้อนเป็นลูกหมาวอนให้ฉันหยุดหยิก
“แหม ชอบล้อเล่นอยู่เรื่อย ^^;”
หวานยิ้มเจื่อนหัวเราะคิกคัก
“รีบกินเถอะ”
ฉันสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ จึงชิงตัดบทก่อน
“จะเอาอะไร? เดี๋ยวฉันไปซื้อให้”
ทวิตซ์อมยิ้มทำมือป้องปากโน้มตัวกระซิบกระซาบ
“…พิ้งก์ช็อคเชอรี่”
ครั้งนี้ใกล้มากจนริมฝีปากเขาเกือบแตะโดนหูฉัน -//-
ว่าแต่…นั่นมันชื่ออาหารหรอ?
“เดี๋ยว ร้านสีชมพูตรงโน้นนะ ^^”
มือใหญ่รั้งแขนไว้และชี้ให้ดูร้านไทยมุงธีมฟรุ้งฟริ้งตรงหัวมุม
สาบานเลยตอนมากินครั้งล่าสุดฉันไม่เคยเห็นไอ้ร้านนั่น หรือนี่คือหนึ่งในแผนปฏิรูปโรงเรียนของ ผอ.เชอรี่??
...
“พิ้งค์ช็อคเชอรี่ค่ะ”
ฉันพูดชื่อเมนูอย่างมั่นใจหลังยืนต่อคิวนาน 5 นาที
-_-+ ชิ้งงงง
เอ๊ะ? ทำไมสายตารอบข้างมองกันแปลกๆ
แต่ป้าคนขายพยักหน้ายิ้มรับปกติแสดงว่าฉันสั่งถูกแล้ว…
ช่างเถอะ คงคิดมากไปเองมั้ง ยังไงซะ คนพวกนี้ก็จ้องหาเรื่องจับผิดฉันได้ตลอดอยู่ละ - -;;
ระหว่างรอของฉันหันกลับไปมองที่โต๊ะ เห็นทวิตซ์กำลังนั่งคุยเจ๊าะแจ๊ะกับพวกสาวๆ สนุกสนาน บรรยากาศงุ้งงิ้งต่างจากตอนมีฉันอยู่ราวฟ้ากับเหว
แบบนี้ยิ่งรู้สึกหมันไส้ตานั่นชอบกล - -* นายจะพาฉันมาเป็น กขค.ทำไมมิทราบ?
“ได้แล้วจ้าา”
ไม่นานนักป้าแกก็ยกสิ่งมหัศจรรย์วางตึ้งตรงหน้า…ทำเอาอึ้งจนพูดไม่ออก 0-0
แก้วน้ำปั่นทรงหัวใจสีชมพูขนาดเท่าหัวคน ประดับด้วยลูกเชอรี่จำนวนมากและท๊อปปิ้งขนมหวานหลากสีสัน ปักหลอดคู่รักม้วนงอเป็นคำว่า ‘love’ ถาด
รองแก้วโรยกลีบกุหลาบแดงสด
แค่คิดว่าต้องถือมันกลับโต๊ะท่ามกลางสายตาประชาชีก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว~ ToT
เอาวะ ชีวิตต้องสู้! รีบทำให้จบๆ นะยู…
“ทะ เท่าไหร่คะ?”
“แหม~ หนูเป็นคนแรกที่สั่งเมนูนี้ในรอบ 7 วันพอดี ปกติแก้วละ 500 บาท แต่ป้าแจกฟรีไปเลยจ้าา ^0^”
คุณป้าแม่ค้ายิ้มร่า
“ขอบคุณค่ะ = =;”
อย่างน้อยก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับฉันบ้าง
ว่าแต่…นอกจากฉันยังมีใครกล้าสั่งไอ้เมนูเว่อร์วังแพงหูฉี่นี่อีกหรอ?
“หนูน่ารักซะด้วย น่าอิจฉาหนุ่มคนนั้นจัง ยังไงช่วยโปรโมทให้ป้าหน่อยนะจ้ะ^^”
ฉันยิ้มตอบแห้งๆ ก่อนฮึบสู้ยกไอ้แก้วเวรตะไลอย่างทุลักทุเล
ตึง!
ฉันใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อหลังจากวางแก้วยักษ์กระแทกโต๊ะเสียงดัง จนทุกคนที่กำลังพูดคุยกันสนุกปากหยุดชะงัก
“โทดที =0=;”
ตายจริง ไม่ได้กะจะขัดความสุขใครหรอกนะ แต่ไอ้แก้วนรกนี่มันโคตรหนักทำเอาหอบแฮ่กๆ เลย
“สวยจัง”
ทวิตซ์เท้าคางยิ้มกรุ้มกริ่มส่งสายตามาทางฉัน
อย่ามา…! ไม่หลงกลหรอกย่ะ =*= รู้นะว่าชมแก้ว
สิ้นเสียงหยอดเจ้าชู้ รังสีอำมหิตของสาวๆ บนโต๊ะก็แผดแผ่ออร่าทิ่มแทง
“อ๊ะ เมนูคู่รักที่กำลังฮิตช่วงนี้นี่นา ^^ ทวิตซ์ขี้แกล้งจังเลยน้า”
หวานแก้สถานการณ์อึมครึมด้วยการพูดหยอกล้อ
“เห็นสาวๆ ในห้องบอกว่าอร่อยมาก ฉันขอชิมบ้างสิ~”
ว่าแล้วเธอก็เอื้อมมือมาแตะแก้ว แต่อีตาทวิตซ์เร็วกว่าคว้าหลอดเลิฟไว้อย่างไว
“ไม่-ให้”
น้ำเสียงเยือกเย็นเน้นย้ำทีละคำด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตามปกติ
บรื๋อ~ น่ากลัว!
“ไม่ใช่ว่าเธอต้องรีบกลับไปทำรายงานส่งอาจารย์หรอ?”
ทวิตซ์หลุบตาลงมองเครื่องดื่มตรงหน้า มือกวนหลอดวนไปมา
ครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นตานี่ทำเมินใส่คนอื่น
“ว้า~ ลืมซะสนิท”
หวานพยุงตัวลุกขึ้นแล้วส่งยิ้มโบกมือลา
ส่วนอีตาทวิตซ์แสร้งหูทวนลม มัวแต่กินเชอรี่ในแก้วไม่สนใจใคร
“เจอกันที่ห้องนะ…^^;”
สาวเจ้าหน้าเจื่อนเสียอาการแต่ยังฝืนยิ้มให้
พอหวานไปแก๊งชะนีลูกกระจ๊อกก็ลุกตาม ทั้งโต๊ะเลยเหลือแค่ฉันกับเขา
“นี่นาย…ปฏิเสธสาวสวยเพราะเห็นแก่กินเนี่ยนะ?”
ฉันแอบแซะเพราะรู้สึกเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าเค้าชอบนาย ถึงจะไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉันก็เถอะ…
"นี่เธอ…เห็นฉันเป็นคนยังไงกันแน่ฮะ?”
นิ้วเรียวส่งเชอรี่จิ้มปาก
“กินเข้าไป”
เจ้าชายดอกไม้ออกคำสั่งดุจราชินีทำเอาผู้น้อยต้องยอมเคี้ยวเชอรี่ตามพระประสงค์
…ตอนโกรธหมอนี่เป็นแบบนี้เองสินะ
เอาเถอะ! ถ้านายเต็มใจ ฉันช่วยกินให้ก็ได้ ไอ้เครื่องดื่มสุดเลี่ยนมูลค่า 500 บาทเนี่ย อีเวนต์นี้จะได้จบลงซะที!
ว่าแล้วฉันก็ลากแก้วยักษ์เข้าหาตัวหยิบเชอรี่เข้าปากเคี้ยวตุ่ยๆ
มีอีตาทวิตซ์แอบหัวเราะเบาๆ ดูอารมณ์ดีขึ้นมาเชียว
.
-10 นาทีผ่านไป-
ให้ตายเถอะกินตั้งนานยังไม่ลดลงเลย แบบนี้ฉันได้เป็นเบาหวานตายก่อนแน่ T-T
ไอ้หน้าสวยนี่ก็ไม่ช่วย! เอาแต่ยิ้มมองดูฉันทุกข์ทรมาน
“ไม่ไหวแล้ว…”
ฉันงึมงัมท้อใจ พะอืดพะอมอั้นอ้วกจนน้ำตาคลอเบ้า
“ช่วยไม่ได้ มันไม่ได้ออกแบบมาให้กินหมดนี่นา ^-^”
เดี๋ยว!? แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเอาป่านนี้ยะ! -*-
“โอ๋ๆ”
มือใหญ่ลูบหัวปลอบป่อยๆ ดูยังไงก็เยาะเย้ย
ย่ะ! เอาที่นายพอใจ จบจากนี้เราคงไม่มีเรื่องให้ต้องเจอกันแล้วล่ะ!
.
-1 สัปดาห์ต่อมา-
(ณ ห้องสภานักเรียน)
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เจ้าชายกวนประสาทหายสาปสูญ
เดาว่าเค้าคงยอมแพ้ ไม่ก็เบื่อจะเล่นกับคนไร้มนุษยสัมพันธ์อย่างฉัน
เดิมทีเราก็ไม่น่าโคจรมาเจอกันได้อยู่แล้ว เพราะฉันแทบไม่เคยเฉียดใกล้ตึกเรียน เสาร์-อาทิตย์ กลับบ้าน วันธรรมดาขลุกอยู่กับกองเอกสาร นานๆ มี
แว้บไปส่งงานห้องพักครูบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่หน้าที่เดินเอกสารจะเป็นของไอ้แว่น
แต่แปลกจัง…ปกติตานั่นต้องแบกเอกสารกองพะเนินมาวางทิ้งไว้แล้วนี่นา ทำไมวันนี้โต๊ะดูโล่งๆ
“เฮ้อ”
ฉันถอนหายใจรับรู้ชะตากรรม
ต้องลงแรงไปเอาเองสินะ ไอ้แว่นงี่เง่าคงอู้งานอีกตามเคย -*-
แอ๊ด~
ในขณะที่ฉันกำลังเอื้อมจับลูกบิด บานประตูเจ้ากรรมก็ดันเปิดออกเสียก่อน เผยให้เห็นร่างสูงคุ้นตาพร้อมเปลวผมสีเงินพลิ้วไหว ดวงตาพราวเป็น
ประกายแผ่รัศมีความสวยจนผู้หญิงยังอาย
>_<
ฉันหลับตาปี๋ 3 วิ ตั้งจิตภาวนาให้ทั้งหมดเป็นเพียงภาพหลอน
= =
แจ่มแจ้งเต็มสองตา โลกอันแสนโหดร้ายเหวี่ยงตานี่กลับเข้าวงโคจรฉันอีกจนได้
หนุ่มหน้าสวยโน้มประชิดทำฉันถอยผงะ
ดวงตากลมโตสีน้ำค้างเปล่งประกายล้อมด้วยแพขนตาหนาหรี่มองฉันเหมือนเด็กน้อยเฝ้าดูสัตว์เลี้ยงตัวจ้อย ริมฝีปากบางฉีกยิ้มเจ้าเสน่ห์พ่นคำพูด
ยียวน
“ยังน่ารักเหมือนเดิม ^^”
“หนวกหูน่า!”
รู้สึกได้เลยว่าใบหน้ากำลังร้อนผ่าว เพราะกลิ่นสวนดอกไม้จากตัวเขาและคำพูดหวานเลี่ยนลวงโลก
บ้าเอ้ย! อาทิตย์ก่อนฉันอุตส่าห์เริ่มชินกับความหล่อระดับยูนิเวิร์สนี่แล้ว แต่นายดันกลับมาตอนที่ภูมิคุ้มกันความหล่อฉันลดลงเนี่ยนะ >///<
ฉันล่ะเกลียดคนหล่อจริงๆ โดยเฉพาะไอ้หมอนี่!!! ไอ้คนขี้อ่อยเบอร์นี้!!!
“เกรี้ยวกราดขนาดนี้ เราคงสนิทกันแล้วสินะ ^o^”
มาอีกแล้วรอยยิ้มลำพองใจ
เออดิ ละถ้าสนิทกว่านี้ ฉันคงได้ฆ่านายเข้าสักวัน -*-
“ยืนจีบกันอยู่ได้น่ารำคาญ!”
เสียงกวนโอ้ยคุ้นหูของไอ้แว่นดังแทรก ก่อนเจ้าตัวจะสอดร่างเดินผ่ากลางระหว่างฉันกับเจ้าชายดอกไม้ มุ่งตรงไปนอนเกลือกกลิ้งบนโซฟา
ไอ้แว่นกวนบาทามองหน้าฉันฉุนๆ
“ถ้ามันตรงสเป็คเธอนักก็ไปเปิดห้องซะไป๊!”
หน็อยแน่ กินรังแตนมารึไงยะ!? ฉันสิควรโมโห! งานการไม่ทำ ยังมีหน้ามานอนเเอ้งเเม้งผึ่งลมเป็นช่วงช่วงอุจาดตา!
แต่ก็ตามประสา ฉันไม่คิดจะเสวนากะไอ้งั่งนี่อยู่แล้ว -*-
“จะไปไหน~”
ทวิตซ์ทำเสียงหวาน มือใหญ่จับล็อคหัวหยุดการเคลื่อนไหว
“เอาเอกสาร!”
ฉันเผลอหลุดปากตอบทั้งที่ไม่อยากคุยด้วยซ้ำ
“ยัยโง่ ยังไม่รู้อีกหรอ”
เสียงกวนดังสอดจากทางโซฟา
วันนี้ไอ้บ้านี่มันอะไรกับฉันนักหนา -*-
“แฟนเธอจัดการหมดแล้ว”
ห๊ะ?! แฟนไหน???
“ใช่ ฉันจัดการหมดแล้ว ^0^”
ทวิตซ์ทำหน้าลั้นลาเป็นพิเศษเหมือนได้ยินคำพูดถูกใจ
“เดิมทีเอกสารพวกนั้น ไม่ใช่ความรับผิดชอบของสภานักเรียนอยู่แล้ว จ่ายเงินมาเรียนแต่ต้องนั่งทำงานงกๆ ทั้งวัน ไม่สนุกหรอกเนอะ ^^”
เดี๋ยวว หมอนี่กำลังพูดบ้าอะไร? =[]=
“แม่ง! เพราะงี้ไงฉันถึงหงุดหงิด!”
แคคตัสสบถหยาบ
ยะ อย่าบอกนะว่า…!
“ฉันคุยกับพวกอาจารย์แล้ว ว่าถ้ากล้าโยนงานให้เธออีกจะฟ้อง ผอ.”
ลูกไอ้ช่างฟ้องงงง นายทำอะไรลงไปย๊าา!! >[]<
ถ้าไม่มีงานฉันกับไอ้แว่นก็หมดสิทธิ์โดด! ต้องไปทำการบ้านจิปาถะน่ารำคาญ! เจอพวกเด็กขี้เหยียดในคลาส! ปวดกะบาลดราม่างานกลุ่ม! แล้วไหนจะ
เรื่องเวรทำความสะอาดอีก!
ฉันเกลียดนาย! เกลียดนายที่สุดเลย!!!!
ฉันจ้องหน้าทวิตซ์ลูกตาแทบถลน สองมือกำหมัดแน่นสั่นระริก
เย็นไม่ไหวแล้วโว้ยยย!!!!
“เอ๊ะ อย่าร้องสิ ดีใจขนาดนั้นเลย? ^^;”
ส่วนไหนของหน้าฉันบอกว่าดีใจย๊าาา?!
ตอนนี้ฉันโกรธ! โกรธมาก! หูดับไปหมดแล้ว!!!
“อ้อ ฉันทำนี่มาให้ด้วย”
ไอ้หน้าสวยไม่รับรู้ถึงรังสีอำมหิต ยัดสมุดซัมติงใส่มือฉัน
พึ่บ!
ฉันโยนไอ้วัตถุงี่เง่านั่นทิ้ง
“…”
คนตรงหน้าหุบยิ้มวูบนึง ใบหน้าเรียบเฉยจ้องมองด้วยสายตาอาฆาตก่อนเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ
แต่ฉันหาได้หวั่นกลัว ส่งสายตาเย็นชาระดับเยือกแข็งกลับไป ตามด้วยน้ำเสียงตัดรอนที่มักใช้ประจำกับพวกน่ารำคาญ
“อย่าสะเออะมายุ่งกับฉันอีก”
.
-18.55 น.-
(ณ หอพักหญิง)
ฉันยังหงุดหงิดเรื่องตอนเช้าไม่หาย
ใจนึงรู้ดีว่าทวิตซ์ทำถูกแล้ว ติดตรงฉันไม่ต้องการ!
ใช่ มันผิดที่สภานักเรียนทุกรุ่นยอมรับใช้พวกอาจารย์ เพื่อถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น แต่การนั่งทำงานในตึกผีสิงคือกิจวัตรประจำวันที่ฉันรัก กระทั่งไอ้หมอ
นั่นมันเข้ามาจุ้นจ้าน -*-
พอๆ เลิกคิด! เสียสุขภาพจิตเดี๋ยวแก่ไว!
ตานั่นคงไม่กล้าเสนอหน้ามาแล้วล่ะ
เล่นกับไอ้ต้าวน่ารักต่อดีกว่า~ >w<
“สวีทพี~ วันนี้เที่ยวสนุกมั้ย? เจอเพื่อนแมวบ้างรึเปล่า?”
เมี้ยว~
แมวส้มตัวจ้อยขานรับน่าเอ็นดู
>///< สมแล้วที่แม่เก็บหนูมาจากกองขยะ ทำตัวน่ารักได้กตัญญูซะจริง~
ฉันมีความสุขในการพูดคุยหยอกล้อกับเจ้าเหมียว โดยไม่สนใจว่าเพื่อนร่วมห้องจะมองยังไง
ใช่แล้ว พูดถึงรูมเมทเธอชื่อ ‘ปลาดาว’ ต้องขอบคุณที่เป็นเธอคนนี้ แม้เราจะคุยกันแทบนับคำได้ แต่ก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ปลาดาวมักใส่หูฟังนั่งเล่น
เกมเงียบๆ มีธุระอะไรก็แปะโน้ต ความสัมพันธ์เพอร์เฟ็กต์แมตซ์ ฉันชอบที่ได้เป็นตัวของตัวเองเหมือนอยู่คนเดียวตามลำพัง เธอเองก็เช่นกัน
“สวีทพีน่ารักจัง~ ขนนุ๊มนุ่ม >< วันนี้เหนื่อยมากเลย…ขอกอดนานๆ เลยน้า”
ฉันเอาหน้าซุกพุงเจ้าตัวน้อยซึมซับความอบอุ่นนุ่มฟู
ฮ้าา~ จิตใจได้รับการเยียวยาแล้ว~
รักแมวที่สุดเลยย
“น่าอิจฉาจังน้า”
เอ๊ะ ฉันหูฝาดรึเปล่า? เหมือนได้ยินเสียงล้อเลียนของไอ้คนที่ไม่อยากเจอขี้หน้าลอยมาจากด้านหลัง
“แมวตัวผู้รึเปล่าเนี่ย?”
ไม่ ฉันไม่น่าหูแว่วซ้ำสอง!!
“กรี๊ดดดด…!!!!”
ฉันกรีดร้องสุดเสียงจนเจ้าเหมียวหนีกระเจิง
อุ๊บ!
มือหนาปิดปากแน่น มีเพียงเสียงอู้อี้เล็ดลอด ส่วนอีกมือรวบกดฉันติดเตียง
ฉันอยู่ในท่านอนแอ้งแม้ง สองมือถูกล็อคไว้เหนือหัว มีผู้ชายตัวใหญ่คร่อมร่างและทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก!
อยากเตะให้กระเด็นอยู่หรอก ถ้าไม่กลัวกระโปรงที่ถลกขึ้นสูงอยู่แล้วเปิดอ้าซ่ากว่าเดิม T^T
“อายอาอู่อี้นี่ไอ้ไอ อ่อยอั้นอ๊ะ!!! (นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง ปล่อยฉันนะ)”
“ชู่…สัญญาก่อนสิว่าเธอจะเงียบ”
ร่างสูงเหลือบมองรูมเมทฉันที่นั่งหันหลังเล่นคอมฯ ไร้ปฏิกริยาตอบสนอง ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าผู้ชายตัวเบ้อเร่อบุกเข้าห้อง
ไอ้หื่นทวิตซ์! ฉันพอรู้ว่านายมันเพี้ยน แต่ไม่คิดว่าจะบ้าถึงขั้นกล้าบุกรุกห้องผู้หญิง!!!
หลุดจากนี่ ฉันจะแจ้งตำรวจจับนายแน่! ไอ้โรคจิต!!!
แล้วดูสภาพฉันสิ…ชุดนอนเดรสกระโปรงสีชมพูโนบราสั้นเหนือเข่า แถมยังเห็นตอนเล่นกับแมวเสียงสองอีก
ฉันจะฆ่านาย!!!! จะฆ่าน๊ายยย >[]< ถ้าไม่ได้ฆ่านายวันนี้ ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!!!!
ความเดือดดาลทำให้ฉันดิ้นแรงขึ้น แต่ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดพ้นพันธนาการได้เลย สภาพกระเสือกกระสนดิ้นแด่วๆ ไม่ต่างจากปลาขาดน้ำ เลวร้ายกว่านั้น
คือ…ไอ้กระโปรงเจ้ากรรมดันถกสูงจนเผยให้เห็นสิ่งที่ไม่ควรจนได้
“…”
“…”
เราตกอยู่ในความเงียบงัน
ดูจากสายตาและสีหน้าเหมือนหมอนั่นเพิ่งตรัสรู้ว่าเรากำลังอยู่ในท่าล่อแหลม…
“ฮึกๆ”
ลมหายใจเริ่มติดขัดเพราะแรงสะอื้น
ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพนี้เลย…น่าเจ็บใจจริงๆ ที่ไม่มีแม้แต่แรงขัดขืน
แล้วไหนจะเรื่องทั้งหมดที่ต้องเจอวันนี้อีก
ทุกอย่างบีบคั้นให้น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา
ฉันเกลียดนาย…ยังไงฉันก็เกลียดนาย! ตอนนี้นายเป็นคนที่ฉันเกลียดที่สุดในโลกเลย!
เมื่อเห็นฉันเริ่มสะอื้น น้ำตาไหลเปื้อนมือ ทวิตซ์จึงรีบเบือนหน้าหนี สายตาสีเงินดูกระวนกระวายรู้สึกผิดสุดๆ
“ขอโทษ…”
มือหนาที่ปิดปากเริ่มผ่อนแรงและค่อยๆ ผละออก
“ฉัน…ไม่ยกโทษให้…”
ฉันพูดเสียงแผ่วปนสะอื้น
แย่จริง ฉันเป็นพวกร้องแล้วหยุดยากด้วย แต่คงไม่มีอะไรน่าอายไปกว่านี้อีกแล้ว…
โธ่เอ้ย! สะใจนายแล้วสิ! ที่เห็นฉันร้องไห้ T T
ต่อมสามัญสำนึกของอีตาทวิตซ์เพิ่งทำงาน เขาเลยเอาผ้าห่มมาคลุมตัวให้ทำเหมือนฉันเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ประทานโทษ…มาสวมบทสุภาพบุรุษอะไรเอาป่านนี้!
“ฉันมีพี่สาวนะ ไม่ต้องคิดมากหรอก…”
เป็นคำปลอบใจที่ห่วยแตกสุดๆ
“ฉันจะ…ฮึก! ควักลูกตานาย! ให้หมากิน!!”
ทวิตซ์เกาหัวยุ่งเหมือนกำลังจัดระเบียบความคิด พยายามพูดตะล่อมต่อ
“ฉันไม่เห็นอะไรเลย นอกจาก…สีชมพู”
ยิ่งพูดเสียงยิ่งแผ่ว ดูก็รู้ว่าโกหก!
ถ้าไม่เห็นอะไร ทำไมนายถึงหููแดงเล่าตาบื้อ! TTOTT
“ฮือออออ~”
คราวนี้ฉันปล่อยโฮสุดเสียง น้ำตาไหลทะลักเป็นเขื่อนแตก
พออีตาทวิตซ์ได้ยินเข้าก็ตกใจ รีบตะครุบกอดลูบหัวทำเอาสะดุ้งเฮือก
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ ฉันขอโทษจริงๆ…ให้ทำอะไรก็ยอม จะรับผิดชอบไปชั่วชีวิตเลย เอาเสื้อฉันเช็ดขี้มูกก็ได้”
“ฉันเกลียดนาย! เกลียดนาย…ฮึก! ฉันจะฆ่านาย…! จะฆ่านาย!!!”
สถานการณ์นี้มันอะไร ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำได้เพียงพรั่งพรูความคิดในหัวออกมาอย่างหมดเปลือกและร้องไห้ในอ้อมอกอุ่นๆ เหมือนเด็ก
น่าเจ็บใจที่น้ำเสียงนุ่มนวลและสัมผัสอ่อนโยนจากเขามันดันทำให้รู้สึกดี
หรือที่ฉันอารมณ์แปรปรวนแบบนี้ เป็นเพราะวันนั้นของเดือน?
แล้วพรุ่งนี้…ฉันจะมองหน้าเขายังไงไหว?
“แคคตัสเล่าให้ฟังหมดแล้ว ว่าทำไมเธอถึงโกรธขนาดนั้น…”
น้ำเสียงทุ้มต่ำเอื้อนเอ่ยแผ่วเบาพลางลูบผม
“ฉันแค่อยากใช้เวลากับเธอให้มากขึ้น ไม่อยากเห็นเธอเอาแต่ก้มหน้าทำงาน…”
ฉันยังสะอื้นไม่หยุด น้ำตาทำทุกอย่างพร่ามัว แม้แต่สมองที่เคยตอบสนองฉับไวก็เริ่มเฉื่อยชา
…เกลียดการร้องไห้จริงๆ
“ตอนไม่ได้เจอกันฉันทำสมุดติวให้เธอด้วย…ตั้งใจทำสุดๆ ไปเลย เป็นสมุดวิเศษที่เข้าใจง่ายมาก แม้แต่คนติดเอฟทุกวิชายังได้เอ”
ทวิตซ์พูดติดตลก ใช้โทนเสียงชวนเคลิ้มเหมือนกำลังกล่อมเด็ก
“ขอโทษที่โยนทิ้ง…”
เพราะถูกชักจูงด้วยความใจดี ปากเลยเผลอพูดขอโทษออกมาง่ายดายราวกับถูกสะกดจิต
...
ผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ พอเริ่มตั้งสติได้ฉันจึงผลักร่างกำยำออก ก่อนจะกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงอีกครั้ง
“ทำไมนายต้องทำอะไรให้ฉันด้วย”
โดยไม่รอคำตอบจากชายตรงหน้า ฉันเริ่มพูดต่อทันที
“ถ้าเป็นเพราะตำแหน่ง ‘อีฟ’ ฉันยอมเป็นให้ก็ได้…แค่อย่ามายุ่งกับฉันอีก”
ฉันจ้องมองเขาด้วยสายตาจริงจัง ใบหน้าสวยที่มักประดับด้วยรอยยิ้มนิ่งเฉยไปพักนึง
นัยน์ตาครามลึกล้ำมองเข้ามาในตาฉันให้ความรู้สึกเหมือนถูกอ่านทะลุปรุโปร่ง ตามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ฉันอยากรู้จักเธอมากกว่านี้ ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งไร้สาระนั่นหรอก”
แม้สายตาประสานกัน แต่ฉันกลับอ่านความคิดเขาไม่ออก
นั่นไม่ใช่ความหลงใหล ไม่มีประกายในแววตานั้น
ไม่มีอะไรเลย…
ความรู้สึกนี้มันอะไร ทำไมฉันถึงขนลุก?
“เห็นแก่น้ำตา วันนี้ฉันจะยอมถอยก่อน”
ริมฝีปากบางสวยกระตุกยิ้มเปลี่ยนบรรยากาศหนักอึ้งให้กลับมาเบาลง
นิ้วเรียวสัมผัสปอยผมเปียกปอนคราบน้ำตาบรรจงปัดทัดหูให้อย่างเบามือ
“ฝันดีนะ”
เจ้าชายดอกไม้จากไปพร้อมรอยยิ้ม
ไม่อยากเชื่อว่าเขาปีนหน้าต่างชั้นสองขึ้นมาได้…
สาบานเลย! คราวหน้าฉันไม่ลืมล็อกประตูแน่ -*-
(จบตอน)
สวีทพี; ขอบคุณและอำลา แด่ทุกช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านเข้ามา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ