สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
-
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
45 chapter
54 วิจารณ์
21.54K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
22) อย่าพึ่งคิดร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เดี๋ยวก่อน!”
ฉันซึ่งหันหลังให้เธออยู่ หยุดกึกในทันที
‘รึ..รึว่าเธอจะรู้’ คิดแล้วหัวใจก็พลันหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม
“อะไรเหรอคะ?” ฉันถามเสียงสูงก่อนจะกลืนน้ำลาย ใจเต้นระทึก
“ครืดดดด…ปึง” เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นจากทางด้านหลัง พอหันไปก็เห็นคุณน้ายื่นจานอาหารและตะกร้าหวายเล็กๆ ใส่ขนมปังแบบเป็นก้อนกลมๆ ให้
“เอานี่ ไก่ย่างกับขนมปังอบเนย เธอกับเพื่อนๆ เอาไปแบ่งกัน”
กลิ่นหอมหวนของมัน ชวนให้ฉันน้ำลายสอ แต่คงไม่ทันยัยแก้วที่รีบพุ่งเข้ามาตะครุบไว้ในทันที
“ว้าวไก่ย่าง” เธอร้องตาโต แสดงสีหน้าหิวโหยและดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“มา..เดี๋ยวอาช่วยถือนะ” คุณอาสุบรรณกล่าวพลางเดินมารับจานและตะกร้าขนมปังมาถือไว้
“ให้เด็กๆ เขาถือไปไม่ดีกว่าเหรอคะ” แม่เลี้ยงทักท้วง
“ไม่เป็นไรทิพย์ เรื่องแค่นี้เอง” เขากล่าว “เอ้าเด็กๆ หลบทางให้คุณอาหน่อยเร้ว เดี๋ยวชนพุงอาเข้าให้แล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ ฮ่า ฮ่า” ผู้ใหญ่บ้านว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ช่วยทำให้บรรยากาศอันอึมครึม สดใสขึ้นมาบ้าง
“น้าของเธอนี่ดุชะมัด เมื่อตะกี๊ยังพูดจาจ๊ะจ๋าอยู่เลย” ยัยแก้วแอบกระซิบกระซาบข้างหูฉันระหว่างที่เราสามคนกำลังเดินออกจากโซนห้องครัวโดยแต่ละคนต่างถือจานอาหารและแก้วน้ำไปคนละไม้ละมือ เสียงประตูห้องครัวปิดลงตามหลังพวกเราดังปึง พร้อมกับเสียงของฉันที่หลุดปากโพล่งออกมาในทันที แต่ก็เป็นแค่การกระซิบกันระหว่างฉันกับเพื่อนด้วยเสียงที่แผ่วเบา และระวังอย่างที่สุด
“ฉันได้ยินคุณน้าคุยกับใครก็ไม่รู้” ฉันบอก “เธอพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับฉันด้วยแถมยังดึงสายโทรศัพท์ออกไปคุยข้างนอกอีกต่างหาก ดูแปลกๆ”
แก้วพยักหน้า รับฟัง
“ฉันว่าเธออย่าเพิ่งไปคิดมากเลยริณ ถึงแม้แม่เลี้ยงของเธอจะน่ากลัวก็เถอะ แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง บางทีแกอาจจะโทรบอกญาติหรือใครบางคนว่าเธอกลับมาบ้านแล้วก็ได้นะ”
“อืม…” ฉันส่งเสียงเป็นเชิงเห็นด้วย “บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเอง”
“ถูกต้องแล้วจ้ะริณ ดีนะเนี่ยที่ที่นี่ยังพอมีอะไรให้เรากินได้บ้าง ฉันว่าเราไปนั่งกินไก่ย่างให้หายหิวก่อนเถอะเรื่องอื่นอย่าเพิ่งคิดให้รกสมองเลย”
“ไม่ล่ะเดี๋ยวฉันเข้าไปหาพ่อก่อนดีกว่า ไม่รู้เป็นไงบ้าง” ฉันตอบปฏิเสธพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้เพื่อนหลังจากที่ดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ๆ แล้ว
“ฝากหน่อยนะ”
“ให้ฉันกับเอกเข้าไปมั๊ย?” อีกฝ่ายเอ่ยถาม
“เดี๋ยวยังไงฉันจะพาเข้ามาไหว้นะ แต่ตอนนี้เธอกับเอกกินมื้อเย็นกันก่อนเถอะ”
แสงพลอยพยักหน้าแล้วจึงใช้สองมือประคองแก้วทั้งสามใบไว้แนบอกก่อนจะเดินไปทางบริเวณห้องนั่งเล่น โดยมีคุณอาตามหลังมาไม่ห่าง ส่วนชานนท์นั้นกำลังเหยียดตัวนอนเขลงอยู่บนโซฟา
“พ่อหนูอยู่ในห้องนั่นแหละ” คุณอาสุบรรณบอกพลางบุ้ยใบ้ไปที่ประตูไม้เล็กๆ บานหนึ่ง
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับแล้วจึงเดินผ่านแสงสลัวตรงไปที่หน้าห้องนอนของพ่อ ความรู้สึกคิดถึงและห่วงหาประดังประเดเข้ามาในห้วงคิดคำนึงจนแทบจะทนรอแม้เพียงวินาทีต่อไปไม่ไหว
ฉันซึ่งหันหลังให้เธออยู่ หยุดกึกในทันที
‘รึ..รึว่าเธอจะรู้’ คิดแล้วหัวใจก็พลันหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม
“อะไรเหรอคะ?” ฉันถามเสียงสูงก่อนจะกลืนน้ำลาย ใจเต้นระทึก
“ครืดดดด…ปึง” เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นจากทางด้านหลัง พอหันไปก็เห็นคุณน้ายื่นจานอาหารและตะกร้าหวายเล็กๆ ใส่ขนมปังแบบเป็นก้อนกลมๆ ให้
“เอานี่ ไก่ย่างกับขนมปังอบเนย เธอกับเพื่อนๆ เอาไปแบ่งกัน”
กลิ่นหอมหวนของมัน ชวนให้ฉันน้ำลายสอ แต่คงไม่ทันยัยแก้วที่รีบพุ่งเข้ามาตะครุบไว้ในทันที
“ว้าวไก่ย่าง” เธอร้องตาโต แสดงสีหน้าหิวโหยและดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“มา..เดี๋ยวอาช่วยถือนะ” คุณอาสุบรรณกล่าวพลางเดินมารับจานและตะกร้าขนมปังมาถือไว้
“ให้เด็กๆ เขาถือไปไม่ดีกว่าเหรอคะ” แม่เลี้ยงทักท้วง
“ไม่เป็นไรทิพย์ เรื่องแค่นี้เอง” เขากล่าว “เอ้าเด็กๆ หลบทางให้คุณอาหน่อยเร้ว เดี๋ยวชนพุงอาเข้าให้แล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ ฮ่า ฮ่า” ผู้ใหญ่บ้านว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ช่วยทำให้บรรยากาศอันอึมครึม สดใสขึ้นมาบ้าง
“น้าของเธอนี่ดุชะมัด เมื่อตะกี๊ยังพูดจาจ๊ะจ๋าอยู่เลย” ยัยแก้วแอบกระซิบกระซาบข้างหูฉันระหว่างที่เราสามคนกำลังเดินออกจากโซนห้องครัวโดยแต่ละคนต่างถือจานอาหารและแก้วน้ำไปคนละไม้ละมือ เสียงประตูห้องครัวปิดลงตามหลังพวกเราดังปึง พร้อมกับเสียงของฉันที่หลุดปากโพล่งออกมาในทันที แต่ก็เป็นแค่การกระซิบกันระหว่างฉันกับเพื่อนด้วยเสียงที่แผ่วเบา และระวังอย่างที่สุด
“ฉันได้ยินคุณน้าคุยกับใครก็ไม่รู้” ฉันบอก “เธอพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับฉันด้วยแถมยังดึงสายโทรศัพท์ออกไปคุยข้างนอกอีกต่างหาก ดูแปลกๆ”
แก้วพยักหน้า รับฟัง
“ฉันว่าเธออย่าเพิ่งไปคิดมากเลยริณ ถึงแม้แม่เลี้ยงของเธอจะน่ากลัวก็เถอะ แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง บางทีแกอาจจะโทรบอกญาติหรือใครบางคนว่าเธอกลับมาบ้านแล้วก็ได้นะ”
“อืม…” ฉันส่งเสียงเป็นเชิงเห็นด้วย “บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเอง”
“ถูกต้องแล้วจ้ะริณ ดีนะเนี่ยที่ที่นี่ยังพอมีอะไรให้เรากินได้บ้าง ฉันว่าเราไปนั่งกินไก่ย่างให้หายหิวก่อนเถอะเรื่องอื่นอย่าเพิ่งคิดให้รกสมองเลย”
“ไม่ล่ะเดี๋ยวฉันเข้าไปหาพ่อก่อนดีกว่า ไม่รู้เป็นไงบ้าง” ฉันตอบปฏิเสธพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้เพื่อนหลังจากที่ดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ๆ แล้ว
“ฝากหน่อยนะ”
“ให้ฉันกับเอกเข้าไปมั๊ย?” อีกฝ่ายเอ่ยถาม
“เดี๋ยวยังไงฉันจะพาเข้ามาไหว้นะ แต่ตอนนี้เธอกับเอกกินมื้อเย็นกันก่อนเถอะ”
แสงพลอยพยักหน้าแล้วจึงใช้สองมือประคองแก้วทั้งสามใบไว้แนบอกก่อนจะเดินไปทางบริเวณห้องนั่งเล่น โดยมีคุณอาตามหลังมาไม่ห่าง ส่วนชานนท์นั้นกำลังเหยียดตัวนอนเขลงอยู่บนโซฟา
“พ่อหนูอยู่ในห้องนั่นแหละ” คุณอาสุบรรณบอกพลางบุ้ยใบ้ไปที่ประตูไม้เล็กๆ บานหนึ่ง
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับแล้วจึงเดินผ่านแสงสลัวตรงไปที่หน้าห้องนอนของพ่อ ความรู้สึกคิดถึงและห่วงหาประดังประเดเข้ามาในห้วงคิดคำนึงจนแทบจะทนรอแม้เพียงวินาทีต่อไปไม่ไหว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ