โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
7.3
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
188 บทที่
11 วิจารณ์
137.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
56) เรื่อยเปื่อย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่เจ้าชายเอลานอสรัชทายาทแห่งโอรีออนพร้อมทั้งทหารอารักจากไป ทั้งห้องโถงจึงกลับสู่ความสงบ คนที่ยังรับประทานอาหารไม่เสร็จก็ก้มหน้าก้มตากินต่อไป แต่ยังมีสายตาหลายคู่ลอบมองมายังกลุ่มของฟิโลโซเฟอร์บ่อยๆ
“ หมอนั่นใคร แล้วเจ้าไปรู้จักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กันหว่า เหตุใดดูแปลกพิกลเหมือนจะคุ้นเคยแต่ก็ไม่ ”
โลธอร์ถาม
เขายังไม่รู้จักดารีล
และไม่รู้จักผู้ใช้เวทมนตร์แม้สักคนเดียว
“ไม่มีอะไรหรอกแค่เคยคุยกันนิดหน่อยน่ะ ”
ฟิโลโซเฟอร์ตอบพลางสบตากับคาโอเรีย
“ อยู่ดีๆ พวกพ่อมดเขาไม่ชวนคุยหรอกต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างแน่ ยิ่งเป็นดารีลด้วยแล้วยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ”
อีเลียสว่า
“ ไม่จริงม๊าง เมื่อครู่ก็เห็นว่าคุยจ้อกับแม่สาวผมแดงคนนั้นตลอดเลย ”
โลธอร์แย้ง
“ เจ้าหญิงลูเซียน่าคุยอยู่คนเดียวต่างหากล่ะ ”
ฟีไลร่ามีท่าทีหงุดหงิดรำคาญ
“ โอ้ ใช้ได้นี่เล่นของสูงเสียด้วย แต่ข้าว่าพวกเขานี่ดูไม่เหมาะสมกันอย่างไรไม่รู้ ดูสิเจ้าหญิงให้ขนมทั้งถุงแต่หมอนี่ให้แค่ชิ้นเดียวช่างแตกต่างกันยิ่งนัก ”
เด็กชายจากเหมืองถ่านหินว่าพลางเทอาหารจากกระป๋องลงในจานเปล่าใบหนึ่ง
“ ข้าอยากขอร้องแม่ของเจ้าให้รับบุตรบุญธรรมเสียจริง ”
เขาบอกกับฟิโลโซเฟอร์
“ นี่เจ้ากะจะตามไปกินต่อถึงบ้านเขาเลยหรือ ”
เลโอน่าท้วง
ส่วนคาโอเรียได้หยิบลูกกวาดสีสวยมอบให้กับทุกคนบนโต๊ะ
“ หน้าตาแบบนี้ไม่น่าจะใช่มนุษย์ มันให้ความรู้สึกราวกับมีมนตร์สะกด ”
อีเลียสเปิดประเด็นใหม่
“ ก็แน่ล่ะสิเขาเป็นพ่อมดนี่ ”
ฟีไลร่าว่า
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าหมายถึงบางทีหมอนี่อาจเป็นชื้อสายของพวกนิมฟ์ หรือไม่ก็พวกลูกครึ่งอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่คน ลางสังหรณ์บอกข้าว่ามีบางสิ่งที่อันตรายมากเกี่ยวกับคนผู้นี้ ”
เจ้าของร่างผอมบาง
ผู้นิยมถือหนังสือเล่มใหญ่อยู่เป็นนิจบอก
“ นิมฟ์มีเป็นสตรีทั้งหมดและเกลียดบุรุษเพศมาก ดารีลเป็นหลานของท่านหลอดเดเวอร์ลอสหนึ่งในสมาชิกสภาแห่งโอรีเวีย คนทั้งเมืองรู้เรื่องนี้ดี เขาจะเป็นตัวประหลาดอะไรได้ล่ะ ว่าแต่ว่าถ้าหากเขาเป็นลูกครึ่งนิมฟ์จริงๆ แล้วมันเป็นความผิดของเขาหรืออย่างไร ใครเลือกเกิดได้กัน ข้าไม่รู้ว่าทำไมพวกผู้ชายจึงชอบกล่าวร้ายดารีล ”
ฟีไลร่าเสียงเขียว
“ ข้าก็สงสัยเหมือนกันว่าเหตุใดพวกผู้หญิงถึงคลั่งเขานัก ”
“ ข้าไม่เคยคิดว่าดารีลเป็นปัญหาหรือเป็นอันตรายและข้าก็เป็นผู้ชาย ”
ฟิโลโซเฟอร์แย้งคนทั้งคู่
เขาตักกินอาหารที่ปรุงด้วยเครื่องเทศอย่างสบายใจ
“ ส่วนข้าเฉยๆ นะแต่ถ้าเขาดีกับข้า ข้าก็จะชอบเขา ”
เด็กชายที่อ้วนที่สุดในโต๊ะบอก
“ และเจ้าฟีไลร่า ข้าไม่ได้พาเจ้าข้ามป่าข้ามเขาจากบ้านเกิดมาไกลเพื่อทะเลาะกันเรื่องผู้ชาย โดยเฉพาะกับคนที่มีคู่มั่นแล้ว เรื่องแบบนี้สตรีที่ดีควรทำเสียเมื่อไหร่ น่าขายหน้าที่สุด ”
เลโอน่าว่าบ้าง
“ อีเลียส ท่านเคยเห็นนิมฟ์หรือไม่ บิดาของข้าบอกว่าตำนานของพวกนางเป็นเรื่องสยองขวัญ ”
เสียงของคาโอเรียถามขึ้น
“ เปล่าข้าไม่เคยเห็นหรอกและคงมีน้อยคนที่จะได้เห็น ส่วนมากได้ยินมาตามตำนาน กล่าวกันว่าพวกนิมฟ์เป็นสาวงามอาศัยอยู่ในป่าลึกลับยากที่คนทั่วไปจะค้นพบ และที่สำคัญนางจะสังหารชายทุกคนที่ล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตเพื่อนำไปเป็นอาหาร ในความเห็นของข้าต่อให้เป็นสตรีก็ตาม หากพลัดหลงไปพบนิมฟ์ที่กำลังหิวโหยก็สามารถตายได้เหมือนกัน ”
อีเลียสยืดอกเล่าด้วยความภาคภูมิ
เขาชอบที่จะแสดงความรอบรู้แก่คนอื่นอยู่เสมอ
“ ชาวนิมฟ์อาจไม่มีอยู่จริง ทั้งหมดที่เรารู้คือเรื่องเล่าเก่าแก่ ไม่เคยมีใครสามารถยืนยันได้ว่ามีพวกเขาอยู่จริงๆ บางทีมันแค่ใช้เป็นเหตุผลเวลาที่มีผู้สูญหายไปในป่า ง่ายมากหากบอกว่าถูกนิมฟ์จับกินไปแล้ว แท้ที่จริงคนเหล่านั้นอาจแค่หลงป่า หรือถูกสัตว์ทำร้ายจนตาย แต่ถ้าบอกว่าถูกสตรีลึกลับแห่งป่าต้องห้ามจับตัวไป เรื่องมันก็ดูสนุกกว่าใช่ไหมล่ะ ”
เลโอน่าว่า
นางใช้ช้อนก้านยาวเขี่ยเศษผลไม้อย่างเกียจคร้าน
“ อ้อข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ เจ้านั่งอยู่ตรงนี้กับพวกเราตอนที่มีเรื่องกับเจ้าชายเอลานอส แน่ใจนะว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเจ้าก็เป็นประชาชนของเขา ”
ฟีไลร่าเป็นห่วง
“ แท้จริงแล้วเอลานอสเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งในโอรีออน น้อยคนนักจะยำเกรง ข้าไม่อยากมีเรื่องกับเขาไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องกลัวเขา แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ต้องเตือนเจ้าเช่นกันว่าอย่าเข้าใกล้เขา เจ้าชายจอมกร่างคนนี้สามารถพาเรื่องเดือดร้อนมาได้ทุกเมื่อ ”
อีเลียสตอบพลางยกน้ำมะนาวขึ้นจิบ
“ โอ้ ข้าคงไม่อยากอยู่ใกล้เขานานนักหรอกสาบานได้ ”
ฟีไลร่าบอก
“ เอลานอสก่อเรื่องบ่อยๆ อย่างนี้ไม่กลัวทางปราสาทขาวควรจะขับไล่ออกจากโอรีเวียหรืออย่างไร ”
เลโอน่าสงสัย
นางรวบผมสีเงินที่ตัดกันชัดเจนกับสีผิวไปด้านหลัง
“ คงกลัวตายล่ะ ก็เขาคุยโอ่ไปทั่วนี่ว่าเป็นถึงเชื้อสายของกษัตริย์เฮฟเว่นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงเรียน เขาใหญ่พอที่จะไล่ครูวีแกนออกจากตำแหน่งได้ แต่ข้าว่ากษัตริย์แห่งโอลีออนคงจ่ายเงินไม่น้อยเลย เพื่อรักษาเขาให้อยู่ในปราสาทขาวต่อไป ”
“ เจ้าพูดเหมือนกับว่าเจ้าชายเอลานอสไม่สามารถใช้อำนาจอย่างเต็มที่ในเมืองโอรีออนบ้านเกิดของตัวเอง ”
ฟิโลโซเฟอร์หันไปถามอีเลียส
“ เรื่องนี้มันซับซ้อน แต่ถึงอย่างไรเสียมันคือเรื่องจริงที่เขาเป็นรัชทายาทอันดับที่หนึ่ง ”
เด็กน้อยร่างผอมบางตอบ
“ ปราสาทขาวกว้างใหญ่ แต่ข้าต้องนอนคนเดียวในห้อง ฟิโลซอสเจ้าย้ายมานอนกับข้าเถอะนะ ”
โลธอร์ว่าพลางโอบใหล่ฟิโลโซเฟอร์
“ ข้าเหงาจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ”
“ เขามีบ้านเป็นของตัวเองหรอกน่า ไม่ได้อยู่ในหอนอนปราสาทขาวเสียหน่อยเจ้าเองก็รู้แล้วนี่ ก่อนจะชวนใครรบกวนปรึกษาพ่อแม่เขาด้วย เพิ่งจะรู้จักกันลามปามเสียแล้ว ”
ฟีไลร่าว่า
“ ก็แล้วจะทำไมล่ะ ”
เด็กร่างอ้วนว่า
“ มีบ้านอยู่ ก็อยู่หอนอนได้ห้องว่างมีมากมาย สะดวกด้วยไม่ต้องเดินทางและที่สำคัญตอนนี้เราสนิทกันแล้ว ”
ฟิโลโซเฟอร์ได้แต่ทำหน้าเหวอ
คิดในใจสนิทตั้งแต่ตอนไหนหว่า
“ จริงสิเจ้าไปคุ้นเคยกับดารีลได้อย่างไรกัน ”
อีเลียสถาม
“ ไม่มีอะไรหรอกพอดีมีเหตุบังเอิญได้คุยกันสองสามครั้ง ”
“ กับเจ้านั่นไม่เคยมีเรื่องบังเอิญและเรื่องที่คุยก็ต้องมีสาระมาก ”
คนผอมกว่าบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ ผิดคาดนะ เราคุยกันแบบเรื่อยเปื่อย อย่าเอานิสัยของผู้ใช้เวทมนตร์มาตัดสินเขาสิ จริงอยู่คนเหล่านั้นเข้าใจยากแต่สำหรับดารีลแล้วเขาแตกต่าง มีบางครั้งที่รู้สึกว่าทำตัวประหลาดไปบ้าง มันก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่ดีเพราะเราสามารถเรียนรู้ตัวตนของเขาได้ถ้าหากรู้จักเปิดใจ ”
เด็กชายตอบ
“ หมอนั่นใคร แล้วเจ้าไปรู้จักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กันหว่า เหตุใดดูแปลกพิกลเหมือนจะคุ้นเคยแต่ก็ไม่ ”
โลธอร์ถาม
เขายังไม่รู้จักดารีล
และไม่รู้จักผู้ใช้เวทมนตร์แม้สักคนเดียว
“ไม่มีอะไรหรอกแค่เคยคุยกันนิดหน่อยน่ะ ”
ฟิโลโซเฟอร์ตอบพลางสบตากับคาโอเรีย
“ อยู่ดีๆ พวกพ่อมดเขาไม่ชวนคุยหรอกต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างแน่ ยิ่งเป็นดารีลด้วยแล้วยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ”
อีเลียสว่า
“ ไม่จริงม๊าง เมื่อครู่ก็เห็นว่าคุยจ้อกับแม่สาวผมแดงคนนั้นตลอดเลย ”
โลธอร์แย้ง
“ เจ้าหญิงลูเซียน่าคุยอยู่คนเดียวต่างหากล่ะ ”
ฟีไลร่ามีท่าทีหงุดหงิดรำคาญ
“ โอ้ ใช้ได้นี่เล่นของสูงเสียด้วย แต่ข้าว่าพวกเขานี่ดูไม่เหมาะสมกันอย่างไรไม่รู้ ดูสิเจ้าหญิงให้ขนมทั้งถุงแต่หมอนี่ให้แค่ชิ้นเดียวช่างแตกต่างกันยิ่งนัก ”
เด็กชายจากเหมืองถ่านหินว่าพลางเทอาหารจากกระป๋องลงในจานเปล่าใบหนึ่ง
“ ข้าอยากขอร้องแม่ของเจ้าให้รับบุตรบุญธรรมเสียจริง ”
เขาบอกกับฟิโลโซเฟอร์
“ นี่เจ้ากะจะตามไปกินต่อถึงบ้านเขาเลยหรือ ”
เลโอน่าท้วง
ส่วนคาโอเรียได้หยิบลูกกวาดสีสวยมอบให้กับทุกคนบนโต๊ะ
“ หน้าตาแบบนี้ไม่น่าจะใช่มนุษย์ มันให้ความรู้สึกราวกับมีมนตร์สะกด ”
อีเลียสเปิดประเด็นใหม่
“ ก็แน่ล่ะสิเขาเป็นพ่อมดนี่ ”
ฟีไลร่าว่า
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าหมายถึงบางทีหมอนี่อาจเป็นชื้อสายของพวกนิมฟ์ หรือไม่ก็พวกลูกครึ่งอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่คน ลางสังหรณ์บอกข้าว่ามีบางสิ่งที่อันตรายมากเกี่ยวกับคนผู้นี้ ”
เจ้าของร่างผอมบาง
ผู้นิยมถือหนังสือเล่มใหญ่อยู่เป็นนิจบอก
“ นิมฟ์มีเป็นสตรีทั้งหมดและเกลียดบุรุษเพศมาก ดารีลเป็นหลานของท่านหลอดเดเวอร์ลอสหนึ่งในสมาชิกสภาแห่งโอรีเวีย คนทั้งเมืองรู้เรื่องนี้ดี เขาจะเป็นตัวประหลาดอะไรได้ล่ะ ว่าแต่ว่าถ้าหากเขาเป็นลูกครึ่งนิมฟ์จริงๆ แล้วมันเป็นความผิดของเขาหรืออย่างไร ใครเลือกเกิดได้กัน ข้าไม่รู้ว่าทำไมพวกผู้ชายจึงชอบกล่าวร้ายดารีล ”
ฟีไลร่าเสียงเขียว
“ ข้าก็สงสัยเหมือนกันว่าเหตุใดพวกผู้หญิงถึงคลั่งเขานัก ”
“ ข้าไม่เคยคิดว่าดารีลเป็นปัญหาหรือเป็นอันตรายและข้าก็เป็นผู้ชาย ”
ฟิโลโซเฟอร์แย้งคนทั้งคู่
เขาตักกินอาหารที่ปรุงด้วยเครื่องเทศอย่างสบายใจ
“ ส่วนข้าเฉยๆ นะแต่ถ้าเขาดีกับข้า ข้าก็จะชอบเขา ”
เด็กชายที่อ้วนที่สุดในโต๊ะบอก
“ และเจ้าฟีไลร่า ข้าไม่ได้พาเจ้าข้ามป่าข้ามเขาจากบ้านเกิดมาไกลเพื่อทะเลาะกันเรื่องผู้ชาย โดยเฉพาะกับคนที่มีคู่มั่นแล้ว เรื่องแบบนี้สตรีที่ดีควรทำเสียเมื่อไหร่ น่าขายหน้าที่สุด ”
เลโอน่าว่าบ้าง
“ อีเลียส ท่านเคยเห็นนิมฟ์หรือไม่ บิดาของข้าบอกว่าตำนานของพวกนางเป็นเรื่องสยองขวัญ ”
เสียงของคาโอเรียถามขึ้น
“ เปล่าข้าไม่เคยเห็นหรอกและคงมีน้อยคนที่จะได้เห็น ส่วนมากได้ยินมาตามตำนาน กล่าวกันว่าพวกนิมฟ์เป็นสาวงามอาศัยอยู่ในป่าลึกลับยากที่คนทั่วไปจะค้นพบ และที่สำคัญนางจะสังหารชายทุกคนที่ล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตเพื่อนำไปเป็นอาหาร ในความเห็นของข้าต่อให้เป็นสตรีก็ตาม หากพลัดหลงไปพบนิมฟ์ที่กำลังหิวโหยก็สามารถตายได้เหมือนกัน ”
อีเลียสยืดอกเล่าด้วยความภาคภูมิ
เขาชอบที่จะแสดงความรอบรู้แก่คนอื่นอยู่เสมอ
“ ชาวนิมฟ์อาจไม่มีอยู่จริง ทั้งหมดที่เรารู้คือเรื่องเล่าเก่าแก่ ไม่เคยมีใครสามารถยืนยันได้ว่ามีพวกเขาอยู่จริงๆ บางทีมันแค่ใช้เป็นเหตุผลเวลาที่มีผู้สูญหายไปในป่า ง่ายมากหากบอกว่าถูกนิมฟ์จับกินไปแล้ว แท้ที่จริงคนเหล่านั้นอาจแค่หลงป่า หรือถูกสัตว์ทำร้ายจนตาย แต่ถ้าบอกว่าถูกสตรีลึกลับแห่งป่าต้องห้ามจับตัวไป เรื่องมันก็ดูสนุกกว่าใช่ไหมล่ะ ”
เลโอน่าว่า
นางใช้ช้อนก้านยาวเขี่ยเศษผลไม้อย่างเกียจคร้าน
“ อ้อข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ เจ้านั่งอยู่ตรงนี้กับพวกเราตอนที่มีเรื่องกับเจ้าชายเอลานอส แน่ใจนะว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเจ้าก็เป็นประชาชนของเขา ”
ฟีไลร่าเป็นห่วง
“ แท้จริงแล้วเอลานอสเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งในโอรีออน น้อยคนนักจะยำเกรง ข้าไม่อยากมีเรื่องกับเขาไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องกลัวเขา แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ต้องเตือนเจ้าเช่นกันว่าอย่าเข้าใกล้เขา เจ้าชายจอมกร่างคนนี้สามารถพาเรื่องเดือดร้อนมาได้ทุกเมื่อ ”
อีเลียสตอบพลางยกน้ำมะนาวขึ้นจิบ
“ โอ้ ข้าคงไม่อยากอยู่ใกล้เขานานนักหรอกสาบานได้ ”
ฟีไลร่าบอก
“ เอลานอสก่อเรื่องบ่อยๆ อย่างนี้ไม่กลัวทางปราสาทขาวควรจะขับไล่ออกจากโอรีเวียหรืออย่างไร ”
เลโอน่าสงสัย
นางรวบผมสีเงินที่ตัดกันชัดเจนกับสีผิวไปด้านหลัง
“ คงกลัวตายล่ะ ก็เขาคุยโอ่ไปทั่วนี่ว่าเป็นถึงเชื้อสายของกษัตริย์เฮฟเว่นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงเรียน เขาใหญ่พอที่จะไล่ครูวีแกนออกจากตำแหน่งได้ แต่ข้าว่ากษัตริย์แห่งโอลีออนคงจ่ายเงินไม่น้อยเลย เพื่อรักษาเขาให้อยู่ในปราสาทขาวต่อไป ”
“ เจ้าพูดเหมือนกับว่าเจ้าชายเอลานอสไม่สามารถใช้อำนาจอย่างเต็มที่ในเมืองโอรีออนบ้านเกิดของตัวเอง ”
ฟิโลโซเฟอร์หันไปถามอีเลียส
“ เรื่องนี้มันซับซ้อน แต่ถึงอย่างไรเสียมันคือเรื่องจริงที่เขาเป็นรัชทายาทอันดับที่หนึ่ง ”
เด็กน้อยร่างผอมบางตอบ
“ ปราสาทขาวกว้างใหญ่ แต่ข้าต้องนอนคนเดียวในห้อง ฟิโลซอสเจ้าย้ายมานอนกับข้าเถอะนะ ”
โลธอร์ว่าพลางโอบใหล่ฟิโลโซเฟอร์
“ ข้าเหงาจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ”
“ เขามีบ้านเป็นของตัวเองหรอกน่า ไม่ได้อยู่ในหอนอนปราสาทขาวเสียหน่อยเจ้าเองก็รู้แล้วนี่ ก่อนจะชวนใครรบกวนปรึกษาพ่อแม่เขาด้วย เพิ่งจะรู้จักกันลามปามเสียแล้ว ”
ฟีไลร่าว่า
“ ก็แล้วจะทำไมล่ะ ”
เด็กร่างอ้วนว่า
“ มีบ้านอยู่ ก็อยู่หอนอนได้ห้องว่างมีมากมาย สะดวกด้วยไม่ต้องเดินทางและที่สำคัญตอนนี้เราสนิทกันแล้ว ”
ฟิโลโซเฟอร์ได้แต่ทำหน้าเหวอ
คิดในใจสนิทตั้งแต่ตอนไหนหว่า
“ จริงสิเจ้าไปคุ้นเคยกับดารีลได้อย่างไรกัน ”
อีเลียสถาม
“ ไม่มีอะไรหรอกพอดีมีเหตุบังเอิญได้คุยกันสองสามครั้ง ”
“ กับเจ้านั่นไม่เคยมีเรื่องบังเอิญและเรื่องที่คุยก็ต้องมีสาระมาก ”
คนผอมกว่าบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ ผิดคาดนะ เราคุยกันแบบเรื่อยเปื่อย อย่าเอานิสัยของผู้ใช้เวทมนตร์มาตัดสินเขาสิ จริงอยู่คนเหล่านั้นเข้าใจยากแต่สำหรับดารีลแล้วเขาแตกต่าง มีบางครั้งที่รู้สึกว่าทำตัวประหลาดไปบ้าง มันก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่ดีเพราะเราสามารถเรียนรู้ตัวตนของเขาได้ถ้าหากรู้จักเปิดใจ ”
เด็กชายตอบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ