แก้วนพคุณ

-

เขียนโดย เวลา

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น.

  38 บท
  0 วิจารณ์
  30.71K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) เด็ก ม.3 กับเด็ก ม.5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก...แต่ความรู้สึกมันค่อนข้างแตกต่าง  จากเมื่อเทอมก่อนพอสมควร เพราะพริมาไม่ค่อยจะตื่นเต้นนัก หล่อนเริ่มชินกับโรงเรียนใหม่แล้ว และแน่นอนขึ้น ม.3 พริมาได้อยู่ห้องเดิม สาวน้อยรู้ดีโดยไม่ต้องไปหาชื่อตัวเองให้วุ่นวาย เพื่อนในห้องเองก็ไม่มีใครเปลี่ยนไปมากนัก แต่ที่หล่อนเสียใจคือ  ยามาไปอยู่ห้อง 1 ก็แน่ล่ะเพื่อนหล่อนเรียนเก่งระดับหัวกะทิ จะให้มาจมปลักอยู่กับเด็กห้อง 5 ก็ดูจะแปลกไปหน่อย และดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ตัว เพราะหล่อนเดินไปดูรายชื่อตัวเองที่ห้อง 1 และยืนสบถเสียงดังอยู่หน้ากระดาน
“ฝากวางกระเป๋าไว้ก่อนนะ เดี๋ยวมา” ยามาเดินมาที่ห้อง 5 หล่อนเอากระเป๋าวางไว้ที่โต๊ะข้างๆ พริมาแล้วเดินออกไป รอบตัวดูวุ่นวายไปหมด เพราะตอนนี้เด็กทุกคนเดินตามหาห้องตัวเองและตามหาเพื่อนไปด้วย
“ยามาไม่ได้อยู่ห้องนี้แล้วนี่ แล้วเธอนั่งกับใคร?” ศศิธรสาวหล่อเดินมาทัก ปีนี้หล่อนได้อยู่ห้อง 5 และดูเหมือนเจ้าตัวจะชอบใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว
“ไม่รู้เหมือนกัน ฝากกระเป๋าไว้แล้วหายไปเลย” พริมาตอบพลางมองหาเพื่อนรักว่าเดินหายไปไหน ได้เวลาเข้าเรียน รอบห้องเริ่มสงบ เด็กส่วนใหญ่      หาชื่อและห้องเรียนของตัวเองเจอแล้ว อาจารย์ที่ปรึกษาเข้าห้องแนะนำตัวพร้อมพูดคุยกับเด็กคร่าวๆ ในภาพรวมของการเรียนในปีนี้ ยามาเดินกลับมาแล้ว หล่อนหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ พริมา ใช้มือพัดอากาศไล่ความร้อน พริมาเห็นเพื่อนก็เดาได้ว่ายามาน่าจะรีบวิ่งมาจากที่ไหนสักแห่ง แต่ตอนวิ่งกลับมานี้ดูผิดจากตอนวิ่งออกไปลิบลับ เพื่อนหล่อนดูสบายอกสบายใจเป็นอย่างมาก พริมาหันไปมองแต่ยังไม่ได้ถามอะไร เพราะอาจารย์กำลังพูดอยู่หน้าห้อง...ถ้าถามอะไรมากตอนนี้คงไม่เหมาะ ศศิธรที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็หันมามองทำหน้าแปลกใจเช่นกัน
“เข้าห้องผิดรึเปล่า? ฉันเห็นชื่อแกอยู่ห้อง 1 นะ” ศศิธรอดไม่ได้ต้องถามให้หายสงสัย
“ไม่ผิดหรอก...เปลี่ยนแล้ว” ยามาแก้ให้ หล่อนยังคงยิ้มสบายใจเช่นเดิม เพื่อนในห้องบางคนก็เหมือนจะสังเกตเห็นเช่นกัน แต่เพียงแค่มองไม่ได้ถาม ส่วนอาจารย์ประจำชั้นนั้นไม่ได้ทักอะไร อาจเพราะเพิ่งเปิดเรียนวันแรก อาจารย์เองก็ยังไม่รู้จักนักเรียนในห้องมากนัก ทั้งหมดเลือกหัวหน้าห้อง และแน่นนอนหัวหน้าห้องก็คือคนเดิม “มาริสา” นั่นเอง มาริสาก็ยังคงอยู่ห้อง 5 และยังรักษาตำแหน่ง หัวหน้าห้องไว้ได้เช่นเคย ดูเหมือนมาริสาเองก็สังเกตเห็นยามาเช่นกัน หล่อนไม่ทิ้งความสงสัยให้หายไปตามนิสัย หัวหน้าห้องถามดังๆ ต่อหน้าเพื่อนๆ ทุกคน
“ยามา...เธอได้เลื่อนไปอยู่ห้อง 1 นี่นา หรือเธอยังไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ห้องเดิมแล้ว?” หลายคนไม่อยากให้ทัก เพราะพวกเขาเป็นลูกค้าลอกการบ้านยามา ความจริงที่หลายคนจำได้ว่าใครย้ายออกหรือย้ายเข้าเพราะว่าห้อง 5 มีรายชื่อเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะย้ายออก มีย้ายเข้ามาคนเดียวแค่ศศิธร   พริมาไม่แน่ใจว่าศศิธรผลการเรียนแย่ลงจริง หรือว่าตั้งใจแย่ลงกันแน่?
“อยู่ห้องเดิมนี่แหละ เดี๋ยวช่วงบ่ายค่อยไปเอารายชื่อใหม่” ยามายืนยัน พริมารู้สึกไม่ชอบมาพากลเพื่อนหล่อนหายไปไหนสักที่ พอกลับมาอีกทีก็บอกว่ารายชื่อเปลี่ยนแล้ว...หล่อนไปไหนมา? ยิ่งเห็นเพื่อนๆ สงสัยยามายิ่งชอบใจ หล่อนไปเจรจากับ ผ.อ. เด็กหญิงไปร้องเรียนว่าหล่อนไม่ได้รับความเป็นธรรม หล่อนเพิ่งย้ายโรงเรียนมาและสภาพจิตใจไม่มั่นคงเพราะปัญหาทางบ้าน ตลอดเทอมที่ผ่านมาหล่อนได้รับการเยียวยาจากเพื่อนๆ ในห้อง จนอาการทางใจดีขึ้นมากแล้ว ผ.อ. จะใจร้ายย้ายให้หล่อนต้องไปปรับตัวปรับใจอีกได้อย่างไร เหตุใดถึงไม่ถามความสมัครใจก่อน ขณะพูดหล่อนบีบน้ำตาไปด้วย(เรื่องน้ำตายามาสั่งได้) โดยยามาได้รับคำตอบจาก ผ.อ.ว่าหล่อนนั้นเรียนดียิ่งกว่า เด็กห้อง 1 บางคน การที่หล่อนไปอยู่ห้อง 1 นั้นเหมาะสมแล้ว เด็กสาวจึงเถียงกับ ผ.อ. ถึงปัญหาการศึกษาไทย ว่าการแบ่งห้องเรียนแยกตามเกรดแบบนี้เป็นการไม่เคารพสิทธิและเสรีภาพของนักเรียนอย่างยิ่ง เด็กทุกคนมีความฉลาดและความถนัดไม่เหมือนกัน เด็กห้อง 5 บางคนอาจจะเก่งกว่าเด็กห้อง 1 ในบางวิชาด้วยซ้ำ การจะวัดกันแบบนี้มันง่ายเกินไป หล่อนรับไม่ได้ และถ้า ผ.อ.ทำแบบนี้      หล่อนเสียใจ และมันอาจจะส่งผลให้ผลการเรียนของหล่อนย่ำแย่หนักกว่าเดิม แทนที่จะเป็นผลดีอย่างที่คิดกลับเป็นผลเสียมากกว่า ยามายังสาธยายอีกยาวเกี่ยวกับระบบการศึกษาของไทย ที่หล่อนไม่เข้าใจและคิดว่าโบราณคร่ำครึ เด็กหญิงถึงขึ้นขู่ว่าถ้าหล่อนเครียดอีก คราวนี้หล่อนจะโกนหัวอีกครั้ง และจะโกนหน้าห้อง ผ.อ.
ผ.อ.ฟังหล่อนพูดอยู่ฝ่ายเดียว...เขาได้แต่อ้าปาก พูดไม่ทันเด็กหญิงแม้แต่น้อย สุดท้ายตัดรำคาญเขาจึงอนุญาตให้หล่อนกลับไปอยู่ห้องเดิมได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามบอกใครเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นจะวุ่นวายมีคนมาร้องเรียนแบบหล่อนกันให้ยุ่งไปหมด ยามาดีใจ หล่อนสัญญาว่าจะช่วยอาจารย์ผลักดันเพื่อนในห้องให้ทำคะแนนดีขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นอันว่าการเจราประสบความสำเร็จ เด็กหญิงวิ่งกลับไปเข้าห้องตามเดิมด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าตอนเข้ามาหลายเท่า
“อาจารย์ใส่รายชื่อผิดน่ะสิ ไม่มีอะไรหรอก” ยามาพูดไปยิ้มไป
“ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เกรดมันวัดคุณค่าของคนไม่ได้หรอก         จะอยู่ห้องไหนก็สำคัญทั้งนั้นแหละ แล้วปีนี้ห้อง 5 เราก็ต้องทำคะแนนให้ดีกว่าเดิมกันด้วยนะ จะได้ไม่น้อยหน้าห้องอื่นๆ” เพื่อนหลายคนเบ้ปาก...การจะตั้งใจเรียนไม่เคยอยู่ในความคิดพวกเขาเลย เรียนๆ เล่นๆ ผ่านมั่งไม่ผ่านมั่ง แบบนี้ก็สบายกันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ถึงขนาดทำคะแนนให้ดีตีคู่หรือดีกว่าห้องอื่นๆ นั้น มันดูจะกดดันเกินไป ผิดสโลแกนห้อง 5 แค่คิดก็เครียดแล้ว
“เอาน่า เดี๋ยวติวให้...ยามาซะอย่างรับรองผ่านทุกคน” หล่อนมองคร่าวๆ ส่วนใหญ่เพื่อนในห้องก็พวกเดิมๆ หล่อนรู้จักพวกเขาดีอยู่แล้ว และรู้ว่าใครถนัดอะไรชอบอะไร เผลอๆ จะรู้มากกว่าอาจารย์ที่ปรึกษาเสียอีก
“ปีหน้าก็ ม.4 แล้วนะ เผื่อใครอาจจะอยากไปเข้าโรงเรียนดังๆ ต้องรีบเตรียมตัวซะตั้งแต่ตอนนี้ พวกเราอยู่ ม.3 ...โตๆ กันแล้ว คิดถึงอนาคตกันบ้าง” มาริสาเลิกคิ้ว หล่อนงง...ปกติยามาไม่เคยพูดจาเป็นการเป็นงานขนาดนี้...หล่อนนั่นแหละตัวอย่างของการเรียนๆ เล่นๆ ของแท้ แต่โชคดีที่สมองดีเรียนนิดเดียวก็ทำได้ แต่มาคราวนี้พูดแปลก
“วู้! แกไปโดนตัวอะไรมาวะ?” ศศิธรที่นั่งฟังอยู่นานอดรนทนไม่ได้
“อุตส่าห์ตั้งใจจะมาอยู่ห้อง 5 เผื่อจะเปลี่ยนบรรยากาศ สงสัยจะคิดผิด” สาวหล่อบ่นอุบ ศศิธรเป็นทอมสายเปย์ ความจริงหล่อนหมายปองสาวๆ ห้องนี้ไว้หลายคน รวมถึงพริมาด้วย แต่หล่อนก็ชอบบรรยากาศของห้องนี้ด้วย ที่ถึงแม้จะอยู่ห้องท้ายๆ แต่ความสัมพันธ์ของคนในห้องต่างหากที่น่าสนใจ   ก็เลยตั้งใจลดเกรดตัวเองลงนิดหน่อยเพื่อจะได้มาอยู่ห้องที่หล่อนคิดแล้วว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์อย่างที่สุด เหลืออีกตั้งปี...ปีหน้าค่อยเลือกสายที่ถนัด ค่อยตั้งใจเรียนก็ถือว่ายังไม่สาย
 
   ฝั่งมัธยมปลายแม้จะไม่ได้เปลี่ยนห้องเรียนเหมือนเด็กมัธยมต้น            แต่ปีนี้ก็มีเรื่องให้ฮือฮาไม่น้อยเหมือนกัน มีเด็ก ม.5 ย้ายเข้ามาใหม่จากโรงเรียนดังในจังหวัดชลบุรี เป็นเด็กเรียนดี...ผลคะแนนดีเยี่ยม! แต่แค่เรียนดีคงไม่ใช่ประเด็นที่จะสามารถเป็นที่สนใจได้ เพราะเด็กเรียนดีที่โรงเรียนนี้ก็มีเยอะแยะ แต่เป็นเพราะเด็กเรียนดีที่ “หน้าตาดีมาก” ต่างหาก มันไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ ที่จะมีนักเรียนที่เรียนดีด้วยและหน้าตาดีด้วย แต่นพคุณมีทั้งสองอย่าง ข่าวสารในยุคดิจิทัลสามารถส่งกันไปได้ไกลข้ามตึกในชั่วพริบตา ไม่ใช่ดังแค่ตึกฝั่งมัธยมปลายเท่านั้น ความหล่อของนพคุณดังไปไกลถึงฝั่งมัธยมต้นด้วย สายข่าวฝั่งมัธยมต้นคือชัยยศ ส่วนฝั่งมัธยมปลายคืออัปสรามินตรา...แน่นอนตอนนี้หล่อนได้เป้าหมายใหม่แล้ว! ชัยยศถึงขนาดไม่เป็นอันเรียนเลยทีเดียว เขาติดต่อสายข่าวให้วุ่น (โชคดีที่เขารู้จักคนทุกชั้น) ตอนนี้เพจข่าวโรงเรียนที่ ชัยยศตั้งขึ้น...แน่นอนเขาเป็นแอดมิน (เอาไว้รายงานข่าวด้วยขายของด้วย) และนักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนก็เป็นสมาชิกเพจนี้ และตอนนี้ลูกเพจชัยยศกำลังแข่งกันส่งรูปคนต้นข่าวกันให้วุ่นวายไปหมด...ใครได้ข่าวหรือรูปมากที่สุดคนนั้นเป็นฝ่ายชนะ ตอนที่ได้ยินข่าวนพคุณนั้น พริมาอยู่ในห้อง เป็นยามาที่เอารูปมาให้หล่อนดู แล้วถามว่าใช่พี่ชายต่างพ่อต่างแม่ของหล่อนที่ย้ายมาเรียนวันนี้หรือเปล่า? นี่ถ้าเพื่อนๆ ในห้องรู้ว่าหล่อนอยู่บ้านเดียวกันกับคนหล่อ ที่ตอนนี้กำลังจะเป็นขวัญใจสาวๆ...หล่อนคงจะทำตัวลำบาก แค่ปีก่อนที่เวียนกันมาดูหน้า เพราะหลายคนไม่เคยเห็นลูกครึ่ง หล่อนก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว   มาเรื่องนี้อีกหล่อนคงรับไม่ไหว สาวน้อยไม่ชอบเป็นจุดสนใจ
“อย่าเอะไปสิ ลูกแก้วขี้เกียจตอบคำถาม” พริมากระซิบบอกยามา เพื่อนหล่อนก็เข้าใจ ยามาเพียงแค่พยักหน้าแล้วหันไปอ่านข่าวต่อ
“หน้าตาเหมือนคุณลุงเลยแฮะ แต่ขาวกว่า...อืม! แล้วแต่คนชอบนะ  แต่ปลาทูชอบเข้มๆ หน่อยแบบคุณลุงมากกว่า” ยามานั่งดูรูปนพคุณที่ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 รูป และส่วนใหญ่ก็คงจะมาจากสาวๆ ในห้องเขานั่นแหละ    ที่ส่งรูปลงในเพจ เพราะตอนนี้เป็นเวลาเข้าชั้นเรียนจะมีใครเข้าไปในห้องนั้นได้กัน
“ไอ้ยศคงจะอกแตกตายแล้วมั้ง เป็นแอดมินแต่วันนี้โดนแย่งพื้นที่ข่าวฮ่าๆ“ ศศิธรหันมาบอก ปกติข่าวที่มีความเคลื่อนไหวในหน้าเพจนี้ จะเป็นชัยยศ      ที่เป็นคนเสนอข่าวทั้งสิ้น เขามักจะรู้ทุกอย่างก่อนทุกคนเสมอ
“แต่พี่เค้าหล่อดีนะ นี่ขนาดฉันไม่ชอบผู้ชายยังว่าเขาหล่อเลย อยู่ห้องเด็กวิทย์ด้วยนิ เก่งด้วยหล่อด้วย” ไม่บ่อยนักที่ศศิธรจะชมผู้ชายหล่อ ขนาดยามา ยังหยุดอ่านข่าวในเพจหันมามองหน้าศศิธร
“อุ๊ต๊ะ! หรือทอมจะกลับใจวะ?” ยามาถามขึ้น
“ไม่ๆ ปลาทู แกอย่าหวังเลย ฉันเลือกทางนี้แล้วไม่มีทางกลับใจแน่นอน  นี่ถ้าพี่เขามาจีบฉันก็ไม่สนหรอก อี๋!ขนลุก” ศศิธรรีบแก้โดยไว ลึกๆ หล่อนยังระแวงยามาอยู่ เพราะตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่ายามานั้นแท้จริงแล้วชอบทางไหน ถ้ายามาเดินทางสายเดียวกับหล่อน...แน่นอนต้องเป็นคู่แข่ง ไม่แน่...ยามาอาจจะคิดกำจัดคู่แข่งด้วยการสร้างข่าวรักๆ ใคร่ๆ ของศศิธรกับนพคุณ      เพื่อทำลายเครดิตการเป็นทอมสายเปย์ของหล่อนหรือเปล่า ทางที่ดีหล่อนต้องรีบออกตัวไว้ก่อน
“โอ้โห!!!” หลายเสียงประสานพร้อมกัน ในเสียงเหล่านั้นมีความรู้สึกปนๆ กัน ทั้งขำและหมั่นไส้
“ไอ้เก๋! แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนวะ ฮ่าๆๆๆ” ศุรากาญจน์ที่นั่งถัดไปขำยกใหญ่ หล่อนนึกภาพนพคุณตกหลุมรักทอมสายเปย์ที่เทใจทั้งดวงให้สาวๆ  ถ้าเกิดขึ้นจริงจะน่าขำขนาดไหน เรื่องนี้ยิ่งกว่ารักสามเศร้าเสียอีก คงมีหลายเศร้าเลยทีเดียว
“อื้อ...อยากเป็นยอดชายที่ละลายใจทอมมั่งจัง” สุรวิทย์ที่นั่งฟังอยู่ก็ร่วมวงด้วย เขาไม่ค่อยชอบศศิธรนัก เพราะปีก่อนพวกเขาแย่งกันจีบสาว    คนเดียวกัน สุดท้ายสาวเจ้าก็เทหันไปคบเด็ก ปวช. โรงเรียนอาชีวะซอยถัดไป
“หุบปากไปเลยไอ้ต้น!” ศศิธรหันไปแหวใส่
“หยุดเธอให้หายเป็นทอม ฮิฮิ...เฮ้ย! ไอ้ต้นถ้าแกทำได้รับรองแกเป็นตำนานของโรงเรียนแน่นอน แกจะได้พื้นที่ข่าวบนเพจไอ้ยศไปอีกหลายเดือนเลยโอ้ย!” ศศิธรปาหนังสือใส่อนาทิน และมันแม่นเหมือนจับวาง หนังสือทั้งเล่มกางอยู่บนหัวเขา ครูประจำวิชาเดินเข้ามาแล้วทั้งห้องจึงต้องหยุดการสนทนาทันที
“แหมๆ สาวๆ วันนี้ตื่นเต้นกันใหญ่เลยนะ รุ่นพี่คนนั้นหล่อละซิ ขนาดครูยังเซฟรูปเก็บไว้ดูเล่นเลย” เด็กนักเรียนขำกันใหญ่ พริมาคิด...ขนาดอาจารย์ยังเป็นลูกเพจชัยยศเลยหรือนี่ พริมาเข้าไปดูในเพจของชัยยศมันมีชื่อว่า “เซลล์แมนแถลงไข” ชื่อนี้มันแยกความหมายออกได้สองทางคือเป็นคนขายของด้วย และเป็นคนที่ชี้แจ้ง ชี้แจง อธิบายให้กระจ่าง...ในเพจนี้มีคนกดถูกใจมากกว่า 500 คน เข้าไปดูแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ รวมถึงอาจารย์ด้วย นี่ชัยยศถึงขั้นขายดะจิปาถะของแท้ เขาเข้าถึงกลุ่มคนทุกชนชั้นจริงๆ
 
   เปิดเรียนวันแรกนพคุณก็ปวดหัวเลย เขาย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้   ตอน ม.5 โรงเรียนสารสินทร์เป็นโรงเรียนใกล้บ้าน และเป็นโรงเรียนดังในละแวกนี้ เดิมทีถ้าเขาไม่ไปอยู่โรงเรียนประจำก็คิดอยู่แล้วว่าจะเรียนต่อที่นี่ และด้วยเกรดเฉลี่ยระดับนพคุณแล้ว ไม่ว่าจะอยากไปอยู่โรงเรียนไหนรับรองว่าโรงเรียนเหล่านั้นต้องกางแขนรับอย่างแน่นอน แต่ที่เขาไม่ชอบใจคือความวุ่นวาย แม้จะเคยเจอกับตุ๊ดโรงเรียนชายล้วนมาแล้ว แต่พอมาเจอสายตาเขินอาย      ที่มองเขาไปทุกที่แบบนี้เล่นเอาอึดอัดอยู่เหมือนกัน ยังดีว่าเพื่อนในห้อง     ส่วนใหญ่เป็นเด็กเรียน อาจจะมีมองบ้าง แต่ก็ไม่เล่นใหญ่เท่าเด็กห้องอื่น
“เธอย้ายมาจากต่างจังหวัดเลยเหรอ?” แพรวพณิตเป็นคนแรกที่ทัก     นพคุณ หล่อนนั่งอยู่หน้าห้องแถวเดียวกันกับเขา โชคดีที่ห้องนี้ถึงแม้จะมีแต่เด็กเก่ง แต่ก็ไม่ค่อยมีใครแย่งกันนั่งหน้านัก แต่นพคุณชอบ เขาจะได้เห็นกระดานและอาจารย์ชัดเจน และที่สำคัญคนที่นั่งข้างหน้าไม่ชอบคุย...จะได้ไม่ทำให้เสียสมาธิ
“เปล่าหรอก บ้านเราก็อยู่แถวนี้แหละ” นพคุณตอบสั้นๆ แล้วหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ เขาไม่ชอบคุยกับผู้หญิง...บางทีพวกหล่อนก็ชอบคิดไปไกล       เขาไม่อยากเจอปัญหา...และถ้าจะหนีปัญหาตัวเขาต้องชัดเจน แพรวพณิต   มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ชอบคุยกับหล่อน เพราะแพรวพณิตเป็นดาว ม.5 หล่อนสวยและเรียนเก่ง ปีที่แล้วหล่อนเรียนได้ที่ 3 ของชั้นปี ส่วนดาว ม.6 คือวิกรเลขา ที่ปีนี้ก็จะได้สวยๆ เป็นปีสุดท้าย แต่หล่อน ยังมีเวลาสวยๆ ใสๆ อีก 2 ปี ส่วนดาว ม.4 เพิ่งเปิดเทอม...ยังไม่เกิด จึงถือได้ว่า  ปีนี้เป็นปีทองของหล่อนเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าได้เดือนมายืนเคียงคู่รับรองว่าจะส่งให้หล่อนมีชื่อเสียงได้มากเลยทีเดียว และแพรวพณิตเล็งเห็นแล้วว่าเดือนของ ม.5 น่าจะเป็นนพคุณอย่างแน่นอน แต่ความจริงก็มีอีกคนที่เป็นเดือน ม.4 ปีที่แล้ว...คเชนทร์ คนนี้หล่อนไม่ชอบ เคยเข้าไปคุยด้วยแล้วเขาปากหมาเกินไป หล่อแต่ปากไม่ดีหล่อนไม่ชอบ และที่สำคัญคเชนทร์ชอบมองหล่อนด้วยสายตารู้ทันตลอดเวลา เหมือนผีเห็นผีอย่างนั้นนั่นแหละ แต่ปีนี้อยู่ๆ นพคุณก็ย้ายเข้ามา แพรวพณิตคิดว่า คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และอาจจะมีการจัดลำดับใหม่แน่นอน ถ้าไอ้คเชนทร์ตกกระป๋องจริง...หล่อนอยากจะตามไปหัวเราะดังๆ ที่โต๊ะของเขาเหลือเกิน
ช่วงเวลาพักเที่ยงเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนทุกชั้นจะได้มาเจอกัน เพราะโรงอาหาร อยู่ตรงกลางระหว่างตึกมัธยมต้น และตึกมัธยมปลาย พวกเด็กนักเรียนที่เวลาปกติ อาจจะไม่ได้เจอกัน ก็จะได้มาเจอกันในเวลากลางวัน พริมาเห็นนพคุณนั่งอยู่ คนเดียว...เขาไม่มีเพื่อนหรือเปล่า? แล้วเขาจะเป็นยังไงมั่งนะ? เด็กหญิงยืนมองเขา จากตรงนี้ ยามาเดินมาสมทบ เด็กหญิงมองตามสายตาของพริมา
“นั่นพี่ชายลูกแก้วนี่นา สงสัยยังไม่มีเพื่อน...จะเข้าไปทักหน่อยไหม?” ยามาเสนอ หล่อนเข้าใจดี เพราะปีที่แล้วหล่อนก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
“เอ่อ...” พริมาไม่รู้จะพูดอย่างไร ยามาไม่เคยเจออิทธิฤทธิ์คุณชายใหญ่ เหมือนจะไม่รอฟังคำตอบ เพราะยามาลากมือพริมาเดินตรงไปยังที่นพคุณนั่งอยู่แล้ว นพคุณเห็นพริมาเดินมาแต่ไกล ความจริงเขาเห็นหล่อนตั้งนานแล้ว เพราะสาวน้อย ไม่เหมือนใคร เขามองเห็นตั้งแต่พริมาเดินมาต่อแถวซื้ออาหาร จนหล่อนมองมาเห็นเขา (แต่เขาก็รีบทำเป็นไม่เห็น จะให้รู้ได้ยังไงว่าแอบดูอยู่) และตอนนี้หล่อนกำลังเดินตรงมาทางนี้ นพคุณกินข้าวอิ่มแล้ว และวันนี้ก็วุ่นวายมากเกินพอ เขาไม่อยากเพิ่มปัญหา ถ้าพริมาเข้ามาอีกคนรับรองวุ่นวายไม่จบ...พวกผู้หญิงน่ารำคาญ พริมาเดินมาถึง นพคุณก็ลุกขึ้นพอดี หล่อนทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย เหมือนลังเลว่าเป็นเพราะหล่อนเดินมาหรือเปล่า เขาถึงได้ลุกขึ้น นพคุณไม่ได้ทักหรือพูดอะไรกับพริมาเลยสักคำ...ไม่มองด้วยซ้ำ เขาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ยามาหนักกว่า หล่อนยืนเงิบอ้าปากค้าง เพราะไม่เคยเจอกับพฤติกรรมของ   นพคุณมาก่อน...แต่พริมาชินเสียแล้ว
“พี่แกจะรีบไปไหนวะ?” ยามายังเงิบไม่หาย
“ช่างเขาเถอะ มาๆ กินข้าวกัน” พริมาดึงมือเพื่อนให้นั่งลง ยามาเป็นคนฉลาด...ไม่ต้องเล่าอะไร สักพักหล่อนก็คงเข้าใจได้เอง กินข้าวเสร็จแล้ว       พวกเขาไปนั่งเล่นใต้ต้นไม้ริมสนาม เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ก็วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น พวกพริมามีที่นั่งประจำ วันนี้ยามานัดพวกห้อง 5 ที่เกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาเจอกัน      หล่อนรับปาก ผ.อ. ไว้แล้วก็ต้องทำให้ได้ พวกเพื่อนๆ จึงจำเป็นต้องมารวมตัวกัน มาริสาที่ไม่ได้มีเกรดนิยมอันดับโหล่ ก็มาร่วมฟังด้วย ความจริงยามาก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าระดับมาริสา...หล่อนฉลาด แต่ทำไมถึงได้มาอยู่ห้อง 5 หรือหล่อนจะติดสินบนอาจารย์เหมือนกัน? พริมานั่งฟังยามาสวมวิญญาณอาจารย์แนะแนวเพื่อนๆ จนเริ่มจะปวดหัว แค่เรียนในห้องหล่อนก็จะตายอยู่แล้ว นี่ยังต้องมาติวนอกห้องอีก แค่คิดก็จะหายใจไม่ออกแล้ว เด็กหญิงจึงปลีกตัวออกไปเข้าห้องน้ำระหว่างที่ยามาเผลอ
“ไปล้างหน้าซะหน่อย ไม่ไหวง่วงเหลือเกิน” สาวน้อยล้างหน้าจนหัวเปียกไปหมด
“ค่อยยังชั่ว พักเที่ยงก็จะเรียน เดี๋ยวก็จะเรียนอีก ตายแน่ลูกแก้วเอ้ย!” พริมาเดินบ่นออกมาจากห้องน้ำ หล่อนต้องรีบกลับไปนั่งที่เดิมก่อนที่เพื่อนรักจะทันสังเกต ระหว่างทางเดินกลับไปเด็กหญิงเห็นนพคุณนั่งอ่านหนังสืออยู่ เสียงออดหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้นพอดี เขาเก็บหนังสือลุกขึ้น และกำลังจะเดินสวนมา เด็กหญิงหยุดชะงัก หล่อนไม่แน่ใจว่าจะเดินสวนไปทางนั้น     หรือหลบเดินไปทางอื่น ระหว่างที่สาวน้อยกำลังคิดอยู่นั้น นพคุณเดินมาถึงแล้ว เขาเดินผ่านไปและหยุดลงห่างไปเล็กน้อย
“อยู่โรงเรียนไม่ต้องมาทัก ไม่ต้องมารู้จักกัน” นพคุณพูดเสียงเบา     พอให้ได้ยินกันแค่สองคน แล้วเขาก็เดินไปไม่หันมามองอีกเลย
“ห๊ะ?” พริมาพูดได้คำเดียว หล่อนยังคิดไม่ทันด้วยซ้ำ ว่าที่นพคุณพูดนั้น หมายความว่าอย่างไร?
“มาอยู่นี่เอง เผลอไม่ได้เลยนะ” ยามาเดินมา หลังออดดังก็วงแตก    แต่ละคนแยกย้ายกันไป แต่หล่อนไม่เห็นพริมาเลยเดินออกมาตามหาเพื่อน แล้วก็เจอพริมายืนนิ่งเหมือนโดนสตัฟฟ์อยู่ตรงนี้
“ไปๆ เข้าห้องได้แล้ว” ยามาเดินมาลากเพื่อน ยามาเห็นพริมาทำหน้าตา แปลกๆ ดูงงๆ สลดๆ ชอบกล...สงสัยจะมึน นี่แค่วางแผนติวหนังสือเองนะ   ถ้าเริ่มติวจะมึนๆ งงๆ ขนาดไหนยัยลูกแก้ว
นพคุณเดินไปกลับห้องเรียน...เขาดูหงุดหงิดเล็กน้อย วันนี้เขาเจอยัยตัวปัญหาบ่อยเกินไปแล้ว เหมือนหล่อนเดินตามเขาไปทุกที่ แค่พวกเด็กผู้หญิงที่ชอบมองเขา (เหมือนบางคนจะแอบถ่ายรูปด้วย) แค่นี้ก็น่ารำคาญพอแล้ว...พวกเด็กผู้หญิงน่ารำคาญจริงๆ แล้วยัยตัวปัญหา...ตัวหล่อนเองก็เป็นปัญหากับตัวเองอยู่แล้ว ถ้าหล่อนเจอปัญหาจากภายนอกอีก      เด็กนั่นไม่น่าจะรับมือได้...นี่เขาเป็นห่วงเด็กนั่นเหรอ?
“ไม่!” นพคุณเผลอพูดออกมาเสียงดัง จนคนที่ยืนอยู่แถวนั้นหันมามอง ไม่จริงหรอก...เขาจะเป็นห่วงเด็กนั่นทำไม เขาแค่รำคาญไม่อยากให้หล่อนมายุ่งวุ่นวายกับเขาเท่านั้นเอง
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา