แก้วนพคุณ

-

เขียนโดย เวลา

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น.

  38 บท
  0 วิจารณ์
  30.63K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ไก่แจ้ยืนบนคอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันนี้วันหยุดไม่มีใครอยู่บ้าน แต่ยามาส่งข้อความผ่านไลน์มาบอก            ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าหล่อนจะมาเที่ยวที่บ้าน พริมาตื่นแต่เช้า        เป็นปกติอยู่แล้ว ตอนที่เพื่อนมาถึง หล่อนกำลังรดน้ำต้นแก้วรออยู่หน้าบ้าน

   “มาตรงเวลาเลยนะปลาทู” พริมาทักทายเพื่อนของหล่อน เมื่อหันไปเห็นยามายืนยิ้มแฉ่งอยู่ที่รั้วประตูบ้าน พริมาวางสายยางแล้วเดินไปเปิดประตูให้เพื่อนเข้ามา

   “กำลังหิวเลย ยังไม่ได้กินข้าว” ยามาผ่านประตูรั้วเข้ามาแล้วมุ่งตรงเข้าไปในบ้านทันที...ทิ้งเจ้าของบ้านให้จัดการปิดประตูอยู่คนเดียว...พริมามองตามเพื่อนที่รู้จักบ้านนี้ดีพอๆ กับหล่อน เด็กหญิงอยู่รดน้ำต้นไม้ต่อ      จนเสร็จ ยังไม่ได้เดินตามเพื่อนเข้าไปในบ้าน ยามาหิวหล่อนก็หากินเอง       ในครัวได้ เพื่อนหล่อนมาบ้านนี้ประจำจนของบางอย่างในบ้านยามารู้ดีซะยิ่งกว่าคนในบ้านนี้เสียอีกว่าอะไรวางอยู่ตรงไหน

“ข้าวต้มอร่อยมากเลย กินไป 2 ถ้วยแล้ว” ยามาบอก เมื่อเห็นพริมา เดินตามเข้ามาในครัว หล่อนยิ้มให้เพื่อน แล้วไปหยิบชามของตัวเองมาบ้าง

   “ลูกแก้วอุตส่าห์รอจะกินข้าวพร้อมปลาทู กลายเป็นว่าปลาทูกินเสร็จก่อนซะแล้ว” พริมาแกล้งตัดพ้อ

   “เฮ้ยๆ ยัง! ปลาทูยังไม่ได้เริ่มเลยนะ นี่ก็ยั้งๆ รอลูกแก้วอยู่นั่นแหละ แต่เมื่อกี้น่ะมันหิวมากกก” ยามาลากเสียงยาวให้เพื่อนรู้ว่าหล่อนหิวมากจริงๆ พอเริ่มอิ่ม ก็เริ่มรู้สึกผิดว่าหล่อนถือวิสาสะกินอิ่มก่อนเจ้าของบ้านเสียอีก

   “วันนี้ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ?” แม้จะรู้จากที่คุยกันเมื่อคืนแล้ว แต่ก็อดถามอีกรอบไม่ได้

   “อืม แม่กับคุณลุงไปตลาด ส่วนคุณชายใหญ่ไม่รู้ไปไหนเหมือนกัน”

   “เสียดาย ตอนแรกพี่พิมพ์บอกว่าจะมาวาดรูปด้วยกัน”

   “พอดีมีเรื่องด่วนน่ะ วันนี้เลยต้องรีบไปดูที่ตลาด” จนมาถึงตอนนี้     ยามาก็ยังไม่รู้ว่าภารดีทำหน้าที่อะไรกันแน่ พริมาเคยบอกว่าเป็นผู้จัดการ หล่อนก็เดาเอาว่าผู้จัดการตลาดก็คงจะจัดการกับปัญหาทุกอย่างที่ตลาดกระมัง วันหยุดแบบนี้ก็เลยต้องออกจากบ้านไปทำงาน แต่อย่างว่า ดูแล้วงานนี้เงินน่าจะดีไม่น้อย เป็นหล่อนถ้าเงินดีขนาดนั้น...เรียกมาเวลาไหน หล่อนก็คงจะไป

    “งั้นเราวาดกันสองคนก็ได้ ปลาทูคัดแบบมาหมดแล้ว เดี๋ยวเรามาช่วยกัน พรุ่งนี้ก็น่าจะเสร็จ ต้องเอาให้เสร็จแหละ หลังจากนี้ วันหยุดปลาทูคงจะมาไม่ได้อีกนาน” พริมาพยักหน้า ยามาบอกหล่อนว่าตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไปหล่อนคงไม่ได้มาเที่ยวที่บ้านวันเสาร์ – อาทิตย์ อีกหลายเดือน เพราะยามาไปลงเรียนเย็บผ้ากับศูนย์ฝึกอาชีพไว้ สำหรับผู้เริ่มต้นจะเรียนทั้งเสาร์และอาทิตย์ มีบางศูนย์ที่สอนเฉพาะวันเสาร์ แต่ก็อยู่ไกลบ้านเกินไป หล่อนจึงเลือกเรียนที่ศูนย์ฯ สาขานี้ เพราะใกล้บ้านที่สุดแล้ว ค่าเรียนก็ฟรี เสียแต่ค่ารถอย่างเดียว...เลือกเรียนใกล้บ้านจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป

   “ก็ไปเรียนพื้นฐานก่อน ที่เหลือเรามาต่อยอดเองได้ แรกๆ ก็อาจจะลำบากหน่อย แต่ปลาทูว่าไหวนะ ได้ทำอะไรที่ชอบมันก็น่าสนุกดีเหมือนกัน”

   “แล้วปลาทูจะไม่เหนื่อยเกินไปเหรอ? เรียนทุกวันเลยนะไม่ได้หยุดเลย” พริมาก็ยังอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ วันจันทร์ – ศุกร์ก็เรียน นี่เสาร์ – อาทิตย์ ก็ยังจะเรียนอีก

   “โอ้ย! หยุดแล้วทำอะไร...กินๆ นอนๆ หายใจทิ้งไปวันๆ สู้เอาเวลาไปหาความรู้อย่างอื่นดีกว่า อีกอย่างเรื่องเรียนปลาทูฉลาด เรียนในห้องปลาทูก็จำได้หมดแล้ว ไม่ต้องมาอ่านเพิ่มหรอก เรียนพิเศษก็ไม่ต้อง...เสียดายตังค์” เห็นเพื่อนยืนยันหนักแน่นพริมาก็เบาใจ อย่างยามาแล้วเรื่องนี้ไม่คุยแน่นอน ถ้าเป็นเรื่องเรียน ขนาดว่าเอาพริมาไปเรียนพิเศษแล้วมาสอบแข่งกับยามา  ยังไม่รู้เลยว่าหล่อนจะทำคะแนนสู้ยามาได้หรือเปล่า

    “และไม่ต้องห่วงนะ เรื่องติวน่ะปลาทูวางแผนไว้หมดแล้ว เราติววันธรรมดา ได้สบายมาก” พริมา ทำหน้าปั้นยาก หล่อนอุตส่าห์หวังลึกๆ ในใจว่า “รอด” แล้วเชียว
            “ถ้าปลาทูเหนื่อยก็พักได้นะ ลูกแก้วโอเค” พริมาบอกเสียงอ่อย

   วันนี้สองสาวตกลงกันว่าจะมาวาดรูปเล่นที่กำแพงบ้าน ฝั่งมุมเลี้ยงไก่ของพริมา พวกหล่อนขออนุญาตคุณนพรักษ์แล้ว และเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ภารดีเองตอนแรกก็บอกว่าจะมาวาดด้วยกัน แต่พอถึงวันจริงกลับติดธุระด่วน สุดท้ายเหลือสมาชิกอยู่สองคน พริมาเห็นเพื่อนขนกระเป๋าใบใหญ่ตั้งแต่เปิดประตูบ้านให้แล้ว แต่ยังไม่ได้ถามว่าเพื่อนหล่อนขนอะไรมานักหนาถึงได้แบกของมามากมายขนาดนี้

   “แบบร่าง... แล้วก็นี่! สี” ยามาเปิดกระเป๋าหยิบอุปกรณ์ออกมา   ของพวกนี้ไม่ต้องซื้อ เพราะยามาชอบวาดรูป หล่อนมีสีทุกอย่าง...สีน้ำทากำแพงนี้หล่อนก็เอามาจากบ้าน เพราะผนังห้องที่บ้าน หล่อนก็วาดเล่นทุกๆ สามเดือน เอาอุปกรณ์ออกจากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ยามาก็หันไปชวนเพื่อน

   “เริ่มกันเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา” ยามาเอาแบบไก่แจ้ออกมาแล้วเริ่มร่างรูปบนผนังบ้านทันที พริมาช่วยอะไรไม่ได้มาก หล่อนจึงนั่งดูอยู่ข้างๆ ส่วนไก่แจ้ของหล่อนตอนนี้เดินไปมาอยู่รอบๆ บางครั้งมันก็ไปหยุดยืนเอียงคอมองยามาอยู่นาน เหมือนสงสัยว่าเพื่อนสาวของพริมากำลังทำอะไร

   “เดี๋ยวให้ฉันวาดเสร็จก่อนเถอะไอ้นพคุณ แกอย่าวิ่งไปชนผนัง   เพราะเห็นไก่แจ้หล่อกว่าก็แล้วกัน” ยามาหันมาพูดกับไก่แจ้แสนสวยของเพื่อน หล่อนไม่แน่ใจว่าไก่แจ้ตัวผู้มันจะชนกันจนตายเหมือนไก่ชนที่เคยเห็นจากคลิปในอินเตอร์เน็ตหรือเปล่า พริมานั่งมองเพื่อนที่วาดรูปอย่างคล่องแคล่ว ความจริงหล่อนก็พอจะวาดรูปได้บ้าง แต่ถ้าให้วาดเองรับรองเวลาสองวันคงไม่เสร็จแน่นอน งานที่พอจะช่วยได้บ้างก็คงจะเป็นการลงสีและช่วยเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แล้วแต่เพื่อนจะบอก ยามาหาแบบมาจากบ้านหมดแล้ว หล่อนแค่วาดทั้งหมดลงบนกำแพงแค่นั้น ในรูปไม่มีอะไรมากมีแค่ไก่และคอนจึงใช้เวลาในการร่างไม่ถึงชั่วโมงก็ได้ภาพไก่แจ้ตัวน้อยยืนอยู่บนคอนอย่างสวยงาม

   “โอ้ย! ปลาทูวาดเร็วจัง แต่ร่างแบบนี้ลูกแก้วก็ลงสีไม่ถูกอยู่ดีแหละ...ลายเส้นมันน้อยจัง” พริมายืนพินิจรูปของเพื่อนอยู่นาน ยามาคงจะวาดรูปบนกำแพงบ่อยจริงๆ อย่างที่หล่อนบอกว่ากำแพงห้องนอนของหล่อนนั้นจะลงภาพใหม่ๆ ทุก 3 เดือน

   “ก็ร่างเป็นแนวเฉยๆ เดี๋ยวเอาจริงตอนลงสี อืม เดี๋ยวลูกแก้วค่อยช่วยลงสีหญ้า แล้วก็ทำข้าวกลางวันให้กินก็พอ” ยามาหันมายิ้ม พริมานั้นทำอะไรช้า หล่อนต้องหาอะไรให้เพื่อนทำแต่ถ้าให้ช่วยวาดภาพ วันนี้คงไม่เสร็จ...ให้ช่วยเก็บรายละเอียดก็แล้วกัน สองสาวกำลังเพลิดเพลินกับการวาดรูปจนไม่ทันสังเกตว่ามีคนไขประตูเข้าบ้านมา นพคุณกลับมาแล้ว เขาได้ยินเสียงคุยกันเสียงดังไปถึงหน้าบ้าน เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว...เสียงนี้เขาไม่คุ้น ใครกันนะ? ระหว่างเดินเข้าบ้านนั่นเอง พริมาก็เดินสวนออกมาจากในครัว

   “อ้าวคุณนพคุณกลับมาแล้ว...” สาวน้อยชะงักเล็กน้อย เหมือนหล่อน แปลกใจที่เห็นเขากลับเข้าบ้านมา นพคุณหรี่ตามอง...เด็กนี่จะชะงักทำไม?   ก็นี่บ้านของเขา เขาจะกลับมาตอนไหน หรือไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้ หรือหล่อนกำลังทำอะไรไม่ดีอยู่รึเปล่าถึงตกใจที่เห็นเขากลับเข้าบ้านมาตอนนี้

   “ลูกแก้ว! ได้รึยัง” เสียงยามาเรียกมาจากหลังบ้าน

   “ใครมา?” นพคุณถามพริมา เพราะปกติบ้านนี้มีผู้หญิงอยู่สองคน และเสียงนี้ไม่น่าจะใช่ภารดี

   “เอ่อ...” พริมากำลังนึกว่าตอนที่หล่อนบอกคุณนพรักษ์ว่ายามาจะมาวาดรูปเล่นนั้น นพคุณอยู่ด้วยหรือเปล่า เพราะหล่อนเองก็จำไม่ได้...แต่ดูจากคำถามของเขาแล้ว...สงสัยเจ้าตัวจะยังไม่รู้ นพคุณไม่รอคำตอบ เขาเดินตามเสียงไปดูให้เห็นเองกับตา เพราะดูจากท่าทางของพริมาแล้วไม่รู้ว่าจะเล่นอะไรแผลงๆ กันอยู่รึเปล่า

   “ทำอะไรกันเนี้ย!” นพคุณถามเสียงดัง เขากะแล้วว่าพวกนี้ต้องเล่นอะไรแผลงๆ ยามาที่กำลังผสมสีอยู่หันมามองอย่างแปลกใจ หล่อนไม่เคยคุยกับนพคุณ แต่เคยเจอแบบไกลๆ ที่โรงเรียน และเคยเห็นใกล้ๆ ก็แค่ครั้งเดียว แต่สาวๆ ที่โรงเรียนก็พูดถึงเขาให้เข้าหูอยู่เป็นประจำ พอเห็นตัวจริงใกล้ๆ วันนี้ เออเฮอะ! หมอนี่หล่อเหมือนคุณลุงเลยแฮะ

   “กำลังวาดรูปนพคุณเอ๊ย! ไก่ค่ะ คุณนพคุณมาวาดด้วยกันไหมคะ?” พริมารีบเข้ามาไกล่เกลี่ย เพราะตอนนี้สีหน้าเด็กหนุ่มดูหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย  ยามาแปลกใจกับคำว่า “คุณ” ที่พริมาเรียกนพคุณ นี่ขนาดต้องเรียกคำนำหน้า ว่าคุณกันเลยหรือ ดูท่าว่าคุณชายใหญ่ของเพื่อนหล่อนนี่จะร้ายไม่เบา

   “ใครใช้ให้พวกเธอมาขีดเขียนผนังบ้านคนอื่นเล่นแบบนี้ นี่มันผนังบ้านนะไม่ใช่กระดาษวาดเขียน เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง” นพคุณเอ็ดเสียงดัง    พริมาชักจะเอาใหญ่ หล่อนพาเพื่อนมาเล่นที่บ้านไม่พอ นี่ยังจะมาขีดเขียน บ้าๆ บอๆ ที่ผนังบ้านเขาอีก ทำไมไม่ไปเล่นที่บ้านตัวเอง แบบนี้เขาไม่ชอบใจเลย

   “เอ่อ...” พริมาหน้าเสีย ยามาที่ตอนนี้ยืนฟังอยู่พอจะจับใจความได้แล้ว หล่อนพอจะรู้กิตติศัพท์ของนพคุณมาบ้าง แต่ไม่นึกว่าจะ “เหวี่ยง” ขนาดนี้

   “ก็ถ้าเจ้าของบ้านไม่อนุญาต ผู้อาศัยเขาจะกล้ามาขีดเล่นไหมล่ะ” ยามาเท้าเอว พริมาเหงื่อตกยามเพื่อนเท้าเอวแสดงว่า “ของขึ้น” เข้าแล้ว งานนี้ “เหวี่ยง” กับ “ของขึ้น” มาเจอกัน หล่อนไม่แน่ใจว่าจะห้ามอันไหนก่อนดี

   “ใครอนุญาตไม่ทราบ” คนเหวี่ยงถามเสียงเย็น เขาหันไปมองหน้าเพื่อนพริมา...เด็กนี่ตัดผมแปลก ผมรองทรงเนี้ยนะ?

   “ก็คุณลุงง้ายยยย ไม่เชื่อก็ลองโทรไปถามพ่อดู จะได้รู้เรื่องก่อนจะมาเหวี่ยงแว้ด ๆ แบบนี้” ยามาลากเสียงยาวได้อย่างน่าหมั่นไส้ นพคุณอึ้ง...พวกกวนประสาทที่โรงเรียนเขาเจออยู่คนหนึ่ง แต่คนนั้นเป็นผู้ชาย ไม่คิดว่าผู้หญิงก็กวนประสาทได้เก่งเหมือนกัน แต่ดูจากทรงผมแล้ว เขาไม่แน่ใจว่าหล่อนจะเป็นผู้หญิงหรือว่าเป็นทอมหน้าใสตัวสูงกันแน่ นพคุณสังเกตเพื่อน พริมาคนนี้แม้จะผิวเข้มไปนิดแต่หน้าตาหล่อนถือว่าดูดีทีเดียว คิ้วเข้มได้รูปชนิดว่าไม่ต้องเขียนก็สวยได้ ผมสีดำสนิท...แววตาดูเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย ไม่น่าเชื่อ ว่าจะมาคบกับพริมาที่ดูหงิมๆ ติ๋มๆ ได้แบบนี้...มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

   “ ให้ยืมไม๊โทรศัพท์น่ะ” ยามาทำท่าจะส่งโทรศัพท์ให้ นพคุณมองผนังอย่างเจ็บปวด มุมสวนของแม่เขา โดนเด็กพวกนี้เล่นไม่เข้าเรื่อง เอาไว้ให้พวกนี้เล่นให้พอใจก่อนแล้วเขาจะไปซื้อสีใหม่มาทาให้เหมือนเดิม แต่ตอนนี้เขาต้องโทรไปคุยกับพ่อให้รู้เรื่องก่อน

   “โห...นี่เหรอพี่ชายเธอ ทนได้ยังไงอ่ะลูกแก้ว? ถ้าเป็นปลาทูนะรับรองบ้านแตกวันละสามหน” ยามาหันมาพูดกับพริมา หลังจากนพคุณฮึดฮัดเดินปึงปังขึ้นห้องตัวเองไปแล้ว

   “ก็...คุณนพคุณเขาหวงบ้านน่ะ มุมนี้ก็มุมสวนแม่เขา” พริมายิ้มแหยๆ หล่อนเชื่อที่เพื่อนพูดอย่างสนิทใจ ว่าถ้าเป็นยามาที่เป็นลูกเลี้ยงของคุณนพรักษ์ แทนหล่อนแล้วล่ะก็ ยามากับนพคุณคงได้ลับฝีปากกันทั้งวันทั้งคืนแน่ๆ งานนี้คนที่น่าสงสาร คงจะเป็นนพคุณแน่นอน

   “แล้วไอ้ที่เรียกคุณนั่นคืออะไร?” ยามาขัดใจ ไอ้หมอนั่นมันชักจะมากไปหน่อยแล้ว

   “ก็...พี่ เอ่อ...คุณนพคุณเขาบอกว่าเราไม่ใช่พี่น้องกัน ไม่ต้องมาเรียกพี่ ลูกแก้วก็เลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไรนี่นา” ยามายืนอ้าปากค้าง หล่อนคิดไม่ถึง...นี่มันขนาดนี้เชียวหรือนี่ เสียแรงที่ชมว่าหล่อ

   “โอ้ย! ขอถอนคำพูด เอ้ย! ไม่ใช่ ขอถอนความคิดเลยแบบนี้” ยามา ตะโกนแล้วมองขึ้นไปข้างบน หวังให้คนข้างบนได้ยิน พริมางงไม่เข้าใจว่าเพื่อนหมายถึงอะไร

 

   คุณนพรักษ์กับภารดีส่งข้อความไลน์ มาบอกว่าเย็นนี้น่าจะ      กลับมาไม่ทันมื้อเย็น ให้พวกเด็กๆ หากินกันเองได้เลยไม่ต้องรอพวกเขา พริมากับยามาเลยตกลงกันว่าจะออกไปหาอะไรกินที่หน้าปากซอย พริมาเห็นด้วย เพราะถ้ายามากับนพคุณเจอกันอีก เดี๋ยวคงได้ “เหวี่ยง” และ “ของขึ้น” กันอีกรอบแน่ๆ

   “เดี๋ยวขอเก็บสีตรงนี้อีกนิดเดียวนะ แสงจะหมดแล้ว...วันนี้ได้ไก่พรุ่งนี้ก็เหลือแค่คอน ให้ลูกแก้วช่วยลงสีคอนกับหญ้าดีกว่า ไม่ยากหรอก  เหลือของง่ายๆ ไว้ให้” ยามารีบเสริมเมื่อเห็นสีหน้าไม่มั่นในของพริมา

   “ไหนบอกให้ช่วยแค่หญ้าไง คอนให้ปลาทูลงสีดีแล้วจะได้เหมือนคอนจริงๆ ดูสิ...ขนาดไก่นี่ยังเหมือนมีชีวิตเลย ปลาทูนี่สุดยอด! อยากให้แม่มาเห็นเร็วๆ จัง” พริมาหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูป แต่มันไม่ค่อยสวยเหมือนที่เห็นจริงๆ นัก เพราะว่าแสงเริ่มหมดแล้ว...บอกเวลาว่าหมดแล้วสำหรับวันนี้

   “เรียบร้อย! เราไปหาอะไรกินกันเถอะ หิวจนจะเอาไก่ในรูปมาเชือดกินได้แล้ว” พริมากับยามาช่วยกันเก็บสี พริมายืนมองรูปอย่างชื่นชม           ไม่น่าเชื่อว่ารูปที่ร่างไว้อย่างรวกๆ ในตอนแรก พอลงสีเก็บรายละเอียดแล้วจะสวยได้ถึงเพียงนี้ มันดูเหมือนนพคุณของหล่อนไม่มีผิด พริมาเหลือบมอง    เจ้าตัวต้นแบบของยามาที่ตอนนี้มันเองก็มองรูปเขม็งอยู่เหมือนกัน

   “เก็บไก่ก่อนเถอะ...กลับมากลัวมันจะวิ่งชนผนังจนหัวแตกซะก่อน” สองสาวหัวเราะ ตอนที่พริมาเข้าไปอุ้มเจ้าไก่แจ้นั้น มันเองก็ยังมองรูปบนผนังไม่วางตาอยู่เช่นกัน...ดูเหมือนซะจนไก่ยังแปลกใจ สองสาวไปแล้ว...นพคุณลงมาข้างล่าง เขาไม่ได้โทรไปคุยกับพ่อ เพราะพริมาบอกแล้วว่าพ่อเขาเป็นคนอนุญาต เขาจึงก็ไม่จำเป็นต้องโทรไปถามย้ำอีก พริมาไม่น่าจะโกหกและเขาก็ไม่อยากทำนิสัยเด็กๆ ที่มีอะไรก็ต้องไปฟ้องพ่อทุกเรื่อง เสียงข้างล่างเงียบไปแล้ว พวกนั้นน่าจะออกไปข้างนอกเพราะไลน์กลุ่มบอกว่าพ่อเขากับภารดีจะไม่กลับมากินข้าวเย็น นพคุณเดินไปดูหลังบ้าน...ไม่มีคนอยู่จริงๆ

   “หืม?” นพคุณแปลกใจที่ผนัง...เหมือนไอ้ไก่บ้านนั่นมันยืนลอยๆ อยู่โดยไม่ได้ขยับปีกด้วยซ้ำ เจอภาพสยองแบบนั้น เล่นเอาหนุ่มน้อยผงะถอยหลัง เซไปเล็กน้อยเหมือนกัน แต่พอตั้งสติได้จึงเห็นว่าความจริงแล้วมันเป็นไอ้ไก่บ้านั่นจริงๆ แต่เป็นในแบบฉบับภาพวาด

   “ฝีมือไม่เลวนี่” นพคุณยอมรับเลยว่าฝีมือวาดรูปของเพื่อนพริมา   คนนี้ไม่ใช่เล่นๆ อย่างที่เขาดูถูกหล่อนเมื่อตอนบ่าย งานนี้เขาอาจจะไม่ต้องลงทุน ลงแรงไปซื้อสีมาทาทับใหม่แล้วก็ได้

   “พั่บ พั่บ พั่บ” เสียงตีปีกอย่างบ้าคลั่งดังมาจากในเล้า นพคุณเอียงคอมองส่องเข้าไปเห็นเจ้าของเสียงตีปีกมองลอดซี่ลูกกรงเล้าผ่านมาเหมือนกัน สายตาแบบนี้ทำให้ผงะได้อีกเป็นครั้งที่สอง...ขนลุก!!!

   “ไอ้ปีศาจ!!!” ด่าแล้วไม่หันไปมองหรอก...ไปดีกว่า นพคุณไม่เข้าใจว่าพริมารักไอ้ไก่ผีนั่นลงได้อย่างไรกันนะ มันน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่าน่ารักเป็นไหนๆ

   เช้าแล้วสองสาวตื่นมาทำงานต่อตั้งแต่เช้า นพคุณตื่นแล้ว แต่เขายังไม่ได้ลงไปข้างล่าง เขาได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงสองคนนั่นคุยกันเสียงดังตั้งแต่ ยังไม่แปดโมงเช้า

   “เฮอะ! วันนี้ไอ้ไก่ปีศาจนั่นสบายไปเลยสินะ มีคนทำหน้าที่แทน” เด็กหนุ่มบ่นเพราะเช้านี้เสียงคุยเสียงหัวเราะของเด็กผู้หญิงข้างล่างนั่น     กลบเสียงขันของไก่ปีศาจเสียจนหมดสิ้น นอกจากนั้นบางครั้งเขาก็ได้ยินเสียงของภารดีและพ่อของเขาพูดคุยมาเป็นระยะ ดูเหมือนวันนี้ทุกคนจะตื่นกันตั้งแต่เช้าหมดทั้งบ้าน...รวมทั้งเขาด้วย กว่านพคุณจะลงไปข้างล่างก็เกือบเก้าโมงเช้า คุณนพรักษ์กำลังง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะอาหาร เขาหันมาทักลูกชายทันทีที่เห็นหน้า

   “ไงตาคุณ วันนี้ตื่นสายเหรอ?” นพคุณแค่มองเฉย ๆ เขาไม่ได้ตอบคำถามพ่อว่าความจริงแล้วเขาตื่นตั้งนานแล้ว

   “มันก็แน่นอนอยู่แล้วฝีมือปลาทูซะอย่าง ถ้าทำไม่ได้ปลาทู            ไม่คุยหรอกนะ” เสียงชมตัวเองดังเข้ามาในบ้านก่อนเจ้าของเสียงจะมาถึงเสียอีก นพคุณเลิกคิ้ว...เขาหันไปมองตามเสียงคุยโวนั่น จึงเห็นเด็กผู้หญิงผมรองทรงกำลังเดินควงแขนภารดีและพริมาเข้ามาในบ้าน เด็กหนุ่มมองอย่างสงสัย...หรือเพราะว่าหล่อนตัวสูงกว่าภารดีและพริมาที่เดินขนาบข้างมาจึงทำให้หล่อนดูโดดเด่น? หรือว่าจะเป็นเพราะทรงผมประหลาดนั่น? อันนี้นพคุณ     ก็ยังไม่เข้าใจมาจนถึงตอนนี้ว่าใครหรืออะไรดลจิตดลใจให้เพื่อนพริมาตัดผมทรงประหลาดแบบนี้ และเหมือนเจ้าตัวจะเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่ามีสายตาฉงนกำลังจ้องมองอยู่ ยามาจึงหันมาสบตากับนพคุณอย่างตั้งใจ หล่อนจ้องกลับเขาอยู่นานจนสุดท้าย คนที่ต้องหลบสายตากลับเป็นนพคุณเอง ยามานั่งลงตรงข้ามกับนพคุณพอดี เขาไม่แน่ใจว่าหล่อนตั้งใจหรือเปล่า? และจากหางตาดูเหมือนหล่อนจะยังจ้องเขาอยู่...เพื่อนพริมาคนนี้มีนิสัยประหลาดแบบที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน

   “ปลาทูน่าจะไปเรียนต่อด้านศิลปะนะ” เสียงภารดีแหวกความเงียบที่แสนจะอึดอัดนั้นเข้ามา เป็นครั้งแรกที่นพคุณรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงแม่เลี้ยงของเขา และจากคำถามของภารดีทำให้เด็กผู้หญิงที่ตั้งใจ เอาแต่จ้องหน้าเขาหันไปสนใจอย่างอื่นได้เสียที

   “ปลาทูก็ชอบค่ะ แต่แม่อยากให้เรียนหมอ...เดี๋ยวค่อยคิดอีกทีตอน ม.4” พริมาสังเกตเห็นแม้เพื่อนของหล่อนคนนี้จะพูดเหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่แววตาก็ดูเหมือนจะคิดอะไรอยู่ไม่น้อย

   “ลูกแก้วคิดว่า...ไม่ว่าปลาทูจะตัดสินใจเรียนอะไร แม่ของปลาทูก็คงเข้าใจแหละ” สาวน้อยหันไปยิ้มให้เพื่อนหลังจากหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ยามาหันไปมองหน้าเพื่อน หล่อนเพียงแต่ยักไหล่แต่ไม่ได้ตอบอะไร ทั้งหมดนั่ง     กินข้าวพร้อมกันและหัวข้อสนทนาในวันนี้แน่นอนเป็นเรื่องภาพวาดบนกำแพงของยามา พริมาอวดรูปที่หล่อนถ่ายไก่แจ้ของหล่อนกับไก่แจ้ที่อยู่บนกำแพงเอามาเปรียบเทียบกัน

   “ดูรูปนี้สิคะแม่ แยกกันแทบไม่ออก” พริมายื่นโทรศัพท์ของหล่อนส่งไปให้ภารดี แม่ของหล่อนดูรูปแล้วหัวเราะเสียงใส...เป็นเสียงหัวเราะ        ที่เหมือนกันไม่มีผิดทั้งแม่และลูกสาว

   “ถึงว่าทำไมวันนี้ไอ้...เอ่อ ไก่แจ้ของลูกมันถึงดูหงุดหงิดนัก แม่ว่าถ้าปลาทูวาดไก่ตัวเมียมันอาจจะอารมณ์ดีกว่านี้ก็ได้นะ”

   “ลุงว่ามันคงไม่รู้ว่าภาพที่เห็นน่ะเป็นภาพของตัวเอง” คุณนพรักษ์ขำ เมื่อนึกถึงเจ้าไก่แจ้ของพริมาที่เอาแต่เดินวนเวียนไปมาอยู่แถวๆ กำแพง    บางทีก็ไปยืนเกาะคอนของตัวเองมองนิ่งไปยังไก่อีกตัวที่ยืนอยู่บนคอนเช่นกัน คุยกันมาถึงตรงนี้นพคุณพอจะจับใจความได้ว่าพวกเขาวาดรูปกันเสร็จแล้ว และ (น่าจะ) ออกมาดูดีเสียจนทุกคนชมเป็นเสียงเดียวกัน เขาชักอยากจะเห็นแล้วว่าฝีมือเพื่อนของพริมาเก่งจริงสมราคาคุยหรือเปล่า (แม้ว่าเมื่อวานจะเห็นแล้วก็เถอะ) เดี๋ยวรอให้พวกนี้ออกไปข้างนอกก่อนเขาค่อยแอบไปดู...    ฮึ! ถ้ามันเหมือนจริงมากขนาดทำให้ไอ้ไก่บ้านั่นวิ่งชนกำแพงได้เขาจะดีใจมาก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาอาจจะหาของขวัญชิ้นใหญ่มาให้รางวัลเพื่อนรักของพริมาเลยทีเดียว

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา