Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.72K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

30) ความบังเอิญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ความบังเอิญ

            ทันทีที่พายุหมุนขนาดมหึมาสงบลงท่ามกลางความสนใจของเหล่านักเรียนโฮเนอร์ก็ปรากฏร่างของเด็กชายหญิงสามคนโดยที่ชายทั้งสองคนต่างบาดเจ็บทั้งคู่    หนึ่งในสองนั้นอาการสาหัสพอสมควรเพราะไร้ซึ่งสติแล้ว    ส่วนอีกคนที่ประคองกันมานั้นก็มีแผลบาดเจ็บและคราบเลือดชะโลมอยู่ทั่วร่างกายกำลังพากันเข้าไปยังเรือนพยาบาลที่มีอาจารย์และนักเรียนเจ้าหน้าที่ออกมารับพอดี

“นีโอไปโดนอะไรมารึเจด้า?”   อาจารย์ประจำเรือนพยาบาลเอ่ยถามเมื่อเห็นอาการของนีโอที่สาหัสไม่น้อย

“หนูก็ไม่แน่ใจค่ะอาจารย์เพราะหนูตามไปทีหลัง    คงต้องให้เบลเขาเป็นคนเล่าเหตุการณ์แล้วล่ะค่ะ”   เจด้าเอ่ยพร้อมกับหันไปส่งสายตาให้กับเบลที่มาด้วยกัน

“เอ่อ  คือนีโอเขาโดนลูกดอกจากพวกอสูรนะครับ    แต่ก็ไม่น่าจะสาหัสจนหมดสติขนาดนี้”   เบลตอบพร้อมกับเอ่ยในสิ่งที่ตนคิดออกมาด้วย

“คงต้องขอดูบาดแผลก่อนนะ    แต่อาจเป็นไปได้ว่าเขาฝืนใช้เวทย์มากเกินไปจนร่างกายขาดสมดุลแห่งพลัง   เมื่อโดนโจมตีเลยส่งผลให้อานุภาพมันมีผลมากกว่าที่ควรจะเป็นอ่ะ   คล้ายๆ กับร่างกายขาดภูมิต้านทานนั่นแหละ    รีบพาเขาขึ้นไปก่อนเร็ว”   อาจารย์เอ่ยพร้อมกับหันไปสั่งนักเรียนเจ้าหน้าที่แล้วหันกับมาสนทนากับเบลอีกครั้ง

“เธอก็บาดเจ็บนี่ เบล    ยังไงก็ไปตรวจดูอาการก่อนก็แล้วกันนะ    อย่างน้อยก็ไปฟื้นฟูพลังเวทย์ก่อน”  อาจารย์พูดดักคอจนเบลยอมเดินตามขึ้นเรือนพยาบาลแต่โดยดี

“งั้นฉันจะเข้าไปหาชายน์กับเดวี่ นะ    เผื่อทางนั้นมีอะไรที่ฉันพอจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง”   เจด้าเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้เบลก่อนจะเดินออกไป

ขอบใจนะ เจด้า

                                                          …………………………………………….

 

ภายในงานเลี้ยง….

            บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความปิติยินดีในความสำเร็จของผู้คว้าชัยและเสียงหัวเราะชื่นชมจากบรรดาแขกในงานดังคลอไปกับเสียงดนตรีในเวทีพร้อมกับแสงสีสวยงามนั้นไม่ได้ทำให้บุรุษทั้งสองยิ้มแย้มได้เลย    ชายน์ในขณะนี้แสดงสีหน้าเครียดและกังวัลอยู่ตลอดเพราะอดที่จะเป็นห่วงสถานการณ์รอบนอกไม่ได้    ส่วนเดวี่นั้นนอกจากสีหน้าที่เรียบเฉยอันเป็นปกติของเขาแล้ววันนี้จะได้ยินเสียงถอนหายใจยาวๆดังเป็นระยะอีกเช่นกัน

“เฮ่อ   นี่เขาไม่รับรู้กันหรือไงเนี่ยว่าขณะนี้ตอนนี้บ้านเมืองกำลังวิกฤตนะ    ยังจะมาจัดงานยิ้มแย้มกันอยู่อีก     น่าจะออกไปจัดการให้สิ้นเรื่องไปเลย”   ชายน์บ่นหลังจากที่ทำหน้ายุ่งมานาน

“ทุกคนมีหน้าที่    และอีกอึดใจเดียวก็ถึงคราวของนาย”    เดวี่เอ่ยขึ้น

“ก็ยังไม่เข้าใจ   ยังไม่หายสงสัยอยู่ดี”   

“ลองมองดูรอบๆ สิว่าจอมเวทย์ที่นายเห็นในครั้งก่อนนั้นบัดนี้หายไปอยู่ที่ไหนหมดล่ะ    เราจำเป็นต้องจัดงานเพื่อกันแขกไม่ให้ไปวุ่นวายในส่วนของพิธีการของเราแล้วจอมเวทย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นไปประกอบพิธีกันตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว     และเมื่อถึงเวลานายก็จะต้องไปร่วมในพิธีการในฐานะของ…. ผู้พิทักษ์”  เดวี่เอ่ยอธิบายยาวจนชายน์อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

“จริงๆ ฉันชอบนะเวลาที่นายอธิบายอะไรในส่วนที่ฉันไม่รู้เนี่ย   เพราะนายจะพูดได้มากกว่าเวลาปกติที่คุยกับฉันมากเลยนะเดวี่  ฮ่าๆๆ”   เอ่ยพร้อมกับหัวเราะร่วนจนเดวี่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง    หากแต่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรก็มีแขกมาขัดจังหวะซะก่อน

“ทำหน้าแบบนี้เดาว่าชายน์คงก่วนประสาทนายอยู่ใช่มั๊ย เดวี่ ฮ่าๆๆ”   เจด้าเดินเข้ามาพร้อมเอ่ยแซวเดวี่

“ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้างเจด้า   ทุกอย่างเรียบร้อยดีมั๊ย?” ชายน์ยิงคำถามใส่เจด้าทันที

“สถานการณ์ไม่ค่อยดี   แต่เซและฮันนี่ไปสมทบแล้ว   พอดีฉันพานีโอและเบลกลับมาก่อน”

“ทำไม?”

“นีโอบาดเจ็บ   เบลเองก็เช่นกัน”

“ฉันจะไปดูสองคนนั่น!!”

“ไปวิหารที่ประกอบพิธีดีกว่ามั้ง ชายน์”   เดวี่เอ่ยขัดหลังจากที่ชายน์รับรู้อาการของเพื่อนและกำลังจะออกไปดูอาการ

“ไปไม่นานหรอกนะเดวี่   ฉันเป็นห่วงสองคนนั่น”

“เชื่อเดวี่เถอะ    ทางนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก”   เจด้าเอ่ยพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียดจนชายน์พยักหน้าก่อนจะเดินนำออกไปจากงาน

“มากันแล้วสินะ”

“ใช่    แต่น่าแปลกว่าทำไมชายน์ถึงไม่รับรู้ถึงการมาของพวกมันนะ”

“หมอนี่มีอะไรที่เราคาดไม่ถึงเสมอ”   เดวี่เอ่ยก่อนจะเดินตามชายน์ออกไป   

หายไปไหนแล้ว    อย่าได้คิดทำอะไรบ้าๆ นะนายน้อย

สองคนนั่นไปทางไหนกันนะ    ทำไมไม่มาที่วิหารล่ะ?’

 

                                                    …………………………………………………….

 

“อ่าว  ยังไม่ไปอีกหรอชายน์?”    เจด้าเอ่ยพร้อมเดินตามไปเมื่อเห็นชายน์กำลังเดินปลีกออกไปอีกทางของมุมมืดของตึกอย่างรีบเร่ง

“หมอนั่นดูอาการแปลกๆนะ”   เดวี่เอ่ยอย่างสงสัยพร้อมกับเดินตามเจด้าที่วิ่งตามชายน์ออกไปก่อน

“เดี๋ยวชายน์   นายจะ อึก!!”   สติดับลงทั้งที่ยังไม่ทันจะเอ่ยจบเมื่อเดินตามมาจนถึงมุมตึกก็ปรากฏว่ามีของแข็งมาทุบที่ท้ายทอยจนร่างนั้นร่วงลงกองกับพื้น

“เจด้า!!    พวกแกเป็นใคร?”   เดวี่ที่เดินตามมาเห็นเจด้ากำลังร่วงลงพื้นโดยมีชายชุดดำกำลังจะลากร่างเธอออกไปและมีอีกคนที่แสนจะคุ้นตายืนหันหลังให้    แต่เมื่อผู้นั้นหันหน้ามาเดวี่ก็ต้องตกใจ

“ชิน”

“ฉันยกหมอนี่ให้นะ จี”    กล่าวพร้อมกับสร้างมิติมืดมาซ้อนทับคนทั้งหมดเอาไว้ก่อนตัวเองจะหายไป

“ฮ่าๆๆ   ถ้าแน่ก็พาเธอออกไปจากมิตินี้ให้ได้ก็แล้วกันนะ”   จีเอ่ยพร้อมกับเรียกลูกบอลเพลิงออกมาเช่นกันกับเดวี่ที่ปล่อยจิตสังหารออกมามากมายก่อนที่ทั้งสองจะเข้าต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย

 

 

 

 

                                                  …………………………………………………………………

 

ทางด้านของชายน์

ทันทีที่ชายน์เข้ามายังวิหารอันเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีอยู่นั้นก็พบว่าเจด้าและเดวี่ไม่ได้ตามมาด้วยทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้รีบร้อนมาก    แต่ด้วยสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านี้ต่างหากที่เรียกความสนใจที่มีจากเพื่อนทั้งสองให้มาอยู่กับภาพตรงหน้าได้เป็นอย่างดี    ภาพของความยิ่งใหญ่และงดงามของวิหารที่ดำงดูดให้เขาไม่ยอมละสายตา   และจอมเวทย์อีกหลายสิบคนกำลังยืนล้อมวิหารอยู่ด้านนอกตามตำแหน่งต่างๆ เพื่อสร้างบาเรียเวทย์ศักดิ์สิทธิเพราะครั้งนี้ถือว่าสำคัญยิ่ง   โดยใจกลางของวงนั้นมีแท่นหินอ่อนที่สลักเสลาอย่างสวยงามเป็นฐานชูขึ้นสูงกว่าเหนือหัวและแน่นอนว่าเบื้องบนของแท่นหินอ่อนนั้นจะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอยู่   เพียงแต่ว่าสิ่งนั้นยังไม่ปรากฏออกมาเท่านั้นเอง

“ท่านมาได้ตรงเวลาพอดี    ใกล้จะถึงช่วงเวลาของท่านแล้ว  ชายน์ ชาโดวส์”   จอมเวทย์อาวุโสท่านนึงเดินเข้ามาทักพร้อมแนะนำภาระหน้าที่ให้แก่ชายน์อย่างละเอียด

“หวังว่าท่านจะทำสำเร็จนะ ผู้พิทักษ์”   จอมเวทย์อาวุโสกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่ยากเกินจะคาดเดา

“ข้าก็หวังเช่นนั้น”   ชายน์กล่าวพร้อมเดินตามทางเข้าไปหยุดยืนยังเบื้องหน้าของแท่นหินอ่อนอันเป็นจุดสำหรับประกอบพิธี  จากนั้นยืนหลับตานิ่งพร้อมกับเริ่มประกอบพิธี

“ข้ามาทันใช่มั๊ย ท่านจอมเวทย์?”   ประธานสภาแกรนน่าและผู้แทนต่างๆ ที่ปลีกตัวออกมาจากงานเลี้ยงได้เข้ามาร่วมดูพิธีแล้ว   เพียงแต่ผู้ที่ไม่ใช่ผู้พิทักษ์จะไม่สามารถเข้าไปยังกลางวิหารได้    จึงได้แต่เพียงชมอยู่รอบนอกเท่านั้น

“แน่นอนครับท่านประธาน    ยังไงข้าต้องขอตัวไปทำหน้าที่ก่อน”   ชายอาวุโสกล่าวพร้อมปลีกตัวออกมาประจำที่ของตน    ความกดดันแผ่ไปทั่ววิหาร    รอบๆร่างของชายน์ที่ยืนอยู่กลางวงแหวนเวทย์สีทองบัดนี้มีออร่าแสงสีขาวทองแผ่กระจายออกมาเรื่อยๆ   ขณะที่แท่นหินอ่อนเบื้องหน้าก็เกิดปฏิกิริยาตอบรับเป็นอย่างดีเพราะบัดนี้อัญมณีที่ฝังตัวอยู่ในส่วนยอดนั้นกำลังลอยขึ้นสู่เบื้องบนพร้อมกันกับที่ชายน์ถ่ายกระแสเวทย์สีดำใส่เข้าไปยังอัญมณีนั่น   ทุกคนที่อยู่ภายนอกวิหารและบาเรียเฝ้าจับจ้องกับสิ่งที่กำลังเกิดเช่นเดียวกับจอมเวทย์ทั้งหมดที่สมาธิจดจ่ออยู่กับการร่ายเวทย์สร้างบาเรียเพราะหากเขาหยุดหรือเสียสมาธินั่นจะทำให้สิ่งที่ทำมาทั้งหมดสูญเปล่าทันที   

บึ้มมมม…

แต่ขณะที่ทุกคนไม่คาดคิดกลับมีลูกบอลเพลิงสีขาวดำขนาดใหญ่พุ่งทะลุบาเรียเข้าหมายทำลายอัญมณีนั่น   แต่ลำแสงสีส้มสุกสว่างที่พุ่งออกมาจากร่างของชายน์กลับเข้าขวางพร้อมพากันระเบิดขึ้นกลางอากาศเพียงนิดเดียวก่อนจะสัมผัสอัญมณี

ท่ามกลางฝุ่นควันนั้นปรากฏร่างของวิหกเพลิงอันสง่างามบินพุ่งออกมาก่อนจะกลายเป็นชายหนุ่มผมทองรูปงามพร้อมกับร่างของชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์เดินออกมา

“พวกนั้นเป็นใคร?”   เสียงประธานสภาเอ่ยกับสมาชิกสภาที่ติดตามมาอย่างตกใจเพราะวิหารมีบาเรียศักดิ์สิทธิครอบอยู่ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าไปได้นั่นเองและเช่นกันกับจอมเวทย์ที่ร่วมกันสร้างบาเรียก็อยู่ในอาการตกใจไม่น้อยที่ศัตรูสามารถโจมตีได้อย่างง่ายดาย   และถึงแม้จะตกใจแต่ก็ไม่สามารถหยุดพิธีได้นั่นเอง

“น่าแปลกที่คนพวกนี้ไม่ใช่ผู้ประกอบพิธีแต่สามารถเข้าไปได้    แสดงว่าเขาเหล่านั้นล้วนมีความเกี่ยวข้องกับคำทำนายนะครับท่าน”   สมาชิกสภาเอ่ย

“อย่าทำแบบนี้เลย ชิน”   เฟย์เอ่ย

“แกรู้จักฉัน?”

“ใช่  มีแต่นายเท่านั้นแหละที่ตอนนี้ไม่รู้ตัวเอง”

“อย่ามาขวางงานของข้า”   ชินที่ไม่มีสติและความคิดเป็นของตัวเองเอ่ยดังลั่นก่อนจะเริ่มเข้าต่อสู้กับเฟย์อีกครั้ง    คลื่นพลังเวทย์ที่ทั้งคู่สาดเข้าใส่กันก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั้งวิหารพร้อมๆกับบาเรียศักดิ์สิทธิที่เริ่มเกิดรอยร้าว

“หึหึ    อย่ามาคิดสู้กับข้าเลย”   ชินเอ่ยหลังจากที่จัดการกับเฟย์จนแทบหมดสภาพพร้อมกับกระโดดมุ่งหน้าไปยังอัญมณีบนยอดเสา        

“อึก!!”   ทันทีที่มือของชินแตะเข้ากับอัญมณีแสงสีขาวสว่างก็แผ่ออกมาและไหลเข้าอัญมณีอย่างมากมาย   ร่างของชินลอยค้างอยู่กลางอากาศโดยมีอักขระสีทองวิ่งวนอยู่รอบๆร่างพร้อมกับร่างของชินที่มีบางอย่างเปลี่ยนไป    ชายน์ที่เห็นเหตุการณ์ตัดสินใจพุ่งกระโดดเอื้อมมือไปคว้าแย่งกลับมาหากแต่เมื่อมือของทั้งสองสัมผัสกับอัญมณีก็เกิดแสงสีขาวทองสว่างวาบขึ้นจนคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างยกมือขึ้นป้องกันแสงสว่างนั่นพร้อมๆ กับที่บาเรียระเบิดออกสนั่นหวั่นไหว

“โอะ!!   อึก!!”    ร่างของคนทั้งสองตกลงกระแทกพื้นโดยอัญมณีนั้นติดมืออยู่กับชายน์

“ชิน”   ชายน์ที่ได้สติก่อนกระโดดออกมาตั้งรับแต่ก็ต้องตกใจกับคนที่กำลังลุกยืนเบื้องหน้า

“เฮ้ย!!”   ชินที่รับรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับตนก็ตกใจเช่นกันหากแต่เขาก็เลือกที่จะตัดสินใจชิ่งหนีออกมาก่อน    บัดนี้อัญมณีในมือชายน์เปล่งแสงสีรุ้งสว่างจ้าอีกครั้งอันเป็นสัญญาณว่าการถ่ายกระแสพลังเวทย์นั้นสำเร็จแล้วและดูว่าจะได้ผลดีกว่าครั้งก่อนๆ นั้นอีกด้วย

“เมื่อครู่นี้เด็กนั่นคือใคร    แล้วทำไมถึงดูละม้ายคลายเธอเลยล่ะชายน์?”    ทันทีที่ชินชิ่งหนีไปท่ามกลางความโกลาหลของผู้คน    ประธานสภาแกรนน่าก็วิ่งเข้ามาหาชายน์พร้อมกับคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่สามารถเข้ามาช่วยได้อีกทั้งเมื่อเห็นว่าชายน์และอัญมณีก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ จึงพอจะเบาใจได้บ้าง

“ถ้าให้ข้าเดา   เด็กนั่นคืออีกคนที่เราสามารถบอกว่าเขาคือหนึ่งในผู้พิทักษ์”   จอมเวทย์อาวุโสกล่าว

“ท่านจะบอกว่า   นั่นคือแฝดของชายน์หรือ?”

“ครับ   เขาชื่อชิน    การถ่ายกระแสพลังเวทย์ครั้งนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันสำเร็จได้ดีเกินกว่าทุกๆ ครั้งนี่เป็นเพราะผมหรือเพราะเขาด้วยกันแน่”   ชายน์เอ่ยอย่างครุ่นคิด

“อย่าคิดมากเลยท่าน   มันอาจเป็นความบังเอิญก็ได้”   จอมเวทย์คนหนึ่งเอ่ย

“แล้วฟินิกซ์หนุ่มนั่นไปไหนแล้วล่ะ   เขามีความเกี่ยวข้องยังไงกับเธอหรือ  ชายน์”   ประธานสภาเอ่ยถาม

“เขาเป็นสัตว์เวทย์ของผมครับ   ตอนนี้เขาก็อยู่กับผมแล้วล่ะ   ปลอดภัยดีครับ”   ชายน์เอ่ยแต่ก็อดห่วงเฟย์ไม่ได้เพราะเฟย์เองก็โดนเล่นงานไม่น้อย

“ยังไงเดี๋ยวท่านอัญเชิญอัญมณีนี่ขึ้นบรรจุยอดแท่นหินอ่อนก่อนเถอะครับ   บัดนี้พิธีเสร็จสิ้นแล้วอย่างน้อยอีก 2 ปีต่อแต่นี้ไปแกรนน่าของเราอยู่ในความปลอดภัยแล้วล่ะครับ”   จอมเวทย์อาวุโสเอ่ยพลางยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นและนี่ยิ่งตอกย้ำว่าชายน์คือผู้พิทักษ์แน่นอน   ส่วนเด็กอีกคนที่โผล่ออกมาในขณะชายน์ทำพิธีที่ได้รับการยืนยันว่านั่นคือแฝดพี่ของชายน์ก็ยังคงสร้างความแปลกใจและงุนงงให้กับหลายๆ คน   ว่าเขาทำเพื่ออะไรแล้วทำไมถึงมีใบหน้าแบบนั้น

 

                                                              ………………………………………….

 

            หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไป    ชายน์ได้รับการยอมรับและรับรองในสถานะของผู้พิทักษ์มากขึ้น   เฟย์ยังคงรักษาตัวและหลายคนที่ยังไม่เจอเฟย์ก็ร่ำร้องอยากเจอเขามาก     ส่วนฮันนี่ก็เตรียมตัวเข้าเรียนในเทอมหน้า

“ไม่น่าเชื่อนะว่าเรื่องมันจะจบง่ายๆ แบบนี้”   มาร์ตินเอ่ย

“มันแค่เริ่มต้นต่างหาก   เราแค่ช่วยแกรนน่าให้อยู่ในความปลอดภัยได้ 2 ปี    แต่มันไม่ใช่ตลอดไปนะ”   นีโอกล่าว

“ว่าแต่เจด้าและเดวี่ออกมาได้ยังไงล่ะ”   เซฟานี่ถามจนฮันนี่และเบลเอ่ยรบเร้าถามซ้ำเพราะอยากรู้ช่นกัน

“ว่าไงเดวี่  ฮ่าๆๆ  เล่าวีรกรรมของเธอสิ”   เจด้าแหย่

“ฉันคงเล่าได้ไม่สนุก    ให้เธอเป็นคนเล่าดีกว่า  ฉันอนุญาต”   เดวี่พูดพลางนั่งจิบชาราวกับเจ้าตัวก็รอฟังด้วยเช่นกัน   เจด้าเพียงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเริ่มเล่าประสบการณ์ในตอนนั้น..

“ในตอนนั้นที่ฉันวิ่งตามชายน์ไป…..”

“อ่าว  ยังไม่ไปอีกหรอชายน์?”   ฉันเอ่ยถาม

“หมอนั่นดูอาการแปลกๆนะ”   เดวี่เอ่ยอย่างสงสัยพร้อมกับเดินตามฉันที่วิ่งตามชายน์ออกไปก่อน

“เดี๋ยวชายน์   นายจะ อึก!!”   สติฉันดับลงทั้งที่ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ   คือเมื่อเดินตามมาจนถึงมุมตึกก็ปรากฏว่ามีของแข็งมาทุบที่ท้ายทอยฉันจนฉันร่วงลงกองกับพื้น

“เจด้า!!    พวกแกเป็นใคร?”   เดวี่ที่เดินตามมาเห็นฉันกำลังร่วงลงพื้นโดยมีชายชุดดำกำลังจะลากร่างฉันออกไปและมีอีกคนที่แสนจะคุ้นตายืนหันหลังให้    แต่เมื่อผู้นั้นหันหน้ามาเดวี่ก็ต้องตกใจ

“ชิน”

“ฉันยกหมอนี่ให้นะ จี”    กล่าวพร้อมกับสร้างมิติมืดมาซ้อนทับคนทั้งหมดเอาไว้ก่อนตัวเองจะหายไป

“ฮ่าๆๆ   ถ้าแน่ก็พาเธอออกไปจากมิตินี้ให้ได้ก็แล้วกันนะ”   กล่าวจบชินก็หายวับไป

“สู้กับผู้ชายค่อยสมศักดิ์ศรีหน่อย”  จีเอ่ย

“แต่ข้าไม่มีเวลามากพอจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่หนะสิ”

“งั้นรีบล้มข้าสิ พี่ชาย  หึหึ”   เอ่ยพร้อมกับหัวเราะท้าทาย    แต่เพียงชั่วพริบตาร่างของชายเบื้องหน้าก็สยายปีกสีดำพร้อมกับขนนับร้อยพุ่งเข้าโจมตีทันที

“เฮ้ย”   บาเรียสีดำถูเรียกออกมากางกั้นการโจมตีของเดวี่อย่างทันท่วงที   เมื่อการโจมตีไม่ได้ผลเดวี่ก็เรียกรัติกาลเพลิงออกมาทันทีจนทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยเปลวไฟสีดำกำลังลุกโชนท่วมหัว

“จัดหนักเลยนะ  หึหึ”   จีเอ่ยพร้อมเริ่มโจมตีบ้าง   ไอเวทย์สีดำแผ่กระจายออกมามากมายพร้อมกับก่อเป็นร่างภูตสีดำร่วมสิบตัวแล้วเข้าจู่โจมเดวี่ทันที    แต่เมื่อภูตเหล่านั่นพุ่งเข้าจู่โจมมันก็สลายและปลิวหายไปทันทีจนจีใจเสีย

“ลม ปีศาจ..”   จีเอ่ยอย่างตกใจเพราะเขาไม่คิดว่าเดวี่จะใช้เวทย์นี้

“ทำความรู้จักข้าให้มากๆ ก่อนนะแล้วค่อยมาสู้กับข้า  หึหึ”  เสียงกล่าวอันเย็นยะเยือกดังก้องไปทั่ว    บางสิ่งกำลังคลืบคลานอยู่เบื้องล่างพร้อมกับรัติกาลเพลิงที่ลุกโชติอีกครั้ง  

“ห๊ะ   อึก!!”  ขณะที่จีกำลังจะถอยตั้งรับก็ต้องตกใจที่จู่ๆ โซ่สีดำเส้นใหญ่พุ่งเข้าพันธนาการที่ขาจนเสียหลักและนั่นทำให้ทำให้ขนสีดำนับร้อยที่เกิดจากการกระพือปีกของเดวี่พุ่งเข้าโจมตีจนร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยขนนกสีดำก่อนสติจะค่อยๆดับวูบลงแต่ก็ทันได้รับรู้ว่าเดวี่เดินมาอุ้มร่างของฉันที่นอนสลบอยู่ฉับพลันทั้งคู่ก็หายวับไปพร้อมกับสติของจีดับลง

“และฉันก็มาตื่นอีกทีที่ห้องพยาบาลอ่ะ  ฮ่าๆๆ”   เจด้าเล่าอย่างออกอรรถรส

“แหม  เธอสลบอยู่นะ   แต่ทำไมเล่าซะเป็นฉากๆ เชียว”   เซฟานี่เอ่ยแซว

“เธอแกล้งรึเปล่าเจด้า”  เชโด้เอ่ยแซวบ้าง

“หึยย  ฉันก็ฟังจากที่เดวี่เล่าในตอนที่ฉันตื่นอ่ะ    เพียงแต่หมอนี่ไม่ยอมเล่าอีกครั้งเอง”  เจด้าแก้ตัว

“ฮ่าๆๆ  ทุกคนต่างพากันหัวเราะกับวีรกรรมของเพื่อนๆ ตนเอง”

“ว่าแต่พ่อหนุ่มฟินิกซ์ที่ออกมาช่วยหน่ะ   เมื่อไรจะพาออกเปิดตัวซะทีหล่ะชายน์”   ฮันนี่เอ่ยแซว

“วันหลังคงได้เจอกันแหละ”   ชายน์เอ่ยยิ้มๆ   ก่อนจะลุกไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านเพราะพวกเขาได้รับสิธิพิเศษให้สามารถปิดเทอมและไม่ต้องสอบปลายภาคเป็นกรณีพิเศษ

“ว่าแต่เราจะได้เรียนไม่ตรงเหมือนคนอื่นๆ จริงๆ หรือ?”  เซฟานี่เอ่ย

“ก็เป็นไปแล้วนี่ไง หึหึ”  ดัชเอ่ยพร้อมหัวเราะในลำคอ

“ฉันดีใจนะที่อะไรๆ มันลงเอยแบบนี้    เพื่อนเราทุกคนปลอดภัยและแกรนน่าก็ปลอดภัย    ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็แล้วแต่ว่าทางผู้ใหญ่เขาจะจัดการอย่างไร ”   เซฟานี่เอ่ย

“ขอบคุณทุกคนนะที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน    ฉันโชคดีที่มีเพื่อนๆ แบบพวกเธอนะ”  เบลเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดวี่ที่วางถ้วยกาแฟลงแล้วลุกเดินออกไปจากวงทันที

“อ้าว   เขากำลังซึ้งไหงนายมาลุกหนีแบบนี้ล่ะเดวี่    ฉันยังไม่ได้พูดอะไรบ้างเลยนะ”  มาร์ตินเอ่ยรั้งเดวี่

“ฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้   จะไปช่วยชายน์เก็บของหน่ะ”   เดวี่เอ่ยแล้วเดินออกไปทิ้งให้เพื่อนๆ ที่อยู่ข้างหลังนั่งหัวเราะและซุบซิบนินทาเขากับชายน์อย่างสนุกสนาน   

หวังว่าเราจะได้สร้างความทรงจำดีๆแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ นะ เพื่อนข้า..  นายน้อย..’

                                                    …………………………จบภาค 1 …………………………….

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา