Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) ภาค2 ปิดเทอมที่หายไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ปิดเทอมที่หายไป

 

แฮ่กๆๆๆ  ที่นี่ที่ไหนกันนะ? ทำไมมืดมิดแบบนี้

ตึก ตึก ตึก…   เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังก้าวตามเข้ามาช้าๆ

แกเป็นใคร?   ตามฉันมาแกต้องการอะไร?’

ตึก ตึก ตึก… ยังคงไม่มีการตอบกลับจากเจ้าของเสียงนั่น

ถ้าไม่หยุดแล้วจะหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ

ตึก ตึก ตึก…..

บึ้มมมม  ลูกบอลไฟขนาดย่อมๆถูกสาดเข้าใส่ต้นเหตุแห่งเสียงนั่นเข้าอย่างจังจนเกิดการระเบิดขึ้นแต่ทว่าเจ้าเสียงนั่นกลับไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น

หึหึหึ   แกไม่มีทางทำอะไรฉันได้หรอก  ชิน ไลท์  อินเดอนาส’   คำพูดที่เยือกเย็นอันแสนทรงพลังนั่นสร้างความกดดันให้ผู้ฟังอยู่ไม่น้อย

ไม่จริง  แกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก  โอ๊ะ!!’   กล่าวพร้อมหันหลังวิ่งหนีแต่ทว่าเพียงไม่กี่ก้าวร่างทั้งร่างก็ทรุดกองอยู่กับพื้นราวกับคนไม่มีกำลังจะก้าวเดิน

ก็บอกแล้วไงว่าแกหนีฉันไม่พ้น   แกคือทาสของฉัน  ฮ่าๆๆ

แก  ทำอะไรกับฉัน?’

ความตายเท่านั้นล่ะที่จะพาแกออกไปจากฉันได้   จำไว้!!’  คำตอบที่ไม่ตรงกับคำถามแต่ก็เพียงพอที่เจ้าตัวจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

กลับไปกับฉันได้แล้ว!!’   ชายผู้นั้นเอ่ยปากสั่งพร้อมกระชากให้ชินลุกขึ้นยืนหมายจะพากลับยังที่ที่ชินออกมา  แต่ทว่า..

เอามือสกปรกๆของแกออกจากเขาเดี๋ยวนี้!!’  เสียงอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้นจนสามารถสร้างความหวังให้ชินได้อีกครั้ง

หึหึ   รักกันดีนะแกสองคนเนี่ย  แต่ก็น่าเสียดายที่ฉันไม่มีเวลาซักนิดสำหรับการล่ำลาของแกทั้งสองหนะสิ’  กล่าวพร้อมกับร่ายเวทย์มืดเข้าใส่ผู้มาเยือนแล้วพาชินหันหลังเดินกลับออกไป

นาย   ช่วยฉันด้วยยย’   ชินตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง

ชินนน’  เสียงผู้มาเยือนตะโกนเรียกหาท่ามกลางกลุ่มหมอกควันพิษสีดำที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วจนเสียงของชินเริ่มไกลห่างออไปทุกทีเช่นกันกับชินที่รับรู้ได้ว่าเสียงของชายผู้นั้นเบาลงๆ จนแทบจะไม่ได้ยินแล้ว

ไม่นะ  ไม่  ช่วยฉันด้วยยยยย!!’ ชินตะโกนเรียกจนสุดเสียง

“เฮือก!!  แฮ่กๆๆ”   ท่ามกลางราตรีอันมืดมิด   ชินสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายแบบนี้เป็นครั้งที่สามแล้วหลังจากกลับมาจากการทำภารกิจแย่งชิงผลึกนั่น

“อึก!! ปวดหัว!!”  และสุดท้ายเขาก็จะปวดหัวรุนแรงเพราะบางอย่างภายในกำลังขัดแย้งกันอย่างหนักนั่นเอง  

วูบบบ   ทว่าระหว่างนั้นกลับมีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเรียกให้ชินได้สติกลับมาอีกครั้ง

“นั่นใคร?”  

พรึ่บ!!   ดวงไฟสีเขียวสว่างวาบขึ้นแล้วลอยเข้ามาช้าๆ ทำให้ชินเรียกลูกไฟออกมาบ้างแล้วเช่นกัน

บึ้มมม  ลูกไฟทั้งสองเข้าปะทะกันจะเกิดระเบิดดังขึ้น

“อ๊ะ!!”  ชินร้องอย่างตกใจพลางกระโดดตีลังกาลงจากเตียงอย่างหวุดหวิดกับที่บางสิ่งลอบเข้าโจมตีจากด้านหลัง

“ฮ่าๆๆๆ  สัญชาตญาณดีทีเดียวนะหนุ่มน้อย”

“ผู้หญิง?”  ชินอุทานเบาๆ

“ออกมา!!”   ชินเอ่ยพร้อมไล่ตอนเงาดำที่เคลื่อนที่หลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว

“ไม่ออกมาแบบนี้ฉันเอาจริงล่ะนะ”  ชินเอ่ยพร้อมกับปล่อยเวทย์แห่งแสงออกมาจนสว่างไปทั่วทั้งห้อง

“อ๊ะ!!”   ทันทีที่แสงสว่างแผ่กระจายออกไปก็ปรากฏร่างของสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังยกแขนป้องแสงสว่างนั่นอยู่มุมห้อง

“นึกว่าจะหนีพ้น  หึหึ   เธอเป็นใคร”   ชิยเอ่ยพร้มกับเปิดไฟในห้องนอนแทนการใช้เวทย์แห่งแสง   และดูเหมือนว่าผู้มาเยือนจะยอมเจรจากับเขาแต่โดยดีแล้ว

“ขอโทษที่บุกเข้ามายามวิกาลและขอแนะนำตัว   ฉันรีฮาร่า   แม่มดดำที่ได้รับเชิญให้มาร่วมภารกิจที่เธอกำลังจะทำ”    แม่มดสาวเอ่ยแนะนำตัว

“ก็เลยถือโอกาสเข้ามาทดสอบฉัน?”   ชินเอ่ย

“ก็ไม่เชิง  แค่ได้ยินชื่อเสียงเธอมาบ้างเลยอยากมาทำความรู้จักก่อน  แบบส่วนตัวหนะ”   ประโยคสุดท้ายแม่มดสาวเข้ามากระซิบที่ข้างหูของชินอย่างมีเลศนัย

“หึหึ   เกรงว่าคนอื่นรู้เข้าแล้วเธอจะลำบากนะ   และฉันก็ไม่ชอบแบบนี้ด้วย”  ชินเอ่ยอย่างไม่แยแสต่อพฤติกรรมเชิญชวนนั้นเท่าไรนัก

“แต่ฉันว่าเธอพลาดแล้วละที่ตอบแบบนี้”   แม่มดสาวเอ่ยพร้อมกับที่ดวงตาของเธอเรืองแสงสีเขียวขึ้นฉับพลันไฟในห้องก็ดับลงทันที………

ก็แค่นี้แหละพ่อหนุ่มน้อยรูปงาม

 

………………………………………………………………

 

          หลังจากที่เรื่องราวในคืนวันประกอบพิธีผ่านไปนับเป็นการทำงานที่พลาดอีกครั้งของชินเพราะเขาไม่สามารถแย่งหรือทำลายผลึกที่ทำหน้าที่แทนอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ของแกรนน่าได้   อีกทั้งนักฆ่าทั้ง3 ต่างก็ได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย   ส่วนเมอร์ดอร์ฟเองก็พลาดจนเป็นเรื่องปกติไปแล้วและไหนจะความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชินอีก   ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นสร้างความหงุดหงิดให้กับผู้เป็นนายอยู่ไม่น้อย  

“ไม่น่าเชื่อว่างานนี้จะไม่สำเร็จซักอย่าง    ขนาดคนที่ข้ามั่นใจว่าสามารถทำได้สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างที่คิด”   ชายผู้เป็นนายหันไปเอ่ยกับชินที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร

“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า    ทำไมถึงเปลี่ยนไปแบบนี้?”   สุดท้ายผู้เป็นนายยังคงสงสัยกับการเปลี่ยนไปของชินที่ครั้งหนึ่งเด็กคนนี้ดูผิวพรรณสดใส  ผมยาวสีเงินกับดวงตาสีเทานั่นดูสะอาดตายิ่งนัก   แต่เมื่อเด็กคนนี้หลับไหลและตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าที่มีแผลเป็นขนาดใหญ่น่าเกลียดจนไม่เหลือเค้าเดิมก็สร้างความพึงพอใจให้แก่ตนไม่น้อย   เพราะแผลเป็นบนใบหน้าและการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าเด็กคนนี้จะอยู่ภายใต้อำนาจของเขาจนกว่าเขาหรือเด็กคนนี้จะตายไปจึงจะถือว่าสิ้นสุดพันธะสัญญา   หากแต่บัดนี้ใบหน้าของเด็กคนนี้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งทั้งสีผมและสีตารวมทั้งแผลเป็นก็หายไป

“อาจเพราะผลึกนั่น”   ชินตอบสั้นๆ 

“เจ้าคงเหนื่อย   ออกไปพักให้สบายก่อนเถอะ   แล้วไปดูอาการของ3 คนนั่นด้วย”   ผู้เป็นนายเอ่ยสั่งชินพร้อมกับชินที่ก้มรับคำสั่งแล้วหันหลังเดินออกไปเงียบๆ

“ว่าไง เมอร์ดอร์ฟ  คาซัส”   ผู้เป็นนายหันไปถามความเห็นของบริวารทั้งสองทันทีหลังจากชินออกไป

“ข้าว่าอาจเพราะพลังในผลึกนั่นและการปะทะกันของเขาสองคนส่งผลกระทบกับชินทำให้บางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงไปหนะขอรับนายท่าน”   คาซัสเอ่ย

“แต่ไม่ต้องห่วงขอรับเพราะพันธะสัญญาเลือดที่ท่านทำไว้กับเขาจะไม่มีทางหายหรือสิ้นสภาพลงแน่ๆ นอกซะจากจะมีการตายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซะก่อนขอรับ”   เมอร์ดอร์ฟเอ่ยสนับสนุน

“ข้ารู้ว่าเขาจะไม่มีทางหนีหรือปฏิเสธข้าได้    แต่ข้าอยากให้พวกเจ้าจับตาดูเขาไว้ด้วย   แม้เขาจะไม่สามารถหนีข้าพ้นแต่เขาจะไม่เหมือนเดิม”

“ได้ขอรับ”  ทั้งสองเอ่ยรับอย่างพร้อมเพรียงกัน

“แล้วงานที่ข้ามอบหมายไปล่ะว่ายังไงคาซัส?”

“ได้ตามบัญชาของนายท่านแล้วขอรับ   เชิญ”   ตอบพร้อมกับเอ่ยเรียกบางคนเข้ามาในห้องใหญ่อันมืดครึ้มที่บรรยากาศชวนกดดันแม้จะเข้ามาพบกับผู้เป็นนายหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังคงรู้สึกเช่นเดิม    ทันทีที่ได้รับการเอ่ยเรียกร่างของสตรีหญิงสาวใหญ่ในอาภรณ์ชุดดำก็ปรากฏกายขึ้นแล้วทำความเคารพผู้เป็นใหญ่ที่สุดในห้องอย่างนอบน้อม

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่แม่มดอย่างข้าได้มีโอกาสมายืนอยู่ในห้องนี้ปราสาทแห่งนี้   ข้ารีฮาร่า เจ้าค่ะ”

“หึหึ   ไม่นึกว่าคนของข้าจะทำงานได้ไวเช่นนี้    เจ้าทำได้ดีนะคาซัส”

“จริงๆ เราชาวแม่มดดำมีมากมายแต่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนเพราะไม่ได้รับการยอมรับจากสามดินแดนของแกรนน่าเท่าแม่มดขาว   และหากท่านต้องการสิ่งใดข้าและชาวแม่มดดำสามารถจัดให้ท่านได้นะเจ้าค่ะ”

“ยังไง”

“ในอตีตที่ผ่านมาพวกเราชาวแม่มดขาวและดำสามารถอยู่ร่วมกันได้เป็นปกติสุข  ตอนนั้นดินแดนของเราสงบสุขร่มเย็นเพราะทั้งแม่มดขาวและแม่มดดำเปรียบเสมือนเป็นสมดุลแห่งเผ่าพันธุ์เราทั้งสอง    เด็กๆ ทุกคนที่ถือกำเนิดขึ้นมาจะต้องมาจากสายเลือดเราสองเผ่าพันธุ์ผสมกันเพื่อเป็นเด็กเลือดผสมทุกคน   เหตุผลคือเพื่อรักษาสมดุลของสายเลือดแม่มดในตัวบุคคลและเพื่อรักษษสมดุลของเราทั้งสองเผ่าพันธุ์    จนกระทั้งจู่ๆ ในปีนั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวได้มีเด็กคนหนึ่งที่ถือกำเนิดมาเป็นเด็กสายเลือดแม่มดดำบริสุทธิ์   พวกนั้นกล่าวหาว่าเราคิดทรยศต่อกฎของแม่มดจึงเกิดข้อพิพาทขึ้น    ต่อมาเด็กคนนั้นเริ่มโตขึ้นและยังสร้างปัญหาต่างๆ ให้แก่พวกเราไม่หยุดหย่อน   เราชาวแม่มดดำมีข้อเสนอให้เผาเด็กนั้นทิ้งหรือยกเด็กคนนั้นให้อยู่ในการดูแลของเราแต่พวกแม่มดขาวซึ่งมันอ้างว่ามันมีคุณธรรมมากกว่าเรามันไม่ยอมให้เราทำเช่นนั้นจึงเกิดการทะเลาะพิพาทขึ้น    เราเปิดสงครามกับพวกแม่มดขาวเพราะเด็ดคนนั้นจนสุดท้ายปัญหาลุกลามใหญ่โตเมื่อเด็กนั่นที่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของเรากลับเลือกจะอยู่กับพวกมัน”  รีฮาร่าเอ่ยอย่างเจ็บแค้น

“แล้วยังไงต่อ”

“เด็กนั่นกลับมาเล่นงานเราชาวแม่มดดำและพวกเราจึงตอบโต้เหล่าแม่มดขาว   จากนั้นดินแดนของเราก็แตกออกเป็นสองฝ่าย    ความสมดุลที่เคยมีมาก็หายไป    สุดท้ายเราจึงแยกย้ายกันไปตั้งดินแดนใหม่ที่มีแต่เราชาวแม่มดดำแล้วทิ้งให้ดินแดนนั้นรกร้างตามที่ชาวแกรนน่าเข้าใจว่าเราทำสงครามกันจนล่มสลาย   และเหล่าแม่มดขาวก็ไปสร้างดินแดนของตนใหม่เช่นกัน   แต่สิ่งที่เรายอมไม่ได้คือแม่มดขาวมีเด็กคนนั้นไปด้วยทำให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตได้อยากปกติสุข    แต่กับพวกเราที่ไม่มีแม่มดขาวเลือดบริสุทธิ์มาอยู่กับเรานั่นทำให้เราอยู่กันอย่างลำบากมาโดยตลอด    เราจะต้องหาเด็กเลือดบริสุทธิ์มาอยู่กับเราเพื่อให้เราชาวแม่มดดำมีชีวิตที่ดีกว่านี้”

“แกรนน่าเข้าใจมาตลอดว่าพวกแม่มดสูญสิ้นไปหมดแล้วจนกระทั่งมีแม่มดปรากฏตัวขึ้นและมันก็เป็นอุปสรรคต่องานของข้า    ข้าอยากให้เจ้ามาช่วยงานของข้า”

“ข้าคิดว่าแม่มดที่ปรากฏตัวนั่นต้องเป็นพวกแม่มดขาวแน่ๆ   งานนี้ข้าพร้อมช่วยท่านเต็มที่เจ้าค่ะ” ฮาร่าเอ่ยอย่างจริงจังเพราะเธอเองก็อยากจะล้างแค้นอยู่ไม่น้อย

…………………………………………………………………..

 

“นี่สรุปว่าเราจะไม่ได้ปิดเทอมเหมือนคนอื่นๆ เขาหรอกหรอ   แล้วเสื้อผ้าที่ฉันอุตส่าห์ขึ้นมาเก็บล่ะ  โธ่..”  ชายน์โอดครวญหลังจากที่กลับออกมาจากห้องของผู้อำนวยการโรงเรียนหลังจากที่พวกเขาเก็บของเสร็จแล้วปรากฏว่ารุ่นพี่มาตามให้พวกเขาเข้าพบกับผู้อำนวยการเป็นการด่วน

“เอาหน่า   ไหนๆก็ไม่ได้สอบเหมือนคนอื่นแล้ว  ถ้าจะไม่ได้ปิดเทอมก็ไม่เป็นไรมั้ง  ฮ่าๆๆ”   มาร์ตินเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“ก็นายได้ปิดเทอมนายก็พูดได้สิ  ชิ!!”  เซฟานี่เอ่ยอย่างหงุดหงิด

“พวกเราเป็นกำลังใจให้นะ   นี่ถ้าเราไปด้วยได้เราไม่ยอมทิ้งพวกเธอให้ไปกันแค่นี้หรอก”  ดัชเอ่ยเพราะเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่สามารถร่วมทำภารกิจนี้ได้

“เราจะเอาใจช่วยและคอยเป็นกำลังเสริมให้นะชายน์”  นีโอกล่าวพลางตบบ่าชายน์เบาๆ

“ก็ดูท่านตาฉันสิ  บอกให้ไปทำภารกิจผู้พิทักษ์ช่วงปิดเทอมเพราะเราไม่สามารถรอเวลาได้   ทางนั้นมีชินอยู่พวกมันก็สามารถตามหาชิ้นส่วนอัญมณีได้เช่นกัน   แล้วไม่ให้เราไปด้วยกันอีกโดยบอกว่าต้องมีคนอยู่เตรียมคัดเลือกเด็กปีหนึ่งที่จะเข้าเรียนเทอมหน้า  ทำไมไม่ให้หออื่นเขาทำหน้าที่นี้ล่ะ”  ชายน์ยังคงบ่นไปเรื่อย

“หออื่นก็มีไปกับนายนะ   อีกอย่างมันต้องมีรุ่นพี่ของทุกหอทุกสายวิชามารอรับรุ่นน้องนะ   รุ่นพี่เราก็ต้องไปฝึกงานและทำภารกิจให้กับทางสภาแกรนน่าอีก”  มาร์ตินเอ่ย

“อย่าไปสนใจเลย  หมอนี่ก็บ่นไปงั้นแหละ”  เดวี่เอ่ยตัดความรำคาญ

“ฮ่าๆๆ  นายพูดตรงไปนะ”  เชโด้เอ่ยแซวน้องชาย

“แล้วเราจะออกเดินทางวันไหนกันล่ะชายน์”

“คืนนี้เลย!!”  ตอบพร้อมกับเดินหนีเข้าครัวไปจนเพื่อนๆพากันหัวเราะกับอาการของเขาอย่างสนุกสนาน

สรุปหมอนี่หงุดหงิด โมโหหรือหิวกันแน่เนี่ย?’

 

 

22.00 .

“พวกนายจะไปกันคืนนี้เลยจริงๆหรอ?”   มาร์ตินเอ่ยอย่างอดที่จะใจหายไม่ได้

“เราร่วมฝ่าฟันกันมาก็หลายงาน   ไม่น่าเชื่อว่างานนี้เราจะไม่ได้ไปกับนาย  อย่างว่าแหละเวทย์แห่งแสงของฉันยังเทียบไม่ได้กับชายน์หากไปก็คงไม่เกิดประโยชน์นัก  แต่ฉันก็เชื่อนะว่าพวกนายสามารถจัดการได้สบายๆ”  นีโอเอ่ย

“อย่าพูดแบบนั้นสินีโอ   นายเก่ง   ฉันเชื่อว่านายมีความสารถมากมายที่เรายังไม่รู้    นายอยู่ทางนี้ก็ยังคงทำหน้าที่แทนพวกเรา   ยังไงก็ฝากด้วยนะ”   ชายน์เอ่ย

“ฝากดูเจด้าด้วยนะ  ดัช”   เชโด้เอ่ยกระซิบกับดัชเพราะงานนี้เจด้าก็ไม่ได้ไปกับเขาด้วยเช่นกัน

“ไม่ต้องห่วง    ฉันจะไม่ปล่อยให้หนุ่มหน้าไหนมายุ่มย่ามกับเจด้าแน่ๆ”  ดัชเอ่ยอย่างอารมณ์ดีพลางตบบ่าเชโด้เบาๆ    เพราะเขารู้ว่าเชโด้คิดยังไงกับเจด้านั้นเอง

“เจด้า    เธออยู่กับหนุ่มๆ หอเรายังไงต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ  พวกนี้อันตราย  ฮ่าๆๆ”   เซฟานี่เอ่ยแซวเพื่อนสาวที่ยืนหน้ามุ่ยเพราะไม่ได้ไปด้วยจนเธอหน้าอดจะหัวเราะออกมาไม่ได้

“ฮ่าๆๆ  ฉันคิดว่าพวกนี้อันตรายน้อยกว่าคนที่ไปนะ”   เจด้าเอ่ย

“เธอใส่ร้ายพวกเรานะเจด้า  เราคนดีจะตายไป”   เบลเอ่ยบ้างจนเพื่อนๆ พากันหัวเราะชอบใจ

“เอาล่ะ   ชายน์  เดวี่  เซฟานี่  เบล เชโด้    เราได้เวลาเดินทางแล้วล่ะ”   ฮันนี่เอ่ยเตือนเพื่อนๆ เพราะการเดินทางครั้งนี้เธอทำหน้าที่เป็นผู้นำการเดินทางนั่นเอง

“จร้า   อย่าพาเราหลงออกนอกเส้นทางแล้วกัน  ยัยแม่มดโลกสวย”   เซฟานี่แซวเพื่อน

“แผนที่ของแม่มดไม่เคยหลอกย่ะ  ยัยเอลฟ์หัวทอง”  และนั่นก็คือการตอบกลับของเพื่อนใหม่ที่ตอนนี้เข้ากับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดีแล้ว    เมื่อทุกคนพร้อมออกเดินทางรถม้าพร้อมเสบียงก็วิ่งเข้ามาจอดยังเบื้องหน้า    ทุกคนขึ้นรถเข้านั่งประจำที่โดยเซฟานี่ ฮันนี่  ชายน์และเดวี่นั่งรถม้าในตู้แรก   ส่วนเชโด้และเบลนั่งอยู่อีกตู้ที่มีเสบียง   เมื่อทุกอย่างพร้อมขบวนรถม้าพร้อมพลขับและทหารบางส่วนก็ออกเดินทางทันที

“เห็นทีฉันต้องฝึกฝนฝีมือใหม่ล่ะ    จะได้ไปกับพวกนั้นได้โดยไม่เป็นภาระใคร”  มาร์ตินเอ่ยพลางมองขบวนรถม้าจนวิ่งลับสุดสายตาไป

“จริงๆ พวกเราก็เก่งนะ    แต่ต้องยอมรับว่าพวกนั้นเขาสุดยอดที่สุดแล้ว  ฮ่าๆๆ”   เจด้าเอ่ย

“อย่าคิดแบบนั้นสิ   เราอยู่เราก็มีภารกิจนะ  อย่าลืม”  นีโอเอ่ยให้เพื่อนไม่รู้สึกน้อยใจไปมากกว่านี้   และนั่นก็ดูจะได้ผลเมื่อแววตาของมาร์ตินเปลี่ยนไปทันที

“ฉันเชื่อว่า  ยังไงซะมันไม่จบแค่งานนี้หรอก    นายเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานอื่นๆ ก็แล้วกัน มาร์ติน”  ดัชเอ่ยพร้อมกับเดินกลับเข้าหอไปเช่นกันกับเพื่อนๆที่พากันแยกย้ายกลับไปนอน

ใช่แล้ว   งานของผู้พิทักษ์มันไม่จบง่ายๆ แค่งานนี้หรอก  หึหึ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา