รักหน่อยคอย (อ่อย) นานแล้ว

-

เขียนโดย Little_finger

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 21.15 น.

  11 ตอน
  1 วิจารณ์
  10.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2563 02.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ตอนที่ 9 มาเล่นให้ใจฉันเป็นแบบนี้ ฉันว่าเธอก็มีอาการหวั่นไหว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“ขอบคุณสปอนเซอร์ หล่อ สปอร์ต ใจดี กทม. คุณมาวินค่ะ”

 

 

          เสียงปรบมือและกรี๊ดกร๊าดของพนักงานสิบกว่าชีวิตดังลั่นห้องคาราโอเกะ หนุ่มหล่อที่ถูกกล่าวถึงลุกขึ้นยืนค้อมศีรษะเล็กน้อย ก่อนเดินไปรับไมค์จากมัทนาผู้ช่วยของเขา

 

 

“วันนี้เป็นการเลี้ยงขอบคุณทุกคนที่ทำงานอย่างหนัก”

 

 

          พูดพร้อมกับส่งยิ้มละลายใจไปทั่วห้อง พุดพธูมองเขาอย่างหมั่นไส้ ไม่คิดว่าเขาจะลงทุนเลี้ยงคนทั้งออฟฟิศ แถมตอนนี้ยังมาทำคะแนนกับพนักงานในออฟฟิศเธออีก

 

 

“ผมสัญญาว่าหากโปรเจคนี้สำเร็จ ผมจะจัดทริปท่องเที่ยวพิเศษสำหรับทีมงานทุกคน เพราะฉะนั้นขอให้ตั้งใจกันอย่างเต็มที่นะครับ”

 

 

          เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มอีกครั้ง แค่ได้ยินคำว่าทริปท่องเที่ยวก็เพิ่มกำลังใจในการทำงานได้เกือบสองร้อยเปอร์เซ็นต์

 

“คุณมาวินร้องเพลงสักเพลงสิคะ”

“จะดีเหรอครับ ถ้าผมร้องกลัวมีคนแถวนี้ใจละลาย” พูดพร้อมกับมองมาทางพุดพธูที่นั่งอยู่เกือบสุดโต๊ะ ร่างบางขมวดคิ้วมองเขา หลงตัวเองชะมัด

 

 

มัทนาคีย์เพลงตามที่มาวินขอ หน้าจอขนาดใหญ่แสดงชื่อเพลงขึ้นมา

 

‘มันคงเป็นความรัก’

 

 

“เพลงนี้ขอมอบให้คนพิเศษในห้องนี้นะครับ”

“ว้าย ใครอ่ะ” คนบนโต๊ะหันมองหน้ากันไปมาด้วยความตื่นเต้น ผู้โชคดีจะเป็นใคร

“คุณพุดพธู ผมมอบเพลงนี้ให้คุณนะครับ”

“กรี๊ดดดดดดดด”

 

 

          เสียงกรีดร้องดังจนพุดพธูแทบหูแตก เหล่าพนักงานหันมาแซวเธอทั้งโต๊ะ ไม่เว้นแม้แต่พะเพื่อนที่เขินแทนจนนั่งม้วนต้วนอยู่บนเก้าอี้

 

 

“ยายพุด เขาร้องเพลงให้แก”

 

 

          เมื่อเสียงทุ้มเริ่มร้องเพลงห้องทั้งห้องเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด เสียงของมาวินนั้นไพเราะจนทำให้หลายคนเคลิบเคลิ้ม เขายังมองเธอไม่วางตา ใบหน้าของพุดพธูเริ่มร้อนผะผ่าว หัวใจที่เคยแข็งแกร่งมั่นคงบัดนี้กลับเริ่มหวั่นไหวไปกับคนตรงหน้า รู้ตัวอีกทีก็เมื่อตอนเจ้าของเสียงนุ่มๆ นั้นย้ายมานั่งข้างเธอ

 

 

“บอกแล้วเดี๋ยวมีคนใจละลาย” ชายหนุ่มยิ้มมองร่างบาง

“คุณร้องเพลงเพราะนะ”

“แล้วชอบมั้ยครับ”

“ก็ดีค่ะ” มาวินยังจ้องเธออยู่ ก่อนเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง

 

“แต่ผมชอบนะ”

“……” พุดพธูมองเขางุนงง

“ผมหมายถึง ผมชอบคุณ”

 

 

 

          เสียงกีตาร์โปร่งบรรเลงเพลงสากลคลาสสิคบวกกับแสงไฟสีส้มสลัว เข้ากับบรรยากาศบาร์ซึ่งตกแต่งแบบยุค 90 โซฟาสีแดงเลือดหมูหันหน้าออกสู่กระจกหน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวทิวทัศน์ทั่วกรุงเทพมหานคร

 

 

          ปกรณ์กับมรุต นั่งจ้องหน้าท่านรองแห่ง kp group ที่เอาแต่เหม่อลอย ศรันย์โทรเรียกพวกเขามาดื่มเป็นเพื่อนในคืนนี้ น้ำเสียงของเขาไม่สู้ดีนัก

 

 

“หนักอกหนักใจเรื่องอะไรวะ นั่งถอนหายใจไปหลายรอบ” ปกรณ์ถามขึ้นทำลายความเงียบ

“กูเจอบัว” ศรันย์ตอบเสียงเรียบ

“บัวไหนวะ”

“บัวบูชา” ศรันย์หันมามองเพื่อนก่อนยกวิสกี้เข้าปาก

 

 

“ใครวะ” มรุตถามแทรกขึ้นด้วยความสงสัย เขาไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน

“แฟนเก่าไอ้รัน”

 

 

          ปกรณ์ขมวดคิ้วเข้าหากัน บัวบูชา ชื่อต้องห้ามที่อย่าเอ่ยให้ศรันย์ได้ยิน ช่วงที่เรียนอังกฤษเขาพอจะรู้เรื่องความรักของบัวบูชากับศรันย์ ทั้งคู่คบกันได้ราวสองปี ก่อนที่บัวบูชาจะหายไปหลังศรันย์โดนซ้อมปางตาย ไม่นานเธอก็มีข่าวแต่งงานกับ วายุ เจ้าพ่อธุรกิจมืดที่ใครก็ไม่ควรข้องเกี่ยว

 

 

ศรันย์กลายเป็นคนเย็นชา ไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาในชีวิตอีก ยกเว้นพุดพธูผู้หญิงคนเดียวที่เขายอมให้อยู่ใกล้

 

 

“แล้วเขากลับมาทำไม”

“กูไม่รู้” ศรันย์ยกสองมือลูบใบหน้าตัวเอง ดวงตาคมจับจ้องออกไปนอกหน้าต่างเช่นเคย

 

 

แม่ของเขาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนั้นหรือบัวบูชาแค่อยากปั่นหัวเขา ปกรณ์แตะไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

“กูหวังว่ามึงจะไม่ลืม ว่าเขาเคยทำให้มึงเจ็บแค่ไหน”

 

 

..........

 

 

“ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วค่ะ” พุดพธูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“แต่คุณดาหลาบอกว่าคุณยังโสด”

 

 

ร่างบางหันไปถลึงตาใส่เพื่อนสาว ดาหลายิ้มให้พุดพธูก่อนรีบหันดูนักร้องมือสมัครเล่น

 

 

“แล้วคุณพะเพื่อนก็บอกว่าเป็นรักข้างเดียว”

 

 

          คราวนี้หันไปค้อนพะเพื่อนที่ยิ้มเจื่อนอยู่ ‘รักข้างเดียว’ คำนี้เสียดแทงไปถึงหัวใจ ใช่แล้วรักข้างเดียว เป็นเธอที่เฝ้าฝันอยู่คนเดียวมาตลอด ดวงหน้าหวานหม่นลงจนคนที่จ้องอยู่สัมผัสได้

 

 

“คุณใจร้ายมากเลย”

“ผมขอโทษ”

 

 

มาวินจ้องเข้าไปในดวงตากลมอย่างค้นหา เขาชอบเวลาเธอยิ้ม ชอบเสียงหัวเราะของเธอ

 

 

“ที่ผมบอกว่าชอบคุณผมจริงจังนะ ผมไม่สนว่าคุณจะชอบใคร ผมรอได้”

 

 

          พุดพธูหลบตาคนตัวสูงที่จ้องเธอไม่วางตา ไม่เคยมีใครมาบอกชอบแบบนี้มาก่อน รู้สึกเขินจนทำตัวไม่ถูก โชคดีที่เหล่าพนักงานผู้กำลังเมากันได้ที่มาลากตัวมาวินไปก่อน

 

 

“เขาก็ไม่เลวนะ แกไม่ลองเปิดใจดูหน่อย”

 

 

          ดาหลายิ้มในหน้า เธอเห็นพุดพธูผิดหวังมาหลายครั้งกับการวิ่งไล่ตามศรันย์ ครั้งนี้หากมีใครที่เข้ามาทำให้เพื่อนสาวมีความสุขได้ เธอก็อยากจะสนับสนุน

 

 

พุดพธูยังไม่ทันได้ตอบอะไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อน ร่างบางขมวดคิ้วมองเบอร์ที่โทรเข้ามาก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ

 

 

“สวัสดีค่ะพี่กรณ์”

‘น้องพุดว่างไหม ช่วยพี่ทีเถอะ’

“มีอะไรเหรอคะ”

‘ไอ้รันมันแย่แล้ว มาที่เพ้นท์เฮาส์มันที พี่ขอร้องน้องพุด เฮ้ย…’ พุดพธูลุกพรวดขึ้นทันทีที่โทรศัพท์ตัดสายไป เธอโทรกลับหาปกรณ์ไม่ติด

 

 

“ฉันกลับก่อนนะ”

“เอ้า…แกจะรีบไปไหน” พะเพื่อนถาม

“มีธุระด่วน ไปล่ะ”

 

 

          มาวินมองตามพุดพธูที่วิ่งออกไป ครั้นจะตามไปก็ถูกบรรดาแฟนคลับรั้งเอาไว้ก่อน จึงทำได้เพียงยิ้มตามร่างบางไป เขาจะจีบเธอเตรียมตัวไว้นะพุดพธู

 

 

          รถสีขาวขับเข้ามาจอดในลานจอดรถส่วนตัวของศรันย์ เธอเคยมาที่เพ้นท์เฮ้าส์ของเขาไม่กี่ครั้งเนื่องจากเป็นพื้นที่ค่อนข้างส่วนตัว ปกรณ์แจ้งพนักงานรักษาความปลอดภัยไว้แล้วว่า แฟน ของศรันย์จะมา เขาจึงปล่อยให้เธอเข้ามาโดยง่าย

 

 

ร่างบางตรงไปกดกริ่งหน้าประตู เกิดอะไรขึ้นกับศรันย์ทำไมปกรณ์ต้องเรียกเธอให้รีบมา

 

“โอ๊ยน้องพุด ขอบคุณที่มาครับ”

“เกิดอะไรขึ้นคะ”

 

 

          พุดพธูมองร่างสูงที่นอนแอ้งแม้งบนโซฟา ดูจากสภาพศรันย์ตอนนี้น่าจะเมาหนัก หญิงสาวหันไปมองปกรณ์ที่ยืนเท้าสะเอวมองเพื่อนรักอยู่

 

 

“ช่วยพี่ทีเถอะ พี่ไม่มีเบอร์คนที่บ้านมันเลย มีแต่เบอร์น้องพุด”

 

“……”

“เห็นสภาพมันแล้ว จะทิ้งไว้คนเดียวก็กลัวมันตาย”

“แล้วจะให้พุดทำยังไงคะ”

“ฝากดูมันหน่อยนะ พี่มีไอ้รุตเมาเละอยู่ในรถอีกคน”

 

 

พุดพธูยังไม่ทันได้พูดอะไร ชายหนุ่มก็รีบร้อนเดินไปทางประตูก่อนหันมาบอกยิ้มร่า

 

 

“น้องพุดอย่าทิ้งมันนะ พี่ไปล่ะ thank you”

 

 

          เขาไปแล้ว อย่างรวดเร็วด้วย ร่างบางหันไปมองคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟา เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมลงมาจนเห็นแผงอก เสื้อของเขาเปียกทำให้ผ้าบางแนบชิดไปกับมัดกล้ามเนื้อ เซ็กซี่ขยี้ใจ พุดพธูลอบกลืนน้ำลายก่อนเดินไปใกล้ๆ

 

 

          เธอควรเปลี่ยนเสื้อให้เขาก่อนหากทิ้งไว้จะทำให้ไม่สบายได้ กลิ่นวิสกี้กรุ่นออกมาจากกายแกร่ง เขาคงเมาจนทำเหล้าหกรดตัว ทำไมต้องดื่มหนักขนาดนั้น

 

 

          ร่างบางพยายามบังคับมือไม่ให้สั่นเมื่อเริ่มทำการปลดกระดุมเสื้อของเขาออก หากมีใครมาเห็นคงคิดว่าเธอคงกำลังทำอะไรมิดีมิร้ายเขา พุดพธูยิ้มกรุ้มกริ่มขณะปลดกระดุมของเขาทีละเม็ด

 

 

“จะทำอะไร”

 

 

          พุดพธูตกใจกับเสียงเขารีบดึงมือกลับ แต่กลับถูกร่างสูงดึงให้เธอล้มลงมาทาบทับบนตัวเขา พุดพธูใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา ใบหน้าอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ แขนแกร่งโอบเอวเธอไว้หลวมๆ ศรันย์ปรือตาขึ้นมองเธอ

 

 

“ใครน่ะ” เขาคิ้วขมวดสงสัย

“พุดเองค่ะ”

“พุดไหน” พุดพธูยู่หน้าโมโห ปัดโธ่ เธออุตส่าห์รีบขับรถมาหา ดันมาถามพุดไหนงั้นเหรอ

 

 

ร่างบางพยายามดันตัวออกจากอ้อมแขนแต่เขากลับกอดเธอแน่นขึ้น

 

 

“พุดไหนล่ะ”

“พุดไหนก็ช่างเถอะค่ะ”

“พุดคนสวยเหรอ” คนเมาส่งยิ้มหวานให้พุดพธู หญิงสาวเขินจนหน้าแดงกับคำพูดเล็กน้อยของเขา

 

 

          ใบหน้าคมสันซุกไซร้ซอกคอระหงสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมสลวย พุดพธูซุกหน้าลงบนไหล่กว้างเมื่อมือใหญ่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง ศรันย์กระซิบแนบหูเธอแผ่วเบา

 

 

“ทำไมไม่มาหาเลย รู้ไหมพี่คิดถึง”

 

 

...........

 

 

 ปล. ป้องกันความสับสน ในชีวิตพี่รันมีคนชื่อรุตสองคน คนแรกศรุต พี่ชาย และอีกคน มรุต เพื่อนในกลุ่มค่ะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา