รักหน่อยคอย (อ่อย) นานแล้ว
เขียนโดย Little_finger
วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 21.15 น.
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2563 02.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) เธอคือความฝัน ในใจฉัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ทำไมไม่มาหาเลย รู้ไหมพี่คิดถึง”
พุดพธูย่นคอเมื่อคนตัวใหญ่ใช้ไรหนวดถูไถไปตามลำคอเธอ ซุกไซร้คลอเคลียจนคนด้านบนรู้สึกวาบหวาม มือหนาสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อยืดลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอ
“อืม”
ศรันย์กระชับแขนแกร่งแน่นขึ้นจนเนินนุ่มสองข้างแนบสนิทไปกับแผ่นอกของเขา เสียดสีกันทุกครั้งที่เธอหายใจเข้าออก พุดพธูรู้สึกหายใจติดขัดเมื่อมือหนาเลื่อนต่ำลงไปขยำสะโพกนิ่ม ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียแก้มใสของเธออีกสักพักก่อนนิ่งไป
พุดพธูผงกศีรษะขึ้นมองเขา ศรันย์กำลังหลับตาพริ้มจังหวะหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
หลับซะงั้น
ร่างบางยันตัวลุกขึ้นนั่งมองเขา ถอนหายใจอย่างเสียดาย ปล้ำเสียเลยดีไหม … พยายามสลัดความคิดร้ายออกจากหัว ค่อยๆ บรรจงถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออกอย่างเบามือ เดินเข้าไปในห้องน้ำกลับมาพร้อมกับกะละมังและผ้าขนหนูผื่นเล็ก
พุดพธูเช็ดเนื้อเช็ดตัวเพื่อให้เขานอนสบายมากขึ้น ก่อนเข้าไปเอาผ้าห่มผืนใหญ่ในห้องนอนมาคลุมให้ชายหนุ่ม ร่างบางทรุดนั่งลงบนพื้นข้างโซฟา พิศมองใบหน้าหล่อเหลาที่หลับตาอยู่ ความทรงจำเก่าๆ ก็พรั่งพรูขึ้นมา
“ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ จะหาแล้วน้า” เด็กหญิงตัวเล็กป้อมในชุดกระโปรงฟูฟ่องพยายามเดินสำรวจทุกซอกทุกมุมภายในสวนของคฤหาสน์กีรติโภคิน
พุดพธูวัยสี่ขวบเป็นเด็ก ‘ดื้อ’ ศรันย์บอกไว้อย่างนั้น
พุดพธู อัศวกุล เป็นลูกสาวคนเดียว ของธนากับพราวพรรณ อัศวกุล ด้วยความที่ไม่มีพี่น้องร่วมท้องแม่ให้เล่นด้วย ภาระจึงตกอยู่กับศรุตและศรันย์ ที่ต้องคอยเป็นเพื่อนเล่นให้พุดพธูมาตั้งแต่เกิด
ศรุตอายุมากกว่าพุดพธู 6 ปี เด็กชายรักพุดพธูเหมือนน้องสาวแท้ๆ เขาเอาใจยายน้องสาวตัวแสบเสมอทั้งยังคอยเป็นคนช่วยเหลือเวลาพุดพธูเวลาถูกศรันย์แกล้ง ส่วนศรันย์เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพุดพธู นิ่งเป็นหลับขยับเป็นแกล้ง
เด็กหญิงพุดพธู วิ่งไปทั่วสวนแต่กลับไม่เจอแม้แต่เขาของพี่ชายทั้งสอง เดินหาจนเหนื่อยจึงมาหยุดพักใต้ต้นมะม่วง
“โอ้ย!” มะม่วงลูกเล็กเท่านิ้วโป้ง ตกใส่หัวเด็กน้อย พุดพธูรีบเงยหน้าไปมองก็พบศรันย์นั่งยักคิ้วอยู่บนกิ่งมะม่วง
“โป้งพี่รัน”
“โป้งอากาศไม่นับ ต้องโป้งให้โดนตัวสิ” พูดไปก็ทำหน้าล้อเลียนพุดธูที่กำลังเบะปากจะร้องไห้
เด็กป้อมวิ่งไปที่โคนต้นไม้พยายามปีนป่ายเท่าไรก็ไม่สำเร็จ ศรันย์หัวเราะลั่น โยนมะม่วงเล็กใส่พุดพธูอีกหลายครั้ง ยายเด็กทำแก้มป่องมองค้อนเขาหนึ่งทีก่อนวิ่งหนีหายไป เห็นดังนั้นเด็กตัวแสบจึงเอนหลังพิงกิ่งมะม่วงอย่างสบายใจ สมน้ำหน้า…เพราะวันนี้ยายพุดพธูมา เขาจึงอดไปเล่นกับเพื่อนๆ ข้างบ้าน
“เอาเลยพุด” เสียงศรุตปลุกน้องชายจากภวังค์
เด็กชายมองลงไปใต้ต้นไม้ พบศรุตกับพุดพธูยืนอยู่ ในมือของยายเด็กปีศาจถือสายยางสีเขียวอยู่ พุดพธูหัวเราะดังลั่น ก่อนศรุตจะช่วยจับมือน้องสาวฉีดน้ำจากสายยางใส่ศรันย์
“อย่านะ รุต! เราเป็นน้องนายนะ”
ศรุตกับพุดพธูไม่สนใจฉีดน้ำใส่เขาไม่หยุด จนศรันย์ต้องยกมือยอมแพ้แล้วปีนลงมาจากต้นมะม่วงเอง เขามองค้อนพี่ชาย ก่อนตวัดมาจ้องยายเด็กพุดพธูที่ยิ้มมองเขาตาใส
นิ้วโป้งป้อมแปะลงที่แขนของศรันย์ “โป้งพี่รันได้แล้ว พี่รันหนีพุดไม่พ้นหรอก”
เวลาผ่านไปศรันย์ยังเป็นพี่ชายจอมแสบของพุดพธูเสมอ ถึงจะชอบแกล้งเธอแต่ก็คอยสอนยายน้องหลายอย่าง พี่ชายทั้งสองของเธอเป็นเด็กหัวดี คิดเลขเร็วเหมือนมีเครื่องคิดเลขในสมอง แต่พุดพธูเองชอบทางศิลปะมากกว่า รางวัลจากการวาดรูปจึงกองเต็มตู้ที่บ้าน
ศรุตไปเรียนต่ออังกฤษตั้งแต่จบมัธยมปลาย หน้าที่เพื่อนเล่นของพุดพธูจึงกลายเป็นของศรันย์โดยปริยาย ถึงโตขึ้นทั้งสองจะเริ่มห่างกันไป แต่ยายพุดพธูก็แวะเวียนมาเล่นที่บ้านมาออดอ้อนคุณย่าอรดีของพวกเขาเป็นประจำ
คุณหญิงอรดีจะมาพักผ่อนตากอากาศที่บ้านสวนปีละครั้ง บ้านสวนริมคลองพื้นที่กว่าสิบไร่ปลูกไม้ผลหลากหลายชนิด ตัวบ้านเป็นบ้านทรงไทยยกพื้นสูง ใต้ถุนบ้านปูกระเบื้องใช้สำหรับทานอาหารและนั่งเล่นพักผ่อน ปีนี้ตรงปิดเทอมหน้าร้อนพอดี จึงชวนกึ่งบังคับศรันย์ให้มาเป็นเพื่อนเล่นหลานรักนอกไส้ที่มาด้วย
ศรันย์นอนเล่นเกมอยู่ใต้ถุนบ้าน ไม่ได้ตื่นเต้นกับบ้านสวนของคุณย่าเพราะเขามาเกือบทุกปี ต่างจากพุดพธูยายคุณหนูกรุงเทพฯ ที่มาเป็นครั้งแรก กิจกรรมในบ้านสวนจึงมีร้อยแปดพันอย่างสำหรับเธอทั้งเก็บผลไม้ ปลูกต้นไม้ ปั่นจักรยาน ล่าสุดเล่นน้ำคลอง
“ช่วยด้วยค่ะ! คุณพุดจมน้ำ!” เสียงตะโกนของนมแจ่ม ทำให้ศรันย์โยนเกมทิ้งแล้วรีบวิ่งไปที่ท่าน้ำทันที
นมแจ่ม และสาวใช้อีกคนยืนทำอะไรไม่ถูกที่ท่าน้ำ เขาเห็นเพียงห่วงยางสีดำที่ลอยอยู่ในคลอง “ไปตามคนมาช่วยเร็ว” เด็กหนุ่มวัย 17 ปี หันมาสั่ง ก่อนรีบถอดเสื้อยืดกระโจนลงน้ำไป
พุดพธูว่ายน้ำไม่แข็ง พอเอาตัวรอดได้ แต่ครั้งนี้ขาของเธอถูกเถาไม้ใต้คลองพันเอาไว้ พยายามสะบัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุด อากาศหายใจเริ่มลดน้อยลงไปทุกที ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจ เด็กสาวพยายามดิ้นรนออกแรงสะบัดขาอีกครั้งแต่ไม่เป็นผล
ร่างกายเริ่มอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรง มองเห็นภาพตรงหน้าเลือนรางลงเรื่อยๆ ก่อนที่สติจะดับวูบไป เธอเห็นเงาของใครคนหนึ่งที่ผิวน้ำ เขากำลังใกล้เข้ามาทุกที
‘ศรันย์’
สามวันแล้วที่เขายังไม่ตื่นขึ้นมา หลังจากศรันย์ช่วยเธอขึ้นมาจากคลอง ตัวเขาเองกลับเป็นตะคริวแล้วจมหายไปแทน คนงานที่สาวใช้ตามมาช่วยพุดพธูในตอนแรกต้องเปลี่ยนไปงมหาศรันย์แทน ไม่มีใครโทษพุดพธูทุกคนบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ
พุดพธูยืนมองศรันย์ผ่านกระจกนอกห้อง ICU ใบหน้าของเขาซีดเซียว ดวงตาซุกซนที่คอยแกล้งเธอบัดนี้กลับปิดสนิท มีเพียงเสียงเครื่องช่วยหายใจดังทำลายความเงียบ ท่อช่วยหายใจจะทำเขาเจ็บมากไหม น้ำตาหยดแล้วหยุดเล่าไหลรินลงข้างแก้ม
“ไปหาพี่เขาสิลูก” คุณหญิงอรดีลูบหลังเด็กสาวแผ่วเบา
“พุดไม่กล้าเข้าไปค่ะ”
เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่ เป็นเพราะเธอศรันย์ถึงต้องเป็นแบบนี้ คนที่นอนอยู่ตรงนั้นคงเป็นเธอเสียมากกว่า
“พี่เขาตั้งใจช่วยพุดนะลูก ไม่ใช่ความผิดของหนู เข้าไปหาพี่เขาเถอะลูก” ประภาศิริบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอเองก็หัวใจแทบสลายทุกครั้งที่มองเห็นสภาพลูกชายคนเล็ก
พุดพธูเข้าไปภายในห้องสี่เหลี่ยม เดินไปนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย มือเล็กกอบกุมมือของเขาไว้แน่น มือของศรันย์เย็น
‘พุดมองพี่ ไม่เป็นไรแล้ว’ พุดพธูแทบสิ้นสติแล้วตอนที่ศรันย์ดึงเธอขึ้นมาบนผิวน้ำ
‘พี่สัญญาพี่จะปกป้องพุด ไม่ต้องกลัว’ รอยยิ้มสุดท้ายที่เขาส่งให้เธอนั่นทั้งอบอุ่นและมั่นคง
“พี่รันตื่นขึ้นมาได้ไหมคะ พุดขอร้อง”
หยดน้ำตาหลั่งรินลงบนมือของศรันย์ ปลายนิ้วยาวยกขึ้นมาซับน้ำตาของเธอ พุดพธูสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของเขา เมื่อร่างเล็กเงยหน้ามองก็พบว่าเขาจ้องมองเธออยู่ นัยน์ตาของศรันย์กำลังส่งยิ้มให้เธอ
พุดพธูจัดแจงผ้าห่มบนตัวศรันย์ให้เข้าที่ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อุ่นลง ก่อนเดินไปปิดไฟ
“คืนนี้พี่รันนอนโซฟาก่อนนะคะ พุดแบกไปนอนบนเตียงไม่ไหว”
ร่างบางเดินเข้าไปในห้องนอนของศรันย์คืนนี้เธอขอยึดห้องนอนเขาก็แล้วกัน
……………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ