ห้าดรุณี (ลงเว็บนี้กับเว็บเด็กดี)
-
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.21 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
6,447 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562 21.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บทที่4 เรื่ิองที่ไม่สบายใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ค่ายทหารจักรพงษ์ตอนนี้มีพลทหารหลายคนมาประจำการอยู่ในค่าย ครูฝึกยศชั้นประทวนคอยฝึกความเข้มแข็งให้แก่พลทหาร ในห้องทำงานของพันตรีหม่อมหลวง ธนากร นภาธรตอนนี้กำลังตรวจเอกสารที่พลทหาร จักราวุฒิ พิมพ์เอกสารมาให้ตน แต่ตนก็ดูเหมือนไม่สบายใจเรื่อง คำสั่งโยกย้าย แต่งตั้ง เสียมากกว่า ลูกสาวของนายทหารตอนนี้กำลังเล่นแบล็กเบอร์รี่คุยกันถูกคอจนผู้พันกรต้องปวดหัวกับงาน พิมพ์เพื่อนสนิทของพลอยใสชอบเล่นBB และคอยแจกID Pinให้หนุ่ม พิมพ์ชอบเล่นหวยสลากกินแบ่งรัฐบาลจนเป็นอาจินจนพลอยใสบอกให้ซื้อน้อยๆ หน่อยก็ยังเอ็ดตะโรใส่อีกฝ่าย
“พิมพ์ แกทำไรหรอ”
“เรากำลังซื้อเลขอยู่นะแก เห็นในข่าวนี่สิ เจ้าของร้านทองถูกlotteryสิบล้านบาท แจ้งตำรวจว่าถูกจริงๆ”
“แกก็เลยซื้อเสี่ยงโชคใช่ปะ”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
“แกซื้อเลขไรอะ”
“40 04 ซื้อกลับนะ คนเราจะถูกไม่ถูกมันขึ้นกับดวงนะเว้ยพลอย”
เสียงหวานของอีกฝ่ายเงียบลงก่อนมีทหารหนุ่มเดินมา
“สวัสดีครับน้องพิมพ์คนสวย”
อีกฝ่ายหันหน้ามาทางคนเอ่ยทักทายเขาเป็นทหารหนุ่มรูปร่างสูง กำยำ ทหารหนุ่มคนนี้อายุสามสิบห้าแล้ว
“พี่บอย”เสียงหวานเอ่ย
“สวัสดีครับน้องพลอยใส คนน่ารัก”
พลอยใสทำสีหน้าเหมือนคนเบื่อโลกโดยที่ไม่สนใจใคร
“สวัสดีค่ะพี่บอย”
“จริงสิ พักนี้นายพันกรดูเครียดๆเรื่องงาน น้องพลอยโกรธเขาหรอที่เขาไม่มา”ทหารหนุ่มเอ่ยถามขึ้น
“เปล่าค่ะพี่บอย พลอยไม่สบายใจเรื่องการเงินอยู่นะคะ หลังพ่อเสียพลอยเองลำบากเรื่องเงินไม่พอใช้แต่พลอยจะสู้นะคะพี่บอย”พลอยใสบอก
พร้อมสูดลมหายใจฟอดใหญ่
“พ่อพี่ก็เสียไปยังเด็กเหมือนกันไม่คิดเลยว่าจะโตมาจะเป็นทหาร”
พลอยใสมองหน้าอีกฝ่ายตอนนี้เขาดูเข้มแข็งเคยผ่านเรื่องเลวร้าย
ณ บ้านตากอากาศหัวหินของหญิงยอ ปิ่นกำลังเดินเล่นชายหาด มองออกไปเห็นทะเล เธอเดินอยู่ท่ามกลางโดดเดี่ยว และในขณะนี้มีคนเรียกตามหลัง
“ปิ่น ปิ่น รอฉันด้วยสิ”
ปิ่นหยุดเดินหันมาทางอีกฝ่ายตามไล่หลังมา
“อ้าว กานต์เธอมาเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหรอ”
“ใช่ ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ ฉันว่านะโลกเราร้อนขึ้นแน่ๆเลย”
“ชั่งมันเถอะ กานต์เธอชอบมาเดินเล่นหรอ”กานต์สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะตอบ
“ก็ชอบนะ ชอบดำน้ำด้วยชีวิตเรานี่ท้าทายหน่อยสิมันคุ้มนะ”
“อากาศที่นี่ตอนเช้าๆ สดชื่นมากๆ เลยเนอะ”
“ใช่นะ แล้วพี่กรสบายดีไหมละยัยปิ่น”กานต์ถามอีกฝ่าย
“ก็สบายดีนะพี่เขาได้ยศพันตรีด้วย เห็นว่าเครียดเรื่องงานอยู่นะจริงสิ กานต์ทำไมไม่ไปเรียนหมออนามัยละเห็นพี่ชายเธอเป็นหมอนี่เลยเสนอความคิด”ปิ่นตอบเรียบพร้อมผ่อนลมหายใจ
“แม่เรานะสิ อยากให้เราเป็นหมออนามัย เราเองคงไปเรียนจนจบสี่ปีโน่นแหล่ะถึงรักษา”
หมอหนุ่มเดินมาตามที่สองสาวคุยกันอยู่
“คุยเรื่องอะไรกันอยู่หรอสองสาว”หมอเล็กเอ่ยขึ้น
“พี่หมอเล็กคือกานต์คุยเรื่องเรียนหมออนามัยอยู่ค่ะ”กานต์บอก
“พี่แนะนำนะว่าให้เรียนแถวๆ ใกล้บ้านก็ได้”
“กานต์จะเรียนหมออนามัยจะได้ช่วยพี่เล็กหาเงินไม่ต้องให้พ่อแม่ลำบากใจ”
เล็กตบไปที่บ่าของน้องสาวส่วนน้องสาวของตนกำลังเล่นบีบีคุยกับเพื่อน เพื่อนของเธอนั้นต่างไปทำงานของตนเอง เล็กยิ้มให้กับน้องสาวก่อนเดินกลับมายังบ้านพัก
สองสาวมองเหลียวหลังไปทางหมอเล็ก พร้อมเดินไปอีกทางของตน
ทหารช่างประจำของกองร้อยกำลังซ่อมบำรุง ทหารแต่ละนายก็เดินสวนกับพันตรีหม่อมหลวงธนากรพร้อมทำความเคารพธนากรแต่กรไม่สนใจเขาเดินบึ่งตรงไปยังห้องผบ ซึ่งตอนนี้ผบยังนั่งอยู่บนโต๊ะ
“ท่านครับ ผมเอาเอกสารมาให้ครับ”ธนากรยื่นเอกสารมาให้ผบ.
ผบ.นั่งตรวจทานอ่านเอกสารคำสั่งด่วนก่อนเอ่ยถามอีกฝ่าย
“พลทหารของเรามีกี่นาย”
“ทั้งหมดมี350นายครับท่าน”ธนากรตอบอย่างฉะฉาน
“งั้นคุณไปเรียกพลทหารในค่ายของเรามาให้หมดเข้าใจไหม”
“ทราบครับ”ธนากรตอบอย่างเสียงดังก่อนตะเบ๊ะทำความเคารพก่อนเดินออกไป
ธนากรส่งเสียงร้องเรียกพลทหารทุกนายและแจ้งข่าวสองเรื่องคือ เรื่องขอกองกำลังไปรักษาความสงบในสามจังหวัดชายแดนใต้และอีกเรื่องคือป้องกันม๊อบชุดแดงที่โค่นล้มรัฐบาล ในขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว สายฝนโปรยกระหน่ำเพื่อล้างความร้อนตอนในช่วงฤดูร้อนที่แห้งแล้ง ธนากรชอบฤดูฝนมากๆเพราะดูสดชื่นไม่ร้อนอบอ้าวเปรียบเหมือนเตาอบขนม ผบมองผ่านหน้าต่างเห็นพลทหารทุกนายกำลังตั้งใจฟังอีกฝ่าย พอธนากรบอกข่าวให้แก่พลทหารแล้วก็แยกย้ายพร้อมชำเลืองมองมาที่นาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลา สิบเอ็ดนาฬิกาห้าสิบนาที เหลืออีกไม่กี่นาทีเขาจะไปอุดหนุนร้านของแม่ค้าสาวคือ พลอยใสเขาเหลือบมองไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ก่อนจะปิดแฟ้มเอกสารและเดินไปยังร้านของแม่ค้า แม่ค้าสาวแหงนมองมาอีกฝ่ายก่อนกล่าว
“วันนี้จะรับอะไรดีคะคุณ”
ผู้พันกรมองเมนูอาหารก่อนเอ่ยกับแม่ค้าสาวที่ตอนนี้ทนร้อนแต่ใบหน้าของเธอยิ้มให้อีกฝ่าย
“วันนี้เอากะเพราไก่ไข่ดาวสุกๆ พิเศษ จานหนึ่ง”กรสั่งอาหารให้กับแม่ค้าก่อนเดินไปยังโต๊ะเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่ามีใครไลน์มา เขาเปิดดูรูปของปิ่นที่กำลังไปเที่ยวทะเลที่อีกฝ่ายส่งมา
“ยัยปิ่นนี่ตั้งแต่พี่ยุ่งงานก็ชวนกันไปหัวหินเลยเนอะยัยเฉิ่ม”
กรเลื่อนลงมาเห็นผบ.ทบ ไลน์สั่งมาว่า ให้ตรวจงานตอนเวลาบ่ายสองตอนนี้เจ้าตัวดูเครียดมากๆกับงาน ในขณะที่พลอยใสกำลังทำกะเพราให้อีกฝ่ายเขาทำจนเสร็จแล้วมาเสริฟอีกฝ่ายที่โต๊ะ
“ผู้พันกรเป็นอะไรหรอคะ วันนี้ถึงดูเครียดๆ”
“วันนี้เครียดกับงานอยู่นะพลอย”กรบอกให้แห่แม่ค้าสาว
ในบรรยากาศตอนนี้ฝนตกอีกรอบ สายฝนตกลงมาสลับแรงและปอยๆเสียงในตอนนี้เงียบ ส่วนแม่ค้าสาวก็คุยกับแม่ของตนในท่ามกลางเสียงฝนที่ตกลงมา
‘ทั้งสองอยู่ในความเงียบสงัดโดยไม่พูดใดๆ อีกฝ่ายได้แต่เลื่อนรูปในโทรศัพท์ที่น้องสาวของตนส่งมาในไลน์’
“นั่นใครหรอคะ”พลอยใสเอ่ยถาม
“น้องสาวของผมเองเขาไปเที่ยวที่หัวหิน เป็นบ้านน้าผม”
“หรอคะแกคงจะคิดถึงคุณมากๆเลยนะคะ”พลอยใสถามอีกฝ่าย
“ครับ ปีนี้ฝนตกไม่หยุดเลย เห็นได้ยินมาว่าปรากฎการณ์ลาบีญ่าเข้ามาบ้านเราแล้วละมั๊งครับ”กรบอก
แม่ค้าสาวก็พยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะเช็ดโต๊ะพลางๆเผื่อมี ลูกค้าเข้ามาในร้านสักพัก ผู้พันเกมส์ ก็เดินเข้ามา
“ผู้พันจะเอาอะไรหรอคะวันนี้”เสียงหวานของแม่ค้าเอ่ยขึ้น
ผู้พันเกมส์ดูในเมนูอาหารก่อนจะเอ่ยสั่ง
“เอาสุกี้ทะเล พิเศษ1 จาน”
ผู้พันเกมส์เดินมานั่งโต๊ะเดียวกันกับผู้พันกรนั่งอยู่จึงแวะเอ่ยกับเพื่อนร่วมงาน
“สวัสดีครับผู้พันกร”ผู้พันเกมส์ทักทาย
“สวัสดีครับคุณเกมส์มาทานร้านนี้เป็นประจำหรอ”กรเอ่ยถามอีกฝ่าย
“เปล่าครับ วันนี้ผมไม่ได้ไปกินข้าวนอกบ้านผมนะอยากมีเรื่องปรึกษาคือเรื่องการโยกย้ายพลทหารนะครับ คุณกรจะคัดค้านหรือจะบริหารยังไงครับ”
“ผมคิดว่า คงให้พลทหาร20นายไปคุ้มกันและให้ไปลงไปดูแลความสงบละกันนะ”
“ก็ดีนี่ ผมก็คิดเหมือนกัน งั้นผมไปก่อนนะครับ”
ผู้พันเกมส์ลุกขึ้นก่อนส่งยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมเดินจากไปปล่อยให้กรนั่งคิดหาวิถีทาง
บ้านพักตากอากาศของหญิงยอตอนนี้ต้อนรับแขกกันอย่างล้นหลาม เจ้าขจรศักดิ์เดินตรงมายังทั้งสองคนเขาพูดภาษาถิ่นทางภาคเหนือ
“อี่น้องสองคนมาอู้อะหยังกั๋นอยู่หม่องนี้”
ทำเอาสองสาวอึ้งและไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร
“ขอแปลเป็นภาษาไทยหน่อยค่ะเจ้าขจร”
เจ้าขจรทำเสียงฮึดฮัดก่อนเอ่ย
“น้องๆสองคนมาคุยอะไรกันอยู่ตรงนี้หรอ”
ปิ่นเอ่ยตอบพร้อมทำสีหน้าฝืนยิ้ม
“คุยเรื่องยัยกานต์นะคะเจ้าขจร ตอนนี้กานต์เขาไม่มีงานทำเลยค่ะ เจ้าขจรคะเจ้าทำงานอะไรหรอคะ”
เจ้าขจรศักดิ์มองหน้ากานต์ก่อนเอ่ย
“ฉันไม่ได้ทำงานพอดีทรัพย์สมบัติจากเจ้าคำฟ้าอยู่พอสมควร ขาดแต่แม่ศรีเรือนคนรู้ใจที่เอาไว้ผลิตทายาทรุ่นต่อไปแค่นี้พอใจแล้ว”
กานต์มณีแขวะพร้อมทำท่าอยากอ้วก
“กานต์แกแพ้ท้องหรอ”
“บ้า ใครจะกล้าไปท้องกับเจ้าขจรละ ระวังเถอะฟ้าจะมา”กานต์ประชด
พอสิ้นเสียงฟ้าก็เดินตรงมายังเจ้าขจรยืนอยู่พร้อมเอามือควงแขน
“พี่ขจรมาอยู่ตรงนี้เองหรอคะ”
“ใช่ น้องฟ้าพี่ว่าน้องไปรอพี่ตรงโน้นเลย”
ฟ้ามองหน้าสองสาวอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่เจ้าขจรศักดิ์จะลากเธอไป
“เห้อแฟนกันก็แบบนี้แหล่ะ อย่าไปสนใจเลยนะยัยกานต์”
กานต์เองก็มองเจ้าขจรอย่างไม่หายด้วยอีกใจยังเป็นห่วง
“ไปสิกานต์”
“ค่ะๆ”
เจ้าขจรศักดิ์มองตามหลังก่อนจะหันมาคุยกับฟ้า
“อี่น้อง ไปหื้ออะหยังเขา”เจ้าขจรดุอีกฝ่าย
“บ่ได้เฮ็ดอะหยัง แม่หญิงพวกนั่นเปิ้นเป๋นไผ๋ก่บ่ฮู้”ฟ้าบอกพร้อมไม่สบอารมณ์
“งั้นอ้ายไป๋ก่อนเน้อ”
เจ้าขจรเดินจากไปทิ้งให้ฟ้าอยู่เพียงลำพังคนเดียว
ณ วังนภาธร ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในวังนอกจากโอม คนสวนกำลังตัดแต่งต้นไม้ ท่ามกลางแสงแดด ม.ล.แม้นวาดก็เดินออกมาทำเสียงเอะอะโวยวาย
“นี่นาย คนในวังนี้หายไปไหนหมด ทำไมมีแต่พวกทาสอยู่ละ”
โอมหยุดชะงักก่อนหันมาดู
“คุณผู้หญิงขอรับ คนในวังนี้เขาไปเที่ยวที่หัวหินโน่นครับ เขาไม่อยู่หรอก”
“นี่แล้วเขาจะกลับมาตอนไหนยะ”
“ไม่ทราบนะครับคุณทำไมไม่ถามเขาเอาเองละ”
แม้นวาดชี้หน้าโอมก่อนเดินออกไป
โอมยืนงงกับท่าทีของแม้นวาดเขาเองเคยคิดนะว่าอยากเอาเธอมาเป็นภรรยา
“คุณวาดนี่ คนอะไร สวยก็สวยเดี๋ยวจับทำเมียซะเลย” โอมบ่น
บ้านพักตากอากาศหัวหินของหญิงยอกานต์มณีกับภาวินีกำลังเดินมา พร้อมพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของคุณหมอเล็กและลง
มาถึงเรื่องผู้พันกร ทั้งสองคนถึงกับยืนยิ้มเรื่องผู้พันกร ปิ่นนั้นเคยเห็นหน้าของว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเองแล้ว
“ปิ่น ข่าวคราวพี่กรเป็นยังไงหรอ”
“ก็เห็นว่าช่วงนี้เครียดๆนะ แต่ได้เห็นแฟนพี่เขาด้วยละ”
กานต์ยิ้มแป้นก่อนเอ่ยถาม
“แล้วแฟนคุณกรชื่ออะไรหรอ”
“ชื่อพลอยสวยหรือพลอยใสนี่แหล่ะ เขาจบแค่ม.6เห็นว่าเป็นแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งมั๊ง”ปิ่นบอก
หญิงยอเดินตามหาทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง
“กานต์มาอยู่ตรงนี้เองหรอลูก รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วง”
“ค่ะ แม่คะ เจ้าคำฟ้าเขาคือใครหรอคะ แม่ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ” กานต์ถามมารดาของตน
หญิงยอผ่อนลมหายใจก่อนเล่าเรื่องที่ผ่านมา
“คือว่าแบบนี้นะ เจ้าคำฟ้าเป็นเจ้ามาจากเชียงใหม่ แล้วเป็นคู่หมั้นของคุณยายเยาวลักษณ์ไง แต่แรกถอนหมั้นเพราะเจ้าคำฟ้ารักน้าฟองแข แต่ฟองแขหนีไปแต่งงานกับคุณชายยิ่งศักดิ์ไง ส่วนคุณยายเยาว์ต้องมารอรักกับเจ้าคำฟ้าไงละลูก”
“งง แม่คะแล้วคุณชายยิ่งศักดิ์คือใครคะ”ปิ่นถาม
“คุณชายยิ่งศักดิ์คือ พ่อของน้าโสมภาไงละปิ่น”
“หรอคะน้าหญิงยอ”ปิ่นตอบ
“แล้วน้าโสมทำไมถึงพาลเกลียดแม่กับน้าหญิงยอละคะ”ปิ่นสงสัย
“คิดว่า ป้าโฉมแย่งแฟนของพ่อของน้าโสมไง ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า น้าโสมจะได้รับผลกรรมทั้งๆ ที่เข้าใจผิดตอนนี้น้าโสมก็จากโลกนี้ไปนานแล้วเนอะแม่เองก็คิดถึงน้าโสมจัง”
“เป็นเรื่องที่ดูน่าเศร้าเลยนะคะแล้วแม่เป็นลูกของยายเยาว์หรอคะ”ปิ่นถามอีกฝ่าย
“ไม่ใช่แม่เธอนะเป็นบุตรของแม่ปลื้มต่างหาก”
ปิ่นทำสีหน้าท่าทางตกใจกับสิ่งที่เอ่ยขึ้น
“ยายปลื้มหรอคะคุณน้า”
หญิงยอรีบพยักหน้า
“ใช่แล้วปิ่นนี่แม่เธอไม่เคยเล่าเรื่องนี้เลยหรอ”หญิงยอถาม
ปิ่นส่ายหน้าไปมา ในตอนนี้กานต์ได้แต่มองดูปูลมริมชายหาด
“แย่ละสินะ แม่เธอนี่ก็เอาเรื่องตอนท้องแรกก็อ้างว่าไม่ได้ท้อง แย่ๆ”หญิงยอบ่น
กานต์ผ่อนลมหายใจเบาๆแล้วมองหน้ามาทางปิ่นก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ
ณ ค่ายจักรพงษ์ ห้องทำงานของพันตรีหม่อมหลวงธนากร ตอนนี้มีกองเอกสารใหญ่โต แฟ้มเอกสารที่สำคัญๆ ตอนนี้เขาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อที่จะพิมพ์เอกสารหนังสือราชการภายนอกของกรมทหารราบ เขาดูเครียดๆ กับคำสั่งของผบ.ของค่ายทหาร มีเสียงไอกระแอมดังขึ้น
“ขออนุญาตครับ นี่คำสั่งของกองบัญชาการสูงสุดครับ”เสียงทุ้มเอ่ย
“คำสั่งอะไรหรอ”ธนากรถามอีกฝ่าย
“คำสั่งพาพลทหารไปปฎิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ” พลทหารบอก
ธนากรอ่านคำสั่งพร้อมโบกมือไล่ให้อีกฝ่ายออกไป
“รับทราบครับ”พลทหารบอกเสียงดังฟังชัดพร้อมตะเบ๊ะทำความเคารพ ก่อนพลทหารนายนั้นออกจากห้องไป ธนากรนั่งนิ่งพร้อมคิดถึงเรื่องน้องสาวของตน ก่อนจะสลัดไล่ความคิดออกไปแล้วตั้งใจทำงานเพื่อพ่อแม่ของเขาผู้พันเกมส์เดินมาตบที่บ่าของธนากร ธนากรมองหน้าอีกฝ่าย
“คุณกร มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
“ไม่นี่ครับ คุณเกมส์ไม่ไปจีบพลอยใสหรอครับ”
เกมส์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ย
“พลอยเขาก็มีธุระของเขา ตอนเย็นผมกะว่าจะชวนพลอยใสไปดูหนังสักเรื่องครับไม่ทราบว่า คุณกรจะไปด้วยไหมครับ”
ธนากรก้มหน้าก้มตาดูเอกสารในแฟ้มก่อนส่ายหน้าไปมา
“ไม่ครับพอดีงานผมเยอะมากๆ คุณเกมส์ไปเถอะครับ”กรบอกก่อนไม่สนใจอะไรเอาแต่นั่งตรวจทานเอกสารว่าผิดตรงไหนจะได้แก้ ดนัยเดินเข้ามาพร้อมเอ่ยกับเพื่อนสนิท
“ว่าไงกรเพื่อนรัก นายจะให้ฉันช่วยไหม”ดนัยอาสาเพื่ออยากช่วยเพื่อน
“ไม่วะ ขอบคุณนะ”
“จริงสิกรนายคิดอะไรกับพลอยใสหรอ”ดนัยเอ่ยถามเพื่อน
“ไม่รู้สิ เขาจะไปกับใครเราไม่สนหรอก”ธนากรบอกก
“จริงนะ เมื่อกี้ได้ยินผู้พันเกมส์จะชวนพลอยใสไปดูหนังด้วยนี่”
“แล้วไงหรือว่านายคิดว่าเรากับเกมส์เป็นคู่แข่งที่จะมาจีบพลอยใสหรอ”
ดนัยพยักหน้ารับ ธนากรเองใจหนึ่งก็ชอบพลอยใสแต่ก็มีอาการหึงหวง
“อืม คงจะเป็นแบบนั้นมั๊งถ้าเราว่ามาแบบนี้”
“สรุปว่านายชอบพลอยใสใช่ไหม”
“ถ้าจะบอกว่าใช่ นายจะว่ายังไงละ ไปทำงานเลยเพื่อน” ธนากรไล่ดนัยให้กับไปนั่งโต๊ะทำงาน ดนัยรู้อยู่แล้วว่า เพื่อนรักชอบพลอยใส
หญิงเปลวกนก ชายภา คุณปิ่น ก็ได้เวลาร่ำลากันเพราะทั้งสามจะกลับไปวังนภาธรเสียแล้ว
“กานต์ เราจะกลับไปวังนภาธรแล้วนะ เราคงได้พบกันอีกนะ”
“หญิงยอ ดูแลตัวเองด้วยนะ”หญิงเปลวเอ่ย
“ปิ่นเราขอโอบกอดได้ไหมให้หายคิดถึง”กานต์บอกพร้อมสวมกอดอีกฝ่าย
เสียงรถสตาร์ทเครื่องทั้งสามคนนั้นกำลังหันมาทางรถยนต์ คนขับรถคือนายจ่อยเอ่ยขึ้น
“คุณชาย คุณหญิง ได้เวลากลับแล้วนะครับ”
“ขอบคุณมากนายจ่อย น้องภูดูแลตัวเองด้วยนะ”
“ครับโชคดีนะพี่ภา”
ตอนนี้ทั้งสามคนขึ้นรถแล้ว ปิ่นโบกมือลาอีกฝ่าย กานต์น้ำตาไหลอาบแก้ม
“บายนะปิ่น คงได้เจอกันอีก”
บ้านพักตากอากาศหญิงยอเงียบลงเมื่อรถอีกคันเคลื่อนออกไปตามทางถนน
และแล้วรถที่ทั้งสามคนนั่งก็เคลื่อนเข้าสู่วังนภาธร
“ในที่สุดเราก็มาถึงวังซะที”
“ใช่ค่ะคุณ เปลวคิดถึงที่นี่มากๆ เลย”เปลวเสริม
“ปิ่นก็คิดถึงบ้านเหมือนกันนะคะ”ปิ่นบอก
ก่อนที่ทั้งสามจะขนสัมภาระกระเป๋าลงมาจากรถ แม้นวาดก็เดินมาเพื่อถากถางอีกฝ่าย
“มาถึงแล้วหรอยะ ยัยปิ่นอนง”
“ใช่ นี่เห็นด้วยหรอนึกว่าตาบอดเสียอีก”ปิ่นย้อนอีกฝ่าย
“นี่ฉันตาไม่บอดนี่ยะ ตอนที่เธอไม่อยู่ฉันนะแอบไปนอนห้องเธอได้กลิ่นน้ำหอมด้วย”
“นี่ สามหาวจริงๆ คนไร้ยางอาย ยัยหน้าด้าน กล้าไปนอนที่นอนของคนอื่นพ่อคะแม่คะ เรากลับเข้าบ้านกัน อย่าไปสนใจสุนัขปากปีจอเลยค่ะ”
ปิ่นรีบพาพ่อแม่กลับเข้าไปในบ้านทันที ส่วนแม้นวาดทำท่าทางกริ๊ดกร๊าดและมองไปทางที่ทั้งสามคนเดินเข้าบ้าน
ปิ่นเข้ามาในบ้าน หัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ที่แกล้งยัยนางร้ายได้
“ปิ่นแม่คิดว่าไปแกล้งเขาแรงหรือเปล่า”เปลวตักเตือนบุตรสาว
“ไม่นี่คะแม่ ไม่เคยดูขิงก็ราข่าก็แรงหรอคะ เขาเอาเราคืน เราต้องเอาเขาคืนเช่นกัน”
“มันก็ใช่ของลูกนะคุณสมัยนี้ใครหัวอ่อนก็แพ้ใครรู้ทันก็ชนะ”ชายภาเสริม
“ใช่ค่ะพ่อ หนูรักพ่อนะคะ”
“พ่อลูกคู่นี้ เอาเถอะๆจะทำอะไรก็ค่อยว่ากัน”
ชายภายิ้มให้บุตรสาวก่อนหันมาอ่านหนังสือพิมพ์ในอินเทอร์เน็ต ส่วนเปลวกนกกำลังทำอาหารให้อีกฝ่ายทานโดยมีปิ่นมาช่วยอีกแรง
“พิมพ์ แกทำไรหรอ”
“เรากำลังซื้อเลขอยู่นะแก เห็นในข่าวนี่สิ เจ้าของร้านทองถูกlotteryสิบล้านบาท แจ้งตำรวจว่าถูกจริงๆ”
“แกก็เลยซื้อเสี่ยงโชคใช่ปะ”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
“แกซื้อเลขไรอะ”
“40 04 ซื้อกลับนะ คนเราจะถูกไม่ถูกมันขึ้นกับดวงนะเว้ยพลอย”
เสียงหวานของอีกฝ่ายเงียบลงก่อนมีทหารหนุ่มเดินมา
“สวัสดีครับน้องพิมพ์คนสวย”
อีกฝ่ายหันหน้ามาทางคนเอ่ยทักทายเขาเป็นทหารหนุ่มรูปร่างสูง กำยำ ทหารหนุ่มคนนี้อายุสามสิบห้าแล้ว
“พี่บอย”เสียงหวานเอ่ย
“สวัสดีครับน้องพลอยใส คนน่ารัก”
พลอยใสทำสีหน้าเหมือนคนเบื่อโลกโดยที่ไม่สนใจใคร
“สวัสดีค่ะพี่บอย”
“จริงสิ พักนี้นายพันกรดูเครียดๆเรื่องงาน น้องพลอยโกรธเขาหรอที่เขาไม่มา”ทหารหนุ่มเอ่ยถามขึ้น
“เปล่าค่ะพี่บอย พลอยไม่สบายใจเรื่องการเงินอยู่นะคะ หลังพ่อเสียพลอยเองลำบากเรื่องเงินไม่พอใช้แต่พลอยจะสู้นะคะพี่บอย”พลอยใสบอก
พร้อมสูดลมหายใจฟอดใหญ่
“พ่อพี่ก็เสียไปยังเด็กเหมือนกันไม่คิดเลยว่าจะโตมาจะเป็นทหาร”
พลอยใสมองหน้าอีกฝ่ายตอนนี้เขาดูเข้มแข็งเคยผ่านเรื่องเลวร้าย
ณ บ้านตากอากาศหัวหินของหญิงยอ ปิ่นกำลังเดินเล่นชายหาด มองออกไปเห็นทะเล เธอเดินอยู่ท่ามกลางโดดเดี่ยว และในขณะนี้มีคนเรียกตามหลัง
“ปิ่น ปิ่น รอฉันด้วยสิ”
ปิ่นหยุดเดินหันมาทางอีกฝ่ายตามไล่หลังมา
“อ้าว กานต์เธอมาเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหรอ”
“ใช่ ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ ฉันว่านะโลกเราร้อนขึ้นแน่ๆเลย”
“ชั่งมันเถอะ กานต์เธอชอบมาเดินเล่นหรอ”กานต์สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะตอบ
“ก็ชอบนะ ชอบดำน้ำด้วยชีวิตเรานี่ท้าทายหน่อยสิมันคุ้มนะ”
“อากาศที่นี่ตอนเช้าๆ สดชื่นมากๆ เลยเนอะ”
“ใช่นะ แล้วพี่กรสบายดีไหมละยัยปิ่น”กานต์ถามอีกฝ่าย
“ก็สบายดีนะพี่เขาได้ยศพันตรีด้วย เห็นว่าเครียดเรื่องงานอยู่นะจริงสิ กานต์ทำไมไม่ไปเรียนหมออนามัยละเห็นพี่ชายเธอเป็นหมอนี่เลยเสนอความคิด”ปิ่นตอบเรียบพร้อมผ่อนลมหายใจ
“แม่เรานะสิ อยากให้เราเป็นหมออนามัย เราเองคงไปเรียนจนจบสี่ปีโน่นแหล่ะถึงรักษา”
หมอหนุ่มเดินมาตามที่สองสาวคุยกันอยู่
“คุยเรื่องอะไรกันอยู่หรอสองสาว”หมอเล็กเอ่ยขึ้น
“พี่หมอเล็กคือกานต์คุยเรื่องเรียนหมออนามัยอยู่ค่ะ”กานต์บอก
“พี่แนะนำนะว่าให้เรียนแถวๆ ใกล้บ้านก็ได้”
“กานต์จะเรียนหมออนามัยจะได้ช่วยพี่เล็กหาเงินไม่ต้องให้พ่อแม่ลำบากใจ”
เล็กตบไปที่บ่าของน้องสาวส่วนน้องสาวของตนกำลังเล่นบีบีคุยกับเพื่อน เพื่อนของเธอนั้นต่างไปทำงานของตนเอง เล็กยิ้มให้กับน้องสาวก่อนเดินกลับมายังบ้านพัก
สองสาวมองเหลียวหลังไปทางหมอเล็ก พร้อมเดินไปอีกทางของตน
ทหารช่างประจำของกองร้อยกำลังซ่อมบำรุง ทหารแต่ละนายก็เดินสวนกับพันตรีหม่อมหลวงธนากรพร้อมทำความเคารพธนากรแต่กรไม่สนใจเขาเดินบึ่งตรงไปยังห้องผบ ซึ่งตอนนี้ผบยังนั่งอยู่บนโต๊ะ
“ท่านครับ ผมเอาเอกสารมาให้ครับ”ธนากรยื่นเอกสารมาให้ผบ.
ผบ.นั่งตรวจทานอ่านเอกสารคำสั่งด่วนก่อนเอ่ยถามอีกฝ่าย
“พลทหารของเรามีกี่นาย”
“ทั้งหมดมี350นายครับท่าน”ธนากรตอบอย่างฉะฉาน
“งั้นคุณไปเรียกพลทหารในค่ายของเรามาให้หมดเข้าใจไหม”
“ทราบครับ”ธนากรตอบอย่างเสียงดังก่อนตะเบ๊ะทำความเคารพก่อนเดินออกไป
ธนากรส่งเสียงร้องเรียกพลทหารทุกนายและแจ้งข่าวสองเรื่องคือ เรื่องขอกองกำลังไปรักษาความสงบในสามจังหวัดชายแดนใต้และอีกเรื่องคือป้องกันม๊อบชุดแดงที่โค่นล้มรัฐบาล ในขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว สายฝนโปรยกระหน่ำเพื่อล้างความร้อนตอนในช่วงฤดูร้อนที่แห้งแล้ง ธนากรชอบฤดูฝนมากๆเพราะดูสดชื่นไม่ร้อนอบอ้าวเปรียบเหมือนเตาอบขนม ผบมองผ่านหน้าต่างเห็นพลทหารทุกนายกำลังตั้งใจฟังอีกฝ่าย พอธนากรบอกข่าวให้แก่พลทหารแล้วก็แยกย้ายพร้อมชำเลืองมองมาที่นาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลา สิบเอ็ดนาฬิกาห้าสิบนาที เหลืออีกไม่กี่นาทีเขาจะไปอุดหนุนร้านของแม่ค้าสาวคือ พลอยใสเขาเหลือบมองไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ก่อนจะปิดแฟ้มเอกสารและเดินไปยังร้านของแม่ค้า แม่ค้าสาวแหงนมองมาอีกฝ่ายก่อนกล่าว
“วันนี้จะรับอะไรดีคะคุณ”
ผู้พันกรมองเมนูอาหารก่อนเอ่ยกับแม่ค้าสาวที่ตอนนี้ทนร้อนแต่ใบหน้าของเธอยิ้มให้อีกฝ่าย
“วันนี้เอากะเพราไก่ไข่ดาวสุกๆ พิเศษ จานหนึ่ง”กรสั่งอาหารให้กับแม่ค้าก่อนเดินไปยังโต๊ะเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่ามีใครไลน์มา เขาเปิดดูรูปของปิ่นที่กำลังไปเที่ยวทะเลที่อีกฝ่ายส่งมา
“ยัยปิ่นนี่ตั้งแต่พี่ยุ่งงานก็ชวนกันไปหัวหินเลยเนอะยัยเฉิ่ม”
กรเลื่อนลงมาเห็นผบ.ทบ ไลน์สั่งมาว่า ให้ตรวจงานตอนเวลาบ่ายสองตอนนี้เจ้าตัวดูเครียดมากๆกับงาน ในขณะที่พลอยใสกำลังทำกะเพราให้อีกฝ่ายเขาทำจนเสร็จแล้วมาเสริฟอีกฝ่ายที่โต๊ะ
“ผู้พันกรเป็นอะไรหรอคะ วันนี้ถึงดูเครียดๆ”
“วันนี้เครียดกับงานอยู่นะพลอย”กรบอกให้แห่แม่ค้าสาว
ในบรรยากาศตอนนี้ฝนตกอีกรอบ สายฝนตกลงมาสลับแรงและปอยๆเสียงในตอนนี้เงียบ ส่วนแม่ค้าสาวก็คุยกับแม่ของตนในท่ามกลางเสียงฝนที่ตกลงมา
‘ทั้งสองอยู่ในความเงียบสงัดโดยไม่พูดใดๆ อีกฝ่ายได้แต่เลื่อนรูปในโทรศัพท์ที่น้องสาวของตนส่งมาในไลน์’
“นั่นใครหรอคะ”พลอยใสเอ่ยถาม
“น้องสาวของผมเองเขาไปเที่ยวที่หัวหิน เป็นบ้านน้าผม”
“หรอคะแกคงจะคิดถึงคุณมากๆเลยนะคะ”พลอยใสถามอีกฝ่าย
“ครับ ปีนี้ฝนตกไม่หยุดเลย เห็นได้ยินมาว่าปรากฎการณ์ลาบีญ่าเข้ามาบ้านเราแล้วละมั๊งครับ”กรบอก
แม่ค้าสาวก็พยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะเช็ดโต๊ะพลางๆเผื่อมี ลูกค้าเข้ามาในร้านสักพัก ผู้พันเกมส์ ก็เดินเข้ามา
“ผู้พันจะเอาอะไรหรอคะวันนี้”เสียงหวานของแม่ค้าเอ่ยขึ้น
ผู้พันเกมส์ดูในเมนูอาหารก่อนจะเอ่ยสั่ง
“เอาสุกี้ทะเล พิเศษ1 จาน”
ผู้พันเกมส์เดินมานั่งโต๊ะเดียวกันกับผู้พันกรนั่งอยู่จึงแวะเอ่ยกับเพื่อนร่วมงาน
“สวัสดีครับผู้พันกร”ผู้พันเกมส์ทักทาย
“สวัสดีครับคุณเกมส์มาทานร้านนี้เป็นประจำหรอ”กรเอ่ยถามอีกฝ่าย
“เปล่าครับ วันนี้ผมไม่ได้ไปกินข้าวนอกบ้านผมนะอยากมีเรื่องปรึกษาคือเรื่องการโยกย้ายพลทหารนะครับ คุณกรจะคัดค้านหรือจะบริหารยังไงครับ”
“ผมคิดว่า คงให้พลทหาร20นายไปคุ้มกันและให้ไปลงไปดูแลความสงบละกันนะ”
“ก็ดีนี่ ผมก็คิดเหมือนกัน งั้นผมไปก่อนนะครับ”
ผู้พันเกมส์ลุกขึ้นก่อนส่งยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมเดินจากไปปล่อยให้กรนั่งคิดหาวิถีทาง
บ้านพักตากอากาศของหญิงยอตอนนี้ต้อนรับแขกกันอย่างล้นหลาม เจ้าขจรศักดิ์เดินตรงมายังทั้งสองคนเขาพูดภาษาถิ่นทางภาคเหนือ
“อี่น้องสองคนมาอู้อะหยังกั๋นอยู่หม่องนี้”
ทำเอาสองสาวอึ้งและไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร
“ขอแปลเป็นภาษาไทยหน่อยค่ะเจ้าขจร”
เจ้าขจรทำเสียงฮึดฮัดก่อนเอ่ย
“น้องๆสองคนมาคุยอะไรกันอยู่ตรงนี้หรอ”
ปิ่นเอ่ยตอบพร้อมทำสีหน้าฝืนยิ้ม
“คุยเรื่องยัยกานต์นะคะเจ้าขจร ตอนนี้กานต์เขาไม่มีงานทำเลยค่ะ เจ้าขจรคะเจ้าทำงานอะไรหรอคะ”
เจ้าขจรศักดิ์มองหน้ากานต์ก่อนเอ่ย
“ฉันไม่ได้ทำงานพอดีทรัพย์สมบัติจากเจ้าคำฟ้าอยู่พอสมควร ขาดแต่แม่ศรีเรือนคนรู้ใจที่เอาไว้ผลิตทายาทรุ่นต่อไปแค่นี้พอใจแล้ว”
กานต์มณีแขวะพร้อมทำท่าอยากอ้วก
“กานต์แกแพ้ท้องหรอ”
“บ้า ใครจะกล้าไปท้องกับเจ้าขจรละ ระวังเถอะฟ้าจะมา”กานต์ประชด
พอสิ้นเสียงฟ้าก็เดินตรงมายังเจ้าขจรยืนอยู่พร้อมเอามือควงแขน
“พี่ขจรมาอยู่ตรงนี้เองหรอคะ”
“ใช่ น้องฟ้าพี่ว่าน้องไปรอพี่ตรงโน้นเลย”
ฟ้ามองหน้าสองสาวอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่เจ้าขจรศักดิ์จะลากเธอไป
“เห้อแฟนกันก็แบบนี้แหล่ะ อย่าไปสนใจเลยนะยัยกานต์”
กานต์เองก็มองเจ้าขจรอย่างไม่หายด้วยอีกใจยังเป็นห่วง
“ไปสิกานต์”
“ค่ะๆ”
เจ้าขจรศักดิ์มองตามหลังก่อนจะหันมาคุยกับฟ้า
“อี่น้อง ไปหื้ออะหยังเขา”เจ้าขจรดุอีกฝ่าย
“บ่ได้เฮ็ดอะหยัง แม่หญิงพวกนั่นเปิ้นเป๋นไผ๋ก่บ่ฮู้”ฟ้าบอกพร้อมไม่สบอารมณ์
“งั้นอ้ายไป๋ก่อนเน้อ”
เจ้าขจรเดินจากไปทิ้งให้ฟ้าอยู่เพียงลำพังคนเดียว
ณ วังนภาธร ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในวังนอกจากโอม คนสวนกำลังตัดแต่งต้นไม้ ท่ามกลางแสงแดด ม.ล.แม้นวาดก็เดินออกมาทำเสียงเอะอะโวยวาย
“นี่นาย คนในวังนี้หายไปไหนหมด ทำไมมีแต่พวกทาสอยู่ละ”
โอมหยุดชะงักก่อนหันมาดู
“คุณผู้หญิงขอรับ คนในวังนี้เขาไปเที่ยวที่หัวหินโน่นครับ เขาไม่อยู่หรอก”
“นี่แล้วเขาจะกลับมาตอนไหนยะ”
“ไม่ทราบนะครับคุณทำไมไม่ถามเขาเอาเองละ”
แม้นวาดชี้หน้าโอมก่อนเดินออกไป
โอมยืนงงกับท่าทีของแม้นวาดเขาเองเคยคิดนะว่าอยากเอาเธอมาเป็นภรรยา
“คุณวาดนี่ คนอะไร สวยก็สวยเดี๋ยวจับทำเมียซะเลย” โอมบ่น
บ้านพักตากอากาศหัวหินของหญิงยอกานต์มณีกับภาวินีกำลังเดินมา พร้อมพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของคุณหมอเล็กและลง
มาถึงเรื่องผู้พันกร ทั้งสองคนถึงกับยืนยิ้มเรื่องผู้พันกร ปิ่นนั้นเคยเห็นหน้าของว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเองแล้ว
“ปิ่น ข่าวคราวพี่กรเป็นยังไงหรอ”
“ก็เห็นว่าช่วงนี้เครียดๆนะ แต่ได้เห็นแฟนพี่เขาด้วยละ”
กานต์ยิ้มแป้นก่อนเอ่ยถาม
“แล้วแฟนคุณกรชื่ออะไรหรอ”
“ชื่อพลอยสวยหรือพลอยใสนี่แหล่ะ เขาจบแค่ม.6เห็นว่าเป็นแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งมั๊ง”ปิ่นบอก
หญิงยอเดินตามหาทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง
“กานต์มาอยู่ตรงนี้เองหรอลูก รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วง”
“ค่ะ แม่คะ เจ้าคำฟ้าเขาคือใครหรอคะ แม่ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ” กานต์ถามมารดาของตน
หญิงยอผ่อนลมหายใจก่อนเล่าเรื่องที่ผ่านมา
“คือว่าแบบนี้นะ เจ้าคำฟ้าเป็นเจ้ามาจากเชียงใหม่ แล้วเป็นคู่หมั้นของคุณยายเยาวลักษณ์ไง แต่แรกถอนหมั้นเพราะเจ้าคำฟ้ารักน้าฟองแข แต่ฟองแขหนีไปแต่งงานกับคุณชายยิ่งศักดิ์ไง ส่วนคุณยายเยาว์ต้องมารอรักกับเจ้าคำฟ้าไงละลูก”
“งง แม่คะแล้วคุณชายยิ่งศักดิ์คือใครคะ”ปิ่นถาม
“คุณชายยิ่งศักดิ์คือ พ่อของน้าโสมภาไงละปิ่น”
“หรอคะน้าหญิงยอ”ปิ่นตอบ
“แล้วน้าโสมทำไมถึงพาลเกลียดแม่กับน้าหญิงยอละคะ”ปิ่นสงสัย
“คิดว่า ป้าโฉมแย่งแฟนของพ่อของน้าโสมไง ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า น้าโสมจะได้รับผลกรรมทั้งๆ ที่เข้าใจผิดตอนนี้น้าโสมก็จากโลกนี้ไปนานแล้วเนอะแม่เองก็คิดถึงน้าโสมจัง”
“เป็นเรื่องที่ดูน่าเศร้าเลยนะคะแล้วแม่เป็นลูกของยายเยาว์หรอคะ”ปิ่นถามอีกฝ่าย
“ไม่ใช่แม่เธอนะเป็นบุตรของแม่ปลื้มต่างหาก”
ปิ่นทำสีหน้าท่าทางตกใจกับสิ่งที่เอ่ยขึ้น
“ยายปลื้มหรอคะคุณน้า”
หญิงยอรีบพยักหน้า
“ใช่แล้วปิ่นนี่แม่เธอไม่เคยเล่าเรื่องนี้เลยหรอ”หญิงยอถาม
ปิ่นส่ายหน้าไปมา ในตอนนี้กานต์ได้แต่มองดูปูลมริมชายหาด
“แย่ละสินะ แม่เธอนี่ก็เอาเรื่องตอนท้องแรกก็อ้างว่าไม่ได้ท้อง แย่ๆ”หญิงยอบ่น
กานต์ผ่อนลมหายใจเบาๆแล้วมองหน้ามาทางปิ่นก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ
ณ ค่ายจักรพงษ์ ห้องทำงานของพันตรีหม่อมหลวงธนากร ตอนนี้มีกองเอกสารใหญ่โต แฟ้มเอกสารที่สำคัญๆ ตอนนี้เขาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อที่จะพิมพ์เอกสารหนังสือราชการภายนอกของกรมทหารราบ เขาดูเครียดๆ กับคำสั่งของผบ.ของค่ายทหาร มีเสียงไอกระแอมดังขึ้น
“ขออนุญาตครับ นี่คำสั่งของกองบัญชาการสูงสุดครับ”เสียงทุ้มเอ่ย
“คำสั่งอะไรหรอ”ธนากรถามอีกฝ่าย
“คำสั่งพาพลทหารไปปฎิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ” พลทหารบอก
ธนากรอ่านคำสั่งพร้อมโบกมือไล่ให้อีกฝ่ายออกไป
“รับทราบครับ”พลทหารบอกเสียงดังฟังชัดพร้อมตะเบ๊ะทำความเคารพ ก่อนพลทหารนายนั้นออกจากห้องไป ธนากรนั่งนิ่งพร้อมคิดถึงเรื่องน้องสาวของตน ก่อนจะสลัดไล่ความคิดออกไปแล้วตั้งใจทำงานเพื่อพ่อแม่ของเขาผู้พันเกมส์เดินมาตบที่บ่าของธนากร ธนากรมองหน้าอีกฝ่าย
“คุณกร มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
“ไม่นี่ครับ คุณเกมส์ไม่ไปจีบพลอยใสหรอครับ”
เกมส์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ย
“พลอยเขาก็มีธุระของเขา ตอนเย็นผมกะว่าจะชวนพลอยใสไปดูหนังสักเรื่องครับไม่ทราบว่า คุณกรจะไปด้วยไหมครับ”
ธนากรก้มหน้าก้มตาดูเอกสารในแฟ้มก่อนส่ายหน้าไปมา
“ไม่ครับพอดีงานผมเยอะมากๆ คุณเกมส์ไปเถอะครับ”กรบอกก่อนไม่สนใจอะไรเอาแต่นั่งตรวจทานเอกสารว่าผิดตรงไหนจะได้แก้ ดนัยเดินเข้ามาพร้อมเอ่ยกับเพื่อนสนิท
“ว่าไงกรเพื่อนรัก นายจะให้ฉันช่วยไหม”ดนัยอาสาเพื่ออยากช่วยเพื่อน
“ไม่วะ ขอบคุณนะ”
“จริงสิกรนายคิดอะไรกับพลอยใสหรอ”ดนัยเอ่ยถามเพื่อน
“ไม่รู้สิ เขาจะไปกับใครเราไม่สนหรอก”ธนากรบอกก
“จริงนะ เมื่อกี้ได้ยินผู้พันเกมส์จะชวนพลอยใสไปดูหนังด้วยนี่”
“แล้วไงหรือว่านายคิดว่าเรากับเกมส์เป็นคู่แข่งที่จะมาจีบพลอยใสหรอ”
ดนัยพยักหน้ารับ ธนากรเองใจหนึ่งก็ชอบพลอยใสแต่ก็มีอาการหึงหวง
“อืม คงจะเป็นแบบนั้นมั๊งถ้าเราว่ามาแบบนี้”
“สรุปว่านายชอบพลอยใสใช่ไหม”
“ถ้าจะบอกว่าใช่ นายจะว่ายังไงละ ไปทำงานเลยเพื่อน” ธนากรไล่ดนัยให้กับไปนั่งโต๊ะทำงาน ดนัยรู้อยู่แล้วว่า เพื่อนรักชอบพลอยใส
หญิงเปลวกนก ชายภา คุณปิ่น ก็ได้เวลาร่ำลากันเพราะทั้งสามจะกลับไปวังนภาธรเสียแล้ว
“กานต์ เราจะกลับไปวังนภาธรแล้วนะ เราคงได้พบกันอีกนะ”
“หญิงยอ ดูแลตัวเองด้วยนะ”หญิงเปลวเอ่ย
“ปิ่นเราขอโอบกอดได้ไหมให้หายคิดถึง”กานต์บอกพร้อมสวมกอดอีกฝ่าย
เสียงรถสตาร์ทเครื่องทั้งสามคนนั้นกำลังหันมาทางรถยนต์ คนขับรถคือนายจ่อยเอ่ยขึ้น
“คุณชาย คุณหญิง ได้เวลากลับแล้วนะครับ”
“ขอบคุณมากนายจ่อย น้องภูดูแลตัวเองด้วยนะ”
“ครับโชคดีนะพี่ภา”
ตอนนี้ทั้งสามคนขึ้นรถแล้ว ปิ่นโบกมือลาอีกฝ่าย กานต์น้ำตาไหลอาบแก้ม
“บายนะปิ่น คงได้เจอกันอีก”
บ้านพักตากอากาศหญิงยอเงียบลงเมื่อรถอีกคันเคลื่อนออกไปตามทางถนน
และแล้วรถที่ทั้งสามคนนั่งก็เคลื่อนเข้าสู่วังนภาธร
“ในที่สุดเราก็มาถึงวังซะที”
“ใช่ค่ะคุณ เปลวคิดถึงที่นี่มากๆ เลย”เปลวเสริม
“ปิ่นก็คิดถึงบ้านเหมือนกันนะคะ”ปิ่นบอก
ก่อนที่ทั้งสามจะขนสัมภาระกระเป๋าลงมาจากรถ แม้นวาดก็เดินมาเพื่อถากถางอีกฝ่าย
“มาถึงแล้วหรอยะ ยัยปิ่นอนง”
“ใช่ นี่เห็นด้วยหรอนึกว่าตาบอดเสียอีก”ปิ่นย้อนอีกฝ่าย
“นี่ฉันตาไม่บอดนี่ยะ ตอนที่เธอไม่อยู่ฉันนะแอบไปนอนห้องเธอได้กลิ่นน้ำหอมด้วย”
“นี่ สามหาวจริงๆ คนไร้ยางอาย ยัยหน้าด้าน กล้าไปนอนที่นอนของคนอื่นพ่อคะแม่คะ เรากลับเข้าบ้านกัน อย่าไปสนใจสุนัขปากปีจอเลยค่ะ”
ปิ่นรีบพาพ่อแม่กลับเข้าไปในบ้านทันที ส่วนแม้นวาดทำท่าทางกริ๊ดกร๊าดและมองไปทางที่ทั้งสามคนเดินเข้าบ้าน
ปิ่นเข้ามาในบ้าน หัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ที่แกล้งยัยนางร้ายได้
“ปิ่นแม่คิดว่าไปแกล้งเขาแรงหรือเปล่า”เปลวตักเตือนบุตรสาว
“ไม่นี่คะแม่ ไม่เคยดูขิงก็ราข่าก็แรงหรอคะ เขาเอาเราคืน เราต้องเอาเขาคืนเช่นกัน”
“มันก็ใช่ของลูกนะคุณสมัยนี้ใครหัวอ่อนก็แพ้ใครรู้ทันก็ชนะ”ชายภาเสริม
“ใช่ค่ะพ่อ หนูรักพ่อนะคะ”
“พ่อลูกคู่นี้ เอาเถอะๆจะทำอะไรก็ค่อยว่ากัน”
ชายภายิ้มให้บุตรสาวก่อนหันมาอ่านหนังสือพิมพ์ในอินเทอร์เน็ต ส่วนเปลวกนกกำลังทำอาหารให้อีกฝ่ายทานโดยมีปิ่นมาช่วยอีกแรง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ