The Phoenix of Andromeda
-
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.23 น.
19 ตอน
36 วิจารณ์
18.11K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) บาโทส นักรบแห่งคูร่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เสื้อคลุมตัวใหญ่ที่อยู่บนร่างของผู้ที่เป็นนักรบพิเศษของเมธานอสคนนี้ บัดนี้ก็ได้ถูกปลดออกมาตรงหน้าของโคแวน อย่างไม่ชักช้า และมันก็ได้เปิดเผยให้เห็นถึงร่างกายท่อนบนอันเปลือยเปล่าของมันที่หาได้มีเนื้อหนังเช่นเดียวกับมนุษย์ทั่วๆ ไปไม่
เพราะตั้งแต่ศรีษระไล่ลงมาตลอดลำตัวนั้น มันกลับเป็นดั่งผิวของเปลือกไม้แห้งที่ไร้ซึ่งความมีชีวิตแบบใดๆ หากจะบอกว่า ถ้ามันผู้นี้ได้ปลดกางเกงออกมาอีกตัวจนเนื้อตัวล่อนจ้อนแล้ว มันก็คงจะดูไม่แตกต่างกับต้นไม้แห้งๆ ที่มีเปลือกหนาๆ และมีกิ่งงอกเงยออกมาเป็นแขนทั้งสองข้างอันดูน่าพิศวงราวกับเป็นต้นไม้ที่ตายซากจริงๆ ..!
และแล้วมันก็กางแขนอันเก้งก้างทั้งสองออกมาราวกับต้องการที่จะอวดโชว์เรือนร่างอันน่าภาคภูมิใจของมันเองให้โคแวนได้เห็นอย่างเต็มตา ก่อนที่มันจะกล่าวแนะนำตัวเองกับโคแวน
"ชื่อของข้าคือ 'บาโทส' ข้าคือชาวดาว'คูร่า' (ดาวพฤกษา) ข้าได้ฝึกวิชา'ศิลาพฤกษา'ขั้นสูงสุดจนสำเร็จ และข้าก็ได้ยินชื่อเสียงอันเลื่องลือของท่านมานานแล้วโคแวน และวันนี้ข้าก็คิดว่ามันช่างเป็นโอกาสดีที่ข้าจะได้มีโอกาสได้ทดสอบวิชาขั้นสูงสุดของข้ากับพลังตรีสูรอสุนีบาตรของท่าน ว่ามันจะมีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงต่อกันสักเพียงใดกัน! "
'ที่แท้ก็คือชาวดาวคูร่า ช่างน่าอัศจรรย์นัก...' โคแวนคิด
แต่ชาวดาวคูร่า แม้จะมีผิวร่างกายที่ดูแข็งกระด้างราวกับเปลือกไม้ แต่โคแวนก็ไม่เคยเห็นชาวดาวคูร่าคนไหนที่มีผิวราวกับเปลือกไม้แห้งที่ดูหนาเตอะเช่นนี้มาก่อน และเขาก็สงสัยว่า หรือจะเป็นเพราะวิชาศิลาพฤกษาอะไรนั่นที่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของมันผู้นี้ไปอย่างมากมาย อีกทั้งรูปร่างที่สูงใหญ่ถึงเกือบสามเมตรของมันนั่น ก็ยิ่งทำให้มันผู้นี้ดูแตกต่างจากเผ่าพันธ์ของมันเองอย่างที่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือชาวดาวคูร่าจริงๆ!
"ถ้าเจ้าต้องการอย่างนั้น... แล้วจะมัวชักช้าอยู่ใยล่ะ เชิญเข้ามาพิสูจน์ฝีมือของเจ้าเถอะ..." โคแวนบอกออกไปด้วยดวงตาที่ปราศจากความครั่นคร้าม
บาโทสแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะโถมร่างกายเข้าหาโคแวนราวกับสายฟ้าแล่บ โดยที่มือทั้งสองของมันนั้นก็กลับปราศจากอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น
'ทำไมเจ้าบาโทสนี่ถึงไม่ใช้อาวุธอะไรนอกจากร่างกายเปล่าๆ ของมันกันล่ะ ถ้างั้นเราเองก็คงต้องระวังมือทั้งสองของมันให้มากๆ หน่อยล่ะ...' ในเสี้ยววินาทีที่โคแวนคิด เขาก็หลบมือขวาของบาโทสที่พุ่งมาราวกับงูจงอางฉก!
แล้วตรีสูรในมือของโคแวนก็หมุนตวัดพุ่งเข้าใส่ลำตัวของบาโทสทันที...!
เสียงสวบ! เมื่อปลายของตรีสูรนั้นจมลึกเข้าไปในเนื้อกลางลำตัวของมัน พร้อมๆ กับที่มีประกายไฟสีฟ้าแล่บแปรบปราบออกมาจากตรงตำแหน่งที่ตรีสูรได้แทงเข้าไป
แต่เสี้ยววินาทีนั้น โคแวนกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง...
พลังออร่าที่อยู่บนปลายตรีสูร ราวกับจะบ่งบอกกับเขาว่า มันไม่พบกับสิ่งอื่นใดนอกจากเปลือกไม้ที่ยุบตัวลงไป และภายใต้เปลือกไม้นั้นก็ไม่มีสัญญาณของความมีชีวิตใดๆ ให้พลังไฟฟ้าจากตรีสูรทำปฏิกิริยาออกมาได้เลยแม้แต่น้อยนิด...!
แถมร่างกายของบาโทสผู้นี้ก็กลับดูดจับปลายของตรีสูรไว้ด้วยผิวเปลือกไม้อันเหนียวแน่น!
โคแวนออกแรงกระชากอาวุธกลับมา แต่ความเหนียวของผิวเปลือกไม้นั่นราวกับจะหลอมรวมปลายตรีสูรไว้เป็นเนื้อเดียวกัน
โคแวนออกแรงกระชากเป็นครั้งที่สอง...
คราวนี้เขาถึงกับเซถอยหลังหลุนๆ ไปหลายก้าว เมื่อปลายตรีสูรนั้นหลุดออกจากลำตัวของบาโทสอย่างง่ายดาย
'นั่นคงเป็นเพราะบาโทสควบคุมร่างเปลือกไม้นั้นให้คลายปลายตรีสูรออกมากระมัง? ' โคแวนรู้สึกฉงนขณะที่ยังจดจ้องไปที่ลำตัวของบาโทส
ลำตัวเนื้อไม้ที่เป็นรูจากการถูกปลายตรีสูรแทงเข้าไป บัดนี้ค่อยๆ สมานตัวเอง จนร่องรอยของรูแผลนั้นก็จางหายไปในเวลาอันรวดเร็ว...!
"ร่างกายของข้ามีชีวิต ก็เหมือนไม่มีชีวิต...! " บาโทสแสยะยิ้มพูด "ท่านเข้าใจแล้วใช่ไหม โคแวน? "
เสียงปรบมือช้าๆ สามครั้งดังมาจากเมธานอส
"ยอดเยี่ยมมากบาโทส ไม่เสียแรงที่ข้าเชิญเจ้ามาเป็นนักรบพิเศษของโบโรเธีย..." เมธานอสเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชม
"พลังตรีสูรอสุนีบาตร ก็คือพลังไฟฟ้าที่ส่งมาจากพลังออร่าอันกร้าวแกร่งของโคแวน แต่พลังไฟฟ้านั้นไม่สามารถทำปฏิกิริยากับเนื้อไม้ของเจ้าได้ ก็เห็นทีว่าคราวนี้ตรีสูรอสุนีบาตรจะสิ้นเชื่อเสียแล้วกระมัง... หรือท่านคิดว่าไง ท่านโคแวน...? " ประโยคสุดท้ายเขาหันไปถามโคแวนราวกับจะเยาะหยัน
แต่โคแวนกลับมีสีหน้าที่เฉยเมย แล้วเขาก็หมุนควงตรีสูรกลับไปกลับมาครั้งหนึ่ง "พลังอสุนีบาตรหรือพลังไฟฟ้าจากออร่าของข้า น่าจะสิ้นชื่อจริงๆ เมื่อมาเจอกับขอนไม้กระโหลกกะลาอย่างที่เจ้าว่า..."
แล้วเขาก็ยิ้มออกมาบางๆ ที่มุมปาก "งั้นข้าก็คงต้องเอาชนะพลังขอนไม้นี้ด้วยฝีมือและทักษะการต่อสู้อันน้อยนิดของข้าเองซะแล้วกระมัง...? "
แล้วเขาก็ตั้งท่าพร้อมสู้อีกรอบ "เชิญท่านสู้กับข้าอีกรอบเถอะ ท่านขอนไม้...! "
บาโทสแสยะยิ้ม "ท่านคงคิดว่าชาวคูร่าอย่างข้าจะไร้ซึ่งวิทยายุทกระมังโคแวน งั้นข้าก็จะพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นความจริงอีกอย่างล่ะ..."
"บาโทส..." เสียงของเมธานอสเรียก "ทักษะวิทยายุทธของท่านโคแวนนั้นก็ถือได้ว่าเป็นเลิศกว่าใครๆ หลายคนมากนัก เพราะฉนั้นเจ้าจงอย่าได้ประมาทเด็ดขาด..."
ไม่ทันสิ้นคำเตือนของเมธานอสดี บาโทสก็โถมร่างเข้าหาโคแวนอีกรอบอย่างไม่รอช้า
แล้วการต่อสู้ด้วยทักษะฝีมือและวิทยายุทของทั้งสอง ก็อุบัติขึ้นด้วยความรุนแรงดุดัน จนเพดานของพระราชวังจักรพรรดิ์ก็ยังต้องถึงกับสั่นสะเทือนอยู่เกือบตลอดเวลา..!
โคแวนพยายามหลีกเลี่ยงการแทงตรีสูรเข้าไปยังร่างของบาโทส แต่กลับใช้แรงกำลังฟาดฟันร่างเปลือกไม้ด้วยคมตรีสูรสลับกับปลายด้ามของตรีสูรที่เขาหมุนควงสลับฟาดตีออกไป
บาโทสไม่มีทีท่าจะหลบการโจมตีของโคแวนเท่าไร มันปล่อยให้ตรีสูรนั้นฟาดฟันร่างของมันอย่างเต็มที่โดยที่มันก็อาจจะเซถอยไปบ้างเป็นบางครั้งเพราะแรงปะทะอันหนักหน่วงของกำลังกายจากโคแวน แต่มันก็ยังคงบุกเข้าไปคว้าจับร่างของโคแวนอยู่อย่างไม่ลดละหรือล่าถอยแต่อย่างใด
โคแวนเองก็พยายามหลบมือที่ดูราวกับกิ่งไม้แห้งที่มีชีวิตนั้นไม่ให้คว้าจับตัวได้ แต่ก็มีบางครั้งที่มือกิ่งไม้นั้นกลับสามารถหาจังหวะเหวี่ยงร่างของเขาจนลอยละลิ่วไปกระทบกับผนังของตำหนักจนผนังนั้นถึงกับแทบยุบสลายลงไป...!
แต่ความแข็งแกร่งของโคแวนนั้นกลับอยู่เหนือคนธรรมดาโดยทั่วๆ ไป พริบตาเดียวเขาก็ลุกขึ้นมา และทะยานเข้าไปฟาดฟันร่างเปลือกไม้นั้นได้อย่างดุดันเช่นเดิม...!
และพอผ่านไปหลายอึดใจ ก็ดูเหมือนว่าบาโทสนั้นจะเริ่มอ่อนกำลังลงไปจากเดิม เมื่อร่างกายเปลือกไม้นั้นได้เริ่มเคลื่อนไหวช้าลงไปอยู่ทุกขณะ ในขณะที่การเคลื่อนไหวของโคแวนนั้นกลับยังไม่มีแววว่าจะช้าลงแต่อย่างใด
แล้วโรมิยาสกับสามองคงรักษ์ที่กำลังชมดูการต่อสู้อันดุเดือดนี้ ก็เริ่มมีรอยยิ้มขึ้นในสีหน้า
"เจ้าเปลือกไม้นั่นกำลังจะสิ้นแรง...! " เสียงองคงรักษ์หน้ากลมเอ่ยขึ้น
"ใช่..." โรมิยาสพูด "ร่างกายและพลังของโคแวนนั้นมันช่างแข็งแกร่งเกินกว่าที่ใครๆ จะคาดคิด แม้ไม่ใช้พลังอสุนีบาตร ก็ยากที่จะมีใครต่อกรกับเขาได้อย่างสูสี"
"แต่เจ้าเปลือกไม้นั่นก็แค่ช้าลง แต่การที่จะล้มมันให้พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิงนั้นก็ดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก? " องครักษ์หน้ายาวออกความเห็น
"ก็ใช่... " โรมิยาสพยักหน้า "แต่คนอย่างโคแวน ข้าก็ไม่เคยเห็นว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับใครมาก่อน และมันก็คงจะเป็นอยู่อย่างนั้นต่อไป แม้ภายภาคหน้า ถ้าเกิดสิ้นเขาไป เขาก็จะกลายเป็นบุคคลผู้เป็นตำนานของอณาจักรแอนโดร่าเรานับชั่วกาลนาน..."
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป และบาโทสก็เริ่มจะถอยร่นมากกว่าที่จะบุกเข้าไปโจมตีคว้าจับเหมือนในตอนแรก แต่ทว่าอาวุธของโคแวนเองนั้น แม้จะฟาดฟันโดนร่างของบาโทสไปสักเท่าไร ก็ไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับร่างเปลือกไม้นั้นได้เลยแม้แต่น้อยนิด
'เราจะทำอย่างไร จึงจะทำให้ไอ้ขอนไม้นี่สิ้นฤทธิ์อย่างแท้จริงและหยุดการเคลือนไหวได้โดยสิ้นเชิงนะ...? ' โคแวนพยายามขบคิดอยู่ในใจ ขณะที่ก็ยังคงฟาดฟันร่างไม้นั้นอย่างไม่หยุดยั้ง
เลยออกไปที่คาเมเลียส ที่ขณะนั้นยังคงทรุดร่างเพราะถูกอินทรนินทร์จ้าวธนูควบคุมไว้ด้วยลูกธนูที่ยังจ่อจับอยู่ที่ก้านคอของนาง และสีหน้าของนางยามนี้ก็เต็มไปด้วยความอึดอัดขัดใจหลังจากที่ได้พ่ายแพ้ให้กับอินทรนินทร์เพราะความประมาทในฝีมือ อีกทั้งกลับยังมีโคแวนโผล่พรวดออกมาจากทางลับในห้องด้านในโดยที่ไม่ได้คาดคิด และนั่นก็ทำให้นางถึงกับต้องเสียท่าและถูกควบคุมตัวไว้ได้ในที่สุด
นางเหลือบซ้ายไปมองที่สตรีชุดเขียวธนูแดงที่บัดนี้ได้เล็งธนูมาทางนางอย่างไม่วางมือ แล้วนางก็ได้เห็นว่าได้มีอยู่หลายๆ ครั้งที่สายตาของสตรีชุดเขียวได้เปลี่ยนไปจับตาดูการต่อสู้ของโคแวนกับบาโทสด้วยความสนใจตื่นใจราวกับไม่อาจจะห้ามใจได้
'นังคนนี้ไม่ได้ระวังตัวอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะเล็งธนูมาทางเรา แต่ถ้าหากเราจะลอบโจมตีนางนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก... แต่...'
คาเมเลียสคิดแล้วเหลือบไปทางขวาก็เห็นอินทรนินทร์มีสีหน้าสงบนิ่งและดวงตานั้นยังคงมองมาทางนางอย่างไม่ลดละ และเขาเองก็กลับไม่มีวี่แววว่าจะสนใจการต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่านนั้นเหมือนกับคนอื่นๆ ราวกับว่าการจับตาและควบคุมตัวนางไว้โดยไม่วางตานั้นจะเป็นภาระกิจที่สุดจะยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเพียงอย่างเดียว
'เจ้าอินทรนินทร์ผู้นี้ กลับไม่สนใจอะไรอย่างอื่นนอกจากจับตามองเรานิ่ง แถมลูกธนูของมันก็ไม่ยอมลดลงจากคอของเราเลยสักนิด นี่ข้าจะอาศัยจังหวะไหนหนีออกไปให้พ้นจากตรงนี้ได้กันล่ะนี่..? '
หัวสมองของคาเมเลียสขบคิดไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
แต่ทว่า ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างนางในที่สุด เมื่อกลับมีสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของนางอย่างไม่คาดฝัน
เพราะอยู่ๆ อินทรนินทร์จ้าวธนูก็ไอแค่กๆ ออกมา หลังจากนั้นก็พลันสำลักโลหิตออกมาอีกคำใหญ่ และร่างกายของเขานั้นก็กลับออกอาการซวนเซขึ้นมาอย่างทันใด...!
"ท่านพ่อ...?!! " เสียงสตรีชุดเขียวตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างทันทีเช่นกัน และคันธนูในมือของนางก็พลันลดลงอย่างไม่รู้ตัว
'อา... ข่าวลือเรื่องอินทรนินทร์มีอาการป่วยเรื้อรังจนถึงกับต้องเก็บตัวมาเนิ่นนาน กลับเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัยอีกแล้วสิ...! ' คาเมเลียสถึงกับแทบจะร้องโห่ออกมาด้วยความดีใจสุดขีด
และนี่ก็เป็นโอกาสทอง และโอกาสเดียวของนางแล้ว....!
"อย่าลดธนูลง...! ระวังคาเมเลียส...!! " อินทรนินทร์รีบเงยหน้าขึ้นมาบอกบุตรีของตนอย่างทันใด!
แต่ทว่า... ปฏิกิริยาของบุตรีของเขากลับไม่ได้ว่องไวเท่ากับการลงมือของคาเมเลียส...?!
เพราะตั้งแต่ศรีษระไล่ลงมาตลอดลำตัวนั้น มันกลับเป็นดั่งผิวของเปลือกไม้แห้งที่ไร้ซึ่งความมีชีวิตแบบใดๆ หากจะบอกว่า ถ้ามันผู้นี้ได้ปลดกางเกงออกมาอีกตัวจนเนื้อตัวล่อนจ้อนแล้ว มันก็คงจะดูไม่แตกต่างกับต้นไม้แห้งๆ ที่มีเปลือกหนาๆ และมีกิ่งงอกเงยออกมาเป็นแขนทั้งสองข้างอันดูน่าพิศวงราวกับเป็นต้นไม้ที่ตายซากจริงๆ ..!
และแล้วมันก็กางแขนอันเก้งก้างทั้งสองออกมาราวกับต้องการที่จะอวดโชว์เรือนร่างอันน่าภาคภูมิใจของมันเองให้โคแวนได้เห็นอย่างเต็มตา ก่อนที่มันจะกล่าวแนะนำตัวเองกับโคแวน
"ชื่อของข้าคือ 'บาโทส' ข้าคือชาวดาว'คูร่า' (ดาวพฤกษา) ข้าได้ฝึกวิชา'ศิลาพฤกษา'ขั้นสูงสุดจนสำเร็จ และข้าก็ได้ยินชื่อเสียงอันเลื่องลือของท่านมานานแล้วโคแวน และวันนี้ข้าก็คิดว่ามันช่างเป็นโอกาสดีที่ข้าจะได้มีโอกาสได้ทดสอบวิชาขั้นสูงสุดของข้ากับพลังตรีสูรอสุนีบาตรของท่าน ว่ามันจะมีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงต่อกันสักเพียงใดกัน! "
'ที่แท้ก็คือชาวดาวคูร่า ช่างน่าอัศจรรย์นัก...' โคแวนคิด
แต่ชาวดาวคูร่า แม้จะมีผิวร่างกายที่ดูแข็งกระด้างราวกับเปลือกไม้ แต่โคแวนก็ไม่เคยเห็นชาวดาวคูร่าคนไหนที่มีผิวราวกับเปลือกไม้แห้งที่ดูหนาเตอะเช่นนี้มาก่อน และเขาก็สงสัยว่า หรือจะเป็นเพราะวิชาศิลาพฤกษาอะไรนั่นที่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของมันผู้นี้ไปอย่างมากมาย อีกทั้งรูปร่างที่สูงใหญ่ถึงเกือบสามเมตรของมันนั่น ก็ยิ่งทำให้มันผู้นี้ดูแตกต่างจากเผ่าพันธ์ของมันเองอย่างที่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือชาวดาวคูร่าจริงๆ!
"ถ้าเจ้าต้องการอย่างนั้น... แล้วจะมัวชักช้าอยู่ใยล่ะ เชิญเข้ามาพิสูจน์ฝีมือของเจ้าเถอะ..." โคแวนบอกออกไปด้วยดวงตาที่ปราศจากความครั่นคร้าม
บาโทสแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะโถมร่างกายเข้าหาโคแวนราวกับสายฟ้าแล่บ โดยที่มือทั้งสองของมันนั้นก็กลับปราศจากอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น
'ทำไมเจ้าบาโทสนี่ถึงไม่ใช้อาวุธอะไรนอกจากร่างกายเปล่าๆ ของมันกันล่ะ ถ้างั้นเราเองก็คงต้องระวังมือทั้งสองของมันให้มากๆ หน่อยล่ะ...' ในเสี้ยววินาทีที่โคแวนคิด เขาก็หลบมือขวาของบาโทสที่พุ่งมาราวกับงูจงอางฉก!
แล้วตรีสูรในมือของโคแวนก็หมุนตวัดพุ่งเข้าใส่ลำตัวของบาโทสทันที...!
เสียงสวบ! เมื่อปลายของตรีสูรนั้นจมลึกเข้าไปในเนื้อกลางลำตัวของมัน พร้อมๆ กับที่มีประกายไฟสีฟ้าแล่บแปรบปราบออกมาจากตรงตำแหน่งที่ตรีสูรได้แทงเข้าไป
แต่เสี้ยววินาทีนั้น โคแวนกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง...
พลังออร่าที่อยู่บนปลายตรีสูร ราวกับจะบ่งบอกกับเขาว่า มันไม่พบกับสิ่งอื่นใดนอกจากเปลือกไม้ที่ยุบตัวลงไป และภายใต้เปลือกไม้นั้นก็ไม่มีสัญญาณของความมีชีวิตใดๆ ให้พลังไฟฟ้าจากตรีสูรทำปฏิกิริยาออกมาได้เลยแม้แต่น้อยนิด...!
แถมร่างกายของบาโทสผู้นี้ก็กลับดูดจับปลายของตรีสูรไว้ด้วยผิวเปลือกไม้อันเหนียวแน่น!
โคแวนออกแรงกระชากอาวุธกลับมา แต่ความเหนียวของผิวเปลือกไม้นั่นราวกับจะหลอมรวมปลายตรีสูรไว้เป็นเนื้อเดียวกัน
โคแวนออกแรงกระชากเป็นครั้งที่สอง...
คราวนี้เขาถึงกับเซถอยหลังหลุนๆ ไปหลายก้าว เมื่อปลายตรีสูรนั้นหลุดออกจากลำตัวของบาโทสอย่างง่ายดาย
'นั่นคงเป็นเพราะบาโทสควบคุมร่างเปลือกไม้นั้นให้คลายปลายตรีสูรออกมากระมัง? ' โคแวนรู้สึกฉงนขณะที่ยังจดจ้องไปที่ลำตัวของบาโทส
ลำตัวเนื้อไม้ที่เป็นรูจากการถูกปลายตรีสูรแทงเข้าไป บัดนี้ค่อยๆ สมานตัวเอง จนร่องรอยของรูแผลนั้นก็จางหายไปในเวลาอันรวดเร็ว...!
"ร่างกายของข้ามีชีวิต ก็เหมือนไม่มีชีวิต...! " บาโทสแสยะยิ้มพูด "ท่านเข้าใจแล้วใช่ไหม โคแวน? "
เสียงปรบมือช้าๆ สามครั้งดังมาจากเมธานอส
"ยอดเยี่ยมมากบาโทส ไม่เสียแรงที่ข้าเชิญเจ้ามาเป็นนักรบพิเศษของโบโรเธีย..." เมธานอสเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชม
"พลังตรีสูรอสุนีบาตร ก็คือพลังไฟฟ้าที่ส่งมาจากพลังออร่าอันกร้าวแกร่งของโคแวน แต่พลังไฟฟ้านั้นไม่สามารถทำปฏิกิริยากับเนื้อไม้ของเจ้าได้ ก็เห็นทีว่าคราวนี้ตรีสูรอสุนีบาตรจะสิ้นเชื่อเสียแล้วกระมัง... หรือท่านคิดว่าไง ท่านโคแวน...? " ประโยคสุดท้ายเขาหันไปถามโคแวนราวกับจะเยาะหยัน
แต่โคแวนกลับมีสีหน้าที่เฉยเมย แล้วเขาก็หมุนควงตรีสูรกลับไปกลับมาครั้งหนึ่ง "พลังอสุนีบาตรหรือพลังไฟฟ้าจากออร่าของข้า น่าจะสิ้นชื่อจริงๆ เมื่อมาเจอกับขอนไม้กระโหลกกะลาอย่างที่เจ้าว่า..."
แล้วเขาก็ยิ้มออกมาบางๆ ที่มุมปาก "งั้นข้าก็คงต้องเอาชนะพลังขอนไม้นี้ด้วยฝีมือและทักษะการต่อสู้อันน้อยนิดของข้าเองซะแล้วกระมัง...? "
แล้วเขาก็ตั้งท่าพร้อมสู้อีกรอบ "เชิญท่านสู้กับข้าอีกรอบเถอะ ท่านขอนไม้...! "
บาโทสแสยะยิ้ม "ท่านคงคิดว่าชาวคูร่าอย่างข้าจะไร้ซึ่งวิทยายุทกระมังโคแวน งั้นข้าก็จะพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นความจริงอีกอย่างล่ะ..."
"บาโทส..." เสียงของเมธานอสเรียก "ทักษะวิทยายุทธของท่านโคแวนนั้นก็ถือได้ว่าเป็นเลิศกว่าใครๆ หลายคนมากนัก เพราะฉนั้นเจ้าจงอย่าได้ประมาทเด็ดขาด..."
ไม่ทันสิ้นคำเตือนของเมธานอสดี บาโทสก็โถมร่างเข้าหาโคแวนอีกรอบอย่างไม่รอช้า
แล้วการต่อสู้ด้วยทักษะฝีมือและวิทยายุทของทั้งสอง ก็อุบัติขึ้นด้วยความรุนแรงดุดัน จนเพดานของพระราชวังจักรพรรดิ์ก็ยังต้องถึงกับสั่นสะเทือนอยู่เกือบตลอดเวลา..!
โคแวนพยายามหลีกเลี่ยงการแทงตรีสูรเข้าไปยังร่างของบาโทส แต่กลับใช้แรงกำลังฟาดฟันร่างเปลือกไม้ด้วยคมตรีสูรสลับกับปลายด้ามของตรีสูรที่เขาหมุนควงสลับฟาดตีออกไป
บาโทสไม่มีทีท่าจะหลบการโจมตีของโคแวนเท่าไร มันปล่อยให้ตรีสูรนั้นฟาดฟันร่างของมันอย่างเต็มที่โดยที่มันก็อาจจะเซถอยไปบ้างเป็นบางครั้งเพราะแรงปะทะอันหนักหน่วงของกำลังกายจากโคแวน แต่มันก็ยังคงบุกเข้าไปคว้าจับร่างของโคแวนอยู่อย่างไม่ลดละหรือล่าถอยแต่อย่างใด
โคแวนเองก็พยายามหลบมือที่ดูราวกับกิ่งไม้แห้งที่มีชีวิตนั้นไม่ให้คว้าจับตัวได้ แต่ก็มีบางครั้งที่มือกิ่งไม้นั้นกลับสามารถหาจังหวะเหวี่ยงร่างของเขาจนลอยละลิ่วไปกระทบกับผนังของตำหนักจนผนังนั้นถึงกับแทบยุบสลายลงไป...!
แต่ความแข็งแกร่งของโคแวนนั้นกลับอยู่เหนือคนธรรมดาโดยทั่วๆ ไป พริบตาเดียวเขาก็ลุกขึ้นมา และทะยานเข้าไปฟาดฟันร่างเปลือกไม้นั้นได้อย่างดุดันเช่นเดิม...!
และพอผ่านไปหลายอึดใจ ก็ดูเหมือนว่าบาโทสนั้นจะเริ่มอ่อนกำลังลงไปจากเดิม เมื่อร่างกายเปลือกไม้นั้นได้เริ่มเคลื่อนไหวช้าลงไปอยู่ทุกขณะ ในขณะที่การเคลื่อนไหวของโคแวนนั้นกลับยังไม่มีแววว่าจะช้าลงแต่อย่างใด
แล้วโรมิยาสกับสามองคงรักษ์ที่กำลังชมดูการต่อสู้อันดุเดือดนี้ ก็เริ่มมีรอยยิ้มขึ้นในสีหน้า
"เจ้าเปลือกไม้นั่นกำลังจะสิ้นแรง...! " เสียงองคงรักษ์หน้ากลมเอ่ยขึ้น
"ใช่..." โรมิยาสพูด "ร่างกายและพลังของโคแวนนั้นมันช่างแข็งแกร่งเกินกว่าที่ใครๆ จะคาดคิด แม้ไม่ใช้พลังอสุนีบาตร ก็ยากที่จะมีใครต่อกรกับเขาได้อย่างสูสี"
"แต่เจ้าเปลือกไม้นั่นก็แค่ช้าลง แต่การที่จะล้มมันให้พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิงนั้นก็ดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก? " องครักษ์หน้ายาวออกความเห็น
"ก็ใช่... " โรมิยาสพยักหน้า "แต่คนอย่างโคแวน ข้าก็ไม่เคยเห็นว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับใครมาก่อน และมันก็คงจะเป็นอยู่อย่างนั้นต่อไป แม้ภายภาคหน้า ถ้าเกิดสิ้นเขาไป เขาก็จะกลายเป็นบุคคลผู้เป็นตำนานของอณาจักรแอนโดร่าเรานับชั่วกาลนาน..."
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป และบาโทสก็เริ่มจะถอยร่นมากกว่าที่จะบุกเข้าไปโจมตีคว้าจับเหมือนในตอนแรก แต่ทว่าอาวุธของโคแวนเองนั้น แม้จะฟาดฟันโดนร่างของบาโทสไปสักเท่าไร ก็ไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับร่างเปลือกไม้นั้นได้เลยแม้แต่น้อยนิด
'เราจะทำอย่างไร จึงจะทำให้ไอ้ขอนไม้นี่สิ้นฤทธิ์อย่างแท้จริงและหยุดการเคลือนไหวได้โดยสิ้นเชิงนะ...? ' โคแวนพยายามขบคิดอยู่ในใจ ขณะที่ก็ยังคงฟาดฟันร่างไม้นั้นอย่างไม่หยุดยั้ง
เลยออกไปที่คาเมเลียส ที่ขณะนั้นยังคงทรุดร่างเพราะถูกอินทรนินทร์จ้าวธนูควบคุมไว้ด้วยลูกธนูที่ยังจ่อจับอยู่ที่ก้านคอของนาง และสีหน้าของนางยามนี้ก็เต็มไปด้วยความอึดอัดขัดใจหลังจากที่ได้พ่ายแพ้ให้กับอินทรนินทร์เพราะความประมาทในฝีมือ อีกทั้งกลับยังมีโคแวนโผล่พรวดออกมาจากทางลับในห้องด้านในโดยที่ไม่ได้คาดคิด และนั่นก็ทำให้นางถึงกับต้องเสียท่าและถูกควบคุมตัวไว้ได้ในที่สุด
นางเหลือบซ้ายไปมองที่สตรีชุดเขียวธนูแดงที่บัดนี้ได้เล็งธนูมาทางนางอย่างไม่วางมือ แล้วนางก็ได้เห็นว่าได้มีอยู่หลายๆ ครั้งที่สายตาของสตรีชุดเขียวได้เปลี่ยนไปจับตาดูการต่อสู้ของโคแวนกับบาโทสด้วยความสนใจตื่นใจราวกับไม่อาจจะห้ามใจได้
'นังคนนี้ไม่ได้ระวังตัวอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะเล็งธนูมาทางเรา แต่ถ้าหากเราจะลอบโจมตีนางนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก... แต่...'
คาเมเลียสคิดแล้วเหลือบไปทางขวาก็เห็นอินทรนินทร์มีสีหน้าสงบนิ่งและดวงตานั้นยังคงมองมาทางนางอย่างไม่ลดละ และเขาเองก็กลับไม่มีวี่แววว่าจะสนใจการต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่านนั้นเหมือนกับคนอื่นๆ ราวกับว่าการจับตาและควบคุมตัวนางไว้โดยไม่วางตานั้นจะเป็นภาระกิจที่สุดจะยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเพียงอย่างเดียว
'เจ้าอินทรนินทร์ผู้นี้ กลับไม่สนใจอะไรอย่างอื่นนอกจากจับตามองเรานิ่ง แถมลูกธนูของมันก็ไม่ยอมลดลงจากคอของเราเลยสักนิด นี่ข้าจะอาศัยจังหวะไหนหนีออกไปให้พ้นจากตรงนี้ได้กันล่ะนี่..? '
หัวสมองของคาเมเลียสขบคิดไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
แต่ทว่า ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างนางในที่สุด เมื่อกลับมีสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของนางอย่างไม่คาดฝัน
เพราะอยู่ๆ อินทรนินทร์จ้าวธนูก็ไอแค่กๆ ออกมา หลังจากนั้นก็พลันสำลักโลหิตออกมาอีกคำใหญ่ และร่างกายของเขานั้นก็กลับออกอาการซวนเซขึ้นมาอย่างทันใด...!
"ท่านพ่อ...?!! " เสียงสตรีชุดเขียวตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างทันทีเช่นกัน และคันธนูในมือของนางก็พลันลดลงอย่างไม่รู้ตัว
'อา... ข่าวลือเรื่องอินทรนินทร์มีอาการป่วยเรื้อรังจนถึงกับต้องเก็บตัวมาเนิ่นนาน กลับเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัยอีกแล้วสิ...! ' คาเมเลียสถึงกับแทบจะร้องโห่ออกมาด้วยความดีใจสุดขีด
และนี่ก็เป็นโอกาสทอง และโอกาสเดียวของนางแล้ว....!
"อย่าลดธนูลง...! ระวังคาเมเลียส...!! " อินทรนินทร์รีบเงยหน้าขึ้นมาบอกบุตรีของตนอย่างทันใด!
แต่ทว่า... ปฏิกิริยาของบุตรีของเขากลับไม่ได้ว่องไวเท่ากับการลงมือของคาเมเลียส...?!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ