The Phoenix of Andromeda

-

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.23 น.

  19 ตอน
  45 วิจารณ์
  18.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) การกลับมาของโคแวน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ขณะที่เมธานอสกำลังจะเอ่ยคำพูดออกมา เขาก็พลันรู้สึกถึงพลังแห่งความกดดันอันหนักหน่วงบางอย่างที่แผ่พุ่งออกมาจากทางด้านในห้องนั้น...

บรึ้มมมมมมม .......!!!!

พริบตาที่เมธานอสหันไป เขาก็ได้เห็นร่างขนาดใหญ่ร่างหนึ่งลอยทะลุประตูอันหนาใหญ่นั้นออกมาราวกับได้ถูกพลังอันมหาศาลอัดกระแทกอย่างเต็มเหนี่ยวจนแม้แต่ประตูที่ดูจะแข็งแกร่งกว่าปกติทั่วไปนั้นก็ยังต้องแตกหักสะบั้นไปด้วยกันทั้งสองบาน!

จากนั้นร่างอันใหญ่ยักษ์นั้นก็ได้ร่วงตกลงยังพื้นศิลาเบื้องล่างที่อยู่ระหว่างเมธานอสกับโรมิยาสทันที และกระทั่งพื้นศิลาตรงนั้นก็ยังต้องยุบจมดินลงไปตามน้ำหนักอันมหาศาลและแรงส่งอันรุนแรง!

จากนั้นเมื่อเมธานอสได้มองเห็นหน้าของเจ้าของร่างอันใหญ่ยักษ์นั้นได้อย่างชัดเจนแล้ว เขาก็ถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างพิศวงใจ

"ลูก้า...?! " เขาเรียกนามนั้น "นี่เป็นเจ้าเองรึ?! "

เจ้าของร่างที่ตกลงมาจนพื้นศิลายุบลงไปกลับเป็น'ลูก้า'จริงๆ!

แล้วเมธานอสก็เข้าใจเหตุการณ์ทันทีว่า ในจังหวะที่เขาได้หันมาประจัญหน้ากับโรมิยาสนั้น ลูก้าคงได้รีบถลาบุกเข้าไปในห้องนั้นอย่างรวดเร็วเพื่อหวังที่จะช่วยคาเมเลียสโดยที่เขาก็ไม่ทันจะได้สังเกตุ แต่ทว่าลูก้าเองก็กลับโดนพลังอันหนักหน่วงนั้นอัดกระแทกจนปลิวกระเด็นออกมาซะก่อน ทั้งที่ลูก้าเองนั้นก็มีรูปร่างอันใหญ่โตราวกับยักษ์ปักหลั่นแต่ก็ไม่อาจจะต้านรับพลังอันรุนแรงนั้นได้ แสดงว่าพลังนั้นย่อมจะไม่ใช่พลังของนักรบหรือนักสู้ระดับชนชั้นธรรมดาอย่างแน่นอน และนั่นก็ย่อมจะไม่ใช่พลังจากธนูมรกตของอินทรนินทร์จ้าวธนูอีกเช่นกัน

ก็แล้วยอดฝีมือผู้มีพลังอันรุนแรงดุดันนี้จะเป็นใครไปได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เป็นบุคคลที่เขาน่าจะรู้จักเป็นอย่างดีที่สุดผู้หนึ่ง....?

เมื่อเมธานอสมองผ่านซากเศษของประตูใหญ่เข้าไปในห้องเพดานสูงนี้ สายตาของเขาก็ได้ปะทะกับเรือนร่างของบุรุษผู้หนึ่งกำลังยืนปักหลักมองเขม็งมาทางด้านนี้อย่างดุดัน และเขาผู้นี้ก็มีเรือนร่างที่สูงใหญ่พอๆ กับโรมิยาส แต่ทว่ากลับไว้หนวดเและครารกครึ้มกว่า

และแล้วสายของบุรุษผู้นี้ก็ได้ประสานเข้ากับสายตาของเมธานอสเข้าพอดี

สีหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากโลหะสีเงินอันแวววาวของเมธานอสในขณะนี้ อดจะเกิดความตึงเครียดขึ้นมาอยู่เล็กน้อยไม่ได้ เมื่อเขาได้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า บุคคลที่เพิ่งจะปรากฏตัวออกมาให้เขาได้เห็นในขณะนี้ก็คือ 'โคแวน ' ยอดบุรุษนักรบหรือยอดขุนพลอันดับหนึ่งแห่งอณาจักรแอนโดร่าอย่างที่เขาได้คาดไว้จริงๆ ...!

แต่ทว่าเขาเองนั้นก็ไม่ได้คาดคิดไว้เลยว่า โคแวนจะกลับมายังตำหนักจักรพรรดิ์ได้รวดเร็วกว่าที่เขาได้คาดคำนวณไว้ซะอีก ทั้งๆ ที่ป้อมปราการที่ 7 ที่อยู่ทางทิศเหนืออันเป็นป้อมที่โคแวนได้ไปสังเกตุการณ์อยู่นั้น ก็อยู่ห่างไกลจากที่นี่ไปไม่ใช่น้อย นี่ก็แสดงให้เห็นว่าที่ภายใต้ดินของอณาจักรแอนโดร่าแห่งนี้นั้นยังต้องมีทางด่วนพิเศษเพื่อให้พาหนะความเร็วสูงบางอย่างได้สัญจรไปกลับในเวลาฉุกเฉินเร่งด่วนอยู่อย่างแน่นอน

เลยไปทางด้านซ้ายมือของโคแวน เมธานอสก็ได้เห็นคาเมเลียสกำลังอยู่ในท่าคุกเข่าลงกับพื้น โดยที่ใบหน้าข้างขวาของนางนั้นยังมีรอยถูกกรีดด้วยของมีคมจนเป็นทางยาว และได้ทำให้ใบหน้าซีกนั้นของนางถึงกับอาบไปด้วยโลหิตอันแดงฉาน และที่ตรงก้านคอของนางก็ยังมีหัวลูกธนูที่มีสีเขียวมรกตและมีความคมวาววับจ่อจับอยู่ตรงบริเวณนั้นจนมีโลหิตไหลซึมออกมาอยู่ซิบๆ และผู้ที่ได้ถือดอกธนูจ่อจับก้านคอของคาเมเลียสอยู่นี้ก็คือ อินทรนินทร์จ้าวธนูห้ามรกตนั่นเอง...

เลยไปทางด้านซ้ายมือของอินทรนินทร์ ยังมีสตรีใส่หน้ากากปิดคาดหน้าตั้งแต่จมูกลงมาและแต่งกายด้วยชุดสีเขียวมรกตคล้ายกับชุดของอินทรนินทร์ กำลังยืนถือคันธนูสีแดงเล็งมาทางหน้าประตูที่เพิ่งหักพังไปนี้อย่างไม่วางตา...

"เห็นแล้วใช่ไหม...." โรมิยาสเอ่ยออกมาอีก "การจะเอาชนะจ้าวธนูห้ามรกตนั้น ไม่มีใครจะทำกันได้ง่ายๆ หรอกนะ ยิ่งไม่ต้องนับนังเด็กน้อยที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนั้น..."

แล้วโรมิยาสก็เปลี่ยนสายตาไปที่โคแวน พลางพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มบางๆ ในขณะที่โคแวนก็พยักหน้ากลับมาให้โรมิยาส เป็นความหมายว่า 'เรามาแล้ว ท่านไม่ต้องเป็นห่วง'

แล้วโคแวนก็ก้าวย่างมาข้างหน้าสองสามก้าว พรางจ้องมองเมธานอสด้วยดวงตาอันดุดัน

"โคแวน..." เสียงของเมธานอสเอ่ยนามนั้นออกมา ขณะที่เขามองประสานไปที่ดวงตาของโคแวนอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ

แล้วโคแวนก็ถึงกับชงักไปเล็กน้อย เมื่อถูกฝ่ายศัตรูผู้ที่สวมหน้ากากเหล็กปกปิดโฉมหน้าที่แท้จริงเอาไว้เอ่ยนามของเขาออกมา ดั่งได้เคยรู้จักเขามาก่อนหน้านี้

"เจ้าเป็นใครกันแน่... เจ้าหน้ากากเหล็ก? " เขาเอ่ยถามเมธานอสด้วยเสียงห้าวต่ำ "ข้ารู้สึกว่าข้านั้น เหมือนจะคุ้นๆ เสียงของเจ้า แถมเจ้ายังเรียกชื่อของข้าได้ถูกต้อง ทั้งๆ ที่เจ้ากับข้าก็เพิ่งจะเคยเจอกัน หรือว่าเจ้ากับข้านั้น จะได้เคยรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ที่ณ.ที่ใดที่หนึ่งกัน จงบอกข้ามาซิ...?! "

จากคำถามนั้น ทำให้ใจของเมธานอสตกวูบไปเล็กน้อย และคิดว่าเขาน่าจะนำเครื่องแปลงเสียงพูดติดตัวมาด้วย แต่แล้วเขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อคำถามนั้นออกมาให้โคแวนเห็น

"ชื่อของข้าก็คือ เมธานอส และข้าก็คือชาวโบโรเธีย...! " เขาตอบคำถามนั้นด้วยเสียงที่ห้าวต่ำเช่นกัน

"ข้านั้น หาได้เคยรู้จักหรือเคยพบเจอกับท่านมาก่อนหน้านี้ไม่ แต่ข้าเคยได้ยินกิตติศัพท์คำร่ำลือของยอดขุนพลผู้มีสติปัญญาและฝีมืออันเอกอุแห่งแอนโดร่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน จึงทำให้ข้ารู้ได้ในทันทีว่าท่านนั้นน่าจะเป็น โคแวน ยอดขุนพลเอกแห่งอณาจักรแอนโดร่า และยิ่งพลังที่ส่งผ่านตรีสูรของท่านได้ทำให้นักรบฝีมือเยี่ยมคนหนึ่งของข้าได้กระเด็นออกมาราวกับโดนปืนใหญ่นั้น ก็ยิ่งทำให้ข้ามั่นใจว่า ท่านนั้นก็คือโคแวน อย่างแน่นอน...! "

โคแวนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย "จริงสิ... ใครๆ เขาก็รู้จักข้ากันทั้งนั้น แม้แต่พวกเผ่าพันธ์ที่มีความทะเยอทะยานกันอย่างไม่จบสิ้นอย่างชาวโบโรเธียก็ยังรู้จักข้า ต้องขอขอบคุณ..."

คำพูดของโคแวนกลับแฝงไว้ด้วยคำเหน็บแนม

"แต่ว่า ข้าขอถามเจ้าหน่อย การที่พวกเจ้าบุกรุกเข้ามาสู่อณาจักรของพวกเราในครั้งนี้นั้น ไม่คิดว่าจะเป็นการละเมิดสนธิสัญญาในการไม่รุกรานกันเป็นเวลาสิบปี ที่สองอณาจักรเราได้เคยทำกันไว้เมื่อราวสองปีที่แล้วหรอกรึ...? "

แล้วรอยยิ้มของเมธานอสก็ปรากฏออกมาเล็กน้อย ภายใต้หน้ากากโลหะที่โคแวนไม่อาจจะเห็นได้

"รุกรานรึ...? ท่านคงจะไม่ลืมประวัติศาสตร์ของดาราจักรแห่งนี้นะว่า เผ่าพันธ์ที่เริ่มรุกรานเผ่าพันธ์อื่นเมื่อครั้งอดีตนั้นก็คือเผ่าพันธ์ของท่าน และท่านคงยังจะจำได้อยู่กระมังว่า ดาวแอนโดร่านี้ก็คือดาวที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเราชาวโบโรเธียมาก่อนตั้งแต่เมื่อครั้งบรรพกาล ก่อนที่เผ่าพันธ์ของพวกท่านจะเข้ามาขับไล่เผ่าพันธ์ของพวกเราทั้งหมดให้ออกไปจากดาวดวงนี้....? "

โคแวนถึงกับมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินคำอธิบายย้อนหลังไปถึงเรื่องราวหนหลังอันไกลโพ้นที่ได้ผ่านมาหลายพันปีแล้ว...!

"นั่นมันเป็นเรื่องที่ได้ผ่านพ้นมาเนิ่นนานแสนนานแล้ว..." โคแวนเชิดหน้าพูด "ณ.เวลานี้ ทุกเผ่าพันธ์ล้วนมีดวงดาวและอณาจักรเป็นของตนเอง ดาวโบโรเธียของพวกท่านก็นับว่าเป็นดาวที่อุดมสมบูรณ์อยู่ไม่น้อยมิใช่หรือ แล้วชาวโบโรเธียยังอยากจะรุกรานเราเพื่อสิ่งใดกัน...? "

แล้วเมธานอสก็พลันแหงนหน้าหัวเราะออกมา

"อุดมสมบูรณ์หรือ...? หากเทียบกับดาวแอนโดร่าที่ใหญ่โตกว่ากันมาก แถมยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสินแร่ต่างๆ มากมาย ดาวโบโรเธียของพวกเราก็เปรียบเสมือนเป็นดั่งดาวเด็กน้อยหรือดาวแคระไปได้เลย พวกเราชาวโบโรเธียหรือจะลืมดาวแอนโดร่าที่เป็นดั่งดาวที่เคยเป็นภิภพแม่ของเราไปได้...."

เมื่อโคแวนได้ยินคำพูดแบบนั้นของเมธานอสแล้ว กล้ามเนื้อทั่วร่างเขาก็เริ่มกระตุกตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง...

"พวกเจ้าต้องการจะทำสงครามกับพวกเราอีกครั้งงั้นรึ อย่าลืมว่าในอดีตพวกเจ้านั้น ก็ไม่เคยเอาชนะพวกเราได้จริงๆ เลยสักครั้ง...?! "

"ไม่ใช่...! " เสียงของเมธานอสดังขึ้นมาอีกระดับ

"ยังไม่ใช่ตอนนี้... ตอนนี้พวกเราต้องการเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น...."

"อะไร...? "

"พระโอรส... แห่งองค์จักรพรรดิ์แอนโดร่า...! " เมธานอสเน้นเสียง "นั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องการในตอนนี้...! และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้พวกเราได้มีปฏิบัติการอย่างที่พวกท่านได้เห็นกันในวันนี้อย่างไงล่ะ...! "

โคแวนถึงกับตาเหลือกโพลง และนั่นมันก็เป็นอย่างที่ได้เคยคาดการณ์กันไว้ ว่าพวกโบโรเธียได้หลงเชื่อคำทำนายนั่น และหวังจะใช้พระโอรสขององค์จักรพรรดิ์ให้เป็นเครื่องมือเพื่อนำไปสู่ชัยชนะและความยิ่งใหญ่ในบั้นปลายของอนาคตตามคำทำนายของศิลาบรรพกาลที่ยายเฒ่ามาเอียได้อ้างไว้...!

สีหน้าอันเคร่งเครียดของโคแวนในตอนนี้กลับยิ่งดูเคร่งเครียดมากขึ้นกว่าเดิม

"หากว่าพวกเจ้าเชื่อคำทำนายอันโง่เขลานั่น พวกเราทั้งสองฝ่ายก็คงจะไม่ต้องเจรจาอะไรกันให้มากความกว่านี้ อีกแล้วละมั้ง...? "

โคแวนจบประโยคนั้นพร้อมกับยกตรีสูรขึ้นมาข้างหน้า จากนั้นรัศมีพลังสีฟ้าราวกับไฟฟ้ากำลังสูง ก็ปรากฏประกายแปลบปลาบไปรอบๆ คมของตรีสูร..!

"ออร่าแห่งพลังวัตรของเขานั้นช่างน่าทึ่งนัก..." เสียงของนักรบผู้หนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของเมธานอส

"ท่านเมธานอส... ขอให้ข้าผู้นี้ได้พิสูจน์พลังฝีมือของเขาดูสักครั้งจะได้ไหม? " นักรบของเมธานอสผู้นั้นกล่าวต่อไป "ข้าเองนั้นอยากจะรู้ซะเหลือเกินว่า พลังฝีมือของเขากับยอดศาตราตรีสูรอสุนีบาตรนั่น มันจะสมกับคำร่ำลือเหมือนอย่างที่ใครๆ หลายคนได้กล่าวอ้างกันไว้หรือเปล่า...? "

แล้วเมธานอสก็ยิ้มขึ้นมาจากภายใต้หน้ากากเหล็ก

"ข้าเองก็กำลังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า บางทีพลังของเจ้านั้น อาจจะเป็นดาวข่มของพลังตรีสูรอสุนีบาตรของโคแวนก็เป็นได้...? "

"แต่ว่า... " เขาเอียงหน้าไปหานักรบผู้นั้นและลดเสียงลง

"เจ้าจงจำไว้ให้มั่นว่า ภาระกิจที่แท้จริงของพวกเราในครั้งนี้นั้นไม่ใช่เป็นการมาประลองฝีมืออันยืดเยื้ออยู่ ณ.ที่ดาวของศัตรูแห่งนี้ เพราะฉะนั้นเจ้าจงพยายามเอาชนะเขาให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ จงอย่าได้ลืมคำพูดของข้าซะล่ะ..."

พอจบคำพูดนั้น นักรบลึกลับที่ได้ยืนอยู่ด้านหลังของเมธานอสก็ได้ก้าวเยื้องย่างออกมาข้างหน้า เพื่อเผชิญหน้ากับโคแวนทันที!

แล้วโคแวนก็ถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง เมื่อได้เห็นร่างกายของนักรบผู้นี้เต็มตา...?

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา