มรสุมรักร้าย
8.3
เขียนโดย ดาวจรัด
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 03.00 น.
8 บท
0 วิจารณ์
8,564 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 03.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) บทที่๒ จุดเริ่มต้นของนรก (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“คุณคงเป็นลูกชายคนโตของคุณภาทสินะ ตายจริงแม่ไม่รู้ว่าคุณจะมา ถ้าแม่รู้คงจะออกไปต้อนรับให้สมเกียร์ติ”
“ฉันไม่เคยมีแม่เป็นโสเภณี อย่าสะเออะมาแทนตัวเองกับฉันแบบนี้อีก” ปวิชแทบคลั่งที่หล่อนแทนตัวเองว่าแม่กับเขา แค่นี้ก็รู้แล้วว่าหล่อนร้ายกาจแค่ไหน แม่เขาแสนดีเกินไปที่จะสู้กับคนพันธุ์นี้ อย่างหล่อนจะต้องสู้เขาถึงจะสมน้ำสมเนื้อ
“แล้วฉันจะต้องแทนตัวว่าอะไรดีคะ แม่ก็ไม่ได้ หรือว่าจะน้าดีนะ” จบคำเท่านั้น ข้อมือก็ถูกกำจากมือหนุ่มรุ่นลูกอย่างรุนแรงทำเอาน้ำตาแทบปริ แต่หล่อนไม่กลัวหรอกเจ็บหนักกว่านี้หล่อนก็เคยผ่านมาแล้ว
ปวิชจ้องหญิงชั่วที่จ้องเขากลับอย่างไม่เกรงกลัว ยิ่งทำให้เขาโกรธผลักเจ้าหล่อนจนล้มไม่คิดจะเห็นใจ
“แบบไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ผู้หญิงชั่วแบบเธอไม่ควรจะมีสถานะในบ้านหลังนี้ด้วยซ้ำ” จบคำพูดดูแคลนชายหนุ่มก็หุนหันเดินไปห้องที่อยู่ริมสุดของปีกขวา
ประภาวีได้แต่มองตามหลังไป เธอชินชาเสียแล้วกับคำดูถูกเหยียดฉันท์เช่นนี้ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องทนเพราะความปลอดภัย เสียงข้อความในกระเป๋ากระโปรงดังเตือนแล้วล้วงขึ้นมาดู
คืนนี้เจอกัน ที่เดิมนะจ๊ะ
คืนนี้ปัญรินทร์กลับบ้านดึกเป็นพิเศษเพราะต้องรีบเคลียร์งานกลุ่มเตรียมพรีเซนต์อาจารย์พรุ่งนี้ กันต์อาสามาส่ง แต่เธอปฏิเสธเพราะมีเหตุไม่อยากให้เพื่อนเห็นที่อยู่ใหม่ เพราะละอายใจจริงๆเลยต้องยอมเสียค่าแท็กซี่ที่แสนแพงสำหรับเธอไปหนึ่งวันเพราะเหนื่อย
ปัญรินทร์ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านก็เริ่มแปลกใจเพราะนี้ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ปกติบ้านหลังนี้สามทุ่มครึ่งก็ดับไฟนอนแล้ว ยิ่งเดินใกล้ถึงโซนห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงเพลงสากลคลอเบาๆ แต่ตอนนี้เธอง่วงเกินกว่าจะอยากรู้ คงจะเป็นเจ้าของบ้านเขามั้ง
“นั้นใคร”
เท้าที่สาวอยู่หยุดลงทันใดกับน้ำเสียงทรงอำนาจนั้น มันดุดันจนเธอนึกกว่าเหมือนเด็กทำผิดยังไงไม่รู้ ไม่ใช่เสียงคุณเศรษฐาแน่นอนเธอจำได้
“เธอเป็นใคร ทำไมถึงเข้ามาในบ้านฉัน” บ้านเขาไม่มีเด็กนักศีกษา ส่วนน้องสาวเขาก็เรียนจบแล้วเพียงแต่เที่ยวเล่นไปวันๆงานการไม่ยอมทำ
ปัญรินทร์หมุนตัวกลับมาก่อนจะเอะใจเพราะชายตรงหน้าคือคนที่ขี่รถเกือบชนเธอเมื่อเช้า
“คุณ/เธอ”ต่างฝ่ายต่างอุทานด้วยความตกใจใคร่สงสัย ทำให้ปวิชครุ่นคิดไปถึงเมียน้อยของพ่อที่แม่เล่าให้ฟังว่ามีลูกติดมาด้วย ก่อนจะแฉะยิ้มสมเพช
“เธอคงจะเป็นลูกเมียน้อยสินะ”
“คะ....” คงเป็นคำถามที่เจ็บที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา
“หึ....เลิกเสแสงแกล้งเป็นซื่อได้แล้ว....รูปถ่ายฉันออกจะใหญ่ขนาดนั้น ไหนจะนามบัตรที่ฉันให้เธออีก แล้วยังจะทำหน้าซื่อเหมือนไม่รู้จักฉันอย่างงั้นละ” ตีสองหน้าเก่งจริงๆขนาดพึ่งเจอกันไม่ทันไร“ถ้าฉันรู้ก่อนว่าเธอเป็นลูกโสเภณีฉันคงสั่งคนขับรถชนเธอให้ละเอียด”
เธอเหมือนช็อคเลยล่ะ จากผู้ชายสุภาพบุรุษเมื่อเช้ากลายเป็นจอมมารภายในค่ำ ถึงเธอจะมาอยู่ที่นี้ได้เกือบอาทิตย์ก็ไม่ได้แปลกว่าสำรวจตรวจบ้านที่ไม่ใช่ของตัวเองเยี่ยงเจ้านาย แล้วนามบัตรนั้นถ้าเธอเสียเวลาอ่านมันสักนาทีก็คงไม่เจอเรื่องเซอร์ไพร์อย่างนี้
แต่คำพูดคำจาเขามันก็เกินไปซ้ำยังให้ร้ายเธอลามไปถึงบุพการี ใช่ในฐานะมนุษย์ด้วยกันครอบครัวเขาเป็นฝ่ายโดนกระทำซึ่งควรเห็นใจ แต่ในฐานะลูกเธอก็มีสิทธิโกรธไม่ใช่เหรอ
“นิ่งได้อีก ด้านทั้งแม่ทั้งลูกจริงๆ” มารยาเขาไม่รู้จะพูดคำไหนจริงๆ
“ถึงคุณจะด่าว่าฉันยังไงแต่ฉันก็อยากจะยืนยันความบริสุทธิ์นะคะว่าฉันไม่รู้จักคุณมาก่อนหน้านี้จริงๆ” ปัญรินทร์จ้องสบตาเขาเพื่อชายหนุ่มจะได้รู้ว่าเธอพูดจริง แต่ต้องเสหลบเพราะไม่อาจต้านทานสายตาแข็งกร้าวนั้นได้
ปวิชแทบจะหลุดขำกับคำสารภาพที่เขามองว่ามันเสแร่งยิ่งนัก “แอ๊คติ้งเลิศขนาดนี้ ไม่สนใจไปเล่นละครเหรอเงินคงจะได้เยอะโขพอที่เธอจะเลี้ยงแม่โสเภณีได้อยู่หรอก”
“นี้คุณ คุณชักจะดูถูกพวกเราเกินไปแล้วนะ” นาทีนี้เธอขอขึ้นเสียงบ้างเถอะ หัวใจแทบตกลงพื้นเมื่อเขากระฉากเข้าหาตัว
“ก็ไม่เห็นจะดูผิดตรงไหนนิ” ปวิชใช้แรงเพียงน้อยนิดก็สะบัดหญิงที่น่าขยะแขยงในสายตาเขาล้มก้นกระแทกพื้นเดินขึ้นบันไดไม่แม้จะเห็นใจกลับสะใจด้วยซ้ำ
เจ็บ แต่เธออึดพอที่จะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นใจนอกจากแม่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ