มรสุมรักร้าย
เขียนโดย ดาวจรัด
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 03.00 น.
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 03.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) บทที่๒ จุดเริ่มต้นของนรก (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“คุณคงเป็นลูกชายคนโตของคุณภาทสินะ ตายจริงแม่ไม่รู้ว่าคุณจะมา ถ้าแม่รู้คงจะออกไปต้อนรับให้สมเกียร์ติ”
“ฉันไม่เคยมีแม่เป็นโสเภณี อย่าสะเออะมาแทนตัวเองกับฉันแบบนี้อีก” ปวิชแทบคลั่งที่หล่อนแทนตัวเองว่าแม่กับเขา แค่นี้ก็รู้แล้วว่าหล่อนร้ายกาจแค่ไหน แม่เขาแสนดีเกินไปที่จะสู้กับคนพันธุ์นี้ อย่างหล่อนจะต้องสู้เขาถึงจะสมน้ำสมเนื้อ
“แล้วฉันจะต้องแทนตัวว่าอะไรดีคะ แม่ก็ไม่ได้ หรือว่าจะน้าดีนะ” จบคำเท่านั้น ข้อมือก็ถูกกำจากมือหนุ่มรุ่นลูกอย่างรุนแรงทำเอาน้ำตาแทบปริ แต่หล่อนไม่กลัวหรอกเจ็บหนักกว่านี้หล่อนก็เคยผ่านมาแล้ว
ปวิชจ้องหญิงชั่วที่จ้องเขากลับอย่างไม่เกรงกลัว ยิ่งทำให้เขาโกรธผลักเจ้าหล่อนจนล้มไม่คิดจะเห็นใจ
“แบบไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ผู้หญิงชั่วแบบเธอไม่ควรจะมีสถานะในบ้านหลังนี้ด้วยซ้ำ” จบคำพูดดูแคลนชายหนุ่มก็หุนหันเดินไปห้องที่อยู่ริมสุดของปีกขวา
ประภาวีได้แต่มองตามหลังไป เธอชินชาเสียแล้วกับคำดูถูกเหยียดฉันท์เช่นนี้ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องทนเพราะความปลอดภัย เสียงข้อความในกระเป๋ากระโปรงดังเตือนแล้วล้วงขึ้นมาดู
คืนนี้เจอกัน ที่เดิมนะจ๊ะ
คืนนี้ปัญรินทร์กลับบ้านดึกเป็นพิเศษเพราะต้องรีบเคลียร์งานกลุ่มเตรียมพรีเซนต์อาจารย์พรุ่งนี้ กันต์อาสามาส่ง แต่เธอปฏิเสธเพราะมีเหตุไม่อยากให้เพื่อนเห็นที่อยู่ใหม่ เพราะละอายใจจริงๆเลยต้องยอมเสียค่าแท็กซี่ที่แสนแพงสำหรับเธอไปหนึ่งวันเพราะเหนื่อย
ปัญรินทร์ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านก็เริ่มแปลกใจเพราะนี้ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ปกติบ้านหลังนี้สามทุ่มครึ่งก็ดับไฟนอนแล้ว ยิ่งเดินใกล้ถึงโซนห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงเพลงสากลคลอเบาๆ แต่ตอนนี้เธอง่วงเกินกว่าจะอยากรู้ คงจะเป็นเจ้าของบ้านเขามั้ง
“นั้นใคร”
เท้าที่สาวอยู่หยุดลงทันใดกับน้ำเสียงทรงอำนาจนั้น มันดุดันจนเธอนึกกว่าเหมือนเด็กทำผิดยังไงไม่รู้ ไม่ใช่เสียงคุณเศรษฐาแน่นอนเธอจำได้
“เธอเป็นใคร ทำไมถึงเข้ามาในบ้านฉัน” บ้านเขาไม่มีเด็กนักศีกษา ส่วนน้องสาวเขาก็เรียนจบแล้วเพียงแต่เที่ยวเล่นไปวันๆงานการไม่ยอมทำ
ปัญรินทร์หมุนตัวกลับมาก่อนจะเอะใจเพราะชายตรงหน้าคือคนที่ขี่รถเกือบชนเธอเมื่อเช้า
“คุณ/เธอ”ต่างฝ่ายต่างอุทานด้วยความตกใจใคร่สงสัย ทำให้ปวิชครุ่นคิดไปถึงเมียน้อยของพ่อที่แม่เล่าให้ฟังว่ามีลูกติดมาด้วย ก่อนจะแฉะยิ้มสมเพช
“เธอคงจะเป็นลูกเมียน้อยสินะ”
“คะ....” คงเป็นคำถามที่เจ็บที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา
“หึ....เลิกเสแสงแกล้งเป็นซื่อได้แล้ว....รูปถ่ายฉันออกจะใหญ่ขนาดนั้น ไหนจะนามบัตรที่ฉันให้เธออีก แล้วยังจะทำหน้าซื่อเหมือนไม่รู้จักฉันอย่างงั้นละ” ตีสองหน้าเก่งจริงๆขนาดพึ่งเจอกันไม่ทันไร“ถ้าฉันรู้ก่อนว่าเธอเป็นลูกโสเภณีฉันคงสั่งคนขับรถชนเธอให้ละเอียด”
เธอเหมือนช็อคเลยล่ะ จากผู้ชายสุภาพบุรุษเมื่อเช้ากลายเป็นจอมมารภายในค่ำ ถึงเธอจะมาอยู่ที่นี้ได้เกือบอาทิตย์ก็ไม่ได้แปลกว่าสำรวจตรวจบ้านที่ไม่ใช่ของตัวเองเยี่ยงเจ้านาย แล้วนามบัตรนั้นถ้าเธอเสียเวลาอ่านมันสักนาทีก็คงไม่เจอเรื่องเซอร์ไพร์อย่างนี้
แต่คำพูดคำจาเขามันก็เกินไปซ้ำยังให้ร้ายเธอลามไปถึงบุพการี ใช่ในฐานะมนุษย์ด้วยกันครอบครัวเขาเป็นฝ่ายโดนกระทำซึ่งควรเห็นใจ แต่ในฐานะลูกเธอก็มีสิทธิโกรธไม่ใช่เหรอ
“นิ่งได้อีก ด้านทั้งแม่ทั้งลูกจริงๆ” มารยาเขาไม่รู้จะพูดคำไหนจริงๆ
“ถึงคุณจะด่าว่าฉันยังไงแต่ฉันก็อยากจะยืนยันความบริสุทธิ์นะคะว่าฉันไม่รู้จักคุณมาก่อนหน้านี้จริงๆ” ปัญรินทร์จ้องสบตาเขาเพื่อชายหนุ่มจะได้รู้ว่าเธอพูดจริง แต่ต้องเสหลบเพราะไม่อาจต้านทานสายตาแข็งกร้าวนั้นได้
ปวิชแทบจะหลุดขำกับคำสารภาพที่เขามองว่ามันเสแร่งยิ่งนัก “แอ๊คติ้งเลิศขนาดนี้ ไม่สนใจไปเล่นละครเหรอเงินคงจะได้เยอะโขพอที่เธอจะเลี้ยงแม่โสเภณีได้อยู่หรอก”
“นี้คุณ คุณชักจะดูถูกพวกเราเกินไปแล้วนะ” นาทีนี้เธอขอขึ้นเสียงบ้างเถอะ หัวใจแทบตกลงพื้นเมื่อเขากระฉากเข้าหาตัว
“ก็ไม่เห็นจะดูผิดตรงไหนนิ” ปวิชใช้แรงเพียงน้อยนิดก็สะบัดหญิงที่น่าขยะแขยงในสายตาเขาล้มก้นกระแทกพื้นเดินขึ้นบันไดไม่แม้จะเห็นใจกลับสะใจด้วยซ้ำ
เจ็บ แต่เธออึดพอที่จะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นใจนอกจากแม่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ