เส้นทางของเทพตกสวรรค์

7.7

เขียนโดย Coconutto

วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.53 น.

  9 chapter
  0 วิจารณ์
  10.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561 12.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) การบุกรุกของบาปทั้ง 7 ความหยิ่งยโสของปีศาจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ความเดิมจากตอนที่แล้ว

      ขณะที่เหล่าเทพสูงสุดทั้ง 7 กำลังวุ่นอยู่กับการตรึงมวลธาตุของเกาะไม่ให้มาชนกัน ณ จุดกึ่งกลางก็เกิดรอยแยกของมิติขึ้น ปรากฏร่างของบุคคลทั้ง 7

"สวัสดีเทพสูงสุดทั้ง 7 กำลังสนุกกับการเล่นชักเย่อกันอยู่เหรอ พวกข้าก็อยากเล่นด้วยนะ แต่ว่าขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน พวกข้าคือบาปทั้ง 7 ข้าบาปแห่งความโลภ (Greed) แมมมอน (Mammon) ข้าอยากได้พลังเวทของพวกเจ้าทุกคนเลย มาเป็นเครื่องสังเวยให้พวกข้าเถอะ"

"ข้าบาปแห่งความริษยา (Envy) อินวิเดีย (Invidia) พวกเจ้านี่อยู่ที่สวยงามแบบนี้ น่าอิจฉาที่สุด อิจฉาาา~~กรอดด //กัดฟัน"

"ไอ้เจ้าพวกเทพบ้า ข้าคือบาปแห่งโทสะ (Anger) ไอร่าสุดน่ารักไงล่ะจ๊ะ (Ira) เจ้าพวกนี้มันทำให้ไอร่าโซแองกรี้มากๆ เลย ต้องกำจัดทิ้ง! "

"ข้าคือบาปแห่งราคะ (Lust) ลุกซุเรีย (Luxuria) โอ้โห! มีหนุ่มๆ เต็มเลย สนใจมาให้ลุกซุเรียคนนี้ดูแลมั้ยล่ะจ๊ะ รับรองจะดูแลเป็นอย่างดี หึหึหึหึ"

"ครอกกzZ ตัวข้าคือ บาปแห่งความเกียจคร้าน (Sloth) อาซีเดีย (Acedia) ขอนอนต่อละนะ zZ"

"ง่ำๆ ข้าคือ ง่ำๆ บาปแห่งความตะกละ (Gluttony) ง่ำๆ กูล่า (Gula) ง่ำๆ "

"ส่วนข้า บาปแห่งความหยิ่งยโส ไพรด์ (Pride) ถึงไม่อยากจะเสวนากับพวกเทพต่ำสุดอย่างพวกเจ้าก็ต้องพูดละนะ ไอร่า ข้ายืมเท้าเจ้าเหยียบได้มั้ย ข้าว่าข้าไม่อยากให้รองเท้าข้าสกปรก"

"จริงๆ พวกเราแค่อยากมาสนุกกันเท่านั้นแหละ เห็นว่าพวกเจ้าพอเป็นคู่มือให้ได้ มาแก้เบื่อให้หน่อยเหอะ" สิ้นเสียงบาปทั้ง 7 ก็ตรงเข้าหาเทพสูงสุดที่กำลังใช้พลังดึงเกาะไม่ให้ถูกหลุมดำดูดลงไป แต่ทันใดนั้นเองคนที่ไม่คิดว่าจะปรากฏตัวออกมาก็กลับมาปกป้องเทพสูงสุดทั้ง 7 เอาไว้

"กระแสเวลาไหลกลับ" มหาเทพสูงสุดโครโนร่ายเวททำให้หลุมดำปิดตัวลงและทำให้เกาะทั้ง 7 กลับสู่สภาพเดิมได้ทันเวลา ซึ่งส่งผลให้เทพสูงสุดทั้ง7 หลบการโจมตีของบาปทั้ง 7 ได้อย่างหวุดหวิด

"เหล่าบาปทั้ง 7 เอ๋ยได้โปรดกลับไปที่ที่พวกท่านจากมาด้วยเถิด ข้าได้ไปเจรจากับราชาปีศาจมาแล้ว พวกท่านได้โปรดหยุดเสียตอนนี้ก่อนที่ข้าจะไม่เกรงใจ" บาปทั้ง 7 ถึงกับหยุดชะงักลง จากนั้นก็ยิ้มเยาะออกมาและมองด้วยสีหน้าสมเพช

"เจรจาเหรอ แน่ใจว่าเหรอไปเจรจามาท่านโครโน สภาพร่างกายบาดเจ็บขนาดนั้นคิดว่าจะสู้พวกข้าไหวงั้นหรือ ฮาฮ่า" ไพรด์พูดขึ้นพร้อมหัวเราะไปด้วย

"ก็ทำให้เจ้ากลายเป็นแค่อากาศได้ก็แล้วกัน เจ้าหนู" โครโนตอบกลับด้วยเสียงเรียบ แต่ภายในของเขานั้นต่างจากภายนอกลิบลับ กว่า70%ของเขาตอนนี้บอบช้ำหนักจนไม่สามารถขยับไปไหนได้แล้ว มีเพียงหัว มือข้างหนึ่งและขาอีกข้างเท่านั้นที่พอจะขยับไหว แต่เท่านั้นก็เกินพอที่จะล้ม4ใน7บาปพวกนั้นได้ พลังของเทพสูงสุดทั้ง7 ก็ยังไม่ฟื้นกลับมาดีนัก จึงรู้สถานะของตนปัจจุบัน ถือว่าเสียเปรียบในระดับหนึ่งเลย

"เช่นนี้ดีไหมเล่า ท่านโครโน ถ้าท่านยอมกลับไปกับพวกเรา พวกเราจะปล่อยเกาะนี่ให้ปลอดภัยสักพัก" แมมมอนยื่นข้อเสนอ

"ไม่ได้นะท่าน ถ้าท่านไปกับพวกมัน สมดุลก็อาจจะเสียอีกครั้ง ครั้งนี้พวกเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ทางที่ดีที่สุดตอนนี้คือสู้เท่านั้น" โนวอาร์ที่วิเคราะห์สถานการณ์เอาไว้แล้วเอ่ยขึ้น

"ข้ารำคาญยัยนี่จริงๆ ทำเป็นอวดรู้วิเคราะห์สถานการณ์ ข้าขอจัดการมันได้มั้ย" ไอร่าเอ่ยขึ้นพร้อมทำท่าจะพุ่งเข้าหาโนวอาร์แต่ยังรอคำสั่งอนุมัติ

"ไลท์&ไนท์สร้างภาพลวงตาให้ที ลินดิสสร้างโล่คุ้มครองพวกเราสัก10วินาทีจะได้มั้ย ชั้นกับรากันต์จะร่ายเวทฟื้นฟู พลังเวทของชั้นน่าจะเหลือมากที่สุดในนี้แล้ว" รามี่กระซิบเบาๆ

"น่าจะพอไหวนะ"

"ไม่ต้องเผื่อข้านะ ถ้าพวกเจ้าฟื้นฟูกันแล้วน่าจะสู้ได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวล มัวแต่ฟื้นฟูให้ข้าจะเสียเวลาเปล่าๆ " โครโนกระซิบบอกเทพทั้ง 7

"กระซิบกระซาบอะไรกันมิทราบ" จังหวะที่ไพรด์ตะโกนขึ้น ทุกคนก็เริ่มทำตามแผน

"หมอกแสงจันทรา" เกิดหมอกหนาขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่ว ทำให้เหล่า 7 บาปไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง "การโอบอุ้มของฟินิกซ์" ลินดิสร้างโล่ป้องกันสุดแข็งแกร่งออกมาเพื่อกันการโจมตีของเหล่า 7 บาป

"การชำระล้างของคลื่นมหาสมุทร"

"ละอองบุปผาเยียวยา" รากันต์และรามี่ใช้เวทฟื้นฟูขั้นสูงที่สุดเท่าที่พลังตนเองจะใช้ได้ในขณะนี้

ทันทีที่เห็นทางฝั่งเทพร่ายเวท บาปทั้ง 7 ก็เข้าโจมตีทันที พวกมันใช้เวลา 3 วินาทีในการหาตัวพวกเทพ และอีก 7 วินาทีในการทำลายโล่ของลินดิสโดยใช้เพียงแค่พลังกายภาพเท่านั้น

"ฟื้นฟูเสร็จแล้วว เอาล่ะ! ได้เวลาลุย! " ทันทีที่ฟื้นฟูเสร็จ ไนท์และไลท์พูดขึ้นพร้อมกัน เทพทั้ง 7 แยกออกไปตามเกาะของตน บาปทั้ง 7 ก็ไม่รีรอ แยกตามไปเช่นกัน

ทางด้านเกาะแห่งธรรมชาติ รากันต์ เทพแห่งปฐพีกำลังเผชิญหน้ากับบาปแห่งความหยิ่งยโส ไพรด์

"ชั้นล่ะเกลียดขี้หน้าแกสุดๆ ไปเลย หน้านิ่งๆ นั่นเดี๋ยวจะให้มาอยู่ใต้ฝ่าเท้าของชั้นเอง" ไพรด์พูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยม

"ได้ข่าวว่าเจ้าบอกว่ากลัวรองเท้าสกปรกถ้าอย่างนั้นให้ข้าเหยียบหน้าเจ้าแทนดีไหม" รากันต์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ยกยิ้มที่มุมปาก

"นี่เจ้า! จะบังอาจมากเกินไปแล้วนะ เจ้าเทพชั้นต่ำ อาวุธเวทความมืด โซ่ตรวนของบาปแห่งความหยิ่งยโส จงรัดและทะลวงร่างของมันซะ" กรีดดึงโซ่ที่เป็นอาวุธของตนเองออกมาจากหน้าอก ทันทีที่ดึงออกมาจนหมด โซ่สีดำสนิทก็พุ่งตรงมายังรากันต์ทันที ไม่ว่าเข้าจะหลบไปทางใด มันก็พร้อมที่จะตามเข้าไปทุกหนแห่ง

"น่าเบื่อเสียจริง ได้แต่หนีงั้นเหรอเจ้าเทพชั้นต่ำ"

"เวทแห่งปฐพี ลำดับที่ 4 กางเขนลวงตา" รากันต์ร่างแยกออกมาที่เหมือนกับตน เพื่อรับการโจมตีแทนเพราะคิดว่าเวทย์ประเภทนี้ถ้าไม่จัดการเป้าหมายให้ได้ก็ไม่มีวันหยุดเป็นแน่ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะโซ่นั่นทะลวงร่างแยกและพุ่งตรงมายังเขา

"แกคิดว่าร่างแยกโง่ๆ นั่น โซ่ของชั้นจะแยกไม่ออกงั้นเหรอ"

ทันทีที่ไพรด์พูดขึ้นมา รากันต์ก็คิดได้ ว่าโซ่เส้นนี้ เจ้านี่ไม่ได้บังคับเองกับมือ เพียงแค่ป้อนคำสั่งให้มันเท่านั้น

"แกไม่ได้บังคับมันงั้นสินะ แค่ป้อนคำสั่งให้มันโจมตีข้าเท่านั้น"

"ก็แล้วมันยังไงเล่า หลบให้ได้ไปตลอดสิ ฮ่าฮ่า" รากันต์คิดว่า การที่จะจัดการโซ่นี่เป็นเรื่องที่ยาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง ยิ่งเจ้านั่นประมาทไม่ยอมใช้เวทย์อื่นเข้าโจมตีขณะที่เขากำลังหลบโซ่แล้วด้วย ชักเริ่มสนุกขึ้นมาแล้วสิ "อยากรู้ไหมล่ะว่าการโดนพลังของตัวเองไล่ล่ามันจะเป็นยังไง เวทอัญเชิญเทพีต้องสาป เมดูซ่า" ทันทีที่รากันต์หลบการโจมตีของโซ่เพียงเสี้ยววินาที เขาก็เรียกเมดูซ่าออกมา "ทำให้โซ่นั่นกลายเป็นหินหน่อยสิ" ทันทีที่พูดจบ ไพรด์ที่เพิ่งจะรู้แผนของรากันต์ ก็กำลังจะเปล่งเสียงออกคำสั่งโซ่ของเขาแต่ก็สายไปเสียแล้ว

"รับทราบค่ะ" ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากเทพสูงสุด เมดูซ่าก็เปิดตาของตนเองออกมาจ้องไปยังโซ่ที่กำลังพุ่งตรงไปหาเธอและรากันต์จนทำให้โซ่นั้นกลายเป็นหินทั้งหมดภายในพริบตา

"ขอบใจมาก เชิญไปพักผ่อนต่อเถอะ" รากันต์กล่าวขอบคุณนางจากนั้นเมดูซ่าก็กลับสู่มิติของตน

"เวทแห่งแผ่นดินสายควบคุม สายใยแห่งมวลธาตุ" เมื่อรากันต์ร่ายเวทใส่โซ่นั่นจบ เขาสามารถควบคุมโซ่นั่นได้ดังใจนึกเพราะในขณะนี้ มวลธาตุของโซ่นั่นได้เปลี่ยนเป็นหินที่เป็นธาตุประจำตัวของเขาเรียบร้อยแล้ว

"จงรัดและทะลวงร่างของมันซะ" สิ้นสุดคำสั่งเดียวกันกับที่ไพรด์เคยใช้ โซ่เส้นนี้ก็พุ่งตรงกลับไปยังผู้ที่เคยเป็นเจ้าของทันที

"อะไรกันเจ้าบ้านี่ เล่นสกปรกนี่" ในตอนนี้ฝ่ายที่ต้องหลบโซ่กลับเป็นไพรด์เสียเอง

"บาปอย่างแกมีสิทธิ์พูดคำว่าเล่นสกปรกด้วยเหรอ การต่อสู้จริง ไม่มีคำว่าสกปรกหรอกนะ ที่ผิดนั่นคือการที่แกประมาทและประเมินพลังของคู่ต่อสู้ต่ำเกินไปต่างหาก เวทแห่งพฤกษาลำดับที่ 18 บัวผุดมรณะ" รากันต์สร้างดอกบัวผุดที่สามารถปล่อยแก๊สพิษขึ้นมาได้ ทำให้ไพรด์ต้องหลบทั้งแก๊ส หลบทั้งโซ่ในเวลาเดียวกัน

"หนอย ไอ้เจ้าหนอนสกปรกนี่ ถึงจะกินพลังงานไปมากแต่ก็คงต้องใช้แล้วล่ะ มหาเวทปีศาจ สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า" เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ดูดเอาทั้งโซ่ แก๊ส ดอกบัวผุดเข้าไปจนหมดสิ้น แต่ยังไม่หมดแค่นั้น หลุมดำนี้ยังไม่หยุดดูด จนเกาะแห่งธรรมชาติของเขาเริ่มเคลื่อนที่ไปยังหลุมดำ รากันต์ที่รับรู้ได้ถึงความอันตรายของเวทนี้จึงรีบถอยห่างออกมาได้ทัน

"ตายยากตายเย็นซะจริงนะแก สงสัยถึงจะเรียกอาวุธออกมากี่ชิ้นแกก็คงทำให้เป็นหินอยู่ดีนั่นแหละนะ ดูดมันมาทั้งแกทั้งเกาะนี่แหละ มาต่อกันเลยดีกว่า มหาเวทปีศาจเฉพาะ ความยโสอันเป็นนิรันดร์" แรงกดดันมหาศาลที่ทำให้รากันต์ไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้เหมือนจะโดนอะไรบางอย่างกดทับและขณะเดียวกันตัวเขาก็กำลังเคลื่อนตัวไปยังหลุมดำ

"นี่มันเวทแรงโน้มถ่วงหนิ แกใช้ของแบบนี้ได้ด้วยเหรอ"

"บาปของข้าคือความหยิ่งยโส การที่ได้เห็นคนคุกเข่าแล้วหมอบลงต่อหน้า มันเป็นอะไรที่ข้าชอบที่สุดเลยล่ะ การได้บดขยี้เจ้าจากจุดที่อยู่สูงกว่านี่มันน่าอภิรมย์จริงๆ"

"หนอยย แก" //กรอด รากันต์กัดฟันด้วยความโมโห เพราะเขาดันประมาทคิดว่าพวกปีศาจนี้ใช้ได้แต่เวทแห่งความมืดเท่านั้น

"ก้มลงไปซะ ก้มกราบลงต่อหน้าข้าผู้นี้ ไอ้เจ้าเทพชั้นต่ำ"

"คนเดียวที่ข้ายอมก้มหัวให้มีเพียงมหาเทพสูงสุดเท่านั้น ปีศาจอย่างแกอย่าได้หวัง เวทป่ามายา การล่องลอยของดอกแดนดิไลออน" รากันต์แตกตัวเป็นละอองแสงกับดอกแดนดิไลออนทำให้หลุดพ้นจากเวทย์แรงโน้มถ่วงดังกล่าวได้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ถูกแรงดูดของหลุมดำดูดเร็วขึ้นเพราะมวลของดอกแดนดิไลออนมีน้อยมาก

"ขอเอาคืนหน่อยแล้วกัน ก่อนที่จะถูกดูดเข้าไป นี่จะเป็นจุดจบของเจ้า มหาเวทศักดิ์สิทธิ์ การสังเคราะห์แสงของเกาะแห่งปฐพี" แสงอาทิตย์กำลังโดน เกาะแห่งปฐพีทั้งเกาะกำลังดูดเข้าไปจนเห็นได้ชัด

"ลาก่อน บาปแห่งความหยิ่งยโสผู้โง่เขลา" เมื่อชาร์จพลังเต็มแล้ว เกาะแห่งปฐพีก็ปล่อยลำแสงขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังไพรด์อย่างรวดเร็วจนเขาไม่สามารถหลบได้

"อ๊ากกกกกกก ข้าจะต้องกลับมาแก้แค้นแกให้ได้ ข้าขอสาบาน ไอ้เจ้าเทพเศษดินชั้นต่ำ!! " ทันทีที่พูดจบ ร่างของไพรด์ถูกแสงเผาเป็นจุล หลุมดำก็หายตามไปด้วย รากันต์รู้ดีว่าพลังเท่านี้คงไม่อาจทำลายบาปทั้ง7 ที่ราชาปีศาจเป็นผู้สร้างขึ้นมาได้หรอก เป็นแค่การขับไล่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะตราบใดที่มนุษย์เบื้องล่างยังทำบาปกันอยู่อย่างไม่สิ้นสุด เจ้านี่ก็จะเกิดใหม่ขึ้นได้เรื่อยๆ ทันทีที่ใช้พลังไปจนเกือบทั้งหมด ร่างของเขาที่กลับมาเป็นสภาพปกติก็ร่วงลงสู่เกาะ ยังดีที่มีเหล่าภูตแห่งพฤกษามารับได้ทันและพาไปรักษาที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ใจกลางของเกาะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา