ลมหวาน ป่าหนาว
9.2
เขียนโดย เพียงแสงจันทร์
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.
42 ตอน
8 วิจารณ์
70.26K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) Freshy day Freshy night
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่กลับมาจากไปเยี่ยมแม่แล้ว ผมก็กลับมาใช้ชีวิตนักศึกษาชั้นปีที่1 ตามปกติตอนเช้ามืดก็ไปซ้อมกีฬา กลับมาเรียน ตกตอนเย็นก็ไปซ้อมกีฬาชีวิตก็วนเวียนเหมือนเดินเป็นปกติ แต่วันนี้กลับมีความพิเศษมากมายเพราะวันนี้ทางมหาวิทยาลัยได้จัดงานFreshy day Freshy night และมีการประกวดดาว-เดือนขึ้นในช่วงบ่าย อ้าวแล้วนี้ผมจะตื่นเต้นทำไมกันล่ะ ตัวเองไม่ได้ประกวดสักหน่อยอาจจะเป็นเพราะบรรยากาศต่างๆในมหาวิทยาลัยมันพาไป เพราะนักศึกษาทุกๆคนต่างก็ตื่นเต้นและเตรียมความพร้อมในการไปร่วมงานและให้กำลังใจตัวแทนของตัวเองในแต่ละคณะ ซึ่งคณะผมก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเดือนที่เป็นตัวแทนคณะครุศาสตร์นั้นก็คือเพื่อนผมเอง โอม ศักดิ์พินิจ ถือได้ว่าโอมมาแรงจริงๆคาดว่าจะได้เป็นเดือนมหาวิทยาลัยปีนี้เจริญรอยตามพี่ชนแดน พรภิรมณ์เกียรติ เดือนมหาวิทยาลัยปีที่ผ่านมา ซึ่งคณะครุศาสตร์ก็สร้างปรากฏการคว้าตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยมาครอบครองได้สำเร็จ แต่ก็นั้นละครับก็ยังมีกระดูกเบอร์ใหญ่อย่างป่าสัก กังกวนไพร เป็นก้างขวางคอมันอยู่ นั้นก็เป็นเหตุผลที่พวกผมเด็กปี1ทุกคนของคณะต้องผนึกกำลังไปให้กำลังใจมันในเย็นวันนี้
“ไอซ์ แกรวบรวมเงินที่จะไปซื้อดอกกุหลาบให้ไอ้โอมจากเพื่อนๆได้ครบยังวะ??”
“เรียบร้อยแล้วแก เก็บได้ครบหมดทุกคนตามมติของเอกเรา”
“ดีมากวะแก งั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนป้ายไฟ เรียบร้อยดีนะเว้ยแกไอ้เปิ้ลไอ้แก้ว”
“เรียบร้อยแล้วยะ รอดูฝีมือฉันกะไอ้แก้วบ่ายนี้แล้วกันว่าป้ายไฟเอกศิลป์จะเริ่ดหรูอลังแค่ไหน รับรองถ้าไอ้โอมเห็นแล้วต้องตกตะลึงแน่ๆเลย”
“เยี่ยมมากเลยแก ทุกอย่างคงพร้อมหมดแล้ว งั้นเราไปเจอกันที่หอประชุมมหาลัยตอนบ่ายโมงตรงเลยนะ”
“เดี๋ยวๆๆพวกแกยังไม่ได้เสื้อที่จะใส่ไปเชียร์ไอ้โอมเลยนะเว้ยยย นี้ๆๆรอไอ้ปูมันก่อนสิวะ ตอนนี้กำลังไปเอาเสื้อจากร้านอยู่”
“เอ่อจริงวะ ลืมไปเลย อ้อมแกโทรไปตามไอ้ปูสิวะ ถึงไหนแล้ว จะได้รีบเอามาให้ทุกคนใส่ทันบ่ายนี้”
ผมเป็นคนสั่งอ้อม ให้โทรตามเพื่อนที่ไปรับเสื้อจากร้านที่พวกเราตั้งใจสั่งทำเพื่องานประกวดดาว-เดือนFreshy day Freshy night ปีนี้โดยเฉพาะ จากนั้นไม่นานไอ้ปูสาวร่างบิ๊กไซส์ที่ไปรับเสื้อก็มาถึงภาคศิลป์แล้วทำการแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆทุกคนได้ใส่ไปเชียร์โอม ศักดิ์พินิจ ในการประกวดดาว-เดือนมหาวิทยาลัยปีนี้
“โอเคนะเว้ยพวกมึง ได้เสื้อครบกันหมดแล้ว หน้าที่ก็แบ่งกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้สิบโมงเช้า คงมีเวลาเตรียมการทุกอย่างทัน งั้นเราเจอกันที่หน้าหอประชุมมหาลัยตอนบ่ายโมงตรงน่ะ”
ผมบอกกับทุกๆคนในเอกศิลป์ของชั้นปีที่1 หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวที่จะไปร่วมเชียร์และร่วมงานFreshy day Freshy nightประกวดดาว-เดือนมหาวิทยาลัยในปีนี้
“ทุ่ง แกจะให้ฉันไปส่งเปล่า???”
ไอซ์ ถามผมหลังจากที่พวกเราแยกย้ายจากเพื่อนๆในเอกแล้ว
“ขอบใจวะแก แต่ไม่ต้องหรอก หอแกอยู่ตั้งไกล เดี๋ยวฉันจะติดรถไอ้ตรีเอกพืชไร่กลับหอเลย แกไม่ต้องวกไปวกมาเสียเวลา”
“เอาแบบนั้นเหรอวะ งั้นก็เจอกันตอนบ่ายโมงนะแก”
“อืม บายวะแก ขับรถดีๆละไอซ์”
“จร้าแล้วเจอกกัน”
จากนั้นผมก็เดินไปรอไอ้ตรีภพที่ศาลาสามแยกปากหมาทันที เพราะเมื่อเช้าผมไม่ได้มากับป่าสัก เหตุที่ต้องมาอาศัยนั่งรถมอไซค์ไอ้ตรีภพมาก็เพราะว่าป่าสักนั้นต้องรีบไปเตรียมตัวในการประกวดดาว-เดือนในช่วงบ่ายซึ่งทั้งดาวและเดือนจากคณะต่างๆต้องไปประชุมและเตรียมความพร้อมกันตั้งแต่เช้ามืดเลยเพื่อจะให้การประกวดออกมาสมบูรณ์ที่สุดในช่วงบ่ายที่จะถึงนี้ เลยเป็นเหตุให้ผมได้มากับไอ้ตรีภพนั้นเอง พอถึงศาลาสามแยกปากหมาแล้วผมก็ล้วงเอามือถือจากกระเป๋ากางเกงทันทีเพื่อที่จะได้โทรหาไอ้ตรีภพ
“ฮัลโหล ไอ้เชี่ยตรี มึงเสร็จยังวะ นี้กูเสร็จแล้วนะมึง มานั่งรอมึงที่ศาลาสามแยกปากหมาแล้วเนี้ย”
“เอ่อๆกูกำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละมึง เชี่ยอย่ารีบนักสิวะ ไอ้ป่าสักมันไม่หนีไปไหนหรอก สงสัยอยากจะเห็นหน้าผัวไวๆละสิฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“ไอ้สัส มึงนี้ปากหมาตลอดเลยนะ เดี๋ยวๆกูจะเอาหมาออกจะปากมึงถ้ามึงไม่หยุดเห่า”
“ฮ่าๆๆๆเอ่อๆๆล้อเล่นแค่นี้ ทำเป็นโกรธกูไอ้สัส มึงรอกูอยู่นั้นละเดี๋ยวเจอกัน”
หลังจากว่างโทรศัพท์ไม่นานผมก็เห็นตรีภพขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจของมันKeeway Superlight 200 ออกมาจากคณะเกษตรมุ่งตรงมาที่ศาลาสามแยกปากหมาทันที
“อ้าว ขึ้นรถได้แล้วไอ้เชี่ย รถกูไม่มีแอร์เหมือนรถผัวมึงนะเว้ยไอ้ทุ่ง”
“มึงแมร่ง พูดว่ากูมีผัวจนติดปากแล้วนะเว้ยไอ้ตรี กูอายเป็นเหมือนกันนะเว้ย”
“55555มึงจะอายทำไมวะ มีผัวหล่อมีผัวรวยดีจะตาย”
“ไปๆออกรถได้แล้วมึง อย่าเห่าให้มันมากนักเว้ย กูรำคาญ”
จากนั้นผมกับตรีภพก็มุ่งทะยานสู่หอพักนักกีฬาทันที เพื่อที่จะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ต้องใส่รวมพลแต่ละเอกแต่ละคณะไปร่วมงานFreshy day Freshy nightและเชียร์การประกวดดาว-เดือนในช่วงบ่ายนั้นเอง
เวลาบ่ายโมงตรงนักศึกษาชั้นปีที่1ทุกคนก็มารวมตัวกันลงทะเบียนหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมงานFreshy day Freshy night ซึ่งงานนี้ถือได้ว่าน้องๆปี1ทุกคนจะได้รู้จักกับเพื่อนๆต่างคณะนั้นเองจึงทำให้ทุกๆคนรู้สึกตื่นเต้นและอยากร่วมสนุกสนานในการจัดกิจกรรมเป็นอย่างมากซึ่งประเด็นสำคัญคงหนีไม่พ้นการประกวดดาว-เดือนมหาวิทยาลัยนั้นเอง
พวกเราเอกศิลป์จากคณะครุศาสาตร์ปีนี้ผนึกกำลังกันมาครบทั้ง39ชีวิตขาดอีกหนึ่งนั้นก็คือ โอม ศักดิ์พินิจ เพราะโอม ต้องร่วมประกวดดาว-เดือนมหาวิทยาลัยซึ่งตอนนี้คงเตรียมตัวอยู่หลังเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกๆคนที่มาให้กำลังใจโอมต่างใส่เสื้อเอกมาเหมือนกันหมดจึงทำให้บรรยากาศในตอนนี้เพิ่มสีสันและความคึกคักเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเสียงกลองเสียงดนตรีต่างๆมากมายหรืออุปกรณ์ในการเชียร์ก็ขนมาพร้อม
“เอ้ยยยพวกแกทางนี้ พี่ๆเขาให้พวกเราไปรวมตัวกันทางโน้นวะเร็วๆงานจะเริ่มแล้ว”
เสียงไอ้ปูสาวร่างท้วมไซส์บิ๊กประจำเอกศิลป์เรียกให้ทุกๆคนไปรวมตัวกันที่จุดนัดหมายของคณะทันทีที่ทุกคนมาพร้อมแล้ว พอพวกเราเข้าไปในหอประชุมของมหาวิทยาลัยเกือบจะไม่มีที่นั่งเลยเพราะคณะต่างๆได้ขนนักศึกษาของตัวเองมาให้กำลังใจดาว-เดือนของตัวเองกันทุกคน โชคดีที่คณะครุศาสตร์มีตั้ง12 สาขาวิชาเอกเลยพอที่จะได้เบียบๆกันได้ดูการประกวดดาว-เดือนซึ่งจะเริ่มในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้แล้ววว
“สวัสดีครับทุกๆท่านขอต้อนรับทุกๆคนเข้าสู่งานFreshy day Freshy night คราฟฟฟฟฟฟฟฟฟ”
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
วิดวะสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เกษตรสู้เว้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
การจัดการเลิศที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นิเทศปังสุดงานนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ครุศาสตร์จองแล้วสายสะพายปีนี้ วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเชียร์มากมายดังกึกก้องท่วมท้นหอประชุมของมหาวิทยาลัย ซึ่งปีนี้มีคณะที่ส่งดาว-เดือนเข้าประกวดทั้งหมด 15 คณะ เลยทำให้กองเชียร์นั้นไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยทีเดียว
“เอาละครับ ต่อจากนี้จะเป็นการแนะนำตัวของน้องๆผู้เข้าประกวดดาว-เดือนในปีนี้ แต่ก่อนที่จะได้ทำความรู้จักดาวและเดือนของแต่ละคณะ ..ขอเสียงปรบมือต้อนรับการแสดงในชุดพิธีเปิดจากชมรม มรดกอีสานของมหาวิทยาลัยแก่นนครด้วยครับ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด จากนั้นการแสดงโปรงลางจากชมรมมรดกอีสานก็เริ่มต้นขึ้นซึ่งถือได้ว่าเป็นการแสดงศิลปะวัฒนธรรมของคนอีสานนั้นเอง
“ขอเสียงปรบมือให้กำลังใจกับการแสดงในชุดพิธีเปิดด้วยครับ เอาละครับทุกๆคนได้เวลาที่จะมารู้จักกับน้องๆสาวสวยและหนุ่มหล่อแต่ละคณะทั้ง15 คณะของเรากันแล้วววววววววววววขอเสียงปรบมือดังๆตอนรับดาวและเดือนทั้ง15คณะด้วยครับบบบบบบ”
เสียงพิธีกรบนเวทีประกาศให้ผู้เข้าประกวดแต่ละคณะออกมาแนะนำตัวเองบนเวที ซึ้งพวกเราก็รอลุ้นว่าโอม จะออกมาแนะนำตัวเองตอนไหนอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว
“หมายเลย 17 นายศักดิ์พินิจ บุญญานนท์ จากคณะครุศาสตร์ครับ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด พอสิ้นเสียงการแนะนำตัวเองของโอม เสียงกรี๊ดของเหล่าบรรดากองเชียร์ก็ดังถล่มกลบเสียงต่างๆทันที
“หมายเลย 18 นายกังวานไพร บุญนิสากุล จากคณะสัตวแพทย์ครับ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดนึกว่าเสียงกรี๊ดจากกองเชียร์ของไอ้โอมจะดังมากแล้วแต่พอสิ้นเสียงการแนะนำตัวของป่าสัก เสียงกับดังจนผมหูอื้อไปเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยว่าวันนี้ป่าสักดูหล่อมากๆหล่อจนผมตกตะลึงไปเลยว่าจะเป็นคนเดียวที่ผมรู้จักหรือเปล่า ดูบนเวทีในตอนนี้ป่าสักมีเสน่มากล้นจริงๆ
“ขอเสียงปรบมือดังๆให้กับดาวและเดือนทั้ง15คณะอีกสักครั้งด้วยครับ กับรอบการแนะนำตัว จากนี้ไปเราจะเปิดโอกาสให้กับกองเชียร์แต่ละคณะได้มอบดอกไม้ให้กับตัวแทนของคณะตัวเองเพื่อที่จะได้เป็นคะแนนในการตัดสินตำแหน่ง ขวัญใจมหาชน ซึ่งตำแหน่งนี้เราได้มีการกำหนดกติการการให้คะแนนมาจากสองส่วนด้วยกัน คือส่วนที่หนึ่งมาจากคะแนนโหวตของนักศึกษา คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยแก่นนครซึ่งจะโหวตได้เพียงคนละครั้งเท่านั้นเรานำมาคิด 50 เปอร์เซ็นและอีกส่วนก็จะนับคะแนนจากดอกกุหลาบในวันนี้อีก50 เปอร์เซ็น รวมเป็น100 คะแนนเต็มพอดี สำหรับตำแหน่งขวัญใจมหาชนเราจะไม่แยกดาวและเดือน ไม่ว่าใครที่ได้คะแนนสูงสุดก็จะได้ครองตำแหน่งขวัญใจมหาชนไปครองครับ”
พอพิธีกรให้สัญญาณในการเริ่มนับคะแนนจากการให้ดอกกุหลาบแล้ว ทุกคณะต่างเร่งรีบส่งตัวแทนไปซื้อดอกกุหลาบจากองค์การนักศึกษาที่นำมาจำหน่ายทันทีเพราะจะได้เป็นคะแนนให้กับดาวและเดือนของคณะตัวเอง
“อ้าวนี้ทุกๆคนดอกกุหลาบ”
เสียงไอซ์ดังขึ้นหลังจากที่ไปซื้อดอกกุหลาบมาให้กับเพื่อนๆในเอกศิลป์เพื่อจะได้นำไปให้กับ โอมศักดิ์พินิจนั้นเอง
“คุณทุ่งครับ คุณทุ่ง นี้ครับดอกกุหลาบ”
“อ้าวสวัสดีครับลุงสมาน มาได้ยังไงครับเนี้ย”
“ผมเอาดอกกุหลาบมาให้คุณหนูครับ นี้ครับดอกกุหลาบ”
จากนั้นลุงสมาน คนขับรถของที่บ้านป่าสักก็ยื่นดอกกุหลาบช่อมหึมาให้ผมถึงสองช่อด้วยกัน
“ให้ผมทำไมครับลุง???”
“คือว่าลุงจะวานให้คุณทุ่ง ช่วยลุงหน่อยเถอะครับ ลุงแก่แล้ว คงจะเดินเบียดเด็กๆเอาดอกกุหลาบไปให้คุณหนูไม่ไหวหรอกครับ ส่วนที่ให้ไปสองช่อนั้น อีกช่อฝากให้คุณโอม เพื่อนคุณหนูด้วยนะครับ”
“เอาแบบนั้นเลยเหรอลุง ?????”
ผมถามกลับลุงสมานไปทันที เพราะผมก็อายๆเหมือนกันที่จะถือช่อกุหลาบช่อใหญ่ไปให้ป่าสัก ที่ยืนเด่นรอรับกุหลาบจากกองเชียร์อยู่ในตอนนี้
“ครับ เอาตามนี้เลย ใครๆก็เอาไปให้กันครับ ไม่น่าอายหรอกคุณทุ่ง ดูสิคุณหนูรออยู่นะครับ”
“เอ่อ เอ่อได้ๆครับ เดี๋ยวผมโทรหาเพื่อนก่อนนะครับ”
จากนั้นผมก็จัดการโทรหาไอ้ตรีภพทันทีให้มันมาช่วยถือกุหลาบเป็นเพื่อนผมอีกสักช่อ เพราะถ้าจะถือไปสองช่อใหญ่ๆคงพิลึกน่าดู
“ไอ้เชี่ยตรี มึงอยู่ไหนวะ มาหากูด่วนเลย กูมีเรื่องให้ช่วย”
“อะไรของมึงวะ กูกำลังเชียร์สนุกๆอยู่กับคณะกูเลย”
“เอาเถอะน่า มึงรีบมาตอนนี้เลย”
“เอ่อๆๆเดี๋ยวกูไป”
จากนั้นไม่นานตรีภพก็เดินมาถึงจุดที่ผมยืนรออยู่ข้างๆเวที
“เอ้าช่อกุหลาบ”
ผมยื่นช่อกุหลาบใหญ่อีกช่อไปให้ตรีภพทันที
“มึงเอามาให้กูทำไมวะ โน้น ผัวมึงยืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนเวทีโน้น”
“ก็กูมีสองช่อ ช่อนี้กูจะให้มึงเอาไปให้ไอ้ป่าสัก ส่วนกูจะเอาไปให้ไอ้โอม....มึงไม่ต้อง งงเลยสัส ถ้าขืนกูเอาช่อดอกไม้ไปให้ไอ้ป่าสักแบบนี้ รับรองกูโดนตีนคณะกูแน่ๆ เพราะฉะนั้นมึงต้องเอาช่อนี้ไปให้ไอ้ป่าสัก”
“เอ่อๆ ยุ่งจริงเว้ย จะเอาดอกไม้ไปให้ผัวแค่นี้ก็ต้องเดือดร้อนชาวบ้านชาวเมืองเขาไปทั่ว”
“มึงไม่ต้องพูดมากเลยไอ้เชี่ย รีบๆเลยเดี๋ยวกรรมการจะหยุดนับคะแนนแล้ว”
จากนั้นผมและตรีภพก็เดินมุ่งตรงไปยังคนที่ยืนเด่นอยู่บนเวทีทันที ผมมุ่งหน้าตรงไปยังไอ้โอม แต่ด้วยว่าหมายเลขของไอ้โอมและไอ้ป่าสักอยู่ติดกันจึงทำให้มันทั้งสองมองมายังผมและตรีภพทันที ผมเดินไปชิดขอบเวทีพร้อมกับตรีภพซึ่งตรีภพยืนอยู่ต่อหน้าของป่าสัก ผมก็ยืนอยู่ต่อหน้าโอม ทั้งโอมและป่าสักนั่งคุกเข่าเพื่อจะยืนมือมารับดอกไม้ได้สะดวก
แต่แล้วจู่ๆมือของป่าสักก็ยืนมาทางผมแล้วก็คว้าเอาช่อกุหลาบจากผมไปทันที ผมนี้งง เพราะไม่คิดว่าป่าสักจะเจ้าเล่ห์แบบนี้ จากนั้นโอมก็คว้าเอาช่อกุหลาบจากตรีภพเช่นกันแล้วทั้งโอมและป่าสักต่างก็ยิ้มที่มุมปากให้กันทันทีด้วยเล่ห์เหลี่ยมจอมกะล่อน
“ขอบคุณนะ สำหรับกุหลาบ ที่เอามาให้”
ป่าสักพูดกับผมพร้อมดมดอกกุหลาบต่อหน้าผมเฉยเลยทันที
“เออ เอ่อออ... คือว่า กู กู.... สู้ๆนะมึง กูไปละ”
พูดจบผมก็รีบเผ่นทันที ตอนนี้หูผมอื้อตาผมลายไปหมดแล้ว หน้าแดงมากๆๆอายก็อายที่ป่าสักทำแบบนี้ต่อหน้าคนทั้งหอประชุม
“ทุ่ง มึงอย่าเพิ่งรีบกลับนะ รอกูก่อน”
ป่าสักพูดตามหลังผมมาทันที แต่ตอนนี้ผมอยากจะมุดพื้นดินหนีไปไกลๆเลย มันจะมาพูดอะไรตอนนี้วะ คนก็เยอะแยะมากมายทั้งหอประชุม
เขินสิครับ เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ