ลมหวาน ป่าหนาว

9.2

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.

  42 ตอน
  8 วิจารณ์
  69.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) พาร์ท ของตรีภพ (สุรามันพาไปหรือใจฉันต้องการเธอ)18+

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

     หลังจากที่เชี่ยป่าสักกับเชี่ยทุ่งเข้านอนแล้วผมก็ลากไอ้เชี่ยโอมที่เมามายด้วยเหล้าโทของลุงแหลมสิงห์มาที่เต้นท์ คืนนี้มันเล่นบ้าลองดื่มเหล้าหมักฝีมือลุงแหลมสิงห์แบบไม่ยั้งเลย  ทำให้มันกลายเป็นคู่ดวลเหล้ากับลุงแหลมสิงห์ไปในตัว เชี่ยโอมมันไม่เคยดื่มเหล้าหมักแบบนี้มาก่อนเกิดอาการเมามายแบบไร้สติเลยทีเดียว ผมต้องพยุงมันมาในเต้นท์อย่างทุลักทุเลเพราะไอ้โอมมันตัวใหญ่และหนักเอามากๆขนาดคนเป็นนักกีฬาอย่างผมยังจะลากมันไม่ไหวหรือว่าผมจะเมาเหมือนกับมันอีกคนก็ไม่รู้????  ในระหว่างที่กำลังจะเปิดเต้นท์ไอ้โอมก็เกิดอาการเมาทะลักจะอ้วกขึ้นมา  มันรีบผลักตัวผมออกแล้วรีบหันหน้าหนีไปทางอื่นจากนั้นมันก็อ้วกเอาอาหารที่กินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกมาจนหมดไส้หมดพุงเลยที่เดียว

“อ้วก   อั๊วะ   อั๊วะๆ  ขอน้ำกูหน่อยวะตรี”

“เชี่ยโอม   เอาแดรกน้ำหน่อยมึง  ไหวปะวะมึง???”

“กูหนักหัววะ  มันเหมือนๆบ้านหมุนเลย  กูลุกไม่ไหว”

“เชี่ยโอมแล้วมึงจะเสือกแดรกเข้าไปทำไมวะ ไอ้เหล้าโทเนี้ย เสือกไปดวลเหล้ากับลุงแหลมสิงห์อีกต่างหาก”

“ อ้วก......”

จากนั้นไอ้โอมมันก็อ้วกออกมาอีกรอบ แต่คราวนี้เล่นเอาเสื้อที่มันใส่อยู่เลอะเต็มไปหมดเลย

“ไอ้เชี่ย มาๆๆถอดเสื้อก่อนเถอะ  ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”

ผมจัดการถอดเสื้อยืดคอกลมสีดำที่มันชอบใส่ ที่ตอนนี้เลอะด้วยอ้วกของตัวมันเองออกจากตัวมันทันที  จากนั้นก็ลากมันเข้าไปในเต้นท์  เอามันนอนหงายไว้ผมก็ลุกไปหาผ้ามาชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มัน

“เช็ดตัวหน่อยนะมึงจะได้สบายตัว อีกอย่างจะได้หายเหม็นด้วย”

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากโอม  ศักดิ์พินิจ  กลับมาเลยสักคำ  จึงทำให้ผมถือวิสาสะเช็ดหน้าเช็ดตัวให้มันทันที  ผมค่อยๆใช้ผ้าเช็ดหน้ามันเบาๆใบหน้าของมันนั้นต้องยอมรับเลยว่าหล่อเหลาเอาการมากๆผิวเนียนเรียบ หนวดเคราเริ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าของมันดูหล่อเข้มแบบไทยๆ เปลือกตาของมันปิดสนิทแต่ขนตาที่งอนหนาของมันก็ยังส่งผลรับกับคิ้วดก เสริมให้โครงหน้าของไอ้คนที่นอนให้ผมเช็ดหน้าอยู่นั้นดูหล่อเข้มไปอีกแบบในยามที่มันหลับ  ไม่มีมาดของความทะเล้นเจ้าเล่ห์เหมือนตอนที่มันตื่นเลยสักนิด ปากของมันก็เข้ารูปกับคอยาวระหงน่าชวนมองเป็นอย่างมาก  ผมค่อยๆไล่ไปตามหน้าผาก แก้ม มาหยุดที่ริมฝีปากของมัน  ต้องยอมรับว่าตอนนี้ใจผมสั่น  สั่นมากๆหัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมาข้างนอก บอกตามตรงยิ่งมองมันยิ่งทำให้ใจสั่นไหวมันหวั่นไหว อธิบายความรู้สึกไม่ถูกว่าผมคิดอย่างไรกับมันในตอนนี้????  ผมค่อยๆไล่เช็ดลงมาที่คอของมัน จากนั้นก็มาหยุดอีกที ที่หน้าอก ต้องยอมรับเลยว่าหน้าอกของมันแน่นมากๆกล้ามหน้าอกชัดเจนจริงๆ เสียงหายใจของมันยังคงสม่ำเสมอแสดงว่ามันคงจะหลับไปแล้วแน่ๆ ผมชั่งใจว่าจะเช็ดต่อไปหรือหยุดแค่นี้  เพราะมันเป็นการหักห้ามใจของผมเป็นอย่างมาก แต่มาคิดอีกทีตัวมันเลอะไปด้วยคราบอ้วกถ้าไม่เช็ดให้สะอาดมันก็จะเหม็นแน่ๆและคืนนี้ผมคงนอนดมกลิ่นละมุดจากตัวของไอ้โอมจนถึงเช้า  คิดได้แบบนั้นผมก็ใช้ผ้าค่อยๆลูบลงไปที่หน้าท้อง  ซิกแพคของมันช่างสมส่วนได้รูปสวยงามจริงๆขนที่สะดือของมันช่างน่าสัมผัสและหลงใหลเอามากๆผมต้องรีบดึงสติกลับมาไม่ให้คิดไม่ดีกับเพื่อนแบบนี้ แต่แล้วจู่มือทั้งสองข้างของไอ้คนที่ผมคิดว่าหลับสนิทไปแล้วนั้นก็มาจับไหล่ของผมให้นอนหงายกับพื้นทันที ไอ้โอมพลิกตัวเองมาขึ้นนั่งคร่อมผมโดยฉับพลัน

“เอ้ย ไอ้เชี่ยมึงเล่นพิเรนทร์อะไรวะโอม  ลงจากตัวกูเดี๋ยวนี้นะเว้ยไอ้สัส ไม่งั้นกูต่อยมึงให้เสียโฉมเลยนะเว้ยย............... ปล่อยกู”

“มึงก็ลองต่อยกูสิ.... ถ้ากูเสียโฉมขึ้นมา รับรองได้เลยว่าไอ้ทุ่ง และเพื่อนๆคณะกูเอามึงตายแน่ ที่มึงเป็นสาเหตุให้ใบหน้าหล่อๆกูพัง”

“สัส  มึงไม่ต้องมาขู่กู”

“กูไม่ได้ขู่  แต่กูพูดจริง  มึงก็รู้ว่ากูเป็นเดือนคณะ แล้วก็กำลังจะได้เป็นเดือนมหาวิทยาลัย”

มือทั้งสองข้างของผมถูกไอ้โอมจับกดไว้กับพื้นทันที จากนั้นมันก็ค่อยๆโน้มหน้าของมันเข้ามาใกล้ๆใบหน้าของผม ดวงตาของมันจับจองที่ใบหน้าของผมอย่างกับพญาราชสีห์จ้องจะจับเหยื่อกินไม่ให้เหลือซากเลย

“ตรี มึงจะโทษกูไม่ได้นะเว้ย  มึงปลุกมันตื่นขึ้นมาเอง”

“กูปลุกอะไรวะไอ้สัส  กูแค่เช็ดตัวให้มึงเฉยๆ”

“มึงทำให้น้องชายกูตื่น จากการสัมผัสของมึงไง”

โอมพูดเสียงกระเส่า พร้อมกับใช้ปากของมันปิดปากของผมทันที ก่อนที่ผมจะร้องออกมา  ลิ้มของมันตวัดควานหาความหวานจากปากของผมอย่างช่ำชอง  ผมนิ่งอึ้ง กับการกระทำของมัน  จากนั้นมันก็ค่อยๆถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆ

“ตรี กูขอได้ไหม  กูไม่ไหวแล้ว  กูทรมานวะ น้องชายกูมันต้องได้ปลดปล่อย น่ะตรี  กูขอ  มึงอย่าเกร็ง  กูไม่ไหวแล้ว”

โอมพูดไปพร้อมไซ้ซอกคอผมไป แถมระดมจูบและดูดอย่างหนัก มือของมันยังมาฉีกเสื้อนักกีฬาผมขาดออกไม่มีชิ้นดี  มันเอาแรงมหาศาลนี้มาจากไหน ทำไมถึงได้รุนแรงแบบนี้

“เชี่ยโอม  มึงเป็นบ้าไรวะ  ปล่อยกู มึงจะทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะเว้ยไอ้สัส”

“มึงจะโทษกูไม่ได้ เพราะมือของมึงที่สัมผัสกูอย่างเล้าโลมมันปลุกอารมณ์ดิบในตัวกู... ตรีกูไม่ไหวแล้ว  กูควบคุมอารมณ์ตอนนี้ไม่ได้  น้องชายกูตื่นเต็มที่แล้ว”

“ไอ้โอม  มึงอย่ามาบ้ากามนะเว้ย  ถ้ามึงมีอารมณ์มึงก็ไปห้องน้ำเลยสัส ไปเอามันออกที่ห้องน้ำโน้น”

“ไม่ได้แล้วตรี  มันติดใจการสัมผัสด้วยรสมือของมึงแล้ว  ตรีกูขอเถอะนะ”

จากนั้นโอมก็จับตัวผมพลิกให้นอนคว่ำทันที มันถอดกางเกงกีฬาของผมออกมาอย่างง่ายได้แม้แต่กางเกงในของผมมันก็ไม่เหลือเลย

“ไอ้สัส มึงจะทำอะไรกูวะไอ้โอม  ไอ้เชี่ย  กูไม่เคยนะโว้ย กูไม่เคยให้ใครเอาประตูหลัง ปล่อยกู ปล่อยกู”

“กูก็ไม่เคยเอาประตูหลังผู้ชาย ของแบบนี้มันก็ต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้น  กูรู้นะตรี ว่ามึงก็ไม่ได้รังเกียจกู แถมมึงก็เคยๆกับผู้ชายมาแล้ว แค่นี้มึงจะกลัวอะไรวะ”

“ไอ้เชี่ยโอม มึงจะเล่นประตูหลังกูเหรอ  ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย”

“กูไม่ปล่อย  มึงอย่างเกรงสิวะตรี”

โอมพูดไปพร้อมกับถอดกางเกงของมันอย่างชำชาญการณ์เลยที่เดียว ผมสัมผัสได้ว่ามีท่อนแข็งๆอุ่นๆมาแนบชิดกับผิวบริเวณก้นตัวเอง ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆปนสยิวไปทันที

“โอม ....??? มึงจะเล่นหนังสดกับกูเลยใช่ไหม???ไอ้เหี้ยยยยย”

“ตรีมึงเชื่อใจกู  กูขอ  กูไม่ไหวแล้ว  มันทรมาน  มึงก็น่าจะรู้  ว่าเวลาน้องชายมันตื่นมันเป็นยังไง มันทรมานแค่ไหน ถ้าไม่ได้ปลดปล่อย กูขอเถอะ”

“ไอ้สัส  กูไม่เคยรับให้ใครนะเว้ย  ไอ้เชี่ยโอม มึงหยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย มึงนึกถึงจิตใจกูบ้าง ถึงกูจะเป็นแบบนี้แต่กูก็ไม่เคยนอนกับใครเพราะความใคร่นะ.......”

ก่อนที่ผมจะพูดอะไรมากไปกว่านั้น ไอ้โอมก็ใช้มือจับหน้าผมให้หันมาด้านหลังหาใบหน้าของมันทันที จากนั้นมันก็ใช้ปากของตัวเองมาประกบปากของผมเพื่อปิดเสียงพูด มันใช้ลีลาที่เร้าร้อนและรุนแรงแต่แฝงไปด้วยความเสียวซ่าน ผมเคลิ้มไปกับรสจูบของมัน มารู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่าอธิปไตยด้านหลังของตัวเองถูกล่วงล้ำเข้ามาจนมิดลำปืนแข็งๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งเจ็บและเสียวไปพร้อมๆกัน จากนั้นพายุลูกใหญ่ก็ถาโถมมาใส่อย่างไม่ยังเลยทีเดียว ลูกแล้วลูกเหล่า จนพายุลูกใหญ่ถึงจุดสุดยอดปล่อยน้ำให้ทะลักเขื่อนจนล้น เหมือนเขื่อนแตก ฝนและลมก็ได้ค่อยๆสงบลง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนท้องทะเลแห่งนี้อีกเลย  เสียงหายใจสม่ำเสมอของโอมยังดังต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มันได้หลับสนิทไม่ไหวติงเลยสักนิด มันไม่สนใจจะใส่แม้แต่เสื้อผ้า มันนอนเปลือยกายล่อนจ้อนไม่เหลือมาดของว่าที่เดือนมหาวิทยาลัยเลยสักนิดเดียว  ซึ่งต่างจากผมลิบลับเลยขาทั้งสองข้างของผมก้าวก็จะไม่ออก ผมไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย มันรู้สึกเจ็บระบมไปหมด จะให้ผมร้องห่มร้องไห้ที่เสียตัวให้กับผู้ชายด้วยกันก็คงไม่ใช่ที  ผมยอมรับว่าเคยกอดจูบกับผู้ชายด้วยกันแต่ก็ไม่เคยเกินเลยขนาดนี้มาก่อนในชีวิต นี้เป็นครั้งแรกของผม ครั้งแรกที่ผมถูกเพื่อนอย่างไอ้โอมข่มขืน ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับชีวิตต่อจากนี้ จะทำตัวเป็นปกติได้เหรอ  หรือจะต้องพูดกับไอ้โอมให้มันรับผิดชอบในสิ่งที่มันได้กระทำลงไปก็ใช่เหตุ เพราะเราต่างเป็นผู้ชายเหมือนกัน ซึ่งผมก็คงไม่มีวันท้องแน่ๆเลย  ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว แถมยังเจ็บตามตัว ไม่รู้ว่าผมเผลอหลับไปตอนไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงไก่ที่บ้านของไอ้ทุ่งขันในตอนเช้ามืดเสียแล้ว

“โอ้ยยย.....ทำไมเจ็บแบบนี้วะ”

ผมมองดูร่างกายตัวเอง  ก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากเพราะมีรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำๆตามลำคอลำตัวและหัวนม นี้มันรุนแรงถึงเพียงนี้ใช่ไหม??

“โอ้ยยย เจ็บ.... ยิ่งจับยิ่งเจ็บ”

ผมอุทานออกมาหลังจากจะลุกไปเข้าห้องน้ำที่บ้านของไอ้เชี่ยทุ่ง ผมฝืนสังขารลากเอาร่างกายผังๆมาเข้าห้องน้ำอย่างทรมานที่สุด ผมอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายล้างร่องรอยการผ่านศึกรบมาอย่างหนักเมื่อคืนนี้และทำธุระส่วนตัวเสร็จก็พยุงร่างกายออกจากห้องน้ำ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงทักของแม่ทิพย์

“อ้าวลูกตรี ตื่นแต่เช้าจังเลย”

“อ่อครับคุณแม่”

“ทำไมตรีเดินกะเผลกอย่างนั้นละ  ไปโดนอะไรมาเหรอจ๊ะ”

“เอ่อ...เอ่อ   อ่อเปล่าหรอกครับแม่  พอดีเมานิดหน่อยเลยเดินหกล้มตั้งแต่เมื่อคืนครับ”

“แต่แม่ว่าไม่หน่อยละมังจ๊ะ หน้าซีดแบบนั้น ไหนๆขอแม่ดูสิ”

จากนั้นแม่ของทุ่งธรก็เอามือมาอังหน้าผากของผมทันที

“ตายแล้วตรี  ทำไมลูกตัวร้อนแบบนี้ละจ๊ะ  ไป ไปนั่ง ที่แคร่ใต้ถุนบ้านก่อนเถอะ  เดี๋ยวแม่จะเอายาแก้ไข้มาให้กินก่อนนะ”

จากนั้นแม่ทิพย์ก็พาผมมานั่งที่แคร่ใต้ถุนบ้าน  ไม่นานแม่ทิพย์ก็ขึ้นไปเอายาแก้ปวดลดไข้มาให้ผมกินด้วยความเป็นห่วง

“นี้จ๊ะ  ยาแก้ไข้  กินสักสองเม็ดแล้วกันนะ จะได้ดีขึ้น แต่ถ้ายังไงก็ควรรีบไปหาหมอนะลูกนะ”

“ขอบคุณครับแม่”

ผมยกมือไหว้พร้อมกับรับยาและน้ำดื่มมาจากแม่ทิพย์แล้วก็กินยาทันที

“แม่  เดี๋ยวตรีจะไปนอนบนเปลแล้วกันนะครับ  ตรีนั่งไม่ค่อยถนัดเท่าไรครับ”

“คงจะล้มเอาก้นไปกระแทกพื้นอย่างแรงสิน่ะ ถึงได้นั่งลำบากแบบนี้”

ผมได้ฟังคำพูดของแม่ทิพย์แล้ว  ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี มันอายครับ อายมากเท่าที่จำความได้เลย ผมได้แต่ก้มหน้ามองพื้นดิน

“จ๊ะๆไปนอนในเปลก็ดีเหมือนกัน  ท่าทางก้นคงจะบวมแน่ๆ ถึงกับนั่งลำบากเลย”

แม่ทิพย์พูดออกมาด้วยความไม่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง พอผมได้ฟังอีกรอบแล้วไม่รู้ว่าหน้าผมแดงด้วยพิษไข้หรือแดงด้วยความเขินอายกันแน่  ผมเดินมานอนในเปลที่แขวนใต้ถุนบ้านใกล้ๆกับแคร่ไม้ไผ่ด้วยความอ่อนแรงและเจ็บปวดที่แผลอย่างมากๆ ผมเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำที่บ้านของทุ่งธร ถึงได้รู้ว่าประตูหลังผมมันฉีกขาด มีเลือดไหลซึมออกมาด้วย ดีที่ผมเอากางเกงกีฬามาหลายตัวและกางเกงเป็นสีดำ ถ้าขืนหยิบตัวที่เป็นสีขาวมาต้องมีคนสังเกตเห็นแน่ๆ นอนคิดไปคิดมาผมก็เผลอหลับไปด้วยฤทธิ์ของยาแก้ไข้ที่กินไปถึงสองเม็ดมารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงใครสักคนมาเรียกข้างๆหู

“ตรี ตรี  เป็นไงบ้าง??  ตื่นมากินข้าวสักหน่อยเถอะมึง”

“เอ้ยยย ไอ้โอม  มึงจะทำอะไรกูวะ!!!!!”

“เปล่า  กูแค่จะปลุกมึง มากินข้าวเท่านั้นเอง  จะได้รีบกลับ”

“เอ่อ  เอ่อ”

“ลุกไหวเปล่าวะมึง  ให้กูช่วยไหม??”

“กูไหว  ไม่ต้องเว้ยยย แค่นี้เอง”

จากนั้นผมก็เดินไปนั่งบนแคร่ไม้ไผ่ ที่ตอนนี้ทุกคนก็มานั่งรอทานข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากันหมด ยกเว้นเหลือก็แค่ผมคนเดียวที่เผลอหลับไป

“อ้าว ตรี มึงหนาวมากเลยเหรอวะ ถึงได้ใส่เสื้อติดกระดุมมิดคอขนาดนั้น”

เสียงของทุ่งธร ทักผมมาหลังจากที่ผมนั่งลงข้างๆมัน

“เอ่อ  เออ  คือกูไม่สบายนิดหน่อยวะมึง”

“เอาๆ นี้ต้มจืดหน่อยนะมึง  จะได้คล่องคอ”

ทุ่งธรตักต้มจืดมาให้ผมทันที  คงเห็นว่าอาการผมแย่มากๆ

“เอ่อ ป่าสักจ๊ะ  แม่เก็บอุปกรณ์ที่หนูเอามาเรียบร้อยแล้วนะ  ยกขึ้นรถกลับได้เลยนะจ๊ะ”

“แม่ครับ  ผมฝากไว้ให้แม่เลยนะครับ  เพราะว่าตั้งใจจะเอาไว้ที่บ้านแม่อยู่แล้ว  มาคราวหลังจะได้ไม่ต้องขนมาอีกครับ อีกอย่างเวลาแม่จะทำอาหารหรือป้าลำไยอยากทานอีกก็จะได้สะดวกในการทำครับ”

“เอาแบบนั้นเหรอจ๊ะ  ก็ตามใจน่ะ  ถ้างั้นแม่ก็จะเก็บไว้ให้เวลาพวกเรามาเที่ยวจะได้มีอุปกรณ์ในการทำครัวที่ทันสมัย  เพราะของพวกนี้แม่ไม่ถนัดหรอกจ๊ะ”

“ครับแม่”

“ รีบทานข้าวกันเถอะจ๊ะ  เดี๋ยวสายกันพอดี  เอ่อทุ่ง อย่าลืมพาตรีแวะไปหาหมอที่คลินิกในตัวอำเภอก่อนนะ  ให้หมอช่วยดูที ว่าเป็นอะไรมากไหม”

“อ่อ ครับแม่”

“เห็นว่า เมาแล้วล้มเอาก้นไปกระแทกพื้นอย่างแรง  ยังไงก็ให้หมอดูอีกทีเถอะนะ  แม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

พอแม่ทิพย์พูดแบบนี้ขึ้นมากลางวงทานข้าว  ผมเงยหน้าไปสบตากับโอม โดยอัตโนมัติทันที  แต่ไอ้เชี่ยโอม กลับยิ้มที่มุมปากอย่างหน้าตาเฉย  มันน่าโมโหนัก  ไอ้เชี่ยนี้  คงไม่รู้สึกอะไรเลยใช่ไหม?????????

“อะไรว่ะเชี่ยตรี  เสียชื่อเด็กเกษตรหมดเลยวะมึง  แดรกเหล้าแค่นี้ ถึงกับเมาหัวถิ่มเลยเหรอ”

เสียงป่าสักทักผมมาอย่างล้อเลียน  ที่หมดคราบของเด็กพืชไร่อย่างหนักแค่เจอเหล้าโทของลุงแหลมสิงห์

     จากนั้นพวกเราก็ลาแม่ทิพย์กลับมหาวิทยาลัยทันที  ที่ทานข้าวเช้าเสร็จ  ผมเห็นความรักความห่วงใยที่แม่ของทุ่งมีต่อมันก็อดซาบซึ้งไปด้วยไม่ได้จริงๆ ป่าสักเป็นคนขับรถเช่นเคยส่วนไอ้ทุ่งก็นั่งหน้าคู่กับป่าสัก ผมกับไอ้โอมก็นั่งหลังเหมือนตอนมา

“ตรี  มึงเอนหลังพิงแบบนั้นสบายตัวเปล่าวะ??”

เสียงเชี่ยโอม  ถามผมหลังจากรถป่าสักขับออกมาจากบ้านของทุ่งธร

“อืม  กูนั่งได้”

“มานี้  นอนเลยดีกว่า  มึงจะได้สบายตัว”

จากนั้นเชี่ยโอมก็จับไหล่ผมกดลงมานอนกับเบาะรถด้านหลัง  เอาศีรษะผมไปหนุนที่ตักของมันอย่างนุ่มนวล

“ชูวววว ไม่ต้องพูด  กูไม่เป็นไร  มึงนอนไปเถอะจะได้ไม่เจ็บแผล”

ผมขี้เกียจจะเถียงกับไอ้โอม  อีกอย่างก็กลัวว่าป่าสักกับทุ่งจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับไอ้โอมเลยต้องยอมนอนหนุนตักมันไปแบบนั้น  แต่ก็ว่าไปนอนแบบนี้ก็สบายตัวมากๆเลย ก้นผมจะไม่ต้องกระแทกกับเบาะมากจนเกินไป ผมเงยหน้ามองไอ้โอม  ปรากฏว่ามันก็มองผมอยู่ก่อนแล้วต่างฝ่ายต่างจ้องตาไม่กระพริบ

“มึงหลับเถอะ  ดูสิขอบตามึงช้ำหมดแล้ว  กูไม่กวนมึงหรอก”

พอผมได้ยินไอ้โอมพูดแบบนี้ ทำไมเกิดความรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาแปลกๆ จากนั้นผมก็หลับไปบนตักของไอ้คนที่มันเปิดบริสุทธิ์ผมเมื่อคืนนี้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา