Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย
เขียนโดย Kreota
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.
แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
26) ไม่มีความลับใดยั่งยืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
-26-
ไม่มีความลับใดยั่งยืน
“ฮัลโหล...” ฉันกดรับ ขณะที่ปลายสายยังสูดน้ำมูกเข้ายังไม่เต็มปอด
[ฮัล...โหล...] เสียงแหบๆ ของโปรดดังมาจากปลายสาย
“อื้ม ว่าไงโปรด” ถึงปากจะบอกโปรดเอาไว้ว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกัน...แต่พอไม่มีอะไรมาผูกมัดฉันไว้ ความรู้สึกของคำว่าหน้าที่ที่ต้องเป็นเพื่อนโปรดมันก็หายไปหมด
[พรุ่งนี้...ฉันขอไปกินข้าวด้วยได้ไหม] เสียงของโปรดเบาหวิว บ่งบอกถึงความอ้างว้างของเจ้าของเสียงได้อย่างชัดเจน
“โปรด...”
[พรุ่งนี้ ฉันขอเดินออกไปหน้าโรงเรียนด้วยได้ไหม...เธอช่วย...เดินไปชมรมเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม...]
“ได้สิ” ฉันยิ้มออกมาเบาๆ กับคำพูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจของโปรด น่าแปลกที่มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด ฉันเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าสิ่งที่ฉันคิดว่ามันเป็นหน้าที่ที่จำใจต้องทำ มันกลับกลายเป็นความผูกพันโดยอย่างไม่รู้ตัว
นี่ฉัน...มีน้องสาวตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
[เรา...ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ไหม] โปรดถามฉันออกมาเบาๆ ทำให้ฉันยิ้มกว้างมากขึ้น ฉันไม่รู้ว่าจากตรงที่ฉันยืนอยู่มันใกล้พอที่โปรดจะมองเห็นรอยยิ้มของฉันไหมแต่ฉันหวังว่าโปรดคงจะยิ้มไปกับฉันเหมือนกัน
“ไม่ ฉันไม่เป็นเพื่อนเธอหรอก”
[วะ...ว่าไงนะ] โปรดถามกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฉันมองขึ้นไปบนหน้าต่างที่โปรดเกาะอยู่ ก็เห็นยัยนั่นกำลังใช้หลังมือปาดน้ำตาตัวเองอยู่
“ฉันจะไม่เป็นเพื่อนเธอ...แต่ฉันจะเป็นพี่สาวเธอ ถ้าเธอไม่ยอมเรียกฉันว่า ‘พี่’ ฉันจะไม่คุยกับเธออีก”
[โธ่ นึกว่าอะไร] โปรดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“แล้วทำได้ไหมล่ะ”
[เธอจีบพี่ฉันติดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ แค่นี้นะเพื่อนโห้...ตู๊ดๆๆๆ] พูดจบนางก็วางสายแล้วแลบลิ้นส่งมาให้ก่อนจะปิดหน้าต่างห้อง นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดที่ยังคบเด็กคนนี้อยู่ -_-;
ฉันส่ายหน้าไปมากับความไม่ยอมคนของคุณหนูมาเฟียผู้เย่อหยิ่ง ตอนนั้นเองที่ฉันแอบสังเกตเห็นม่านของห้องข้างๆ เปิดค้างอยู่ ในห้องไม่ได้เปิดไฟแต่ฉันก็พอจะเห็นเงาตะคุ่มๆ ของใครบางคนที่ยืนอยู่ในนั้น ฉันนิ่งมองหน้าต่างบานนั้นสักพัก ก่อนที่ม่านจะปิดลงแล้วเงานั้นก็ถูกบดบังไป
ถึงเวลาที่เราต้องห่างกันจริงๆ แล้วงั้นหรอ...ปาว
ฉันมาโรงเรียนด้วยความรู้สึกมีอิสระอย่างที่ไม่เคยมีมานาน ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อมารอรับโปรดที่หน้าโรงเรียน ไม่ต้องถ่อสังขารอันเกือบชราภาพของตัวเองมาที่ตึก ม.4 ทั้งตอนเช้า เที่ยงและหลังเลิกเรียนเพื่อเดินมาส่งโปรดเหมือนทุกวัน ถึงอิสรภาพที่ฉันได้รับมันจะทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ก็ตาม แต่ฉันคิดว่าคุณภาพชีวิตของฉันคงจะดีขึ้นกว่าเดิม
...รึเปล่านะ?
ตั้งแต่ฉันเดินเข้ามาในโรงเรียนฉันรู้สึกว่าทุกคนที่ฉันเดินผ่านต่างหันกลับมามองตามเกือบทุกคน เรื่องที่ฉันโดนปาวปฏิเสธเมื่อวานยังไม่ซาสินะ =_=
ฉันเดินก้มหน้างุดๆ มุ่งหน้าขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งขึ้นมาถึงห้องเรียนก็โล่งใจขึ้นมาทันทีที่เห็นเหมยและอ๋องนั่งอยู่ในห้อง สองคนนี้กำลังดูอะไร หัวชนกันเชียว
“ดูอะไรอ่ะ” ฉันถามเมื่อเดินไปถึงโต๊ะของตัวเองแล้ว เหมยไม่ตอบแต่ยื่นมือถือมาวางบนโต๊ะให้ฉันดูเอง ฉันมองหน้าเพื่อนสาวทั้งสองสลับกันไปมาอย่างลังเลก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูให้หายข้องใจ
ในนั้นมีภาพตอนที่ฉัน โปรด ปาวกำลังเดินออกมาจากห้องซ้อมร้องเพลงประสานเสียง ภาพต่อมาเป็นภาพที่โปรดเดินไปที่รถแต่ฉันยืนคุยกับปาวอยู่ และภาพสุดท้ายเป็นภาพที่ปาวเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าไปถือไว้ให้ ฉันเลื่อนลงมาดูคำบรรยายใต้ภาพก็แทบจะช็อก!
[รูปภาพ]
[รูปภาพ]
[รูปภาพ]
แฉความหน้าด้านของคน!!! แฟนเขาเดินอยู่ด้วยแท้ๆ แต่พอลับหลังนางก็ยืนอ่อยแฟนเขาหน้าตาเฉย แบบนี้บรรพบุรุษของความหน้าด้านเลยนะ รู้ป่ะ!!!
ขุ่นพระ!! -[ ]-!!!
“เขาหาว่าแกเป็นมือที่สามของโปรดกับปาวแน่ะ” อ๋องพูดอย่างหัวเสีย
“ฝีมือใคร!!” ฉันขบกรามตัวเองแน่น มือสั่นเทาด้วยความโกรธจนอยากจะขว้างมือถือนี่ทิ้งให้พ้นๆ
“ไม่รู้ มันลบเฟสไปแล้ว” เหมยบอก
“แล้วแบบนี้จะทำไง เขาคิดว่าฉันพยายามแย่งปาวจนกลายเป็นคนไม่มีศีลธรรมไปแล้ว ดูสายตายัยพวกนั้นมองฉันสิ!!” ฉันมองไปที่เพื่อนร่วมชั้นที่นั่งเม้าท์กันที่หลังห้อง เรื่องที่พูดกันคงหนีไม่พ้นเรื่องของฉันแหงๆ ยัยพวกนี้ยิ่งขาเม้าท์มอยอยู่
“เรื่องนี้แก้ง่ายนิดเดียว” อ๋องพูดขึ้นมาทำให้ฉันหันไปหาอย่างสนใจ
“บอกให้รู้กันไปเลยว่าโปรดไม่ใช่แฟนปาว แต่เป็น!...อุ๊บ!!” ฉันรีบยกมือขึ้นปิดปากอ๋องเอาไว้ก่อนที่นางจะพูดอะไรที่ไม่น่าพูดออกมา
“ฉันรับปากโปรดไว้แล้วว่าฉันจะไม่พูดเรื่องนี้”
“แต่นั่นมันตอนที่แกเป็นหนี้ไม่ใช่หรอ ตอนนี้แกไม่ได้เป็นหนี้แล้วจะกลัวอะไร” อ๋องพูด
มันก็จริงอย่างที่อ๋องว่า...แต่ฉันไม่อยากผิดสัญญา
“ไม่ได้จริงๆ อ่ะแก Y_Y”
“งั้นก็อยู่แบบมือที่สามต่อไปแล้วกัน!” อ๋องพูดแล้วลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้องเรียน โดยที่ฉันกับเหมยก็เรียกเอาไว้ไม่ทัน
“อ๋องมันโกรธแกแล้วแน่ๆ เลย” เหมยถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเก็บมือถือตัวเองกลับไป
ฉันรู้ว่าแกห่วงฉัน แต่ฉันทำไม่ได้จริงๆ อ๋อง...ขอโทษนะ
พักกลางวันอ๋องออกไปจากห้องเรียนทันทีที่หมดคาบ ปกติถ้ามีเรื่องอะไรแบบนี้ไม่ว่าจะปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำขนาดไหน หรือว่ามีเรื่องด่วนยังไงอ๋องจะอยู่กับฉันตลอด แต่คราวนี้อ๋องคงโกรธฉันจริงๆ...โกรธที่ฉันไม่ยอมเอาตัวรอดทั้งที่ทางออกมันอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ แต่...ฉันขอโทษนะอ๋อง ฉันโง่เองแหละที่ยังทำตามสัญญาบ้าๆ นั่นอยู่
“ไม่ลงไปกินข้าวแน่นะ ฝากซื้ออะไรไหม” เหมยหันมาถามฉันเป็นครั้งที่ 3
“ฉันไม่หิวจริงๆ เหมย แกไปกินข้าวเถอะ”
“แก...โอเคใช่ไหม”
“อื้ม ฉันโอเค”
“งั้นเดี๋ยวฉันรีบขึ้นมานะ” เหมยบอกแล้วเดินออกไปจากห้องบ้าง
พอรอบข้างไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย ตัวฉันมันลีบเล็กลงเหมือนไม่มีค่าอะไรเลยในโลก เสียงพูดคุยรอบข้างดังอื้ออึงขึ้นเรื่อยๆ จนฉันแทบจะแบกรับมันเอาไว้ไม่ไหว
“โถๆๆ ถึงกับกินอะไรไม่ลงเลยหรอเนี่ย” จู่ๆ เสียงแมทธ์ก็ดังขึ้นมาใกล้ๆ ฉันยืนตัวขึ้นหลังจากเอาคางเกยไว้ที่โต๊ะสักพักแล้ว แมทธ์ยืนอยู่ข้างๆ ฉันนี่เอง ยัยนี่มาเมื่อไหร่กัน!
“เธอมีอะไรหรอ” ฉันถามห้วนๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นไปคุยกับยัยแมทธ์ตรงๆ
“ช่วงนี้ข่าวฉาวเยอะไม่ใช่หรอ ทำไมเจอข่าวนี้เข้าไปแล้วหน้าเจื่อนเลยล่ะ”
“เธอต้องการอะไร พูดออกมาเลยดีกว่า!” ฉันดันตัวลุกขึ้นทันทีอย่างเหลืออดจนเก้าอี้ที่นั่งอยู่ล้มลงไปกับพื้น เสียงพูดคุยรอบข้างเงียบสนิทลงจนฉันได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นถี่ของตัวเองอย่างชัดเชน
“ฮึ! ก็แค่อยากมาดูหน้าให้สะใจเท่านั้นเอง...ข่าวฉาวๆ เนี่ยยังขายได้ตลอดเลยนะ โดยเฉพาะเรื่องรักสามเส้าของคนดัง”
“เธอ...ปล่อยข่าวนี้ใช่ไหม!”
“แฟนคลับปาวมีตั้งมากมายทำไมเธอคิดว่าเป็นฉันล่ะ แค่ความใกล้ชิดของน้องสาวกับพี่ชายฉันจะปล่อยข่าวออกไปทำไม”
“เธอ!...เธอรู้...”
“ใช่ฉันรู้...ฉันถึงไม่มีสะทกสะท้านกับข่าวนี้ไง แต่น่าขำนะพวกโง่ในโรงเรียนนี้ดันเชื่อเป็นตุเป็นตะ”
“เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกัน เธอก็เลยปล่อยข่าวออกมาทำลายฉันสินะ”
“เฮ้อ...เธอจะยัดเยียดข้อหาให้ฉันจริงๆ หรอเนี่ย”
“ก็ฉันไม่เห็นว่าจะมีใครร้ายกาจเท่าเธออีกแล้วนี่แมทธ์”
“ฮึ! งั้นหรอ...งั้นก็มาดูกันว่าสองพี่น้องโอเชี่ยนคอป. จะช่วยเธอยังไง”
“ฉันคิดว่าพวกเขาช่วยฉันได้แน่”
“เธอคิดว่ารู้จักสองคนนั้นขนาดไหนกัน...ยัยโปรดก็แค่คุณหนูเอาแต่ใจ รักใครไม่เป็นนอกจากตัวเอง ชอบพูดตัวว่าตัวป่วยอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจ ส่วนปาวก็ไม่เคยสนใจใครนอกจากแก๊งมาเฟียและพวกพ้องของตัวเอง แล้วก็น้องสาวสุดที่รักอย่างยัยโปรด...เธอคิดว่าใครจะช่วยเธอได้!”
“...” สิ่งที่แมทธ์พูดมามันเป็นความจริงทุกอย่างจนฉันพูดไม่ออก ปาวทุ่มเททุกอย่างเพื่อน้องจริงๆ ขนาดเป็นเด็กเรียนขนาดนั้นแต่ตอนที่โปรดป่วยก็ถึงกับลาเรียนไปเฝ้าน้อง มันเป็นความจริงที่ฉันเองก็เถียงไม่ออก
“อย่าสำคัญตัวเองผิดไปหน่อยเลยโบอิ้ง ฉันรู้จักสองพี่น้องโอเชี่ยนคอป.มากกว่าที่เธอรู้จักหลายเท่า รู้ไว้ด้วย!” แมทธ์พูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วเดินออกไปจากห้อง
เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่พวกเขาเงียบฟังการสนทนาอยู่นาน ยังดีที่ยัยแมทธ์เองก็รู้จักระวังตัว ไม่พูดเสียงดังจนทำให้ความลับของปาวและโปรดรั่วไหลออกไปก่อนเวลาอันควร
ฉันทรุดลงบนพื้นด้วยสมองอันว่างเปล่า ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี ถ้าถอยออกมาจากโปรดและปาวแล้วที่ฉันสัญญากับโปรดไว้ว่าจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่จะทำยังไง โปรดจะคิดว่าฉันเป็นคนยังไงกัน พอใช้หนี้เสร็จก็ทิ้งยัยนั่นไว้คนเดียวทั้งที่สัญญาไว้แล้วงั้นหรอ...ไหนจะปาวอีก! เขารักน้องมาก ถ้าเขาเห็นน้องเสียใจเพราะฉัน เขาต้องเกลียดฉันมากกว่าเดิมแน่ๆ
ในขณะที่ฝั่งหนึ่งของความคิดกำลังหาทางออกโดยที่ไม่ทำให้ปาวและโปรดเสียใจ ความคิดอีกฝั่งกลับกำลังคิดในสิ่งที่ร้ายกาจ...ถ้าเกิดฉันบอกเรื่องที่โปรดเป็นน้องแท้ๆ ของปาวให้คนทั้งโรงเรียนรู้เรื่องมันก็จบ! ยัยโปรดก็คงโกรธฉันได้ไม่นานเพราะว่ายัยนั่นไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องกลับมาขอเป็นเพื่อนกับฉันอยู่ดีนั่นแหละ!
“ทำไมเธอลงไปนั่งแบบนั้นล่ะ ตกเก้าอี้หรอ” จู่ๆ เสียงของปาวก็ดังขึ้นมา ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นปาวยืนอยู่ที่เดียวกับที่ยัยแมทธ์ยืน เขามาหาฉันงั้นหรอ? เขาโกรธฉันเรื่องพี่ทิวอยู่นี่นา...
“เปล่า ฉันแค่...นั่งพัก” ฉันบอกพร้อมกับดันตัวเองลุกขึ้นยืน ปาวถอนหายใจออกมาแล้วก้มลงจัดเก้าอี้ให้มันกลับมาสภาพพร้อมนั่งตามเดิม
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายหรอ” ปาวถามพร้อมกับสีหน้าห่วงใยแต่มันก็แค่แว๊บเดียวเท่านั้น
“เปล่า”
“ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม” ปาวถามพร้อมกับวางนมและขนมมากมายซึ่งรวมกันอยู่ในถุงเดียวไว้บนโต๊ะเรียนของฉัน
“ฉันไม่หิว” ฉันบอก สิ้นเสียงฉัน เพื่อนที่นั่งอยู่ในห้องก็พากันส่งเสียงจิ๊จ๊ะและพ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างไม่พอใจพร้อมกับส่งสายตารังเกียจมาให้ฉันประมาณว่า ‘ทำเป็นเล่นตัวไปได้’ ฉันเหลือบไปมองพวกนั้นอย่างจงใจจนพวกนั้นหลบสายตาลงแทบไม่ทัน
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า” ปาวถามเหมือนเขาไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน เขาทำเหมือนไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังเล่นกันอยู่ทุกวันนี้มันกำลังทำลายชีวิตอันสงบสุขของฉัน
ฉันไม่น่าชอบนายเลย...เราไม่น่าเจอกันตั้งแต่ต้น!!
“เป็น! เป็นมากเลยด้วย” ฉันบอกก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันไม่ใช่คนรับใช้โปรดแล้ว นายไม่ต้องมาทำดีกับฉันก็ได้ ช่วยอยู่ห่วงๆ ฉันด้วย”
“โบอิ้ง เอเป็นอะไรไป โกรธเรื่องเมื่อวานหรอ...ฉัน...”
“ขอร้อง ฉันขออยู่อย่างสงบๆ บ้างจะได้ไหม!” ฉันพูดขึ้นมาขัด ก่อนที่ปาวจะได้พูดอะไรมากกว่านั้น
“ตั้งแต่ฉันรู้จักกับนายชีวิตฉันมีแต่เรื่อง พวกนายอาจจะไม่เคยรู้เพราะไม่เคยเจออะไรแบบฉัน...พวกนายไม่เคยรู้เพราะไม่เคยต้องแบกรับแล้วก็เจอสถานการณ์เหมือนฉัน พวกนายไม่มีทางรู้เพราะพวกนายมันเป็นคุณหนูที่อะไรผิดนิดหน่อยก็มีคนคอยตามล้างตามเช็ด...พวกนายมาบ้านฉัน มาทำความรู้จักกับฉัน คนรอบข้างเขามองว่าพวกนายช่างประเสริฐ ไม่ถือตัว ติดดิน น่าคบ ทำอะไรก็ดีไปหมด แต่ฉันไม่ใช่แบบนั้น...ฉันได้รู้จักพวกนาย ฉันได้ไปบ้านพวกนาย คนรอบข้างเขามองว่าฉันหัวสูง ทะเยอทะยานจนเกินตัว!! นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังแบกรับ คนรอบข้างมองว่าฉันเป็นมือที่สามบ้าบอนี่ก็เพราะเรื่องที่พวกนายเล่นกัน!! สนุกนักหรอที่หลอกคนอื่นแบบนี้ สนุกมากไหม!!!”
“โบอิ้ง...” ปาวเรียกชื่อฉันเบาๆ พร้อมกับพยายามเอื้อมมือมาแต่ที่แขนฉัน แต่ฉันปัดมันออกเพราะฉันไม่อยากหวั่นใจกับเขาอีกแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ปาวเอาชนะฉันด้วยความรู้สึกดีเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาเจียดมาให้อีก!!
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้กับพี่ชายฉัน!!!” เสียงแหลมๆ เล็กๆ ของโปรดดังมาจากหน้าห้อง ทำเอาภายในห้องและนอกระเบียงทางเดินหยุดชะงักไปเพราะเสียงอันดังนี้
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือเสียงโวยวายเหมือนตลาดแตก บางคนก็กดมือถือเพื่อโทรหาเพื่อน บางคนก็ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ไหวติงไปไหน ซึ่งนั่นก็รวมถึงฉันด้วยฉันยังอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย ทั้งประหลาดใจและไม่เชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นมันผิดเพี้ยนไปรึเปล่า
โปรด...ยอมประกาศว่าปาวเป็นพี่ชายตัวเองงั้นหรอ!!
“ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ทำไมไม่ฟังกันบ้าง!” โปรดเดินเข้ามาหาฉันอย่างเอาเรื่อง
“โปรด พอแล้วน่า” ปาวเข้ามาขวางโปรดเอาไว้ก่อนที่จะเดินมาถึงตัวฉัน
“ขอโทษนะ แล้วเรา...ค่อยคุยกัน” พูดจบปาวก็ลากโปรดออกไปจากห้องทันที
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วมากจนฉันถามตัวเองซ้ำๆ ว่ามันเกิดขึ้นจริงไหม? ฉันฝันไปรึเปล่า? โปรดยอมเปิดปากบอกทุกคนว่าเป็นพี่น้องกับปาวได้ยังไงกัน!
ครืด~
เสียงมือถือของฉันสั่นหนึ่งครั้งแล้วเงียบไป ฉันทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ที่ปาวจัดไว้ให้ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมา
[นี่คือสิ่งที่ฉันตอบแทนเธอ...
เพื่อนรักของฉัน]
ฉันยิ้มทั้งน้ำตาให้กับข้อความสั้นๆ นั้น โปรดยอมบอกว่าเป็นน้องสาวปาวเพื่อช่วยฉันงั้นหรอ เธอช่วยฉันไว้อีกแล้วนะโปรด...
สิ่งที่เธอบอกมันผิดหมดแมทธ์! โปรดกับปาวช่วยฉันได้จริงๆ ฉันเกือบจะหลงเชื่อคำโกหกของเธอแล้ว แต่โชคดีที่ฉันคิดไม่ผิดที่เชื่อใจพวกเขา
*****************************************************
เย้!!!! อัพแล้วจ้า
อ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหนบอกได้นะคะ ไรท์แต่งดราม่าไม่ค่อยเก่ง แฮ่ๆ
เหมือนความสัมพันธ์จะเริ่มแนบแน่นเกินกว่า (อดีต) เจ้าหนี้กับลูกหนี้ซะแล้วนะเนี่ย
:: ฝากติดตามหน่อยนะจ้ะ
:: ตอนต่อไปจะเป็นยังไง ไว้มาตามลุ้นกันนะ
(ไรท์ไม่เหลืออะไรไว้ให้จิ้นต่อได้เลยอ่ะ ฮ่าๆๆ เอ๊ะ! หรือว่ามี?)
******************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ