Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  29.13K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) อิสรภาพ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

-25-

อิสรภาพ

 

            ฉันนั่งเขี่ยดาวเล่นขณะที่รอสอบปลายภาควิชาลีลาศด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว จำท่าลีลาศก็ไม่ได้แถมยังโดนปาวปฏิเสธแบบฮาร์ดคอร์อย่างเมื่อเช้าอีก...ฉันรับไม่ได้ T^T

            “ใส่ถุงไว้ดีๆ หน่อย ปลิวหมดแล้วเนี่ย”  เหมยบ่นหลังจากตามเก็บดาวมายัดใส่ถุงให้ฉันหลายรอบแล้ว ฉันมองถุงก๊อบแก๊บที่ขอคุณป้าขายข้าวแกงมาใส่เมื่อตอนเที่ยงด้วยความรู้สึกปั่นป่วนมวนท้อง ฉันจึงมัดปากถุงก่อนจะยัดมันเข้าไปในเป้สะพายหลังของตัวเอง

            “พวกเธอทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนคนอื่นล่ะ”  ท็อทเดินเข้ามาทักพร้อมกับฟานที่เดินตามมาเงียบๆ

            “วันนี้คงไม่ได้สอบแล้วล่ะ ดูสิคนต่อคิวยาวไปถึงโรงอาหารโน่น”  อ๋องพูดพร้อมกับชี้ไปที่นักเรียน ม.6 ที่ยืนต่อคิวกันยาวเหยียด ที่จริงไม่ได้ต่อไปจนถึงโรงอาหารหรอก นังอ๋องพูดเวอร์ไปอย่างงั้นเอง

            วันนี้เหมือนเป็นมหกรรมรวมชั้นเรียน ม.6 ไว้ทุกห้องเลยก็ว่าได้ เพราะการสอบปลายภาครายวิชาลีลาสจะสอบรวมกันทุกห้อง โดยจะให้ออกไปเต้นจังหวะละ 4 คู่ ส่วนใครจะเลือกจังหวะไหนก็แล้วแต่ถนัด ไฮไลท์ในการสอบครั้งนี้นอกจากดูลีลาท่าทาง ความคล่องตัวแล้วยังมีเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมที่แต่ละคนขนชุดราตรีของบรรพบุรุษมาสอบกันเลยทีเดียว บางคนเดินลากไปเป็นกิโลจนอาจารย์ให้กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนค่อยมาสอบใหม่ก็มีเหมือนกัน การสอบแต่ละครั้งต้องเสียเวลากับเรื่องไร้สาระพวกนี้แหละ กว่าจะสอบเสร็จจังหวะหนึ่งๆ จึงใช้เวลานานมาก

            ที่จริงการสอบปลายภาคของวิชาลีลาศมีทั้งหมด 3 วันค่ะ แต่เพราะมันคาบเกี่ยวกับวันเสาร์ - อาทิตย์ แต่ละคนก็เลยเร่งอยากจะสอบวันนี้ให้ได้ ฉันก็เลยขอสละสิทธิ์เองดีกว่า อีกอย่างวันนี้ไม่มีอารมณ์เต้นด้วย T^T

            “แล้วพวกนายสอบเสร็จแล้วรึไงถึงมาเดินชิลอยู่แบบนี้”

            “ยังเหมือนกัน ว่าจะมาสอบเป็นเพื่อนไอ้ปาวพรุ่งนี้ วันนี้ไม่รู้มันหายไปไหน”  ท็อทนั่งลงบนม้านั่งตัวที่อยู่ข้างๆ ฉัน ดูเหมือนหมอนี่พยายามจะเน้นคำว่าปาวใส่หน้าฉันเหลือเกิน =_=

            “ตกลงพวกเธอทะเลาะกันเรื่องอะไร วันนี้ไอ้ปาวอารมณ์บูดทั้งวันเลย”  ฟานตั้งคำถาม เอ่อ...ถามตรงไปนะบางที U_U;

            “อืมใช่ๆ ฉันได้ยินเรื่องเมื่อเช้าแล้วนะ มิน่ามันไม่มาเรียนทั้งวันเลย พอโทรไปถามก็เหวี่ยงพวกฉันอีก แม่ง! ถ้ามันเป็นผู้หญิงฉันจะคิดว่ารอบเดือนมันมา...”  ท็อทพูดออกมาอย่างลืมตัว =_=

            “เอ่อ...โทษที ^^;”  ท็อทยิ้มแหยๆ พร้อมกับเกาต้นคอแก้เขิน

            “หรือว่ามันโกรธเธอเรื่องทีเธอมีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังไปตื๊อมันรึเปล่า”  ฟานถามออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ฉัน เหมยและอ๋องมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย 'แฟน’ ฉันงั้นหรอ?

            “ใครแฟนฉัน?”  ฉันขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย

            “อ้าวก็พี่ทิวไง ฉันเห็นหรอกน่า เมื่อวานกอดกันกลมเชียวน้าาา...”  ท็อทลากเสียงยาวๆ เพื่อแซวฉัน...แต่ฉันไม่รู้สึกเขินเลยสักนิด!

            “บ้า! พี่ทิวไม่ใช่แฟนฉันนะ”  ฉันรีบปฏิเสธทันควัน

            “อ้าว! พวกฉันก็นึกว่ากอดล่ำลากันก่อนไปสอบสัมภาษณ์ซะอีก”  ท็อทพูด

            “ไม่ใช่ พี่เขาแค่ขอบคุณเรื่องของขวัญ...แล้วก็เรื่องสายรหัส ที่คอยดูแลกันมานานเท่านั้นเอง”  ฉันแก้ตัวไปอย่างงั้นเองแหละ ทั้งที่เรื่องนี้มันก็มีอะไรในกอไผ่เหมือนอย่างที่ท็อทกับฟานสงสัยอยู่จริงๆ

            “แค่นี้เองหรอ...โกหกพวกเรารึเปล่าเนี่ย ใครไปเห็นตอนนั้นก็คิดเหมือนกันหมดแหละว่าพวกเธอเป็นแฟนกัน ขนาดไอ้ปาวเห็นก็ยังคิด โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินหนีไปเฉยเลย ทำอย่างกับหึงเธออย่างนั้นแหละ...”

            “เฮ้ย! พูดมากน่า กลับได้แล้ว”  จู่ๆ ฟานก็พูดตัดบทแล้วพรากท็อทที่กำลังเม้าท์มอยอย่างถึงใจถึงอารมณ์ไปอย่างน่าเสียดาย

            “แก...แกคิดเหมือนฉันไหม?”  หลังจากที่ฟานกับท็อทเดินไปแล้ว เหมยก็พูดขึ้นมาและเพราะอะไรบางอย่างทำให้เรา 3 คนพยักหน้าพร้อมกัน

            ปาวเริ่มหวั่นไหวกับฉันแล้วสินะ >/////<

            แต่...ตอนนี้เขาเกลียดฉันแล้ว เขามองฉันเป็นผู้หญิงไม่ดีจับปลาสองมือ ชอบปั่นหัวผู้ชายเล่นไปซะแล้ว แบบนี้ฉันจะมีหน้าไปหาเขาอีกได้ยังไง!!

 

            ฉันช่วยโปรดขนของขวัญกลับมาที่บ้านพร้อมกับสอดส่องปาวไปด้วย แต่ปาวยังไม่กลับมาเลย มาเสียเที่ยวหรอเนี่ย U_U

            “มองห้องพี่ฉันอยู่นั่นแหละเดี๋ยวของก็ตกแตกหรอก มานี่”  โปรดกวักมือเรียก ฉันก็เลยต้องเดินตามไป

            ยัยโปรดกูดูเหมือนฮอตไม่แพ้พี่ชายเลยนะ ของขวัญวันวาเลนไทน์ทั้งตุ๊กตา ช็อกโกแลตมาแบบจัดเต็ม ไม่รู้ว่าคนที่ให้ชอบยัยโปรดตรงไหน ขี้วีน เอาแต่ใจขนาดนี้

            “นี่! กำลังแอบนินทาฉันในใจใช่ไหม!”

            “เปล่าซะหน่อย”  ฉันตอบ ที่จริงอยากจะถามไปว่า รู้ได้ไง? มากกว่า =_=

            “ขอบใจนะที่ขนขึ้นมาช่วย”  โปรดบอก...แปลกมากที่โปรดพูดประโยคนี้ออกมาทั้งที่เมื่อก่อนใช้งานฉันอย่างกับอะไรดีแต่ก็ไม่เคยขอบใจฉันสักคำ

            “อืม”  ฉันรับคำอย่างงงๆ

            “เมื่อเช้า...ขอโทษด้วยที่พี่ฉันทำขวดโหลใส่ดาวของเธอแตก”  โปรดพูดต่อดูเหมือนยัยโปรดจะไม่ได้เสแสร้งพูดออกมา นั่นมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ที่อยู่ๆ โปรดก็เปลี่ยนไป

            “พี่เธอไม่ได้ทำหรอก ฉันทำมันหล่นเอง”

            “ถ้าพี่ฉันไม่พูดกับเธอแรงๆ เธอคงไม่ทำมันแตก...มันเป็นความผิดของพี่ฉันอยู่ดี”

            “ไม่หรอก...” 

            “เธอจะ...เลิกคบกับฉันไหม”  ในที่สุดฉันก็รู้เหตุผลที่โปรดเปลี่ยนไปเมื่อโปรดถามคำถามนี้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

            “ทำไมเธอคิดแบบนั้นล่ะ”

            “ก็...พี่ฉันปฏิเสธเธอไปแล้ว ฉันกลัวว่าเธอจะเลิกคบฉันไปด้วย”

            “บ้าหรอ ฉันจะเลิกคบกับเธอเพราะปาวได้ยังไง...เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนั่นแหละ”

            “จริงนะ ^O^”

            “จริง”

            “ขอบใจนะ”  โปรดโผเข้ามากอดฉันไว้แน่น ก่อนจะรีบผละออกเหมือนเพิ่งคิดอะไรขึ้นมาได้  “เธออยากรู้ไหมว่าพี่ฉันชอบเธอรึเปล่า”

            “เธอรู้หรอ *O*”  ฉันตาลุกวาวขึ้นมาทันที แต่...

            “เดี๋ยวๆ เธอมีแผนอะไรรึเปล่าเนี่ย”  ฉันหรี่ตามองโปรดอย่างไม่ไว้ใจ

            “โธ่! ก็ตอบแทนเพื่อนสุดที่รักไง...ว่าไง เธออยากรู้ไหม”

            “อยากสิถามได้ -///-”

            “งั้นตามฉันมา”  โปรดบอกพร้อมกับลากฉันออกมาจากห้องแล้วตรงมาที่ห้องปาว

            “เฮ้ยๆ เธอจะทำอะไรเนี่ย”  ฉันรั้งโปรดเอาไว้ก่อนที่ยัยนั่นจะเปิดเข้าไปในห้องนอนปาว

            “อ้าว เธออยากรู้ไม่ใช่หรอ”

            “แต่...มันไม่เสียมารยาทเกินไปหรอ” 

            “ไม่หรอกน่า มากับฉันรับรองพี่ปาวไม่โกรธ”  พูดจบนางก็ค่อยๆ หมุนลูกบิดประตูช้าๆ

            “ทำอะไรกันน่ะ!”  จู่ๆ ปาวก็มายืนอยู่ข้างหลังพวกเรา เขามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้แต่ที่รู้แน่ๆ คือสภาพตอนนี้มันเห็นได้ชัดว่ากำลังจะลักลอบเข้าห้องเขาอยู่ Y///Y

            “อ้าวพี่ปาว! มาเมื่อไหร่เนี่ย”  โปรดรีบหันไปยิ้มหวานให้ปาว

            “มาทันได้เห็นเธอทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าห้องพี่แล้วกัน จะทำอะไร”

            “ปะเปล่าๆ เค้าไม่ได้ทำอะไร เค้าแค่มาส่องดูเฉยๆ ว่าพี่กลับมารึยัง”  โปรดแก้ตัวเป็นพัลวัน โด่! ทีเมื่อกี๊บอกว่าปาวจะไม่โกรธ ทีนี้แก้ตัวใหญ่เลย =_=

            “กลับมาแล้วนี่ไง มีอะไรรึเปล่า”

            “ไม่มีอะไรแล้ว เข้าห้องเถอะ ^^”  โปรดแทบจะผายมือให้ปาวเข้าห้องเพราะตัวเองมีความผิด ก่อนจะหันมาถอนหายใจใส่หน้าฉันเฮือกใหญ่ แล้วจู่ๆ ชีก็ตาลุกวาวขึ้นมาอย่างน่ากลัว

            “พี่ปาวๆ”  โปรดวิ่งไปเกาะขอบประตูห้องเอาไว้ก่อนที่ปาวจะปิดประตู

            “อะไร”

            “ไปส่งโบอิ้งให้หน่อยสิ คนขับรถต้องไปส่งเค้าไปทำรายงานที่บ้านเพื่อนมันคนละทาง นะ...น้าาา...”  โปรดกอดแขนพี่ชายพร้อมกับทำหน้าออดอ้อน

            ปาวชำเลืองมามองฉันนิดหน่อยก่อนจะก้มลงมองน้องสาวตัวเองอีกครั้ง เขาดูท่าทางอึดอัดเหมือนรู้สึกไม่ดีมากๆ ที่ต้องไปส่งฉัน จริงสินะ...เขาเกลียดฉันแล้วนี่

            “ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับเองได้”  ฉันบอกแล้วเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน เสียงพูดคุยจากสองพี่น้องยังคงดังตามมาเบาๆ ก่อนที่ฝีเท้าหนักๆ ของใครบางคนวิ่งตามฉันออกมา

            “เดี๋ยว!”  เสียงของปาวดังอยู่ข้างหลัง ฉันหันกลับไปก็เจอปาวยืนอยู่ที่ประตูเข้าบ้าน

            “ว่าไง”  ฉันหันกลับไปหาปาว เขามองหน้าฉันนิดหน่อยก่อนจะเสตาไปมองด้านข้างแทน

            “รออยู่นี่แหละ เดี๋ยว...ฉันไปส่ง เข้าไปเอากุญแจรถก่อน”  ปาวบอกแล้วเดินกลับเข้าไป

            “ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้จริงๆ”  ฉันร้องบอกโดยไม่รอให้เขาเข้าไปในบ้านให้เหนื่อย

            “ไม่ได้หรอก...โปรดขอมา”  ปาวบอกแล้วเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่รอฟังเสียงคัดค้านจากฉันเลย

            ที่ทำแบบนี้เพราะโปรดสินะ…

            ถ้าเกิดนั่งรถไปกับปาวฉันต้องอึดอัดตายแน่ๆ แล้วเขาก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน งั้นจะไปด้วยกันให้ทรมานทำไม ฉันตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านเดินผ่านสวนหย่อมหน้าบ้านที่ทอดยาวออกมาจนถึงประตูเหล็กหนาหนักหน้าบ้าน

            พอเดินผ่านป้อมยามที่ประตูหน้าบ้านได้สักพักรถของปาวก็แล่นมาจอดเทียบข้างฟุตบาท ด้วยความเร็วของรถที่ปาวขับมาทำให้ฉันต้องถอยหลบเข้ามาในฟุตบาทอีกก้าวหนึ่งตามสัญชาตญาณ

            “ทำไมไม่รอล่ะ”  ปาวเดินลงมาจากรถทั้งที่ยังติดเครื่องยนต์ไว้อยู่

            “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องไปส่ง”

            “ขึ้นรถ”  ปาวบอกสั้นๆ แล้วขับข้อมือฉันไว้ ระหว่างนั้นเองแลมโบกินีสีแสบตาก็แล่นมาจอดใกล้กับรถปาว เหลืออีกไม่กี่นิ้วก็เกือบจะประสานงากันแล้ว

            “โบอิ้ง มีอะไรรึเปล่า”  พี่โบลิ่งลงมาจากรถแล้วเข้ามายืนแทรกกลางระหว่างฉันกับปาว ทำให้ข้อมือของฉันหลุดออกมาเป็นอิสระ

            “ไม่มีอะไรค่ะ”

            “งั้นหรอ”  พี่โบลิ่งมองปาวอย่างไม่ไว้ใจ  “ทำไมมาอยู่แถวนี้”

            “มาส่งเพื่อนน่ะค่ะ”  ฉันบอก

            “อ๋อ ลูกสาวเจ้าหนี้น่ะหรอ”  พี่โบลิ่งพูดเหมือนรู้เรื่องที่ฉันต้องคบกับโปรดเพื่อลดดอกเบี้ยแล้ว

            “พี่...รู้หรอ” 

            “ใช่พี่รู้ แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าผู้ชายคนนี้คือทายาทรุ่นที่สิบแห่งโอเชี่ยนคอป...ฉันเข้าใจถูกต้องใช่ไหมคะ”  ประโยคหลังพี่โบลิ่งพูดกับปาวอย่างเจาะจง

            “ครับ”  ปาวรับคำอย่างสุภาพแล้วทั้งคู่ก็มองหน้ากันนิ่ง เหมือนบรรยากาศกำลังเริ่มมาคุแต่ดีที่ยามที่อยู่ในป้อมสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติก็เลยเข้ามาถามสงครามเย็นจึงสงบลงได้ในที่สุด

            พี่โบลิ่งยัดฉันเข้าไปในรถแล้วเดินขึ้นมานั่งประจำที่คนขับด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นต่อเนื่องมาจากเมื่อครู่

            “สนิทกับสองพี่น้องนี่มากแค่ไหน”  พี่โบลิ่งถามเมื่อปิดประตูฝั่งของตัวเองแล้ว

            “ก็...ไม่มากหรอกค่ะ”  ฉันบอกเพราะฉันไม่รู้ว่าพี่โบลิ่งรู้เรื่องนี้มากน้อยขนาดไหนตอบแบบกลางๆ ไปก่อนแล้วกัน ว่าแต่...พี่จะรู้เรื่องที่ฉันชอบปาวไหนนะ =_=;

            “ไม่ต้องมาโกหกยัยน้องรัก จับมือถือแขนกันขนาดนั้นบอกว่าไม่สนิทหรอ”

            “เกิดเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยน่ะค่ะเขาเรียกโบแต่โบไม่ได้ยินเขาก็เรียกดึงไว้ ไม่มีอะไรหรอก”

            “เฮ้อ...ถึงจะยังไงก็เถอะ เธอรู้รึเปล่าว่าพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา พวกนี้เป็นมาเฟียนะ”  พี่โบลิ่งพยักพเยิดไปหาปาวที่กำลังเข้าเกียร์รถตัวเองอย่างอ้อยอิ่ง

            “เรื่องนั้นโบรู้ดี”

            “แล้วยังจะไปยุ่งกับพวกเขาทำไม ยอมเป็นเพื่อนกับมาเฟียอีกต่างหาก ถ้าเกิดคู่อริเขามายิงแล้วตัวเองโดนลูกหลงขึ้นมาจะทำยังไง!” 

            ประสบการณ์นั้นโบผ่านมาแล้วค่ะพี่โบลิ่ง =_=;

            “พ่อแม่คิดยังไงนะถึงยอมให้เธอมาทำอะไรแบบนี้”  พี่โบลิ่งสบถอย่างหัวเสียพร้อมกับกุมขมับตัวเอง

            “เพราะเขาเป็นมาเฟียนี่แหละโบถึงไม่กล้าขัด...โบทำไปเพื่อทุกคนนะคะ” 

            “งั้นพี่จะทำเพื่อเราบ้าง” 

            พี่โบลิ่งพูดจบก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปในบ้านปาวทันที โชคดีที่วันนี้คุณปริญญ์อยู่ที่บ้านด้วย ทำให้พี่โบลิ่งใช้หนี้ทั้งต้นและดอกกับคุณปริญญ์ด้วยตัวเอง

            “พวกเธอคิดดีแล้วหรอที่จะใช้หนี้ฉันวันนี้เลย ไปปรึกษากันก่อนไหมฉันไม่คิดดอกเบี้ยหรอก”  คุณปริญญ์ถามพร้อมกับมองกองเงินสด 22 ล้านกว่าๆ ด้วยแววตาไร้อารมณ์

            โปรดนั่งอยู่ข้างๆ คุณปริญญ์ เธอกำลังมองฉันตาละห้อย ส่วนปาวยืนดูเหตุการณ์อยู่สักพักแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน ฉันรู้สึกใจหายยังไงบอกไม่ถูก...ที่จริงก็ดีใจนะที่จะไม่เป็นหนี้แล้ว แต่พอคิดว่าจะไม่ได้ใกล้ชิดกับโปรดและปาวอีกมันรู้สึกหวิวๆ ขึ้นมา

            “คิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างปิดหนี้วันนี้เลยก็ดีแล้วนี่คะ จะได้ไม่เป็นหนี้ใครอีก เป็นหนี้แบบไม่มีดอกเบี้ยแบบนี้นานๆ เดี๋ยวเจ้าหนี้ขาดทุนแย่”  พี่โบลิ่งตอบแบบกวนๆ ตามประสาสาวมั่น ถึงจะมั่นขนาดไหนแต่เขาก็เป็นมาเฟียนะพี่...พี่เป็นคนย้ำกับฉันเองว่าพวกเขาน่ากลัว แล้วดูตัวเองสิ =_=

            “ฮึ! เธอคิดอย่างนั้นหรอ งั้นก็แล้วแต่พวกเธอแล้วกัน...แต่หลังจากที่เธอก้าวพ้นประตูนี้ออกไป ชีวิตของพวกเธออาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม เธอยังยืนยันว่าจะใช้หนี้วันนี้อยู่ไหม”  คุณปริญญ์ถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง สายตาของเขาดูห่วงใยพวกเราจนน่าแปลกใจ แต่พี่โบลิ่งอุตส่าห์ตั้งใจจะใช้หนี้ให้หมดวันนี้ก่อนเดินทางกลับฝรั่งเศสพรุ่งนี้ ฉันจึงไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะจะเสียบรรยากาศและเสียความตั้งใจของพี่โบลิ่งเปล่าๆ

            “ค่ะ ฉันยืนยัน”  พี่โบลิ่งตอบกลับไปอีกครั้ง น้ำเสียงก็ยังคงหนักแน่นเหมือนเดิม คุณปริญญ์พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะให้คุณภาสน์นำสัญญากู้ยืมเงินที่ทำไว้กับพ่อออกมา เมื่อจัดการกับเอกสารเรียบร้อยแล้วเราก็ออกมาจากบ้านโดยมีคุณภาสน์เดินออกมาส่งที่โรงรถ

            “หลังจากนี้ก็...โชคดีนะ”  คุณภาสน์บอกแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน ฉันเห็นโปรดแอบมองพวกเราลงมาจากด้านบนดูท่าทางเหมือนกำลังเสียใจมาก

            ครืดๆๆ

            “รับสิ พี่จะขึ้นไปรอบนรถ”  พี่โบลิ่งคงรู้ว่าต้องเป็นหนึ่งในสองพี่น้องโทรมาแน่ๆ ก็เลยเปิดโอกาสให้ฉันได้พูดกับพวกเขา ฉันกดรับสายก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองโปรดที่ยังเกาะอยู่ที่ขอบหน้าต่างโดยมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

 

*********************************************

มาแล้วจ้า

ฝากติดตามด้วยน้า

********************************************* 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา