เมย่า เจ้าสาวจำเป็นกับนายจอมโหด
-
เขียนโดย ealfamoon
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.07 น.
7 ตอน
2 วิจารณ์
10.15K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557 00.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เจ้าสาวจำยอม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพลัก ผัวะ อ๊อก!!! (เมย่าสีขาวถูกเมย่าสีดำฟาดหางจระเข้ ก่อนจะต่อยเข้าไปที่หน้าท้องจนเมย่าสีขาวจุกลงไปนอน)
ฟิ้วววว (เมย่าสีขาวใช้ท่าไม้ตาย ดึงความคิดอันดีงามของเด็กสาวกลับมา)
ตอนนี้เด็กสาวจึงมีความคิดที่ว่า...
เห้ย...มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ กลับมาเมย่า อย่าให้ความคิดอันชั่วร้ายครอบงำ...กลับมา...
ไม่ให้กลับโว้ย...(เมย่าสีดำเตะเมย่าสีขาวกระเด็นหายไป...)
ฉันพยายามต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย...แฮกๆ เหนื่อยวะการต่อสู้กับตัวเองเนี่ย...
และแล้วความคิดด้านชั่วร้ายของฉันก็ชนะ...ว๊ากกก ฮาๆๆ >//<
จนทำให้ฉันพูดออกไปว่า...
“จริงป๊ะ...งั้นตกลงเลย หล่อ ล้ำ แน่นะ...” ฉันพูดออกไปอย่างไม่อายปาก >//<
สามแม่ลูกเมื่อเห็นเด็กสาวรับบทลงโทษโดยไม่พูดอะไรมาก ก็หันไปมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายแบบที่ว่า เหอะๆ งานนี้ได้หลานกลับมาบ้านแน่ๆ...
“จริง...แต่เจ้าต้องไปจีบเหลนข้าเอาเองนะ” เมรินพูดต่อ
O,o’’
เอ้า...เห้ย...ไมเป็นงั้น...นี่หล่อนไม่ได้วางแผนเอาไว้ให้ฉันหรอย๊ะ...แบบเอาฉันไปเป็นเจ้าหญิงของเมืองสักเมือง แล้วก็มีเรื่องให้ต้องแต่งงานกันไรแบบนี้...
ฉันจะได้ไปถึงแต่งงานแล้วก็โซเดมาคอมกินตับกับหนุ่มหล่อคนนั้นแล้วก็กลับมา จะได้จบๆ
ไรฟระ...ยังงี้ก็ยิ่งลำบากเราเข้าไปอีก...
เฮ้ๆ...แต่เดี๋ยวก่อน!!!...แบบนี้มันก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกันไม่ใช่หรอ?... ไม่รู้จักกันมาก่อน ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเข้าไปหาแล้วก็รุกๆๆ โว้ว โรแมนติกเวอร์...>///<…
(แบบนี้มันไม่ใช่เจ้าสาวจำเป็นแล้วเฟ้ย แต่เป็นเจ้าสาวจำยอมพร้อมใจมากกว่ามั่งเนี่ย...!!!)
“ก็ได้ๆ ลงไปจีบเองก็ได้ แล้วไหนรูปขอดูรูปหน่อย...ว่าหล่อจริงเปล่า” ฉันทวงของสำคัญ ไม่มีรูปฉันก็ไม่รู้สิว่าต้องไปแต่งงานกับใคร...
“นี่เจ้าคะท่านพี่...” เมราส่งรูปถ่ายใบหนึ่งมาให้ฉัน
“อือ...หล่อจริงนะเนี่ย...แถมมีตาสีฟ้าเหมือนพวกเราด้วย ไมสิ...เป็นสีฟ้าผสมเทา มากกว่านะ”
ฉันจ้องมองรูปชายหนุ่มเจ้าของใบหน้ารูปไข่กับเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างไม่วางตา จมูกโด่งเป็นสันของเขาพร้อมทั้งริมฝีปากบางนั้นดูลงตัวกับใบหน้างามราวกับสวรรค์บรรจงสร้างสรรค์...คิ้วดกเข้มทอดยาวได้องศา แถมใต้คิ้วเข้มยังมีดวงตาอ่อนโยนสีฟ้าเทาล้อมรอบไปด้วยแพขนตายาวงอนอีก...หนวดเคราน้อยๆ ที่อยู่บนใบหน้านั้นแทนที่จะทำให้ชายหนุ่มดูแก่ลง...มันกลับทำให้เขาดูหล่อเข้มมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวแทน
โอ้ว...แม่เจ้า...หล่อ เลิศ ถูกใจเดี้ยนอย่างแรง..!!!
เมื่อฉันทอดมองต่ำลงไปก็พบว่า พ่อหนุ่มคนนี้ไม่ได้ใส่เสื้อ...>///< ฟินๆๆ (แต่ใส่กางเกงนะ 55+)
แล้วการที่หนุ่มหล่อคนนี้ไม่ใส่เสื้อก็ทำให้
ฉันเห็นกล้ามมัดโตๆ ของเขาเต็มๆ ทั้งหน้าอกและหน้าท้องก็เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ไร้ไขมัน
‘โหว...เป็นผู้ชายที่มีซิคเเพคสวยมาก’ ฉันอุทานในใจดังๆ อย่างที่ไม่ต้องกลัวใครจะมาได้ยิน >o<…ฟีโรโมนพุ่งเล๊ยยย... กร๊าสสสส...
สามสาวมองดูเมย่าที่ตอนนี้มองรูปถ่ายที่อยู่ในมืออย่างไม่ละสายตาและก็ไม่สนใจสิ่งรอบข้างราวกับหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะหันมากระซิบกันเบาๆ
“ท่านแม่เจ้าคะ แน่ใจนะว่าจะไม่บอกน้องเรื่องนั้นอะ” เมรินกระซิบถามผู้เป็นแม่อย่างกังวล
“นั่นสิเจ้าคะ ยิ่งซื่อๆ เรื่องแบบนี้อยู่ด้วย เฮ้อ...” ดูเหมือนเมราจะกังวลเรื่องเดียวกัน
“คิก...ไม่เป็นไรหรอกทั้งสองคน...เชื่อแม่สิ...” เทพเมอร์ริซ่าบอกกับลูกน้อยทั้งสองของตน ก่อนจะคิดในใจต่อไปว่าว่า
“ต่อให้เป็นธิดาของพระเจ้า...”
“ก็ไม่อาจหนีคำว่าพรมลิขิตได้หรอกนะเมย่า...^.^’”
“แล้วประวัติละ...เขาเป็นใคร ชื่ออะไร ทำอาชีพอะไร” คำถามของเมย่าเรียกเทพทั้งสามให้เลิกคุยกันแล้วหันไปมองทางต้นเสียงทันที
“ก็เป็นเหลนข้านะสิ...โอ้ย...เออๆ ตอบดีๆแล้ว”
ฉันทนไม่ไหวกับคำตอบกวนเบื้องล่างนั้นก็เลยเตะก้นเจ้าพี่สาวตัวแสบไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้
“เด็กคนนั้นชื่อว่า เรดิช ส่วนอาชีพละก็ไม่มีหรอก เพราะเขาเป็นพระราชาของอาณาจักรเมรินเวอร์ แล้วก็ยังเป็นราชาที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกด้วย” ท่านพี่เมรินอธิบายทีละคำถามอย่างช้าๆ ให้ฉันเข้าใจ
“พูดง่ายๆ ก็คือเป็นราชาของโลกเมอร์ริซ่านั้นละ” ท่านแม่อธิบายขยายความให้
“เห้ย...เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าเดี๋ยวนี้โลกเมอร์ริซ่าของเรามีราชาของโลกด้วย O,,,o”
ฉันถามออกไปอย่างตกใจ ไม่ให้ตกใจได้ไงวะ ไปเที่ยวแค่ไม่กี่ปี กลับมาอีกที นอกจากเทพเมอร์ริซ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเมอร์ริซ่า ยังมีมนุษย์อีกคนที่ตอนนี้มาเป็นราชาของโลกเมอร์ริซ่าด้วย
ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ
“คิก... ก็เป็นถึงผู้สืบสายเลือดของเทพเมอร์ริซ่าผู้ยิ่งใหญ่นี่...การที่เด็กคนนี้จะเป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ไม่แปลกเท่าไรหรอก” ท่านพี่เมรินตอบฉันกลับมา พลางเดินเข้ามาใกล้แล้วตบไหล่ฉันเบาๆ เป็นนัยว่า ‘ทำใจหน่อยนะที่จะต้องไปจีบคนใหญ่คนโต’ อะไรแบบนี้
เหอะ...คนใหญ่คนโตบ้าบออะไร สำหรับฉันชายหนุ่มคนนั้นก็ยังเป็นเพียงเด็กเล็กๆ เท่านั้นละ ถ้าเทียบตามอายุละก็นะ ต่อให้มีสายเลือดของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับเธอ
แต่กาลเวลาก็ผ่านมาหลายพันปีแล้ว สายเลือดอันเข้มข้นและทรงพลังของเทพ ยังไงมันก็ต้องเจือจางจนแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วแหละตอนนี้
ถึงจะเป็นอย่างนั้น...แต่ก็ยังน่าชื่นชมนิดๆ แหะ ที่ยังสามารถต่อสู้และฟันฝ่าอุปสรรคจนสามารถเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้... หึ...
ไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวแล้วสิ แบบนี้มันเก่งด้วย >///< อยากเจอหน้าเร็วๆจังเลย...
แฮกๆ ฟีโรโมนพุ่งอีกรอบบบ!!! >o< (เห้ย...นางเอกเริ่มบ้าผู้ชายแว้วว!)
“ข้าอยากไปเจอเด็กคนนั้นเร็วๆ จนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย งั้นเรื่องอื่นเราค่อยคุยกันวันหลังนะ ข้าไปละ”
พูดจบเด็กสาวก็ใช้เวทย์มนต์เคลื่อนย้ายร่างของตนลงไปยังโลกเมอร์ริซ่าทันที โดยที่ไม่มีใครห้ามเจ้าหล่อนได้ทันสักคน
“เห้ย...เดี๋ยวเมย่า!!! ข้ายังไม่ได้อธิบายเรื่องสำคัญให้เจ้าฟังเลย เห้ยยยย...” เมรินร้องตะโกนอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ ร่างของเทพผู้น้องก็หายวับไปต่อหน้า
“กรรมละ...นี่เจ้าน้องบ้ามันลืมไปแล้วหรือยังไงว่าตัวเองน่ะ ลงไปที่โลกเมอร์ริซ่าครั้งสุดท้ายเมื่อ 5,000 ปี ก่อน!!! ”
เมรินเอามือก่ายหน้าผากอย่างเครียดๆ ก็เรื่องนี้แหละที่พวกเธอคุยกันว่าจะบอกเจ้าน้องตัวแสบดีไหม ถึงท่านแม่จะบอกว่าไม่ต้องบอก แต่ความจริงเธอกะไว้ว่าจะแอบบอกไปสักหน่อย แล้วนี่ดูมันทำ เล่นหนีไปซะก่อนเฉยเลย (- -*)
“แล้วทีนี้จะรู้ไม่ละว่า เมืองเมรินเวอร์อยู่ที่ไหน...แม้แต่เมืองเจ้ายังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แล้วเจ้าจะไปหาพ่อหนุ่มคนนั้นเจอได้ยังไงฟระ ยัยน้องบ้า!!!”
อย่าว่าแต่เมืองเลย ของทุกอย่างหรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตบนโลกเมอร์ริซ่าก็เปลี่ยนไปมากจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมของโลกเมื่อห้าพันปีก่อนเลย เพราะทุกสิ่งมีวิวัฒนาการของตัวมันเองอยู่ จึงไม่แปลกเลยที่โลกเมอร์ริซ่าในตอนนี้จะเปลี่ยนไปจากเมื่อ 5,000 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง
“เอายังไงดีท่านแม่ ปล่อยไปแบบนี้จะดีหรอ ข้าชักจะเป็นห่วงน้องขึ้นมานิดๆ แล้วนะ” เมรินถามผู้เป็นแม่อย่างกังวล
“ดีแล้วจ้ะ แบบนี้แหละดีแล้ว ไม่ต้องห่วงน้องหรอกเมริน เจ้าลืมไปแล้วหรอ ว่าหนึ่งในฉายาที่เหล่าพระเจ้าจากต่างโลกมอบให้น้องของเจ้านั้นคืออะไร” เทพเมอร์ริซ่ายิ้มอ่อนให้เมริน
“นั้นสิท่านพี่เมริน น้องก็คิดเหมือนท่านแม่นะ อีกอย่าง...ท่านพี่เมย่าน่ะเป็นถึงเทพเจ้าแห่งการเดินทาง คงไม่เป็นอะไรง่ายๆ บนโลกเมอร์ริซ่าหรอก” เมราบอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิอย่างปิดไม่มิด...
“นั้นสิเนอะ...”
เมรินเมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาวแสนน่ารักของตนก็สบายใจขึ้นและเลิกเป็นห่วงน้องสาวคนกลางที่ตอนนี้ต้องไปเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่พวกเธอมอบให้อยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก...
(ถ้าเป็นเมื่อ 5,000 ก่อนละก็รู้ทุกซอกทุกมุม แต่ตอนนี้หรอ...เหอะ...อย่าให้พูดเลย)
ช่วยไม่ได้...ก็ไม่ยอมฟังคนเค้าอธิบายให้จบเองนี่...
แต่ยังไงก็...ขอให้โชคดียัยตัวแสบของพี่ ^.^’’
“เอาละจ้ะ ต่อจากนี้ไปพวกเราก็มารอดูกันดีกว่า ว่าเทพเจ้าแห่งการเดินทางจะเอาตัวรอดจากโลกเมอร์ริซ่าแล้วไปแต่งงานกับพ่อหนุ่มสุดหล่อตามบทลงโทษของพวกเราได้สำเร็จหรือเปล่า...คิก... ^o^”
เทพเมอร์ริซ่าพูดก่อนจะโอบไหล่ลูกน้อยทั้งสองให้ไปยังสวนดอกไม้สวรรค์ที่อยู่ไม่ไกลจากวิมารเทพของตน แล้วทั้งสามก็นั่งจิบชารสเลิศกันอย่างสบายใจเฉิบ โดยที่ไม่สนใจคนที่ต้องตกระกำลำบากอยู่ที่โลกเมอร์ริซ่าสักนิด...
__________________________________________________________จบไปอีกตอนคะ (ขอโทษด้วยคะถ้ามีคำผิด)
ฟิ้วววว (เมย่าสีขาวใช้ท่าไม้ตาย ดึงความคิดอันดีงามของเด็กสาวกลับมา)
ตอนนี้เด็กสาวจึงมีความคิดที่ว่า...
เห้ย...มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ กลับมาเมย่า อย่าให้ความคิดอันชั่วร้ายครอบงำ...กลับมา...
ไม่ให้กลับโว้ย...(เมย่าสีดำเตะเมย่าสีขาวกระเด็นหายไป...)
ฉันพยายามต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย...แฮกๆ เหนื่อยวะการต่อสู้กับตัวเองเนี่ย...
และแล้วความคิดด้านชั่วร้ายของฉันก็ชนะ...ว๊ากกก ฮาๆๆ >//<
จนทำให้ฉันพูดออกไปว่า...
“จริงป๊ะ...งั้นตกลงเลย หล่อ ล้ำ แน่นะ...” ฉันพูดออกไปอย่างไม่อายปาก >//<
สามแม่ลูกเมื่อเห็นเด็กสาวรับบทลงโทษโดยไม่พูดอะไรมาก ก็หันไปมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายแบบที่ว่า เหอะๆ งานนี้ได้หลานกลับมาบ้านแน่ๆ...
“จริง...แต่เจ้าต้องไปจีบเหลนข้าเอาเองนะ” เมรินพูดต่อ
O,o’’
เอ้า...เห้ย...ไมเป็นงั้น...นี่หล่อนไม่ได้วางแผนเอาไว้ให้ฉันหรอย๊ะ...แบบเอาฉันไปเป็นเจ้าหญิงของเมืองสักเมือง แล้วก็มีเรื่องให้ต้องแต่งงานกันไรแบบนี้...
ฉันจะได้ไปถึงแต่งงานแล้วก็โซเดมาคอมกินตับกับหนุ่มหล่อคนนั้นแล้วก็กลับมา จะได้จบๆ
ไรฟระ...ยังงี้ก็ยิ่งลำบากเราเข้าไปอีก...
เฮ้ๆ...แต่เดี๋ยวก่อน!!!...แบบนี้มันก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกันไม่ใช่หรอ?... ไม่รู้จักกันมาก่อน ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเข้าไปหาแล้วก็รุกๆๆ โว้ว โรแมนติกเวอร์...>///<…
(แบบนี้มันไม่ใช่เจ้าสาวจำเป็นแล้วเฟ้ย แต่เป็นเจ้าสาวจำยอมพร้อมใจมากกว่ามั่งเนี่ย...!!!)
“ก็ได้ๆ ลงไปจีบเองก็ได้ แล้วไหนรูปขอดูรูปหน่อย...ว่าหล่อจริงเปล่า” ฉันทวงของสำคัญ ไม่มีรูปฉันก็ไม่รู้สิว่าต้องไปแต่งงานกับใคร...
“นี่เจ้าคะท่านพี่...” เมราส่งรูปถ่ายใบหนึ่งมาให้ฉัน
“อือ...หล่อจริงนะเนี่ย...แถมมีตาสีฟ้าเหมือนพวกเราด้วย ไมสิ...เป็นสีฟ้าผสมเทา มากกว่านะ”
ฉันจ้องมองรูปชายหนุ่มเจ้าของใบหน้ารูปไข่กับเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างไม่วางตา จมูกโด่งเป็นสันของเขาพร้อมทั้งริมฝีปากบางนั้นดูลงตัวกับใบหน้างามราวกับสวรรค์บรรจงสร้างสรรค์...คิ้วดกเข้มทอดยาวได้องศา แถมใต้คิ้วเข้มยังมีดวงตาอ่อนโยนสีฟ้าเทาล้อมรอบไปด้วยแพขนตายาวงอนอีก...หนวดเคราน้อยๆ ที่อยู่บนใบหน้านั้นแทนที่จะทำให้ชายหนุ่มดูแก่ลง...มันกลับทำให้เขาดูหล่อเข้มมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวแทน
โอ้ว...แม่เจ้า...หล่อ เลิศ ถูกใจเดี้ยนอย่างแรง..!!!
เมื่อฉันทอดมองต่ำลงไปก็พบว่า พ่อหนุ่มคนนี้ไม่ได้ใส่เสื้อ...>///< ฟินๆๆ (แต่ใส่กางเกงนะ 55+)
แล้วการที่หนุ่มหล่อคนนี้ไม่ใส่เสื้อก็ทำให้
ฉันเห็นกล้ามมัดโตๆ ของเขาเต็มๆ ทั้งหน้าอกและหน้าท้องก็เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ไร้ไขมัน
‘โหว...เป็นผู้ชายที่มีซิคเเพคสวยมาก’ ฉันอุทานในใจดังๆ อย่างที่ไม่ต้องกลัวใครจะมาได้ยิน >o<…ฟีโรโมนพุ่งเล๊ยยย... กร๊าสสสส...
สามสาวมองดูเมย่าที่ตอนนี้มองรูปถ่ายที่อยู่ในมืออย่างไม่ละสายตาและก็ไม่สนใจสิ่งรอบข้างราวกับหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะหันมากระซิบกันเบาๆ
“ท่านแม่เจ้าคะ แน่ใจนะว่าจะไม่บอกน้องเรื่องนั้นอะ” เมรินกระซิบถามผู้เป็นแม่อย่างกังวล
“นั่นสิเจ้าคะ ยิ่งซื่อๆ เรื่องแบบนี้อยู่ด้วย เฮ้อ...” ดูเหมือนเมราจะกังวลเรื่องเดียวกัน
“คิก...ไม่เป็นไรหรอกทั้งสองคน...เชื่อแม่สิ...” เทพเมอร์ริซ่าบอกกับลูกน้อยทั้งสองของตน ก่อนจะคิดในใจต่อไปว่าว่า
“ต่อให้เป็นธิดาของพระเจ้า...”
“ก็ไม่อาจหนีคำว่าพรมลิขิตได้หรอกนะเมย่า...^.^’”
“แล้วประวัติละ...เขาเป็นใคร ชื่ออะไร ทำอาชีพอะไร” คำถามของเมย่าเรียกเทพทั้งสามให้เลิกคุยกันแล้วหันไปมองทางต้นเสียงทันที
“ก็เป็นเหลนข้านะสิ...โอ้ย...เออๆ ตอบดีๆแล้ว”
ฉันทนไม่ไหวกับคำตอบกวนเบื้องล่างนั้นก็เลยเตะก้นเจ้าพี่สาวตัวแสบไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้
“เด็กคนนั้นชื่อว่า เรดิช ส่วนอาชีพละก็ไม่มีหรอก เพราะเขาเป็นพระราชาของอาณาจักรเมรินเวอร์ แล้วก็ยังเป็นราชาที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกด้วย” ท่านพี่เมรินอธิบายทีละคำถามอย่างช้าๆ ให้ฉันเข้าใจ
“พูดง่ายๆ ก็คือเป็นราชาของโลกเมอร์ริซ่านั้นละ” ท่านแม่อธิบายขยายความให้
“เห้ย...เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าเดี๋ยวนี้โลกเมอร์ริซ่าของเรามีราชาของโลกด้วย O,,,o”
ฉันถามออกไปอย่างตกใจ ไม่ให้ตกใจได้ไงวะ ไปเที่ยวแค่ไม่กี่ปี กลับมาอีกที นอกจากเทพเมอร์ริซ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเมอร์ริซ่า ยังมีมนุษย์อีกคนที่ตอนนี้มาเป็นราชาของโลกเมอร์ริซ่าด้วย
ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ
“คิก... ก็เป็นถึงผู้สืบสายเลือดของเทพเมอร์ริซ่าผู้ยิ่งใหญ่นี่...การที่เด็กคนนี้จะเป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ไม่แปลกเท่าไรหรอก” ท่านพี่เมรินตอบฉันกลับมา พลางเดินเข้ามาใกล้แล้วตบไหล่ฉันเบาๆ เป็นนัยว่า ‘ทำใจหน่อยนะที่จะต้องไปจีบคนใหญ่คนโต’ อะไรแบบนี้
เหอะ...คนใหญ่คนโตบ้าบออะไร สำหรับฉันชายหนุ่มคนนั้นก็ยังเป็นเพียงเด็กเล็กๆ เท่านั้นละ ถ้าเทียบตามอายุละก็นะ ต่อให้มีสายเลือดของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับเธอ
แต่กาลเวลาก็ผ่านมาหลายพันปีแล้ว สายเลือดอันเข้มข้นและทรงพลังของเทพ ยังไงมันก็ต้องเจือจางจนแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วแหละตอนนี้
ถึงจะเป็นอย่างนั้น...แต่ก็ยังน่าชื่นชมนิดๆ แหะ ที่ยังสามารถต่อสู้และฟันฝ่าอุปสรรคจนสามารถเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้... หึ...
ไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวแล้วสิ แบบนี้มันเก่งด้วย >///< อยากเจอหน้าเร็วๆจังเลย...
แฮกๆ ฟีโรโมนพุ่งอีกรอบบบ!!! >o< (เห้ย...นางเอกเริ่มบ้าผู้ชายแว้วว!)
“ข้าอยากไปเจอเด็กคนนั้นเร็วๆ จนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย งั้นเรื่องอื่นเราค่อยคุยกันวันหลังนะ ข้าไปละ”
พูดจบเด็กสาวก็ใช้เวทย์มนต์เคลื่อนย้ายร่างของตนลงไปยังโลกเมอร์ริซ่าทันที โดยที่ไม่มีใครห้ามเจ้าหล่อนได้ทันสักคน
“เห้ย...เดี๋ยวเมย่า!!! ข้ายังไม่ได้อธิบายเรื่องสำคัญให้เจ้าฟังเลย เห้ยยยย...” เมรินร้องตะโกนอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ ร่างของเทพผู้น้องก็หายวับไปต่อหน้า
“กรรมละ...นี่เจ้าน้องบ้ามันลืมไปแล้วหรือยังไงว่าตัวเองน่ะ ลงไปที่โลกเมอร์ริซ่าครั้งสุดท้ายเมื่อ 5,000 ปี ก่อน!!! ”
เมรินเอามือก่ายหน้าผากอย่างเครียดๆ ก็เรื่องนี้แหละที่พวกเธอคุยกันว่าจะบอกเจ้าน้องตัวแสบดีไหม ถึงท่านแม่จะบอกว่าไม่ต้องบอก แต่ความจริงเธอกะไว้ว่าจะแอบบอกไปสักหน่อย แล้วนี่ดูมันทำ เล่นหนีไปซะก่อนเฉยเลย (- -*)
“แล้วทีนี้จะรู้ไม่ละว่า เมืองเมรินเวอร์อยู่ที่ไหน...แม้แต่เมืองเจ้ายังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แล้วเจ้าจะไปหาพ่อหนุ่มคนนั้นเจอได้ยังไงฟระ ยัยน้องบ้า!!!”
อย่าว่าแต่เมืองเลย ของทุกอย่างหรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตบนโลกเมอร์ริซ่าก็เปลี่ยนไปมากจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมของโลกเมื่อห้าพันปีก่อนเลย เพราะทุกสิ่งมีวิวัฒนาการของตัวมันเองอยู่ จึงไม่แปลกเลยที่โลกเมอร์ริซ่าในตอนนี้จะเปลี่ยนไปจากเมื่อ 5,000 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง
“เอายังไงดีท่านแม่ ปล่อยไปแบบนี้จะดีหรอ ข้าชักจะเป็นห่วงน้องขึ้นมานิดๆ แล้วนะ” เมรินถามผู้เป็นแม่อย่างกังวล
“ดีแล้วจ้ะ แบบนี้แหละดีแล้ว ไม่ต้องห่วงน้องหรอกเมริน เจ้าลืมไปแล้วหรอ ว่าหนึ่งในฉายาที่เหล่าพระเจ้าจากต่างโลกมอบให้น้องของเจ้านั้นคืออะไร” เทพเมอร์ริซ่ายิ้มอ่อนให้เมริน
“นั้นสิท่านพี่เมริน น้องก็คิดเหมือนท่านแม่นะ อีกอย่าง...ท่านพี่เมย่าน่ะเป็นถึงเทพเจ้าแห่งการเดินทาง คงไม่เป็นอะไรง่ายๆ บนโลกเมอร์ริซ่าหรอก” เมราบอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิอย่างปิดไม่มิด...
“นั้นสิเนอะ...”
เมรินเมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาวแสนน่ารักของตนก็สบายใจขึ้นและเลิกเป็นห่วงน้องสาวคนกลางที่ตอนนี้ต้องไปเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่พวกเธอมอบให้อยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก...
(ถ้าเป็นเมื่อ 5,000 ก่อนละก็รู้ทุกซอกทุกมุม แต่ตอนนี้หรอ...เหอะ...อย่าให้พูดเลย)
ช่วยไม่ได้...ก็ไม่ยอมฟังคนเค้าอธิบายให้จบเองนี่...
แต่ยังไงก็...ขอให้โชคดียัยตัวแสบของพี่ ^.^’’
“เอาละจ้ะ ต่อจากนี้ไปพวกเราก็มารอดูกันดีกว่า ว่าเทพเจ้าแห่งการเดินทางจะเอาตัวรอดจากโลกเมอร์ริซ่าแล้วไปแต่งงานกับพ่อหนุ่มสุดหล่อตามบทลงโทษของพวกเราได้สำเร็จหรือเปล่า...คิก... ^o^”
เทพเมอร์ริซ่าพูดก่อนจะโอบไหล่ลูกน้อยทั้งสองให้ไปยังสวนดอกไม้สวรรค์ที่อยู่ไม่ไกลจากวิมารเทพของตน แล้วทั้งสามก็นั่งจิบชารสเลิศกันอย่างสบายใจเฉิบ โดยที่ไม่สนใจคนที่ต้องตกระกำลำบากอยู่ที่โลกเมอร์ริซ่าสักนิด...
__________________________________________________________จบไปอีกตอนคะ (ขอโทษด้วยคะถ้ามีคำผิด)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ