เมย่า เจ้าสาวจำเป็นกับนายจอมโหด

-

เขียนโดย ealfamoon

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.07 น.

  7 ตอน
  2 วิจารณ์
  10.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557 00.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) เจ้าสาวจำยอม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

พลัก  ผัวะ  อ๊อก!!!  (เมย่าสีขาวถูกเมย่าสีดำฟาดหางจระเข้  ก่อนจะต่อยเข้าไปที่หน้าท้องจนเมย่าสีขาวจุกลงไปนอน)

 

ฟิ้วววว  (เมย่าสีขาวใช้ท่าไม้ตาย  ดึงความคิดอันดีงามของเด็กสาวกลับมา)

 

 

ตอนนี้เด็กสาวจึงมีความคิดที่ว่า...

 

เห้ย...มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ  กลับมาเมย่า  อย่าให้ความคิดอันชั่วร้ายครอบงำ...กลับมา...

 

 

ไม่ให้กลับโว้ย...(เมย่าสีดำเตะเมย่าสีขาวกระเด็นหายไป...)

 

ฉันพยายามต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย...แฮกๆ เหนื่อยวะการต่อสู้กับตัวเองเนี่ย... 

และแล้วความคิดด้านชั่วร้ายของฉันก็ชนะ...ว๊ากกก  ฮาๆๆ  >//<

 

 

จนทำให้ฉันพูดออกไปว่า...

 

 

“จริงป๊ะ...งั้นตกลงเลย  หล่อ  ล้ำ  แน่นะ...” ฉันพูดออกไปอย่างไม่อายปาก  >//<

 

สามแม่ลูกเมื่อเห็นเด็กสาวรับบทลงโทษโดยไม่พูดอะไรมาก  ก็หันไปมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายแบบที่ว่า  เหอะๆ  งานนี้ได้หลานกลับมาบ้านแน่ๆ...

 

 

“จริง...แต่เจ้าต้องไปจีบเหลนข้าเอาเองนะ”  เมรินพูดต่อ

 

O,o’’ 

 

เอ้า...เห้ย...ไมเป็นงั้น...นี่หล่อนไม่ได้วางแผนเอาไว้ให้ฉันหรอย๊ะ...แบบเอาฉันไปเป็นเจ้าหญิงของเมืองสักเมือง  แล้วก็มีเรื่องให้ต้องแต่งงานกันไรแบบนี้...

ฉันจะได้ไปถึงแต่งงานแล้วก็โซเดมาคอมกินตับกับหนุ่มหล่อคนนั้นแล้วก็กลับมา  จะได้จบๆ 

 

 

ไรฟระ...ยังงี้ก็ยิ่งลำบากเราเข้าไปอีก... 

 

 

 

เฮ้ๆ...แต่เดี๋ยวก่อน!!!...แบบนี้มันก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกันไม่ใช่หรอ?...  ไม่รู้จักกันมาก่อน  ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเข้าไปหาแล้วก็รุกๆๆ    โว้ว  โรแมนติกเวอร์...>///<…  

 

(แบบนี้มันไม่ใช่เจ้าสาวจำเป็นแล้วเฟ้ย  แต่เป็นเจ้าสาวจำยอมพร้อมใจมากกว่ามั่งเนี่ย...!!!)

 

 

“ก็ได้ๆ  ลงไปจีบเองก็ได้  แล้วไหนรูปขอดูรูปหน่อย...ว่าหล่อจริงเปล่า”  ฉันทวงของสำคัญ  ไม่มีรูปฉันก็ไม่รู้สิว่าต้องไปแต่งงานกับใคร...

 

“นี่เจ้าคะท่านพี่...”  เมราส่งรูปถ่ายใบหนึ่งมาให้ฉัน

 

“อือ...หล่อจริงนะเนี่ย...แถมมีตาสีฟ้าเหมือนพวกเราด้วย  ไมสิ...เป็นสีฟ้าผสมเทา มากกว่านะ” 

 

ฉันจ้องมองรูปชายหนุ่มเจ้าของใบหน้ารูปไข่กับเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างไม่วางตา  จมูกโด่งเป็นสันของเขาพร้อมทั้งริมฝีปากบางนั้นดูลงตัวกับใบหน้างามราวกับสวรรค์บรรจงสร้างสรรค์...คิ้วดกเข้มทอดยาวได้องศา  แถมใต้คิ้วเข้มยังมีดวงตาอ่อนโยนสีฟ้าเทาล้อมรอบไปด้วยแพขนตายาวงอนอีก...หนวดเคราน้อยๆ  ที่อยู่บนใบหน้านั้นแทนที่จะทำให้ชายหนุ่มดูแก่ลง...มันกลับทำให้เขาดูหล่อเข้มมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวแทน 

 

โอ้ว...แม่เจ้า...หล่อ  เลิศ  ถูกใจเดี้ยนอย่างแรง..!!!

 

เมื่อฉันทอดมองต่ำลงไปก็พบว่า  พ่อหนุ่มคนนี้ไม่ได้ใส่เสื้อ...>///<  ฟินๆๆ  (แต่ใส่กางเกงนะ 55+)

แล้วการที่หนุ่มหล่อคนนี้ไม่ใส่เสื้อก็ทำให้ 

ฉันเห็นกล้ามมัดโตๆ ของเขาเต็มๆ  ทั้งหน้าอกและหน้าท้องก็เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ไร้ไขมัน 

‘โหว...เป็นผู้ชายที่มีซิคเเพคสวยมาก’  ฉันอุทานในใจดังๆ  อย่างที่ไม่ต้องกลัวใครจะมาได้ยิน  >o<…ฟีโรโมนพุ่งเล๊ยยย...  กร๊าสสสส...

 

 

สามสาวมองดูเมย่าที่ตอนนี้มองรูปถ่ายที่อยู่ในมืออย่างไม่ละสายตาและก็ไม่สนใจสิ่งรอบข้างราวกับหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว  ก่อนจะหันมากระซิบกันเบาๆ

 

“ท่านแม่เจ้าคะ  แน่ใจนะว่าจะไม่บอกน้องเรื่องนั้นอะ”  เมรินกระซิบถามผู้เป็นแม่อย่างกังวล

 

“นั่นสิเจ้าคะ  ยิ่งซื่อๆ  เรื่องแบบนี้อยู่ด้วย  เฮ้อ...”  ดูเหมือนเมราจะกังวลเรื่องเดียวกัน

 

“คิก...ไม่เป็นไรหรอกทั้งสองคน...เชื่อแม่สิ...”  เทพเมอร์ริซ่าบอกกับลูกน้อยทั้งสองของตน  ก่อนจะคิดในใจต่อไปว่าว่า

 

“ต่อให้เป็นธิดาของพระเจ้า...”

 

“ก็ไม่อาจหนีคำว่าพรมลิขิตได้หรอกนะเมย่า...^.^’”

 

 

“แล้วประวัติละ...เขาเป็นใคร  ชื่ออะไร  ทำอาชีพอะไร”  คำถามของเมย่าเรียกเทพทั้งสามให้เลิกคุยกันแล้วหันไปมองทางต้นเสียงทันที

 

 

“ก็เป็นเหลนข้านะสิ...โอ้ย...เออๆ  ตอบดีๆแล้ว” 

ฉันทนไม่ไหวกับคำตอบกวนเบื้องล่างนั้นก็เลยเตะก้นเจ้าพี่สาวตัวแสบไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้

 

 

“เด็กคนนั้นชื่อว่า  เรดิช  ส่วนอาชีพละก็ไม่มีหรอก  เพราะเขาเป็นพระราชาของอาณาจักรเมรินเวอร์  แล้วก็ยังเป็นราชาที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกด้วย”  ท่านพี่เมรินอธิบายทีละคำถามอย่างช้าๆ  ให้ฉันเข้าใจ

 

“พูดง่ายๆ  ก็คือเป็นราชาของโลกเมอร์ริซ่านั้นละ” ท่านแม่อธิบายขยายความให้

 

“เห้ย...เพิ่งรู้นะเนี่ย  ว่าเดี๋ยวนี้โลกเมอร์ริซ่าของเรามีราชาของโลกด้วย  O,,,o” 

ฉันถามออกไปอย่างตกใจ  ไม่ให้ตกใจได้ไงวะ  ไปเที่ยวแค่ไม่กี่ปี  กลับมาอีกที  นอกจากเทพเมอร์ริซ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเมอร์ริซ่า  ยังมีมนุษย์อีกคนที่ตอนนี้มาเป็นราชาของโลกเมอร์ริซ่าด้วย

ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ

 

 

“คิก... ก็เป็นถึงผู้สืบสายเลือดของเทพเมอร์ริซ่าผู้ยิ่งใหญ่นี่...การที่เด็กคนนี้จะเป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ไม่แปลกเท่าไรหรอก”  ท่านพี่เมรินตอบฉันกลับมา  พลางเดินเข้ามาใกล้แล้วตบไหล่ฉันเบาๆ  เป็นนัยว่า  ‘ทำใจหน่อยนะที่จะต้องไปจีบคนใหญ่คนโต’  อะไรแบบนี้ 

 

 

เหอะ...คนใหญ่คนโตบ้าบออะไร  สำหรับฉันชายหนุ่มคนนั้นก็ยังเป็นเพียงเด็กเล็กๆ เท่านั้นละ  ถ้าเทียบตามอายุละก็นะ  ต่อให้มีสายเลือดของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับเธอ 

แต่กาลเวลาก็ผ่านมาหลายพันปีแล้ว  สายเลือดอันเข้มข้นและทรงพลังของเทพ  ยังไงมันก็ต้องเจือจางจนแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วแหละตอนนี้ 

 

 

ถึงจะเป็นอย่างนั้น...แต่ก็ยังน่าชื่นชมนิดๆ แหะ  ที่ยังสามารถต่อสู้และฟันฝ่าอุปสรรคจนสามารถเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้...  หึ...

 

ไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวแล้วสิ  แบบนี้มันเก่งด้วย  >///<  อยากเจอหน้าเร็วๆจังเลย... 

 

แฮกๆ  ฟีโรโมนพุ่งอีกรอบบบ!!!   >o<   (เห้ย...นางเอกเริ่มบ้าผู้ชายแว้วว!)

 

 

“ข้าอยากไปเจอเด็กคนนั้นเร็วๆ จนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย  งั้นเรื่องอื่นเราค่อยคุยกันวันหลังนะ  ข้าไปละ” 

พูดจบเด็กสาวก็ใช้เวทย์มนต์เคลื่อนย้ายร่างของตนลงไปยังโลกเมอร์ริซ่าทันที  โดยที่ไม่มีใครห้ามเจ้าหล่อนได้ทันสักคน

 

 

“เห้ย...เดี๋ยวเมย่า!!!  ข้ายังไม่ได้อธิบายเรื่องสำคัญให้เจ้าฟังเลย  เห้ยยยย...”  เมรินร้องตะโกนอย่างตกใจ  เมื่ออยู่ๆ  ร่างของเทพผู้น้องก็หายวับไปต่อหน้า 

 

“กรรมละ...นี่เจ้าน้องบ้ามันลืมไปแล้วหรือยังไงว่าตัวเองน่ะ  ลงไปที่โลกเมอร์ริซ่าครั้งสุดท้ายเมื่อ  5,000  ปี ก่อน!!! ” 

เมรินเอามือก่ายหน้าผากอย่างเครียดๆ  ก็เรื่องนี้แหละที่พวกเธอคุยกันว่าจะบอกเจ้าน้องตัวแสบดีไหม  ถึงท่านแม่จะบอกว่าไม่ต้องบอก  แต่ความจริงเธอกะไว้ว่าจะแอบบอกไปสักหน่อย  แล้วนี่ดูมันทำ  เล่นหนีไปซะก่อนเฉยเลย  (- -*)

 

“แล้วทีนี้จะรู้ไม่ละว่า  เมืองเมรินเวอร์อยู่ที่ไหน...แม้แต่เมืองเจ้ายังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน  แล้วเจ้าจะไปหาพ่อหนุ่มคนนั้นเจอได้ยังไงฟระ  ยัยน้องบ้า!!!” 

 

อย่าว่าแต่เมืองเลย  ของทุกอย่างหรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตบนโลกเมอร์ริซ่าก็เปลี่ยนไปมากจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมของโลกเมื่อห้าพันปีก่อนเลย  เพราะทุกสิ่งมีวิวัฒนาการของตัวมันเองอยู่  จึงไม่แปลกเลยที่โลกเมอร์ริซ่าในตอนนี้จะเปลี่ยนไปจากเมื่อ  5,000  ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง 

 

“เอายังไงดีท่านแม่  ปล่อยไปแบบนี้จะดีหรอ  ข้าชักจะเป็นห่วงน้องขึ้นมานิดๆ  แล้วนะ”  เมรินถามผู้เป็นแม่อย่างกังวล

 

“ดีแล้วจ้ะ  แบบนี้แหละดีแล้ว  ไม่ต้องห่วงน้องหรอกเมริน  เจ้าลืมไปแล้วหรอ  ว่าหนึ่งในฉายาที่เหล่าพระเจ้าจากต่างโลกมอบให้น้องของเจ้านั้นคืออะไร”  เทพเมอร์ริซ่ายิ้มอ่อนให้เมริน

 

“นั้นสิท่านพี่เมริน  น้องก็คิดเหมือนท่านแม่นะ  อีกอย่าง...ท่านพี่เมย่าน่ะเป็นถึงเทพเจ้าแห่งการเดินทาง  คงไม่เป็นอะไรง่ายๆ  บนโลกเมอร์ริซ่าหรอก”  เมราบอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิอย่างปิดไม่มิด...

 

“นั้นสิเนอะ...”

เมรินเมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาวแสนน่ารักของตนก็สบายใจขึ้นและเลิกเป็นห่วงน้องสาวคนกลางที่ตอนนี้ต้องไปเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่พวกเธอมอบให้อยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก...

(ถ้าเป็นเมื่อ 5,000 ก่อนละก็รู้ทุกซอกทุกมุม  แต่ตอนนี้หรอ...เหอะ...อย่าให้พูดเลย)

 

ช่วยไม่ได้...ก็ไม่ยอมฟังคนเค้าอธิบายให้จบเองนี่...

แต่ยังไงก็...ขอให้โชคดียัยตัวแสบของพี่  ^.^’’

 

“เอาละจ้ะ  ต่อจากนี้ไปพวกเราก็มารอดูกันดีกว่า  ว่าเทพเจ้าแห่งการเดินทางจะเอาตัวรอดจากโลกเมอร์ริซ่าแล้วไปแต่งงานกับพ่อหนุ่มสุดหล่อตามบทลงโทษของพวกเราได้สำเร็จหรือเปล่า...คิก...  ^o^” 

เทพเมอร์ริซ่าพูดก่อนจะโอบไหล่ลูกน้อยทั้งสองให้ไปยังสวนดอกไม้สวรรค์ที่อยู่ไม่ไกลจากวิมารเทพของตน  แล้วทั้งสามก็นั่งจิบชารสเลิศกันอย่างสบายใจเฉิบ  โดยที่ไม่สนใจคนที่ต้องตกระกำลำบากอยู่ที่โลกเมอร์ริซ่าสักนิด...

__________________________________________________________จบไปอีกตอนคะ  (ขอโทษด้วยคะถ้ามีคำผิด)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา