เจ้าชายกระจก yaoi

-

เขียนโดย แฟนรอน

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.45 น.

  8 บท
  0 วิจารณ์
  11.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 06.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

คฤหาสน์หลังใหญ่กว่าคุณท่านแองโกลอีก...   ป้ายหินด้านๆสลักจารึกชื่อคฤหาสน์ฮาร์วาร์ต   อัลเบิร์ตเคาะห่วง    ชายชราสวมสูทสุภาพเปิดมา

 

 

"  ผมมาพบคุณลุงร๊อก   "     คุณพ่อบ้านทำหน้าแปลกใจ

"  พบคุณร๊อก  จะให้เรียนว่าจากใครขอรับ  "

"  ผมอัลเบิร์ต  ฮาร์วาร์ต  ลูกชายคุณฟิลลิป  ฮาร์วาร์ต  คุณพ่อให้ผมมาที่นี่  "

"  โอ  ลูกชายคุณท่านฟิลลิป  คุณอัลเบิร์ต โตขึ้นเยอะจริงๆ  คุณท่านสบายดีใหมขอรับ  "   แอนนูร่าพูดไม่ออก  รู้สึกขากรรไกรแข็งจนปวดร้าว  พ่อบ้านเห็นอัลเบิร์ตนิ่งไป

 

 

 

"  ขออภัยขอรับที่เสียมารยาท  เชิญเข้ามาก่อน  "  ชายชราสวมสูทสุภาพนำแขกเข้ามาในคฤหาสน์โอ่โถงและสว่างสไว   อัลเบิร์ตนั่งรอที่ชุดโซฟาลายกุหลาบสักครู่  อดตกประหม่าไม่ได้กับผู้ปกครองคนใหม่ เด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันเดินลงมาจากบันได  ในเครื่องแบบเซียนปราบเต็มยศ  เขามีรูปร่างสูงหนา  ผมสีดำด้าน ตาสีดำขลับ คิ้วเข้มถอดแบบมาจากอาจารย์   เครื่องแบบเซียนปราบทำให้อัลเบิร์ตตัวเย็นเฉียบ  ความรู้สึกคล้ายๆตอนวิ่งฝ่าฝนกลับโรงแรมหลังเลิกชุมนุม ลูกหลานคุณลุงร๊อก

 

 "  ผมเอาจดหมายมาส่งให้คุณลุงร๊อก  "    อัลเบิร์ตยืนขึ้นตอนที่เด็กหนุ่มผู้อ่อนแก่กว่าเขาไม่กี่ปีและคุณพ่อบ้านรั้งท้ายเดินมาใกล้มุมรับแขก   บอกจุดประสงค์

 

"  ส่งมาสิ  "    ลูกคุณลุงยื่นมือขอ

 

" ผมได้รับกำชับว่าให้คุณร๊อกอ่านเท่านั้น  "    เด็กหนุ่มผมดำยิ้ม

"  ฉันนี่เเหละร๊อก ในตระกูลมีฉันคนเดียวเท่านั้นที่ชื่อร๊อก  "    ร๊อก  ฮาร์วาร์ต   เด็กตรงหน้านี่หรือจะมาเป็นผู้ปกครองเขา  โกหกน่า   คุณพ่อบ้านช่วยยืนยันนอบน้อม"  คุณหนู  ร๊อก ฮาร์วาร์ต  ครับกระผม  "    

 

" ในตระกูลฮาร์วาร์ตเหลือครอบครัวคุณลุงฟิลลิปกับฉัน  เราสองคน  จะมีร๊อกใหนอีก  คุณลุงไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอ  "     ร๊อกรับจดหมายจากอัลเบิร์ตมา   อัลเบิร์ตยื่นให้ร่างกายไปโดยอัตโนมัติ    เจ้าบ้านทั้งสองทรุดนั่ง    ร๊อกแกะซองคลี่จดหมายอ่าน  ครู่ใหญ่ก็พับจดหมายลง    อัลเบิร์ตไม่มีสัมภาระ   มาตัวเปล่า  ลี้ภัยกระทันหันเหมือนชาวเมืองมิราฌคนอื่นในข่าว   นอกจากคำอวยพรจากคุณลุง  ในจดหมายไม่ได้บอกตรงๆ   แต่ร๊อกดูจากแววตาสีฟ้าหม่นดุจเมฆที่ยังกลั่นเป็นนำ้ฝนไม่หมดของเด็กลูกพี่ลูกน้องตรงหน้า   คุณลุงฟิลลิปจากไปไม่มีวันกลับ  

" กว่าจะผ่านด่านจับเจ้าหญิงแอนดันเต้มาได้สินะ  คงลำบากน่าดู  "    ร๊อกเอ่ย  อัลเบิร์ตดึงขึ้นสบตาสีดำ ขอบตาร้อนผ่าว  และคล้ายมีก้อนจุกแน่นในอก  บังเอิญพูดราวกับรู้ใจเขา..   

"    ไม่ต้องคิดอะไรมากนะอัลเบิร์ต  นายจะได้เริ่มต้นใหม่   พี่ต้องรีบไปทำงานก่อน...   ไว้กลับมาเราค่อยคุยกันนะ  ตั้งแต่นี้ก็พักให้สบาย  "   

"  ครับ  ลาก่อน  "     ลาก่อนจริงๆ  อัลเบิร์ตนั่งนิ่งไม่ไหวติง   ร๊อกมีรอยยิ้มเปี่ยมไมตรีให้ขณะลุกขึ้นเดินออกไป    อัลเบิร์ตขอปากกาพ่อบ้าน  พ่อบ้านหยิบปากกาที่เหน็บอกเสื้อส่งให้   ขอตัวขึ้นไปเตรียมห้องให้เขา   แต่อัลเบิร์ตปฏิเสธ  เด็กหนุ่มเขียนทับบนกระดาษซองจดหมายเปล่า   ความจริงที่ว่าอาจารย์ไม่ค่อยกลับมาเซาท์สตาร์ บางทีอาจารย์จะไม่รู้ว่าหลานทำงานอะไร   เขายอมให้เด็กรุ่นเดียวกันเป็นผู้ปกครองไม่ได้หรอก   แต่เหตุผลแท้จริง  เหนืออื่นใด   เพราะร๊อกเป็นเซียนปราบ..   เขาลุกขึ้น

"  คุณหนูอัลเบิร์ต  จะไปใหนครับ   "   

"  ออกจากที่นี่   "    อัลเบิร์ตตอบแผ่วเบา

"  ออกไปใหนครับ "

"  ไปตามทางของฉันไง    คุณพ่อบ้าน  "    อัลเบิร์ตเดินออกมา   สุนัขสีขาวปรี่รี่เข้ามาเห่าใส่เอาเป็นเอาตาย  

"  ทำไมล่ะขอรับ  ที่นี่คือบ้านของคุณหนูอีกหลังนะครับ  คุณหนูมีพี่อีกคน  "   

"  คุณพ่อของผม  อาจารย์   คุณท่านฟิลลิปของคุณพ่อบ้าน  ตายแล้วนะครับ  "    จากสถานการณ์มิราฌ  คุณพ่อบ้านเดาได้ตั้งแต่เจมส์เปิดจดหมาย   แต่การได้ยินเป็นประโยคตรงๆทำให้ถึงกับผงะ  

"  ตายเพราะเซียนปราบ...  "    อัลเบิร์ตเหลียวเหลือบมองคฤหาสน์เพดานสูง  สว่างสไวจากแสงแดดอ่อนตกกระทบขอบเฟอร์นิเจอร์ระยิบระยับ

"     คุณท่านฟิลลิปไม่เคยยกโทษให้คุณร๊อก แต่คุณอัลเบิร์ตจะให้อภัยคุณหนูเจมส์ได้ใหมขอรับ  " อัลเบิร์ตหันมา  

" ............  " 

"คุณท่านไม่แม้แต่จะพูดถึงคุณร๊อกให้ลูกแท้ๆฟังเลยหรือ  "    จะพูดได้ไง  อัลเบิร์ตตายไปตั้งแต่สองขวบ   ทำเสียงเศร้าเชียวคุณพ่อบ้าน

"  พอเถอะครับ  มันไม่สำคัญกับผมหรอก  "    แล้วอัลเบิร์ตก็ออกจากคฤหาสน์ฮาร์วาร์ตมา

 

 ~~\\\~~

 

เมืองเบสเพลส

 

 แอนนูร่ามีทองติดก้นกระเป๋าอยู่แบบกระทบกันเกิดเสียงแค่กราวเดียว  เขาเข้าไปสมัครงานคอกมังกรบริการที่แขวนป้ายรับสมัครงาน ลุงอ้วนเอามือรูปคางขณะ  ลังเลพิจารณารูปร่างที่ค่อนไปทางสูงแต่ไม่ใหญ่ของแอนนูร่า  ให้เขาทดลองทำงานที่เขาเห็นทหารสถานีมังกรประจำมิราฌทำตั้งแต่เกิด   ยกถังนำ้ไปให้มังกรดื่ม   ยกแปรงสูงๆขัดถูหลังมังกร    หลอกล่อให้มังกรอ้าปากเพื่อจะแปรงฟันให้มัน    กวาดหญ้าเก่าขึ้นรถเข็นสลับกับเข็นรถเอาหญ้ามาทิ้ง  ล้างทำความสะอาดคอกหอบฟ่อนฟางใส่รถเข็นเอาไปเปลี่ยน  ยกถังนำ้ยาต่างๆเทนำ้ยาลงกระป๋อง   เมื่อเขาทำทุกอย่างไหวด้วยท่าทางสบายๆ  ลุงเจ้าของก็พยักหน้าตกลงจ้าง   แอนนูร่ายิ้มกว้าง   ค่าจ้างจ่ายเป็นรายเดือนแต่มีให้เบิก  เลี้ยงอาหารฟรีสามมื้อ  ที่พักพร้อม  งานที่รองรับสภาพเด็กหนุ่มยามนี้ดีที่สุด   แอนนูร่าเบิกเงินซื้อเสื้อผ้า  ชีวิตเด็กคอกมังกรบริการเริ่มขึ้น    ตื่นเช้ารับผลัดมาจากคนดูแลผลัดกลางคืน   ดูแลมันจนถึงหกโมงเย็น   แอนนูร่าสนุกกับชีวิตอิสระ   หลังเลิกงานเขาจะเตร็ดเตร่ไปใหนก็ได้  ตั้งแต่ออกมิราฌจากอลันมา   แอนนูร่าก็ไม่ได้คบใครอีก   เขาน่าจะหาเพื่อนซักคนแถวๆนี้  คืนนั้นที่เขาอยู่ผลัดกลางคืน  เขานอนเล่นในคอกมังกรที่ล้างแล้ว  มีเสียงขยับตัวส่งให้เกิดเสียงฟางดังกรอบแกรบ  มังกรที่ยังไม่หลับขยับปีกเรื่อยๆทำลายความเงียบเป็นระยะ   พระจันทร์ลูกเท่าผลแตง   ไม่เหมือนที่มิราฌ ที่นั้นสวยที่สุด  สวยกว่าชมที่โรงแรม  สวยกว่าดูที่คฤหาสน์คุณท่านแองโกล  แอนนูร่านึกขึ้นได้ว่าจะไม่มีโอกาสเห็นพระจันทร์เรือนนั้นตลอดกาล   เขาล้วงเข็มทิศวิเศษขึ้นมา  หกโมงเช้าเป็นเวลาออกผลัดเขาจะกลับไปเยี่ยมมิราฌ....     

วันรุ่งขึ้น   แอนนูร่าใช้เวลาอันอิสระนั่งรถม้ารับจ้างไปลงเมืองเล็กๆติดกับมิราฌ  เขาเช่าเรือและอุปกรณ์ตกปลาลำหนึ่ง

"  ดูทิศให้รอบคอบนะไอ้หนุ่ม  อย่าหลงไปฝั่งมิราฌเชียว  ถ้าไม่อยากเดือดร้อน  "      คุณป้าร้านเรือเช่าเตือน   แอนนูร่าขอบคุณ

เด็กหนุ่มผมแดงล่องเรือออกจากท่า   ใช้เข็มทิศวิเศษแทนเข็มทิศเช่า มาจนถึงจุดที่เห็นฝั่งมิราฌลิบๆ   แอนนูร่าจำแนวป้อมปราการมีเอกลักษณ์ได้   ท่าเรือเก่า...   เรือหาปลาลำนึงทอดสมอแน่นิ่ง    ชายคนเดียวบนเรือกำลังนั่งตกปลา  เขาเปลือยท่อนบน   ร่างกายกำยำถูกแดดเผาจนเป็นสีคร้าม  สวมแว่นกันแดด   เบือนใบหน้ามองตามเรือแอนนูร่า     แอนนูร่าจ้วงพายพลางมองเข้าไปในกระจกแว่น  ไม่เห็นอะไรหลังฟิล์มดำมืด  ชายผู้นั้นละความสนใจจากแอนนูร่าไปตกปลาต่อ...        แอนนูร่าล่องเรือออกมาใกลจนปราศจากผู้อื่นบนผืนนำ้  เขาแหงนหน้า  หรี่ตาจากแสงอาทิตย์อ่อนๆลอดผ่านหมู่เมฆมาต้องหน้า   มิราฌอยู่บนนั้น    ถ้าเขากล่าวกับเจ้าเข็มทิศวิเศษ มันจะส่งเสียงเขาไปสถานีมังกรประจำเรือเมืองไปสู่ทหารที่นั่งเฝ้าวิทยุ

"  เรา  เจ้าชายแอนนูร่าจะกลับมิราฌบน   ส่งมังกรมารับด้วย   "

เข็มทิศพลิกควำ่ค้างไว้ตั้งแต่ก่อนเจอชายนั่งตกปลา....     มันควำ่ลงฟ้องว่าเรือเมืองอยู่ข้างใต้เรือเช่า  อยู่เบื้องล่างผืนนำ้..   แอนนูร่าหย่อนกายลงนำ้   ดำดิ่งลงลึกฝ่าผิวนำ้อันเย็นเฉียบ   เขากลั้นลมหายใจว่ายลงตำ่    เค้าโครงเรืออันกว้างสุดลูกตาเป็นเงาตะคุ่มอยู่ใต้เท้าลงไปลึกมาก   หลังคาเรือเมืองที่เจนตายามมองจากหลังมังกร  มีฝูงปลาจิ๋วราวสะเก็ดดาวว่ายออกมาเป็นสาย   ลานจอดมังกรของสถานีมังกรแตกยุบเป็นหลุม  สีดำใหม้กระจายกว้าง...   เหมือนกับหลังคาจุดอื่นๆที่มองจากที่สูงเห็นรอยใหม้คลำ้  รอยแตกท่ามกลางความสลัวทึบของสายนำ้  แอนนูร่าไปต่อไม่ไหวแล้ว  เขาต้องการอากาศด่วนที่สุด  ก่อนที่หัวเขาจะระเบิดออก   เขาว่ายขึ้นหาหลังคานำ้ที่สว่างขึ้น  สว่างขึ้น     โผล่สู่ผิวนำ้   อ้าปากตะกายเอาอ๊อกซิเจนเข้าอย่างกระหาย   ว่ายประคองตัวไม่ให้จม   ค่อยๆว่ายไปหาเรือตัวเองที่อยู่ใกลลิบ   เกาะกาบเรือ  เอามือรีดนำ้ออกจากหน้า  สัมผัสผมยาวคลุมหน้าระหัวใหล่กับหลัง    แย่แล้ว  ผมสีแดงงอกยาวกระจายขนาดนี้  ลืมไปว่าถ้ากลั้นหายใจนานร่างลวงจะทำงาน   แอนดันเต้ปีนขึ้นเรือ ค้นกระเป๋าหายาลบร่างลวง  โชคดีที่พกมา!!  เงามังกรบินผ่านฟ้า  ทหารลาดตระเวน   แอนดันเต้เงยหน้า  ไม่สนุกล่ะสิ  เจ้าหญิงแอนดันเต้ในเขตหวงห้ามมิราฌแถมยังมีทหารคุมเต็มพื้นที่...  มังกรที่บินผ่านไปวกกลับมา   ชลอนิดนึง  ทิ้งระเบิดลงมาใส่เรือ    แอนดันเต้กระโดดลงนำ้ทันก่อนเรือระเบิดลุกใหม้แบบเฉียดไปเส้นยาแดงผ่าแปด   เขาดำหลบซ่อนร่างเจ้าปัญหา มือกำขวดยาโผล่ขึ้นมามังกรตัวเดิมยังบินวนเวียนลดลงเหนือผิวนำ้  ปล่อยระเบิดลูกสองใส่ตำแหน่งที่แอนดันเต้เพิ่งดำหลบลงไป  มันระเบิดไปตามหน้าที่มัน 

 

 

 

"  พบเจ้าหญิงแอนดันเต้   พบเจ้าหญิงแอนดันเต้  บนเรือละติจูดที่    บลา บลา  ขณะนี้ดำนำ้หนีไปแล้ว  ขอกำลังออกตระเวนค้นหาด่วน  ขอยำ้  พบเจ้าหญิงแอนดันเต้...  "   แอนดันเต้ว่ายนำ้เอาเป็นเอาตาย    โผล่ขึ้นมาหายใจเมื่อถึงที่สุดจึงรู้ทันทีว่าน่านเหนือทะเลยามนี้มีมังกรบินว่อน   เขาดำลง   ห่าธนูพรูทะลุผิวนำ้ลงมาตรงที่เขาโผล่ขึ้นไป   ระเบิดที่ปาใส่จากที่สูงตอนที่เขาโผล่เอาอากาศซำ้ยังเล็งผิดทำเขาเจ็บจุกจากแรงดันอัดใต้นำ้  รีบผลุบลึกลงไปอีก มังกรบินโฉบลง   ใช้กรงเล็บจะฉวยร่างเขาเหมือนนกโฉบปลาเมื่อเขาบังเอิญโผล่ขึ้นมาใกล้มังกรที่เดาทิศทางเขาได้   เขาดำหลบลงลึก  กำขวดยาแน่น    นำ้ที่เขาคุ้นชินตั้งแต่เกิด... ยังโผล่กวาดตารอบทิศบนฟ้าและทิวบกข้างหน้ามีทหารหลายนายกลาดเกลื่อน  ถ้าใครจับเจ้าหญิงแอนดันเต้ได้ย่อมมีผลงานนำมาซึ่งการเลื่อนขั้น   และบำเหน็จรางวัลอย่างงาม  แอนดันเต้ไม่โผล่หาอ๊อกซิเจนอีกให้ทหารลาดตระเวนเดาทิศทางได้   ดำไปทางแนวหินโสโครกที่นำ้เริ่มตื้นขึ้น   เข้าหลบหลังโขดหิน  ควบคุมลมหายใจให้สมำ่เสมอ   กินยารวดเดียวหมดขวด   นิ่งรอสักพััก  แอนนูร่ากลับมา  เขาว่ายโผล่หัวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ลมหายใจขาดห้วงตรงสู่หาด  มังกรลาดตระเวนพบเขาโดยง่ายเพราะเขาโชว์หัวตลอดตามมาไล่บี้ต่อ    เขาวิ่งขึ้นฝั่งพลางยกมือขึ้นให้เห็นใกลๆ   แอนนูร่่ากระโดดหลบระเบิด    ห่าธนูระดมยิงใส่อย่างเอาเป็นเอาตายจากเบื้องบน     วิ่งสลับฟันปลาทิ้งลูกธนูปักผืนทรายตลอดทางจนทหารข้างล่างต้องส่งสัญญาณกลัวโดนพวกเดียวกันเพราะแอนนูร่าวิ่งอย่างเร็วเอาตัวปะปนเข้าไปในค่ายพลางยกมือขึ้นสูงสองข้าง   หลายคนกระโดดเข้ามารุมรวบจับเขาไว้   

 

 

 

"  ไปตามคุณเลียมเร็ว   เราจับเจ้าหญิงแอนดันเต้ได้แล้ว   "     หนึ่งในคนที่รุมจับคุมตัวเขาไว้ร้องบอกพรรคพวกข้างหลัง   รอไม่นานเลย  ชายผมดำปรากฎกาย  ฝูงทหารแตกฮือ  ตะเบ๊ะทำความเคารพ  เขาคือคนที่นั่งตกปลาบนหลังคาบ้านคนอื่น  

 

 

 

"  คนนี้แน่เหรอ  เขาคือผู้ชายนี่  "

 

 

 

"  อยู่ๆพวกคุณก็ระเบิดเรือผม  ทิ้งระเบิดใส่  ยิงธนูใส่  จนผมต้องว่ายเข้าฝั่ง  นี่ยังตามมายิงกันอีก...  "

 

 

 

"  แต่เราได้รับแจ้งว่าพบเจ้าหญิงแอนดันเต้บนเรือจริง  ระบุพิกัดด้วย  "     หนึ่งในทหารที่เพิ่งลงจากหลังมังกรตะเบ๊ะ    รายงาน

 

 

 

"  เอ่อ   ผมเห็นกับตา  "

 

 

 

"  เราตามมาติดๆ  ตอนที่เขาโผล่ขึ้นมาหายใจ  จนเขาขึ้นฝั่ง  เราเห็นหัวแดงๆของเขามีผมยาวเฟื้อยจริงๆ  "    อีกคนพูดท่าทางไม่มั่นใจแล้ว  แต่ก็ยังฝืนพูดเพราะเชื่อว่าหลายคนต้องเห็นเหมือนกันเลยตามเป็นพรวน    

 

 

 

"  ผมเป็นผู้ชาย  ถ้าพวกคุณยังตาฝาดเห็นนมอึ๋มๆบนอกผม   "   แอนนูร่าถอดเสื้อออกโชว์แผงอกขาว   ทหารอึกอัก

 

 

 

"  ทำไมแกไม่ส่งสัญญาณว่าไม่ใช่ล่ะ  โบกไม้โบกมือตั้งแต่บนเรือก็ได้  "

 

 

 

"  โห  ผมยังรักตัวกลัวตายนะครับ  พวกคุณคงให้จังหวะผมหรอก  จู่ๆก็ระเบิดเรือผม   ถ้าผมมัวโบกมือให้คุณป่านนี้ผมเป็นผีไปแล้ว  "     ทหารพูดไม่ออกเพราะมันเป็นเรื่องจริง  พอรู้ว่าเจ้าหญิงโผล่มาก็ออกปฏิบัติการล่าอย่างเอาเป็นเอาตายเนื่องจากกลัวพลาด   และตอนนี้ก็รู้สึกเสียหน้าที่ตื่นตูมราวกับไม่ใช่มืออาชีพต่อหน้าผู้บังคับบัญชา  บรรยากาศอิหลักเหลื่อและเคร่งเครียด

 

 

 

"  แกเข้ามาทำไม  ไม่ได้ยินโองการเรอะว่ามิราฌเป็นเขตต้องห้าม  "

 

 

 

" เห็นเขายังจอดเรือตกปลาได้  ผมก็เลยนึกว่าไม่เป็นไร  เลยเข้ามาจับปลาด้วย  "    แอนนูร่าบุ้ยนิ้วโป้งไปทางเลียม

 

 

 

"  คุณเลียมเป็นเซียนปราบ   เป็นผู้บังคับบัญชาเรา  "     อีกแล้ว!!  เกลียดเซียนปราบ   พักนี้เจอแต่เซียนปราบ

 

 

 

"  คุณเลียมครับ  ผมกลัวว่าเจ้าหญิงแอนดันเต้เป็นปิศาจแปลงกายก็ได้  คุณเลียมลองสวมแว่นดูได้ใหมครับ  "    ทหารหนึ่งในคนที่ลงจากหลังมังกรแนะขึ้นอย่างเกรงๆ   เขาคือคนที่เห็นแอนดันเต้ผมยาวบนเรือกับตา   คนชื่อเลียมถอดแว่นที่คาดผมยื่นให้   ทหารกลุ่มลาดตระเวนทางอากาศรับมาผลัดกันใส่ส่องแอนนูร่า  แอนนูร่าหันหลังให้เซียนปราบเลียมไปเผชิญหน้า  ถอดกางเกงท้าทาย    ทหารส่งแว่นต่อๆกันที่ใส่แก้เก้อไปงั้นๆแถมยังต้องจำยอมดูช้างน้อยก่อนคนใกล้สุดส่งคืนเลียมอย่างเจ็บใจ  

 

 

 

"   เค้าไม่ใช่เจ้าหญิงแอนดันเต้ก็แล้วไป  ไปประจำจุดต่อเถอะ  "    เลียมช่วยแก้ความอิหลักอิเหลื่อของทหาร  ซึ่งดูโล่งอกขึ้นรับคำพร้อมเพรียงแข็งขันวิ่งแยกย้ายกันไปประจำหน้าที่   คนที่ยืนมุงก็แยกย้ายไปด้วย   คนที่วิ่งกลับเข้าไปเต้นท์ นั่งเล่นหมากรุกต่อ...   ว่างจัด 

 

 

 

"  ไม่หนาวเหรอ  "    เลียมถามแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าตั้งแต่บ่าจนถึงกางเกงเกี่ยวคาตรงเข่า

 

 

 

"  หนาว....  "    

 

 

 

"  หนาวก็ใส่กางเกงสิ  "    แอนนูร่าทำตาม

 

 

 

"  ไปทำแผลในเต้นท์ตรงนู้น  "    คนแนะออกตัวเดินเป็นทีท่าชวน

 

 

 

"  ไม่เป็นไร  แค่ถากๆ  "    ตาสีฟ้าเหลือบมองรอยธนูเฉี่ยวที่ต้นแขน  

 

 

 

"  ตามมา "

 

 

 

แอนนูร่ายืนชะงักนิ่ง   แต่ก็เดินตามเมื่อคนข้างหน้าเหลือบหันมามอง  ชายชื่อเลียมพาเข้าไปในป้อมสังเกตุการณ์ท่าเรือเดิม  เปิดกระเป๋าดึงเสื้อลายดอกสดใสกับกางเกงสะบัดแล้วส่งยื่นให้  แอนนูร่ารับมาใส่  หลวมไปนิดทั้งเสื้อและกางเกง

 

 

 

"  เรือระเบิดหมดแล้วนี่  ของทุกอย่างอยู่นั่นหมด  เดี๋ยวจะพาไปส่ง  อยู่เมืองใหน  "   เลียมจะขี่มังกรของหน่วยลาดตระเวนทางอากาศที่นอนคุ้ยทรายเล่นไปส่งที่เบสเพลสแต่ได้รับคำปฏิเสธ   ใช่หนึ่งในตัวที่ตามไล่ล่าเขาในทะเลรึเปล่าไม่รู้   อยากชกหน้ามันจริงๆ

 

 

 

"  จะไปรถม้า " ทหารคนหนึ่งออกจากเขตหวงห้ามไปเรียกรถม้าเข้ามาให้ เลียมมองเด็กหนุ่มผมแดง   ตาสีฟ้า  เขาหนีทหารจากละติจูดที่ทหารรายงาน   หลบระเบิด  หลบกรงเล็บมังกร  หลบห่าธนู  ดำนำ้มาจนถึงชายหาดด้วยระยะทางใกลขนาดนั้น...   เเต่เขามีแผลถากๆแค่ที่แขน   เลียมอยู่ริมหาดเห็นเหตุการณ์พอดี  เขาไม่ได้ดูตื่นกลัวเลยตอนขึ้นหาดวิ่งซิกแซกหลบภัยจากเบื้องบน  จนถึงตอนถูกรวบจับ  แค่เหนื่อยจัดเท่านั้น  ยกมือวิ่งพุ่งเข้ามาในค่ายเพราะทหารลาดตระเวนทางอากาศยังไม่หยุดยิง  จะเรียกบ้าบิ่นรึไหวพริบดี...   ดวงหน้าเขายามนี้นิ่ง ไม่สื่ออารมณ์  แต่ตาสีฟ้ามีความไม่พอใจลุกโชน  แม้กระทั่งยามนี้เวลามองหันมองเขาเวลาเขาเอ่ยถาม  อาจจะโกรธที่ถูกทหารไล่ต้อนโดยที่ไม่มีความผิดอะไร ..     รถม้าแล่นมาจอดนิ่งตรงหน้า   เด็กหนุ่มที่เลียมถามชื่อแล้วทำเฉยเปิดประตูขึ้นไปนั่ง  เซียนปราบเลียมกำลังจะก้าวตามขึ้นไปส่งด้วยนำ้ใจ..   เพราะเด็กหนุ่มคนนี้มีแต่ตัวเปล่า

 

 

 

"  ไม่เป็นไร  "       หนุ่มผมแดงเอ่ยเบาๆ  "  ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้า  "   เท่านั้น   ประตูก็ปิดขวางเลียม  รถเทียมม้ารับจ้างควบจากไป สำหรับเลียมคล้ายมีตะกอนกวนขุ่น บังเอิญพบหนังสือเล่มนึงแสนตรงใจ เปิดอ่านเพียงไม่กี่หน้ากำลังสนุกแล้วเดินสะดุดจนหนังสือตกไปในโคลนดูดหายต่อหน้าต่อตา คว้าไว้ไม่ทัน

 

 

 

 

 

 

 

~~~~~\\\~~~~~

 

 

 

 

 

 

 

เงินก้อนใหญ่หมดไปกับค่ามัดจำเรือ   แอนนูร่าคิดทวนเซ็งๆ   เสียงแขกเข้า..    แอนนูร่าไม่ได้เงยหน้าจากการเก็บทำความสะอาดคอกหนึ่งที่เจ้าของเพิ่งเช็คเอาท์เอามังกรกลับ   เพราะเพื่อนร่วมงานอีกคนรับมังกรสดวกกว่าสภาพงานที่เขาติดพันอยู่

 

 

 

"   อัลเบิร์ตรึเปล่า  "   แอนนูร่าเงยหน้าพรวด   ร๊อกจูงมังกรเข้ามา

 

 

 

"  ใช่นายจริงๆด้วย  ไม่กลับไปบ้างเลยนะ  "

 

 

 

"  .............   "

 

 

 

"  ย้อมผมเหรอ   ผมแดงไม่เข้ากับหน้านายเลย  ทำให้หน้านายดูน่าเกลียดพิลึก จะย้อมทำไมถ้ามันไม่ได้นายดูหล่อขึ้น  "    ผมมีผมสีแดงตั้งแต่เกิด  ผมดูน่าเกลียดตั้งแต่เกิดเลยงั้นเหรอ....

 

 " เลือกสีอะไรไม่เลือก  ไปเลือกสีแดง  โคตรขี้เหร่  ทำงานที่นี่เหรอ...   ไปเก็บเสื้อผ้าเถอะ   โรงเรียนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว  เตรียมเอกสารรายละเอียดเอาไว้ให้นายเลือกดูจะเข้าเรียนต่อด้านใหน   เสนาธิการก็ดีนะ  ทำงานคอกมังกรบริการไม่มีอนาคตหรอก  งานคอกมังกรเค้าให้คนแก่เปลดเกษียณทำเเก้เหงา  แย่งคนแก่เค้าทำทำไม   พักอยู่ใหน  "   ลุงเจ้าของร้านเดินมา  เห็นแอนนูร่านั่งยองๆถือแปรงค้างเงยหน้ามองแขก   ไม่ยอมเปิดคอกรับมังกรสักที  ส่วนเซียนปราบก็ยืนพูดพล่าม  

 

"  มีอะไรให้เรารับใช้เพิ่มเติมใหมครับ   คุณเซียนปราบ   เอ้า  แอนนูร่า  เปิดคอกให้แขกสิ   " เจ้าของร้านเปิดคอก  กุลีกุจอให้บริการจูงมังกรเข้าคอก   

 

 "  เค้าเป็นน้องชายผม  ตอนนี้เค้าพักอยู่ที่ใหนครับ  "    ร๊อกหันมาพูดกับเจ้าของร้านอย่างสุภาพเเละเอาการเอางาน   เจ้าของร้านยิ้มแฉ่ง  หันมามองแอนนูร่า...  

 

จากนั้นก็เป็นเรื่องของเซียนปราบกับเจ้าของร้านที่เดินอ้อมหลังคอกไปด้วยกันพลางสนทนากัน   แอนนูร่าไม่เกี่ยวด้วยเลย....  ได้แต่เดินอารมณ์ขุ่นตามหลังมา  ประตูห้องพักเปิดออก  

"  อัลเบิร์ต  เก็บของเลยนะ  "    จากนั้นร๊อกก็หันไปพูดกับเจ้าของร้านต่อ

"  ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลเขาให้  "

"  โอ้ไม่เป็นไรครับ  แอนนูร่า  หมายถึงอัลเบิร์ตนะครับเค้าขยันขันแข็งดีมาก  ฮ่า  ฮ่า  น่าเสียดาย จากนี้ไปก็กลับไปเรียนซะนะอัลเบิร์ต  ถ้าปิดเทอมอยากมาเที่ยวรึมาหาจ็อปทำสนุกๆก็มา  "

"  แต่ผมยังต้องทำงานใช้ค่าเบิกล่วงหน้าวันนั้นไงครับ  ผมยังทำใช้ไม่หมดใช่ใหมครับคุณลุง  "    แอนนูร่าพูดอย่างใจเย็น   ทุกย่างไม่เป็นอย่างที่นายต้องการเสมอไปหรอกร๊อก

"  เบิกไปเท่าไหร่  "  เจมส์ถาม

"  สี่สิบเหรียญทอง  ผมยังทำงานใช้คืนไม่ถึงสิบ  ผมต้องอยู่ทำงานให้ครบก่อน...  "    ร๊อกล้วงทองออกมา  ยืนนับไวว่องเสร็จแล้วยื่นให้เจ้าของร้าน

"  ถ้าอัลเบิร์ตไปตอนนี้   คุณลุงมีคนช่วยงานใช่ใหมครับ  "

"  มีมี  ยังได้อยู่  ตั้งใจเรียนนะอัลเบิร์ต  "    แล้วเจ้าของร้านก็ขอตัวเมื่อลูกจ้างอีกคนตะโกนเรียกจากคอกมังกรให้ไปคุยกับแขก   ทิ้งร๊อกอยู่กับอัลเบิร์ตน้องชายของเขา  

อะไรกันเนี่ย  ผมตกงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรอ!!  ร๊อกกวาดมองห้องอย่างสนอกสนใจ  เปิดตู้  หยิบเสื้อที่แอนนูร่าเบิกเงินล่วงหน้าซื้อมา

"  เสื้อไว้ที่นี่ดีกว่า   เผื่อคนข้างหลังเอาไว้ใช้ใส่ทำงานในคอก  ไปได้แล้วอัลเบิร์ต  "    ร๊อกฉุดแขนอัลเบิร์ตเดินเร็วๆ

"  ไม่ถามความสมัครใจผมเลยนะครับ!!  "   แอนนูร่าเสียงกร้าว กระชากแขนจะหนี แต่ดูเหมือนร๊อกจะไม่สนใจหรือทันใส่ใจเลยด้วยซำ้

"  ถ้าขืนถาม   นายก็จะทำงานนี่ต่อไปเหมือนปล่อยเวลาไปวันๆไม่มีอนาคตน่ะสิ   ก็เลยไม่ถาม เดี๋ยวจะเเวะไปส่งที่บ้าน ฉันต้องไปทำงานก่อน  "

 เซียนปราบจะไปทำงาน!!   เหตุผลที่ทำให้อัลเบิร์ตหุบปากเดินตามแรงดึงแต่โดยดี   ชายผมทอง  ตาสีเขียวนั่งรอที่โต๊ะกลางศูนย์อาหาร..

เจี๊ยก!

เกลน!!

" ช้าเป็นบ้าเลยว่ะ" เกลนบ่น

"..."

"ลูกพี่ลูกน้องชั้นเอง อัลเบิร์ต"

".."

"มีอะไร" ร๊อกถามเกลนขณะเริ่มซัดอาหารเข้าปาก เพราะเกลนจ้องอัลเบิร์ตนิ่งไป

"หน้าคุ้นๆ.. เราเคยเจอกันมาก่อนใหม"

"ไม่รู้ดิ ผมหน้าโหลนะ" คุ้นต่อไปอ่ะดีแล้ว..

"เฮ้ย ไอ้องครักษ์นี่หว่า" หวาา !

"องครักษ์ใหนครับ"

"แก องครักษ์เจ้าหญิงแอนนี่หว่า"

"เจ้าหญิงแอนใหนครับ"

"ถึงจะย้อมผมก็จำได้เฟ้ย"

ร๊อกหันมามองแอนนูร่า มองผมแอนนูร่า

"ผมแดงนั่นย้อมต่างหาก นี่ผมจริง" แอนนูร่ารีบโหก แต่โอ๊ย การโกหกกลายเป็นยอมรับไปซะ

"แก...!!"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา