เจ้าชายกระจก yaoi
-
เขียนโดย แฟนรอน
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.45 น.
8 บท
0 วิจารณ์
11.25K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 06.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
5)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคฤหาสน์หลังใหญ่กว่าคุณท่านแองโกลอีก... ป้ายหินด้านๆสลักจารึกชื่อคฤหาสน์ฮาร์วาร์ต อัลเบิร์ตเคาะห่วง ชายชราสวมสูทสุภาพเปิดมา
" ผมมาพบคุณลุงร๊อก " คุณพ่อบ้านทำหน้าแปลกใจ
" พบคุณร๊อก จะให้เรียนว่าจากใครขอรับ "
" ผมอัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต ลูกชายคุณฟิลลิป ฮาร์วาร์ต คุณพ่อให้ผมมาที่นี่ "
" โอ ลูกชายคุณท่านฟิลลิป คุณอัลเบิร์ต โตขึ้นเยอะจริงๆ คุณท่านสบายดีใหมขอรับ " แอนนูร่าพูดไม่ออก รู้สึกขากรรไกรแข็งจนปวดร้าว พ่อบ้านเห็นอัลเบิร์ตนิ่งไป
" ขออภัยขอรับที่เสียมารยาท เชิญเข้ามาก่อน " ชายชราสวมสูทสุภาพนำแขกเข้ามาในคฤหาสน์โอ่โถงและสว่างสไว อัลเบิร์ตนั่งรอที่ชุดโซฟาลายกุหลาบสักครู่ อดตกประหม่าไม่ได้กับผู้ปกครองคนใหม่ เด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันเดินลงมาจากบันได ในเครื่องแบบเซียนปราบเต็มยศ เขามีรูปร่างสูงหนา ผมสีดำด้าน ตาสีดำขลับ คิ้วเข้มถอดแบบมาจากอาจารย์ เครื่องแบบเซียนปราบทำให้อัลเบิร์ตตัวเย็นเฉียบ ความรู้สึกคล้ายๆตอนวิ่งฝ่าฝนกลับโรงแรมหลังเลิกชุมนุม ลูกหลานคุณลุงร๊อก
" ผมเอาจดหมายมาส่งให้คุณลุงร๊อก " อัลเบิร์ตยืนขึ้นตอนที่เด็กหนุ่มผู้อ่อนแก่กว่าเขาไม่กี่ปีและคุณพ่อบ้านรั้งท้ายเดินมาใกล้มุมรับแขก บอกจุดประสงค์
" ส่งมาสิ " ลูกคุณลุงยื่นมือขอ
" ผมได้รับกำชับว่าให้คุณร๊อกอ่านเท่านั้น " เด็กหนุ่มผมดำยิ้ม
" ฉันนี่เเหละร๊อก ในตระกูลมีฉันคนเดียวเท่านั้นที่ชื่อร๊อก " ร๊อก ฮาร์วาร์ต เด็กตรงหน้านี่หรือจะมาเป็นผู้ปกครองเขา โกหกน่า คุณพ่อบ้านช่วยยืนยันนอบน้อม" คุณหนู ร๊อก ฮาร์วาร์ต ครับกระผม "
" ในตระกูลฮาร์วาร์ตเหลือครอบครัวคุณลุงฟิลลิปกับฉัน เราสองคน จะมีร๊อกใหนอีก คุณลุงไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอ " ร๊อกรับจดหมายจากอัลเบิร์ตมา อัลเบิร์ตยื่นให้ร่างกายไปโดยอัตโนมัติ เจ้าบ้านทั้งสองทรุดนั่ง ร๊อกแกะซองคลี่จดหมายอ่าน ครู่ใหญ่ก็พับจดหมายลง อัลเบิร์ตไม่มีสัมภาระ มาตัวเปล่า ลี้ภัยกระทันหันเหมือนชาวเมืองมิราฌคนอื่นในข่าว นอกจากคำอวยพรจากคุณลุง ในจดหมายไม่ได้บอกตรงๆ แต่ร๊อกดูจากแววตาสีฟ้าหม่นดุจเมฆที่ยังกลั่นเป็นนำ้ฝนไม่หมดของเด็กลูกพี่ลูกน้องตรงหน้า คุณลุงฟิลลิปจากไปไม่มีวันกลับ
" กว่าจะผ่านด่านจับเจ้าหญิงแอนดันเต้มาได้สินะ คงลำบากน่าดู " ร๊อกเอ่ย อัลเบิร์ตดึงขึ้นสบตาสีดำ ขอบตาร้อนผ่าว และคล้ายมีก้อนจุกแน่นในอก บังเอิญพูดราวกับรู้ใจเขา..
" ไม่ต้องคิดอะไรมากนะอัลเบิร์ต นายจะได้เริ่มต้นใหม่ พี่ต้องรีบไปทำงานก่อน... ไว้กลับมาเราค่อยคุยกันนะ ตั้งแต่นี้ก็พักให้สบาย "
" ครับ ลาก่อน " ลาก่อนจริงๆ อัลเบิร์ตนั่งนิ่งไม่ไหวติง ร๊อกมีรอยยิ้มเปี่ยมไมตรีให้ขณะลุกขึ้นเดินออกไป อัลเบิร์ตขอปากกาพ่อบ้าน พ่อบ้านหยิบปากกาที่เหน็บอกเสื้อส่งให้ ขอตัวขึ้นไปเตรียมห้องให้เขา แต่อัลเบิร์ตปฏิเสธ เด็กหนุ่มเขียนทับบนกระดาษซองจดหมายเปล่า ความจริงที่ว่าอาจารย์ไม่ค่อยกลับมาเซาท์สตาร์ บางทีอาจารย์จะไม่รู้ว่าหลานทำงานอะไร เขายอมให้เด็กรุ่นเดียวกันเป็นผู้ปกครองไม่ได้หรอก แต่เหตุผลแท้จริง เหนืออื่นใด เพราะร๊อกเป็นเซียนปราบ.. เขาลุกขึ้น
" คุณหนูอัลเบิร์ต จะไปใหนครับ "
" ออกจากที่นี่ " อัลเบิร์ตตอบแผ่วเบา
" ออกไปใหนครับ "
" ไปตามทางของฉันไง คุณพ่อบ้าน " อัลเบิร์ตเดินออกมา สุนัขสีขาวปรี่รี่เข้ามาเห่าใส่เอาเป็นเอาตาย
" ทำไมล่ะขอรับ ที่นี่คือบ้านของคุณหนูอีกหลังนะครับ คุณหนูมีพี่อีกคน "
" คุณพ่อของผม อาจารย์ คุณท่านฟิลลิปของคุณพ่อบ้าน ตายแล้วนะครับ " จากสถานการณ์มิราฌ คุณพ่อบ้านเดาได้ตั้งแต่เจมส์เปิดจดหมาย แต่การได้ยินเป็นประโยคตรงๆทำให้ถึงกับผงะ
" ตายเพราะเซียนปราบ... " อัลเบิร์ตเหลียวเหลือบมองคฤหาสน์เพดานสูง สว่างสไวจากแสงแดดอ่อนตกกระทบขอบเฟอร์นิเจอร์ระยิบระยับ
" คุณท่านฟิลลิปไม่เคยยกโทษให้คุณร๊อก แต่คุณอัลเบิร์ตจะให้อภัยคุณหนูเจมส์ได้ใหมขอรับ " อัลเบิร์ตหันมา
" ............ "
"คุณท่านไม่แม้แต่จะพูดถึงคุณร๊อกให้ลูกแท้ๆฟังเลยหรือ " จะพูดได้ไง อัลเบิร์ตตายไปตั้งแต่สองขวบ ทำเสียงเศร้าเชียวคุณพ่อบ้าน
" พอเถอะครับ มันไม่สำคัญกับผมหรอก " แล้วอัลเบิร์ตก็ออกจากคฤหาสน์ฮาร์วาร์ตมา
~~\\\~~
เมืองเบสเพลส
แอนนูร่ามีทองติดก้นกระเป๋าอยู่แบบกระทบกันเกิดเสียงแค่กราวเดียว เขาเข้าไปสมัครงานคอกมังกรบริการที่แขวนป้ายรับสมัครงาน ลุงอ้วนเอามือรูปคางขณะ ลังเลพิจารณารูปร่างที่ค่อนไปทางสูงแต่ไม่ใหญ่ของแอนนูร่า ให้เขาทดลองทำงานที่เขาเห็นทหารสถานีมังกรประจำมิราฌทำตั้งแต่เกิด ยกถังนำ้ไปให้มังกรดื่ม ยกแปรงสูงๆขัดถูหลังมังกร หลอกล่อให้มังกรอ้าปากเพื่อจะแปรงฟันให้มัน กวาดหญ้าเก่าขึ้นรถเข็นสลับกับเข็นรถเอาหญ้ามาทิ้ง ล้างทำความสะอาดคอกหอบฟ่อนฟางใส่รถเข็นเอาไปเปลี่ยน ยกถังนำ้ยาต่างๆเทนำ้ยาลงกระป๋อง เมื่อเขาทำทุกอย่างไหวด้วยท่าทางสบายๆ ลุงเจ้าของก็พยักหน้าตกลงจ้าง แอนนูร่ายิ้มกว้าง ค่าจ้างจ่ายเป็นรายเดือนแต่มีให้เบิก เลี้ยงอาหารฟรีสามมื้อ ที่พักพร้อม งานที่รองรับสภาพเด็กหนุ่มยามนี้ดีที่สุด แอนนูร่าเบิกเงินซื้อเสื้อผ้า ชีวิตเด็กคอกมังกรบริการเริ่มขึ้น ตื่นเช้ารับผลัดมาจากคนดูแลผลัดกลางคืน ดูแลมันจนถึงหกโมงเย็น แอนนูร่าสนุกกับชีวิตอิสระ หลังเลิกงานเขาจะเตร็ดเตร่ไปใหนก็ได้ ตั้งแต่ออกมิราฌจากอลันมา แอนนูร่าก็ไม่ได้คบใครอีก เขาน่าจะหาเพื่อนซักคนแถวๆนี้ คืนนั้นที่เขาอยู่ผลัดกลางคืน เขานอนเล่นในคอกมังกรที่ล้างแล้ว มีเสียงขยับตัวส่งให้เกิดเสียงฟางดังกรอบแกรบ มังกรที่ยังไม่หลับขยับปีกเรื่อยๆทำลายความเงียบเป็นระยะ พระจันทร์ลูกเท่าผลแตง ไม่เหมือนที่มิราฌ ที่นั้นสวยที่สุด สวยกว่าชมที่โรงแรม สวยกว่าดูที่คฤหาสน์คุณท่านแองโกล แอนนูร่านึกขึ้นได้ว่าจะไม่มีโอกาสเห็นพระจันทร์เรือนนั้นตลอดกาล เขาล้วงเข็มทิศวิเศษขึ้นมา หกโมงเช้าเป็นเวลาออกผลัดเขาจะกลับไปเยี่ยมมิราฌ....
วันรุ่งขึ้น แอนนูร่าใช้เวลาอันอิสระนั่งรถม้ารับจ้างไปลงเมืองเล็กๆติดกับมิราฌ เขาเช่าเรือและอุปกรณ์ตกปลาลำหนึ่ง
" ดูทิศให้รอบคอบนะไอ้หนุ่ม อย่าหลงไปฝั่งมิราฌเชียว ถ้าไม่อยากเดือดร้อน " คุณป้าร้านเรือเช่าเตือน แอนนูร่าขอบคุณ
เด็กหนุ่มผมแดงล่องเรือออกจากท่า ใช้เข็มทิศวิเศษแทนเข็มทิศเช่า มาจนถึงจุดที่เห็นฝั่งมิราฌลิบๆ แอนนูร่าจำแนวป้อมปราการมีเอกลักษณ์ได้ ท่าเรือเก่า... เรือหาปลาลำนึงทอดสมอแน่นิ่ง ชายคนเดียวบนเรือกำลังนั่งตกปลา เขาเปลือยท่อนบน ร่างกายกำยำถูกแดดเผาจนเป็นสีคร้าม สวมแว่นกันแดด เบือนใบหน้ามองตามเรือแอนนูร่า แอนนูร่าจ้วงพายพลางมองเข้าไปในกระจกแว่น ไม่เห็นอะไรหลังฟิล์มดำมืด ชายผู้นั้นละความสนใจจากแอนนูร่าไปตกปลาต่อ... แอนนูร่าล่องเรือออกมาใกลจนปราศจากผู้อื่นบนผืนนำ้ เขาแหงนหน้า หรี่ตาจากแสงอาทิตย์อ่อนๆลอดผ่านหมู่เมฆมาต้องหน้า มิราฌอยู่บนนั้น ถ้าเขากล่าวกับเจ้าเข็มทิศวิเศษ มันจะส่งเสียงเขาไปสถานีมังกรประจำเรือเมืองไปสู่ทหารที่นั่งเฝ้าวิทยุ
" เรา เจ้าชายแอนนูร่าจะกลับมิราฌบน ส่งมังกรมารับด้วย "
เข็มทิศพลิกควำ่ค้างไว้ตั้งแต่ก่อนเจอชายนั่งตกปลา.... มันควำ่ลงฟ้องว่าเรือเมืองอยู่ข้างใต้เรือเช่า อยู่เบื้องล่างผืนนำ้.. แอนนูร่าหย่อนกายลงนำ้ ดำดิ่งลงลึกฝ่าผิวนำ้อันเย็นเฉียบ เขากลั้นลมหายใจว่ายลงตำ่ เค้าโครงเรืออันกว้างสุดลูกตาเป็นเงาตะคุ่มอยู่ใต้เท้าลงไปลึกมาก หลังคาเรือเมืองที่เจนตายามมองจากหลังมังกร มีฝูงปลาจิ๋วราวสะเก็ดดาวว่ายออกมาเป็นสาย ลานจอดมังกรของสถานีมังกรแตกยุบเป็นหลุม สีดำใหม้กระจายกว้าง... เหมือนกับหลังคาจุดอื่นๆที่มองจากที่สูงเห็นรอยใหม้คลำ้ รอยแตกท่ามกลางความสลัวทึบของสายนำ้ แอนนูร่าไปต่อไม่ไหวแล้ว เขาต้องการอากาศด่วนที่สุด ก่อนที่หัวเขาจะระเบิดออก เขาว่ายขึ้นหาหลังคานำ้ที่สว่างขึ้น สว่างขึ้น โผล่สู่ผิวนำ้ อ้าปากตะกายเอาอ๊อกซิเจนเข้าอย่างกระหาย ว่ายประคองตัวไม่ให้จม ค่อยๆว่ายไปหาเรือตัวเองที่อยู่ใกลลิบ เกาะกาบเรือ เอามือรีดนำ้ออกจากหน้า สัมผัสผมยาวคลุมหน้าระหัวใหล่กับหลัง แย่แล้ว ผมสีแดงงอกยาวกระจายขนาดนี้ ลืมไปว่าถ้ากลั้นหายใจนานร่างลวงจะทำงาน แอนดันเต้ปีนขึ้นเรือ ค้นกระเป๋าหายาลบร่างลวง โชคดีที่พกมา!! เงามังกรบินผ่านฟ้า ทหารลาดตระเวน แอนดันเต้เงยหน้า ไม่สนุกล่ะสิ เจ้าหญิงแอนดันเต้ในเขตหวงห้ามมิราฌแถมยังมีทหารคุมเต็มพื้นที่... มังกรที่บินผ่านไปวกกลับมา ชลอนิดนึง ทิ้งระเบิดลงมาใส่เรือ แอนดันเต้กระโดดลงนำ้ทันก่อนเรือระเบิดลุกใหม้แบบเฉียดไปเส้นยาแดงผ่าแปด เขาดำหลบซ่อนร่างเจ้าปัญหา มือกำขวดยาโผล่ขึ้นมามังกรตัวเดิมยังบินวนเวียนลดลงเหนือผิวนำ้ ปล่อยระเบิดลูกสองใส่ตำแหน่งที่แอนดันเต้เพิ่งดำหลบลงไป มันระเบิดไปตามหน้าที่มัน
" พบเจ้าหญิงแอนดันเต้ พบเจ้าหญิงแอนดันเต้ บนเรือละติจูดที่ บลา บลา ขณะนี้ดำนำ้หนีไปแล้ว ขอกำลังออกตระเวนค้นหาด่วน ขอยำ้ พบเจ้าหญิงแอนดันเต้... " แอนดันเต้ว่ายนำ้เอาเป็นเอาตาย โผล่ขึ้นมาหายใจเมื่อถึงที่สุดจึงรู้ทันทีว่าน่านเหนือทะเลยามนี้มีมังกรบินว่อน เขาดำลง ห่าธนูพรูทะลุผิวนำ้ลงมาตรงที่เขาโผล่ขึ้นไป ระเบิดที่ปาใส่จากที่สูงตอนที่เขาโผล่เอาอากาศซำ้ยังเล็งผิดทำเขาเจ็บจุกจากแรงดันอัดใต้นำ้ รีบผลุบลึกลงไปอีก มังกรบินโฉบลง ใช้กรงเล็บจะฉวยร่างเขาเหมือนนกโฉบปลาเมื่อเขาบังเอิญโผล่ขึ้นมาใกล้มังกรที่เดาทิศทางเขาได้ เขาดำหลบลงลึก กำขวดยาแน่น นำ้ที่เขาคุ้นชินตั้งแต่เกิด... ยังโผล่กวาดตารอบทิศบนฟ้าและทิวบกข้างหน้ามีทหารหลายนายกลาดเกลื่อน ถ้าใครจับเจ้าหญิงแอนดันเต้ได้ย่อมมีผลงานนำมาซึ่งการเลื่อนขั้น และบำเหน็จรางวัลอย่างงาม แอนดันเต้ไม่โผล่หาอ๊อกซิเจนอีกให้ทหารลาดตระเวนเดาทิศทางได้ ดำไปทางแนวหินโสโครกที่นำ้เริ่มตื้นขึ้น เข้าหลบหลังโขดหิน ควบคุมลมหายใจให้สมำ่เสมอ กินยารวดเดียวหมดขวด นิ่งรอสักพััก แอนนูร่ากลับมา เขาว่ายโผล่หัวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ลมหายใจขาดห้วงตรงสู่หาด มังกรลาดตระเวนพบเขาโดยง่ายเพราะเขาโชว์หัวตลอดตามมาไล่บี้ต่อ เขาวิ่งขึ้นฝั่งพลางยกมือขึ้นให้เห็นใกลๆ แอนนูร่่ากระโดดหลบระเบิด ห่าธนูระดมยิงใส่อย่างเอาเป็นเอาตายจากเบื้องบน วิ่งสลับฟันปลาทิ้งลูกธนูปักผืนทรายตลอดทางจนทหารข้างล่างต้องส่งสัญญาณกลัวโดนพวกเดียวกันเพราะแอนนูร่าวิ่งอย่างเร็วเอาตัวปะปนเข้าไปในค่ายพลางยกมือขึ้นสูงสองข้าง หลายคนกระโดดเข้ามารุมรวบจับเขาไว้
" ไปตามคุณเลียมเร็ว เราจับเจ้าหญิงแอนดันเต้ได้แล้ว " หนึ่งในคนที่รุมจับคุมตัวเขาไว้ร้องบอกพรรคพวกข้างหลัง รอไม่นานเลย ชายผมดำปรากฎกาย ฝูงทหารแตกฮือ ตะเบ๊ะทำความเคารพ เขาคือคนที่นั่งตกปลาบนหลังคาบ้านคนอื่น
" คนนี้แน่เหรอ เขาคือผู้ชายนี่ "
" อยู่ๆพวกคุณก็ระเบิดเรือผม ทิ้งระเบิดใส่ ยิงธนูใส่ จนผมต้องว่ายเข้าฝั่ง นี่ยังตามมายิงกันอีก... "
" แต่เราได้รับแจ้งว่าพบเจ้าหญิงแอนดันเต้บนเรือจริง ระบุพิกัดด้วย " หนึ่งในทหารที่เพิ่งลงจากหลังมังกรตะเบ๊ะ รายงาน
" เอ่อ ผมเห็นกับตา "
" เราตามมาติดๆ ตอนที่เขาโผล่ขึ้นมาหายใจ จนเขาขึ้นฝั่ง เราเห็นหัวแดงๆของเขามีผมยาวเฟื้อยจริงๆ " อีกคนพูดท่าทางไม่มั่นใจแล้ว แต่ก็ยังฝืนพูดเพราะเชื่อว่าหลายคนต้องเห็นเหมือนกันเลยตามเป็นพรวน
" ผมเป็นผู้ชาย ถ้าพวกคุณยังตาฝาดเห็นนมอึ๋มๆบนอกผม " แอนนูร่าถอดเสื้อออกโชว์แผงอกขาว ทหารอึกอัก
" ทำไมแกไม่ส่งสัญญาณว่าไม่ใช่ล่ะ โบกไม้โบกมือตั้งแต่บนเรือก็ได้ "
" โห ผมยังรักตัวกลัวตายนะครับ พวกคุณคงให้จังหวะผมหรอก จู่ๆก็ระเบิดเรือผม ถ้าผมมัวโบกมือให้คุณป่านนี้ผมเป็นผีไปแล้ว " ทหารพูดไม่ออกเพราะมันเป็นเรื่องจริง พอรู้ว่าเจ้าหญิงโผล่มาก็ออกปฏิบัติการล่าอย่างเอาเป็นเอาตายเนื่องจากกลัวพลาด และตอนนี้ก็รู้สึกเสียหน้าที่ตื่นตูมราวกับไม่ใช่มืออาชีพต่อหน้าผู้บังคับบัญชา บรรยากาศอิหลักเหลื่อและเคร่งเครียด
" แกเข้ามาทำไม ไม่ได้ยินโองการเรอะว่ามิราฌเป็นเขตต้องห้าม "
" เห็นเขายังจอดเรือตกปลาได้ ผมก็เลยนึกว่าไม่เป็นไร เลยเข้ามาจับปลาด้วย " แอนนูร่าบุ้ยนิ้วโป้งไปทางเลียม
" คุณเลียมเป็นเซียนปราบ เป็นผู้บังคับบัญชาเรา " อีกแล้ว!! เกลียดเซียนปราบ พักนี้เจอแต่เซียนปราบ
" คุณเลียมครับ ผมกลัวว่าเจ้าหญิงแอนดันเต้เป็นปิศาจแปลงกายก็ได้ คุณเลียมลองสวมแว่นดูได้ใหมครับ " ทหารหนึ่งในคนที่ลงจากหลังมังกรแนะขึ้นอย่างเกรงๆ เขาคือคนที่เห็นแอนดันเต้ผมยาวบนเรือกับตา คนชื่อเลียมถอดแว่นที่คาดผมยื่นให้ ทหารกลุ่มลาดตระเวนทางอากาศรับมาผลัดกันใส่ส่องแอนนูร่า แอนนูร่าหันหลังให้เซียนปราบเลียมไปเผชิญหน้า ถอดกางเกงท้าทาย ทหารส่งแว่นต่อๆกันที่ใส่แก้เก้อไปงั้นๆแถมยังต้องจำยอมดูช้างน้อยก่อนคนใกล้สุดส่งคืนเลียมอย่างเจ็บใจ
" เค้าไม่ใช่เจ้าหญิงแอนดันเต้ก็แล้วไป ไปประจำจุดต่อเถอะ " เลียมช่วยแก้ความอิหลักอิเหลื่อของทหาร ซึ่งดูโล่งอกขึ้นรับคำพร้อมเพรียงแข็งขันวิ่งแยกย้ายกันไปประจำหน้าที่ คนที่ยืนมุงก็แยกย้ายไปด้วย คนที่วิ่งกลับเข้าไปเต้นท์ นั่งเล่นหมากรุกต่อ... ว่างจัด
" ไม่หนาวเหรอ " เลียมถามแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าตั้งแต่บ่าจนถึงกางเกงเกี่ยวคาตรงเข่า
" หนาว.... "
" หนาวก็ใส่กางเกงสิ " แอนนูร่าทำตาม
" ไปทำแผลในเต้นท์ตรงนู้น " คนแนะออกตัวเดินเป็นทีท่าชวน
" ไม่เป็นไร แค่ถากๆ " ตาสีฟ้าเหลือบมองรอยธนูเฉี่ยวที่ต้นแขน
" ตามมา "
แอนนูร่ายืนชะงักนิ่ง แต่ก็เดินตามเมื่อคนข้างหน้าเหลือบหันมามอง ชายชื่อเลียมพาเข้าไปในป้อมสังเกตุการณ์ท่าเรือเดิม เปิดกระเป๋าดึงเสื้อลายดอกสดใสกับกางเกงสะบัดแล้วส่งยื่นให้ แอนนูร่ารับมาใส่ หลวมไปนิดทั้งเสื้อและกางเกง
" เรือระเบิดหมดแล้วนี่ ของทุกอย่างอยู่นั่นหมด เดี๋ยวจะพาไปส่ง อยู่เมืองใหน " เลียมจะขี่มังกรของหน่วยลาดตระเวนทางอากาศที่นอนคุ้ยทรายเล่นไปส่งที่เบสเพลสแต่ได้รับคำปฏิเสธ ใช่หนึ่งในตัวที่ตามไล่ล่าเขาในทะเลรึเปล่าไม่รู้ อยากชกหน้ามันจริงๆ
" จะไปรถม้า " ทหารคนหนึ่งออกจากเขตหวงห้ามไปเรียกรถม้าเข้ามาให้ เลียมมองเด็กหนุ่มผมแดง ตาสีฟ้า เขาหนีทหารจากละติจูดที่ทหารรายงาน หลบระเบิด หลบกรงเล็บมังกร หลบห่าธนู ดำนำ้มาจนถึงชายหาดด้วยระยะทางใกลขนาดนั้น... เเต่เขามีแผลถากๆแค่ที่แขน เลียมอยู่ริมหาดเห็นเหตุการณ์พอดี เขาไม่ได้ดูตื่นกลัวเลยตอนขึ้นหาดวิ่งซิกแซกหลบภัยจากเบื้องบน จนถึงตอนถูกรวบจับ แค่เหนื่อยจัดเท่านั้น ยกมือวิ่งพุ่งเข้ามาในค่ายเพราะทหารลาดตระเวนทางอากาศยังไม่หยุดยิง จะเรียกบ้าบิ่นรึไหวพริบดี... ดวงหน้าเขายามนี้นิ่ง ไม่สื่ออารมณ์ แต่ตาสีฟ้ามีความไม่พอใจลุกโชน แม้กระทั่งยามนี้เวลามองหันมองเขาเวลาเขาเอ่ยถาม อาจจะโกรธที่ถูกทหารไล่ต้อนโดยที่ไม่มีความผิดอะไร .. รถม้าแล่นมาจอดนิ่งตรงหน้า เด็กหนุ่มที่เลียมถามชื่อแล้วทำเฉยเปิดประตูขึ้นไปนั่ง เซียนปราบเลียมกำลังจะก้าวตามขึ้นไปส่งด้วยนำ้ใจ.. เพราะเด็กหนุ่มคนนี้มีแต่ตัวเปล่า
" ไม่เป็นไร " หนุ่มผมแดงเอ่ยเบาๆ " ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้า " เท่านั้น ประตูก็ปิดขวางเลียม รถเทียมม้ารับจ้างควบจากไป สำหรับเลียมคล้ายมีตะกอนกวนขุ่น บังเอิญพบหนังสือเล่มนึงแสนตรงใจ เปิดอ่านเพียงไม่กี่หน้ากำลังสนุกแล้วเดินสะดุดจนหนังสือตกไปในโคลนดูดหายต่อหน้าต่อตา คว้าไว้ไม่ทัน
~~~~~\\\~~~~~
เงินก้อนใหญ่หมดไปกับค่ามัดจำเรือ แอนนูร่าคิดทวนเซ็งๆ เสียงแขกเข้า.. แอนนูร่าไม่ได้เงยหน้าจากการเก็บทำความสะอาดคอกหนึ่งที่เจ้าของเพิ่งเช็คเอาท์เอามังกรกลับ เพราะเพื่อนร่วมงานอีกคนรับมังกรสดวกกว่าสภาพงานที่เขาติดพันอยู่
" อัลเบิร์ตรึเปล่า " แอนนูร่าเงยหน้าพรวด ร๊อกจูงมังกรเข้ามา
" ใช่นายจริงๆด้วย ไม่กลับไปบ้างเลยนะ "
" ............. "
" ย้อมผมเหรอ ผมแดงไม่เข้ากับหน้านายเลย ทำให้หน้านายดูน่าเกลียดพิลึก จะย้อมทำไมถ้ามันไม่ได้นายดูหล่อขึ้น " ผมมีผมสีแดงตั้งแต่เกิด ผมดูน่าเกลียดตั้งแต่เกิดเลยงั้นเหรอ....
" เลือกสีอะไรไม่เลือก ไปเลือกสีแดง โคตรขี้เหร่ ทำงานที่นี่เหรอ... ไปเก็บเสื้อผ้าเถอะ โรงเรียนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว เตรียมเอกสารรายละเอียดเอาไว้ให้นายเลือกดูจะเข้าเรียนต่อด้านใหน เสนาธิการก็ดีนะ ทำงานคอกมังกรบริการไม่มีอนาคตหรอก งานคอกมังกรเค้าให้คนแก่เปลดเกษียณทำเเก้เหงา แย่งคนแก่เค้าทำทำไม พักอยู่ใหน " ลุงเจ้าของร้านเดินมา เห็นแอนนูร่านั่งยองๆถือแปรงค้างเงยหน้ามองแขก ไม่ยอมเปิดคอกรับมังกรสักที ส่วนเซียนปราบก็ยืนพูดพล่าม
" มีอะไรให้เรารับใช้เพิ่มเติมใหมครับ คุณเซียนปราบ เอ้า แอนนูร่า เปิดคอกให้แขกสิ " เจ้าของร้านเปิดคอก กุลีกุจอให้บริการจูงมังกรเข้าคอก
" เค้าเป็นน้องชายผม ตอนนี้เค้าพักอยู่ที่ใหนครับ " ร๊อกหันมาพูดกับเจ้าของร้านอย่างสุภาพเเละเอาการเอางาน เจ้าของร้านยิ้มแฉ่ง หันมามองแอนนูร่า...
จากนั้นก็เป็นเรื่องของเซียนปราบกับเจ้าของร้านที่เดินอ้อมหลังคอกไปด้วยกันพลางสนทนากัน แอนนูร่าไม่เกี่ยวด้วยเลย.... ได้แต่เดินอารมณ์ขุ่นตามหลังมา ประตูห้องพักเปิดออก
" อัลเบิร์ต เก็บของเลยนะ " จากนั้นร๊อกก็หันไปพูดกับเจ้าของร้านต่อ
" ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลเขาให้ "
" โอ้ไม่เป็นไรครับ แอนนูร่า หมายถึงอัลเบิร์ตนะครับเค้าขยันขันแข็งดีมาก ฮ่า ฮ่า น่าเสียดาย จากนี้ไปก็กลับไปเรียนซะนะอัลเบิร์ต ถ้าปิดเทอมอยากมาเที่ยวรึมาหาจ็อปทำสนุกๆก็มา "
" แต่ผมยังต้องทำงานใช้ค่าเบิกล่วงหน้าวันนั้นไงครับ ผมยังทำใช้ไม่หมดใช่ใหมครับคุณลุง " แอนนูร่าพูดอย่างใจเย็น ทุกย่างไม่เป็นอย่างที่นายต้องการเสมอไปหรอกร๊อก
" เบิกไปเท่าไหร่ " เจมส์ถาม
" สี่สิบเหรียญทอง ผมยังทำงานใช้คืนไม่ถึงสิบ ผมต้องอยู่ทำงานให้ครบก่อน... " ร๊อกล้วงทองออกมา ยืนนับไวว่องเสร็จแล้วยื่นให้เจ้าของร้าน
" ถ้าอัลเบิร์ตไปตอนนี้ คุณลุงมีคนช่วยงานใช่ใหมครับ "
" มีมี ยังได้อยู่ ตั้งใจเรียนนะอัลเบิร์ต " แล้วเจ้าของร้านก็ขอตัวเมื่อลูกจ้างอีกคนตะโกนเรียกจากคอกมังกรให้ไปคุยกับแขก ทิ้งร๊อกอยู่กับอัลเบิร์ตน้องชายของเขา
อะไรกันเนี่ย ผมตกงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรอ!! ร๊อกกวาดมองห้องอย่างสนอกสนใจ เปิดตู้ หยิบเสื้อที่แอนนูร่าเบิกเงินล่วงหน้าซื้อมา
" เสื้อไว้ที่นี่ดีกว่า เผื่อคนข้างหลังเอาไว้ใช้ใส่ทำงานในคอก ไปได้แล้วอัลเบิร์ต " ร๊อกฉุดแขนอัลเบิร์ตเดินเร็วๆ
" ไม่ถามความสมัครใจผมเลยนะครับ!! " แอนนูร่าเสียงกร้าว กระชากแขนจะหนี แต่ดูเหมือนร๊อกจะไม่สนใจหรือทันใส่ใจเลยด้วยซำ้
" ถ้าขืนถาม นายก็จะทำงานนี่ต่อไปเหมือนปล่อยเวลาไปวันๆไม่มีอนาคตน่ะสิ ก็เลยไม่ถาม เดี๋ยวจะเเวะไปส่งที่บ้าน ฉันต้องไปทำงานก่อน "
เซียนปราบจะไปทำงาน!! เหตุผลที่ทำให้อัลเบิร์ตหุบปากเดินตามแรงดึงแต่โดยดี ชายผมทอง ตาสีเขียวนั่งรอที่โต๊ะกลางศูนย์อาหาร..
เจี๊ยก!
เกลน!!
" ช้าเป็นบ้าเลยว่ะ" เกลนบ่น
"..."
"ลูกพี่ลูกน้องชั้นเอง อัลเบิร์ต"
".."
"มีอะไร" ร๊อกถามเกลนขณะเริ่มซัดอาหารเข้าปาก เพราะเกลนจ้องอัลเบิร์ตนิ่งไป
"หน้าคุ้นๆ.. เราเคยเจอกันมาก่อนใหม"
"ไม่รู้ดิ ผมหน้าโหลนะ" คุ้นต่อไปอ่ะดีแล้ว..
"เฮ้ย ไอ้องครักษ์นี่หว่า" หวาา !
"องครักษ์ใหนครับ"
"แก องครักษ์เจ้าหญิงแอนนี่หว่า"
"เจ้าหญิงแอนใหนครับ"
"ถึงจะย้อมผมก็จำได้เฟ้ย"
ร๊อกหันมามองแอนนูร่า มองผมแอนนูร่า
"ผมแดงนั่นย้อมต่างหาก นี่ผมจริง" แอนนูร่ารีบโหก แต่โอ๊ย การโกหกกลายเป็นยอมรับไปซะ
"แก...!!"
" ผมมาพบคุณลุงร๊อก " คุณพ่อบ้านทำหน้าแปลกใจ
" พบคุณร๊อก จะให้เรียนว่าจากใครขอรับ "
" ผมอัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต ลูกชายคุณฟิลลิป ฮาร์วาร์ต คุณพ่อให้ผมมาที่นี่ "
" โอ ลูกชายคุณท่านฟิลลิป คุณอัลเบิร์ต โตขึ้นเยอะจริงๆ คุณท่านสบายดีใหมขอรับ " แอนนูร่าพูดไม่ออก รู้สึกขากรรไกรแข็งจนปวดร้าว พ่อบ้านเห็นอัลเบิร์ตนิ่งไป
" ขออภัยขอรับที่เสียมารยาท เชิญเข้ามาก่อน " ชายชราสวมสูทสุภาพนำแขกเข้ามาในคฤหาสน์โอ่โถงและสว่างสไว อัลเบิร์ตนั่งรอที่ชุดโซฟาลายกุหลาบสักครู่ อดตกประหม่าไม่ได้กับผู้ปกครองคนใหม่ เด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันเดินลงมาจากบันได ในเครื่องแบบเซียนปราบเต็มยศ เขามีรูปร่างสูงหนา ผมสีดำด้าน ตาสีดำขลับ คิ้วเข้มถอดแบบมาจากอาจารย์ เครื่องแบบเซียนปราบทำให้อัลเบิร์ตตัวเย็นเฉียบ ความรู้สึกคล้ายๆตอนวิ่งฝ่าฝนกลับโรงแรมหลังเลิกชุมนุม ลูกหลานคุณลุงร๊อก
" ผมเอาจดหมายมาส่งให้คุณลุงร๊อก " อัลเบิร์ตยืนขึ้นตอนที่เด็กหนุ่มผู้อ่อนแก่กว่าเขาไม่กี่ปีและคุณพ่อบ้านรั้งท้ายเดินมาใกล้มุมรับแขก บอกจุดประสงค์
" ส่งมาสิ " ลูกคุณลุงยื่นมือขอ
" ผมได้รับกำชับว่าให้คุณร๊อกอ่านเท่านั้น " เด็กหนุ่มผมดำยิ้ม
" ฉันนี่เเหละร๊อก ในตระกูลมีฉันคนเดียวเท่านั้นที่ชื่อร๊อก " ร๊อก ฮาร์วาร์ต เด็กตรงหน้านี่หรือจะมาเป็นผู้ปกครองเขา โกหกน่า คุณพ่อบ้านช่วยยืนยันนอบน้อม" คุณหนู ร๊อก ฮาร์วาร์ต ครับกระผม "
" ในตระกูลฮาร์วาร์ตเหลือครอบครัวคุณลุงฟิลลิปกับฉัน เราสองคน จะมีร๊อกใหนอีก คุณลุงไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอ " ร๊อกรับจดหมายจากอัลเบิร์ตมา อัลเบิร์ตยื่นให้ร่างกายไปโดยอัตโนมัติ เจ้าบ้านทั้งสองทรุดนั่ง ร๊อกแกะซองคลี่จดหมายอ่าน ครู่ใหญ่ก็พับจดหมายลง อัลเบิร์ตไม่มีสัมภาระ มาตัวเปล่า ลี้ภัยกระทันหันเหมือนชาวเมืองมิราฌคนอื่นในข่าว นอกจากคำอวยพรจากคุณลุง ในจดหมายไม่ได้บอกตรงๆ แต่ร๊อกดูจากแววตาสีฟ้าหม่นดุจเมฆที่ยังกลั่นเป็นนำ้ฝนไม่หมดของเด็กลูกพี่ลูกน้องตรงหน้า คุณลุงฟิลลิปจากไปไม่มีวันกลับ
" กว่าจะผ่านด่านจับเจ้าหญิงแอนดันเต้มาได้สินะ คงลำบากน่าดู " ร๊อกเอ่ย อัลเบิร์ตดึงขึ้นสบตาสีดำ ขอบตาร้อนผ่าว และคล้ายมีก้อนจุกแน่นในอก บังเอิญพูดราวกับรู้ใจเขา..
" ไม่ต้องคิดอะไรมากนะอัลเบิร์ต นายจะได้เริ่มต้นใหม่ พี่ต้องรีบไปทำงานก่อน... ไว้กลับมาเราค่อยคุยกันนะ ตั้งแต่นี้ก็พักให้สบาย "
" ครับ ลาก่อน " ลาก่อนจริงๆ อัลเบิร์ตนั่งนิ่งไม่ไหวติง ร๊อกมีรอยยิ้มเปี่ยมไมตรีให้ขณะลุกขึ้นเดินออกไป อัลเบิร์ตขอปากกาพ่อบ้าน พ่อบ้านหยิบปากกาที่เหน็บอกเสื้อส่งให้ ขอตัวขึ้นไปเตรียมห้องให้เขา แต่อัลเบิร์ตปฏิเสธ เด็กหนุ่มเขียนทับบนกระดาษซองจดหมายเปล่า ความจริงที่ว่าอาจารย์ไม่ค่อยกลับมาเซาท์สตาร์ บางทีอาจารย์จะไม่รู้ว่าหลานทำงานอะไร เขายอมให้เด็กรุ่นเดียวกันเป็นผู้ปกครองไม่ได้หรอก แต่เหตุผลแท้จริง เหนืออื่นใด เพราะร๊อกเป็นเซียนปราบ.. เขาลุกขึ้น
" คุณหนูอัลเบิร์ต จะไปใหนครับ "
" ออกจากที่นี่ " อัลเบิร์ตตอบแผ่วเบา
" ออกไปใหนครับ "
" ไปตามทางของฉันไง คุณพ่อบ้าน " อัลเบิร์ตเดินออกมา สุนัขสีขาวปรี่รี่เข้ามาเห่าใส่เอาเป็นเอาตาย
" ทำไมล่ะขอรับ ที่นี่คือบ้านของคุณหนูอีกหลังนะครับ คุณหนูมีพี่อีกคน "
" คุณพ่อของผม อาจารย์ คุณท่านฟิลลิปของคุณพ่อบ้าน ตายแล้วนะครับ " จากสถานการณ์มิราฌ คุณพ่อบ้านเดาได้ตั้งแต่เจมส์เปิดจดหมาย แต่การได้ยินเป็นประโยคตรงๆทำให้ถึงกับผงะ
" ตายเพราะเซียนปราบ... " อัลเบิร์ตเหลียวเหลือบมองคฤหาสน์เพดานสูง สว่างสไวจากแสงแดดอ่อนตกกระทบขอบเฟอร์นิเจอร์ระยิบระยับ
" คุณท่านฟิลลิปไม่เคยยกโทษให้คุณร๊อก แต่คุณอัลเบิร์ตจะให้อภัยคุณหนูเจมส์ได้ใหมขอรับ " อัลเบิร์ตหันมา
" ............ "
"คุณท่านไม่แม้แต่จะพูดถึงคุณร๊อกให้ลูกแท้ๆฟังเลยหรือ " จะพูดได้ไง อัลเบิร์ตตายไปตั้งแต่สองขวบ ทำเสียงเศร้าเชียวคุณพ่อบ้าน
" พอเถอะครับ มันไม่สำคัญกับผมหรอก " แล้วอัลเบิร์ตก็ออกจากคฤหาสน์ฮาร์วาร์ตมา
~~\\\~~
เมืองเบสเพลส
แอนนูร่ามีทองติดก้นกระเป๋าอยู่แบบกระทบกันเกิดเสียงแค่กราวเดียว เขาเข้าไปสมัครงานคอกมังกรบริการที่แขวนป้ายรับสมัครงาน ลุงอ้วนเอามือรูปคางขณะ ลังเลพิจารณารูปร่างที่ค่อนไปทางสูงแต่ไม่ใหญ่ของแอนนูร่า ให้เขาทดลองทำงานที่เขาเห็นทหารสถานีมังกรประจำมิราฌทำตั้งแต่เกิด ยกถังนำ้ไปให้มังกรดื่ม ยกแปรงสูงๆขัดถูหลังมังกร หลอกล่อให้มังกรอ้าปากเพื่อจะแปรงฟันให้มัน กวาดหญ้าเก่าขึ้นรถเข็นสลับกับเข็นรถเอาหญ้ามาทิ้ง ล้างทำความสะอาดคอกหอบฟ่อนฟางใส่รถเข็นเอาไปเปลี่ยน ยกถังนำ้ยาต่างๆเทนำ้ยาลงกระป๋อง เมื่อเขาทำทุกอย่างไหวด้วยท่าทางสบายๆ ลุงเจ้าของก็พยักหน้าตกลงจ้าง แอนนูร่ายิ้มกว้าง ค่าจ้างจ่ายเป็นรายเดือนแต่มีให้เบิก เลี้ยงอาหารฟรีสามมื้อ ที่พักพร้อม งานที่รองรับสภาพเด็กหนุ่มยามนี้ดีที่สุด แอนนูร่าเบิกเงินซื้อเสื้อผ้า ชีวิตเด็กคอกมังกรบริการเริ่มขึ้น ตื่นเช้ารับผลัดมาจากคนดูแลผลัดกลางคืน ดูแลมันจนถึงหกโมงเย็น แอนนูร่าสนุกกับชีวิตอิสระ หลังเลิกงานเขาจะเตร็ดเตร่ไปใหนก็ได้ ตั้งแต่ออกมิราฌจากอลันมา แอนนูร่าก็ไม่ได้คบใครอีก เขาน่าจะหาเพื่อนซักคนแถวๆนี้ คืนนั้นที่เขาอยู่ผลัดกลางคืน เขานอนเล่นในคอกมังกรที่ล้างแล้ว มีเสียงขยับตัวส่งให้เกิดเสียงฟางดังกรอบแกรบ มังกรที่ยังไม่หลับขยับปีกเรื่อยๆทำลายความเงียบเป็นระยะ พระจันทร์ลูกเท่าผลแตง ไม่เหมือนที่มิราฌ ที่นั้นสวยที่สุด สวยกว่าชมที่โรงแรม สวยกว่าดูที่คฤหาสน์คุณท่านแองโกล แอนนูร่านึกขึ้นได้ว่าจะไม่มีโอกาสเห็นพระจันทร์เรือนนั้นตลอดกาล เขาล้วงเข็มทิศวิเศษขึ้นมา หกโมงเช้าเป็นเวลาออกผลัดเขาจะกลับไปเยี่ยมมิราฌ....
วันรุ่งขึ้น แอนนูร่าใช้เวลาอันอิสระนั่งรถม้ารับจ้างไปลงเมืองเล็กๆติดกับมิราฌ เขาเช่าเรือและอุปกรณ์ตกปลาลำหนึ่ง
" ดูทิศให้รอบคอบนะไอ้หนุ่ม อย่าหลงไปฝั่งมิราฌเชียว ถ้าไม่อยากเดือดร้อน " คุณป้าร้านเรือเช่าเตือน แอนนูร่าขอบคุณ
เด็กหนุ่มผมแดงล่องเรือออกจากท่า ใช้เข็มทิศวิเศษแทนเข็มทิศเช่า มาจนถึงจุดที่เห็นฝั่งมิราฌลิบๆ แอนนูร่าจำแนวป้อมปราการมีเอกลักษณ์ได้ ท่าเรือเก่า... เรือหาปลาลำนึงทอดสมอแน่นิ่ง ชายคนเดียวบนเรือกำลังนั่งตกปลา เขาเปลือยท่อนบน ร่างกายกำยำถูกแดดเผาจนเป็นสีคร้าม สวมแว่นกันแดด เบือนใบหน้ามองตามเรือแอนนูร่า แอนนูร่าจ้วงพายพลางมองเข้าไปในกระจกแว่น ไม่เห็นอะไรหลังฟิล์มดำมืด ชายผู้นั้นละความสนใจจากแอนนูร่าไปตกปลาต่อ... แอนนูร่าล่องเรือออกมาใกลจนปราศจากผู้อื่นบนผืนนำ้ เขาแหงนหน้า หรี่ตาจากแสงอาทิตย์อ่อนๆลอดผ่านหมู่เมฆมาต้องหน้า มิราฌอยู่บนนั้น ถ้าเขากล่าวกับเจ้าเข็มทิศวิเศษ มันจะส่งเสียงเขาไปสถานีมังกรประจำเรือเมืองไปสู่ทหารที่นั่งเฝ้าวิทยุ
" เรา เจ้าชายแอนนูร่าจะกลับมิราฌบน ส่งมังกรมารับด้วย "
เข็มทิศพลิกควำ่ค้างไว้ตั้งแต่ก่อนเจอชายนั่งตกปลา.... มันควำ่ลงฟ้องว่าเรือเมืองอยู่ข้างใต้เรือเช่า อยู่เบื้องล่างผืนนำ้.. แอนนูร่าหย่อนกายลงนำ้ ดำดิ่งลงลึกฝ่าผิวนำ้อันเย็นเฉียบ เขากลั้นลมหายใจว่ายลงตำ่ เค้าโครงเรืออันกว้างสุดลูกตาเป็นเงาตะคุ่มอยู่ใต้เท้าลงไปลึกมาก หลังคาเรือเมืองที่เจนตายามมองจากหลังมังกร มีฝูงปลาจิ๋วราวสะเก็ดดาวว่ายออกมาเป็นสาย ลานจอดมังกรของสถานีมังกรแตกยุบเป็นหลุม สีดำใหม้กระจายกว้าง... เหมือนกับหลังคาจุดอื่นๆที่มองจากที่สูงเห็นรอยใหม้คลำ้ รอยแตกท่ามกลางความสลัวทึบของสายนำ้ แอนนูร่าไปต่อไม่ไหวแล้ว เขาต้องการอากาศด่วนที่สุด ก่อนที่หัวเขาจะระเบิดออก เขาว่ายขึ้นหาหลังคานำ้ที่สว่างขึ้น สว่างขึ้น โผล่สู่ผิวนำ้ อ้าปากตะกายเอาอ๊อกซิเจนเข้าอย่างกระหาย ว่ายประคองตัวไม่ให้จม ค่อยๆว่ายไปหาเรือตัวเองที่อยู่ใกลลิบ เกาะกาบเรือ เอามือรีดนำ้ออกจากหน้า สัมผัสผมยาวคลุมหน้าระหัวใหล่กับหลัง แย่แล้ว ผมสีแดงงอกยาวกระจายขนาดนี้ ลืมไปว่าถ้ากลั้นหายใจนานร่างลวงจะทำงาน แอนดันเต้ปีนขึ้นเรือ ค้นกระเป๋าหายาลบร่างลวง โชคดีที่พกมา!! เงามังกรบินผ่านฟ้า ทหารลาดตระเวน แอนดันเต้เงยหน้า ไม่สนุกล่ะสิ เจ้าหญิงแอนดันเต้ในเขตหวงห้ามมิราฌแถมยังมีทหารคุมเต็มพื้นที่... มังกรที่บินผ่านไปวกกลับมา ชลอนิดนึง ทิ้งระเบิดลงมาใส่เรือ แอนดันเต้กระโดดลงนำ้ทันก่อนเรือระเบิดลุกใหม้แบบเฉียดไปเส้นยาแดงผ่าแปด เขาดำหลบซ่อนร่างเจ้าปัญหา มือกำขวดยาโผล่ขึ้นมามังกรตัวเดิมยังบินวนเวียนลดลงเหนือผิวนำ้ ปล่อยระเบิดลูกสองใส่ตำแหน่งที่แอนดันเต้เพิ่งดำหลบลงไป มันระเบิดไปตามหน้าที่มัน
" พบเจ้าหญิงแอนดันเต้ พบเจ้าหญิงแอนดันเต้ บนเรือละติจูดที่ บลา บลา ขณะนี้ดำนำ้หนีไปแล้ว ขอกำลังออกตระเวนค้นหาด่วน ขอยำ้ พบเจ้าหญิงแอนดันเต้... " แอนดันเต้ว่ายนำ้เอาเป็นเอาตาย โผล่ขึ้นมาหายใจเมื่อถึงที่สุดจึงรู้ทันทีว่าน่านเหนือทะเลยามนี้มีมังกรบินว่อน เขาดำลง ห่าธนูพรูทะลุผิวนำ้ลงมาตรงที่เขาโผล่ขึ้นไป ระเบิดที่ปาใส่จากที่สูงตอนที่เขาโผล่เอาอากาศซำ้ยังเล็งผิดทำเขาเจ็บจุกจากแรงดันอัดใต้นำ้ รีบผลุบลึกลงไปอีก มังกรบินโฉบลง ใช้กรงเล็บจะฉวยร่างเขาเหมือนนกโฉบปลาเมื่อเขาบังเอิญโผล่ขึ้นมาใกล้มังกรที่เดาทิศทางเขาได้ เขาดำหลบลงลึก กำขวดยาแน่น นำ้ที่เขาคุ้นชินตั้งแต่เกิด... ยังโผล่กวาดตารอบทิศบนฟ้าและทิวบกข้างหน้ามีทหารหลายนายกลาดเกลื่อน ถ้าใครจับเจ้าหญิงแอนดันเต้ได้ย่อมมีผลงานนำมาซึ่งการเลื่อนขั้น และบำเหน็จรางวัลอย่างงาม แอนดันเต้ไม่โผล่หาอ๊อกซิเจนอีกให้ทหารลาดตระเวนเดาทิศทางได้ ดำไปทางแนวหินโสโครกที่นำ้เริ่มตื้นขึ้น เข้าหลบหลังโขดหิน ควบคุมลมหายใจให้สมำ่เสมอ กินยารวดเดียวหมดขวด นิ่งรอสักพััก แอนนูร่ากลับมา เขาว่ายโผล่หัวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ลมหายใจขาดห้วงตรงสู่หาด มังกรลาดตระเวนพบเขาโดยง่ายเพราะเขาโชว์หัวตลอดตามมาไล่บี้ต่อ เขาวิ่งขึ้นฝั่งพลางยกมือขึ้นให้เห็นใกลๆ แอนนูร่่ากระโดดหลบระเบิด ห่าธนูระดมยิงใส่อย่างเอาเป็นเอาตายจากเบื้องบน วิ่งสลับฟันปลาทิ้งลูกธนูปักผืนทรายตลอดทางจนทหารข้างล่างต้องส่งสัญญาณกลัวโดนพวกเดียวกันเพราะแอนนูร่าวิ่งอย่างเร็วเอาตัวปะปนเข้าไปในค่ายพลางยกมือขึ้นสูงสองข้าง หลายคนกระโดดเข้ามารุมรวบจับเขาไว้
" ไปตามคุณเลียมเร็ว เราจับเจ้าหญิงแอนดันเต้ได้แล้ว " หนึ่งในคนที่รุมจับคุมตัวเขาไว้ร้องบอกพรรคพวกข้างหลัง รอไม่นานเลย ชายผมดำปรากฎกาย ฝูงทหารแตกฮือ ตะเบ๊ะทำความเคารพ เขาคือคนที่นั่งตกปลาบนหลังคาบ้านคนอื่น
" คนนี้แน่เหรอ เขาคือผู้ชายนี่ "
" อยู่ๆพวกคุณก็ระเบิดเรือผม ทิ้งระเบิดใส่ ยิงธนูใส่ จนผมต้องว่ายเข้าฝั่ง นี่ยังตามมายิงกันอีก... "
" แต่เราได้รับแจ้งว่าพบเจ้าหญิงแอนดันเต้บนเรือจริง ระบุพิกัดด้วย " หนึ่งในทหารที่เพิ่งลงจากหลังมังกรตะเบ๊ะ รายงาน
" เอ่อ ผมเห็นกับตา "
" เราตามมาติดๆ ตอนที่เขาโผล่ขึ้นมาหายใจ จนเขาขึ้นฝั่ง เราเห็นหัวแดงๆของเขามีผมยาวเฟื้อยจริงๆ " อีกคนพูดท่าทางไม่มั่นใจแล้ว แต่ก็ยังฝืนพูดเพราะเชื่อว่าหลายคนต้องเห็นเหมือนกันเลยตามเป็นพรวน
" ผมเป็นผู้ชาย ถ้าพวกคุณยังตาฝาดเห็นนมอึ๋มๆบนอกผม " แอนนูร่าถอดเสื้อออกโชว์แผงอกขาว ทหารอึกอัก
" ทำไมแกไม่ส่งสัญญาณว่าไม่ใช่ล่ะ โบกไม้โบกมือตั้งแต่บนเรือก็ได้ "
" โห ผมยังรักตัวกลัวตายนะครับ พวกคุณคงให้จังหวะผมหรอก จู่ๆก็ระเบิดเรือผม ถ้าผมมัวโบกมือให้คุณป่านนี้ผมเป็นผีไปแล้ว " ทหารพูดไม่ออกเพราะมันเป็นเรื่องจริง พอรู้ว่าเจ้าหญิงโผล่มาก็ออกปฏิบัติการล่าอย่างเอาเป็นเอาตายเนื่องจากกลัวพลาด และตอนนี้ก็รู้สึกเสียหน้าที่ตื่นตูมราวกับไม่ใช่มืออาชีพต่อหน้าผู้บังคับบัญชา บรรยากาศอิหลักเหลื่อและเคร่งเครียด
" แกเข้ามาทำไม ไม่ได้ยินโองการเรอะว่ามิราฌเป็นเขตต้องห้าม "
" เห็นเขายังจอดเรือตกปลาได้ ผมก็เลยนึกว่าไม่เป็นไร เลยเข้ามาจับปลาด้วย " แอนนูร่าบุ้ยนิ้วโป้งไปทางเลียม
" คุณเลียมเป็นเซียนปราบ เป็นผู้บังคับบัญชาเรา " อีกแล้ว!! เกลียดเซียนปราบ พักนี้เจอแต่เซียนปราบ
" คุณเลียมครับ ผมกลัวว่าเจ้าหญิงแอนดันเต้เป็นปิศาจแปลงกายก็ได้ คุณเลียมลองสวมแว่นดูได้ใหมครับ " ทหารหนึ่งในคนที่ลงจากหลังมังกรแนะขึ้นอย่างเกรงๆ เขาคือคนที่เห็นแอนดันเต้ผมยาวบนเรือกับตา คนชื่อเลียมถอดแว่นที่คาดผมยื่นให้ ทหารกลุ่มลาดตระเวนทางอากาศรับมาผลัดกันใส่ส่องแอนนูร่า แอนนูร่าหันหลังให้เซียนปราบเลียมไปเผชิญหน้า ถอดกางเกงท้าทาย ทหารส่งแว่นต่อๆกันที่ใส่แก้เก้อไปงั้นๆแถมยังต้องจำยอมดูช้างน้อยก่อนคนใกล้สุดส่งคืนเลียมอย่างเจ็บใจ
" เค้าไม่ใช่เจ้าหญิงแอนดันเต้ก็แล้วไป ไปประจำจุดต่อเถอะ " เลียมช่วยแก้ความอิหลักอิเหลื่อของทหาร ซึ่งดูโล่งอกขึ้นรับคำพร้อมเพรียงแข็งขันวิ่งแยกย้ายกันไปประจำหน้าที่ คนที่ยืนมุงก็แยกย้ายไปด้วย คนที่วิ่งกลับเข้าไปเต้นท์ นั่งเล่นหมากรุกต่อ... ว่างจัด
" ไม่หนาวเหรอ " เลียมถามแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าตั้งแต่บ่าจนถึงกางเกงเกี่ยวคาตรงเข่า
" หนาว.... "
" หนาวก็ใส่กางเกงสิ " แอนนูร่าทำตาม
" ไปทำแผลในเต้นท์ตรงนู้น " คนแนะออกตัวเดินเป็นทีท่าชวน
" ไม่เป็นไร แค่ถากๆ " ตาสีฟ้าเหลือบมองรอยธนูเฉี่ยวที่ต้นแขน
" ตามมา "
แอนนูร่ายืนชะงักนิ่ง แต่ก็เดินตามเมื่อคนข้างหน้าเหลือบหันมามอง ชายชื่อเลียมพาเข้าไปในป้อมสังเกตุการณ์ท่าเรือเดิม เปิดกระเป๋าดึงเสื้อลายดอกสดใสกับกางเกงสะบัดแล้วส่งยื่นให้ แอนนูร่ารับมาใส่ หลวมไปนิดทั้งเสื้อและกางเกง
" เรือระเบิดหมดแล้วนี่ ของทุกอย่างอยู่นั่นหมด เดี๋ยวจะพาไปส่ง อยู่เมืองใหน " เลียมจะขี่มังกรของหน่วยลาดตระเวนทางอากาศที่นอนคุ้ยทรายเล่นไปส่งที่เบสเพลสแต่ได้รับคำปฏิเสธ ใช่หนึ่งในตัวที่ตามไล่ล่าเขาในทะเลรึเปล่าไม่รู้ อยากชกหน้ามันจริงๆ
" จะไปรถม้า " ทหารคนหนึ่งออกจากเขตหวงห้ามไปเรียกรถม้าเข้ามาให้ เลียมมองเด็กหนุ่มผมแดง ตาสีฟ้า เขาหนีทหารจากละติจูดที่ทหารรายงาน หลบระเบิด หลบกรงเล็บมังกร หลบห่าธนู ดำนำ้มาจนถึงชายหาดด้วยระยะทางใกลขนาดนั้น... เเต่เขามีแผลถากๆแค่ที่แขน เลียมอยู่ริมหาดเห็นเหตุการณ์พอดี เขาไม่ได้ดูตื่นกลัวเลยตอนขึ้นหาดวิ่งซิกแซกหลบภัยจากเบื้องบน จนถึงตอนถูกรวบจับ แค่เหนื่อยจัดเท่านั้น ยกมือวิ่งพุ่งเข้ามาในค่ายเพราะทหารลาดตระเวนทางอากาศยังไม่หยุดยิง จะเรียกบ้าบิ่นรึไหวพริบดี... ดวงหน้าเขายามนี้นิ่ง ไม่สื่ออารมณ์ แต่ตาสีฟ้ามีความไม่พอใจลุกโชน แม้กระทั่งยามนี้เวลามองหันมองเขาเวลาเขาเอ่ยถาม อาจจะโกรธที่ถูกทหารไล่ต้อนโดยที่ไม่มีความผิดอะไร .. รถม้าแล่นมาจอดนิ่งตรงหน้า เด็กหนุ่มที่เลียมถามชื่อแล้วทำเฉยเปิดประตูขึ้นไปนั่ง เซียนปราบเลียมกำลังจะก้าวตามขึ้นไปส่งด้วยนำ้ใจ.. เพราะเด็กหนุ่มคนนี้มีแต่ตัวเปล่า
" ไม่เป็นไร " หนุ่มผมแดงเอ่ยเบาๆ " ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้า " เท่านั้น ประตูก็ปิดขวางเลียม รถเทียมม้ารับจ้างควบจากไป สำหรับเลียมคล้ายมีตะกอนกวนขุ่น บังเอิญพบหนังสือเล่มนึงแสนตรงใจ เปิดอ่านเพียงไม่กี่หน้ากำลังสนุกแล้วเดินสะดุดจนหนังสือตกไปในโคลนดูดหายต่อหน้าต่อตา คว้าไว้ไม่ทัน
~~~~~\\\~~~~~
เงินก้อนใหญ่หมดไปกับค่ามัดจำเรือ แอนนูร่าคิดทวนเซ็งๆ เสียงแขกเข้า.. แอนนูร่าไม่ได้เงยหน้าจากการเก็บทำความสะอาดคอกหนึ่งที่เจ้าของเพิ่งเช็คเอาท์เอามังกรกลับ เพราะเพื่อนร่วมงานอีกคนรับมังกรสดวกกว่าสภาพงานที่เขาติดพันอยู่
" อัลเบิร์ตรึเปล่า " แอนนูร่าเงยหน้าพรวด ร๊อกจูงมังกรเข้ามา
" ใช่นายจริงๆด้วย ไม่กลับไปบ้างเลยนะ "
" ............. "
" ย้อมผมเหรอ ผมแดงไม่เข้ากับหน้านายเลย ทำให้หน้านายดูน่าเกลียดพิลึก จะย้อมทำไมถ้ามันไม่ได้นายดูหล่อขึ้น " ผมมีผมสีแดงตั้งแต่เกิด ผมดูน่าเกลียดตั้งแต่เกิดเลยงั้นเหรอ....
" เลือกสีอะไรไม่เลือก ไปเลือกสีแดง โคตรขี้เหร่ ทำงานที่นี่เหรอ... ไปเก็บเสื้อผ้าเถอะ โรงเรียนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว เตรียมเอกสารรายละเอียดเอาไว้ให้นายเลือกดูจะเข้าเรียนต่อด้านใหน เสนาธิการก็ดีนะ ทำงานคอกมังกรบริการไม่มีอนาคตหรอก งานคอกมังกรเค้าให้คนแก่เปลดเกษียณทำเเก้เหงา แย่งคนแก่เค้าทำทำไม พักอยู่ใหน " ลุงเจ้าของร้านเดินมา เห็นแอนนูร่านั่งยองๆถือแปรงค้างเงยหน้ามองแขก ไม่ยอมเปิดคอกรับมังกรสักที ส่วนเซียนปราบก็ยืนพูดพล่าม
" มีอะไรให้เรารับใช้เพิ่มเติมใหมครับ คุณเซียนปราบ เอ้า แอนนูร่า เปิดคอกให้แขกสิ " เจ้าของร้านเปิดคอก กุลีกุจอให้บริการจูงมังกรเข้าคอก
" เค้าเป็นน้องชายผม ตอนนี้เค้าพักอยู่ที่ใหนครับ " ร๊อกหันมาพูดกับเจ้าของร้านอย่างสุภาพเเละเอาการเอางาน เจ้าของร้านยิ้มแฉ่ง หันมามองแอนนูร่า...
จากนั้นก็เป็นเรื่องของเซียนปราบกับเจ้าของร้านที่เดินอ้อมหลังคอกไปด้วยกันพลางสนทนากัน แอนนูร่าไม่เกี่ยวด้วยเลย.... ได้แต่เดินอารมณ์ขุ่นตามหลังมา ประตูห้องพักเปิดออก
" อัลเบิร์ต เก็บของเลยนะ " จากนั้นร๊อกก็หันไปพูดกับเจ้าของร้านต่อ
" ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลเขาให้ "
" โอ้ไม่เป็นไรครับ แอนนูร่า หมายถึงอัลเบิร์ตนะครับเค้าขยันขันแข็งดีมาก ฮ่า ฮ่า น่าเสียดาย จากนี้ไปก็กลับไปเรียนซะนะอัลเบิร์ต ถ้าปิดเทอมอยากมาเที่ยวรึมาหาจ็อปทำสนุกๆก็มา "
" แต่ผมยังต้องทำงานใช้ค่าเบิกล่วงหน้าวันนั้นไงครับ ผมยังทำใช้ไม่หมดใช่ใหมครับคุณลุง " แอนนูร่าพูดอย่างใจเย็น ทุกย่างไม่เป็นอย่างที่นายต้องการเสมอไปหรอกร๊อก
" เบิกไปเท่าไหร่ " เจมส์ถาม
" สี่สิบเหรียญทอง ผมยังทำงานใช้คืนไม่ถึงสิบ ผมต้องอยู่ทำงานให้ครบก่อน... " ร๊อกล้วงทองออกมา ยืนนับไวว่องเสร็จแล้วยื่นให้เจ้าของร้าน
" ถ้าอัลเบิร์ตไปตอนนี้ คุณลุงมีคนช่วยงานใช่ใหมครับ "
" มีมี ยังได้อยู่ ตั้งใจเรียนนะอัลเบิร์ต " แล้วเจ้าของร้านก็ขอตัวเมื่อลูกจ้างอีกคนตะโกนเรียกจากคอกมังกรให้ไปคุยกับแขก ทิ้งร๊อกอยู่กับอัลเบิร์ตน้องชายของเขา
อะไรกันเนี่ย ผมตกงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรอ!! ร๊อกกวาดมองห้องอย่างสนอกสนใจ เปิดตู้ หยิบเสื้อที่แอนนูร่าเบิกเงินล่วงหน้าซื้อมา
" เสื้อไว้ที่นี่ดีกว่า เผื่อคนข้างหลังเอาไว้ใช้ใส่ทำงานในคอก ไปได้แล้วอัลเบิร์ต " ร๊อกฉุดแขนอัลเบิร์ตเดินเร็วๆ
" ไม่ถามความสมัครใจผมเลยนะครับ!! " แอนนูร่าเสียงกร้าว กระชากแขนจะหนี แต่ดูเหมือนร๊อกจะไม่สนใจหรือทันใส่ใจเลยด้วยซำ้
" ถ้าขืนถาม นายก็จะทำงานนี่ต่อไปเหมือนปล่อยเวลาไปวันๆไม่มีอนาคตน่ะสิ ก็เลยไม่ถาม เดี๋ยวจะเเวะไปส่งที่บ้าน ฉันต้องไปทำงานก่อน "
เซียนปราบจะไปทำงาน!! เหตุผลที่ทำให้อัลเบิร์ตหุบปากเดินตามแรงดึงแต่โดยดี ชายผมทอง ตาสีเขียวนั่งรอที่โต๊ะกลางศูนย์อาหาร..
เจี๊ยก!
เกลน!!
" ช้าเป็นบ้าเลยว่ะ" เกลนบ่น
"..."
"ลูกพี่ลูกน้องชั้นเอง อัลเบิร์ต"
".."
"มีอะไร" ร๊อกถามเกลนขณะเริ่มซัดอาหารเข้าปาก เพราะเกลนจ้องอัลเบิร์ตนิ่งไป
"หน้าคุ้นๆ.. เราเคยเจอกันมาก่อนใหม"
"ไม่รู้ดิ ผมหน้าโหลนะ" คุ้นต่อไปอ่ะดีแล้ว..
"เฮ้ย ไอ้องครักษ์นี่หว่า" หวาา !
"องครักษ์ใหนครับ"
"แก องครักษ์เจ้าหญิงแอนนี่หว่า"
"เจ้าหญิงแอนใหนครับ"
"ถึงจะย้อมผมก็จำได้เฟ้ย"
ร๊อกหันมามองแอนนูร่า มองผมแอนนูร่า
"ผมแดงนั่นย้อมต่างหาก นี่ผมจริง" แอนนูร่ารีบโหก แต่โอ๊ย การโกหกกลายเป็นยอมรับไปซะ
"แก...!!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ