โสเภณีพรหมจรรย์
9.1
เขียนโดย tan_yong
วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.29 น.
9 ตอน
21 วิจารณ์
20.19K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) หนทางที่เปลี่ยนชีวิต 50%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ รถเข็นคันเก่าค่อนข้างซอมซ่อถูกนำมาใช้งานอีกครั้ง พิมมาดาเดินขายไอติมไปทั่วบริเวณไม่ว่าจะเป็นแถบชานเมืองจนตอนนี้เธอเริ่มเข้ามาในตัวเมืองแล้ว แสงศรีสิวิไลที่สวยงามนั้นทำให้พิมมาดาถึงกับอยากที่จะกลับบ้านไปหาพี่สาวที่นอนป่วยอยู่ เธอไม่ชอบสถานที่แบบนี้เลยจริงๆเธอยอมกลับไปอยู่บ้านเช่าเท่ารูหนูของเธอกับพี่สาวยังจะดีกว่า ร่างบางหยุดชะงักหน้าผับแห่งหนึ่งติดป้ายประกาศไว้ว่า’รับสมัครพนักงานล้างจาน’ พลันสมองของเธอก็สั่งการทันทีให้เดินไปที่นั่น
นี่อาจเป็นทางหนึ่งที่ช่วยพี่พลอยหาเงินด้วยก็ได้ คิดได้ดังนั้นขาทั้งสองข้างก็ก้าวเข้าไปยังในร้านทันที
พลอยลัดดาตื่นขึ้นมากลางดึกรู้สึกปวดที่หัวตึบๆใบหน้าหวานปรับม่านตาให้กว้างขึ้นพยายามหาร่างของน้องสาวแต่ก็ไร้เงา หัวใจเริ่มเต้นแรงขออย่าให้น้องเธอโดนทำอะไรอย่างที่เธอคิดเลยเพียงเท่านี้เธอก็จะแย่อยู่แล้ว ถ้าเกิดน้องสาวของเธอเป็นอะไรไปเธอจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองเด็ดขาด พยุงตัวเองเพื่อเดินไปเปิดไฟมองนาฬิกาเรื่อนเล็กราคาไม่ถึงร้อยบาทบอกเวลาสามทุ่ม
เรายังไม่กลับมาอีกหรอพิมรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง ไม่รอช้ารีบเดินออกจากบ้านปิดประตูบ้านเช่าให้เรียบร้อยแล้วเดินไปเคาะประตูของคนข้างบ้านอย่างรีบร้อน
ก๊อกๆๆๆก๊อกๆๆๆ!
เสียงเคาะประตูที่รัวใส่หลายครั้งส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในห้วงของนิทราลุกออกมาเปิดประตู นึกโมโหคนเคาะประตูอยู่ข้างนอกเวลานี้มันเป็นเวลาของการหลับใหลเข้าสู่ฝันหวาน แต่ไฉนถึงมาเคาะประตูบ้านคนอื่นเวลานี้
‘’พี่เอกคะ พี่เอก! ช่วยด้วยค่ะ’’ เมื่อร่างของเอกพจน์โผล่ออกมาพลอยลัดดาก็รีบเรียกของความช่วยเหลืออย่างลุกลี้ลุกลน ไม่ต่างกับเจ้าของชื่อที่เพียงได้ยินเสียงหวานเรียกเท่านั้นความโมโหก็หายไปเสีย
‘’ใจเย็นๆพลอยมีอะไรค่อยๆพูดก็ได้’’
‘’ยัยพิมค่ะยัยพิม!ยังไม่กลับบ้านเลยค่ะ พลอยยเป็นห่วงพิมเหลือเกิน’’ พูดราวกับจะร้องไห้ชายหนุ่มได้แต่ทำหน้าฉงนพิมมาดานะเหรอที่จะไม่กลับบ้าน
‘’ทำไมพิมถึงยังไม่กลับล่ะนี่มันสามทุ่มแล้วนะพระเจ้า!’’ มองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วก็ทำตาโตไม่นึกคิดว่าพิมมาดาน้องสาวของพลอยลัดดาจะทำตัวแบบนี้
‘’คือเมื่อเย็นพลอยปวดหัวพิมเลยอาสาไปขายไอติมแทน พลอยโมโหตัวเองจริงๆที่ปล่อยพิมไป’’ หญิงสาวหน้าสลดรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาตงิดๆที่ปล่อยน้องสาวไป
‘’พลอยไม่ต้องห่วงนะพี่ว่าเราไปตามหากันเถอะ’’ พูดจบก็เดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์แล้วพาร่างซ้อนท้ายเพื่อตามหาพิมมาดาน้องสาวของเธอ
เอกพจน์ เป็นตำรวจวัยยี่สิบเจ็ดปี เขาเพิ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาประจำการที่กรุงเทพ เขาเองก็รู้จักพลอยลัดดาได้ไม่นานเพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่แต่พลอยลัดดากับน้องสาวได้อยู่กันก่อนแล้ว เขาจึงได้รู้จักกับสองพี่น้องคู่นี้ เพียงแค่ได้เห็นหน้าของพลอยลัดดาเพียงครั้งแรกเขาก็หลงรักเธอทันทีเคยบอกความในใจกับเธอไปหลายครั้งแต่มีเพียงเขาแค่ฝ่ายเดียวกระมังที่รู้สึกดีเนื่องจากอีกฝ่ายไม่คิดอะไรกับเขาเลยนอกจากพี่น้อง
ดวงตาหวานมองหาน้องสาวไม่วางตาในใจก็ร้อนรุ่มป่านนี้น้องสาวของเธอจะเป็นอะไรบ้างก็ไม่รู้ สักพักเธอก็เห็นรถเห็นรถเข็นที่ใกล้พังของเธอจอดอยู่หน้าผับแห่งหนึ่ง รับสั่งให้คนขับรถหยุดรถทันทีแล้วรับเดินไปหารถเข็นคันนั้น ใช่จริงๆด้วยเธอคิดไว้แล้วไม่มีผิด น้องสาวเธอต้องถูกหลอกไปทำงานในผับนั่นแน่ๆ คิดแล้วก็น้ำตาคลอเบ้าความห่วงหาเอื้ออาทรมันมีล้นเหลืออยากจะเข้าไปหาน้องสาวในนั้นแต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อเธอแพ้กลิ่นของแอลกอฮอล์กับกลิ่นบุหรี่ อีกอย่างถ้าเธอเข้าไปแล้วไปโทษผับนี้ว่าล่อลวงน้องสาวเธอมาทำงานทั้งที่ไม่เป็นจริง เธอจะไม่โดนตำรวจจับเนื่องจากให้ความเท็จหรอกหรือ
คำถามร้อยแปดประการเก้ายังวนเวียนอยู่ในหัวสมองเจ็บแปล๊บที่หัวใจเหมือนมีอะไรมาตัดมันออกเป็นสองส่วน
‘’พลอยแน่ใจนะว่าพิมมาทำงานที่นี่’’ เอกพจน์ถามแต่เขาก็ดูออกว่าที่หญิงสาวเป็นแบบนี้เพราะอะไร แต่เพื่อต้องการความแน่ใจเขาจึงต้องถาม
‘’พลอยก็ไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกค่ะ’’ ตอบกลับเสียงเบา
‘’พรุ่งนี้พี่จะส่งคนมาตรวจดูให้ เพราะถ้าทำวันนี้เหมือนกับว่าเราบุกรุก’’
‘’ขอบคุณพี่เอกมากนะคะ ที่คอยช่วยเหลือพลอยเสมอมา’’ พูดจบก็โผกอดร่างสูงเหมือนต้องการที่ยึดเหนี่ยว
‘’เพื่อคนที่พี่รักพี่ย่อมทำได้เสมอ...’’ พูดออกไปเพื่อต้องการให้คนฟังได้ยิน เขาไม่อยากเห็นคนที่รักต้องเสียใจ ร้องไห้ทุกครั้ง ความฝันที่อยากได้หญิงสาวมาเป็นผู้ร่วมชายคาก็คงเป็นได้แค่ฝันดังเดิม
‘’พี่เอกพูดว่าอะไรนะคะ? พลอยได้ยินไม่ถนัด’’ ผละออกจากร่างสูงแล้วถาม
‘’เปล่าหรอก! พี่แค่บอกว่ายุงกัดน่ะ’’ ตอบอย่างขอไปที ข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิดทำให้พลอยลัดดายิ้มออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว รอยยยิ้มของเธอทำให้เอกพจน์ตาพร่ามัวไปชั่วขณะเธอช่างวิเศษสำหรับเขาเหลือเกิน
‘’ฮ่าๆพี่เอกตลกนะคะ ไปกันเถอะค่ะกลับบ้านกัน พลอยจะไปรอพิมที่บ้านเผื่อว่าพิมจะกลับมา’’ พูดอย่างมีความหวังก่อนที่ร่างสูงจะพาไปที่รถแล้วขี่กลับบ้านเพื่อรอพิมมาดากลับมา
นี่อาจเป็นทางหนึ่งที่ช่วยพี่พลอยหาเงินด้วยก็ได้ คิดได้ดังนั้นขาทั้งสองข้างก็ก้าวเข้าไปยังในร้านทันที
พลอยลัดดาตื่นขึ้นมากลางดึกรู้สึกปวดที่หัวตึบๆใบหน้าหวานปรับม่านตาให้กว้างขึ้นพยายามหาร่างของน้องสาวแต่ก็ไร้เงา หัวใจเริ่มเต้นแรงขออย่าให้น้องเธอโดนทำอะไรอย่างที่เธอคิดเลยเพียงเท่านี้เธอก็จะแย่อยู่แล้ว ถ้าเกิดน้องสาวของเธอเป็นอะไรไปเธอจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองเด็ดขาด พยุงตัวเองเพื่อเดินไปเปิดไฟมองนาฬิกาเรื่อนเล็กราคาไม่ถึงร้อยบาทบอกเวลาสามทุ่ม
เรายังไม่กลับมาอีกหรอพิมรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง ไม่รอช้ารีบเดินออกจากบ้านปิดประตูบ้านเช่าให้เรียบร้อยแล้วเดินไปเคาะประตูของคนข้างบ้านอย่างรีบร้อน
ก๊อกๆๆๆก๊อกๆๆๆ!
เสียงเคาะประตูที่รัวใส่หลายครั้งส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในห้วงของนิทราลุกออกมาเปิดประตู นึกโมโหคนเคาะประตูอยู่ข้างนอกเวลานี้มันเป็นเวลาของการหลับใหลเข้าสู่ฝันหวาน แต่ไฉนถึงมาเคาะประตูบ้านคนอื่นเวลานี้
‘’พี่เอกคะ พี่เอก! ช่วยด้วยค่ะ’’ เมื่อร่างของเอกพจน์โผล่ออกมาพลอยลัดดาก็รีบเรียกของความช่วยเหลืออย่างลุกลี้ลุกลน ไม่ต่างกับเจ้าของชื่อที่เพียงได้ยินเสียงหวานเรียกเท่านั้นความโมโหก็หายไปเสีย
‘’ใจเย็นๆพลอยมีอะไรค่อยๆพูดก็ได้’’
‘’ยัยพิมค่ะยัยพิม!ยังไม่กลับบ้านเลยค่ะ พลอยยเป็นห่วงพิมเหลือเกิน’’ พูดราวกับจะร้องไห้ชายหนุ่มได้แต่ทำหน้าฉงนพิมมาดานะเหรอที่จะไม่กลับบ้าน
‘’ทำไมพิมถึงยังไม่กลับล่ะนี่มันสามทุ่มแล้วนะพระเจ้า!’’ มองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วก็ทำตาโตไม่นึกคิดว่าพิมมาดาน้องสาวของพลอยลัดดาจะทำตัวแบบนี้
‘’คือเมื่อเย็นพลอยปวดหัวพิมเลยอาสาไปขายไอติมแทน พลอยโมโหตัวเองจริงๆที่ปล่อยพิมไป’’ หญิงสาวหน้าสลดรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาตงิดๆที่ปล่อยน้องสาวไป
‘’พลอยไม่ต้องห่วงนะพี่ว่าเราไปตามหากันเถอะ’’ พูดจบก็เดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์แล้วพาร่างซ้อนท้ายเพื่อตามหาพิมมาดาน้องสาวของเธอ
เอกพจน์ เป็นตำรวจวัยยี่สิบเจ็ดปี เขาเพิ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาประจำการที่กรุงเทพ เขาเองก็รู้จักพลอยลัดดาได้ไม่นานเพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่แต่พลอยลัดดากับน้องสาวได้อยู่กันก่อนแล้ว เขาจึงได้รู้จักกับสองพี่น้องคู่นี้ เพียงแค่ได้เห็นหน้าของพลอยลัดดาเพียงครั้งแรกเขาก็หลงรักเธอทันทีเคยบอกความในใจกับเธอไปหลายครั้งแต่มีเพียงเขาแค่ฝ่ายเดียวกระมังที่รู้สึกดีเนื่องจากอีกฝ่ายไม่คิดอะไรกับเขาเลยนอกจากพี่น้อง
ดวงตาหวานมองหาน้องสาวไม่วางตาในใจก็ร้อนรุ่มป่านนี้น้องสาวของเธอจะเป็นอะไรบ้างก็ไม่รู้ สักพักเธอก็เห็นรถเห็นรถเข็นที่ใกล้พังของเธอจอดอยู่หน้าผับแห่งหนึ่ง รับสั่งให้คนขับรถหยุดรถทันทีแล้วรับเดินไปหารถเข็นคันนั้น ใช่จริงๆด้วยเธอคิดไว้แล้วไม่มีผิด น้องสาวเธอต้องถูกหลอกไปทำงานในผับนั่นแน่ๆ คิดแล้วก็น้ำตาคลอเบ้าความห่วงหาเอื้ออาทรมันมีล้นเหลืออยากจะเข้าไปหาน้องสาวในนั้นแต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อเธอแพ้กลิ่นของแอลกอฮอล์กับกลิ่นบุหรี่ อีกอย่างถ้าเธอเข้าไปแล้วไปโทษผับนี้ว่าล่อลวงน้องสาวเธอมาทำงานทั้งที่ไม่เป็นจริง เธอจะไม่โดนตำรวจจับเนื่องจากให้ความเท็จหรอกหรือ
คำถามร้อยแปดประการเก้ายังวนเวียนอยู่ในหัวสมองเจ็บแปล๊บที่หัวใจเหมือนมีอะไรมาตัดมันออกเป็นสองส่วน
‘’พลอยแน่ใจนะว่าพิมมาทำงานที่นี่’’ เอกพจน์ถามแต่เขาก็ดูออกว่าที่หญิงสาวเป็นแบบนี้เพราะอะไร แต่เพื่อต้องการความแน่ใจเขาจึงต้องถาม
‘’พลอยก็ไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกค่ะ’’ ตอบกลับเสียงเบา
‘’พรุ่งนี้พี่จะส่งคนมาตรวจดูให้ เพราะถ้าทำวันนี้เหมือนกับว่าเราบุกรุก’’
‘’ขอบคุณพี่เอกมากนะคะ ที่คอยช่วยเหลือพลอยเสมอมา’’ พูดจบก็โผกอดร่างสูงเหมือนต้องการที่ยึดเหนี่ยว
‘’เพื่อคนที่พี่รักพี่ย่อมทำได้เสมอ...’’ พูดออกไปเพื่อต้องการให้คนฟังได้ยิน เขาไม่อยากเห็นคนที่รักต้องเสียใจ ร้องไห้ทุกครั้ง ความฝันที่อยากได้หญิงสาวมาเป็นผู้ร่วมชายคาก็คงเป็นได้แค่ฝันดังเดิม
‘’พี่เอกพูดว่าอะไรนะคะ? พลอยได้ยินไม่ถนัด’’ ผละออกจากร่างสูงแล้วถาม
‘’เปล่าหรอก! พี่แค่บอกว่ายุงกัดน่ะ’’ ตอบอย่างขอไปที ข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิดทำให้พลอยลัดดายิ้มออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว รอยยยิ้มของเธอทำให้เอกพจน์ตาพร่ามัวไปชั่วขณะเธอช่างวิเศษสำหรับเขาเหลือเกิน
‘’ฮ่าๆพี่เอกตลกนะคะ ไปกันเถอะค่ะกลับบ้านกัน พลอยจะไปรอพิมที่บ้านเผื่อว่าพิมจะกลับมา’’ พูดอย่างมีความหวังก่อนที่ร่างสูงจะพาไปที่รถแล้วขี่กลับบ้านเพื่อรอพิมมาดากลับมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ