Dark Blood กระชากหัวใจนายซาตาน
9.7
เขียนโดย Cannon
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.18 น.
10 ตอน
5 วิจารณ์
14.83K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556 21.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เอเธนส์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสายตาคู่นั้นยังคงจ้องตรงมาที่ฉันก่อนที่เจ้าตัวจะคลี่ยิ้มที่มุมปาก
"ก็คงไม่แปลก เพราะผมพึ่งย้ายมาจากที่อันแสนไกล 'เอเธนส์' ผมพอใจให้คุณเรียกผมด้วยชื่อนั้น"
เอเธนส์ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าทรงเสน่ห์ตอบกลับฉันด้วยน้ำเสียงสบาย ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมาที่ฉันอย่างไม่ลดละ
ฉันรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่ออกมาจากชายคนนี้ เอ่อ จริงสิฉันต้องแนะนำตัวเอง
"อริสค่ะ อริส เอดิสัน"
"ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราเจอกันนะครับ"
เขาพูดแล้วส่งยิ้มให้ฉันก่อนที่จะลุกพรวดออกไป รอยยิ้มนั่นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโดนสะกดจิต
ฉันสะบัดศรีษะเพื่อเรียกสติที่กระจัดกระจายให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
ในที่สุดการเรียนในวันนี้ก็จบลง ฉันตั้งใจไว้ว่าจะไปหาหนังสือที่น่าสนใจสักเรื่องกลับไปอ่านในคืนนี้
ในร้านหนังสือ
ปกติฉันจะเข้ามาซื้อหนังสือที่นี่เป็นประจำ จนคุณลุงเจ้าของร้านจำหน้าได้ ร้านหนังสือแห่งนี้เป็นเพียงร้านเล็กๆ
ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก หนังสือส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นหนังสือเก่า หรือไม่ก็เป็นหนังสือที่หาซื้อได้ยากในร้านปกติ
เนื่องจากที่นี่มันค่อนข้างตั้งอยู่ใกล้บ้านของฉัน ฉันจึงมักจะแวะเข้ามาบ่อยๆ
และนี่คงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฉันไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะฉันเอาเวลาส่วนใหญ่มาหมกอยู่กับกองหนังสือพวกนี้
ในขณะที่ฉันกำลังเดินดูหนังสืออยู่ สายตาฉันก็ไปสะดุดเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่ง
มันถูกวางไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของชั้นหนังสือ เหมือนกับว่ามันกำลังซ่อนตัวจากผู้ที่พบเห็น
ฉันตัดสินใจหยิบมันฃึ้นมาดู หนังสือดูค่อนข้างเก่าน่าจะถูกผลิตขึ้นมานานแล้ว
ทั้งปกหน้าและปกหลังมีสีแดงเลือดนกเข้มชวนให้รู้สึกขนลุกแก่ผู้ที่พบเห็น
หน้าปกไม่มีข้อมูลอะไรบ่งบอกถึงเนื้อหาข้างในนั้น มีเพียงตัวหนังสือสีทองเลื่อมเก่าๆ
ถูกเขียนไว้กึ่งกลางปกว่า Drak Blood เมื่ออ่านแล้วก็ชวนให้หนังสือเล่มนี้่น่าอ่านขึ้นมา
ฉันเดินมาที่เคาเตอร์พร้อมกับวางหนังสือแปลกๆให้คุณลุงดู
"คุณลุงค่ะนี่น่าสนใจดีนะค่ะ"
"อืม ผมไม่แน่ใจว่ามันคือหนังสืออะไร ดูเหมือนมันจะถูกลืมที่ซอกตู้นั่นมานานมากแล้ว ทำไมคุณไม่ลองเปิดมัน
ดูล่ะ มันอาจช่วยคุณตอบปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณในอนาคตก็ได้"
ลุงพูดบางอย่างเหมือนกำลังจะใบ้ถึงเนื้อหาที่อยู่ในหนังสือนั่น
ฉันตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนั้นมาจนได้โดยที่ไม่ได้เปิดดูเนื้อหาภายในเลยแม้แต่นิดเดียว
เนื่องจากใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือนั่นนานไปหน่อยออกมาจากร้านก็พบว่าเวลาล่วงเลยมาถึง2ทุ่มแล้ว
ฉันเลยตัดสินใจต้องเดินกลับบ้านอย่างช่วยไม่ได้เพราะถ้าให้รอรถประจำทางคงต้องรออีกนาน
'ปรี๊ดด'
ฉันหันไปตามรถยนต์ที่บีบแตรไล่ตามหลังฉันมา คนในรถเลื่อนกระจกรถลงอย่างช้าๆ
เผยให้เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่
"ให้ผมไปส่งมั้ยครับ"
เขาเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์ ฉันจ้องตาเขาอย่างพิจารณา
ระหว่างให้เขาไปส่ง กับ เดินกลับเองทางไหนมันจะปลอดภัยกว่ากันนะ
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจฉันให้ตัดสินใจขึ้นรถมากลับเขา
"ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ"
เขาเอ่ยถามขณะที่สายตายังคงมองตรงไปข้างหน้า
"เพราะไอ้นี่ไง"
ฉันหยิบหนังสือประหลาดนั่นให้เขาดู เอเธนส์ละสายตาจากถนนหันมาดู
ก่อนที่เขาจะไปให้ความสนใจกับการจราจรในถนนต่อ
"ดูน่าสนใจดีนะครับ"
"ฉันก็ว่าอย่างนั้น"
หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย จนเมื่อรถของเขามาหยุดที่หน้าบ้านของฉัน
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันเอ่ยขอบคุณเขาแล้วลงมาจากรถ เอเธนส์เลื่อนกระจกรถฝั่งที่ฉันเพิ่งปิดมันไปลง
เขาเอาแขนทั้งสองข้างกอดพวงมาลัยแล้วเอาหน้าไปซบพร้อมกับหันมามองฉัน
ด้วยสายตาที่ยากจะคลาดเดาความหมาย เหมือนมีบางอย่างครอบงำฉันให้เคลิ้มไปกับสายตาคู่นั้น
"เข้ามาดื่มอะไรก่อนไหมค่ะ"
ไวกว่าความคิดฉันพูดชวนเอเธนส์เข้ามาข้างในบ้านโดยที่ตัวฉันไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
"ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าคุณต้องชวน"
เอนเธนส์ตอบด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ นี่มันอะไรกันเขาพูดเหมือนกับว่ากำลังวางแผนอะไรบางอย่างไว้ในใจ
เอเธนส์เดินสำรวจไปรอบๆ ดูเหมือนเขาจะสนใจบ้านของฉันมาก
"เอเธนส์คุณจะรับชาหรือกาแฟค่ะ"
"ผมขอกาแฟดีกว่าครับ"
ฉันเอ่ยถามเขาแล้วเดินเข้าไปชงกาแฟในครัว
"ขอบคุณที่มาส่งฉันนะค่ะ"
ฉันขอบคุณเขาอีกรอบตอนที่กำลังเสิร์ฟกาแฟให้กับเขา เขาพิจารณาถ้วยกาแฟอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยกมันขึ้นดื่ม
"ผมคิดว่าคุณพูดให้ผมฟังไปแล้วรอบนึง"
เขาเงยหน้าขึ้นตอบ เหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้แต่ดูเขาจะลังเลที่จะพูดมันออกมา
"ผมอยากอยู่ต่อนะ แต่ติดว่าผมต้องไปทำธุระ"
"เอ่อ..ค่ะ"
เขาจ้องหน้าฉันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ลุกพรวดขึ้น
"ขอโทษนะครับ ผมต้องไปแล้วจริงๆ"
"ค่ะ"
เขาลังเลอยู่สักพักแล้วจึงยอมกลับ
'ผมอยากอยู่ต่อนะ แต่ติดว่าผมต้องไปธุระ' หัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดถึงคำพูดของเขาขึ้นมา
เอเธนส์คุณร่ายมนตร์อะไรใส่ฉันกันนะ
"ก็คงไม่แปลก เพราะผมพึ่งย้ายมาจากที่อันแสนไกล 'เอเธนส์' ผมพอใจให้คุณเรียกผมด้วยชื่อนั้น"
เอเธนส์ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าทรงเสน่ห์ตอบกลับฉันด้วยน้ำเสียงสบาย ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมาที่ฉันอย่างไม่ลดละ
ฉันรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่ออกมาจากชายคนนี้ เอ่อ จริงสิฉันต้องแนะนำตัวเอง
"อริสค่ะ อริส เอดิสัน"
"ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราเจอกันนะครับ"
เขาพูดแล้วส่งยิ้มให้ฉันก่อนที่จะลุกพรวดออกไป รอยยิ้มนั่นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโดนสะกดจิต
ฉันสะบัดศรีษะเพื่อเรียกสติที่กระจัดกระจายให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
ในที่สุดการเรียนในวันนี้ก็จบลง ฉันตั้งใจไว้ว่าจะไปหาหนังสือที่น่าสนใจสักเรื่องกลับไปอ่านในคืนนี้
ในร้านหนังสือ
ปกติฉันจะเข้ามาซื้อหนังสือที่นี่เป็นประจำ จนคุณลุงเจ้าของร้านจำหน้าได้ ร้านหนังสือแห่งนี้เป็นเพียงร้านเล็กๆ
ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก หนังสือส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นหนังสือเก่า หรือไม่ก็เป็นหนังสือที่หาซื้อได้ยากในร้านปกติ
เนื่องจากที่นี่มันค่อนข้างตั้งอยู่ใกล้บ้านของฉัน ฉันจึงมักจะแวะเข้ามาบ่อยๆ
และนี่คงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฉันไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะฉันเอาเวลาส่วนใหญ่มาหมกอยู่กับกองหนังสือพวกนี้
ในขณะที่ฉันกำลังเดินดูหนังสืออยู่ สายตาฉันก็ไปสะดุดเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่ง
มันถูกวางไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของชั้นหนังสือ เหมือนกับว่ามันกำลังซ่อนตัวจากผู้ที่พบเห็น
ฉันตัดสินใจหยิบมันฃึ้นมาดู หนังสือดูค่อนข้างเก่าน่าจะถูกผลิตขึ้นมานานแล้ว
ทั้งปกหน้าและปกหลังมีสีแดงเลือดนกเข้มชวนให้รู้สึกขนลุกแก่ผู้ที่พบเห็น
หน้าปกไม่มีข้อมูลอะไรบ่งบอกถึงเนื้อหาข้างในนั้น มีเพียงตัวหนังสือสีทองเลื่อมเก่าๆ
ถูกเขียนไว้กึ่งกลางปกว่า Drak Blood เมื่ออ่านแล้วก็ชวนให้หนังสือเล่มนี้่น่าอ่านขึ้นมา
ฉันเดินมาที่เคาเตอร์พร้อมกับวางหนังสือแปลกๆให้คุณลุงดู
"คุณลุงค่ะนี่น่าสนใจดีนะค่ะ"
"อืม ผมไม่แน่ใจว่ามันคือหนังสืออะไร ดูเหมือนมันจะถูกลืมที่ซอกตู้นั่นมานานมากแล้ว ทำไมคุณไม่ลองเปิดมัน
ดูล่ะ มันอาจช่วยคุณตอบปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณในอนาคตก็ได้"
ลุงพูดบางอย่างเหมือนกำลังจะใบ้ถึงเนื้อหาที่อยู่ในหนังสือนั่น
ฉันตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนั้นมาจนได้โดยที่ไม่ได้เปิดดูเนื้อหาภายในเลยแม้แต่นิดเดียว
เนื่องจากใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือนั่นนานไปหน่อยออกมาจากร้านก็พบว่าเวลาล่วงเลยมาถึง2ทุ่มแล้ว
ฉันเลยตัดสินใจต้องเดินกลับบ้านอย่างช่วยไม่ได้เพราะถ้าให้รอรถประจำทางคงต้องรออีกนาน
'ปรี๊ดด'
ฉันหันไปตามรถยนต์ที่บีบแตรไล่ตามหลังฉันมา คนในรถเลื่อนกระจกรถลงอย่างช้าๆ
เผยให้เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่
"ให้ผมไปส่งมั้ยครับ"
เขาเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์ ฉันจ้องตาเขาอย่างพิจารณา
ระหว่างให้เขาไปส่ง กับ เดินกลับเองทางไหนมันจะปลอดภัยกว่ากันนะ
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจฉันให้ตัดสินใจขึ้นรถมากลับเขา
"ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ"
เขาเอ่ยถามขณะที่สายตายังคงมองตรงไปข้างหน้า
"เพราะไอ้นี่ไง"
ฉันหยิบหนังสือประหลาดนั่นให้เขาดู เอเธนส์ละสายตาจากถนนหันมาดู
ก่อนที่เขาจะไปให้ความสนใจกับการจราจรในถนนต่อ
"ดูน่าสนใจดีนะครับ"
"ฉันก็ว่าอย่างนั้น"
หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย จนเมื่อรถของเขามาหยุดที่หน้าบ้านของฉัน
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันเอ่ยขอบคุณเขาแล้วลงมาจากรถ เอเธนส์เลื่อนกระจกรถฝั่งที่ฉันเพิ่งปิดมันไปลง
เขาเอาแขนทั้งสองข้างกอดพวงมาลัยแล้วเอาหน้าไปซบพร้อมกับหันมามองฉัน
ด้วยสายตาที่ยากจะคลาดเดาความหมาย เหมือนมีบางอย่างครอบงำฉันให้เคลิ้มไปกับสายตาคู่นั้น
"เข้ามาดื่มอะไรก่อนไหมค่ะ"
ไวกว่าความคิดฉันพูดชวนเอเธนส์เข้ามาข้างในบ้านโดยที่ตัวฉันไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
"ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าคุณต้องชวน"
เอนเธนส์ตอบด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ นี่มันอะไรกันเขาพูดเหมือนกับว่ากำลังวางแผนอะไรบางอย่างไว้ในใจ
เอเธนส์เดินสำรวจไปรอบๆ ดูเหมือนเขาจะสนใจบ้านของฉันมาก
"เอเธนส์คุณจะรับชาหรือกาแฟค่ะ"
"ผมขอกาแฟดีกว่าครับ"
ฉันเอ่ยถามเขาแล้วเดินเข้าไปชงกาแฟในครัว
"ขอบคุณที่มาส่งฉันนะค่ะ"
ฉันขอบคุณเขาอีกรอบตอนที่กำลังเสิร์ฟกาแฟให้กับเขา เขาพิจารณาถ้วยกาแฟอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยกมันขึ้นดื่ม
"ผมคิดว่าคุณพูดให้ผมฟังไปแล้วรอบนึง"
เขาเงยหน้าขึ้นตอบ เหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้แต่ดูเขาจะลังเลที่จะพูดมันออกมา
"ผมอยากอยู่ต่อนะ แต่ติดว่าผมต้องไปทำธุระ"
"เอ่อ..ค่ะ"
เขาจ้องหน้าฉันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ลุกพรวดขึ้น
"ขอโทษนะครับ ผมต้องไปแล้วจริงๆ"
"ค่ะ"
เขาลังเลอยู่สักพักแล้วจึงยอมกลับ
'ผมอยากอยู่ต่อนะ แต่ติดว่าผมต้องไปธุระ' หัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดถึงคำพูดของเขาขึ้นมา
เอเธนส์คุณร่ายมนตร์อะไรใส่ฉันกันนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ