รักหมดใจยัย(วิญญาณ)จอมเปิ่น

5.8

เขียนโดย kang

วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 23.03 น.

  6 ตอน
  3 วิจารณ์
  10.20K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ตอนที่ 5 ความรัก(ในอดีต)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่มิลยังศึกษาอยู่ชั้น ม. 6 หลังเสียงออดดังขึ้นก็ได้เวลาที่เขาจะต้องย้ายห้องเรียนและระหว่างที่นักเรียนสายวิทย์ คณิตกำลังเดินออกมาจากห้อง นักเรียนสาวชั้น ม 5 คนหนึ่งได้เผลอเดินเข้ามาชนมิลอย่างแรง เธอหันมาสบตาและนิ่งไปชั่วอึดในก่อนจะพูดออกมาอย่างช้าๆ
                "ขอโทษค่ะ พี่" เธอพูดจบแล้วแต่ยังไม่ยอมวางตาจากเขา มิลจึงพยักหน้าและยิ้มให้แทนคำตอบ
                "นังมิ้น มาเร็วๆเดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก" เสียงหญิงสาวอีกคนร้องเรียก มิลเผลอหันไปมองตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อได้สบตาเข้ากับเจ้าของเสียง มิลยืนนิ่งเหมือนต้องมนต์สะกด ใจของเขาเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ จนกระทั่งเธอเดินลับตาไป เขาจึงยอมเดินเข้าห้องเรียน
                "เฮ้ย มิล น้องคนนั้นน่ะ เอ็งมองเขาตาไม่กะพริบเลยนะ ชอบเขาเหรอ" น๊อตเพื่อนรักของมิลพูดแซวขึ้นมาระหว่างรอครูผู้สอน แม้จะพยายามปกปิดแต่ใบหน้ากลับเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเพื่อนรักดูออก
                "เออจะบอกว่า กูรู้จักเขา น้องเขาชื่อ เนตร ถ้าอยากรู้จักบอกเลย กูกำลังจีบเพื่อนเขาอยู่ คนที่ชนมึงนั่นแหละ"
                มิลฟังแล้วกลับไม่พูดอะไรต่อ เพราะต้องการจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง
                นับจากวันนั้นมา หลังเลิกเรียนวิชาเอกทั้งสองจะรีบเก็บข้าวของแล้วมายืนรอที่หน้าห้องอย่างเร่งรีบเพื่อมาเจอกับคนที่ตัวเองหลงชอบ ขณะที่น๊อตแสดงออกและตามจีบอย่างเปิดเผย มิลที่ขี้อายและมีความเป็นส่วนตัวสูงกลับไม่กล้าเข้าหารุ่นน้องอีกคน นอกจากเสียจากคอยส่งยิ้มน้อยๆและมองอยู่ห่างๆ เป็นแบบนี้อยู่นานหลายเดือนจนน๊อตเริ่มสนิทกับมิ้นมากขึ้น แม้ว่าใจจริงแล้วคนที่เธอแอบมีใจให้มาโดยตลอดก็คือมิล แต่เขากลับหลงชอบเพื่อนของเริ่มชั้นของเธออยู่
                ตอนช่วงเย็นวันศุกร์ควรจะเป็นเวลาอันแสนวิเศษของเด็กชายหลายคนๆที่จะรีบไปทำธุระเริ่มกับเพื่อนของตน เว้นเสียแต่มิลที่ต้องมารอเวลาเลิกเรียนของนักเรียนสาวสายวิทย์ คณิตกับน๊อตเพื่อนสนิท
                "น๊อต ถามหน่อย ทำไมต้องรีบให้จังวะ วันนี้วันศุกร์นะ กูอยากกลับไปเคลียร์งานแล้ว นี่ก็ใกล้จะถึงวันสอบจบแล้วนะ" มิลบ่นเพื่อนรักอย่างหงุดหงิด
                "โถ่ มิล นี่วันวาเลนไทน์นะเว้ย ไม่ให้วันนี้จะให้วันไหนอีกอย่างโอกาสของมึงที่จะเข้าหาเนตรนะ ชอบเขาแต่ไม่กล้ามันจะพัฒนายังไงวะ"
                มิลไม่โต้ตอบนอกจากยืนกำก้านกุหลาบในมือแน่นด้วยความเขินอาย และแล้วเสียงออดก็ดังขึ้นเพื่อนรักทั้งสองมองหน้ากันอย่างดีใจ ขณะที่นักเรียนสายสายวิทย์ คณิตกำลังทยอยเดินลงมาจากอาคาร จนเมิ่อได้เห็นคนที่รอคอย น๊อตรีบวิ่งเข้าไปหามิ้นแล้วยื่นดอกไม้อย่างไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง ขณะที่มิล กลับเดินตัวสั่นหน้าแดงไปหาเนตรให้แก่เนตร ซึ่งวันนั้นมิลจึงพยายามรวบรวมความกล้าขอช่องทางการติดต่อกับเธอไป ทุกอย่างนั้นอยู่สายตาของมิ้นตลอด เธอรับดอกกุหลาบมาด้วยรอยยิ้มและคำขอบคุณ แต่ความจริงเธอกลับไม่รู้สึกยินดีเลยเพราะแท้ที่จริงแล้ดอกไม้ที่เธอต้องการคือดอกไม้จากมิลเสียมากกว่า
                นับจากวันนั้นความสนิทสนมของทั้งสี่คนก็เริ่มดีขึ้นมาตามลำดับ ความสัมพันธ์ของน๊อตและมิ้นเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเพราะมิ้นเริ่มรู้สึกว่ามิลไม่มีทางปันใจมาให้เธอ เธอจึงเกิดความใจอ่อนและยอมรับน๊อตแต่โดยดี ขณะที่ความสัมพันธ์ของมิลและเนตรกลับไม่ได้มากไปกว่าเพื่อนคนหนึ่ง แม้จะพยายามมากแค่ไหนเนตรก็ไม่เคยให้ความสำคัญมิลมากไปกว่าเดิมเลย ซึ่งมิลก็รู้ดีว่าด้วยลักษระนิสัยและหลายปัจจัยแล้วเขาและเธอไม่มีทางไปด้วยกันได้ แต่ความรักทำให้เขาโกหกตัวเองเสมอมา
                ส่วนมิ้นและน๊อตคบหาดูใจกันเรื่อยมาจนกระทั่งครบหนึ่งปี มิ้นก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของแฟนหนุ่ม เขาเริ่มเย็นชาและเหินห่างเธอ อีกทั้งยังใช้เธอเป็นที่รองรับอารมณ์ตลอดมา แม้วันที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ แฟนหนุ่มของเธอกลับไม่เริ่มแสดงความยินดีด้วย นอกเสียจากส่งของขวัญมาทางไปรษณีย์ซึ่งก็คือโทรศัพท์มือถือชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง เธอรักและดูแลโทรศัพท์เครื่องนั้นอย่างดีเหมือนกับของรักชิ้นหนึ่ง
                หลังจากที่ต้องเสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน มิลเริ่มตาสว่างและตัดสินใจจะยุติการโกหกตัวเองเสียทีแต่การตัดใจจาดใครสักคนย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เขามักจะใจอ่อนอยู่เสมอในเวลาที่เธอส่งข้อความมา แต่เพียงแค่สามเดือนต่อจากนั้นเขาก็ต้องพบกับเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เขาได้เห็นเนตรขึ้นสถานะคบหาดูใจกับใครคนหนึ่งซึ่งคนนั้นก็คือ เจ้าน๊อตเพื่อนรักของเขานั่นเอง มิลรู้สึกชาไปทั่งหน้า ตัวสั่นด้วยความโกรธและเสียใจ เขาหยิบมือถือขึ้นมาแล้วรีบโทรหาน๊อตอย่างเร่งรีบ และเมื่ออีกฝ่ายกดรับ มิลก็รีบพูดเสียงดังด้วยความโกรธและสับสน
                "น๊อต ในเฟสนั่นมันความหมายว่ายังไงวะ"
                "อ้าว เห็นแล้วเหรอ เร็วจัง ก็อย่างที่มึงเห็น กูคบกับเนตรอยู่ จริงๆเขาตกลงคบกูมาตั้งสามเดือนแล้วนะมึงไม่เคยรู้เลยเหรอ" น๊อตตอบกลับมาด้วยเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
                "ไอ้น๊อตมึงทำแบบนี้ได้ยังไง กูเพื่อนมึงนะโว้ย มึงก็รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกับเขา แล้วมิ้นแฟนมึงล่ะ มึงทำแบบนี้ได้ยังไง" มิลพูดเสียงแข็งด้วยความโกรธแบบสุดจะบรรยาย
                "เฮ้ย มึงอย่ามาพูดแบบนี้นะไอ้มิล ของแบบนี้มันใครดีใครได้ป่าววะ มึงเป็นเจ้าของเขาเหรอถึงมีสิทธิ์มาจอง มาห้ามไม่ให้กูคบเขา ส่วนนังมิ้นน่ะ ใครจะไปรักคนเปิ่นๆเซ่อๆแบบนั้นได้วะ เอางี้ละกันกูจะบอกให้นะ ที่กูยอมคบมึงเพราะจะให้มึงช่วยเรื่องเรียนไง ไอ้โง่" น๊อตพูดเชิงตวาดแล้วตัดสายไป
                มิลโกรธจนขาดสติ เขาหยิบมือถือเขวี้ยงไปสุดแรงจนชิ้นส่วนแตกออก และจากนั้นมือถือเครื่องนั้นก็มีปัญหาในในการใช้งานเรื่อยมาซึ่งก่อนนั้นไม่กี่วันมิ้นได้โกหกว่าติดเรียนกะทันหันเพื่อต้องการจะเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่มในวันครบรอบ แต่มันกลับทำให้เธอได้เห็นความจริง เมื่อแอบตามเขาไปจนถึงห้างสรรพสินค้าที่น๊อตชอบไป แต่เธอกลับเห็นแฟนของเอกำลังจูงมืออยู่กับเนตรเพื่อนรักของเธอเอง
                ตอนนั้นมิ้นถึงกับหน้าชาทำอะไรไม่ถูก ของขวัญที่ถืออยู่หลุดมือหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัว แต่น๊อตกลับทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไรและพูดออกมาหน้าตาเฉย
                "อ้าว มิ้น แย่จังดันมารู้ความจริงซะได้ แต่ก็อย่างที่เห็นพี่มีคนใหม่แล้ว เลิกกันแค่ดีกว่า" น๊อตพุดแล้วเดินจูงมือแฟนใหม่ผ่านเธอไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มิ้นน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจ หัวใจเธอแหลกสลาย เธอรีบวิ่งตามไปแล้วกระชากน๊อตกลับมาพร้อมกับตบหน้าอดีตแฟนหนุ่มอย่างจัง ทันใดนั้นเขาก็ผลักเธอจนล้มแล้วชี้หน้าด่าทอเธอเสียงดังลั่นห้าง ด้วยสารพัดคำที่คิดได้ ท่ามกลางสายตาของผู้คนและแม้แต่เนตร เพื่อนรักที่ยืนมองอย่างเย็นชามา
                มิ้นเดินร้องไห้อกมาจากห้างเพียงลำพังในมือของเธอกำโทรศัพท์ที่น๊อตให้มาเอาไว้แน่น ภาพที่เพิ่งเห็นยังคงตามหลอกหลอนเธอไม่รู้จบ ด้วยความอับอายและเสียใจอย่างที่สุดทำให้มิ้นเกิดขาดสติยับยั้งชั่งใจ ชั่ววูบนั้นเธอจึงเดินออกไปกลางถนนให้รถชนตาย ซึ่งในตอนนั้นเป็นเวลาที่ถนนกำลังโล่งรถจึงวิ่งมาด้วยความเร็วและชนเข้ากับร่างของเธออย่างแรง
                เวลาผ่านไปกี่นามีไม่มีใครทราบ มิ้นลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นฝูงชนยืนมุง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำลังพยายามช่วยชีวิตใครสักคนอยู่ เธอค่อยเดินโซเซเข้าไปดูด้วยความสงสัยที่ไม่มีใครสนใจเธอเลย ร่างหายของเธอรู้สึกเบาราวกับไม่มีน้ำหนัก ทุกย่างก้าวไม่มีความรู้สึกของฝ่าเท้าที่แตะลงบนพื้น เมื่อเข้าใกล้มากพอเธอจึงเห็นว่าร่างที่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามช่วยชีวิตอยู่นั้นคือ ร่างของเธอเอง มิ้นตกใจและหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เธอยืนนิ่งมองดูภาพตรงหน้าและภาวนาอย่าให้มันเป็นเรื่องจริง ทันใดนั้นได้มีชายร่างสูงใหญ่ตัวดำเมี่ยม นุ่งโกงกระเบน นำเชือกเส้นหนึ่งมาพันรอบคอและลากเธอไป
                "มากับข้า" เสียงอันดุดันของชายคนนั้นดังขึ้นและลากเธอไปอย่างไม่ปราณี
                เพียงชั่วอึดใจชายคนนั้นก็มาเธอมาถึงสถานที่อันน่ากลัว ไฟลุกโชนแดงฉานตลอดเวลา เสียงหวีดร้องโหยหวนดังระงมไม่ขาดสาย มิ้นน้ำตาไหลอาบแก้ม นั่งตัวสั่นมองไปรอบด้วยความกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
                 "ที่นี่ยังไม่ที่ที่เจ้าต้องมาอยู่ เจ้ายังไม่ตาย แต่อย่าคิดว่าวิญญาณฆ่าตัวตายอย่างจ้าจะสบายนัก" ชายผู้นั้นพูดจบแล้วนำโซ่เส้นใหญ่ดำสนิทเส้นหนึ่งมาล่ามไว้ที่คอของเธอและนำไปผูกเข้ากับโทรศัพท์เครื่องนั้นแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงอันดุดัน
                "จงจำไว้ให้ดีวิญญาณโง่ เดิมทีแล้วเจ้าจะต้องวนเวียนชดใช้กรรมฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้เล่า จนสิ้นอายุขัยเหมือนดวงวิญญาณที่ก่ออกุศลเช่นเจ้า แต่เพราะเจ้ายังไม่สิ้นลม ดังนั้นจากนี้ไปเจ้าจะต้องผูกติดกับสิ่งนั้นเหมือนจิตของเจ้าผูกกับมันก่อนจะก่อกรรม จนกว่าจะมีใครสักคนมอบสิ่งอันเป็นเหตุให้เจ้าก่อกรรมเช่นนี้ได้ เจ้าจะได้กลับสู่ร่าง แต่หากหาไม่ได้ก่อนสิ้นลมเจ้าจะต้องมารับกรรมเช่นดวงวิญญาณที่ก่ออกุศลเช่นที่เจ้าทำ"
                เมื่อสิ้นคำภาพสถานที่อันโหดร้ายก็หายไป กลายเป็นว่าเธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนถนนเพียงลำพัง จากนั้นมามิ้นก็ไม่สามารถไปไหนได้เอง ต้องตามไปติดอยู่กับมือถือเครื่องนั้น จะสัมผัสหรือสื่อสารกับใครก็ไม่ได้แม้แต่แม่ของตัวเอง ซึ่งไม่นานแม่ของเธอก็ได้นำมือถือเครื่องนี้ไปขายให้กับร้านโทรศัพท์มือสองในห้างแห่งหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าเธอได้ทำให้วิญญาณลูกสาวต้องนั่งร้องไห้หมดอาลัยในชีวิตอยู่เพียงลำพัง
....................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
2.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา