ปิดผนึกหัวใจซาตาน
4.0
4) ตำรวจใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ที่ห้องทำงานของนายอำนาจ นายอำนาจนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง ทันทีที่ชูอีเดินเข้ามาเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่างข้างห้อง มองลงไปที่หน้าบ้าน เขาจ้องมองหญิงสาวที่กำลังก้าวขึ้นรถที่หน้าบ้านอย่างใช้ความคิด แล้วเขาก็หันมาหาชูอี
" ทำไมปล่อยเธอไปซะล่ะ"
ชูอีอึ่งไปเล็กน้อยที่พ่อของเขารู้ว่าเขาให้คนพาเธอมาที่นี่ นี้คงจะมีใครคาบข่าวมาบอกท่านอีกละสิ "อย่าให้รู้นะว่าใคร ถ้ากูรู้มึงตาย" ชูอีนึกในใจ
"พ่อมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ ถึงได้ให้คนไปตามผมมาพบที่นี่" ชูอีเอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
เคนจิเดินไปยิบกระดาษบนโต๊ะแล้วยื่นมันให้ชูอี
"นี้ ตำรวจมาใหม่ นายร้อยจากเมืองกรุง! เข้าใจใช่ไหมว่าต้องทำยังไง"
ชูอี มองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างรู้ทัน
"แล้วผมจะให้คนไปจัดการครับ"
ทันทีที่นายอำนาจได้ยินคำตอบจากลูกชายเขารู้สึกโมโหและผิดหวังในคำตอบที่ได้รับ ปั้ง !นายอำนาจทุบกำปั้นลงที่โต๊ะ พร้องจ้องมองลูกชาย
"งานนี้ห้ามส่งใครไป แต่แกต้องไปเอง เขาเป็นถึงลูกชายนายตำรวจชั้นผู้ในเมืองกรุง ต้องเอาใจเขาให้ดี งานจะได้ราบรื่น เข้าใจใชไหม "
"ครับพ่อ" ชูอี รีบรับปากทันที
นายอำนาจเดินไปที่หน้าต่างอีกครั้ง เขามองไปที่ลูกน้องด้านล่างที่กำลังจับกลุ่มคุยกัน แล้วหันมาหาชูอี
"แล้ว ของที่สั่งไปจะมาถึงเมื่อไร "
"อีกสิบวันครับพ่อ" ชูอีรีบตอบด้วยความมั่นใจ นายอำนาจมองหน้าลูกชายแล้วเดินเข้ามาจับไหล่ด้วยความรัก
" อย่าพลาด ล่ะ หาคนที่พึ่งเข้ามาใหม่เวลางานพลาดมันจะได้สาวมาไม่ถึงตัวเรา ลองมองลงไปที่ข้างล่างสิดูว่าใครเหมาะที่จะรับงานนี้"
ชูอี ไม่ได้เดินไปมองที่หน้าต่าง แต่ก็ตอบออกไปทันที " ผมรู้ครับว่าจะส่งใครไป"
เย็นวันนั้น ณ สถานีตำรวจในเมือง ผู้กองสุธีเดินออกมาจากโรงพักกลับสองตำรวจลูกน้องคู่หูผู้มีประสบการณ์
"วันนี้ เราจะออกพื้นที่กันนะดาบ "
ดาบดารินหันมองหน้าคู่หูดาบยันอย่างรู้กัน "นั่นไง ไฟแรงจริงๆ "
กลางตลาดในเมือง ยาดากำลังเดินมองดูของ พร้อมกับมองหาร้านขายยา หลังจากที่กลับมาจากบ้านชูอีเธอก็ออกมาซื้อยาให้กับพ่อของ ในขนาดที่เธอกำลังเดินดูของอยู่นั่นเอง มีคนผู้หนึ่งเดินตามเธอมาจากด้านหลังโดยที่เธอไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเอง มันเข้ามาแย่งกระเป๋าเงินของเธอแล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
" ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย" ยาดาตกใจรีบร้องให้คนช่วย แต่เหมือนจะไม่มีใครสนใจที่เธอร้องขอความช่วยเหลือ แล้วเธอก็วิ่งตามมันจนถึงทางเดินเล็กๆข้างตลาด ผู้กองสุธีมองตามหญิงสาวที่กำลังวิ่งตามชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ด้วยสายตาของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ไฟแรง เขารีบวิ่งตามเธอไปทันที ด้วยความรวดเร็วของเขาไปช้าเขาก็ถึงตัวชายคนนั้น เขาจัดการตระคุบตัวชายคนนั้นแล้วแย่งกระเป๋าคืนมาทันที ชายคนนั้นรีบลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนี
"หยุดนะมึง ถ้าเดินแม้แต่ก้าวเดียวกู ยิง!"
ผู้กองสุธีขวับปืนออกมาขู่ให้ชายผู้นั้นยอมมอบตัวแต่โดยดี นายดาบทั้งสองตามมาถึงรีบเข้าไปจับตัวคนร้ายทันที แล้วผู้กองสุธีก็หันมาหายาดาที่ยื่นดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ
"ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ คุณผู้หญิง"
"นี้ครับ คุณผู้หญิงกระเป๋าคุณ"
ผู้กองสุธีพูดพร้อมยื่นกระเป๋าในมือให้ยาดา
"ขอบคุณ ค่ะ " ยาดาพูดพร้อมยื่นมือไปรับกระเป๋าคืน
"ไม่เป็นไรหรอกคับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว"
"ร้อยเอก สุธี เมคะ รายงานตัวรับใช้ประชาชนครับ"
ผู้กองสุธี พูดพร้อมทำท่าตำรวจเป็นขำขำจนยาดาอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ สุธี รู้สึกประทับใจในรอยยิ้มของยาดา เขารู้สึกว่าเธอช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก
หลังจากที่ทุกอย่างเครียร์จนจบ ยาดาก็ได้ขอตัวกลับบ้านโดยมี ผู้กองสุธีขับรถไปส่งที่บ้านของเธอ
สน พึ่งเข้ามาทำงานที่บ้านของชูอีได้ไม่นานก็ได้รับงานให้ออกไปรับของที่ต่างจังหวัด เขาคิดในใจว่านี้คงเป็นโอกาสที่คนอย่างเขาจะได้ทำงานชิ้นใหญ่และถ้าเกิดเขาทำสำเร็จเจ้าชายพอใจ เขาก็จะได้เลื่อนชั้นมาเป็นลูกพี่กับเขาสักที
"ไอ้สนเอ้ย ที่นี้ล่ะมึงจะได้สุขสบายกับเขาสักที 55555" สนพูดกับตัวเองอย่างมีความสุข
ที่คฤหาสห์ของชูอี
ชูอีน้องดื่มเหล้าอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ถ้าเป็นปกติทุกครั้งที่มาดื่มที่ตรงนี่ เขาจะคิดถึงเรื่องงาน แต่วันนี้ในหัวของเขากับมีแต่เรื่องยาดาและใบหน้าของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในสมองตลอดเวลา
"ดื่มคนเดียวไม่เหงาหรอค่ะ ท่านจอมมาร"
เสียงที่คุ่นเคยดังมาจากด้านหลังทำให้ชูอีหลุดออกจากพวังความคิด
"คิดอะไรอยู่ค่ะ เจ้าชาย"
จิลแกล้งถามออกไปทั้งที่รู้ดีว่าเจ้านายกำลังคิดอะไรอยู่ ชูอีหันมามองหน้าคนถามแล้วยิ้ม แล้วตอบออกไป
"ก็รู้อยู่ แล้วจะถามทำไม"
"ไปจับตัวมาให้เลยดีไหม จับมาขังไว้เลยจะได้ไม่ต้องคิดถึงไง"
จิลพูดแล้วยิ้มอย่างขำขำเธอนั่งลงข้างชูอีอย่างคุ้นเคย แล้วชูอีก็พูดขึ้น
"มีอะไรที่ นางมารอย่างจะเธอไม่รู้ เนอะ"
จิลยิ้มให้กับคำนานที่ชูอีเรียกเธอ
"นางมาร" เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ
แล้วทั้งคู่ก็ดื่มเหล้าด้วยกันด้วยความคุ้นเคยเหมือนทุกที
" ทำไมปล่อยเธอไปซะล่ะ"
ชูอีอึ่งไปเล็กน้อยที่พ่อของเขารู้ว่าเขาให้คนพาเธอมาที่นี่ นี้คงจะมีใครคาบข่าวมาบอกท่านอีกละสิ "อย่าให้รู้นะว่าใคร ถ้ากูรู้มึงตาย" ชูอีนึกในใจ
"พ่อมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ ถึงได้ให้คนไปตามผมมาพบที่นี่" ชูอีเอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
เคนจิเดินไปยิบกระดาษบนโต๊ะแล้วยื่นมันให้ชูอี
"นี้ ตำรวจมาใหม่ นายร้อยจากเมืองกรุง! เข้าใจใช่ไหมว่าต้องทำยังไง"
ชูอี มองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างรู้ทัน
"แล้วผมจะให้คนไปจัดการครับ"
ทันทีที่นายอำนาจได้ยินคำตอบจากลูกชายเขารู้สึกโมโหและผิดหวังในคำตอบที่ได้รับ ปั้ง !นายอำนาจทุบกำปั้นลงที่โต๊ะ พร้องจ้องมองลูกชาย
"งานนี้ห้ามส่งใครไป แต่แกต้องไปเอง เขาเป็นถึงลูกชายนายตำรวจชั้นผู้ในเมืองกรุง ต้องเอาใจเขาให้ดี งานจะได้ราบรื่น เข้าใจใชไหม "
"ครับพ่อ" ชูอี รีบรับปากทันที
นายอำนาจเดินไปที่หน้าต่างอีกครั้ง เขามองไปที่ลูกน้องด้านล่างที่กำลังจับกลุ่มคุยกัน แล้วหันมาหาชูอี
"แล้ว ของที่สั่งไปจะมาถึงเมื่อไร "
"อีกสิบวันครับพ่อ" ชูอีรีบตอบด้วยความมั่นใจ นายอำนาจมองหน้าลูกชายแล้วเดินเข้ามาจับไหล่ด้วยความรัก
" อย่าพลาด ล่ะ หาคนที่พึ่งเข้ามาใหม่เวลางานพลาดมันจะได้สาวมาไม่ถึงตัวเรา ลองมองลงไปที่ข้างล่างสิดูว่าใครเหมาะที่จะรับงานนี้"
ชูอี ไม่ได้เดินไปมองที่หน้าต่าง แต่ก็ตอบออกไปทันที " ผมรู้ครับว่าจะส่งใครไป"
เย็นวันนั้น ณ สถานีตำรวจในเมือง ผู้กองสุธีเดินออกมาจากโรงพักกลับสองตำรวจลูกน้องคู่หูผู้มีประสบการณ์
"วันนี้ เราจะออกพื้นที่กันนะดาบ "
ดาบดารินหันมองหน้าคู่หูดาบยันอย่างรู้กัน "นั่นไง ไฟแรงจริงๆ "
กลางตลาดในเมือง ยาดากำลังเดินมองดูของ พร้อมกับมองหาร้านขายยา หลังจากที่กลับมาจากบ้านชูอีเธอก็ออกมาซื้อยาให้กับพ่อของ ในขนาดที่เธอกำลังเดินดูของอยู่นั่นเอง มีคนผู้หนึ่งเดินตามเธอมาจากด้านหลังโดยที่เธอไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเอง มันเข้ามาแย่งกระเป๋าเงินของเธอแล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
" ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย" ยาดาตกใจรีบร้องให้คนช่วย แต่เหมือนจะไม่มีใครสนใจที่เธอร้องขอความช่วยเหลือ แล้วเธอก็วิ่งตามมันจนถึงทางเดินเล็กๆข้างตลาด ผู้กองสุธีมองตามหญิงสาวที่กำลังวิ่งตามชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ด้วยสายตาของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ไฟแรง เขารีบวิ่งตามเธอไปทันที ด้วยความรวดเร็วของเขาไปช้าเขาก็ถึงตัวชายคนนั้น เขาจัดการตระคุบตัวชายคนนั้นแล้วแย่งกระเป๋าคืนมาทันที ชายคนนั้นรีบลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนี
"หยุดนะมึง ถ้าเดินแม้แต่ก้าวเดียวกู ยิง!"
ผู้กองสุธีขวับปืนออกมาขู่ให้ชายผู้นั้นยอมมอบตัวแต่โดยดี นายดาบทั้งสองตามมาถึงรีบเข้าไปจับตัวคนร้ายทันที แล้วผู้กองสุธีก็หันมาหายาดาที่ยื่นดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ
"ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ คุณผู้หญิง"
"นี้ครับ คุณผู้หญิงกระเป๋าคุณ"
ผู้กองสุธีพูดพร้อมยื่นกระเป๋าในมือให้ยาดา
"ขอบคุณ ค่ะ " ยาดาพูดพร้อมยื่นมือไปรับกระเป๋าคืน
"ไม่เป็นไรหรอกคับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว"
"ร้อยเอก สุธี เมคะ รายงานตัวรับใช้ประชาชนครับ"
ผู้กองสุธี พูดพร้อมทำท่าตำรวจเป็นขำขำจนยาดาอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ สุธี รู้สึกประทับใจในรอยยิ้มของยาดา เขารู้สึกว่าเธอช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก
หลังจากที่ทุกอย่างเครียร์จนจบ ยาดาก็ได้ขอตัวกลับบ้านโดยมี ผู้กองสุธีขับรถไปส่งที่บ้านของเธอ
สน พึ่งเข้ามาทำงานที่บ้านของชูอีได้ไม่นานก็ได้รับงานให้ออกไปรับของที่ต่างจังหวัด เขาคิดในใจว่านี้คงเป็นโอกาสที่คนอย่างเขาจะได้ทำงานชิ้นใหญ่และถ้าเกิดเขาทำสำเร็จเจ้าชายพอใจ เขาก็จะได้เลื่อนชั้นมาเป็นลูกพี่กับเขาสักที
"ไอ้สนเอ้ย ที่นี้ล่ะมึงจะได้สุขสบายกับเขาสักที 55555" สนพูดกับตัวเองอย่างมีความสุข
ที่คฤหาสห์ของชูอี
ชูอีน้องดื่มเหล้าอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ถ้าเป็นปกติทุกครั้งที่มาดื่มที่ตรงนี่ เขาจะคิดถึงเรื่องงาน แต่วันนี้ในหัวของเขากับมีแต่เรื่องยาดาและใบหน้าของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในสมองตลอดเวลา
"ดื่มคนเดียวไม่เหงาหรอค่ะ ท่านจอมมาร"
เสียงที่คุ่นเคยดังมาจากด้านหลังทำให้ชูอีหลุดออกจากพวังความคิด
"คิดอะไรอยู่ค่ะ เจ้าชาย"
จิลแกล้งถามออกไปทั้งที่รู้ดีว่าเจ้านายกำลังคิดอะไรอยู่ ชูอีหันมามองหน้าคนถามแล้วยิ้ม แล้วตอบออกไป
"ก็รู้อยู่ แล้วจะถามทำไม"
"ไปจับตัวมาให้เลยดีไหม จับมาขังไว้เลยจะได้ไม่ต้องคิดถึงไง"
จิลพูดแล้วยิ้มอย่างขำขำเธอนั่งลงข้างชูอีอย่างคุ้นเคย แล้วชูอีก็พูดขึ้น
"มีอะไรที่ นางมารอย่างจะเธอไม่รู้ เนอะ"
จิลยิ้มให้กับคำนานที่ชูอีเรียกเธอ
"นางมาร" เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ
แล้วทั้งคู่ก็ดื่มเหล้าด้วยกันด้วยความคุ้นเคยเหมือนทุกที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ