fic kuroko no basket แฟนธ่อมตัวที่หก

7.0

เขียนโดย zusuran

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.38 น.

  17 ตอน
  1 วิจารณ์
  25.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2565 19.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) มาต่อรองกันหน่อยไหม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แต่ไหนแต่ไรไม่เคยตัดสินใจพลาด ใช่...มันเป็นแบบนั้น ไม่ว่าทำอะไรก็จะได้รับชัยชนะเสมอ

แต่ในตอนนี้สิ พลาดอย่างท่า ไม่สิ...ยังไม่พลาดซักหน่อย

 

"อาคาชิคุง...อาคาชิคุง!"

เสียงหนึ่งเรียกชื่ออาคาชิซ้ำไปซ้ำมาจนน่ารำคาญ แล้วพอคลี่ตามองก็เจอกับเด็กสาวผมสีชมพู

"ซัทสึกิ"

"ค่อยยังชั่ว ฟื้นแล้ว"

"มาอยู่นี่ได้ยังไง"

"ถูกจับมา" ตรงจัด

"เท็ตสึยะล่ะ"

พวกมันจับเขามาพร้อมกับเท็ตสึยะนี่

"เท็ตสึคุงยังไม่ฟื้นเลยจ้ะ อยู่ตรงโน้นแน่ะ"

โมโมอิพูดพร้อมเบือนหน้าไปอีกมุมหนึ่งของห้องที่จัดได้ว่ากว้างและโล่ง ในห้องมีมีแค่โซฟา แต่เขากลับได้นอนอยู่บนพื้นซะงั้น อาคาชิยันตัวลุกขึ้นมองไปทางเดียวกับโมโมอิก็เห็นร่างของคุโรโกะนอนเหยียดอยู่บนพื้นเหมือนกัน ข้างๆเด็กหนุ่มผมฟ้ามีเด็กสาวอีกคน

 

นั่นมันโค้ชของทีมบาสเซย์ริน ไอดะ ริโกะ

 

"เธอเองก็โดนด้วยเหรอ"

"ฉันเองก็ไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าจับนายมาด้วยนะ อาคาชิคุง"

"จะตอกย้ำกันอีกนานมั้ย"

"ไม่เอาน่า ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย อย่าเพิ่งทะเลาะกันได้มั้ย อาคาชิคุง ริโกะซัง"

 

ถ้าไม่มีโมโมอิสองคนนี่คงจะซัดหน้ากันไปแล้ว...มั้ง

 

อาคาชิไม่ได้สนใจจะมาทะเลาะกับแม่สาวห้าวนี่หรอก ตอนนี้สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่คุโรโกะที่ยังนอนนิ่งไม่ไหวติงนั่นมากกว่า

"เท็ตสึยะเป็นยังไงบ้าง"

"พวกนายคงถูกพวกมันฉีดยาสลบสินะ แต่นายแข็งแรงกว่าคุโรโกะคุงก็เลยฟื้นขึ้นมาก่อน ส่วนคุโรโกะคุง...คงจะเพราะเขาไม่ค่อยสบายด้วยแถมยังบาดเจ็บก็เลยฟื้น แต่โดยรวมก็คงไม่มีปัญหาหรอก"

ริโกะอธิบาย ประสบการณ์ที่มองสรีระร่างกายมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก มันสามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งกว่าใช้เครื่องตรวจซะอีก

 

อีกหนึ่งตัวสำคัญที่พวกมันต้องการสินะ...

 

"อาคาชิคุง แล้วพวกไดจัง"

"ไม่เป็นไร พวกนั้นปลอดภัย... แต่ฉันไม่คิดว่าพวกนั้นจะอยู่เฉยหรอก"

เจ้าพวกหมาบ้า อีกเดี๋ยวก็คงยกโขยงมาถล่มที่นี่ และมันคงไม่ใช่การถล่มธรรมดาแน่ เพราะไอ้บ้าแต่ละตัวนั่น ไม่เคยจะใกล้เคียงกับคำว่าปกติธรรมดาเลย

(นายมันก็ด้วยแหละ อาคาชิซามะ)

เสียงน้ำ พวกเขาคงจะอยู่บนเรือสินะ....กลางทะเลเหรอ หรือว่าเทียบฝั่งกันนะ

ตอนนี้อาคาชิอยากรู้มากกว่าสิ่งอื่นใดก็คือไอ้หน้าไหนที่มันบังอาจลอบกัดจับตัวเขากับคุโรโกะมา

 

ท่าทางมันคงไม่อยากแก่ตาย!

 

แกร๊ก...

 

"อ้าวๆๆ ฟื้นกันแล้วเหรอ ดีจังเลยนะ"

ร่างหนึ่งเปิดประตูเข้ามา อาคาชิมองใบหน้ากร้านๆของคนตัวสูงผมสีทองนั่นเขม็ง

คนที่เป็นตัวการก็คือไอ้หมอนี่สินะ!

"ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ เซย์จูโร่คุง ดูเธอสิ โตขึ้นเยอะเลยนะ"

 

นักธุรกิจใหญ่ลำดับต้นๆของญี่ปุ่น สปอนเซอร์คนสำคัญของวงการกีฬาที่เพิ่งจะเข้ามามีบทบาทได้ไม่นาน(ว่าง่ายๆก็คือพวกเศรษฐีใหม่)

"โยชิคาว่า คิเคียวยะ"......(เอาชื่อนี้นะ สมมุตินะคะสมมุติ คิดไม่ออกอ่ะ =[]=)

"ดีใจที่จำกันได้ แหม ฉันล่ะอยากได้เธอมานานแล้ว ในที่สุดคุณชายผู้เพรียบพร้อมอย่างเธอก็ต้องมาอยู่ในมือของฉัน อาคาชิคุง แถมยัง...มีของเล่นสุดน่ารักน่าหยิกมาฝากฉันอีก"

สายตาคิเคียวยะไม่ได้มองโมโมอิ ไม่ได้มองริโกะ หากแต่มองตรงไปที่คุโรโกะที่ยังไม่ได้สติ

"หนุ่มน้อยน่ารักน่าอร่อยนั่น คุโรโกะ เท็ตสึยะคุงสินะ"

ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองว่ามันหมายถึงอะไร

"อย่าแม้แต่จะคิด"

"ว้าว หวงซะด้วย เธอในตอนนี้ไม่มีสิทธิจะปริปากพูดแบบนั้นกับฉันนะ เซย์จูโร่คุง"

=___=+++ / ไอ้หื่นเอ๊ย

"แหม หน้าตาดุดันแบบนี้ น่ารักจนชักอดใจไม่ไหวแล้วสิ"

"แก!!!!"

โมโมอิชักทนไม่ไหวเตรียมลุกไปตบหน้ากร้านๆหื่นๆของคิเคียวยะ แต่อาคาชิกางแขนกันเธอเอาไว้ด้านหลังก่อนที่พวกมันจะเข้ามาตะปบเธอ เท้าขวาของเขายกขึ้นถีบพวกมันล้มเรียงตัวไถลไปกองอยู่แทบเท้าคิเคียวยะเพียงเวลาไม่ถึงนาที

ตุ้บ!

พลั่ก!

"เฮ้ๆๆ ปกป้องคนอื่นเป็นด้วยเหรอ อาคาชิคุง"

"อาคาชิคุง"

"เงียบ"

คำประกาศิตไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ได้ผลชะงัด โมโมอิเงียบกริบไม่แม้จะพูดออกมาซักคำ แต่สายตาอาฆาตก็ยังส่งไปให้คิเคียวยะที่มองเธออย่างประเมินค่า

 

"ฉันอยากคุยกับเธอให้หายคิดถึงจังเลย เซย์จูโร่คุง จะปฏิสธก็ได้นะ "

สายตาคิเคียวยะตวัดไปมองคุโรโกะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันจะพูดอะไรต่อ

"ก็ได้"

"อาคาชิคุง!"

"ดูแลเท็ตสึยะ เดี๋ยวฉันมา"

 

ใครก็ตามที่มันบังอาจละลาบละล้วงสิ่งที่เขาเฝ้ามอง มันผู้นั้นต้องไม่ได้ตายดี

 

เรือลำนี้เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่อยู่กลางทะเลและกำลังจะไปที่ไหนซักแห่ง

อาคาชิถูกพาตัวมาที่ห้องรับรองสุดหรู ที่อยู่ตรงข้ามกับเขาคือเจ้าของห้อง คิเคียวยะใช้มือเสยผมสีทองขึ้น คลายเนคไทออกพอหลวม ปลดกระดุมให้เห็นแผงอก

มันกำลังยั่วสวาท แต่สำหรับอาคาชิมันเป็นการยั่วให้อยากฆ่าแล้วก็หั่นเป็นชิ้นๆโยนลงทะเล

คนผมแดงนั่งกอดอกไขว้ขาอยู่บนโซฟาหรูในมาดของราชา ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนไม่มีซะล่ะที่ราชาจะเป็นเด็กอมมือตัวสั่นงกๆ

"พูดมา"

คำสั่งของราชาสามารถใช้ได้ทุกที่

"อะไรกัน อุตส่าห์มานั่งเรือเล่นกันทั้งที รีแลกซ์หน่อยสิเซย์จูโร่คุง"

"......." อยากฆ่ามันตอนนี้ให้จบๆไปซะ

คนอย่างอาคาชิไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้ถ้าอยากจะทำ แต่เขารอบคอบพอที่จะหาสิ่งที่เรียกว่า "ฝันร้าย"ให้กับพวกมันทุกคน!

"อ่า...ก็ได้ๆพูดแล้ว ง่ายๆนิดเดียว ก็คือว่าฉันอยากได้เธอไงเซย์จูโร่คุง"

"....."

"ทีแรกฉันอยากได้เธอแค่คนเดียว แต่พอมาเจอกับคุโรโกะคุงฉันก็อยากได้มาทั้งสองคน เพื่อนของเธอคนนี้น่าสนใจดีว่ามั้ย ไม่อย่างนั้นราชันย์อย่างเธอคงไม่ยอมลดตัวมาคลุกคลีด้วยหรอก ที่ฉันพูดมาถูกมั้ย"

"ต้องการอะไร"

"เห....เธอรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เซย์จูโร่คุง"

ใช่ เขารู้อยู่แล้ว การคาดการณ์ของเขาแม่นยำเสมอ แต่ก็แค่อยากฟังให้มันเต็มสองรูหูเท่านั้น

"ฉันไม่อยากได้แค่คนเล่นบาสให้อย่างเดียวหรอกนะ อย่างน้อยก็คุโรโกะคุงคนนั้น"

ไม่ต้องให้มันพูดมากกว่านี้ก็เห็นภาพแล้วว่ามันต้องการอะไร ไอ้คนหื่นขึ้นหน้าขนาดเด็กอนุบาลยังดูออก

ไม่มีวันซะล่่ะ จะมายุ่งกับเท็ตสึยะเหรอ คนอย่างนี้มันต้องตาย!

"มาเล่นเกมกันมั้ยล่ะ เซย์จูโร่คุง ถ้าเธอแพ้ พวกเธอต้องเป็นของฉัน แต่ถ้าเธอชนะฉันก็จะปล่อยเธอกับเพื่อนของเธอไปโดยดี"

......

"ว่าไง"

"หึ...ที่ว่าเพื่อนน่ะ มีใครบ้างเหรอ"

"เอ๋?"

"คนอย่างคุณไม่มีคำว่าขาวสะอาดอยู่ในหัวตั้งแต่แรกแล้ว อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย คุณต้องการตัวผมกับเท็ตสึยะขนาดให้คนไปชิงตัวมาหน้าด้านๆ แล้วจู่ๆมาบอกว่าจะปล่อยเรา คิดว่ากำลังพูดอยู่กับใครกัน โยชิคาว่า คิเคียวยะ"

มันไม่คิดจะปล่อยใครไปทั้งนั้นล่ะ เรื่องอะไรที่จะฟังข้อต่อรองงี่เง่าปัญญาอ่อนของมัน

"มาต่อรองกันหน่อยมั้ย...คิเคียวยะ"

"อะ...อะไร"

"หึ...มาแข่งบาสกัน ถ้าเราแพ้เราจะยอมคุณแต่โดยดี แต่ถ้าพวกคุณแพ้ละก็...."

ชึบ!

เฮือก!!!!

กรรไกรมาจ่ออยู่ที่คอของคิเคียวยะ

มันเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!

"อยากรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกคุณแพ้...."

ใบมีดเย็นเฉียบค่อยๆไล้ไปตามลำคอช้าๆสร้างความหวาดเสียวปั่นป่วนในท้อง ดวงเนตรสองสีเหมือนพญาสัตว์ป่าที่จ้องเขมือบเหยื่อที่อ่อนแอกว่าทำเอาคิเคียวยะถึงกับเหงื่อซึม

อาคาชิ เซย์จูโร่ ไม่ใช่คนที่จะคิดอะไรตื้นๆแน่ ไม่มีครั้งไหนที่คนคนนี้จะพูดอะไรโดยไม่คิดไต่ตรองไว้ก่อน

"ถ้าคุณแพ้........."

อาคาชิยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูคิเคียวยะ

ซ่า.....

เสียงคลื่นจากทะเลกลบทุกเสียงทุกอย่างได้แนบเนียน แต่สำหรับคนที่ได้ยินมันเต็มสองรูหูตอนนี้คำพูดเหล่านั้นได้ฝังติดอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว

 

จับสัตว์ป่าน่ะจับง่าย แต่จะเลี้ยงให้มันเชื่อน่ะยาก

ยิ่งกับปีศาจ การจะทำให้มันเชื่องนั้นดูยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ และไม่แน่ว่าอาจจะถูกมันจับฉีกเป็นชิ้นๆด้วยซ้ำ

 

อาคาชิเดินกลับมาที่ห้องเองโดยไม่ต้องให้ใครคุมตัวมาให้เสียเวลา

รู้สึกพอใจกับข้อต่อรองรึเปล่า......ไม่ เขาไม่พอใจ เพราะมันน้อยเกินไป

แต่ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ ยังไงก็เข้ามาในรังของพวกมันแล้วก็เล่นให้มันรังแตกเป็นการฆ่าเวลาที่ดีทีเดียว จะใช้สถานที่นี้เป็นที่ฝึกปีศาจผู้กระหายชัยชนะตัวนั้น ให้ถล่มพวกมันให้ราบ

ปีศาจที่เขาสร้างขึ้นและจะเชื่องกับเขาที่แนะนำวิธีกางเขี้ยวเล็บให้

ปีศาจแห่งหายนะที่ชื่อว่าเท็ตสึยะ

 

"อะ! อาคาชิคุง"

"เท็ตสึยะล่ะ"

"ยังไม่ฟื้นเลยจ้ะ จะเป็นอะไรรึเปล่านะ"

โมโมอิตอบสีหน้าเริ่มจะหมองลง อาคาชิมองร่างคุโรโกะที่ยังนอนอยู่ที่เดิม ริโกะนั่งกอดเข่าซบหน้าอยู่อีกฝั่ง

การถูกจับตัวมาแบบนี้มันไม่ดีสำหรับใครเลยนั่นแหละ แต่มันเกิดขึ้นแล้วจะทำยังไงได้

"อาคาชิคุง พวกมันกำลังจะพาเราไปที่ไหน"

 

"ไม่รู้"

"อย่ามาบอกว่าไม่รู้นะ! เมื่อกี้นายไปคุยกับมันไม่ใช่เหรอน่าจะได้เรื่องอะไรมาบ้างสิ!"

ริโกะเริ่มวีน แต่อาคาชิกลับไม่สนใจ เขาเดินตรงไปช้อนเอาร่างคุโรโกะขึ้นไปวางบนโซฟา

"ดึกแล้ว พักผ่อนซะ"

"นี่นาย~ นายคิดบ้าอะไรอยู่ ห๊า!"

"ริโกะ!"

"ฉันบอกแล้ว ไปพักซะ แล้วอย่ารบกวน"

"!!!!"

สายตาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจเหลือกมองริโกะ แรงกดดันทำให้โค้ชสาวร่างเล็กเงียบกริบ

"อะ อาคาชิคุง"

"ไปพักซะ ซัทสึกิ พักเอาแรงไว้ให้พอ พรุ่งนี้...จะได้สำเร็จโทษพวกมันไงล่ะ"

รอยยิ้มซาตานโผล่มาแล้ว

น่ากลัว...คนคนนี้น่ากลัวนัก

สำเร็จโทษเหรอ......เป็นความคิดที่ดี พวกมันไม่ได้ตายดีแน่

โทษฐานที่มายุ่มย่ามกับสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์!

 

 

......

.......

........................

 

คุโรโกะขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะปรือตาขึ้นมา และสิ่งแรกที่เห็นก็คือนัยน์ตาสองสีที่วาวโรจน์ในความมืดที่มีแค่แสงจันทร์ลอดบานกระจกเข้ามา

"อาคาชิคุง"

"ฟื้นแล้วเหรอ หลับไปนานเลยนะ เท็ตสึยะ"

ตอนนี้คุโรโกะนอนหนุนตักอาคาชิอยู่บนโซฟา วงแขนแกร่งกอดร่างเขาไว้พอหลวม ดวงตาสีฟ้ากวาดมองไปรอบๆ

โซฟาตัวยาวอีกสองตัวมีคนจับจอง ส่วนตรงนี้ก็ถูกเขาจับจองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไม่เหลือที่ให้อาคาชิเลย

"ขอโทษทีครับ ผมนอนพอแล้ว อาคาชินอนต่อเถอะ"

 

ว่าแล้วก็เตรียมจะลุกแต่ก็ถูกอาคาชิห้ามเอาไว้ซะก่อน

"ไม่ต้อง นายนอนต่อเถอะ"

"แต่อาคาชิคุง"

"นอนซะเท็ตสึยะ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง"

"........ครับ"

ไม่มีทางเลือกนอนจากจะนอนหนุนตักแข็งๆเล็กๆนั้นเหมือนเดิม อาคาชิไม่ได้คลายอ้อมกอดแต่กลับกระชับมันแน่น ลำพังเสื้อโค้ทกันหนาวที่สวมอยู่มันคงจะไม่อบอุ่นพอหรอก

ความง่วงเข้ามาเอาชนะราชาได้ในที่สุด อาคาชิซบลงหนุนร่างบางที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาและหลับไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง หลับมันทั้งๆที่ยังนั่งอยู่นั่นแหละ

 

 

พรึ่บ!

ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกนำมาคลุมให้สองร่างที่นอนหัวก่ายกันอยู่บนโซฟาตัวเดียว

"ดูๆไปก็น่ารักจังนะ สองคนนี้"

 

ริโกะกับโมโมอิที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นเข้าสละผ้าห่มผืนหนึ่งให้สองหนุ่มที่หลับสนิท

"ปล่อยให้นอนไปอย่างนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะ"

"ไม่ต้องๆ ปล่อยไปแบบนี้แหละดีแล้ว"

โมโมอิแย้งหน้ายิ้มผ่อนคลาย มองสองหนุ่มที่นอนหลับปุ๋ย

 

ในบรรดาทีมปาฏิหาริย์คนที่อาคาชิ เซย์จูโร่ให้ความสำคัญที่สุดก็คงจะเป็นคุโรโกะเนี่ยแหละ ไม่ใช่แค่อาคาชิเท่านั้น แต่ทุกคนที่รู้จักตัวตนของคุโรโกะ เท็ตสึยะต่างก็ชอบเขาทั้งนั้น

------------------------------------

----------------------------------

-------------------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา