fic kuroko no basket แฟนธ่อมตัวที่หก
7.0
เขียนโดย zusuran
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.38 น.
17 ตอน
1 วิจารณ์
24.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2565 19.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) มาต่อรองกันหน่อยไหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแต่ไหนแต่ไรไม่เคยตัดสินใจพลาด ใช่...มันเป็นแบบนั้น ไม่ว่าทำอะไรก็จะได้รับชัยชนะเสมอ
แต่ในตอนนี้สิ พลาดอย่างท่า ไม่สิ...ยังไม่พลาดซักหน่อย
"อาคาชิคุง...อาคาชิคุง!"
เสียงหนึ่งเรียกชื่ออาคาชิซ้ำไปซ้ำมาจนน่ารำคาญ แล้วพอคลี่ตามองก็เจอกับเด็กสาวผมสีชมพู
"ซัทสึกิ"
"ค่อยยังชั่ว ฟื้นแล้ว"
"มาอยู่นี่ได้ยังไง"
"ถูกจับมา" ตรงจัด
"เท็ตสึยะล่ะ"
พวกมันจับเขามาพร้อมกับเท็ตสึยะนี่
"เท็ตสึคุงยังไม่ฟื้นเลยจ้ะ อยู่ตรงโน้นแน่ะ"
โมโมอิพูดพร้อมเบือนหน้าไปอีกมุมหนึ่งของห้องที่จัดได้ว่ากว้างและโล่ง ในห้องมีมีแค่โซฟา แต่เขากลับได้นอนอยู่บนพื้นซะงั้น อาคาชิยันตัวลุกขึ้นมองไปทางเดียวกับโมโมอิก็เห็นร่างของคุโรโกะนอนเหยียดอยู่บนพื้นเหมือนกัน ข้างๆเด็กหนุ่มผมฟ้ามีเด็กสาวอีกคน
นั่นมันโค้ชของทีมบาสเซย์ริน ไอดะ ริโกะ
"เธอเองก็โดนด้วยเหรอ"
"ฉันเองก็ไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าจับนายมาด้วยนะ อาคาชิคุง"
"จะตอกย้ำกันอีกนานมั้ย"
"ไม่เอาน่า ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย อย่าเพิ่งทะเลาะกันได้มั้ย อาคาชิคุง ริโกะซัง"
ถ้าไม่มีโมโมอิสองคนนี่คงจะซัดหน้ากันไปแล้ว...มั้ง
อาคาชิไม่ได้สนใจจะมาทะเลาะกับแม่สาวห้าวนี่หรอก ตอนนี้สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่คุโรโกะที่ยังนอนนิ่งไม่ไหวติงนั่นมากกว่า
"เท็ตสึยะเป็นยังไงบ้าง"
"พวกนายคงถูกพวกมันฉีดยาสลบสินะ แต่นายแข็งแรงกว่าคุโรโกะคุงก็เลยฟื้นขึ้นมาก่อน ส่วนคุโรโกะคุง...คงจะเพราะเขาไม่ค่อยสบายด้วยแถมยังบาดเจ็บก็เลยฟื้น แต่โดยรวมก็คงไม่มีปัญหาหรอก"
ริโกะอธิบาย ประสบการณ์ที่มองสรีระร่างกายมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก มันสามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งกว่าใช้เครื่องตรวจซะอีก
อีกหนึ่งตัวสำคัญที่พวกมันต้องการสินะ...
"อาคาชิคุง แล้วพวกไดจัง"
"ไม่เป็นไร พวกนั้นปลอดภัย... แต่ฉันไม่คิดว่าพวกนั้นจะอยู่เฉยหรอก"
เจ้าพวกหมาบ้า อีกเดี๋ยวก็คงยกโขยงมาถล่มที่นี่ และมันคงไม่ใช่การถล่มธรรมดาแน่ เพราะไอ้บ้าแต่ละตัวนั่น ไม่เคยจะใกล้เคียงกับคำว่าปกติธรรมดาเลย
(นายมันก็ด้วยแหละ อาคาชิซามะ)
เสียงน้ำ พวกเขาคงจะอยู่บนเรือสินะ....กลางทะเลเหรอ หรือว่าเทียบฝั่งกันนะ
ตอนนี้อาคาชิอยากรู้มากกว่าสิ่งอื่นใดก็คือไอ้หน้าไหนที่มันบังอาจลอบกัดจับตัวเขากับคุโรโกะมา
ท่าทางมันคงไม่อยากแก่ตาย!
แกร๊ก...
"อ้าวๆๆ ฟื้นกันแล้วเหรอ ดีจังเลยนะ"
ร่างหนึ่งเปิดประตูเข้ามา อาคาชิมองใบหน้ากร้านๆของคนตัวสูงผมสีทองนั่นเขม็ง
คนที่เป็นตัวการก็คือไอ้หมอนี่สินะ!
"ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ เซย์จูโร่คุง ดูเธอสิ โตขึ้นเยอะเลยนะ"
นักธุรกิจใหญ่ลำดับต้นๆของญี่ปุ่น สปอนเซอร์คนสำคัญของวงการกีฬาที่เพิ่งจะเข้ามามีบทบาทได้ไม่นาน(ว่าง่ายๆก็คือพวกเศรษฐีใหม่)
"โยชิคาว่า คิเคียวยะ"......(เอาชื่อนี้นะ สมมุตินะคะสมมุติ คิดไม่ออกอ่ะ =[]=)
"ดีใจที่จำกันได้ แหม ฉันล่ะอยากได้เธอมานานแล้ว ในที่สุดคุณชายผู้เพรียบพร้อมอย่างเธอก็ต้องมาอยู่ในมือของฉัน อาคาชิคุง แถมยัง...มีของเล่นสุดน่ารักน่าหยิกมาฝากฉันอีก"
สายตาคิเคียวยะไม่ได้มองโมโมอิ ไม่ได้มองริโกะ หากแต่มองตรงไปที่คุโรโกะที่ยังไม่ได้สติ
"หนุ่มน้อยน่ารักน่าอร่อยนั่น คุโรโกะ เท็ตสึยะคุงสินะ"
ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองว่ามันหมายถึงอะไร
"อย่าแม้แต่จะคิด"
"ว้าว หวงซะด้วย เธอในตอนนี้ไม่มีสิทธิจะปริปากพูดแบบนั้นกับฉันนะ เซย์จูโร่คุง"
=___=+++ / ไอ้หื่นเอ๊ย
"แหม หน้าตาดุดันแบบนี้ น่ารักจนชักอดใจไม่ไหวแล้วสิ"
"แก!!!!"
โมโมอิชักทนไม่ไหวเตรียมลุกไปตบหน้ากร้านๆหื่นๆของคิเคียวยะ แต่อาคาชิกางแขนกันเธอเอาไว้ด้านหลังก่อนที่พวกมันจะเข้ามาตะปบเธอ เท้าขวาของเขายกขึ้นถีบพวกมันล้มเรียงตัวไถลไปกองอยู่แทบเท้าคิเคียวยะเพียงเวลาไม่ถึงนาที
ตุ้บ!
พลั่ก!
"เฮ้ๆๆ ปกป้องคนอื่นเป็นด้วยเหรอ อาคาชิคุง"
"อาคาชิคุง"
"เงียบ"
คำประกาศิตไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ได้ผลชะงัด โมโมอิเงียบกริบไม่แม้จะพูดออกมาซักคำ แต่สายตาอาฆาตก็ยังส่งไปให้คิเคียวยะที่มองเธออย่างประเมินค่า
"ฉันอยากคุยกับเธอให้หายคิดถึงจังเลย เซย์จูโร่คุง จะปฏิสธก็ได้นะ "
สายตาคิเคียวยะตวัดไปมองคุโรโกะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันจะพูดอะไรต่อ
"ก็ได้"
"อาคาชิคุง!"
"ดูแลเท็ตสึยะ เดี๋ยวฉันมา"
ใครก็ตามที่มันบังอาจละลาบละล้วงสิ่งที่เขาเฝ้ามอง มันผู้นั้นต้องไม่ได้ตายดี
เรือลำนี้เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่อยู่กลางทะเลและกำลังจะไปที่ไหนซักแห่ง
อาคาชิถูกพาตัวมาที่ห้องรับรองสุดหรู ที่อยู่ตรงข้ามกับเขาคือเจ้าของห้อง คิเคียวยะใช้มือเสยผมสีทองขึ้น คลายเนคไทออกพอหลวม ปลดกระดุมให้เห็นแผงอก
มันกำลังยั่วสวาท แต่สำหรับอาคาชิมันเป็นการยั่วให้อยากฆ่าแล้วก็หั่นเป็นชิ้นๆโยนลงทะเล
คนผมแดงนั่งกอดอกไขว้ขาอยู่บนโซฟาหรูในมาดของราชา ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนไม่มีซะล่ะที่ราชาจะเป็นเด็กอมมือตัวสั่นงกๆ
"พูดมา"
คำสั่งของราชาสามารถใช้ได้ทุกที่
"อะไรกัน อุตส่าห์มานั่งเรือเล่นกันทั้งที รีแลกซ์หน่อยสิเซย์จูโร่คุง"
"......." อยากฆ่ามันตอนนี้ให้จบๆไปซะ
คนอย่างอาคาชิไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้ถ้าอยากจะทำ แต่เขารอบคอบพอที่จะหาสิ่งที่เรียกว่า "ฝันร้าย"ให้กับพวกมันทุกคน!
"อ่า...ก็ได้ๆพูดแล้ว ง่ายๆนิดเดียว ก็คือว่าฉันอยากได้เธอไงเซย์จูโร่คุง"
"....."
"ทีแรกฉันอยากได้เธอแค่คนเดียว แต่พอมาเจอกับคุโรโกะคุงฉันก็อยากได้มาทั้งสองคน เพื่อนของเธอคนนี้น่าสนใจดีว่ามั้ย ไม่อย่างนั้นราชันย์อย่างเธอคงไม่ยอมลดตัวมาคลุกคลีด้วยหรอก ที่ฉันพูดมาถูกมั้ย"
"ต้องการอะไร"
"เห....เธอรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เซย์จูโร่คุง"
ใช่ เขารู้อยู่แล้ว การคาดการณ์ของเขาแม่นยำเสมอ แต่ก็แค่อยากฟังให้มันเต็มสองรูหูเท่านั้น
"ฉันไม่อยากได้แค่คนเล่นบาสให้อย่างเดียวหรอกนะ อย่างน้อยก็คุโรโกะคุงคนนั้น"
ไม่ต้องให้มันพูดมากกว่านี้ก็เห็นภาพแล้วว่ามันต้องการอะไร ไอ้คนหื่นขึ้นหน้าขนาดเด็กอนุบาลยังดูออก
ไม่มีวันซะล่่ะ จะมายุ่งกับเท็ตสึยะเหรอ คนอย่างนี้มันต้องตาย!
"มาเล่นเกมกันมั้ยล่ะ เซย์จูโร่คุง ถ้าเธอแพ้ พวกเธอต้องเป็นของฉัน แต่ถ้าเธอชนะฉันก็จะปล่อยเธอกับเพื่อนของเธอไปโดยดี"
......
"ว่าไง"
"หึ...ที่ว่าเพื่อนน่ะ มีใครบ้างเหรอ"
"เอ๋?"
"คนอย่างคุณไม่มีคำว่าขาวสะอาดอยู่ในหัวตั้งแต่แรกแล้ว อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย คุณต้องการตัวผมกับเท็ตสึยะขนาดให้คนไปชิงตัวมาหน้าด้านๆ แล้วจู่ๆมาบอกว่าจะปล่อยเรา คิดว่ากำลังพูดอยู่กับใครกัน โยชิคาว่า คิเคียวยะ"
มันไม่คิดจะปล่อยใครไปทั้งนั้นล่ะ เรื่องอะไรที่จะฟังข้อต่อรองงี่เง่าปัญญาอ่อนของมัน
"มาต่อรองกันหน่อยมั้ย...คิเคียวยะ"
"อะ...อะไร"
"หึ...มาแข่งบาสกัน ถ้าเราแพ้เราจะยอมคุณแต่โดยดี แต่ถ้าพวกคุณแพ้ละก็...."
ชึบ!
เฮือก!!!!
กรรไกรมาจ่ออยู่ที่คอของคิเคียวยะ
มันเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
"อยากรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกคุณแพ้...."
ใบมีดเย็นเฉียบค่อยๆไล้ไปตามลำคอช้าๆสร้างความหวาดเสียวปั่นป่วนในท้อง ดวงเนตรสองสีเหมือนพญาสัตว์ป่าที่จ้องเขมือบเหยื่อที่อ่อนแอกว่าทำเอาคิเคียวยะถึงกับเหงื่อซึม
อาคาชิ เซย์จูโร่ ไม่ใช่คนที่จะคิดอะไรตื้นๆแน่ ไม่มีครั้งไหนที่คนคนนี้จะพูดอะไรโดยไม่คิดไต่ตรองไว้ก่อน
"ถ้าคุณแพ้........."
อาคาชิยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูคิเคียวยะ
ซ่า.....
เสียงคลื่นจากทะเลกลบทุกเสียงทุกอย่างได้แนบเนียน แต่สำหรับคนที่ได้ยินมันเต็มสองรูหูตอนนี้คำพูดเหล่านั้นได้ฝังติดอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว
จับสัตว์ป่าน่ะจับง่าย แต่จะเลี้ยงให้มันเชื่อน่ะยาก
ยิ่งกับปีศาจ การจะทำให้มันเชื่องนั้นดูยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ และไม่แน่ว่าอาจจะถูกมันจับฉีกเป็นชิ้นๆด้วยซ้ำ
อาคาชิเดินกลับมาที่ห้องเองโดยไม่ต้องให้ใครคุมตัวมาให้เสียเวลา
รู้สึกพอใจกับข้อต่อรองรึเปล่า......ไม่ เขาไม่พอใจ เพราะมันน้อยเกินไป
แต่ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ ยังไงก็เข้ามาในรังของพวกมันแล้วก็เล่นให้มันรังแตกเป็นการฆ่าเวลาที่ดีทีเดียว จะใช้สถานที่นี้เป็นที่ฝึกปีศาจผู้กระหายชัยชนะตัวนั้น ให้ถล่มพวกมันให้ราบ
ปีศาจที่เขาสร้างขึ้นและจะเชื่องกับเขาที่แนะนำวิธีกางเขี้ยวเล็บให้
ปีศาจแห่งหายนะที่ชื่อว่าเท็ตสึยะ
"อะ! อาคาชิคุง"
"เท็ตสึยะล่ะ"
"ยังไม่ฟื้นเลยจ้ะ จะเป็นอะไรรึเปล่านะ"
โมโมอิตอบสีหน้าเริ่มจะหมองลง อาคาชิมองร่างคุโรโกะที่ยังนอนอยู่ที่เดิม ริโกะนั่งกอดเข่าซบหน้าอยู่อีกฝั่ง
การถูกจับตัวมาแบบนี้มันไม่ดีสำหรับใครเลยนั่นแหละ แต่มันเกิดขึ้นแล้วจะทำยังไงได้
"อาคาชิคุง พวกมันกำลังจะพาเราไปที่ไหน"
"ไม่รู้"
"อย่ามาบอกว่าไม่รู้นะ! เมื่อกี้นายไปคุยกับมันไม่ใช่เหรอน่าจะได้เรื่องอะไรมาบ้างสิ!"
ริโกะเริ่มวีน แต่อาคาชิกลับไม่สนใจ เขาเดินตรงไปช้อนเอาร่างคุโรโกะขึ้นไปวางบนโซฟา
"ดึกแล้ว พักผ่อนซะ"
"นี่นาย~ นายคิดบ้าอะไรอยู่ ห๊า!"
"ริโกะ!"
"ฉันบอกแล้ว ไปพักซะ แล้วอย่ารบกวน"
"!!!!"
สายตาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจเหลือกมองริโกะ แรงกดดันทำให้โค้ชสาวร่างเล็กเงียบกริบ
"อะ อาคาชิคุง"
"ไปพักซะ ซัทสึกิ พักเอาแรงไว้ให้พอ พรุ่งนี้...จะได้สำเร็จโทษพวกมันไงล่ะ"
รอยยิ้มซาตานโผล่มาแล้ว
น่ากลัว...คนคนนี้น่ากลัวนัก
สำเร็จโทษเหรอ......เป็นความคิดที่ดี พวกมันไม่ได้ตายดีแน่
โทษฐานที่มายุ่มย่ามกับสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์!
......
.......
........................
คุโรโกะขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะปรือตาขึ้นมา และสิ่งแรกที่เห็นก็คือนัยน์ตาสองสีที่วาวโรจน์ในความมืดที่มีแค่แสงจันทร์ลอดบานกระจกเข้ามา
"อาคาชิคุง"
"ฟื้นแล้วเหรอ หลับไปนานเลยนะ เท็ตสึยะ"
ตอนนี้คุโรโกะนอนหนุนตักอาคาชิอยู่บนโซฟา วงแขนแกร่งกอดร่างเขาไว้พอหลวม ดวงตาสีฟ้ากวาดมองไปรอบๆ
โซฟาตัวยาวอีกสองตัวมีคนจับจอง ส่วนตรงนี้ก็ถูกเขาจับจองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไม่เหลือที่ให้อาคาชิเลย
"ขอโทษทีครับ ผมนอนพอแล้ว อาคาชินอนต่อเถอะ"
ว่าแล้วก็เตรียมจะลุกแต่ก็ถูกอาคาชิห้ามเอาไว้ซะก่อน
"ไม่ต้อง นายนอนต่อเถอะ"
"แต่อาคาชิคุง"
"นอนซะเท็ตสึยะ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง"
"........ครับ"
ไม่มีทางเลือกนอนจากจะนอนหนุนตักแข็งๆเล็กๆนั้นเหมือนเดิม อาคาชิไม่ได้คลายอ้อมกอดแต่กลับกระชับมันแน่น ลำพังเสื้อโค้ทกันหนาวที่สวมอยู่มันคงจะไม่อบอุ่นพอหรอก
ความง่วงเข้ามาเอาชนะราชาได้ในที่สุด อาคาชิซบลงหนุนร่างบางที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาและหลับไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง หลับมันทั้งๆที่ยังนั่งอยู่นั่นแหละ
พรึ่บ!
ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกนำมาคลุมให้สองร่างที่นอนหัวก่ายกันอยู่บนโซฟาตัวเดียว
"ดูๆไปก็น่ารักจังนะ สองคนนี้"
ริโกะกับโมโมอิที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นเข้าสละผ้าห่มผืนหนึ่งให้สองหนุ่มที่หลับสนิท
"ปล่อยให้นอนไปอย่างนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะ"
"ไม่ต้องๆ ปล่อยไปแบบนี้แหละดีแล้ว"
โมโมอิแย้งหน้ายิ้มผ่อนคลาย มองสองหนุ่มที่นอนหลับปุ๋ย
ในบรรดาทีมปาฏิหาริย์คนที่อาคาชิ เซย์จูโร่ให้ความสำคัญที่สุดก็คงจะเป็นคุโรโกะเนี่ยแหละ ไม่ใช่แค่อาคาชิเท่านั้น แต่ทุกคนที่รู้จักตัวตนของคุโรโกะ เท็ตสึยะต่างก็ชอบเขาทั้งนั้น
------------------------------------
----------------------------------
-------------------------
แต่ในตอนนี้สิ พลาดอย่างท่า ไม่สิ...ยังไม่พลาดซักหน่อย
"อาคาชิคุง...อาคาชิคุง!"
เสียงหนึ่งเรียกชื่ออาคาชิซ้ำไปซ้ำมาจนน่ารำคาญ แล้วพอคลี่ตามองก็เจอกับเด็กสาวผมสีชมพู
"ซัทสึกิ"
"ค่อยยังชั่ว ฟื้นแล้ว"
"มาอยู่นี่ได้ยังไง"
"ถูกจับมา" ตรงจัด
"เท็ตสึยะล่ะ"
พวกมันจับเขามาพร้อมกับเท็ตสึยะนี่
"เท็ตสึคุงยังไม่ฟื้นเลยจ้ะ อยู่ตรงโน้นแน่ะ"
โมโมอิพูดพร้อมเบือนหน้าไปอีกมุมหนึ่งของห้องที่จัดได้ว่ากว้างและโล่ง ในห้องมีมีแค่โซฟา แต่เขากลับได้นอนอยู่บนพื้นซะงั้น อาคาชิยันตัวลุกขึ้นมองไปทางเดียวกับโมโมอิก็เห็นร่างของคุโรโกะนอนเหยียดอยู่บนพื้นเหมือนกัน ข้างๆเด็กหนุ่มผมฟ้ามีเด็กสาวอีกคน
นั่นมันโค้ชของทีมบาสเซย์ริน ไอดะ ริโกะ
"เธอเองก็โดนด้วยเหรอ"
"ฉันเองก็ไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าจับนายมาด้วยนะ อาคาชิคุง"
"จะตอกย้ำกันอีกนานมั้ย"
"ไม่เอาน่า ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย อย่าเพิ่งทะเลาะกันได้มั้ย อาคาชิคุง ริโกะซัง"
ถ้าไม่มีโมโมอิสองคนนี่คงจะซัดหน้ากันไปแล้ว...มั้ง
อาคาชิไม่ได้สนใจจะมาทะเลาะกับแม่สาวห้าวนี่หรอก ตอนนี้สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่คุโรโกะที่ยังนอนนิ่งไม่ไหวติงนั่นมากกว่า
"เท็ตสึยะเป็นยังไงบ้าง"
"พวกนายคงถูกพวกมันฉีดยาสลบสินะ แต่นายแข็งแรงกว่าคุโรโกะคุงก็เลยฟื้นขึ้นมาก่อน ส่วนคุโรโกะคุง...คงจะเพราะเขาไม่ค่อยสบายด้วยแถมยังบาดเจ็บก็เลยฟื้น แต่โดยรวมก็คงไม่มีปัญหาหรอก"
ริโกะอธิบาย ประสบการณ์ที่มองสรีระร่างกายมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก มันสามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งกว่าใช้เครื่องตรวจซะอีก
อีกหนึ่งตัวสำคัญที่พวกมันต้องการสินะ...
"อาคาชิคุง แล้วพวกไดจัง"
"ไม่เป็นไร พวกนั้นปลอดภัย... แต่ฉันไม่คิดว่าพวกนั้นจะอยู่เฉยหรอก"
เจ้าพวกหมาบ้า อีกเดี๋ยวก็คงยกโขยงมาถล่มที่นี่ และมันคงไม่ใช่การถล่มธรรมดาแน่ เพราะไอ้บ้าแต่ละตัวนั่น ไม่เคยจะใกล้เคียงกับคำว่าปกติธรรมดาเลย
(นายมันก็ด้วยแหละ อาคาชิซามะ)
เสียงน้ำ พวกเขาคงจะอยู่บนเรือสินะ....กลางทะเลเหรอ หรือว่าเทียบฝั่งกันนะ
ตอนนี้อาคาชิอยากรู้มากกว่าสิ่งอื่นใดก็คือไอ้หน้าไหนที่มันบังอาจลอบกัดจับตัวเขากับคุโรโกะมา
ท่าทางมันคงไม่อยากแก่ตาย!
แกร๊ก...
"อ้าวๆๆ ฟื้นกันแล้วเหรอ ดีจังเลยนะ"
ร่างหนึ่งเปิดประตูเข้ามา อาคาชิมองใบหน้ากร้านๆของคนตัวสูงผมสีทองนั่นเขม็ง
คนที่เป็นตัวการก็คือไอ้หมอนี่สินะ!
"ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ เซย์จูโร่คุง ดูเธอสิ โตขึ้นเยอะเลยนะ"
นักธุรกิจใหญ่ลำดับต้นๆของญี่ปุ่น สปอนเซอร์คนสำคัญของวงการกีฬาที่เพิ่งจะเข้ามามีบทบาทได้ไม่นาน(ว่าง่ายๆก็คือพวกเศรษฐีใหม่)
"โยชิคาว่า คิเคียวยะ"......(เอาชื่อนี้นะ สมมุตินะคะสมมุติ คิดไม่ออกอ่ะ =[]=)
"ดีใจที่จำกันได้ แหม ฉันล่ะอยากได้เธอมานานแล้ว ในที่สุดคุณชายผู้เพรียบพร้อมอย่างเธอก็ต้องมาอยู่ในมือของฉัน อาคาชิคุง แถมยัง...มีของเล่นสุดน่ารักน่าหยิกมาฝากฉันอีก"
สายตาคิเคียวยะไม่ได้มองโมโมอิ ไม่ได้มองริโกะ หากแต่มองตรงไปที่คุโรโกะที่ยังไม่ได้สติ
"หนุ่มน้อยน่ารักน่าอร่อยนั่น คุโรโกะ เท็ตสึยะคุงสินะ"
ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองว่ามันหมายถึงอะไร
"อย่าแม้แต่จะคิด"
"ว้าว หวงซะด้วย เธอในตอนนี้ไม่มีสิทธิจะปริปากพูดแบบนั้นกับฉันนะ เซย์จูโร่คุง"
=___=+++ / ไอ้หื่นเอ๊ย
"แหม หน้าตาดุดันแบบนี้ น่ารักจนชักอดใจไม่ไหวแล้วสิ"
"แก!!!!"
โมโมอิชักทนไม่ไหวเตรียมลุกไปตบหน้ากร้านๆหื่นๆของคิเคียวยะ แต่อาคาชิกางแขนกันเธอเอาไว้ด้านหลังก่อนที่พวกมันจะเข้ามาตะปบเธอ เท้าขวาของเขายกขึ้นถีบพวกมันล้มเรียงตัวไถลไปกองอยู่แทบเท้าคิเคียวยะเพียงเวลาไม่ถึงนาที
ตุ้บ!
พลั่ก!
"เฮ้ๆๆ ปกป้องคนอื่นเป็นด้วยเหรอ อาคาชิคุง"
"อาคาชิคุง"
"เงียบ"
คำประกาศิตไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ได้ผลชะงัด โมโมอิเงียบกริบไม่แม้จะพูดออกมาซักคำ แต่สายตาอาฆาตก็ยังส่งไปให้คิเคียวยะที่มองเธออย่างประเมินค่า
"ฉันอยากคุยกับเธอให้หายคิดถึงจังเลย เซย์จูโร่คุง จะปฏิสธก็ได้นะ "
สายตาคิเคียวยะตวัดไปมองคุโรโกะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันจะพูดอะไรต่อ
"ก็ได้"
"อาคาชิคุง!"
"ดูแลเท็ตสึยะ เดี๋ยวฉันมา"
ใครก็ตามที่มันบังอาจละลาบละล้วงสิ่งที่เขาเฝ้ามอง มันผู้นั้นต้องไม่ได้ตายดี
เรือลำนี้เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่อยู่กลางทะเลและกำลังจะไปที่ไหนซักแห่ง
อาคาชิถูกพาตัวมาที่ห้องรับรองสุดหรู ที่อยู่ตรงข้ามกับเขาคือเจ้าของห้อง คิเคียวยะใช้มือเสยผมสีทองขึ้น คลายเนคไทออกพอหลวม ปลดกระดุมให้เห็นแผงอก
มันกำลังยั่วสวาท แต่สำหรับอาคาชิมันเป็นการยั่วให้อยากฆ่าแล้วก็หั่นเป็นชิ้นๆโยนลงทะเล
คนผมแดงนั่งกอดอกไขว้ขาอยู่บนโซฟาหรูในมาดของราชา ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนไม่มีซะล่ะที่ราชาจะเป็นเด็กอมมือตัวสั่นงกๆ
"พูดมา"
คำสั่งของราชาสามารถใช้ได้ทุกที่
"อะไรกัน อุตส่าห์มานั่งเรือเล่นกันทั้งที รีแลกซ์หน่อยสิเซย์จูโร่คุง"
"......." อยากฆ่ามันตอนนี้ให้จบๆไปซะ
คนอย่างอาคาชิไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้ถ้าอยากจะทำ แต่เขารอบคอบพอที่จะหาสิ่งที่เรียกว่า "ฝันร้าย"ให้กับพวกมันทุกคน!
"อ่า...ก็ได้ๆพูดแล้ว ง่ายๆนิดเดียว ก็คือว่าฉันอยากได้เธอไงเซย์จูโร่คุง"
"....."
"ทีแรกฉันอยากได้เธอแค่คนเดียว แต่พอมาเจอกับคุโรโกะคุงฉันก็อยากได้มาทั้งสองคน เพื่อนของเธอคนนี้น่าสนใจดีว่ามั้ย ไม่อย่างนั้นราชันย์อย่างเธอคงไม่ยอมลดตัวมาคลุกคลีด้วยหรอก ที่ฉันพูดมาถูกมั้ย"
"ต้องการอะไร"
"เห....เธอรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เซย์จูโร่คุง"
ใช่ เขารู้อยู่แล้ว การคาดการณ์ของเขาแม่นยำเสมอ แต่ก็แค่อยากฟังให้มันเต็มสองรูหูเท่านั้น
"ฉันไม่อยากได้แค่คนเล่นบาสให้อย่างเดียวหรอกนะ อย่างน้อยก็คุโรโกะคุงคนนั้น"
ไม่ต้องให้มันพูดมากกว่านี้ก็เห็นภาพแล้วว่ามันต้องการอะไร ไอ้คนหื่นขึ้นหน้าขนาดเด็กอนุบาลยังดูออก
ไม่มีวันซะล่่ะ จะมายุ่งกับเท็ตสึยะเหรอ คนอย่างนี้มันต้องตาย!
"มาเล่นเกมกันมั้ยล่ะ เซย์จูโร่คุง ถ้าเธอแพ้ พวกเธอต้องเป็นของฉัน แต่ถ้าเธอชนะฉันก็จะปล่อยเธอกับเพื่อนของเธอไปโดยดี"
......
"ว่าไง"
"หึ...ที่ว่าเพื่อนน่ะ มีใครบ้างเหรอ"
"เอ๋?"
"คนอย่างคุณไม่มีคำว่าขาวสะอาดอยู่ในหัวตั้งแต่แรกแล้ว อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย คุณต้องการตัวผมกับเท็ตสึยะขนาดให้คนไปชิงตัวมาหน้าด้านๆ แล้วจู่ๆมาบอกว่าจะปล่อยเรา คิดว่ากำลังพูดอยู่กับใครกัน โยชิคาว่า คิเคียวยะ"
มันไม่คิดจะปล่อยใครไปทั้งนั้นล่ะ เรื่องอะไรที่จะฟังข้อต่อรองงี่เง่าปัญญาอ่อนของมัน
"มาต่อรองกันหน่อยมั้ย...คิเคียวยะ"
"อะ...อะไร"
"หึ...มาแข่งบาสกัน ถ้าเราแพ้เราจะยอมคุณแต่โดยดี แต่ถ้าพวกคุณแพ้ละก็...."
ชึบ!
เฮือก!!!!
กรรไกรมาจ่ออยู่ที่คอของคิเคียวยะ
มันเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
"อยากรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกคุณแพ้...."
ใบมีดเย็นเฉียบค่อยๆไล้ไปตามลำคอช้าๆสร้างความหวาดเสียวปั่นป่วนในท้อง ดวงเนตรสองสีเหมือนพญาสัตว์ป่าที่จ้องเขมือบเหยื่อที่อ่อนแอกว่าทำเอาคิเคียวยะถึงกับเหงื่อซึม
อาคาชิ เซย์จูโร่ ไม่ใช่คนที่จะคิดอะไรตื้นๆแน่ ไม่มีครั้งไหนที่คนคนนี้จะพูดอะไรโดยไม่คิดไต่ตรองไว้ก่อน
"ถ้าคุณแพ้........."
อาคาชิยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูคิเคียวยะ
ซ่า.....
เสียงคลื่นจากทะเลกลบทุกเสียงทุกอย่างได้แนบเนียน แต่สำหรับคนที่ได้ยินมันเต็มสองรูหูตอนนี้คำพูดเหล่านั้นได้ฝังติดอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว
จับสัตว์ป่าน่ะจับง่าย แต่จะเลี้ยงให้มันเชื่อน่ะยาก
ยิ่งกับปีศาจ การจะทำให้มันเชื่องนั้นดูยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ และไม่แน่ว่าอาจจะถูกมันจับฉีกเป็นชิ้นๆด้วยซ้ำ
อาคาชิเดินกลับมาที่ห้องเองโดยไม่ต้องให้ใครคุมตัวมาให้เสียเวลา
รู้สึกพอใจกับข้อต่อรองรึเปล่า......ไม่ เขาไม่พอใจ เพราะมันน้อยเกินไป
แต่ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ ยังไงก็เข้ามาในรังของพวกมันแล้วก็เล่นให้มันรังแตกเป็นการฆ่าเวลาที่ดีทีเดียว จะใช้สถานที่นี้เป็นที่ฝึกปีศาจผู้กระหายชัยชนะตัวนั้น ให้ถล่มพวกมันให้ราบ
ปีศาจที่เขาสร้างขึ้นและจะเชื่องกับเขาที่แนะนำวิธีกางเขี้ยวเล็บให้
ปีศาจแห่งหายนะที่ชื่อว่าเท็ตสึยะ
"อะ! อาคาชิคุง"
"เท็ตสึยะล่ะ"
"ยังไม่ฟื้นเลยจ้ะ จะเป็นอะไรรึเปล่านะ"
โมโมอิตอบสีหน้าเริ่มจะหมองลง อาคาชิมองร่างคุโรโกะที่ยังนอนอยู่ที่เดิม ริโกะนั่งกอดเข่าซบหน้าอยู่อีกฝั่ง
การถูกจับตัวมาแบบนี้มันไม่ดีสำหรับใครเลยนั่นแหละ แต่มันเกิดขึ้นแล้วจะทำยังไงได้
"อาคาชิคุง พวกมันกำลังจะพาเราไปที่ไหน"
"ไม่รู้"
"อย่ามาบอกว่าไม่รู้นะ! เมื่อกี้นายไปคุยกับมันไม่ใช่เหรอน่าจะได้เรื่องอะไรมาบ้างสิ!"
ริโกะเริ่มวีน แต่อาคาชิกลับไม่สนใจ เขาเดินตรงไปช้อนเอาร่างคุโรโกะขึ้นไปวางบนโซฟา
"ดึกแล้ว พักผ่อนซะ"
"นี่นาย~ นายคิดบ้าอะไรอยู่ ห๊า!"
"ริโกะ!"
"ฉันบอกแล้ว ไปพักซะ แล้วอย่ารบกวน"
"!!!!"
สายตาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจเหลือกมองริโกะ แรงกดดันทำให้โค้ชสาวร่างเล็กเงียบกริบ
"อะ อาคาชิคุง"
"ไปพักซะ ซัทสึกิ พักเอาแรงไว้ให้พอ พรุ่งนี้...จะได้สำเร็จโทษพวกมันไงล่ะ"
รอยยิ้มซาตานโผล่มาแล้ว
น่ากลัว...คนคนนี้น่ากลัวนัก
สำเร็จโทษเหรอ......เป็นความคิดที่ดี พวกมันไม่ได้ตายดีแน่
โทษฐานที่มายุ่มย่ามกับสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์!
......
.......
........................
คุโรโกะขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะปรือตาขึ้นมา และสิ่งแรกที่เห็นก็คือนัยน์ตาสองสีที่วาวโรจน์ในความมืดที่มีแค่แสงจันทร์ลอดบานกระจกเข้ามา
"อาคาชิคุง"
"ฟื้นแล้วเหรอ หลับไปนานเลยนะ เท็ตสึยะ"
ตอนนี้คุโรโกะนอนหนุนตักอาคาชิอยู่บนโซฟา วงแขนแกร่งกอดร่างเขาไว้พอหลวม ดวงตาสีฟ้ากวาดมองไปรอบๆ
โซฟาตัวยาวอีกสองตัวมีคนจับจอง ส่วนตรงนี้ก็ถูกเขาจับจองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไม่เหลือที่ให้อาคาชิเลย
"ขอโทษทีครับ ผมนอนพอแล้ว อาคาชินอนต่อเถอะ"
ว่าแล้วก็เตรียมจะลุกแต่ก็ถูกอาคาชิห้ามเอาไว้ซะก่อน
"ไม่ต้อง นายนอนต่อเถอะ"
"แต่อาคาชิคุง"
"นอนซะเท็ตสึยะ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง"
"........ครับ"
ไม่มีทางเลือกนอนจากจะนอนหนุนตักแข็งๆเล็กๆนั้นเหมือนเดิม อาคาชิไม่ได้คลายอ้อมกอดแต่กลับกระชับมันแน่น ลำพังเสื้อโค้ทกันหนาวที่สวมอยู่มันคงจะไม่อบอุ่นพอหรอก
ความง่วงเข้ามาเอาชนะราชาได้ในที่สุด อาคาชิซบลงหนุนร่างบางที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาและหลับไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง หลับมันทั้งๆที่ยังนั่งอยู่นั่นแหละ
พรึ่บ!
ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกนำมาคลุมให้สองร่างที่นอนหัวก่ายกันอยู่บนโซฟาตัวเดียว
"ดูๆไปก็น่ารักจังนะ สองคนนี้"
ริโกะกับโมโมอิที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นเข้าสละผ้าห่มผืนหนึ่งให้สองหนุ่มที่หลับสนิท
"ปล่อยให้นอนไปอย่างนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะ"
"ไม่ต้องๆ ปล่อยไปแบบนี้แหละดีแล้ว"
โมโมอิแย้งหน้ายิ้มผ่อนคลาย มองสองหนุ่มที่นอนหลับปุ๋ย
ในบรรดาทีมปาฏิหาริย์คนที่อาคาชิ เซย์จูโร่ให้ความสำคัญที่สุดก็คงจะเป็นคุโรโกะเนี่ยแหละ ไม่ใช่แค่อาคาชิเท่านั้น แต่ทุกคนที่รู้จักตัวตนของคุโรโกะ เท็ตสึยะต่างก็ชอบเขาทั้งนั้น
------------------------------------
----------------------------------
-------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ