C H A N G E .
เขียนโดย Omoji
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) เช้งค์สาม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCHANGE
“โอ๊ยย!!!!”
สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อป๊อปปี้ปัดมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของฟางและนั่นมันก็ทำให้แรงเหวี่ยง เหวี่ยงฟางล้มลงและหัวกระทบลงกับขอบเตียงจนได้..
“ฟาง..O_O!!”
ป๊อปปี้ไม่รอช้าอีกต่อไป ขายาวก้าวกระฉับกระเฉงนั่งคุกเข่าลงแล้วช้อนร่างของคนเจ็บที่หัวแตกเลือดซึบในขณะนี้ในท่าเจ้าสาว
“ป…ป๊อปปี้” ร่างในอ้อมแขนได้แต่มองคนอุ้มอย่างอึ้งๆ ดวงตากลมมองหน้าชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ ถ้าเทอมองไม่ผิดล่ะก็..ดวงตาคมนั่นกำลังเป็นห่วงเทออยู่บ้าง
เมื่อสองขายาวเร่งฝีเท้าลงมาชั้นล่าง โดยที่ยังคงอุ้มร่างเล็กอยู่อย่างเดิม ป๊อปปี้วางฟางลงบนโซฟาอย่างช้าๆก่อนจะรีบวิ่งไปในครัว แล้วหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาจากตู้ ก่อนที่ป๊อปปี้จะวิ่งไปที่โซฟาดังเดิม
“ป๊อป..เดี๋ยวฉันทำเอง..” ฟางคว้าแขนอีกคนแล้วพูดน้อยๆมืออีกข้างที่จับแผลมีเลือดไหลลงมาไม่หยุด เมื่อเห็นป๊อปปี้เตรียมท่าจะทำแผลให้
“ไม่ต้อง! เทออยู่เฉยๆเถอะน่า” ปากก็พูดไปทำเอาคนที่รั้งจำต้องปล่อยแขนออกในที่สุด ป๊อปปี้มองดูกล่องยา ที่มียาอะไรอีกมากมาย เอาความจริงเขาก็ทำแผลไม่เป็นหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันต้องเริ่มยังไงก่อน
“นี่นาย..เป็นห่วงฉันหรอ” คำพูดของฟาง ทำให้ป๊อปปี้หยุดชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเข้ากับแววตาคู่นั้น รอยยิ้มที่แต้มอยูบนใบหน้าหวานมันทำให้คนมองจำต้องเบี่ยงสายตาไปทางอื่น
“ฉันไม่ได้..”
กริ๊งงงง
ป๊อปปี้ชะงักคำพูดเมื่อมีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น เขาหันไปมองยังประตูหน้าบ้านแล้วลุกขึ้นเดินออกไปว่าใครมา แต่เมื่อเห็นคนที่อยู่หน้าประตูก็เหมือนจะนึกอะขึ้นได้ ร่างสูงก้าวขายาวๆแล้วเดินไปหยุดอยู่ที่ประตูรั้ว
“ป๊อปปี้! นี่นายยอมลงมา..เห้ยๆ” พูดไม่ทันจบเจ้าของบ้านก็เปิดประตูแล้วดึงแขนอีกคนเข้าบ้าน โดยที่ไม่พูดอะไรออกมา
“พี่ฟาง!! เป็นอะไรไปอ่ะ!!”
“แก้ว”
แก้ววิ่งกรูเข้าไปหาฟางด้วยความเร็วแล้วมองดูแผลที่ยังคงมีเลือดไหลมาไม่หยุด ฟางส่ายหน้าเบาๆเชิงไม่เป็นไร แต่แก้วไม่เชื่อหรอก..หญิงสาวหันกลับไปมองป๊อปปี้ที่มองด้วยสายตานิ่งก่อนที่ร่างสูงจะเดินขึ้นไปชั้นบน
“หมอนั่นทำอะไรพี่ฮะ! บอกแก้วมานะพี่ฟาง” แก้วเปิดขวดยาล้างแผลแล้วถามคนตรงหน้า
“เปล่า..”
“เห่อะ! แก้วไม่เชื่อหรอก นี่ถ้าแก้วไม่ลืมของไว้นะป่านนี้หมอนั่นคงลากพี่ปาดคอหมกส้วมแหง่ๆ หึ! เพราะป๊อปปี้ใช่มั้ยฮะ” แก้วว่าพลางทำแผลพลาง ดีหน่อยที่แม่ของแก้วเป็นพยาบาล ลูกสาวเลยได้แม่มาเยอะ
“ป๊อปปี้ไม่ผิดสักหน่อย..พี่ไม่ระวังเองน่ะ” ฟางพูดไป
“แล้วที่ไม่ระวังนั่นคืออะไรคะ..พี่อย่ามาโกหกแก้วหน่อยเลย” เหมือนพูดอะไรไปแก้วก็คงไม่เชื่อ
ป๊อปปี้เลยต้องยอมพูดความจริงให้แก้วฟัง แน่นอนว่าคนตัวเล็กโกรธมากและเอาแต่ด่าทอป๊อปปี้ไม่ขาด ฟางเลยได้แต่ปรามแล้วคอยบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครผิดทั้งนั้น เมื่อฟางเอาแต่บอกแบบนั้น แก้วเลยตัดสินใจเดินขึ้นไปชั้นบนทันทีที่คนหน้าหวานเข้าห้องน้ำ แค่อยากเจอนายตัวแสบนั่นสักหน่อย
ก๊อกๆๆ
“เปิดประตูให้ฉันหน่อยป๊อปปี้!” แก้วตะโกนเสียงดังจนคนในห้องที่กำลังหลับตาลงนอนจำต้องลืมตาขึ้นด้วยความที่นึกรำคาญ
แอ๊ดดด
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับแก้วที่ยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าห้อง ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ครู่หนึ่งแล้วมองลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่เป็นคู่กัดกันตั้งแต่ไหนแต่ไรด้วยความรำคาญ
“ทำอะไรพี่ฟางอย่านึกว่าฉันไม่รู้นะป๊อป” แก้วกอดอกมองป๊อปปี้ที่มีอายุอ่อนกว่าเขาอยู่หลายปี
“ฉันทำอะไร”
“พี่ฟางต้องมาดูแลนาย แต่ดูนายทำดิวะ พี่ฟางต้องบาดเจ็บก็เพราะนายทั้งนั้นนะป๊อป! ไม่สำนึกบ้างรึไง” แก้วที่มีศักดิ์เป็นพี่เลยถือโอกาสพูดต่อว่า
“แล้วยังไง ฉันไม่ได้ต้องการให้ยัยนั่นมาดูแล..”
“เดี๋ยวนะ! นายเรียกพี่ฟางว่ายัยนั่นหรอ! อะไรของนายฮะบ้าไปแล้วรึไง!” แก้วกระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด ไอ้ลูกพี่ลูกน้องเขาเนี่ยชักจะบ้าไปแล้วจริงๆ เมื่อก่อนล่ะเรียกฟางครับอย่างนู้นอ้อนอย่างนี้
แต่พอมาตอนนี้ต่างกันลี้ลับ จากหลังมือเป็นฝ่าเท้าเลยว่ะ…
“เฮ้ย!!” แก้วง้างประตูไว้เมื่อป๊อปปี้เตรียมท่าจะปิดมัน
“เป็นบ้าอะไรวะ! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!” ป๊อปปี้ตะคอกใส่ลูกพี่ลูกน้องตัวเองเมื่อร่างเล็กถือวิสาสะเข้ามาในห้องเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
“นายทำให้พี่ฟางลำบากมากแค่ไหนรู้บ้างรึเปล่า! นายรู้มั้ยว่าหลังจากที่ฉันรู้ว่าพี่ฟางต้องมาดูแลนายเนี่ยฉันตกใจมากแค่ไหน!”
“…”
“เมื่อก่อนนายกับพี่ฟางรักกันมากจนฉันอิจฉา แต่ตอนนี้นายเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆป๊อป..พี่เขาต้องมาเจ็บตัวเพราะนาย! พี่ฟางเธอเป็นคนดีนายควรจะตอบแทนเธอ!” แก้วเผชิญหน้ากับป๊อปปี้ที่ยังคงมีหน้านิ่ง หากแต่คงไม่มีใครรู้ว่าลึกๆแล้วป๊อปปี้รู้สึกยังไง
“ออกไปซะ”
“และสิ่งเดียวที่นายจะตอบแทนพี่เขาได้คือ!..เห้ย!!เดี๋ยวๆ” เมื่อคำพูดสุดท้ายจะเอ่ยออกมาแก้วก็ถูกเซฮุนลากออกมาจนอยู่หน้าห้อง
“ไปซะ..” พูดจบป๊อปปี้ก็ปิดประตูลงแล้วล็อกกลอนไว้ ถึงอย่างนั้นเสียงเล็กที่ดังเล็ดลอดเขามาก็ยังไม่ขาดแล้วเขาก็จำมันขึ้นใจ
“นายต้องไปเรียนนะป๊อป!พี่ฟางต้องการแค่นี่จริงๆ!นายได้ยินมั้ย!!”
ก็ไม่รู้ว่าทำไมป๊อปปี้ถึงได้ยืนนิ่งอยู่กับที่เมื่อได้ยินประโยคนั้นของแก้ว สิ่งเดียวที่เขาจะตอบแทนฟางได้ก็คือ..ต้องไปเรียน เพียงแค่นั้นมันก็แค่เรื่องเล็กน้อย แต่ทำไมเขาต้องใส่ใจกับคำพูดของยัยนั่นด้วย
ป๊อปปี้เอนตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง ภาพฟางที่ล้มลงไปกับพื้นพร้อมเลือดที่ไหลออกมาไม่ขาด นึกถึงตอนที่เขาตัดสินใจอุ้มฟางลงไปทำแผล ป๊อปปี้ไม่ปฎิเสธว่ากำลังเป็นห่วงฟาง แต่ใจนึงมันก็บอกว่าไม่ควรทำอย่างนั้น…
“เมื่อก่อนนายกับพี่ฟางรักกันมากจนฉันอิจฉา แต่ตอนนี้นายเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ ป๊อปปี้..พี่ฟางต้องมาเจ็บตัวเพราะนายอ่ะ! พี่ฟางเธอเป็นคนดีนายควรจะตอบแทนเธอ!”
“นายต้องไปเรียนนะป๊อป!พี่ฟางต้องการแค่นี่จริงๆ!นายได้ยินมั้ย!!”
คำพูดยังคงติดอยู่ในโสตประสาทไม่หาย ป๊อปปี้กำลังสับสน เขากำลังสับสนกับคำถามต่างๆนาๆว่าเขาควรจะตอบแทนฟางหรือจะไม่สนคำพูดของใครแล้วเก็บตัวไว้อย่างเดิม…
ป๊อปปี้แค่ยังไม่รู้ว่าเขาควรทำยังไง…กับความรู้สึกนี้
แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านบาง ส่งผลให้ร่างบางที่ยังคงหลับใหลอยู่บนเตียงต้องปลือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก เพียงแค่จะยันตัวเองขึ้นนั่งก็กระทบต่อแผลบนหน้าผากตั้งแต่เมื่อคืนที่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย หลังจากที่เธอได้ยินเสียงแก้วเธอก็เริ่มอยู่ไม่สุข เมื่อรู้ว่าแก้วไปบอกให้ป๊อปปี้ตอบแทนพระคุณเธอ ซึ่งความจริงแล้วฟางไม่ได้ต่างการแบบนั้น
ถึงจะไม่รู้ว่าป๊อปปี้จะทำตามที่แก้วบอกหรือไม่ แต่ฟางก็พอจะเดาได้ว่าป๊อปปี้คงไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดใครอีกต่อไปแล้ว เ
ปัง!
หากแต่เสียงปิดประตูของห้องข้างๆทำให้ฟางตกใจไม่น้อย ความหวังลึกๆว่าป๊อปปี้อาจจะไปโรงเรียน ฟางยันตัวเองขึ้นจากเตียงมืออีกข้างยังคงแตะแผลบนหน้าผากตัวเองเบาๆ เพื่อคลายความเจ็บจี๊ดอยู่
แอ๊ดดดดด
เมื่อฟางเปิดประตูออกมาสิ่งที่เธอเห็นมันทำให้หัวใจพองโตอย่างเหลือเชื่อ…
“ป๊อปปี้…”
ร่างสูงในคราบของชุดนักเรียนเผยขึ้น…
“….”
“นี่นาย…” ฟางอ้าปากหว๋อ เมื่อเห็นร่างสูงในชุดเครื่องแบบ เมื่อป๊อปปี้หยุดเดินแล้วหันมามองคนตัวเล็ก แล้วเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้น
“ที่ฉันทำไปฉันไม่ได้อยาก…”
ผรึบ!
“O_O”
"ป๊อปฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั๊ย! นายกำลังจะไปโรงเรียนจริงใช่มั๊ย! ขอบคุณนะป๊อป ขอบคุณจริงๆ! ฉันภูมิใจในตัวนายนะป๊อปปี้!”
ฟางไม่ปฏิเสธหรอกว่าตอนนี้กำลังดีใจมากที่สุดในโลกกกก แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดไม่ได้พลาดพลั้งตัวเอง ถือวิสาสะกอดป๊อปปี้นี่สิ….
“ย่าห์!” แรงพิฆาตจากคนถูกกอดก็ผลักร่างฟางให้ออกห่างอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่า โทษทีฉันดีใจมากเกินไปหน่อย”
“ฉันไม่ขำ และไม่มีเวลามายิ้มร่าแบบเธอหรอกนะฟาง" ป๊อปปี้เอ่ยเสียงแข็ง ทำเอาคนตรงหน้าได้แต่เงียบกริบ
“…..”
“ที่ฉันไปโรงเรียนก็เพราะแม่…ไม่ใช่เธอ”
แม้ความจริงแล้วมันจะไม่ใช่แบบนนั้นทั้งหมดแต่ป๊อปปี้ก็ไม่อากพูดมันเท่าไหร่
เมื่อคืนป๊อปปี้นอนไม่หลับ เพราะเขาก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บตัวเพราะเขา..ไหนจะคำพูดของลูกพี่ลูกน้องตนอย่างแก้วแล้ว ก็ยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่ ป๊อปปี้ได้แต่คิดทบทวนไปมาเขาไม่เป็นแบบนี้มานานแค่ไหน แต่หลังจากที่เห็นสายตาคู่นั้นเขาปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารู้สึกพ่ายแพ้ไปโดยดี
“ไม่เป็นไรหรอก…โอ๊ะ!นายรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา” ฟางว่าจบก็วิ่งกลับเข้าไปในห้อง ปล่อยให้ร่างสูงยืนนิ่ง
ไม่นานนักร่างเล็กก็วิ่งออกมาจากในห้องตัวเอง ในมือถือกล่องพลาสติกที่มีคุกกี้อยู่อย่างเดิมฟางหยุดยืนตรงหน้าป๊อปปี้แล้วยื่นคุกกี้ให้
“นี่คุกกี้ ของชอบนายนี่ฉันจำได้” เธอว่า
“ไม่ต้อง” ป๊อปปี้ปัดมือฟางให้ออกห่าง สองแขนกระชับกระเป๋าเป้ก่อนจะเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ฟางนที่ตามมาติดๆก็ดึงกระเป๋าเป้อีกคนไว้
“เอาไปเถอะน่า! เมื่อวานแก้วอุตส่าห์มาช่วยทำให้อ่ะ นะๆป๊อป” ฟางเขย่ากระเป๋าป๊อปปี้จนเจ้าของกระเป๋าหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับคนตัวเล็ก แล้วสบตาเข้ากับดวงตาคู่นั้นอีกครั้งที่มันยังตามหลอกหลอนเขาอยู่เมื่อคืน
ผลึ่บ!
ป๊อปปี้หยิบกล่องคุกกี้มาจากมือร่างเล็ก เรียกรอยยิ้มของฟางให้เผยกว้างขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้านไปตามด้วยฟางที่เดินมาส่งถึงหน้าประตูรั้ว
“ป๊อปตั้งใจเรียนนะ!!!” เสียงเล็กที่ตามหลังป๊อปปี้หลังจากที่ร่างสูงเดินออกไปไกลแล้ว
“ป๊อปปี้มาเรียนด้วยล่ะแกรรร”
“จริงหรอ พี่น่ะหรอ แปลกจังเลยอ่ะ”
“ทำไมหล่อขึ้นเป็นกองเลยล่ะ กรี้ดดด”
สองขายาวเดินมาเรื่อยจนมาถึงหน้าโรงเรียนเสียงกรี้ดกร้าดของหญิงสาวที่ดังมาตลอดทาง แน่นอนว่ามันเป็นที่น่าแปลกใจอยู่แล้วเมื่อป๊อปปี้ไม่ได้มาเรียนหลายปีมาทีก็ตอนสอบ เห็นมาเรียนแบบนี้ก็ยิ่งเป็นที่น่าสนใจเข้าไปใหญ่
หากแต่ฝีเท้าจำต้องชะงักอยู่กับที่เมื่อได้ยินเสียงแหลมดังขึ้นด้านหลัง…
“ป๊อปมาเรียนแล้วหรอ คิดถึงจะแย่!!!” หญิงสาวเจ้าของเสียงแหลมนั่นดังขึ้นแล้วเข้ามาควงแขนร่างสูงอย่างถือวิสาสะ
ผลึ่บ!
หญิงสาวหุบยิ้มพลันเมื่อป๊อปปี้เป็นฝ่ายปัดแขนเธอออกอย่างไม่ใยดี ก่อนที่จะนำมือสอดในกระเป๋ากางเกง แล้วเดินออกไปทิ้งไว้ให้เธอยืนหน้าหงอยเพียงลำพัง
ป๊อปปี้เดินเข้ามาในห้อง ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เขาเป็นหนึ่งเดียว…หากแต่ร่างสูงกลับไม่ได้สนใจ เขาเดินตรงไปยังที่นั่งของตัวเองที่ยังคงว่างอยู่
“ไอป๊อปนี่มึงตายแล้วฟื้นรึไงวะ” เสียงเพื่อนโคตรสนิทอย่างเขื่อนดังขึ้นพร้อมกับร่างของผู้ชายตัวสูงเสียงเข้มอีกคน
นามว่าโทโมะ…
“กูก็นึกว่ามึงถูกหามเข้าเมนเผาไปแล้วซะอีก”
“…กูสบายดี” ป๊อปปี้ตอบแต่ยังคงทำหน้านิ่งอยู่อย่างเดิม
“แล้วนึกยังไงถึงมาเรียนได้ล่ะวะ” คำถามนี้เล่นเอาคนฟังถึงกับหยุดชะงึก..ป๊อปปี้เงียบไปสักพักก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเสียบกับโทรศัพท์อย่างเช่นเคย ปล่อยให้เขื่อนและโทโมะมองหน้ากันแล้วเกาหัวแก้เครียด
“มันเรื่องของกู” ป๊อปปี้ตอบโดยไม่ยอมสบตากับใครอย่างเคย
“เออๆก็ได้ แต่มึงรู้…” โทโมะว่า แต่ก็ต้องหยุดกลางคัน เมื่อหันไปดูเพื่อนสนิทที่หลับตาฟังเพลงอย่างเคลิบเคลิ้ม
“ไอสัส!มึงช่วยฟังกูพูดหน่อยดิวะ!” โทโมะตัดสินใจดึงหูฟังของป๊อปปี้ออกในที่สุด เจ้าของหูฟังหันหน้าแล้วเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“อะไรของมึง”
“มึงหายหัวไปนานคงไม่รู้หรอกใช่มั้ยวะว่าวงดนตรีตอนนี้เป็นยังไงแล้ว! มึงช่วยฟังกูด้วยครับเพื่อนรัก” โทโมะเอ่ยด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองเมื่อพูดถึงวงดนตรีที่ทำร่วมกันสี่คน
“…”
“วงดนตรีของเรามันแย่ลงตั้งแต่มึงหายหัวไป ค่าใช้จ่ายต่างๆนาๆก็เยอะเป็นกองมรดก อีกอย่างพี่กวินก็จะไม่ช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้แล้วนะเว้ย!” เพียงเท่านั้นป๊อปปี้ก็คิ้วชนกันเป็นปม
วงดนตรี ‘TWO MOON’ ของเขาคงจะแย่หากไม่มีสปอนเซอร์ยักษ์อย่างกวิน อย่างที่บอกว่ากวินเป็นสปอนเซอร์ให้คือการสนับสนุนและช่วยเกื้อกูลวงดนตรีทูมูนให้ได้โด่งดังมากขนาดนี้ ไม่มีกวินป่านนี้วงดนตรีเล็กๆคงไม่ดังมากขนาดนี้..
ที่บอกว่าดังมากคือดังมากที่สุดในโรงเรียนของกรุงเทพฯอ่ะนะ..
“มึงต้องไปคุยกับพี่เขานะเว้ยไอป๊อ..อ้ะ..อ้าว ไอป๊อป!ไอป๊อป!” เพื่อนสนิทพูดไม่ทันจบประโยคป๊อปปี้ก็ดันลุกจากที่นั่งแล้วเดินตรงดิ่งออกไปหน้าห้องอย่างรวดเร็ว
“ไอเขื่อน!มึงจะให้ไอเชี่ยป๊อปไปคุยกับพี่กวินเนี่ยนะ!ไอสัส!มึงใช้อะไรคิดวะ!” โทโมะตบกะบาลเพื่อนรักด้วยความโกรธ เขื่อนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก็ต้องสบถออกมา
“ชิบหาย!เวรแล้วไงมึง!!”
เกิดอะไรขึ้น!!! โปรดติดตามตอนต่อไปด้วย
ขอเม้นนนนน โหวตตตตต กดไลค์และติดตามได้ครัช
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ