C H A N G E .
เขียนโดย Omoji
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) เช้งค์สี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHANGE
มือทั้งสองข้างกำแน่น..นี่เขาหายไปแค่คนเดียวกลับทำให้วงดนตรีเสียหายไปมากมายขนาดนี้เชียวหรอ ป๊อปปี้เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ยังไงเขาก็ต้องไปเจอกับกวินให้ได้ เอาความจริงแล้วป๊อปปี้ก็ไม่ค่อยถูกกับกวินสักเท่าไหร่..ไม่ใช่อะไรหรอก
แค่ไม่ชอบหน้าก็เท่านั้น..
“แก้วนั่นป๊อป..” เจ้าของชื่อหันขวับไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพบร่างสูงกำลังเร่งฝีเท้าอย่างรีบเร่ง แก้วมองคนตรงหน้าแล้วเผยยิ้มออกมาน้อยๆ คำพูดของเขาคงจะทำให้หมอนั่นยอมมาแล้วสิท่า
“มาจริงด้วยสินะ..” แก้วแค่นหัวเราะในลำคอ ถึงเธอกับป๊อปปี้จะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่แต่แก้วก็พอที่จะรู้ใจคนตรงหน้าดี ว่าความจริงแล้ว..ป๊อปปี้ก็ยังคงเป็นห่วงความรู้สึกของฟางเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“หมายความว่าไงอ่ะแก้วบอกเฟย์บ้างดิ” หญิงสาวผู้มีรักยิ้มเป็นเอกลักษณ์ เพื่อนสนิทแก้วเขย่าแขนเพื่อนรักด้วยความอยากรู้อยากเห็น แก้วจึงได้แค่ส่ายหน้าเบาๆ บางทีเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องคนสองคน..
ป๊อปปี้เดินมาจนถึงหน้าห้องที่มีป้ายชื่อติดไว้ว่า ‘KING’ แค่ชื่อก็รู้ถึงเด็กที่เรียนห้องนี้แล้ว ห้องคิงเป็นห้องสำหรับเด็กที่ถือว่ามีอิทธิพลต่อโรงเรียนแห่งนี้มากมาย ส่วนใหญ่ทางครอบครัวจะเป็นผู้สนับสนุนโรงเรียนมีทั้งเด็กเรียนและเด็กโดด ถึงจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องคิงแต่เด็กนักเรียนก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีเสียหมด คนเลวก็มีเช่นกัน
แอ๊ดด
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นพร้อมร่างของป๊อปปี้ที่ก้าวเข้ามาห้องนี้ ทุกสายตาต่างให้ความสนใจกับสิ่งตรงหน้ากันเป็นตาเดียว หากแต่ป๊อปปี้ก็ไม่ได้สนอะไรเขากวาดสายตามองรอบๆเพื่อที่จะพบใครบางคน
“ผมมีเรื่องจะคุยกับพี่..พี่กวิน” เมื่อเจอคนที่อยากพบ ป๊อปปี้ไม่รออะไรร่างสูงก้าวถอยหลังออกจากห้องคิงเพื่อรอกวินดังเดิม
“มาเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ..” เจ้าของคำพูดที่มีใบหน้าลูกครึ่งเอ่ยทักขึ้นทั้งๆที่ในมือยังคงถือมวนบุหรี่ เอ่ยไปพร้อมควันบุหรี่ที่ออกจากปากส่งผลให้ป๊อปปี้มองดูอย่างเหยียดๆ
“นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่เรื่องที่ผมอยากรู้คือ..”
“หึ เรื่องวงดนตรีของนายน่ะหรอ” กวินกระตุกยิ้มก่อนจะปล่อยมวนบุหรี่ลงบนพื้นแล้วเหยียบย่ำมันพร้อมๆกับมองหน้าป๊อปปี้ ร่างสูงยังคงทำหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“พี่หมายความว่าไงที่จะไม่เป็นสปอนเซอร์ให้วงของเรา” ป๊อปปี้ถามเสียงนิ่ง
“ก็พูดยังไงก็หมายความว่าอย่างนั้นไง มันยากตรงไหน” กวินจ้องตาเขม็งกับป๊อปปี้แล้วหัวเราะในลำคอ มันกลับเป็นเรื่องตลกของเขาไปเสียได้
“แล้วเหตุผลคืออะไร?”
คำถามที่เหมือนจะไม่เข้าหูกวินสักเท่าไหร่ ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ป๊อปปี้มากขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ากระซิบกรอกหู
“อะไรกันวะ..แค่ผู้หญิงทิ้งคนเดียว สมองกลวงไปแล้วหรอ..”
ผลั้วะ!
หน้ากวินหันไปอีกทางพร้อมกับร่างที่เซเล็กน้อยหลังจากที่โดนหมัดหนักๆของป๊อปปี้เข้าเต็มหน้า ไม่เพียงแค่นั้นป๊อปปี้กลับกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายแล้วชกไปอีกหมัดด้วยความเหลืออดจนกวินเลือดกรอกปาก
“ไอป๊อป!หยุด!” ร่างทั้งสองแยกออกจากกันหลังจากที่มีใครสองคนเข้ามาแยกทั้งคู่ เมื่อกวินเป็นอิสระร่างสูงแตะขอบปากของตัวเองที่เลือดซึม
ป๊อปปี้ตอนนี้อยู่ไม่สุขเขากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ เพียงเพราะคำพูดของคนตรงหน้ายิ่งทำให้โมโหมากเกินกว่าจะคุมมันไหว
“มึงปล่อยกูไอโมะ!”
“พอแล้วไอป๊อป!มึงพอได้แล้ว!” โทโมะลากป๊อปปี้ให้ออกห่างจากตรงนี้มากที่สุด ก่อนที่จะเป็นเขื่อนที่เข้ามาคุยกับคู่กรณี
“พี่กวินผมขอโทษแทนไอป๊อปมันด้วยนะพี่ มันคงโกรธ..”
“เห่อะ! ทุเรสสิ้นดี!”
กวินพูดจบแล้วเดินกระทืบเท้าออกไปอย่างฉุนเฉียว ทิ้งไว้ให้เขื่อนมองแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ไอเชี่ย!มึงใจเย็นๆก่อนดิวะ!” โทโมะจับเพื่อนสนิทนั่งลงตรงม้าหินอ่อนใกล้ๆจากบริเวณเมื่อครู่ แล้วค่อยๆลูบหลังให้ผ่อนคลาย
“มึงจะมาห้ามกูทำไม”
“พี่กวินเขาเป็นสปอนเซอร์ให้วงของเรานะเว้ย! แล้วอีกอย่างมึงก็รู้ไม่ใช่หรอว่าถ้าไม่มีพี่เขาป่านนี้วงเราจะมาไกลขนาดนี้หรอวะ หรือมึงอยากให้วงเราต้องยุบ..” โทโมะพยายามพูดกล่อมเพื่อนรักให้เข้าใจเหตุผล รู้ทั้งรู้ว่ามันอาจจะไม่เข้าสมองป๊อปปี้เลยก็เถอะ
ที่วงทูมูนมามีชื่อเสียงก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากกวิน หากจะต้องเปลี่ยนก็คงไม่ใช่ง่ายๆเมื่อกวินเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากกว่าพวกเขาหลายเท่า..อาจถึงขึ้นที่ป๊อปปี้เขื่อนและโทโมะถูกไล่ออกได้
และเขาก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย…
“อะไรกันวะ..แค่ผู้หญิงทิ้งคนเดียว..สมองกลวงแล้วหรอ..”
“ไอสัส!” ป๊อปปี้สบถออกมาอีกครั้งเมื่อคิดถึงคำพูดที่คอยตอกย้ำหัวใจของเขาให้รัดแน่นขึ้น ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เข้ามาแทรกซึม
ถ้ากวินไม่พูดเรื่องนั้น..ป๊อปปี้ก็คงจะลืมมายด์ได้ ใช่..กวินรู้เรื่องทั้งหมด เพราะทั้งๆที่เมื่อก่อนทั้งกวินและป๊อปปี้ต่างก็ชอบมายด์ กวินพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้หญิงสาวรัก หากแต่มันก็ไร้ประโยชน์เมื่อหล่อนเลือกป๊อปปี้ทั้งๆที่หมอนั่นไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง
ตกเย็นแล้วฟางก็ไม่อยู่ว่างอีกต่อไปร่างเล็กยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงนอนที่เธอพึ่งจะแอบงีบหลับเมื่อครู่..ก็ทำงานมาทั้งวันมันก็เหนื่อยเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่เธออยากทำในตอนนี้คือการทำอาหาร…
“ป๊อปชอบกินอะไรน้า…จริงด้วย!” เมื่อสมองนึกไอเดียเมนูอาหารแจ่มๆที่คิดว่าอีกคนคงชอบได้ฟางรีบวิ่งตรงดิ่งไปยังห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็น
“โอ๊ะ” สิ่งที่เธอเห็นตรงหน้ามันเป็นบางอย่างที่ทำให้เธอแปลกใจ
“เค้กหรอ?” มันน่าแปลกใจก็เพราะเธอก็รู้ดีว่าป๊อปปี้..
ไม่ชอบกินเค้ก…
ฟางเอื้อมมือคว้าเอาเค้กบราวนี่ในตู้เย็นออกมาอย่างสงสัย..
“คงไม่ใช่ของป๊อปปี้หรอกมั้งเนี่ย..เด็กนั่นไม่ชอบเค้กนิ” ฟางมองดูเค้กในมืออย่างชั่งใจ
“คง…ไม่มีอะไรหรอกมั้ง” สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจ…ทิ้งเค้กบราวนี่นั้นลงถังขยะในทันที
ก็ในเมื่อป๊อปปี้ไม่ชอบมันนิ…
“เริ่มจาก…”
สำหรับฟางอาหารทุกมื้อต้องเป็นของชอบของป๊อปปี้ทั้งหมด…
ผักคะน้า วุ้นเส้น หมูสับนุ่มๆ ถูกเทใส่ลงหม้อต้มน้ำเดือดอย่างระมัดระวัง….ในหัวของฟางนึกถึงแต่หน้าของอีกคนในยามที่ได้ลิ้มรส มันต้องอร่อยถูกปากป๊อปปี้เป็นแน่…
จนในไม่กี่ชั่วโมงอาหารทุกอย่างก็ถูกเรียงล้อมลงบนโต๊ะอาหารพร้อมกับการจัดจานให้ดูสวยงามน่ารับประทาน…
“เห้ออออออ เสร็จสิ้นภาระกิจ” ร่างเล็กปรบมือเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองอย่างภูมิใจ
“เห้ย!!!! ลืม!”
สองขายาวเท่าความคิดวิ่งติดจรวดสี่คูนร้อยขึ้นไปยังห้องนอนของป๊อปปี้อย่างรวดเร็ว…
แอ๊ดดดดด
“โอ้มายก๊อททท” ภาพตรงหน้าแทบจะทำให้ฟางล้มทั้งยืน…วันทั้งวันก็ทำงานบ้านทุกอย่างแต่ก็ลืมสิ่งที่สำคัญคือการทำความสะอาด…ห้องป๊อปปี้
“เด็กบ้า…อยู่ไปได้ไงเนี่ย ห้องยังกับรังหนู..วันๆเอาแต่นอนหมกอยู่แต่กับเตียงนึกถึงแต่หน้าแฟนเก่าอย่างเดียวรึไงกัน…” พูดไปบ่นไปก็เก็บไปอยู่อย่างนั้น
“โอ๊ะ” พลันสายตาก็ไปเห็นบางอย่างที่ตกอยู่ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง
ฟางก้มลงเอื้อมมือสุดแขนเพื่อหยิบของบางอย่าง…และเมื่อหยิบได้มันก็ทำให้เธอแปลกใจอีกรอบ…
“พวงกุญแจ?” ฟางสำรวจพวงกุญแจตุ๊กตาน่ารักมุ้งมิ้งที่ตกลงบนพื้นอย่างนึกสงสัย
“ฝุ่นเกาะขนาดนี้ยังเก็บไว้อีก..หุ้ยย บ้าไปแล้วจริงๆ” ฟางไม่รีรอใดๆ พวงกุญแจในมือถูกเขวี้ยงลงถุงดำอย่างรวดเร็ว
ฟางทำความสะอาดห้องของป๊อปปี้จนหมดเกลี้ยง…ห้องใหม่ที่สะอาดกว่าเดิมหลายเท่า มันน่ามองและเคิดว่าป๊อปปี้น่าจะชอบมันไม่น้อยเป็นแน่…
โรงเรียนเลิกก็ได้เวลาแยกย้ายของนักเรียน….เช่นเดียวกับป๊อปปี้ ร่างสูงพาดกระเป๋าเป้ไว้บนบ่าอย่างเคย ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาว่ากี่โมงแล้ว ไม่นานเสียงเพื่อนสนิทก็ดังขึ้น
“ไอป๊อปมึงไม่กลับบ้านรึไงวะ” โทโมะเพื่อนสนิทเอ่ยถาม
“กลับ..แต่ยังไม่ถึงเวลา”
“เห้ย นี่มึงคิดมากขนาดนั้นเลยหรอวะ…กูว่านะยังมีเวลาอีกเยอะ เดี๋ยวค่อยคิดก็ได้เว้ยว่าจะเอายังไงอ่ะ”
“เวลาทุกวินาทีมันมีค่าเสมอ…กูต้องไปหาไอพี่กวิน” ร่างสูงทำท่าว่าจะลุกจากี่แต่ก็ถูกเพื่อนทั้งสองรั้งเอาไว้ก่อน
“มึงจะบ้ารึไงวะ ใจเย็นๆดิ..เวลาทุกวินาทีมันมีค่าเสมอก็จริง แต่มึงก็ต้องรู้ว่าตอนนี้..มันใช่เวลารึเปล่า ที่มึงจะไปคุยกับพี่กวิน” เขื่อนเอ่ยเตือนสติเพื่อนสนิท
“….”
“ทางที่ดีมึงกลับบ้านแล้วไปหาวิธีคิดดีกว่าว่าจะเอาไงต่อ” โทโมะช่วยเสริม
“….”
สุดท้ายป๊อปปี้ก็ตัดสินใจที่จะยอมกลับบ้านตัวเองเพื่อกลับไปตั้งหลักแล้วหาวิธีอื่นแทน..เมื่อกลับมาถึงบ้านสิ่งแรกที่เขาเห็นคือ…อาหารที่เตรียมพร้อมทุกอย่างเป็นระเบียบดูน่ารับประทาน…
“….” ป๊อปปี้ยอมรับว่าเขาอึ้งไม่น้อยกับการที่เจออะไรแบบนี้ เพราะนอกจากแม่เขาก็ไม่เคยมีใครทำให้แบบนี้เลย…
“ฟาง” ร่างสูงเอ่ยเรียกชื่อของอีกคนแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
ป๊อปปี้มองดูอาหารที่อยู่รอบๆแล้วนึกใจชื้นพิกล…สองขายาวก้าวตรงไปยังตู้เย็นและบริเวณรอบๆที่ถูกจัดให้เข้าที่อย่างเหลือเชื่อ…
“เห้ย?” สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีดกรีดกลางดวงใจคือ…
“เค้ก? หายไปไหนวะ!” เจ้าของบ้านรื้ออาหารทุกอย่างในตูเย็นออกมาจนหมด ด้วยความโมโหเขาแทบจะบ้าก็ตอนนี้
เมื่อจู่ๆเขาก็นึกบางอย่างได้…สองขายาวย่างก้าวขึ้นบนห้องนอนอย่างรวดเร็วแทบจะไม่คิดชีวิตเลยด้วยซ้ำ
แอ๊ดดดด
ป๊อปปี้ตรงดิ่งไปยังโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมก้มลงมองใต้โต๊ะและก็พบกับความว่างเปล่า…
“พวงกุญแจ…ฟาง!!!!!”
ปัง!!!! ปัง!!! ปัง!!!
เสียงเคาะประตูดังสนั่นหวั่นไหวบ้านแทบจะพังให้ได้.. คนตัวเล็กที่กำลังนอนเอนกายพักผ่อนอยู่สะดุ้งตื่นอย่างช่วยไม่ได้..
“ฟาง! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” เสียงคนข้างนอกดังขึ้นด้วยเสียงที่ฉุนเฉียว
“อะไรของเขาเนี่ยยย” ฟางเอนกายลุกขึ้นจากเตียงแล้วเกาหัวอย่างงงๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้องแล้วเปิดมันออก..
“อะไรของนายเนี่ยป๊อ….โอ้ย!” มันทันที่จะได้พูดจบแขนเล็กก็ถูกอีกคนดึงลากออกไปซะได้
ฟางถูกป๊อปปี้ลากเข้ามาในห้องของเจ้าตัวอย่างฉุนฉียว …บอกเลยว่าตอนนี้เส้นความอดทนของเขาได้ขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…ฟางจำต้องยอมตามป๊อปปี้ไปพร้อมความเจ็บที่แขนเมื่อเขาบีบมันแรงจนปวดไปหมด
“เธอจัดห้องฉันใช่มั๊ย?!!!”
“ใช่ นายชอบมั๊ยล่ะ ^_^”
“…..”
พลั๊ก!!
“โอ้ย!!” ร่างเล็กลอยริ่วไปชนกับฝาผนังอย่างแรงไม่ใช่เพราะใครหรอก…ถ้าไม่ใช่คนที่โมโหตรงหน้า
“ทำบ้าอะไรของเธอฮะ! ใครอนุญาตให้นายเข้ามาเพ่นพ่านในห้องฉัน!” ป๊อปปี้เดินตรงไปหาฟางจนใกล้ชิดแล้วบีบข้อมือของคนตรงหน้าอย่างสุดทน
“ก็ฉันหวังดีนะ! ฉันแค่เข้ามาจัดห้องให้นาย!” เธอพยายามที่จะแกะมือของป๊อปปี้ออกแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่ออีกคนกลับบีบรัดแน่นกว่าเดิม
“หวังดีหรอ? ฉันต้องการมันซะที่ไหนกันฮะ!!”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะป๊อป!” ฟางเองก็พยายามกักกั้นน้ำตาไว้สุดฤทธิ์ ที่เธอทำไปมันผิดมากขนาดนั้นเลยหรอ!ถึงได้ทำแบบนี้
“พวงกุญแจของฉันอยู่ไหน?” หากแต่ป๊อปปี้เองก็พยายามเก็บอารมณ์ไว้สุดๆแล้วเหมือนกัน
“พวงกุญแจ?...นายพูดถึงอะไร”
“ก็พวงกุญแจฉันที่อยู่ใต้ตกเครื่องแป้งนี่ไง! มันหายไปไหน! ฟาง!”
“ฉ…ฉัน…ทิ้งมันแล้ว…”
“เธอว่าไงนะ! หึ หรือเธอคิดว่าการที่เธอทำแบบนี้แล้วฉันจะลืมมายด์ได้รึไงกัน!”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะป๊อป..ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้นจริงๆ” พูดไปทั้งๆที่หัวใจก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน
“ต่อจากนี้…เธอไม่ต้องเข้ามาจุ้นจ้านที่บ้านฉันอีก!”
ปิดท้ายเพียงแค่นี้ ตอนนี้กำลังเสียใจ
เม้นหายยยย กำลังใจหด
บอกเลยว่า งอนอ่ะ!
เม้นปุ๊ปอัพปั๊บ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ