C H A N G E .
เขียนโดย Omoji
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) เช้งค์สอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHANGE
“ออกไป!!”
ตุ้ม!
ร่างเล็กถูกผลักออกมาจากห้องในทันที จนเซแล้วล้มลงไปกับพื้น มองดูร่างสูงที่อาละวาดใหญ่โต โชคดีหน่อยที่น้าภา(แม่ป๊อปปี้)กลับไปแล้วไม่อย่างนั้นล่ะก็คงแย่
“นี่! ป๊อปปี้มันจะมากไปแล้วนะ! นายทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!” ฟางลุกขึ้นยืนแล้วรีบเข้าไปง้างประตูของอีกคนไว้ เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะปิดมัน
“ออกไปนะฟาง” คนตัวเล็กชะงักไปชั่วครู่ หายไปไม่กี่ปีผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยหรอ!
“ไม่ได้นะป๊อป! นายต้องเปิดประตูแล้วคุยกับฉันก่อนสิ! แม่นายก็ไม่ได้อยู่กับนายแล้วนะ!” ฟางที่ว่าสุภาพในตอนนั้นคืออีกคนกับฟางในตอนนี้ ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนเรียบร้อยเหมือนหน้าตา ฟางเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่ด้วย
หลังจากที่เสียงหวานเอ่ยออกไปแบบนั้น ป๊อปปี้ก็เหมือนชะงักไปแล้วมองคนตัวเล็กด้วยความไม่เข้าใจ ร่างสูงตัดสินใจเลื่อนมือลงจากลูกบิดแล้วเผชิญหน้ากับคนอีกฝ่ายที่เพิ่งถูกผลักมาอยู่ด้านนอก
“เธอว่าไงนะ แม่ฉันไม่อยู่แล้ว? หมายความว่ายังไง” ป๊อปปี้เดินจ้ำอ้าวออกมาจากห้องตัวเองแล้วเข้าไปใกล้ฟางที่ยืนอยู่ข้างนอก
“เอ่อ..คือ..” ฟางเลือกที่จะมองนู่นมองนี้สายตาเถรไถลไปทางอื่นไม่กล้าที่จะสบตากับคนตรงหน้า
“ฟาง!” ป๊อปปี้ไม่ว่าเปล่า ร่างสูงเข้าบีบแขนของฟางอย่างแรงจนอีกคนต้องร้องโอยออกมา
“โอ้ย! ปล่อยแขนฉันนะป๊อป” ฟางจับแขนตัวเองที่โดนบีบด้วยความเจ็บ มองดูป๊อปปี้ที่มองด้วยสายตาเคียดแค้น
“เธอก็บอกฉันมาสิ! ว่าแม่ฉันไปไหน!”
“แม่นายไปจีนแล้ว! คุณน้าฝากฉันมาดูแลนายแทน!เพราะท่านเหนื่อย! เหนื่อยที่ต้องมองดูแลลูกอย่างนาย! ลูกที่ทิ้งท่านไว้คนเดียวตลอด!”
“….”
“นายคงไม่รู้หรอกป๊อปปี้ว่าท่านทุกข์ใจแค่ไหน และฉันก็ไม่อยากให้เพื่อนสนิทของแม่ฉันต้องเจ็บปวดกับลูกของตัวเองนั่นก็คือนาย..” เมื่อพูดจบร่างสูงก็กระตุกยิ้มมุมปากแล้วปล่อยแขนเล็กให้เป็นอิสระ
“สุดท้าย..ก็มีแต่คนที่ทิ้งฉันไปหมด” คนตัวสูงพูดพ้อถึงความหลังอีกครั้ง แน่นอนว่าคนฟังอย่างฟางเงียบลงไป
“ป๊อปปี้ คือ..”
“ส่วยเธอ..เธอก็ไปจากฉันซะ ฉันไม่ต้องการ” เมื่อพูดจบร่างสูงก็ตรงดิ่งเข้าไปในห้องของตัวเอง ปล่อยให้ฟางยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ฟางมองแผ่นหลังของร่างสูงที่เปล่าเปลี่ยวยิ่งกว่าอะไร เห็นแบบนี้แล้วเธอก็ตกใจอยู่ไม่น้อยเด็กผู้ชายตอนนั้นกับตอนนี้อย่างกับคนละคนเลยจริงๆ
“ฉันจะไม่หนีไปไหนแน่ป๊อป จนกว่า..นายจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
ฟางคิดว่าสิ่งเดียวในตอนนี้ที่เขาควรทำคือต้องดูแลป๊อปปี้ ต้องให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกเพราะความทรงจำอันโหดร้ายของเขาถึงยังไงฟางก็จะไม่ทิ้งป๊อปปี้แน่
เช้าวันใหม่ของฟางที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อวาน ร่างเล็กยันตัวเองขึ้นจากเตียงแล้วบิดขี้เกียจไปด้านซ้ายทีขวาที ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกจากเตียงแล้วตรงดิ่งไปในห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำให้เสร็จสรรพ
คนตัวเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเตรียมเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ให้เข้าที่ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องนอนไม่ลืมที่จะดูนาฬิกาที่ติดอยู่ที่ผนังหน้าห้องเมื่อรู้ว่าตอนนี้ก็หกโมงเช้าพอดี เป็นเวลาที่ฟางควรทำอะไรบางอย่างให้ป๊อปปี้
ฟางเดินเข้ามาในห้องครัวเปิดดูตู้เย็นมองหาวัตถุดิบส่วนผสมที่เขาควรทำวันนี้ แต่ดูเหมือนร่างเล็กจะคิดอะไรขึ้นมาได้
“เช้าๆแบบนี้ต้องกินข้าวต้มสินะ ป๊อปรอฉันแป๊ปนึงนะ” คนตัวเล็กพูดพลางเตรียมข้าวของในการทำข้าวต้มไว้บนเคาเตอร์พร้อมกับหนังสือสอนทำอาหารเตรียมไว้เรียบร้อย เอาจริงๆคือเธอก็ไม่เคยทำหรอกอาหารอะไรต่ออะไรนี่
แต่ไม่รู้ล่ะ วันนี้ฟางจะให้ป๊อปปี้กินข้าวต้มให้ได้..
แสงแดดยามเช้าสะท้อนเข้าตาร่างสูงที่เหยียดกายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม เปลือกตายังคงปิดอยู่อย่างเดิม ป๊อปปี้ไม่อยากที่จะลืมตามาอยู่ในโลกความจริงโลกที่เขาไม่เหลือใคร แม้แต่แม่ของตัวเอง เมื่อคืนเขายังคงจำได้ว่าเพิ่งร้องไห้จนตาบวมช้ำเมื่อรู้ว่าแม่ทิ้งเขาไปอย่างนั้น
“อื้อ” หากแต่ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงกลับได้กลิ่นหอมมาจากที่ใดสักแห่ง จนคนที่หลับจำต้องลืมตาขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ป๊อปปี้ดันตัวเองขึ้นนั่งแล้วมองไปยังข้างๆเตียงของตัวเอง
“ตื่นแล้วหรอป๊อป”
“เธอ..” ร่างสูงมองคนตัวเล็กที่นั่งยิ้มอยู่ขอบเตียงของเขา คนตัวเล็กหยิบชามข้าวต้มที่เป็นตัวนำกลิ่นนั้นมาทำให้เขาตื่น
“ฉันทำข้าวต้มไว้ให้..”
“ทำไมยังไม่ไปอีกวะ!” ป๊อปปี้จ้องคนตัวเล็กตาเขม็ง ก่อนจะตะคอกใส่อย่างเคย
“ป๊อปปี้!”
เคร้ง!
ป๊อปปี้ตัดสินใจปัดถ้วยข้าวต้มนั่นออกจนถ้วยหล่นจนแตกระเนระนาดทั่วห้อง พร้อมกับฟางที่ล้มลงไปกองกับพื้น ร่างสูงมองอีกคนด้วยความโกรธ ฟางได้เพียงแค่ส่งสายตาด้วยความโกรธและเสียใจให้
ฟางไม่รู้ว่าการที่เธอตั้งใจทำข้าวต้มเพื่อป๊อปปี้มากขนาดนั้นแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคืออีกฝ่ายกลับไม่เห็นค่า
ถึงอย่างนั้นป๊อปปี้กลับรู้สึกผิดอยู่ในใจลึกๆ เมื่อเห็นร่างเล็กที่ล้มอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยังยิ้มเช่นเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น” ป๊อปปี้เบี่ยงสายตาไปทางอื่น
“ป๊อป..นายเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยหรอ”
“…”
“นายไม่เหมือนป๊อปปี้คนเดิมอีกแล้วนะรู้ตัวบ้างรึเปล่า” ฟางเอ่ยเสียงอ่อน ดวงตายังคงจ้องมองนัยย์ตาของอีกฝ่ายเช่นเดิม
“ฉันจะเป็นยังไง มันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“ป๊อป..กลับมาเป็นคนเดิมไม่ได้เลยหรอ"
คนฟังเหมือนจะชะงักคำพูดของร่างเล็กไปอีกครา ไม่รู้ทำไมป๊อปปี้ถึงต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย จะบอกยังไงว่าตอนนี้ป๊อปปี้กลับรู้สึกผิดต่อคนตรงหน้ามากเหลือเกิน
“…ออกไป”
“ถึงยังไง..ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น..เพราะฉันจะทำให้นายกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อไหร่ที่นาย กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ฉันจะไปจากนายเองป๊อปปี้” ฟางว่าจบก็ยันตัวเองให้ยืนขึ้นแล้วส่งยิ้มให้อีกคนด้วยความเต็มใจ ก่อนจะกลับหลังหันแล้วค่อยๆเดินจากไปอย่างนั้น
เหลือเพียงแค่ ป๊อปปี้ ที่ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น เมื่อแผ่นหลังบางลับหายไป ร่างสูงจึงเอนตัวลงนอนอีกครั้ง ป๊อปปี้วางแขนไว้บนหน้าผากตัวเองด้วยความเครียด หากเพียงแค่นึกถึงดวงตากลมโตนั่นใจก็ดันกระตุกขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“…จะกลับมาทำไมฟาง…” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแล้วค่อยๆปิดเปลือกตาลงอย่างช้า เพื่อผ่อนคลาย หวนนึกถึงคำพูดของคนตัวเล็กที่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
‘ถึงยังไง..ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น..เพราะฉันจะทำให้นายกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อไหร่ที่นาย กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ฉันจะไปจากนายเองป๊อปปี้’
ป๊อปปี้ส่ายหัวไล่ความคิดเมื่อครู่ที่มันยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่อย่างนั้น ไม่ได้หรอก..เพราะเขาจะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อป๊อปปี้จะยังคงรอผู้หญิงคนนั้นกลับมา…ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนเขาไม่ได้
ฟางเมื่อออกจากห้องป๊อปปี้ก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เด็กผู้ชายคนนั้นทำไมถึงมีนิสัยแบบนี้ แต่เธอจะไม่ท้อหรอกนะ..ไม่ว่าจะทำวิธีไหน เขาก็จะยอมทำทุกอย่าง..เพื่อให้ป๊อปปี้มีความสุข
“พี่ฟางนิ! ใช่รึเปล่าเนี่ย!” เสียงหนึ่งดังมาจากห้องรับแขก ฟางขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะรีบเดินไปดูในห้องดังกล่าว ร่างเล็กเดินมาจนถึงห้องรับแขกก่อนจะต้องผงะเมื่อเจอกับใครคนนึง
“แก้ว!” ร่างเล็กโผเข้ากอดหญิงสาวตรงหน้า ฟางเองก็เช่นกัน
“พี่ฟางหรอเนี่ย มาทำอะไรที่นี่!มาเยี่ยมคุณป้าหรอ” คุณป้าที่แก้วหมายถึงคงจะเป็นภาแม่ของป๊อป เธอเป็นเหมือนหลานของภา แก้วเลยเป็นเหมือนลูกพี่ลูกน้องของป๊อปปี้นั่นแหละ
และที่ฟางกับแก้วรู้จักกันได้คงเป็นตอนเด็กๆที่ชอบเล่นด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง
“เปล่าน่ะ..แล้วแก้วล่ะมาเยี่ยมป๊อปหรอ” ฟางถามขึ้น
“ก็ไม่เชิงหรอก…พอดีแม่ของแก้วนี่สิ!ฝากของมาให้ป๊อปปี้มัน ว่าแต่แก้วรู้ข่าวว่า..หมอนั่นเย็นชามากเลยนิ ตั้งแต่มายด์ทิ้งไปก็ไม่ได้มาเรียนอีกเลย เห่อะ!หลงยัยนั่นจนหัวปักหัวปำ ก็สมควรแล้วล่ะ...” แก้วพึมพำแล้วยกแขนกอดอก เธอได้ยินมาเยอะอยู่เพราะป๊อปปี้เรียนที่เดียวกันกับเธอ
ป๊อปปี้เป็นเด็กเอาแต่ใจเขามักจะทะเลาะกับแก้วอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่สำคัญคือหมอนี่เป็นถึงหนุ่มฮ๊อตของโรงเรียน แก้วก็ไม่อยากจะอะไรมากหรอกกับลูกพี่ลูกน้องของเธอเนี่ย เพราะคงมีแค่เธอกับเพื่อนสนิทป๊อปปี้ที่รู้ว่าเขาเอาแต่ใจขนาดไหน
พอข่าวออกมาว่าหลังจากป๊อปปี้เลิกกับมายด์แล้ว เจ้าเด็กเอาแต่ใจนั่นก็หายหน้าหายตาไปหลายเดือน มาทีก็ตอนสอบนี่แหละ
“นั่นสิ..พี่ก็คิดอย่างนั้น”
“ว่าแต่พี่ฟาง..พี่มาทำอะไรที่นี่อ่ะ แล้วทำไม…” แก้วเงยหน้ามองไปรอบๆบ้านที่ดูเหมือนจะเงียบผิดปกติ
“บ้านเงียบจังอ่ะ”
“ความจริงแล้ว น้าภาไม่อยู่หรอก..น้าเขาย้ายไปที่จีนเมื่อวาน” เมื่อฟางพูดจบ ทำเอาแก้วถึงกับอ้าปากเหว๋อแล้วประมวลผลสมอง
“อ๋อ หรือว่าพี่ฟางมาอยู่กับป๊อปปี้น่ะหรอ…”
“ใช่”
“แย่เลยสิ! อยู่กับเด็กแสบแบบนั้นได้ยังไงกันพี่ฟาง!” แก้วเบ้หน้าพูด นึกสงสารคนตรงหน้าขึ้นมาจับใจ
“พี่จะทำให้ป๊อปปี้..กลับมาเป็นคนเดิม”
“เอาอย่างนี้ดีกว่า! เราไปซื้อของกันมั้ย! มาทำคุกกี้ของโปรดหมอนั่นกัน” แก้วเอ่ยขึ้น พร้อมกับฟางที่เห็นว่าเป็นความคิดที่ดี ร่างเล็กจึงพยักหน้ารับ
“จริงสิ นั้นเราไปกันเลยดีกว่า”
ป๊อปปี้ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้โลกข้างนอกเป็นยังไง..ผู้ชายที่เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องอย่างเขาน่ะ และการที่เขาเอาแต่จมปรักอยู่กับอดีตที่คอยตอกย้ำตัวเองอยู่ตลอดเวลาอย่างเช่นตอนนี้…
ตี๊ดด ตี๊ดด ตี๊ดด เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถ..
“มายด์…ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน…” ที่ผ่านมาป๊อปปี้ไม่เคยลืมมายด์เลยจริงๆ..เขาไม่รู้ว่าคำว่าตัดใจมันเป็นเพียงแค่คำพูดสองสองพยางค์แต่ทำไมมันถึงเจ็บปวดมากขนาดนี้
“ป๊อปคะ ดูนี่สิฉันมีอะไรจะให้ดูแน่ะ” มายด์ยื่นของบางอย่างให้กป๊อปปี้
“ พวกกุญแจ?” ชายหนุ่มแหงนหน้าขมวดคิ้วสงสัยกับคนข้างๆ
“ช่ายย ทำไมล่ะป๊อปไม่ดีใจหรอคะ ถ้างั้น..มายด์เอาคืนก็ได้นะ”
“ปะ..ปล่าวหรอก ป๊อปแค่แปลกใจ..ทำไมมายด์ถึงให้พวงกุญแจป๊อป”
“ก็วันนี้เป็น…วันครบรอบ1เดือนของเรานะป๊อป อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้อ่ะ” หญิงสาวทำหน้ามุ้ยแสดงให้เห็นถึงความน้อยใจเป็นอย่างมาก
“หึ จริงด้วยสินะ” ร่างสูงยกมือขึ้นยีหัวแฟนสาวอย่างนึกเอ็นดู
ถ้อยคำและการกระทำของมายด์ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของป๊อปปี้เสมอมา มันไม่เคยตายจากไปจากใจเขาเลยสักนิด แต่วันที่เราต้องลากันครั้งนั้นเขาก็ได้แต่โทษตัวเองที่เธอไปก็เพราะเขาไม่ใช่หรอ..
“ฉันขอโทษมายด์..”
ฟางกับแก้วที่เดินเข้าบ้านพร้อมข้าวของที่เต็มไม้เต็มมือไปหมด ก็วัตถุดิบที่สำคัญในการจะทำคุกกี้นั่นแหละ แก้วนี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นสาวห้าวก็คงขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ศรีเรือนเลยก็ได้ ฝีไม้ฝีมือเรื่องงานบ้านเป็นที่หนึ่ง ขนาดฟางจำต้องยอให้เธอคนนี้เสมอ
“พี่ฟาง จะว่าไปแล้วก็นึกสงสารป๊อปปี้เหมือนกันนะ มายด์น่ะหายไปไหนก็ไม่รู้แล้วทิ้งหมอนั่นไว้คนเดียว..นั่นแหละทำกับเขาไว้เยอะนี่” แก้วว่าไปแกะข้าวของไปทันทีที่วางไว้บนโต๊ะ
“ผู้หญิงคนนั้นคงสำคัญมากสำหรับป๊อปน่ะ….” ฟางพูดอย่างท้อใจ ใจคอก็รู้อยู่หรอกว่าคงจะเปลี่ยนป๊อปปี้ได้ยากมากเหลือเกิน
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกพี่ฟาง...แก้วเชื่อว่าพี่ต้องเปลี่ยนป๊อปปี้ได้แน่ขอรับประกันเลย!..” แก้วยกแขนขึ้นแล้วชูสองนิ้วให้อีกคน
“พี่ว่าเรารีบทำกันเหอะ..” ฟางยิ้มน้อยๆแล้วหยิบวัตถุดิบต่างๆที่ซื้อมาอยู่ด้านหน้าด้วยความหวัง
เวลาผ่านล่วงเลยไปภามองออกไปนอกเครื่องบินแล้วนึกอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับลูกของตัวเองอย่างป๊อปปี้ หลังจากที่หล่อนจากลูกชายตัวเองมาแบบนี้ป๊อปก็คงโกรธเธอมาก ความเป็นแม่ก็คอยตอกย้ำกับตัวเอง จะว่าเธอเห็นแก่ตัวก็ได้นะ..แต่เธอแค่อยากให้ป๊อปปี้กลับมาเป็นลูกของแม่เหมือนครั้งก่อนนี่
“คุณภาไม่ต้องกังวลใจไปหรอกค่ะ ฟางจะดูแลป๊อปปี้เองนะ” ธาราเข้ากอบกุมมือหญิงสาวที่บีบมือตัวเองจนแน่น
“แต่ฉันเป็นห่วงป๊อปปี้มากมายเหลือเกิน ป่านนี้จะได้กินอะไรแล้วยัง..แล้วเขาจะโกรธฉันมากขนาดไหน ที่ฉันออกมาโดยไม่บอกลาเขาเลยสักคำ”
“ฟางอยู่ที่ไหน เมื่อนั้นป๊อปปี้จะปลอดภัยค่ะ..ฉันรับรองได้ว่าป๊อปปี้จะต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม..ไม่แน่อาจจะกลับมาแจ่มใสมากกว่าเดิมก็ได้” ธารายังคงพูดปลอบใจหญิงสาวข้างๆ
“แต่…”
“คุณก็รู้ว่าฟางเป็นคนร่าเริงขนาดไหน..เธอจะต้องเปลี่ยนป๊อปปี้ ไม่แน่ความหวังเมื่อครั้งก่อน..อาจจะเป็นจริงก็ได้นะคะคุณภา”
ภาเงยหน้าขึ้นสบตากับธาราแล้วคิ้วก็ติดกันเป็นปมใหญ่ ก่อนที่จะเบิกตากว้างอีกครั้งด้วยความตกใจเมื่อนึกถึงอดีตในครั้งนั้น
“นี่คุณอย่าบอกนะคะว่า…”
“ใช่ค่ะ..คุณอย่าลืมสิว่าสองคนนี้เป็นเหมือนคู่หมั้นกัน…”
“เสร็จแล้ว…” สองแขนเล็กถือจานที่มีคุกกี้สิบชิ้นภายในนั้น ก่อนจะเดินเร็วออกมาวางไว้บนโต๊ะข้างๆ
แก้วทำคุกกี้โดยมีฟางนี่แหละที่เป็นลูกมืออยู่ข้างๆ คนตัวเล็กก็ยิ่งเป็นคนหัวไวเลยจำสูตรนั่นสูตรนี่ได้หมด เมื่อคุกกี้ทำเสร็จกลิ่นหอมที่ออกจากเตาก็อบอวนไปทั่วบ้าน ฟางยิ้มให้กับถาดคุกกี้ในมือของตัวเอง ถ้าเธอทำแบบนี้ให้ป๊อปปี้ทุกวัน..จะชอบรึเปล่า
“แก้วเก่งจังเลยนะเนี่ย พี่คงต้องขอยืมตัวมาบ้างซะแล้ว”
“เต็มใจค่ะ555 แก้วมีธุระต่ออ่ะ คงไม่ได้ดูว่าหมอนั่นกินไปแล้วจะติดใจรึเปล่า..เสียดายจังแฮะ” แก้วเบะปากแล้วนึกเสียดายถ้าไม่ติดว่ามีธุระต่อป่านนี้คงได้เห็นหมอนั่นสักหน่อย
“นายรีบไปเถอะ เดี๋ยวทางนี้พี่จะดูแลเอง ขอบคุณมากนะแก้วที่มาช่วยอ่ะ ถ้าไม่ได้นายนะป่านนี้พี่ก็คงอยู่ว่างๆ เบื่อแย่เลย..” ฟางบอกแก้ว ก่อนที่เจ้าของชื่อจะกลับหลังหันไม่ลืมที่จะโบกมือลาพี่ชายตัวเล็ก แล้วเดินออกจากบ้านไป
ฟางที่มองดูคุกกี้ในจานก็ถอนหายใจ ไม่รู้ว่าป๊อปปี้จะยอมกินไปบ้างรึเปล่า
“กินหน่อยเถอะ ของชอบนายใช่มั้ยป๊อป” ฟางได้แต่พูดกับตัวเองอยู่แบบนั้น
“ไม่เอาๆ เอ่อ…ป๊อป นี่ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำให้นะ กินๆไปเถอะ….โอ้ยๆ ไม่ผ่านๆ ป๊อปนี่ฉันเป็นเพื่อนนายนะกินเดี๋ยวนี้!….โว้ยยยย ” ฟางเหมือนจะบ้าตายกับตัวเอง นี่เธอเป็นบ้าอะไรกันเนี่ยยยยยยยยยย
สุดท้ายสองขาก็ตัดสินใจก้าวฉับๆตรงดิ่งไปยังประตูห้องของป๊อปปี้ในทันที..
“เอาวะ!…ป๊อ!..โอ๊ะ!” พูดไม่ทันจะจบประโยคประตูห้องก็เปิดออกมาเสียก่อนซะนี่
“ ….” ป๊อปปี้ดูอึ้งๆนิดหน่อยเขาสำรวจฟางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วสานตาก็ไปหยุดอยู่ที่..
“คุกกี้…นายต้องกิ..เห้ยๆ!”
ฟางแทบจะสติแตกเมื่อคนตรงหน้าทำท่าว่าจะปิดประตูลงตรงหน้าเธอ!…แต่ฟางกลัวซะที่ไหนกัน ก็พอป๊อปปี้จะปิดปุ๊บฟางก็เบียดแทรกซึมเข้าห้องของอีกคนได้อย่างง่ายดาย
“นี่เธอทำบ้าอะไรน่ะฮะ! ใครอนุญาตให้เข้ามา!”
“ไม่มีหรอก ฉันอยากเข้ามันจะมีใครตายรึไงกัน” ฟางพูดอย่างเอือมๆ แม้ความจริงแล้วในใจแทบอยากจะปาดคอตายตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดด้วยซ้ำ
“ฟาง!” ป๊อปปี้ก็เริ่มจะไม่ไหว
“จะตะโกนเสียงดังทำไมอยู่กันแค่สองคนเนี่ย -_- เอาเป็นว่านี่คุกกี้นะฉันพึ่งทำให้นายก็กินซะด้วย”
“หึ เธอคิดว่าการที่เธอเดินเข้ามาพูดแค่นี้มันจะสั่งฉันได้งั้นหรอ”
“….”
“ถ้าไม่อยากโดนเหมือนครั้งที่แล้วล่ะก็…เอามันออกไปจากห้องฉันซะ”
“ป๊อป..”
ร่างสูงมองหน้าคนตรงหน้าอย่างเคืองๆ เขาตัดสินใจที่จะเดินเลี่ยงเพื่อออกห้อง…แต่มันก็ไม่เป็นผลเมื่อจู่ๆมือเล็กของฟางกลับรั้งเขาเอาไว้
“ขอร้องล่ะ…กินสักนิดก็ยังดี..เพราะฉันทำมันเองกับมือเลยนะ…ถ้านายไม่ยอมกินแล้วจะมีแรงเหมือน…เมื่อก่อน…ได้ยังไง” ฟางพูดออกไปโดยไม่ได้เงยหน้ามองหน้าป๊อปปี้เลยเธอเพียงแค่อยากรั้ง…อยากจะพูดให้คนตรงหน้าใจอ่อนและเข้าใจเธอบ้าง…
แต่ฟางกำลังคิดผิด…
“ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง…ฉันบอกว่า..ไม่กิน!!”
“โอ๊ยย!!!!”
อื้อหือ!!เรื่องใหม่ตอนที่สอง เปนไงบ้าง
ขอเสียงที!!!
....เงียบกริบ
เม้นเป็นกำลังใจให้ได้ครัช555 อยากได้มาก
ติดตามกันต่อไปด้วยเด้อออ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ