THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.46 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 18.24 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความTHE WAY OF LOVE.หลงทางรัก
ตอนที่๙
เป็นเวลาร่วมหนึ่งเดือนแล้วที่หลังจากวันนั้นธนันต์ธรญ์ไม่ได้พบภาณุอีกเลย ทั้งๆที่
เพื่อนของเขา...ปริญ แวะเวียนมาที่นี่เกือบจะทุกวัน แต่กลับไร้เงาของภาณุ
เธออยากจะถามถึงเขา แต่ก็ไม่กล้าพอ เพราะเธอไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะอยากรู้ความเป็นไปของ
ชีวิตเขา ระหว่างเธอและเขาเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น เธอนี่เริ่มจะบ้าขึ้นทุกวันที่เอาแต่คิดถึงผู้ชาย
คนนั้น ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้คิดถึงเธอแบบที่เธอกำลังคิดถึงเขา น่าสมเพชตัวเองชะมัด
“คุณฟางคะ”
“คะ”เธอหันไปยิ้มให้นิษฐา น้องสาวของปริญที่มักตามพี่ชายมาที่นี่ทุกครั้ง เธอเป็น
คนอัธยาศัยดี ขนาดเธอที่เพิ่งจะรู้จักกันแค่หนึ่งเดือนยังรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมา
นาน
“คือน้องทำขนมหม้อแกงเมื่อวานน่ะค่ะ แต่เนื้อมันไม่เนียนแถมขรุขระอีก”เธอว่า
พลางทำหน้ามุ่ย เธอยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ย
“ถ้านั้นตามมาสิคะ เย็นนี้เราทานขนมหม้อแกงเป็นของหวานดีไหมคะ”
“ดีค่ะ น้องจะได้รู้ตัวเองว่าทำผิดสูตรตรงไหน”
ปริญมองสองร่างบอบบางของน้องสาวและธนันต์ธรญ์ที่เดินหายเข้าไปในครัว เขา
รู้สึกดีใจไม่น้อยที่นิษฐาก็ชอบในตัวของธนันต์ธรญ์ ทั้งเธอยังคอยหนุนหลังเขาอีก แม้ว่ากำลังใจจะ
ดีขนาดไหน แต่ทุกครั้งที่เขาพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของธนันต์ธรญ์มันก็เหมือนมี
กำแพงที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อกั้นเขาและเธอให้ออกห่างกันไป...
“คุณปริ้นซ์ มายืนทำอะไรตรงนี้คะ”เขาหันไปตามเสียงหวานของพิมประภา เธออยู่ใน
ชุดนักศึกษา ให้เดาว่าคงเพิ่งจะกลับมาจากการฝึกงาน หลังจากเธอเพิ่งเอาเฝือกใส่ขาออก
“เปล่าครับ กลับมานานแล้วหรอครับ”
“ไม่ค่ะ เพิ่งเดินเข้ามา วันนี้พี่ฟางกับคุณน้องทำเมนูอะไรกันอีกคะเนี่ย”เขายิ้ม เขา
และน้องสาวกลายเป็นแขกประจำของที่นี่ไปแล้ว ขนาดพิมประภายังเลือกที่จะถามคำถามอื่น
แทนที่จะถามว่าเขามาทำอะไรที่บ้านนี้
“ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ได้ยินว่าเย็นนี้มีขนมหม้อแกง”
“อ้อ ถ้านั้นพิมขอตัวก่อนนะคะ มีงานบางอย่างที่พิมไม่ค่อยจะเข้าใจ ขอไปทำความ
เข้าใจก่อน อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด”หญิงสาวบ่น ขณะทำหน้าเหนื่อยหน่าย เขาหัวเราะก่อนจะ
ขันอาสา
“ให้ผมช่วยสอนไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจแย่เลย”เธอยิ้มน้อยๆ
“ไม่เป็นไรครับ ผมมาฝากท้องที่นี่ทุกวันต้องตอบแทนบุญคุณเจ้าของบ้าน มาสิ
ครับ”เขาจูงข้อมือเล็กของพิมประภามานั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อน หญิงสาวเริ่มกางแฟ้มเอกสาร ก่อนจะ
ซักไซ้ถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และเขาก็เริ่มอธิบายให้เธอฟังเป็นอย่างๆไป นักเรียนที่ดีก็นั่งฟังอย่าง
ตั้งใจ และบางครั้งก็มีคำถาม...
พิมประภารู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก ใบหน้าของเธอ
ร้อนฉ่า ยิ่งได้มองปริญใกล้ๆหัวใจของเธอยิ่งเต้นแรง มือของเธอเย็นเฉียบไปหมด แค่คุยกับเขาก็
เกร็งจะแย่ แต่นี้เขานั่งใกล้ขนาดนี้ แถมสอนโน่นสอนนี่ให้เธออย่างตั้งใจ มันทำให้หัวใจดวงน้อย
ของเธออบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก...
นิษฐาจัดแจงวางอาหารลงบนโต๊ะอาหารของบ้านหลังน่ารัก เธอมองอาหารฝีมือของ
ตัวเองและธนันต์ธรญ์ด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่เธอมาที่นี่ก็ได้อะไรกลับไปหลายอย่างทีเดียว แถมยังได้
คลายเครียดจากงาน จากคู่หมั้นหนุ่มที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ คิดแล้วก็น่าน้อยใจเสียจริง...
แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อภัทรกรก็ลำบากเช่นกันที่ผันตัวมาเป็นไม้ค้ำยันให้จิระคุณ
บริษัทของเขาแม้จะเติบโตขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ปัญหาก็ใหญ่มากขึ้นเช่นกัน...
“พิมกำลังให้คุณปริ้นซ์สอนงานอยู่น่ะค่ะ”เธอหันไปยิ้มให้ธนันต์ธรญ์
“รอก่อนก็ได้ค่ะ น้องก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”
“ค่ะ เป็นไงบ้างคะ รู้รึยังว่าตรงไหนที่ผิดพลาด”เธอยิ้มแหยๆ ก่อนจะเอ่ย
“คงใส่แป้งมากไปน่ะคะ ขอบคุณคุณฟางมากนะคะที่ช่วยสอนน้อง ขโมยวิชามาจาก
คุณฟางได้เยอะแยะเลย”
“ยินดีค่ะ อย่างนี้แฟนคุณน้องคงหลงแย่เลยใช่ไหมคะ”เธอหน้ามุ่ยลง ก่อนจะเริ่มเอ่ย
“เขาไม่สนใจจะทานหรอกค่ะรายนั้น วันๆสนใจแต่บริษัท แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ เขาก็
เสียสละมากที่ตัดสินใจรวมเข้ากับบริษัทในเครือจิระคุณ”
“ฟางถามได้ไหมคะ”เธอเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มบางๆเมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีเกรงใจ
“ได้สิคะ ถามได้ทั้งนั้นแหละค่ะ คุณฟางเป็นเพื่อนน้องแล้วนะคะ”
“คุณภาณุเขา...เอ่อ เขา...”เธอยิ้มเมื่อธนันต์ธรญ์มีท่าทีอึกอัก เธอจึงเป็นฝ่ายเริ่ม
เล่าปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นเสียเอง
“ตอนนี้ที่บริษัทกำลังมีปัญหาเรื่องการฉ้อฉลของใครบางคนค่ะ พี่ป๊อปเขาเลยเริ่ม
ยุทธการเชือดไก่ให้ลิงดู ตานั่นวันๆก็ไม่ทำอะไรหรอกค่ะ ทำแต่งาน อายุก็ปาเข้าไป
สามสิบสองแล้ว อีกสามวันก็สามสิบสามพอดิบพอดี แฟนก็ยังหาไม่ได้กับเขาสักคนเลยค่ะ”
“เขายังไม่มีแฟนหรอคะ”เธอถอนหายใจ เมื่อนึกๆไปแล้ว คนที่น่าเห็นใจที่สุด คือคน
ที่ทรงอำนาจที่สุด เขาต้องแบกรับปัญหาทุกอย่างไว้คนเดียว
“ค่ะ น้องจะเล่าให้ฟัง...คุณฟางเคยได้ยินเรื่องระหว่างจิระคุณกับพีรญาณ์มาบ้างไหมคะ”
“ไม่ค่ะ พอดีฟางไม่ค่อยสนใจแวดวงธุรกิจ”เธอพยักหน้า ก่อนจะเริ่มเล่าต่อ
“เรามีเรื่องขัดแย้งกันมาเป็นเวลานานแล้วล่ะค่ะ ถ้านับไม่ผิดก็คงสามชั่วอายุคน พ่อ
แม่ของน้องกับพี่ป๊อปเสียในอุบัติเหตุที่มีใครบางคนจงใจให้เกิด แต่คนที่เขาจับตัวได้ไม่ยอม
ซักทอด จึงไม่สามารถจับต้นตอที่แท้จริงเข้าคุกได้ พี่เขาต้องขึ้นเป็นประธานตั้งแต่อายุแค่ยี่สิบห้า
ตอนนั้นทุกอย่างวุ่นวายมาก น้องเองก็ยังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก แต่เราผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
เพราะพี่ป๊อปกับพี่ปริ้นซ์ช่วยกันประคองให้มันผ่านมา...”
“คงหนักหนาสำหรับเขามากเลยนะคะ”เธอพยักหน้าเห็นด้วย
“ค่ะ นั่นทำให้ตาแก่สองคนเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตม้ากมาก แต่พี่ป๊อปนี่น่าจะอาการ
หนักกว่าเป็นไหนๆ ถึงกับบอกว่าชาตินี้จะไม่รักใคร ฮ่าๆ”เธอหัวเราะเมื่อนึกถึงคำพูดของญาติผู้พี่
“ทำไมล่ะคะ”
“บอกตามตรงนะคะ ชีวิตของเราแขวนอยู่บนเส้นด้าย ไม่รู้เลยว่าวินาทีไหนจะถูกลูก
กระสุนคร่าเอาชีวิตไป หากต้องการที่จะอยู่อย่างสงงบสุข ก็มีเพียงทางเดียวคือต้องกำจัดพีรญาณ์
ให้ได้”
ธนันต์ธรญ์กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ จริงด้วยที่เขาไม่ใช่แค่นักธุรกิจธรรมดา
นี่มันเข้าข่ายมาเฟียที่ต้องฆ่าล้างกันเพื่อแย่งชิงเอาอำนาจเลยนี่นา เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า
ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่จริงๆ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเธอประสบมากับตัว
ครั้งนั้นที่ยืนคุยกับเขาไม่เท่าไหร่ ลูกกระสุนที่ไหนไม่รู้ก็มาผ่าเนื้อเข้าไปฝังในหัวไหล่ซ้ายของเขา
เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าหากวันนั้นมือปืนไม่พลาด ลูกกระสุนนั้นอาจจะตัดผ่านขั้วหัวใจก็เป็นได้
“แต่คุณฟางอย่าคิดว่าเราจะไปฆ่าล้างโคตรใครนะคะ แค่ให้กฏหมายจัดการกับคนผิด
ก็เท่านั้น”
“อ๋อ ค่ะ เพราะอย่างนี้เขาถึงไม่มาที่นี่เลยสินะคะ”
“ไว้วันหลังน้องจะชวนพี่ป๊อปมานะคะ”
“เอ่อ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือฟาง...”
“มาแล้ว...โอ้โห วันนี้กับข้าวน่ากินสุดๆ”เสียงหวานร่าเริงของพิมประภาเอ่ยขึ้นขัดบท
สนทนาระหว่างธนันต์ธรญ์และนิษฐา ร่างสูงโปร่งเดินมานั่งบนเก้าอี้ก่อนจะเอ่ยทักทายนิษฐา
“สวัสดีค่ะคุณน้อง มาทำอาหารขุนพิมทุกวันอย่างนี้พิมก็อ้วนแย่สิคะเนี่ย”
นิษฐาหัวเราะน้อยๆ
“มาขโมยวิชาคุณฟางต่างหากค่ะ เราทานกันเลยดีไหมคะ”
“ดีมาก เพราะพี่กำลังหิวอยู่พอดี”ปริญเอ่ยเสริม ก่อนทุกคนจะเริ่มลงมือรับประทาน
อาหารกัน โต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะพูดคุยอย่างสนุกสนานเช่นทุกวัน ปริญได้แต่หวังว่า
เขาจะสามารถพังกำแพงนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของธนันต์ธรญ์ได้สำเร็จ...
มาแล้ววว แฮ่ เรียนเหนื่อยจัง เมื่อไหร่จะปิดเทอมอีก 555
เราขอเม้น+โหวตเป็นกำลังใจหน่อยน้า มันเป็นอะไรเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เราโคตรหายเหนื่อยเลย
เห็นใจเราหน่อยนะ ที่เราเอานิยายลงทุกวันเพราะว่าอยากได้เม้น อยากรู้ว่ารีดเดอร์รู้สึกยังไงกับ
นิยายเราบ้าง ไม่ใช่ว่าอ่านแล้วก็ออกไป ขอโทษนะถ้าทำให้รู้สึกว่าเราเยอะไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ