บ่วงรักรอยอดีต

9.1

เขียนโดย Chapond

วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.11 น.

  45 ตอน
  448 วิจารณ์
  117.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 12.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

21) 21 หวั่นไหว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จะไปไหนน่ะ”ภาณุรู้สึกตัวได้ว่าร่างบางที่เขานอนกอดอยู่กำลังลุกขึ้นก็รีบคว้าข้อมือมาและถาม

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มันจะเช้าแล้วนะจ้ะ คุณใหญ่ลุกขึ้นแล้วกลับไปเถอะจ้ะเดี๋ยวถ้าคุณเล็ก และคุณเขมตื่นแล้วไม่

เห็นคุณใหญ่มันจะไม่ดี”นันท์พูดเพราะเมื่อคืนเธออยู่ในห้องนี้กับภาณุทั้งคืนและถูกภาณุลงโทษเธอ

ด้วยตัวของเขาหลายต่อหลายครั้งกว่าจะหยุดก็ใกล้มืดแล้ว นันท์เริ่มรู้สึกตัวถึงความอายเมื่อเธอและ

ภาณุไม่สวมเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้นก็แอบดึงผ้าห่มมาคลุมตัว

 

 

 

 

 

 

“จะปิดทำไมล่ะ เมื่อคืนชั้นกับเธอเราก็เห็นกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไฝเธออยู่ตรงไหนบ้าง

ทรวดทรงองเอวเธอเป็นยังไง ชั้นรู้หมดล่ะน่า”ภาณุเหล่มองนันท์ที่ห่อตัวเองในผ้าห่มด้วยความอาย

ก็ดึงนันท์มากอดและพูด

 

 

 

 

 

 

“ยะ อย่าจ้ะ นันท์ไม่ไหวแล้ว คุณใหญ่พอเถอะนะจ้ะ”นันท์หน้าแดงจัดและพยายามขอร้องชายหนุ่ม

 

 

 

 

 

 

“คิดเรอะว่าถ้าชั้นปล่อยเธอไปชั้นจะไม่ทำอะไรอีก ตราบใดที่เธอคือทาสของชั้น และยังมีผู้ชายมาก

หน้าหลายตามาเกี่ยวพันเธอแบบนี้อีก ชั้นก็จะลงโทษเธอแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือชิ้นดีกลับไป

หาคนรักของเธอเลย”ภาณุว่า ทำให้นันท์นึกถึงหน้าของกร จริงอยู่ที่ภาณุข่มขืนและนอนกับเธอ

หลายครั้ง แต่เมื่อคืนนี้เธอเองก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเธอเองก็รู้สึกดีกับสิ่งที่ภาณุปรนเปรอให้ หน้า

ของกรผุดเข้ามา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็แล่นเข้ามาในหัวนันท์ก่อนน้ำตาจะไหลออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

“เธอนี่มันน้ำตาไหลเป็นก๊อกรึไง ร้องไห้ตลอดแบบนี้”ภาณุเห็นนันท์ร้องไห้ก็รีบว่า

 

 

 

 

 

“ปะ เปล่าจ้ะ นันท์จะไม่ร้องไห้อีกแล้ว”นันท์ขืนตัวเองออกจากภาณุและปาดน้ำตาทิ้ง

 

 

 

 

 

“ชั้นไม่เชื่อ”ภาณุพูดแล้วดึงนันท์ไปจูบที่แก้มเพื่อซับน้ำตาก่อนจะไล้ลงที่ปากเรียว ชายหนุ่มจูบร่าง

บางอยู่เนิ่นนาน

 

 

 

 

 

 

 

“พะ พอเถอะจ้ะ คุณใหญ่รีบใส่เสื้อผ้าเถอะจ้ะ”นันท์ที่เกือบจะเคลิ้มรสจูบนี้ก็รีบพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“ได้ หึๆ แล้วทีหลังชั้นจะมาใช้บริการใหม่”ภาณุพูดและลุกไปใส่เสื้อผ้าเช่นเดียวกับนันท์ก่อนจะเดิน

ออกมาจาห้องพักคนใช้ในตอนเช้ามืดแล้วกลับขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องพัก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เมื่อคืนพี่ใหญ่ไปไหนมาคะ เล็กตื่นมากลางดึกเล็กเห็นเตียงห้องพี่ใหญ่ว่างอยู่”คุณเล็กพูดเมื่อเห็น

ภาณุเดินลงจากชั้นบนในตอนเกือบเที่ยง“เมื่อคืนพวกชั้นเอาแกไปนอนที่ห้องแล้วแกยังจะลุกไป

ไหนอีกไอ้ใหญ่”กวินถาม

 

 

 

 

 

 

 

 

เคร้ง นันท์ที่กำลังเสิร์ฟชาให้ทุกคนอยู่ได้ยินก็ทำช้อนชาหล่นก่อนจะรีบเก็บ

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ย แม่นี่ก็อีกคน ซุ่มซ่ามอะไรนักหนา”คุณเล็กหันไปมองนันท์แล้วพูดออกมาด้วยความรำคาญ

 

 

 

 

 

“ว่าไงคะใหญ่ ใหญ่ออกไปไหนมาคะเมื่อคืนนี้”เขริการีบถามภาณุ

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ เมื่อคืนใหญ่ตื่นมากลางดึกน่ะ สงสัยดื่มหนักไปหน่อยเลยไปอ้วกที่ห้องน้ำ ยัยเล็กเองก็ดูแค่

เตียงของพี่ไม่ใช่รึไง พี่น่ะอยู่ที่ห้องน้ำ”ใหญ่รีบพูดโกหกและสร้างเรื่องใหม่ทันที

 

 

 

 

 

 

 

“ตายแล้ว ละนี่ใหญ่ค่อยยังชั่วรึยังคะ รึว่าทานอะไรแก้แฮงค์มั้ยคะ”เขริการีบถามไถ่ภาณุก่อนจะลุก

ขึ้นไปแล้วทำหน้าที่รินชาให้กับภาณุแทนนันท์ แวบหนึ่งนันท์เห็นเขริกาที่ใส่ใจดูแลภาณุดีก็รู้สึกผิด

เหลือเกิน

 

 

 

 

 

 

“ใหญ่คะ มาถ่ายรูปด้วยกันสิคะ กวิน ถ่ายรูปให้หน่อยสิ”เขริกาพูดเมื่อเดินมาถึงจุดชมวิวแล้วยื่น

กล้องถ่ายรูปให้กวินถ่ายรูป ทั้งคู่ถ่ายรูปกัน โดยที่ภาณุโอบเอวคนรักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มนันท์มอง

ภาพนั้นแล้วถึงกับซึม

 

 

 

 

 

 

 

“แดดแรงแบบนี้มายืนกลางแดดแบบนี้ได้ยังไง”ปลื้มพูดแล้วเดินมายืนข้างนันท์ ภาณุเห็นก็หน้าตึง

 

 

 

 

 

 

“ใหญ่คะ ยิ้มหน่อยสิคะ มีอะไรรึเปล่า”เขริกาเห็นภาณุไม่ยิ้มเหมือนเดิมก็รีบพูด

 

 

 

 

 

“เปล่าจ้ะเขม ตรงนี้แดดมันแรงแล้วเราลงไปกันเถอะนะ เดี๋ยวเขมจะผิวเสียเอา”ภาณุพูดแล้วเอาผ้า

มาคลุมไหล่ให้เขริกาก่อนจะโอบเขริกาเดินผ่านหน้านันท์และปลื้มไปโดยไม่ชายตามองเลย

 

 

 

 

 

“มีอะไรรึเปล่านันท์ทำไมหน้าซีดๆเชียว ไม่สบายหรอ”ปลื้มถามนันท์ด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

 

 

“ปะ เปล่าจ้ะ คุณปลื้มเราลงกันไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวตามพวกคุณๆไม่ทัน”นันท์ได้สติก็รีบพูดก่อนจะเดิน

ไป

 

 

 

 

 

 

“ถ้ากลับไปเนี่ย พี่กวินกับพี่มดอย่าลืมมาเที่ยวที่บ้านของเรานะคะ”คุณเล็กพูดเมื่อทุกคนกำลัง

เตรียมตัวกลับ

 

 

 

 

 

“เอางั้นสิ เพราะบ้านนี้เจ้านายก็สวย คนใช้ก็สวย น่าสนแบบนี้ต้องไปอยู่แล้ว”กวินพูดแล้วมองคุณ

เล็กสลับกับนันท์ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

 

 

 

 

 

 

“พอเลยกวิน นายนี่มันเสือผู้หญิงจริงๆ”ปลื้มมองเพื่อนแล้วส่ายหน้าเบาๆ

 

 

 

 

 

“หึๆแล้วใครจะไปเหมือนแก ปลื้ม ม้ามืดแค่คืนเดียวสนิทกับแม่สาวใช้คนสวยซะละ เอ รึว่าเมื่อคืน

ช่วยกันเก็บของแล้วไปเก็บกันถึงไหนต่อไหนซะล่ะ”กวินพูดแล้วมองไปทางปลื้มที่มองแต่นันท์

ภาณุได้ยินก็ชะงักคิดถึงเรื่องเมื่อคืนของเขาและนันท์ก่อนจะลอบมองนันท์ที่ก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไร

 

 

 

 

 

 

 

 

“ใหญ่คะมองอะไรอยู่คะ ขึ้นรถเถอะค่ะ”เขริกาเห็นสายตาของภาณุมองไปที่นันท์ก็รีบพูดก่อนจะดึง

ภาณุขึ้นรถไป แล้วรถของพวกภาณุก็ขับมาถึงเรือนจันทร์เจ้าโดยมีรถของพวกกวินขับตามมาอีกคัน

 

 

 

 

 

 

 

“ไว้ชั้นจะแวะมาหาเธออีกนะนันท์ ชั้นจะมาดูซิว่าครั้งต่อไปเธอจะยิ้มให้กับชั้นได้รึยัง”ปลื้มพูดเมื่อ

เห็นนันท์ที่ซึมตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์จนถึงกรุงเทพ ทำให้เค้าอดสงสัยไม่ได้ว่าในใจของนันท์มีอะไรรึ

เปล่า

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ต้องหรอกปลื้ม อีแค่คนใช้ ไม่จำเป็นต้องมาหาบ่อย เพราะแค่นี้ผู้ชายก็โร่มาตามตัวที่นี่ก็เยอะ

แล้ว”คุณเล็กว่า

 

 

 

 

 

 

“จริงสิ แล้วนี่คนรักเธอไปไหนแล้วล่ะนันท์ ไปต่างจังหวัดแบบนี้เธอบอกคนรักของเธอรึยังว่ากลับมา

แล้ว”เขริกาพูดเมื่อลงรถมา ก่อนจะแอบยิ้มเยาะโดยไม่รู้เลยว่าคนที่เธอควงตอนนี้แทบจะพุ่งไป

จัดการกร และผู้ชายที่มารุมล้อมนันท์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่นันท์แย่แล้วจ้ะ วันก่อนที่พี่นันท์ไปต่างจังหวัดเพื่อนที่ทำงานพี่กรมาบอกว่าพี่กรถูกรถชนตอนนี้

อยู่ที่โรงพยาบาลจ้ะ”จำปารีบวิ่งมาหานันท์แล้วพูดอย่างร้อนรน

 

 

 

 

 

“พี่กร พวกคุณๆนันท์ขอลาไปดูพี่กรที่โรงพยาบาลก่อนนะจ้ะ เดี๋ยวนันท์จะรีบกลับมา”นันท์พูดแล้ว

รีบวิ่งไปนอกบ้านกับจำปาเพื่อโบกสามล้อไปหาคนรักทันที

 

 

 

 

 

 

“อุ้ย พูดไม่ทันขาดคำไปหาผู้ชายอีกแล้ว”คุณเล็กรีบว่า

 

 

 

 

 

 

“แล้วนี่คนรักของนันท์เค้าจะเป็นอะไรมากรึเปล่าน่ะ”ปลื้มเห็นท่าทีของนันท์และจำปาก็นึกห่วงคนรัก

ของนันท์

 

 

 

 

 

 

“ยังจะไปสนใจมันอีกนะปลื้ม เดี๋ยวไปถึงก็คงจะกอดกันให้ฉ่ำหายคิดถึงกันล่ะน่า พวกเราน่ะกลับกัน

ได้แล้วให้ใหญ่เค้าอยู่กับเขมบ้างเถอะ”มดรีบพูดก่อนะดึงเพื่อนชายทั้ง2ของตัวเองกลับไปทันที

 

 

 

 

 

 

“ผู้หญิงมักมาก”ภาณุมองนันท์ที่ออกไปแล้วก็พึมพำเบาๆ เขริกามองภาณุที่ทำหน้าตาไม่พอใจเมื่อ

นันท์ไปหากร เป็นห่วงกรแบบนั้นก็นิ่วหน้าและเริ่มสงสัยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคู่หมั้น

 

 

 

 

 

 

“พี่ไม่เป็นไรหรอกนันท์ พี่แค่ฟกช้ำแค่นี้เอง จำปาก็พูดให้นันท์ตกอกตกใจไปได้”กรพูดเมื่อนันท์รีบ

มาหาเขาที่โรงพยาบาล

 

 

 

 

 

 

“ได้ยังไงจ้ะนันท์เป็นห่วงพี่มากนะจ้ะ พี่โดนรถชนนันท์ก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา”นันท์พูดแล้วกุมมือคน

รัก

 

 

 

 

 

“ตัวพี่ไม่เป็นไรหรอกนะนันท์แต่ใจพี่จะเป็นก็ต่อเมื่อเห็นนันท์โดนทำร้าย ไปต่างจังหวัดกับพวกคุณๆ

ใจร้ายพวกนั้นเค้าทำอะไรนันท์บ้างล่ะ หืม”กรเลื่อนมือไปกุมมือนันท์แล้วถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่มีอะไรหรอก”นันท์ย้อนนึกถึงคืนที่เธอมีอะไรกับภาณุอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้เธอเองก็

สมยอมด้วย ความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจเธอ ตอนนี้เธอได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงหลายใจ มักมากอย่างที่

พวกภาณุว่าแล้วสินะ

 

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วพี่เป็นห่วงนันท์มากนะ พี่เก็บเงินใกล้ครบแล้ว นันท์รอก่อนนะพี่จะไปไถ่ตัวนันท์

เอง”กรพูดแล้วดึงนันท์ไปกอดด้วยความรัก โดยที่นันท์ได้ยินเช่นนั้นก็น้ำตาไหลออกมาด้วยความ

รู้สึกผิดต่อกร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อืม”ฟางที่กำลังนอนหลับบนเตียงเริ่มรู้สึกเมื่อมีใครคนหนึ่งกำลังซุกไซร้ตามตัว

 

 

 

 

 

 

“ว้าย ป๊อป อะไรเนี่ย”เมื่อลืมตาฟางต้องร้องเพราะป๊อปปี้กำลังคร่อมร่างเธอและถอดชุดเดรสของเธอ

ออก

 

 

 

 

 

 

“เอ้าฟางไม่เคยดูเรื่องเจ้าหญิงนิทราหรอที่เจ้าชายปลุกเจ้าหญิงไง”ป๊อปปี้พูดและยิ้ม

 

 

 

 

 

“จะบ้าเรอะ เค้าแค่จูบ ไม่ใช่ปล้ำ”ฟางหน้าแดงรีบพูดก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

 

 

 

 

 

 

“555เอ้าก็ขอลงโทษหน่อยสิ คนร้ายทำป๊อปหึง ป๊อปโกรธแบบนี้ต้องลงโทษ”ป๊อปปี้พูดแล้วกอด

ฟางก่อนจะหอมแก้ม ฟางชะงักนึกถึงฝันเมื่อกี้ที่เห็นภาณุปล้ำนันท์เป็นการลงโทษ

 

 

 

 

 

 

“ป๊อปอ่ะแล้วนี่เลิกงานไวหรอคะ”ฟางเปลี่ยนเรื่องคุย

 

 

 

 

 

“จ้ะ เออตอนป๊อปเข้ามาในห้องเหมือนแก้วบอกว่าไปวัดกันมาหรอ แล้วเป็นไง”ป๊อปปี้ถาม

 

 

 

 

 

 

 

“ป๊อปหลวงตาที่โน่นบอกว่าสิ่งที่ฟางฝันถึงมันคือเรื่องจริงของพวกเรา ชาติก่อนนันท์คือฟาง คุณ

ใหญ่คือป๊อปจริงๆ แต่ตอนนี้กำลังมีเจ้ากรรมนายเวรมาตามเอาคืนพวกเราอยู่”ฟางรีบเล่าเรื่องที่ไปวัด

ให้ป๊อปปี้ฟัง

 

 

 

 

 

 

“ฟาง นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้วนะยังคิดมากอีก หลวงตาพูดไปอาจจะอยากให้ฟางทำบุญเข้าวัด

เข้าเยอะๆล่ะสิ นี่ตะกรุดนี่อะไร เสียเงินซื้อมาอีกล่ะสิ”ป๊อปปี้พูดแล้วหยิบตะกรุดข้อมือที่วางอยู่ตรง

โต๊ะข้างเตียงแล้วถาม

 

 

 

 

 

 

 

“เปล่าไม่ได้เสียนะ หลวงตาเค้าให้มาบอกว่าพวกเรากำลังมีเคราะห์ ป๊อปรึว่าชาติที่แล้วฟางไปแย่ง

ป๊อปมากจากคุณเขมแน่ๆ ตอนนี้เค้าอาจจะมาเอาคืนเราอยู่ก็ได้นะ”ฟางกังวล

 

 

 

 

 

 

“เรื่องของชาติแล้วก็ปล่อยเป็นเรื่องชาติแล้วสิจะเก็บเอามาคิดทำไมกัน ฟางปัจจุบันคือเรานะ มีป๊อป

มีฟาง จะคุณใหญ่ คุณเขม หรือนันท์อะไรป๊อปไม่สนใจทั้งนั้น เลิกยึดอดีตบ้าๆนี่เถอะ”ป๊อปปี้พูด

อย่างไม่ค่อยเชื่อ ฟางมองสามีนิ่งๆ เธอรู้ว่าป๊อปปี้คือคนสมัยใหม่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เธอ

เองก็ไม่เชื่อ แต่ฝันที่เธอเห็นทุกคืนตั้งแต่แต่งงานกับป๊อปปี้ล่ะคืออะไร

 

 

 

 

 

 

 

“จริงสิแล้วเลิกงานไวแบบนี้คุณมีนไม่ว่าหรอป๊อป”ฟางถาม ป๊อปปี้ไม่ตอบแต่ยิ้มนิดๆก่นจะเดินจูงมือ

ฟางมาชั้นล้าง ฟางอึ้งเมื่อบริเวณลานกว้างริมน้ำถูกจัดไปด้วยดอกไม้และเทียนหอมมากมาย และมี

โต๊ะดินเนอร์ริมน้ำ

 

 

 

 

 

 

 

“วันนี้ขอลางานครึ่งวันไปเหมาดอกไม้อย่างที่คนแถวนี้ชอบ มาจัด คนอะไรขี้เซา สามีกลับมาจากที่

ทำงานตั้งแต่เช้ายังหลับไม่รู้เรื่องอีก ระวังเถอะ คืนนี้จะนอนไม่หลับ”ป๊อปปี้พูด ฟางยิ้มออกมาก่อน

จะเขย่งตัวจูบสามี

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้านอนไม่หลับก็ให้ป๊อปทำให้หลับสิ”ฟางพูดแล้วยิ้มๆป๊อปปี้ถึงกับหน้าแดงจัด

 

 

 

 

 

 

“ทีหลังเราะไม่โกรธข้ามวันอีกแล้วเนาะฟาง ไม่ใช่แค่ฟางที่ทุกข์ใจ ป๊อปเองก็ไม่มีความสุขเลยที่เรา

ทะเลาะกัน”ป๊อปปี้พูดแล้วดึงฟางไปกอดแน่น เขายอมรับว่าหึงกั้งอย่างไม่มีสาเหตุแต่ก็ไม่สบายใจ

ด้วยที่ทะเลาะกับฟางแบบนั้น

 

 

 

 

 

 

“งั้นทีหลังถ้าเราไม่เข้าใจกันเราจะต้องหันหน้ามาคุยกันดีๆเนาะ”ฟางกอดตอบและพูดกับสามี ป๊อปปี้

ยิ้มออกมาก่อนจะพาฟางมานั่งทานอาหารเย็นด้วยกันริมน้ำอย่างมีความสุข

 

 

 

 

 

 

“ไม่รู้ว่าฟางเค้าจะเชื่อในสิ่งที่หลวงตาบอกวันนี้รึเปล่านะคะคุณท่าน”แก้วยืนมองฟางและป๊อปปี้อยู่ที่

ระเบียงตึกกับย่าจำปาแล้วพูด กลังจากเล่าเรื่องตอนเช้าที่วัดให้ย่าจำปาฟัง

 

 

 

 

 

 

“มันก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเค้าเองว่าจะเชื่อไม่เชื่อ ถ้าพวกเค้ารักและเชื่อใจกันต่อให้มีเรื่องร้ายๆอะไร

เข้ามานะยังไงก็ทำอะไรพวกเค้าไม่ได้หรอก”ย่าจำปาพูดแล้วมองไปที่ป๊อปปี้และฟางที่อยู่ริมน้ำ

 

 

 

 

 

 

 

ชาตินี้เค้าคืนดีกันแล้วแต่เห้อ พระเอกดันไม่เชื่อหลวงตาซะด้วยสิ

 

 

ส่วนชาติก่อนเอาละไง นันท์หวั่นไหวซะแล้ว

 

งานนี้เป็นไงต้องติดตามมมมม

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา