รักนะ เด็กบ้า(Yaoi)

-

เขียนโดย สาววายBL

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 16.26 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  12.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 16.54 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) รักนะ เด็กบ้า:2 ตอน ทวงความเป็นเจ้าของ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บทความเรื่องนี้สาววาย บีแอลเป็นผู้แต่งเองนะคะอย่าเข้าใจผิดเพราะลงหลายเว็บทั้งเด็กดีขีดเขียนและอีกหลายๆเว็บค่ะมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่ Facebook: บีแอล วาย ชาย ชาย

 

 

 

 

รักนะ เด็กบ้า:2 ตอน ทวงความเป็นเจ้าของ            

 

    วันต่อมา..............

 

เมื่อวานคาโลคิดว่าจะพาคนดีไปเลือกซื้อของใช้และเสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้า แต่ก็สงสารเพราะคิดว่าบทรักอันร้อนแรงของเขาคงทำให้คนดีหมดแรงจนไม่อยากที่จะไปไหน วันนี้เป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดทำให้ทั้งสองว่าง คาโลจึงคิดที่จะพาคนดีไปห้างสรรพสินค้าด้วยกัน

 

 

“ดีดี วันนี้ไปซื้อของใช้ที่ เซ็นทรัล กับโล”

 

 

“ใครชื่อดีดี กูชื่อคนดี”

 

 

“มึงลืมเรื่องราวในอดีตระหว่างเราแล้วเหรอ?”

 

เพราะการเรียกชื่อคนดีว่า ดีดี เป็นชื่อที่คาโลคุ้นเคยและเป็นชื่อที่คาโลชอบเรียกคนคีในอดีต ร่างสูงพยายามถามถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนดีกับเขาด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย เขาเพียงอยากได้ความรักที่เขาเคยได้จากร่างเล็กเพียงเท่านั้น

 

 

                “เรื่องอะไร กูไม่รู้เรื่องกูไม่เข้าใจ กูรู้แค่ว่ากูรู้จักมึงวันที่ไปงานปาร์ตี้บ้านพี่วินก็เท่านั้น”

 

 

ผมพูดด้วยแววตาเย็นชาและท่าทางอันเมินเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ภายในใจของผมมันทั้งสั่นทั้งเต้นรัวด้วยความหวั่นใจว่าผมจะใจอ่อนให้กับมัน มันยังต้องการรื้อฟื้นอะไรอีกก็ในเมื่อมันเป็นคนต้องการเดินออกไปจากชีวิตของผม 4 ปีที่ผ่านมามันสายเกินไปที่มันจะมาทวงความรักที่ผมเคยมีให้มันคืน

 

 

“เท่านั้นจริงๆเหรอ?”

มันพูดพร้อมเดินมาหาผม มันจับคางผมให้หันหน้าไปสบตามัน

 

หัวใจผมเต้นแรงจนผมทำอะไรไม่ถูก

 

 

“จะ...จริง”

ผมพูดอย่างละล่ำละลักแล้วหันหน้าหนีมันอย่างไม่กล้าสบตา

 

 

“มึงไม่กล้าสบตากูเหรอถึงได้หลบตาแบบนั้น”

 

 

“มะ..ไม่ใช่กูไม่ชอบสบตาใครเวลาอยู่ใกล้กันขนาดนี้  มันก็เท่านั้น”

ผมพูดพร้อมผลักหน้าอกแกร่งของมันอย่างเบาๆ

 

O_O “อุ๊บบ...อื้ออ”

 

มันจูบผมพร้อมทั้งจับข้อมือทั้งสองข้างที่ผลักหน้าอกมันออก  ทันทีที่ริมฝีปากเราสัมผัสกันมันก็ฝังริมฝีปากมันเข้ากับผมอย่างหนักหน่วงมันสอดแทรกสิ้นร้อนของมันเข้ามาหาลิ้นเล็กของผมอย่างจาบจ้วง ผมพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผลอะไร และยิ่งผมพยายามขยับลิ้นหนีมันเท่าไรมันก็ยิ่งไล่ตามผมทำให้มันได้โอกาสควานไปทั่วโพรงปากนุ่มๆของผม

 

และในที่สุดผมก็เมื่อยและหยุดการหนีมันก็กวัดเกี่ยวลิ้นเล็กทันทีพร้อมกับดูดดันเร้าอารมณ์ผมอย่างไม่หยุดหย่อน ปากผมก็เผลอตอบโต้สัมผัสมันอย่างอ่อนหวานไปด้วยความเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนของมัน มันฝังจูบอันหนักหน่วงนี้ไว้นานจนผมเริ่มหายใจไม่ออก มันถึงค่อยผละออก

 

 

“ยังอ่อนนุ่ม หอมหวานไม่เคยเปลี่ยน”

 

 

มันกระซิบข้องหูผม

 

          “ฮึก...ฮึก...ฮือ”

 

 

ผมร้องไห้ออกมาเพราะแรงอันน้อยนิดของผมสู้อะไรมันไม่ได้เลย แถมยังเผลอจูบมันตอบไปอีกมันน่าอาย ผมเหมีอนคนที่มันอยากคาดคั้นอยากบังคับให้พูดให้ทำอะไรก็ได้

 

 

       “ดีดี เป็นอะไรจูบแค่นี้ถึงกับต้องร้องไห้เลยหรอ รังเกียจผมขนาดนั้นเลยหรือไง”

 

 

      “ไอ้บ้าคาโล ฮึก...... เลิกพูดจาแบบนี้สักที มึงสนุกมึงพอใจที่ ได้กอดกู ได้จูบกู ได้แกล้งกู ฮึก..แต่มึงรู้มั๊ยว่ากูเจ็บที่มึงพยายามให้อดีตมันมาทิ่มแทงมาทำร้ายหัวใจกู ที่ผ่านมามึงยังทำให้กูเจ็บไม่พอหรือไง”

 

          ผมหันหลังหนีมันแล้วพูดพร้อมสะอึกสะอื้น ในตอนนี้ปลายจมูกและรอบดวงตาผมเริ่มแดงแล้ว

 

 

 

..............หมับ

“ผม.......ขอโทษ”

คาโลกอดผมจากทางพร้อมเอาคางมาซบไหล่ มันเอาปลายจมูกมาไซร้บริเวณต้นคอหลังใบหูนุ่มๆของผม ไอ้บ้าเอ๊ยขนาดกูเศร้าอยู่มันยังพยายามลวนลามกู

 

“ผมแค่อยากพูดดีดีกับคนดี ผมอยากให้คนดีเรียกผมว่าโล แล้วผมก็เรียกคุณว่าดีดีอย่างที่เราเคยพูดกัน ผมขอคุณมากเกินไปหรือเปล่า”

 

มันจับคางผมไปสบตามัน ดวงตาผมสั่นระริกด้วยความสับสน มันทำท่าเหมือนกับว่ามันยังรักผมอยู่ แต่ถ้ามันหลอกผม ผมคงต้องกลับไปเจ็บปวดกลับไปเสียใจเหมือนเดิมอีก

“อืมมม...คือ”

“...”

 

 

 

 

“ไหนว่าจะไปเซ็นทรัลไง ไม่ไปแล้วเหรอ”

 

“ดีดียังไม่ตอบคำถามผมเลย”

 

“ถ้ากูตอบว่าไม่ มึงก็จะเอาเรื่องคลิปมาอ้างอีกใช่มั๊ยล่ะ”

 

“ก็รู้นี่^^”

 

ผมทำหน้าไม่พอใจแล้วเบือนหน้าหนี

 

“น่านะ ลองพูดให้ผมชื่นใจนิดนึง นะครับ”

มันพูดพร้อมหอมแก้มใสๆเนียนๆของผมฟ้อดใหญ่

 

ความจริงไอ้ลุคอ้อนๆพูดจาเพราะๆของมันที่เคยพูดกับผมตอนที่เราเคยคบกันน่ะมันไม่เข้ากับมันเลยสักนิด เพราะหน้าตามันในอดีต ทั้งหน้าหวานและดูเป็นสุภาพบุรุษกว่านี้มาก ตอนนี้น่ะเหรอมันทั้งดิบเถื่อนคมเข้ม ดูดุดันเกินกว่าจะมาพูดจาหวานๆกับผมเหมือนเดิม

         

 

 “อืมๆ...โลก็โลสิ แต่อย่าเอาเรื่องอดีตมาปน”

 

“คือเรื่องในอดีตนั่นน่ะมะ...”

 

“ไม่ต้องพูด ไม่อยากฟังจะไปเซ็นทรัลไม่ใช่เหรอ ไปสิ”

 

....................................................................................................................

 

 

 

 

          มันเดินจูงมือผมอย่างแนบแน่น แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร มันเดินไปร้านขายไวน์แล้วสั่งไวน์ที่ร้อนขายไวน์แห่งหนึ่ง

 

                ดูท่าทางไวน์จะคุณภาพดีเพราะราคานี่เฉียดหมื่นกันเลยทีเดียว หลังจากที่มันเลือกไวน์ได้แล้วมันก็เดินมาเช็กบิลที่แคชเชียร์

 

                “แฟนน่ารักดีนะคะ”

สาวแคชเชียร์พูดกับคาโล

 

                หน้าผม>> -_-

 

“ครับ^^”

มันหันหน้ามามองผมแล้วยิ้มหวานให้สาวแคชเชียร์ เหอะตอบไปได้นะทั้งๆที่เมื่อกี๊อ้อนกูอยู่แท้ๆแต่พอสาวแคชเชียร์นั่นพูดถึงแฟนมึง มึงก็ตอบหน้าระรื่นไอ้คนเจ้าชู้มีแฟนแล้วยังมายุ่งกับกูอีกนะ

 

 

ผมสะบัดมือมันแล้วเดินล่วงหน้าไปไกล

 

“เอ้างอนอะไรอีกวะ”

ผมได้ยินมันบ่นแว่วๆ

เออไปไกลๆเลยมีแฟนแล้วยังมาทำลุ่มล่ามมาขลุกอยู่กับกูอยู่ได้

 

                ไม่นานมันก็ก้าวมาทันแล้วจับมือผม ผมรีบสะบัดเป็นรอบที่สองทันที แต่มันไม่ยอมให้ผมเดินหนีเป็นรอบที่สอง แต่มันกลับจับข้อมือผมทั้งสองข้างแล้วกระชากเข้าหามันจนหน้าเราเกือบชนกัน

 

“เป็นอะไร งอนอะไร”

 

“มึงมีแฟนแล้วยังมายุ่งกับกูอีกทำไม นึกว่ากูหน้าโง่เหรอ”

 

“อะ...อะไรเนี่ยยย กูงง”

 

“เรื่องของมึง”

ผมเดินหนีมันแต่มันก็ยังไม่ให้ผมไป

“เดี๋ยว อะไรทำให้คิดว่าผมมีแฟนแล้ว”

 

“ก็ถ้ามึงไม่มีแฟนแล้วที่สาวแคชเชียร์คนนั้นบอกว่าแฟนน่ารักดี มันหมายความว่ายังไง”

 

“โอ๊ยยยยย....ดีดีคร้าบบบบ คุณจะซึนไปไหน ก็ที่เค้าพูดก็หมายถึงคุณนั่นแหละครับ”

 

“กูไม่เชื่อ”

 

มันเดินไปที่กลางผู้คนแล้วดึงผมไปด้วย แล้วมันก็ทำสิ่งที่ผมไม่คาดฝัน

.

.

.

.

 

 

“ทุกคนคร้าบบ แฟนผมกำลังงอนเค้าไม่เชื่อว่าผมซื่อสัตย์กับเค้าเพียงคนเดียวทุกคนช่วยเป็นพยานให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”

มันแหกปากตะโกนทำให้หลายๆคนมองมาที่มันกับผมแล้วหัวเราะคิกคัก ผมหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ อายจนแทบอยากเอาหน้ามุดลงพื้นแทรกแผ่นดินหนี มันกอดผมแล้วหอมแก้ม

 

“พอแล้วคาโล กูเชื่อแล้ว พอเถอะกูอาย”

 

“หึ ดีจัง”

ดีกับบ้าอะไร อายจนแทบบ้า มันพูดพร้อมหอมแก้มผมอีกครั้ง ผมขี้เกียจห้ามมัน

 

“คาโล..กูอยา.....”

 

“พูดใหม่ซิ๊”

 

“โลครับ ดีดีอยากกิน ช็อกโก เค้ก ร้าน  ไอศกรีมด้วย ซื้อให้ผมหน่อยนะครับ”

 

“คร๊าบบบ..”

มันยิ้มแล้วจูงมือผมไปร้านดังกล่าวทันที

 

มันจ่ายเงินทั้งหมดราคาประมาณสามหมื่นกว่าๆ ก็ผมเล่นชี้หมดเลยนี่ครับ ก็มันน่ากินอ่ะ  แล้วผมก้ไม่ได้กินน้อยๆซะด้วย คาโลเดินหิ้วของอย่างพะลุงพะลังไปเก็บที่รถเพราะหากซื้อเสื้อผ้าและของใช้ต่อไปคงถือไม่ไหว

 

                “ดีดีครับ กินให้มันน้อยๆหน่อยเถอะครับ”

 

                “ทำไมแค่นี้ไม่ได้หรือไง หรือว่ากลัวเปลืองเงิน”

 

                “ไม่ใช่ ผมกลัวดีดีจะอ้วน”

 

                “ถ้าดีดีอ้วนแล้ว โลจะเลิกยุ่งกับดีดีใช่มั๊ย”

ผมพูดเพราะหวังว่ามันจะปล่อยผมไปถ้าผมร่างกายไม่บอบบางดูดีเหมือนเดิม

 

                “ไม่มีทาง ผมกลัวคุณอ้วนแล้วจะมาโอดโอยให้ผมฟังต่างหากเล่า”

                “.......”

                “แต่อ้วนก็ดี เต็มไม้เต็มมือผมดี”

มันพูดพร้อมทำสายตาเร่าร้อนใส่ผม

         

          ผมรีบเดินหนีมันด้วยอาการหน้าแดงทันที

 

เราเดินมาที่ที่จอดรถ ผมเดินตัวปลิวเพราะคาโลไม่ให้ผมถืออะไรเลย

 

“ดีดีล้วงเอากุญแจรถที่กระเป๋กางเกงด้านข้างให้ผมหน่อยสิครับ

 

“อืม”

                ขณะที่ผมล้วงเข้าไปหากุญแจรถอยู่นั้นผมก็ไม่ได้เจอกุญแจรถแต่อย่างใด แต่ดันไปเจออะไรก็ไม่รู้นูนๆแน่นๆ ผมรีบลูบๆและคลำๆดูทันทีด้วยความที่ผมอยากรู้ว่ามันคืออะไรแล้วใหญ่ขนาดนั้นมันเข้าไปอยู่ในกระเป๋ากางเกงโดยที่ไม่นูนออกมาด้านข้างได้อย่างไร

.

.

.

.

 

“ดีดีครับเอาไว้ถึงบ้านแล้วค่อยจับต่อ”

 

มันกระซิบข้างหูผมแล้ววางของลง มันล้วงไปยังกระเป๋ากางเกงด้านข้างอีกด้านหนึ่งที่ผมไม่ได้ล้วงเข้าไป อ่าวแล้วก็ไม่บอกว่ากุญแจอยู่ด้านนั้น

 

แล้วที่อยู่ในกระเป๋าด้านที่ผมล้วงที่มันนูนๆแน่นๆนั่นมันอะไรอ่ะ?

 

หลังจากที่ผมซื้อเสื้อผ้าและของใช้เสร็จผมกับคาโลขับรถก็กลับคอนโดกัน

 

                “โลในกระเป๋ากางเกงโลมันอะไร”

 

                “^_^คนดีอยากรู้เหรอครับ”

 

                “อื้ม มันน่าสงสัย”

 

                “ก็คืนนั้นไง ในคืนวันงานปาร์ตี้ที่โลจับมันใส่ทางช่องทางด้านหลังไงครับ เอ๊ะไม่ใช่ใส่สิต้องกระแทกอยากรุนแรงและรวดเร็วถึงจะถูก”

 

          “เอ๊ะ”

ผมค่อยๆนึกตามที่มันพูด แล้วผมก็ต้องตาโต

 

 

                “อะ...อ๊ะ งั้นมันก็คะคือ...”

มันเอามือไปลูบตรงเป้ากางเกง ผมมองอย่างตกใจและอ้าปากค้าง

               

                นี่มันหลอกให้ผมจับน้องชายมันอย่างนั้นเหรอ แล้วผมก็อยากรู้เต็มที่จนทั้งจับทั้งคลำเต็มไม้เต็มมือเสียด้วย โอ๊ยยยยผมอยากกระโจนออกนอกรถทั้งๆที่รถยังขับอยู่ให้รู้แล้วรู้รอดไป ผมอายๆๆเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้งเนี่ยยย

 

                “เดี๋ยวถึงบ้านได้ทำมากกว่าจับๆลูบๆแน่ หึ”

 

                “อะ.....ไอ้บ้าคาโล”

 

 พอถึงคอนโด คาโลมันก็ช่วยกันกับผมถือของมาเก็บ คาโลถือของหนักกว่าผม มันกับผมช่วยกับเก็บของเข้าตู้เก็บของและตู้เสื้อผ้า แล้วเอาขนมเก็บใส่ตู้เย็น

 

                “อะ..........อ๊ะ คาโล”

 

อยู่ๆมันก็ผลักผมลงบนโต๊ะกินข้าวใหญ่กลางห้องแล้วเอาลำตัวใหญ่นั่นมาทับผมไว้ ผมรู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมยังไม่พร้อมจึงรีบผลักแผงอกแกร่งนั่นอย่างขัดขืนแต่แล้วมันก็รวบข้อมือผมไว้ด้านบนศีรษะแล้วปล้นชิงจูบผมอย่างจาบจ้วง ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากครางเสียงกระเส่าเป็นผลมาจากรสจูบอันร้อนแรงนั่น

 

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด

          เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนผมที่กำลังเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปในกามารมณ์ได้สติแล้วรีบครางอื้อๆในขณะที่คาโลยังงุ่นอยู่กับการถอดเสื้อผ้าผมออก

          มันไม่ยอมหยุดทั้งยังรีบร้อบถอดให้เร็วขึ้นอีกทั้งมือที่บีบเฟ้นสะโพกผมนั่นอีก ผมดิ้นรนจนสุดท้ายคาโลก็ปล่อยให้ปากผมเป็นอิสระ

          “อะไรนักหนา”

          ใบหน้าหล่อเข้มขมวดคิ้วแล้วชักสีหน้าไม่พอใจ

          “โทรศัพท์มานี่นา”

          “มันหยุดดังแล้ว”

“ก็โทรกลับสิ”

“นี่จะหนีให้ได้อะไรขึ้นมา”

“ก็...ยังไม่พร้อมนี่”

“แล้วคนทรมานที่ต้องรออย่างผมล่ะ”

“ลองมาเป็นชั้นดูบ้างมั๊ย...มันเจ็บนะ”

ผมพูดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง

คาโลรีบนั่งซ้อนทางด้านหลังแล้วเอาหน้ามาซุกแถวๆคอทันที

“เจ็บแต่ก็เสียวไม่ใช่หรือไง”

ผมชะงักกับคำพูดของมันแล้วก้มหน้าด้วยความอาย

มันพยายามจะเร้าอารมณ์ผมต่อแต่แล้วผมก็ผละออก แล้วเดินหนีไปทันที

“นี่คนดี คุณยังเป็นของผมอยู่รึเปล่า”

“ทำไมถามแบบนั้น”

ยังไม่ทันจะเดินพ้นประตูก็มีคำถามตามมา

 

 “คุณเหมือนไม่อยากให้ผมได้สัมผัสแตะต้องตัวคุณอีก”

“ชั้นมีงานพรุ่งนี้นะเดี๋ยวลุกไม่ไหว”

“ทีเดียวก็ไม่ได้เหรอ”

“ทีเดียวอะไร ก็ไม่เคยทีเดียวนี่ เห็นพูดทีเดียวทีไรถึงเช้าทุกที”

ผมพูดอย่างอายๆแล้วรีบเดินหนีไป เดี๋ยววันนี้จะไม่รอดเอา

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา