โรงเรียนป่วน ชวนให้ซ่า
8.2
เขียนโดย prince_ice
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 19.34 น.
48 chapter
116 วิจารณ์
69.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 14.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
22) ความเจ็บปวดที่มิอาจช่วยได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ >>>> ความเดิมตอนทีแล้ว <<<<
นายอย่าไปที่นั่นน่ะ ฉันจะเป็นคนช่วยนายเอง
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ฉันวิ่งไปอย่างไม่รู้ตัว ฉันพยายามจะหาห้องของไอ้แว่นนั่นให้เจอ แต่ทว่าในบ้านหลังนี้ มันมีประตูเหมือนกันไปหมด แถมยังมีเป็นสิบๆห้องอีกด้วย แล้วจะเจอหรือเปล่าเนี่ย ไอ้จอง...อุ๊บ จู่ๆก็มีมือ มือนึงมาปิดปากฉันไว้
" นี่ยัยทอม เธอโวยวายแบบนั้น เดี๋ยวมันก็รู้ว่าพวกเธอมาหรอก เธอก็รู้นี่นาว่ามันยังโกรธพวกเธออยู่ "
ไอ้หน้าติ๋มที่ปิดปากฉันไว้ ก็กระซิบอย่างแผ่วเบา แต่ก็จริงอย่างที่มันพูดนะ ขืนฉันตะโกนไปแบบนั้นล่ะก็ มีหวังไม่ได้เจอหมอนั่นอีกแน่ จากนั้นไอ้หน้าติ๋มก็พาฉันมาหยุดอยู่ที่ห้องๆนึง โดยลักษณะของประตูเป็นสีขาวตัดดำ ตรงข้างประตูมีข้อความเขียนไว้ว่า " The World is me " ( โลกของฉัน )
" นี่นายทำอะไรอยู่น่ะ รีบๆเปิดประตูเข้าไปซิ " ฉันเร่งเร้าให้ไอ้หน้าที่ติ๋ม ที่ยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าประตู
" คิดว่า....ฉะๆๆ....ฉันกลัว " ไอ้หน้าติ๋มดูซีดเซียวเป็นอย่างมาก
" นายจะกลัวอะไรนักหนาห่ะ ก็อีแค่เปิดประตูเข้าไปเฉยๆนะ ทำเป็นใจปลาซิวไปได้ " ฉันรีบปลอบมัน เพราะตอนนี้ฉันอยากจะเจอหน้าไอ้แว่นใจจะขาดอยู่แล้ว
" แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง " ไอ้หน้าติ๋มจากที่หน้าซีดเซียวอย่างกับคนกลัวตาย ก็เผยใบหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที
" อะไรของนายอีกย่ะ ไอ้หน้าติ๋ม " ฉันถามอย่างสงสัย
" ถ้าเกิดจบเรื่องนี้แล้ว เธอมาเป็นแฟนกับฉันนะ " ไอ้หน้าติ๋ม ดูจะเขินเล็กน้อย
" ฉันว่าเอาเพื่อนของนายให้รอดก่อนดีกว่ามั้ง " ฉันพูดออกไปอย่างเบื่อหน่าย
" เรื่องนั้นน่ะแป๊ปเดียวก็ clear แล้ว " ไ้อ้หน้าติ๋มดูจะมั่นใจมาก
" ก็ได้ เร็วสิฉันไม่ได้มีเวลามากนะ " ฉันพูดออกไปอย่างรีบเร่ง
" ก๊อก ก๊อก ก๊อก~!!! ไอ้จองเบบบบ อยู่รึเปล่า " ไอ้หน้าติ๋มตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
" นี่ ฉันรู้ว่านายอยู่ข้างไหนรีบๆเปิดประตูให้ฉันทีสิ " ไอ้หน้าติ๋มยังไม่ล่ะพยายาม แต่ฉันก็อดใจรอไม่ได้ จึงลองจะเปิดดู ปรากฏว่าประตูมันไม่ได้ล๊อกสักหน่อย จากนั้นไอ้หน้าติ๋มก็ถือวิสาสะ เปิดประตูเข้าไป ภายในห้องของไอ้แว่นมันเป็นห้องที่ทาสีด้วยสีดำสนิท หน้าต่างทั้งหมดกลับไม่มีแสงส่องมาดึง ดูเหมือนกับฉันกำลังตกอยู่ในโลกที่มีแต่ความมืด แต่พอเปิดไฟ พวกเราก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันควัน ผนังห้องที่ตอนแรกฉันคิดว่าจะฉาบด้วยสีดำ แต่กลับมารูปถ่ายของผู้หญิงกับผู้ชายวัยกลางคนติดอยู่บนผนังของห้องเต็มไปหมด ทั้งสองคนหน้าตาคล้ายกับไอ้แว่นอย่างมาก ถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงกับผู้ชายที่อยู่ในรูปใบนั้น คงจะเป็นพ่อกับแม่ของไอ้แว่นนี่อย่างแน่นอน
" นายมาหาฉัน มีเรื่องอะไรรึเปล่า โทโมะ " เสียงไอ้แว่นดังมาจากห้องที่อยู่ด้านในอีกที แล้วมันก็ค่อยเดินมาหาพวกเรา แต่พอเจอหน้าฉันมันก็รีบวิ่งเหมือนเข้าไปหลบที่เดิม แต่ว่าฉันน่ะไวกว่ามันเยอะ ฉันคว้าคอเสื้อของมันและพยายามจ้องตาปีศาจที่ไรแว่นตาบดบังคู่นั้น แต่ว่ามันก็พยายามหลบสายตาของฉันอยู่เช่นกัน
" นี่นาย คิดอะไรของนายอยู่ห่ะ เรื่องแค่นี่ทำไมต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดนั่นด้วย นี่~!!! หันมามองหน้าฉันนี่ " ฉันตะครอกใส่ไอ้แว่นอย่างแรง
" เธอมาที่นี่ได้ยังไง " ไอ้แว่นพูดเสียงเรียบๆ แต่ยังคงหลบหน้าฉันอยู่
" เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก ว่าแต่นายเหอะเมื่อไร นายจะหัดเป็นผู้ใหญ่ซะที ความคิดนายน่ะยังกะเด็กอนุบาล เอาแต่ใจตัวเอง รู้ตัวหรือเปล่า " ฉันพยายามเตือนสติไอ้หมอนี่
" นายกล้าหักหลังฉันหรอ โทโมะ เสียแรงที่ฉันไว้ใจนายมาตลอด " ไอ้แว่นชี้ไปที่หน้าของไอ้หน้าติ๋ม
" ฉันขอโทษด้วยนะไอ้จองเบ แต่ว่าจะทำให้นายกลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันคงต้องเพิ่งยัยทอมนี่แล้วล่ะ "
ไอ้หน้าติ๋มพูดเป็นเชิงยอมรับ
" ยังจะมีหน้ามาพูดอีก แม้แต่นายเองก็ทอดทิ้งฉัน " ดูเหมือนไอ้แว่นจะเป็นเอามาก
" พลั้ว~!!! นายมันคนขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับความจริง " ฉันต่อยเข้าที่ใบหน้าของมันอย่างแรง พร้อมต่อว่ามันไปด้วย
" ใจเย็นหน่อยสิยัยทอม " ไอ้หน้าติ๋มพยายามห้ามฉัน
" เธอจะไปรู้เรื่องอะไร สำหรับการถูกถอดทิ้งน่ะ มันเป็นความรู้สึกที่มิอาจเอาสิ่งใดมาเปรียบได้ ในช่วงเทศกาลต่างๆ ฉันเห็นเด็กรุ่นเดียวกับฉันกำลังฉลองกับพ่อแม่ของพวกเขา เธอรู้รึเปล่าว่าการไม่มีพ่อแม่คอยร่วมเดินเคียงข้างด้วยน่ะมันรู้สึกยังไง " ไอ้แว่นยังคงหลบหน้าฉัน แต่ฉันก็พอจะเดาได้ว่ามันกำลังจะร้องไห้
" รู้ดิ ฉันก็ไม่มีพ่อแม่เหมือนกัน " ฉันพูดให้หมอนั่นเข้าใจซะที
" ว่าไงนะ ฉันรู้ว่าพ่อของเธอนะตายไปแล้ว แล้วแม่ของเธอล่ะ " ไอ้แว่นดูจะตกใจมาก
" แม่ของฉัน ทิ้งไปตั้งแต่เด็กแล้ว ส่วนพ่อของฉันน่ะถูกพวกนักเลงฆ่าตาย ฉันก็เลยอยู่คนเดียวมาโดยตลอดยังไงล่ะ " ตอนนี้ภาพของพ่อที่ถูกฆ่าตายก็ไหลเข้ามาในหัวฉัน
" แล้วเธออยู่มาได้ยังไงกัน ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไง " ไอ้แว่นดูเหมือนสนใจในตัวของฉันมากขึ้น
" ฉันก็ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองน่ะสิ ถามมาได้ " ฉันตอบกลับไป
" ว่าแต่นายเหอะ ทำไมตอนที่คุยกับฉันถึงไม่มองหน้าฉันเลยล่ะ " ฉันถามไอ้แว่น ที่เอาแต่หลบหน้าหลบตาฉันอยู่ตลอด
" เธอไม่กลัวดวงตาของฉันหรือไง " ไอ้แว่นหันมามองหน้าฉัน ดูเหมือนมันพยายามที่จะจ้องที่นัยต์ตาของฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย
" นายจะจ้องฉันไปถึงไหน " ฉันถามมันด้วยความสงสัย
" เธอโกหกฉัน เธอโกหกฉันทำไม แม่ของเธอนะไม่ได้ทิ้งเธอไป แถมตอนนี้ยังทำอาหารเตรียมให้อีก นี่เธอกล้ากุเรื่องบ้าๆเพื่อมาหลอกฉันเหลือเหรอ " ไอ้แว่นดูจะโกรธเอามากๆ แต่ว่ามันรู้เรื่องของฉันได้ยังไง
" นี่ฟังฉันพูดก่อนสิไอ้แว่น ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกนายหรอกนะ " ฉันพยายามอธิบายให้ฟัง แต่ดูเหมือนจะไม่สนใจเลยสักนิด
" ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันอยากจะอยู่คนเดียว " ไอ้แว่นบอกให้ฉันปล่อยมือที่กำคอเสื้อของมันไว้แน่น
" นายไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรือไง ว่าไม่ได้ตั้งใจน่ะ " ฉันยังคงกำคอเสื้อของมันไว้แน่น
" คนโกหกปลิ้นปล้อนอย่างเธอ ไม่สามารถจะช่วยอะไรฉันได้หรอก นอกจากจะทำให้มันแย่ลงก็เท่านั้น "
ไอ้แว่นตอบ อย่างเย้ยยั้น
" นี่นายชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ถ้าพ่อแม่นายมาเห็นนายในสภาพแบบนี้ เขาคงจะเสียใจอย่างมาก " ฉันเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา แต่พอไอ้แว่นนั่นได้ยินฉันพูดถึงพ่อแม่ของมัน ก็เงียบลงอย่างเห็นได้ชัด อาการเหมือนกับในห้องเรียนเลยล่ะ มือที่กำหมัดไว้แน่นกำลังเตรียมท่าจะต่อยฉัน
" ไอ้จองเบ นายไม่เคยใช้กำลังนี่นา อยู่จะมามีเรื่องกับยัยทอมนี่ทำไมกัน " ไอ้หน้าติ๋มพูดออกไปเพื่อเตือนสติไอ้แว่น
" พวกนายน่ะ ออกไปจากห้องของฉันซะ ก่อนที่ฉันจะลงมือกับพวกนาย " คราวนี้ดวงตาของไอ้แว่นเริ่มเปลี่ยนไป จากดวงตาของปีศาจ เริ่มกลายเป็นพญามารเข้าไปแล้ว
" ฉันว่าเธอกลับบ้านไปก่อนเถอะยัยทอม ไม่งั้นเธอเละแน่ " ไอ้หน้าติ๋มเตือนฉัน และแล้วมือของไอ้แว่นก็เข้ามาจับที่คอเสื้อของฉันทันที คราวนี้ดูเหมือนมันจะโกรธเอามากๆ
" โทโมะ นายอยากจะเห็นต่อสู้ใช่ไหม ตลอดเวลาที่ฉันไม่เคยต่อสู้ หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการวิวาท์ ก็เพราะว่าตัวฉันน่ะ คิดว่าการใช้กำลังไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ว่าตอนนี้ฉันรุ้แล้วว่า การใช้กำลัง บางครั้งมันก็อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นมาก็ได้ นี่ยัยทอม ถ้าเธอเอาชนะฉันได้ ฉันจะยอมทำตามที่เธอบอกทุกอย่าง แต่ว่าถ้าเธอแพ้ฉัน พวกเธอก็เลิกล้มแผนบ้าๆนั่นซะ " ไอ้แว่นชี้หน้าฉัน เป็นเชิงท้าทาย
" ตกลง งั้นนายก็จัดลานประลองไว้ได้เลย " ทีนี้ล่ะฉันจะได้เล่นงานไอ้หมอนี่สักที
To Be Continued
ต้องขออภัยสำหรับคนที่จิ้น TK ตัวนะ เพราะว่าตัวละครเรื่องนี้มันมีความสัมพันธ์ที่ครุ่นเครือ คนนั้นชอบคนโน่น คนนั่นเกลียดคนนี่ อะไรประมาณนี่นะครับ ตอนหน้าไปดูกันว่า ระหว่าง ยัยปีศาจตัวแสบ กับ จอมมารสุดโหด ใครจะเป็นฝ่ายปราชัย และ จองเบจะกลับมาหรือไม่ ติดตามได้ในตอนต่อไป อ่อเกือบลืมแน่ะ ภารกิจของสามสาวยังไม่จบหรอกนะครับยังเหลืออยู่อีก 1 คน แล้วก็หลายๆคนอาจสงสัยว่าทำไมจองเบถึงรู้เรื่องของแก้วได้ ก็อย่างที่บอกแล้วในช่วงเกร็ดรู้แล้วนะครับ ว่าจองเบเป็นผู้ใช้เวท จึงสามารถอ่านจิตของคนอื่นได้โดยผ่านสายตาพลังงานไฟฟ้า ยังไงก็ขอให้ทุกๆคนได้อ่านนิยายสนุกๆด้วยนะครับ
นายอย่าไปที่นั่นน่ะ ฉันจะเป็นคนช่วยนายเอง
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ฉันวิ่งไปอย่างไม่รู้ตัว ฉันพยายามจะหาห้องของไอ้แว่นนั่นให้เจอ แต่ทว่าในบ้านหลังนี้ มันมีประตูเหมือนกันไปหมด แถมยังมีเป็นสิบๆห้องอีกด้วย แล้วจะเจอหรือเปล่าเนี่ย ไอ้จอง...อุ๊บ จู่ๆก็มีมือ มือนึงมาปิดปากฉันไว้
" นี่ยัยทอม เธอโวยวายแบบนั้น เดี๋ยวมันก็รู้ว่าพวกเธอมาหรอก เธอก็รู้นี่นาว่ามันยังโกรธพวกเธออยู่ "
ไอ้หน้าติ๋มที่ปิดปากฉันไว้ ก็กระซิบอย่างแผ่วเบา แต่ก็จริงอย่างที่มันพูดนะ ขืนฉันตะโกนไปแบบนั้นล่ะก็ มีหวังไม่ได้เจอหมอนั่นอีกแน่ จากนั้นไอ้หน้าติ๋มก็พาฉันมาหยุดอยู่ที่ห้องๆนึง โดยลักษณะของประตูเป็นสีขาวตัดดำ ตรงข้างประตูมีข้อความเขียนไว้ว่า " The World is me " ( โลกของฉัน )
" นี่นายทำอะไรอยู่น่ะ รีบๆเปิดประตูเข้าไปซิ " ฉันเร่งเร้าให้ไอ้หน้าที่ติ๋ม ที่ยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าประตู
" คิดว่า....ฉะๆๆ....ฉันกลัว " ไอ้หน้าติ๋มดูซีดเซียวเป็นอย่างมาก
" นายจะกลัวอะไรนักหนาห่ะ ก็อีแค่เปิดประตูเข้าไปเฉยๆนะ ทำเป็นใจปลาซิวไปได้ " ฉันรีบปลอบมัน เพราะตอนนี้ฉันอยากจะเจอหน้าไอ้แว่นใจจะขาดอยู่แล้ว
" แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง " ไอ้หน้าติ๋มจากที่หน้าซีดเซียวอย่างกับคนกลัวตาย ก็เผยใบหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที
" อะไรของนายอีกย่ะ ไอ้หน้าติ๋ม " ฉันถามอย่างสงสัย
" ถ้าเกิดจบเรื่องนี้แล้ว เธอมาเป็นแฟนกับฉันนะ " ไอ้หน้าติ๋ม ดูจะเขินเล็กน้อย
" ฉันว่าเอาเพื่อนของนายให้รอดก่อนดีกว่ามั้ง " ฉันพูดออกไปอย่างเบื่อหน่าย
" เรื่องนั้นน่ะแป๊ปเดียวก็ clear แล้ว " ไ้อ้หน้าติ๋มดูจะมั่นใจมาก
" ก็ได้ เร็วสิฉันไม่ได้มีเวลามากนะ " ฉันพูดออกไปอย่างรีบเร่ง
" ก๊อก ก๊อก ก๊อก~!!! ไอ้จองเบบบบ อยู่รึเปล่า " ไอ้หน้าติ๋มตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
" นี่ ฉันรู้ว่านายอยู่ข้างไหนรีบๆเปิดประตูให้ฉันทีสิ " ไอ้หน้าติ๋มยังไม่ล่ะพยายาม แต่ฉันก็อดใจรอไม่ได้ จึงลองจะเปิดดู ปรากฏว่าประตูมันไม่ได้ล๊อกสักหน่อย จากนั้นไอ้หน้าติ๋มก็ถือวิสาสะ เปิดประตูเข้าไป ภายในห้องของไอ้แว่นมันเป็นห้องที่ทาสีด้วยสีดำสนิท หน้าต่างทั้งหมดกลับไม่มีแสงส่องมาดึง ดูเหมือนกับฉันกำลังตกอยู่ในโลกที่มีแต่ความมืด แต่พอเปิดไฟ พวกเราก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันควัน ผนังห้องที่ตอนแรกฉันคิดว่าจะฉาบด้วยสีดำ แต่กลับมารูปถ่ายของผู้หญิงกับผู้ชายวัยกลางคนติดอยู่บนผนังของห้องเต็มไปหมด ทั้งสองคนหน้าตาคล้ายกับไอ้แว่นอย่างมาก ถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงกับผู้ชายที่อยู่ในรูปใบนั้น คงจะเป็นพ่อกับแม่ของไอ้แว่นนี่อย่างแน่นอน
" นายมาหาฉัน มีเรื่องอะไรรึเปล่า โทโมะ " เสียงไอ้แว่นดังมาจากห้องที่อยู่ด้านในอีกที แล้วมันก็ค่อยเดินมาหาพวกเรา แต่พอเจอหน้าฉันมันก็รีบวิ่งเหมือนเข้าไปหลบที่เดิม แต่ว่าฉันน่ะไวกว่ามันเยอะ ฉันคว้าคอเสื้อของมันและพยายามจ้องตาปีศาจที่ไรแว่นตาบดบังคู่นั้น แต่ว่ามันก็พยายามหลบสายตาของฉันอยู่เช่นกัน
" นี่นาย คิดอะไรของนายอยู่ห่ะ เรื่องแค่นี่ทำไมต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดนั่นด้วย นี่~!!! หันมามองหน้าฉันนี่ " ฉันตะครอกใส่ไอ้แว่นอย่างแรง
" เธอมาที่นี่ได้ยังไง " ไอ้แว่นพูดเสียงเรียบๆ แต่ยังคงหลบหน้าฉันอยู่
" เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก ว่าแต่นายเหอะเมื่อไร นายจะหัดเป็นผู้ใหญ่ซะที ความคิดนายน่ะยังกะเด็กอนุบาล เอาแต่ใจตัวเอง รู้ตัวหรือเปล่า " ฉันพยายามเตือนสติไอ้หมอนี่
" นายกล้าหักหลังฉันหรอ โทโมะ เสียแรงที่ฉันไว้ใจนายมาตลอด " ไอ้แว่นชี้ไปที่หน้าของไอ้หน้าติ๋ม
" ฉันขอโทษด้วยนะไอ้จองเบ แต่ว่าจะทำให้นายกลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันคงต้องเพิ่งยัยทอมนี่แล้วล่ะ "
ไอ้หน้าติ๋มพูดเป็นเชิงยอมรับ
" ยังจะมีหน้ามาพูดอีก แม้แต่นายเองก็ทอดทิ้งฉัน " ดูเหมือนไอ้แว่นจะเป็นเอามาก
" พลั้ว~!!! นายมันคนขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับความจริง " ฉันต่อยเข้าที่ใบหน้าของมันอย่างแรง พร้อมต่อว่ามันไปด้วย
" ใจเย็นหน่อยสิยัยทอม " ไอ้หน้าติ๋มพยายามห้ามฉัน
" เธอจะไปรู้เรื่องอะไร สำหรับการถูกถอดทิ้งน่ะ มันเป็นความรู้สึกที่มิอาจเอาสิ่งใดมาเปรียบได้ ในช่วงเทศกาลต่างๆ ฉันเห็นเด็กรุ่นเดียวกับฉันกำลังฉลองกับพ่อแม่ของพวกเขา เธอรู้รึเปล่าว่าการไม่มีพ่อแม่คอยร่วมเดินเคียงข้างด้วยน่ะมันรู้สึกยังไง " ไอ้แว่นยังคงหลบหน้าฉัน แต่ฉันก็พอจะเดาได้ว่ามันกำลังจะร้องไห้
" รู้ดิ ฉันก็ไม่มีพ่อแม่เหมือนกัน " ฉันพูดให้หมอนั่นเข้าใจซะที
" ว่าไงนะ ฉันรู้ว่าพ่อของเธอนะตายไปแล้ว แล้วแม่ของเธอล่ะ " ไอ้แว่นดูจะตกใจมาก
" แม่ของฉัน ทิ้งไปตั้งแต่เด็กแล้ว ส่วนพ่อของฉันน่ะถูกพวกนักเลงฆ่าตาย ฉันก็เลยอยู่คนเดียวมาโดยตลอดยังไงล่ะ " ตอนนี้ภาพของพ่อที่ถูกฆ่าตายก็ไหลเข้ามาในหัวฉัน
" แล้วเธออยู่มาได้ยังไงกัน ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไง " ไอ้แว่นดูเหมือนสนใจในตัวของฉันมากขึ้น
" ฉันก็ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองน่ะสิ ถามมาได้ " ฉันตอบกลับไป
" ว่าแต่นายเหอะ ทำไมตอนที่คุยกับฉันถึงไม่มองหน้าฉันเลยล่ะ " ฉันถามไอ้แว่น ที่เอาแต่หลบหน้าหลบตาฉันอยู่ตลอด
" เธอไม่กลัวดวงตาของฉันหรือไง " ไอ้แว่นหันมามองหน้าฉัน ดูเหมือนมันพยายามที่จะจ้องที่นัยต์ตาของฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย
" นายจะจ้องฉันไปถึงไหน " ฉันถามมันด้วยความสงสัย
" เธอโกหกฉัน เธอโกหกฉันทำไม แม่ของเธอนะไม่ได้ทิ้งเธอไป แถมตอนนี้ยังทำอาหารเตรียมให้อีก นี่เธอกล้ากุเรื่องบ้าๆเพื่อมาหลอกฉันเหลือเหรอ " ไอ้แว่นดูจะโกรธเอามากๆ แต่ว่ามันรู้เรื่องของฉันได้ยังไง
" นี่ฟังฉันพูดก่อนสิไอ้แว่น ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกนายหรอกนะ " ฉันพยายามอธิบายให้ฟัง แต่ดูเหมือนจะไม่สนใจเลยสักนิด
" ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันอยากจะอยู่คนเดียว " ไอ้แว่นบอกให้ฉันปล่อยมือที่กำคอเสื้อของมันไว้แน่น
" นายไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรือไง ว่าไม่ได้ตั้งใจน่ะ " ฉันยังคงกำคอเสื้อของมันไว้แน่น
" คนโกหกปลิ้นปล้อนอย่างเธอ ไม่สามารถจะช่วยอะไรฉันได้หรอก นอกจากจะทำให้มันแย่ลงก็เท่านั้น "
ไอ้แว่นตอบ อย่างเย้ยยั้น
" นี่นายชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ถ้าพ่อแม่นายมาเห็นนายในสภาพแบบนี้ เขาคงจะเสียใจอย่างมาก " ฉันเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา แต่พอไอ้แว่นนั่นได้ยินฉันพูดถึงพ่อแม่ของมัน ก็เงียบลงอย่างเห็นได้ชัด อาการเหมือนกับในห้องเรียนเลยล่ะ มือที่กำหมัดไว้แน่นกำลังเตรียมท่าจะต่อยฉัน
" ไอ้จองเบ นายไม่เคยใช้กำลังนี่นา อยู่จะมามีเรื่องกับยัยทอมนี่ทำไมกัน " ไอ้หน้าติ๋มพูดออกไปเพื่อเตือนสติไอ้แว่น
" พวกนายน่ะ ออกไปจากห้องของฉันซะ ก่อนที่ฉันจะลงมือกับพวกนาย " คราวนี้ดวงตาของไอ้แว่นเริ่มเปลี่ยนไป จากดวงตาของปีศาจ เริ่มกลายเป็นพญามารเข้าไปแล้ว
" ฉันว่าเธอกลับบ้านไปก่อนเถอะยัยทอม ไม่งั้นเธอเละแน่ " ไอ้หน้าติ๋มเตือนฉัน และแล้วมือของไอ้แว่นก็เข้ามาจับที่คอเสื้อของฉันทันที คราวนี้ดูเหมือนมันจะโกรธเอามากๆ
" โทโมะ นายอยากจะเห็นต่อสู้ใช่ไหม ตลอดเวลาที่ฉันไม่เคยต่อสู้ หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการวิวาท์ ก็เพราะว่าตัวฉันน่ะ คิดว่าการใช้กำลังไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ว่าตอนนี้ฉันรุ้แล้วว่า การใช้กำลัง บางครั้งมันก็อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นมาก็ได้ นี่ยัยทอม ถ้าเธอเอาชนะฉันได้ ฉันจะยอมทำตามที่เธอบอกทุกอย่าง แต่ว่าถ้าเธอแพ้ฉัน พวกเธอก็เลิกล้มแผนบ้าๆนั่นซะ " ไอ้แว่นชี้หน้าฉัน เป็นเชิงท้าทาย
" ตกลง งั้นนายก็จัดลานประลองไว้ได้เลย " ทีนี้ล่ะฉันจะได้เล่นงานไอ้หมอนี่สักที
To Be Continued
ต้องขออภัยสำหรับคนที่จิ้น TK ตัวนะ เพราะว่าตัวละครเรื่องนี้มันมีความสัมพันธ์ที่ครุ่นเครือ คนนั้นชอบคนโน่น คนนั่นเกลียดคนนี่ อะไรประมาณนี่นะครับ ตอนหน้าไปดูกันว่า ระหว่าง ยัยปีศาจตัวแสบ กับ จอมมารสุดโหด ใครจะเป็นฝ่ายปราชัย และ จองเบจะกลับมาหรือไม่ ติดตามได้ในตอนต่อไป อ่อเกือบลืมแน่ะ ภารกิจของสามสาวยังไม่จบหรอกนะครับยังเหลืออยู่อีก 1 คน แล้วก็หลายๆคนอาจสงสัยว่าทำไมจองเบถึงรู้เรื่องของแก้วได้ ก็อย่างที่บอกแล้วในช่วงเกร็ดรู้แล้วนะครับ ว่าจองเบเป็นผู้ใช้เวท จึงสามารถอ่านจิตของคนอื่นได้โดยผ่านสายตาพลังงานไฟฟ้า ยังไงก็ขอให้ทุกๆคนได้อ่านนิยายสนุกๆด้วยนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ