[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
8.9
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
87 ตอน
86 วิจารณ์
113.74K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
25) [Episode 2 :: Brighter Lover]#Chapter 13 <THE END>
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEpisode 2 Brighter Lover
:: Chapter 13 ::
“เฮ้ย!! นายทำไรเนี่ย ปล่อยฉันนะ” ฉันพูดและพยายามผลักเอาเขาออกไปห่างๆ แต่เขากลับยิ่งกอดฉันแน่นขึ้น
“เธอมีอยู่จริงๆ ใช่ไหม? ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม?” โยซอบถามฉันพร้อมกับกระชับวงแขนให้มากกว่าเดิมจนฉันเริ่มจะรู้สึกหายใจไม่ออกแล้ว >_<
“โยซอบ...ฉันจะขาดอากาศตายอยู่แล้วนะ >///<”
“ไม่! ฉันกลัวเธอหนีกลับเมืองไทยอีก!”
“จะบ้าหรอ ฉันไม่กลับแล้ว...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ >///<” ฉันพูด โยซอบเลยผละออกจากฉันโดยดี
“จริงนะ ^^”
“จริงสิ -///-”
“ฉันคิดถึงเธอจะแย่ ตั้งแต่เจอกันที่เกาหลีเราก็ไม่ได้คุยกันเลย...ฟุบ!” อยู่ๆ โยซอบก็ฟุบนั่งลงบนพื้น
“นายเป็นไร!” ฉันรีบคุกเข่าลงข้างๆ เขาด้วยความตกใจ
“ขาฉันล้าไปหมดแล้ว ฉันเต้นมาตั้งแต่เช้าเพิ่งจะพักตอนนี้นี่แหละ” โยซอบส่งสายตาขอความเห็นใจมาให้ฉัน และพยายามพูดให้ฉันรู้สึกผิดว่าที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะฉัน -_-;; ฉันเลยต้องรับผิดชอบหาน้ำ หาผ้าเย็นมาประเคนให้ถึงห้องซ้อม
“แล้วเธอกลับมาได้ไง พ่อแม่เธอไม่ว่าหรอ” โยซอบถามขณะที่ใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าเช็ดตาของตัวเอง
“ไม่หรอก ท่านเข้าใจแล้ว” ฉันยิ้ม แล้วเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เขาฟัง เราอยู่ในห้องซ้อมกันนานมากจนฉันลืมไปเลยว่าเย็นนี้เพื่อนๆ จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับ
~โปรดส่งใครมารักฉันที อยู่อย่างนี้...~
เสียงริงโทนโทรศัพท์ฉันดังขึ้นทำให้ฉันคิดได้ว่ามีงานเลี้ยงรออยู่ -[]-!
“สงสัยเภตราโทรตามแน่เลย ไปกันเถอะ” ฉันพูดแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปเอามือถือที่วางอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“เดี๋ยวสิ พาฉันลุกไปด้วยขาฉันล้า ลุกไม่ไหว ^^;” โยซอบยืนมือขึ้นมาให้ฉัน ฉันส่ายหน้าไปมากับความออดอ้อนของเขาก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเขาไว้เพื่อจะดึงเขาให้ลุกขึ้นมาด้วยกัน
ฟึบ!!
“เฮ้ย! ไฟดับ” ฉันร้องเพราะอยู่ดีๆ ไฟในห้องซ้อมก็ดับลงอย่างไร้สาเหตุ ไฟกระตุกแน่ๆ เลย =_=;
“โยซอบ ไฟดับแล้วเนี่ย นายรีบลุกเร็วสิ” ฉันหันไปบอกโยซอบในความมืด
“โอเคๆ” เขารับคำ แล้วค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นยืนอยู่ข้างๆ ฉัน “อย่าเพิ่งปล่อยมือนะ มันอันตราย”
“อื้ม” ฉันรับคำแล้วกำมือของเขาให้แน่นขึ้น ฉันกับโยซอบค่อยๆ กระดื้บๆ ไปข้างหน้าเรื่อยๆ ตามแสงของโทรศัพท์ที่ยังคงกระพริบอย่างต่อเนื่องเพราะมีคนโทรเข้ามา
“เฮ้อ...ถึงแล้ว” ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเราเดินมาถึงกระเป๋าของฉัน
“อุ้ย!!” อยู่ๆ ฉันก็เหมือนสะดุดเข้ากับอะไรสักอย่างก่อนจะถึงกระเป๋าถือของตัวเอง >.<!!
“เฮ้ย! ระวัง” โยซอบตะโกนก่อนที่ฉันจะล้มลงกับพื้น แต่ฉันไม่เจ็บเลยเพราะมีอะไรนุ่มๆ รองรับฉันไว้และความรู้สึกอุ่นๆ ที่ริมฝีปากทำให้ฉันรู้สึกว่ามัน...ไม่ปกติ -///-
ฟึบ!!
ในระหว่างนั้นก็มีแสงไฟลำหนึ่งสาดมาที่ฉัน ทำให้ฉันมองเห็นหน้าโยซอบอยู่ตรงหน้าซึ่งใกล้มากๆ เขาคงมาช่วยรับตัวฉันเอาไว้ แต่ที่มันน่าตกใจก็คือ...ตอนนี้ปากของเราสองคนมันชนกันอยู่ >///<!!
“เฮ้ย!” ฉันกับโยซอบอุทานออกมาพร้อมกันแล้วรีบผละออกจากกันทันที ยามเจ้าของแสงไฟปริศนาดวงนั้นรีบวิ่งเข้ามาในห้องซ้อม
“ขอโทษด้วยนะครับ ตอนนี้ไฟฟ้าเกิดขัดข้องทำให้ไฟดับทั้งตึกเลย วันนี้คงซ้อมต่อไม่ได้แล้วล่ะครับ” พี่ยามคนนั้นเข้ามาบอกฉันกับโยซอบอย่างสุภาพ แต่ตอนนี้ฉันทำได้แค่มองมือของตัวเองเพราะฉันอายจนไม่รู้จะมุดหนีไปไหนได้แล้ว พี่ยามเขาจะเห็นไหมนะ >///<
“เอ่อครับ” โยซอบรับคำก่อนพี่ยามคนนั้นจะเดินออกไปจากห้อง เราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันเลย หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่าโยซอบลุกขึ้นแล้วเดินไปไหนสักที่ก่อนจะกลับมาพร้อมกับแสงสว่างจากแฟรชของมือถือ
“กลับเถอะ” โยซอบบอกฉันเบาๆ
“อ๋อ อะ...อื้ม รีบกลับกันดีกว่า” ฉันรับคำอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนบ้าง แต่อาจจะเป็นเพราะฉันคงช็อกกับเหตุการณ์เมื่อกี๊ฉันเลยเซไปข้างหลังนิดหน่อย แต่ก็ได้โยซอบเข้ามาประคองไว้...อีกครั้ง -////-
“เอ่อ...ขอบใจนะ” ฉันพูด เรามองตากันผ่านแสงสว่างอันน้อยนิดของไฟฉายในมือถือ แต่ฉันสามารถรับรู้ความรู้สึกที่เขาพยายามส่งมาได้ มันมีอะไรบางอย่างอยู่ในแววตาของเขา -///-
“เฝ้าฝัน...” โยซอบพูดพร้อมกับมองลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน “ฉันคิดว่าฉัน!...”
แว็บ!
อยู่ๆ ก็มีแสงส่องเข้ามาในห้องซ้อมอีกครั้ง ทำให้โยซอบชะงักไป ถึงฉันจะอยากรู้ว่าเขากำลังตั้งใจจะพูดอะไร แต่ฉันก็ต้องรีบผลักโยซอบออกแล้วหันไปมองผู้มาใหม่ที่กำลังส่องไฟมาทางพวกเรา
“นี่ฉันมาเป็นก้างรึเปล่าเนี่ย =_=;” จุนฮยองขมวดคิ้วมองมาที่พวกเราสองคน -///-;
“แกมาทำไมเนี่ย” โยซอบถามจุนฮยองด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
“พวกนั้นให้ฉันมาตามพวกแกน่ะสิ หายเงียบกันไปเลยทั้งสองคนเลย โทรหาก็ไม่มีใครรับ” จุนฮยองบ่นซะยาวเหยียด แต่นายรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว หมอนั่นต้องคิดว่าฉันกับโยซอบกำลังสวีทวี๊ดวิ้วกันแน่ๆ เลย หน้าชิดกันซะขนาดนั้น >///<
“งั้นฉันไปรอที่โรงรถแล้วกัน” จุนฮยองพูดแล้วเดินไปเลย เขาทิ้งฉันไว้กับความเงียบที่น่าอึดอัดนี่กับโยซอบ 2 คน Y///Y
ฉันกับโยซอบกลับมาที่หอโดยไม่มีใครพูดอะไรอีก จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกพวกเราก็ยังไม่ได้คุยอะไรกัน เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ฉันรู้สึกว่ายังไม่ค่อยพร้อม U///U
วันรุ่งขึ้น ฉันไปทำเรื่องเกี่ยวกับการย้ายหน่วยกิจมาเรียนแพทย์ต่อที่เกาหลี ฉันเลยได้คุยกับโยซอบอีกครั้งเพราะเขาอาสาจะมารับฉัน (ย้ายหน่วยกิจข้ามประเทศซีไม่รู้ว่าทำได้จริงไหม แต่เฝ้าฝันทำได้ค่ะ โฮ่ะๆๆๆ ^__^)
“นายคิดยังไงถึงมารับฉันในที่ที่มีคนเยอะๆ แบบนี้เนี่ย” ฉันถามเมื่อเดินออกมาหน้าคณะแพทยศาสตร์ก็เจอโยซอบยืนพิงประตูรถรออยู่
“ก็...คิดถึงไง ^_^” โยซอบเปิดหมวกของตัวเองขึ้นมายิ้มให้ฉัน แว่นกันแดดก็ไม่ใส่ ถ้าเกิดคนจำได้ล่ะวิ่งหนีกันมันส์แน่ =_=;
“ไปเถอะ คนเริ่มมองนายใหญ่แล้วน่ะ”
“ครับผม!” โยซอบรับคำแล้วเปิดประตูรถให้ฉันก่อนจะวิ่งมานั่งประจำที่คนขับ
“เรื่องเรียนเป็นไงบ้าง” โยซอบถามขณะเริ่มขับรถออกจากมหาวิทยาลัย
“ก็ดี ขณะแพทย์ที่นี่ก็ใช้ได้นะ” ฉันบอก พร้อมกับเปิดหนังสือแนะนำมหาวิทยาลัยที่เขาเพิ่งจะให้มา
“เรื่องเมื่อคืน...ฉันยังบอกเธอไม่หมดเลยนะ” อยู่ๆ โยซอบที่เงียบไปนานก็พูดขึ้น ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดข้างทาง
“อะไรของนายเนี่ย -///-?”
“ฉันคิดว่าฉัน...” โยซอบเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ มองลึกเข้ามาในดวงตาของฉันอีกครั้ง เขาดูท่าทางจริงจังและแน่วแน่มาก
“ฉันชอบเธอ...” โยซอบพูด
เขา...ชอบฉันงั้นหรอ...เป็นเรื่องจริงหรอเนี่ย!! เขาเนี่ยนะจะชอบฉัน!! เขามาชอบฉันตอนไหนกัน >///<?
“ฉันชอบเธอตั้งแต่เจอกันที่เมืองไทยครั้งแรกแล้ว แต่...ฉันไม่แน่ใจ จนกระทั่งมาเจอกันอีกครั้งที่โรงพยาบาล ฉันรู้สึกดีมากเลยที่เธอมาดูแลฉัน และยิ่งแน่ใจมากขึ้นเมื่อตอนที่รู้ว่า...ต้องเสียเธอไป” โยซอบพูดรวดเดียวจบเหมือนอ่านใจฉันออกและตอบทุกคำถามที่ฉันถามเขาอยู่ในใจ จนฉันตั้งตัวไม่ทัน...ฉันจะตอบเขาว่ายังไงดีล่ะ
ตลอดเวลาที่ฉันดูแลเขาที่โรงพยาบาล และตลอดเวลาที่เขาดูแลฉัน และทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำมันบ่งบอกว่าเขารู้สึกยังไงกับฉัน และฉันก็ยอมรับว่ารู้สึกดีมากด้วยที่เขาทำแบบนั้นให้ แต่...ฉันจะบอกเขายังไงดี...ฉันไม่กล้าพอที่จะบอก...ในตอนนี้!
“ฉันรู้ว่ามันเร็วไป ฉันจะไม่ขอให้เธอตอบฉันตอนนี้หรอก...ฉันรอได้” โยซอบพูดแล้วเลื่อนหน้าออกห่างจากฉัน จนกระทั่งอยู่ในระยะที่ปกติ เราเงียบกันไปพักใหญ่ๆ เพราะทั้งฉันและเขาก็ไม่มีใครพูดอะไรเลย
“เธอ...จะลองคบกับฉันได้ไหม” อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบที่แสนอึดอัด และนี่มันยิ่งทำให้อึดอัดมากขึ้น
“ไหนนายบอกว่านายรอได้ไง...?”
“ก็ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว ถ้าเกิดไม่รีบ แล้วเธอหนีไปอีก ฉันก็แย่น่ะสิ ^^;”
“นายนี่มัน!...” ฉันค้อนเขาทีหนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูด
“ว่าไง ตกลงจะคบกับฉันได้ไหม...” โยซอบหันมาถามฉัน และทำตาโตๆ รอคำตอบ
“เอ่อ...ฉันคิดว่า...ฉันก็รู้สึกดีกับนายอยู่นะ”
“แค่รู้สึกดีหรอ?” โยซอบทำหน้ามุ่ยแล้วหันกลับไปพิงเบาะคนขับอย่างขัดใจ
“ก็...โอ้ย! นายกำลังบังคับฉันอยู่นะ -*-//” ฉันเป็นฝ่ายตะโกนบ้าง ฉันไม่ชอบความรู้สึกที่ตัวเองดูด้อยกว่าคนอื่นแบบนี้เลย >_<!
“ฉันไม่ได้บังคับเธอนะ ฉันแค่พยายามให้เธอยอมรับความรู้สึกต่างหาก” โยซอบยังคงทำหน้ามุ่ยอยู่แบบเดิม
“เฮ้อ...” ฉันถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างจงใจ “ยอมรับอะไรของนาย?...ยอมรับว่าฉันชอบนายน่ะหรอ? เลิกหวังไปเถอะย่ะ!!”
ฉันตะโกนออกไปอย่างลืมตัว ฉันไม่ยอมบอกหรอกนะว่าฉันก็ชอบนายโยซอบนี่เหมือนกัน...เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน เมื่อกี๊ฉันว่าไงนะ -_-?
เฮ้ย!!! -[]-!!!
“เธอบอกว่า...ชอบฉันหรอ?” โยซอบหันมาถามฉันด้วยสีหน้าดีใจสุดๆ
“ฉัน...ฉันไม่ได้...” ฉันรีบปฏิเสธ แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว เพราะโยซอบยื่นหน้ามาขโมยหอมแก้มฉันเข้าฟอดใหญ่
“งั้นตกลงเราคบกันแล้วนะ ^O^” โยซอบพูดแค่นั้นก็ออกรถทันที
“เฮ้ย! ได้ไงล่ะ!” ฉันอุทาน แต่ก็ได้แต่ลูบแก้มตัวเองป้อยๆ เพราะฉันทำอะไรไม่ได้แล้ว...ก็ดันสารภาพออกไปแล้วนี่ -////-;
ความฝันของฉันมันยังไม่จบและหยุดอยู่แค่นี้หรอกนะ...นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น อนาคตที่จะมาถึงนี่สิสำคัญกว่า แต่ฉันจะทำมันให้ดีที่สุดและทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในทุกๆ วัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ฉันรักและตัดสินใจเลือกแล้ว...
ก็เหมือนกับความรักของฉันที่อยู่ๆ ก็มีสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่งที่จะมาสร้างรอยยิ้มให้กับชีวิตที่จืดชืดของฉัน สิ่งมหัศจรรย์นั้นก็คือนายโยซอบผู้สดใสคนนี้ ฉันไม่รู้ว่าเราจะเข้ากันได้ดีขนาดไหนแต่ที่ผ่านมา มีอะไรหลายๆ อย่างที่พิสูจน์ให้ฉันได้เห็นว่าเขานี่แหละที่จะทำให้ชีวิตของฉันมีสีสันและมีความสุขได้แน่ๆ ฉันเชื่ออย่างนั้น
ฉันรักนาย...เจ้าชายอสูรของฉัน
THE END
**********************************************************
จบแล้วจ้าาาาา >O<
เรื่องนี้ไรเตอร์เหมือนเอาเรื่องของตัวเองมาเขียนเลยค่ะ
ความฝัน....ใครๆ ก็มีกันได้ แต่มันยากที่จะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ถึงจะมีพรสวรรค์มากขนาดไหนแต่หากไม่มีโอกาสและปัจจัยต่างๆ มาเสริมกัน เช่น พ่อแม่ไม่สนับสนุนหรือไม่มีโอกาส ก็คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่ดี
คนธรรมดาอย่างเราๆ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำตามความฝันโดยละทิ้งความคาดหวังของคนข้างหลังเอาไว้อย่างไม่ใยดีได้ บางครั้งเราก็ต้องเลือกระหว่างสิ่งที่รักและสิ่งที่เหมาะสมสำหรับเรา
...ไรเตอร์เองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถเลือกความฝันและสิ่งที่ตัวเองรักได้ ทำได้เพียงแค่เดินตาม ‘ความจริง’ ไปวันๆ ‘ความจริง’ ที่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้ว่าไม่ใช่ตัวเอง ยิ่งรู้ว่าไม่ใช่สิ่งที่รักและต้องการจริงๆ...
แต่หากรีดเดอร์คนไหนสามารถเลือกได้และมีโอกาสได้เลือก!...ไรเตอร์ขอแนะนำว่าเลือกสิ่งที่รักเถอะค่ะ เพราะถึงมันจะเหนื่อยหรือลำบากขนาดไหน อย่างน้อยๆ มันจะทำให้เรามีแรงฮึดสู้และมีพลังเป็น 2 เท่าที่จะเผชิญกับปัญหานั้นๆ ได้เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารัก แต่หากมันไม่ใช่สิ่งที่เรารักเมื่อเราเผชิญกับปัญหาแม้เพียงเล็กน้อยใจเราก็ไม่สู้แล้ว...
หากคุณมีโอกาสให้รีบคว้าเอาไว้และจงพยายามให้มากที่สุด ^____^(ร่ายซะยาวต้องขอโทษนะคะ พอดีอินไปหน่อย อิอิ)
***********************************************************
ยังไงก็ต้องขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนนะคะที่ร่วมเดินทางมาจนถึงตอนจบของ Episode 2
ขอบคุณมากๆ ทั้งรีดเดอร์ที่คอยคอมเม้นเป็นกำลังใจเสมอมา และรีดเดอร์ที่อ่านแต่ยังไม่มีคอมเม้นอะไร ^___^
ขอบคุณมากที่ยอมสละเวลามาอ่านนิยายและรอนิยายของ Kreota
ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ทำให้นัก (หัด) เขียนคนหนึ่งยังรู้สึกว่ามีคนสนใจผลงานชิ้นนี้อยู่
หลังจากเศร้าคละเคล้าน้ำตาไปกับเฝ้าฝันมานาน ไว้มาเจอกันใหม่ใน Episode 3 Dangerous Lover ของ ‘ยงจุนฮยอง’ นะคะ
***************************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ