[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  113.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

26) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 3 Dangerous Lover

:: Chapter 1 ::

 

            “ขวัญ! ข้างหลัง!!”  เสียงของยูรีดังขึ้นมาท่ามกลางความโกลาหลของนักเรียน 2 กลุ่มที่ยกพวกตีกัน ณ ใจกลางกรุงโซลที่กำลังมีการจราจรคับคั่ง

            “ย๊า!!!”  ฉันส่งเสียงพร้อมกับจระเข้ฟาดหางเข้าที่ต้นคอของไอ้ถึกที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายฉันจากข้างหลัง ไอ้นี่! ตีผู้หญิงยังไม่พอยังจะมาทำร้ายคนอื่นจากข้างหลังอีก ทุเรศสิ้นดี!!!

            “หนีก่อนเถอะ ตอนนี้พวกเรากำลังเสียเปรียบนะ”  ยูรีเข้ามาจับต้นแขนของฉัน ขณะที่พยายามถีบไอ้พวกที่จะวิ่งเข้ามาทำร้ายพวกเราออกไปให้พ้นทาง

            “แล้วคนอื่นๆ ล่ะ”  ฉันกวาดตามองไปทั่วทั้งท้องถนนที่รถติดกันระนาว ตอนนี้มีพวกฉันเหลือสู้อยู่เพียง 1/3 ของอีกพวกหนึ่งเท่านั้น ซวยล่ะ -_-!

            “ไปกันหมดแล้ว รีบไปเหอะ ตำรวจกำลังมานะ”  ยูรีพูดพร้อมกับกระตุกแขนฉันให้ออกวิ่งไปด้วยกัน

            พวกเราวิ่งฝ่าดงทรีน -_-! และหมัดจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาได้ในที่สุด แต่ก็ยังไม่วายต้องเจอกับรถที่จอดแออัดยัดเยียดกันอยู่บนถนน มันทำให้เราวิ่งหนีไม่ถนัดเอาซะเลย เข้าใจเลือกที่ตีกันนะคนเรา =_=;

            “เฮ้ย!! มันอยู่นั่น!!”  ไอ้ถึกที่ฉันกับยูรีถีบเปิดทางออกมา วิ่งตามมาติดๆ พวกฉันเสียเปรียบพวกมันตรงที่กระโดดข้ามหลังคารถไม่ได้เพราะมีอุปสรรคตรงกระโปรงจีบรอบของชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยนานาชาติที่มันสั่นจุ๊ดจู๋นี่แหละ -_-!

            “ฉันว่าเราแยกกันก่อนดีกว่า!!”  ยูรีเสนอ ระหว่างที่เรากำลังเจอทางตันเพราะจำนวนรถที่จอดติดไฟแดงอยู่

            “โอเค! แล้วเจอกันที่เดิมนะ”  ฉันพูดถึงคอนโดของฉันที่อยู่ถัดจากที่นี่ไปอีก 4 ช่วงตึก

            “ตามนั้น!”  เมื่อตกลงกันได้ ฉันกับยูรีก็ตัดสินใจแยกกันไปคนละทาง ฉันวิ่งมาจนถึงสี่แยกที่กำลังจะเปลี่ยนจากไฟแดงเป็นไฟเขียวภายใน 4 วินาที ฉันต้องรีบหน่อยเพราะไอ้ถึกนั่นมันกำลังจะถึงตัวฉันอยู่แล้ว >.<!

            3 วินาที >.<

            ตึกๆๆๆๆ ฉันวิ่งซอกแซกไปตามช่องว่างระหว่างรถยนต์หลายต่อหลายคันเพื่อให้ข้ามถนนเส้นนี้ให้ได้

            2 วินาที >_<!

            ฉันรีบหลับหูหลับตาวิ่งๆๆ เหมือนกำลังคัดตัวนักวิ่งทีมชาติยังไงยั้งงั้น งานนี้ไม่มีหยุดแน่ครับพี่น้อง!

            1 วินาที >O<!!!

            “ย๊ากกกกก!!”  ฉันตัดสินใจกระโดดข้ามเกาะกลางถนนที่มีพุ่มไม้สูงประมาณเอวเพื่อข้ามไปอีกเลนหนึ่งของถนน หวังว่าคงทันนะ ต้องทันสิ >_<!!!

            พรึบ!! <<< ไปเขียว =_=;

            เอี๊ยดดด!!!

            เสียงล้อบดกับถนนดังสะนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งมันสามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ที่ใช้รถใช้ถนนได้ดีทีเดียว ฉันค่อยๆ หันไปมองรถสปอร์ตสีขาวติดฟิล์มดำสนิทคันนั้นอย่างอัตโนมัติพร้อมกับหัวใจที่หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะมันจอดห่างจากขาของฉันแค่ 3 นิ้วเท่านั้นเอง โดนชกครั้งแรกยังไม่ตกใจเท่านี้เลยอ่ะ -_-!!

            เกือบขาหักแล้วไหมล่ะยัยของขวัญ >.<!!

            “หนีไม่รอดแล้วสาวน้อย!”  เสียงไอ้ถึกที่วิ่งไล่กวดฉันมายังคงโหยหวนอย่างไม่ลดละ นี่แกไม่แหกตาตี่ๆ ของแกดูเลยหรือไงว่าฉันเกือบจะโดนรถชนหน้าแข่งอยู่แล้วเนี่ย >_<!

            “O_O!”  ฉันกวาดตามองไปรอบๆ เพื่อหาทางหนีทีไล่ แต่พอหันไปเห็นหน้าตาตื่นๆ ของเหล่าประชาชีแดนกิมจิที่ยืนรุมอยู่รอบตัว ก็ปิ๊งไอเดียวเด็ดๆ ขึ้นมาได้

            ฟุบ!

            “เฮ้ย!”  เสียงผู้ชมการแสดงร้องออกมาแทบจะพร้อมกัน เมื่อสาวน้อยผู้เคราะห์ร้ายอย่างฉันแกล้งเป็นลมล้มพับอยู่หน้ารถสปร์อตคันงามคันนั้น

            “บ้าเอ้ย!”  เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความโกลาหลและเสียงพูดคุยจ๊อกแจ๊กจอแจอยู่รอบตัว เสียงแตรรถที่พร้อมใจกันบีบดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนจะดังขึ้นเรื่อยๆ ซะด้วย

            “เธอ!...นี่!!...”  เจ้าของเสียงคนเดิมเข้ามาเขย่าตัวฉันแรงๆ เพื่อเรียกสติ คงจะเป็นเจ้าของรถสินะ ฉันต้องขอโทษนายจริงๆ ที่ฉันต้องให้นายเป็นแพะรับบาปแบบนี้ แต่ฉันจำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอด T.T;

            “เฮ้ย!! นั่นนักร้องรึเปล่า?”

            “ใช่ๆ หน้าคุ้นๆ อยู่นะ”

            “กรี๊ดๆๆ นั่นบีสท์นี่นา” 

            อยู่ๆ ก็เกิดเสียงอะไรประหลาดๆ ดังขึ้นมาจากเหล่าประชาชีที่มุงดูเราอยู่ พวกเขาทักใครน่ะ!! นักร้องมาจากไหน อยากเห็นบ้างอ่ะ >.<

            ฉันแอบปรือๆ ตามองแต่ก็เจอแต่เจ้าของรถที่ขับมาชนฉันเท่านั้น (ติ๊ต่างเอาน่ะว่าเขาชน =_=;) แต่ฉันมองหน้าเขาไม่ชัดนักหรอก ถึงแม้ถนนสายนี้จะเป็นถนนสายหลักมีไฟส่องสว่างตลอดเวลาแต่เขาสวมหมวกปิดใบหน้าเอาไว้เลยเห็นเป็นเงาดำๆ ที่หน้าเขาเท่านั้น

            “เฮ้อ! ซวยจริงๆ”  เขาสบถอย่างหัวเสียก่อนจะยกร่างที่แอ๊บหมดสติของฉันเดินอ้อมไปวางไว้ตำแหน่งข้างคนขับ หลังจากได้ยินเสียงปิดประตูรถก็เคลื่อนออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เขาขับเร็วมากจนฉันอยากจะลืมตาขึ้นมาแล้วด่าออกไปว่า

            ‘ใบขับขี่น่ะซื้อเอาหรือยังไงยะ! ขับให้มันดีๆ หน่อยเซ่!!’ แต่ถึงอยากตะโกนออกไปมากขนาดไหน ฉันก็ต้องนิ่งไว้เพราะตอนนี้ฉันสลบอยู่ U.U!

            หลังจากที่ฉันถูกพาเข้ามาที่โรงพยาบาลและหมอตรวจอะไรเสร็จสรรพฉันก็ถูกพามาที่ห้องพัก โดยมีเจ้าของรถคันนั้นคอยตามดูฉันตลอดเวลา แหมๆ ห่วงสายน้อยน่ารักอย่างฉันล่ะซี่ อิอิ ^O^

            “ก็มีแค่รอยฟกช้ำนิดหน่อยนะครับ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว”

            “ขอบคุณครับคุณหมอ”  เสียงของผู้ชายคนนั้นพูด ก่อนที่เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งจะเดินออกไปจากห้อง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคุณหมอ ตอนนี้ห้องเงียบมากคงเหลือแค่ฉันกับนายคนนั้นแน่ๆ เอาล่ะๆ แอ๊บสลบไว้ของขวัญ =_=zZ

            “นี่! ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แล้วเธอก็ไม่ได้สลบด้วย!!”  อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นแล้วเข้ามาบีบข้อมือฉันแรงๆ เขาบีบมันแรงจริงๆ นะจนฉันเผลอร้องออกมา T^T

            “โฮ้ย!!”  ฉันร้องสุดเสียงก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างอัตโนมัติ

            “ฮึ! นึกแล้วไม่มีผิด ที่แท้เธอมันก็พวกต้มตุ๋น!!”  เขาตะคอกใส่หน้าฉัน จนรู้สึกหน้าชาไปหมด แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาห่วงเรื่องหน้าจะชาหรือไม่ชาหรอก! เพราะผู้ชายที่ยืนกอดอกชี้หน้าด่าฉันอยู่นี่ คือยงจุนฮยอง สมาชิกวง BEAST =[]=!!

            “ทำไม! ตกใจที่ฉันจับผิดเธอได้ล่ะสิ”  จุนฮยองพ่นคำพูดใส่ฉัน เปล่า...ฉันตกใจปากห้อยๆ ของนายต่างหาก -_-;;

            ใจเย็นไว้ของขวัญ...เธอต้องใจเย็นๆ ที่เขาโกรธเพราะเขาแค่เข้าใจเธอผิดเท่านั้นเองแหละน่า...

            “เอ่อ...ฉันไม่ใช่พวกต้มตุ๋นนะคะ ฉันกำลังเดือดร้อน...ก็เลย...”

            “ก็เลยเสแสร้งล้มอยู่หน้ารถฉันงั้นหรอ?”  จุนฮยองพูดต่อจากที่ฉันละเอาไว้

            “ก็...ประมาณนั้นค่ะ ^^;”  ฉันยิ้มแหยๆ ให้ และหวังว่าเขาจะเข้าใจ แต่ไม่เลย Y.Y เขายังคงคิดคำมาต่อว่าฉันได้อย่างไม่ลดละเลยทีเดียว U_U;;

            “เธอรู้ไหมว่าฉันต้องเสียเวลาขนาดไหนที่เธอทำเรื่องไร้สาระแบบนี้!! คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็คิดซะบ้าง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาเดือดร้อนแบบนี้!!”

            “ค่ะ Y_Y”  ฉันพยักหน้าหงึกหงักอย่างเนือยๆ และทำสีหน้าสำนึกผิดต่อเพื่อให้เขายอมใจอ่อนเลิกด่าฉันสักที แต่ฉันก็ทำได้แค่คิดเพราะนายจุนฮยองคนนี้ไม่ยอมจบ จะปากจัดเกินไปหน่อยแล้วนะ!! กระโดดกัดหูซะเลยดีไหมเนี่ย -_+!

            “แล้วคราวนี้ก็ให้ฉันรับผิดชอบสินะ จะเอาเท่าไหร่ล่ะ ว่ามาเลย! ค่ารักษา? ค่าทำขวัญ? หรือค่าอะไรอีก? อยากได้เท่าไหร่ห๊า!!!”  เขายังคงตะโกนต่อไปอย่างไม่สงสารคอหอยของตัวเอง =_= ฉันสงสัยจริงๆ ว่าเขาจะไม่ออกอัลบั้มแล้วหรือไงถึงได้ใช้เสียงได้พร่ำเพรื่อแบบนี้ -_-?

            “มัน...มันเป็นความผิดของฉันเอง...ฉันไม่ขอรับค่าอะไรจากพี่ทั้งนั้นแหละค่ะ”  ฉันก้มหน้างุดๆ พยายามทำไหล่ห่อๆ เพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสารที่สุด แต่เหมือนจะไม่ได้ผลแฮะ =_=;;

            “ฮึ!! อยากได้ใจจะขาดล่ะสิไม่ว่า ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ ค่ายของฉันเขายินดีจะจ่ายให้ ทั้งที่จริงแล้วฉันไม่ต้องจ่ายเธอเลยสักวอนยังได้ แต่เพราะมีคนเห็นหน้าฉันแล้วเลยจำเป็นต้องรับผิดชอบ เอาเลย!! จะเอาเท่าไหร่ล่ะ ว่ามา!!!...”

            “โอ้ย!! ไม่ไหวแล้วโว้ย!!! นายจะตะโกนอะไรนักหนาห๊ะ!! ไม่เจ็บลูกกระเดือกบ้างเลยรึยังไง!! ฉันบอกว่าฉันไม่เอาก็ไม่เอาสิ แค่ค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องพักแค่นี้ฉันมีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว หรือจะให้จ่ายค่าเสียเวลาให้นายด้วยเลยไหม คิดนาทีละเท่าไหร่ห๊ะ!!!!!!!”  ฉันตะโกนกลับ ฉันอุตส่าห์อดทนถึงที่สุดแล้วนะ แต่หมอนี่ไม่ยอมพูดจาดีๆ กับฉันก่อน มันก็ต้องตาต่อตาฟันต่อฟันแบบนี้ล่ะ -_+!!

            “เธอ...?”  จุนฮยองมองฉันอย่างงงๆ และคงจะอึ้งมากจนพูดอะไรไม่ออก แต่ก่อนที่เขาจะคิดคำพูดต่อไปออก ก็มีผู้มาใหม่มาเยือน เขาคือยูนดูจุนแห่งลีดเดอร์วง BEAST =[]=!! และผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จัก -_-?

            “แกว่าอะไรน้องเขารึเปล่าเนี่ย สีหน้าไม่ค่อยดีเลยอ่ะ”  ดูจุนมองฉันกับจุนฮยองสลับกัน แต่จุนฮยองยังไม่พูดอะไร เขาเอาแต่มองหน้าฉันงงๆ กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของฉัน สงสัยเมื่อกี๊ฉันจัดหนักไปหน่อยอ่ะ U_U;

            “นายวีนอะไรน้องเขาใช่ไหม เฮ้อ...รักษาภาพหน่อยสิจุนฮยอง!”  ผู้หญิงคนนั้นพูดกับจุนฮยองอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ

            “ฉันชื่อคิมมินนาจ้ะ เป็นผู้จัดการของบีสท์...แล้วเธอชื่ออะไรหรอ ฉันจะได้ติดต่อผู้ปกครองเธอให้”  เธอเข้ามาแนะนำตัวกับฉันอย่างสุภาพ

            “เอ่อ...ผู้ปกครอง...หรอคะ?”  ฉันอึกอักทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘ผู้ปกครอง’ เพราะตั้งแต่ฉันเข้ามหาวิทยาลัยมา ฉันมีเรื่องจนต้องย้ายที่เรียน 5 ครั้งแล้วในเทอมเดียว ถ้าเกิดพ่อฉันรู้ว่าฉันมีเรื่องอีกล่ะก็ไม่ใช่แค่จะเรียนปี 1 ไม่จบนะ มีหวังโดนตัดออกจากกองมรดกแน่ TOT

            “ทำไมจ้ะ หน้าซีดเชียว”  คุณมินนาเข้ามาแตะที่ต้นแขนของฉันเบาๆ

            “เด็กมีปัญหาก็งี้แหละ หนีพ่อแม่ออกมาตีกัน”  จุนฮยองพูดราวกับหยั่งรู้ฟ้าดิน นี่เขารู้ได้ไง -_-?

            ฉันได้แต่ส่งสายตาคาฆาตแค้นไปให้จุนฮยองเท่านั้น เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากเผยธาตุแท้! เอ่อ...ยังไม่อยากเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่น่ะ =_=;

            “จุนฮยอง!!”  คุณมินนาหันไปปรามจุนฮยอง เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเดินตึงตังออกไปจากห้อง ดูจุนเลยเดินตามออกไปบ้าง

            “ว่าไงจ้ะ...ไม่อยากให้ฉันบอกก็ไม่เป็นไรนะ เพราะทางโรงพยาบาลคงโทรไปบอกญาติของเธอเรียบร้อยแล้วว่าเธอประสบอุบัติเหตุ”  คุณมินนาพูดเสียงเรียบ เออจริงสินะ!...งั้นตอนนี้พ่อคงกำลังบึ่งรถมาเอาเรื่องฉันอยู่แน่ๆ T^T

            “เฮ้อ...ฉันชื่อฌารินทร์ค่ะ เรียกว่าของขวัญก็ได้”  ฉันบอก ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วนิดหน่อย ก่อนจะถาม

            “คนไทยหรอ?”

            “ลูกครึ่งน่ะค่ะ แม่เป็นคนไทย พ่อเป็นคนเกาหลี”

            “อ๋อ จ้ะ”  คุณมินนาพยักหน้านิดหน่อย “แต่...พูดเกาหลีชัดดีนะ”

            “ฉันมาอยู่เกาหลีกับพ่อตั้งแต่ 7 ขวบค่ะ เลยพูดเกาหลีคล่อง”

            “อ๋อ...แล้วนี่ ช่วยติดต่อใครที่บ้านเธอสักคนหนึ่งได้ไหม พอดีฉันอยากคุยเรื่องค่าเสียหายหน่อยน่ะจ้ะ”  คุณมินนาพูด แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบก็มีคนเข้ามาในห้องอีกคน คุณโซอินโจ เลขาคนสนิทของพ่อนั่นเอง

            “คุณหนู”  เขาพูดพร้อมกับโค้งให้ฉันตามปกติ ฉันโค้งตัวรับเล็กน้อย

            “เอ่อ...คุณเป็นผู้ปกครอง..หรอคะ?”  คุณมินนามองคุณอินโจงงๆ คงงงว่าทำไมผู้ปกครองต้องโค้งให้ฉันด้วยน่ะสินะ =_=

            ผู้ปกครอง?...ใช่ คุณอินโจนี่แหละเปรียบได้กับผู้ปกครองของฉัน เพราะมีเรื่องทีไรเขาจะคอยตามล้างตามเช็ดให้ฉันเสมอ ส่วนพ่อจะมาเฉพาะตอนที่เรื่องมันใหญ่มากๆ เท่านั้น -_-

            “อ๋อ ผมโซอินโจครับ เป็นตัวแทนของคุณท่านมาคุยเรื่องอุบัติเหตุ”  คุณอินโจแนะนำตัว ก่อนจะเชิญคุณมินนาออกไปด้านนอกเพื่อคุยเรื่องค่าเสียหาย

            ถ้าเกิดฉันโดนรถชนจริงๆ พ่อจะมาดูฉันด้วยตัวเองไหมนะ?...ทุกครั้งที่ฉันมีเรื่องเขาจะเป็นห่วงฉันไหม? เขาจะรู้ไหมว่าฉันมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำแบบนี้?...ฉันถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอน ทั้งที่ครอบครัวของฉันรวยจนติดอันดับมหาเศรษฐีของเกาหลี เป็นคุณหนูกินอยู่อย่างสบาย แต่ฉันกลับไม่มีความสุขเอาซะเลย Y.Y

            แล้วนี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย!! ทำไมเวลาที่ฉันอยู่คนเดียวถึงได้อ่อนแอขนาดนี้ ชอบปล่อยให้ความหวั่นไหวและความคิดงี่เง่าพวกนี้เข้ามากวนประสาทอยู่เรื่อย!!

           

            [Yong Jun Hyung : Talk]

            “ว่าไงนะ! ปาปารัสซี่แอบถ่ายโยซอบกับเฝ้าฝันขึ้นรถไปด้วยกันหรอ?...แล้วไง ก็แค่ขึ้นรถ?”  ผมถามกีกวังขณะที่กำลังขับรถไปรับโยซอบที่สตูดิโออัดรายการวาไรตี้รายการหนึ่ง เพราะอะไรน่ะหรอ? เพราะโดนนักข่าวรุมจนออกจากสตูไม่ได้น่ะสิ!

            [ถ้าแค่ขึ้นรถไปด้วยกันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่มีหอมแก้มอะไรกันด้วยนี่สิ ฉันก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ได้ยินคุณนาบีพูดผ่านๆ น่ะ] 

            “เฮ้อ...โอเคๆ เดี๋ยวฉันกลับรถได้จะไปรับมันแล้วกัน ช่วงนี้รถยิ่งติดๆ อยู่”

            [โอเค แล้วค่อยคุยกัน]  กีกวังวางสายอย่างรวดเร็ว ผมค่อยๆ ตีไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลนและไปยูเทิร์นรถในแยกข้างหน้า วันนี้ก็ไม่รู้ยังไงรถติดชะมัด! แล้วนั่นอะไรน่ะ? เด็กนักเรียนตีกัน! โห!! ใจกล้าดีนะตีกันกลางเมืองเลย

            ผมส่ายหน้าไปมากับความเลือดร้อนของเด็กสมัยนี้ก่อนจะเตรียมเข้าเกียร์รถเพื่อผ่านแยกนี้ไปยูเทิร์นข้างหน้า

            3

            2

            1

            พรึบ!

            สัญญาณไฟเขียวสว่างขึ้น ผมเข้าเกียร์เตรียมจะออกรถ แต่แล้วก็มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้วิ่งมาจากไหนมาขวางทางผมไว้ จนผมแทบจะเหยียบเบรกไม่ทัน!

            เอี๊ยดดด!!!

            เสียงล้อรถบดกับถนนดังสนั่นจนลอดเข้ามาภายในรถ เสียงบีบแตรดังระงมไปทั่วทั้งบริเวณเพราะผมจอดขวางทางพวกเขาอยู่ หวังว่าผมคงไม่ชนเธอนะ!!

            ผมรีบเปิดประตูรถออกไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบหมวกขึ้นมาสวมปกปิดใบหน้าไว้ แต่พอผมเดินออกมาจากรถ เธอก็ล้มลงนอนกองกับพื้น อ้าว! เมื่อกี๊ทำไมยังยืนดีๆ อยู่เลยล่ะ??

            “บ้าเอ้ย!”  ผมอุทานออกมาอย่างหัวเสีย นี่อย่าบอกนะว่าผมเจอพวกต้มตุ๋นเข้าให้แล้ว คนยิ่งรีบๆ อยู่!!

            “เธอ!...นี่!!...”  ผมเข้าไปเขย่าร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่กับที่ แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมตื่นมาง่ายๆ แน่ ทำไงดีล่ะเนี่ย ผมมั่นใจว่าเมื่อกี๊ผมเห็นเธอยืนอยู่จริงๆ ผมไม่ได้ชนเธอด้วยซ้ำ!!

            “เฮ้ย!! นั่นนักร้องรึเปล่า?”

            “ใช่ๆ หน้าคุ้นๆ อยู่นะ”

            “กรี๊ดๆๆ นั่นบีสท์นี่นา” 

            เสียงของผู้คนที่ยืนมุงดูอยู่ร้องออกมา ผมกระชับหมวกของตัวเองลงมาเพื่อให้ปิดใบหน้าให้มากที่สุด คงต้องช่วยยัยต้มตุ๋นนี่ก่อนสินะ!

            “เฮ้อ! ซวยจริงๆ”  ผมสบถอย่างหัวเสียก่อนจะยกร่างที่ดูเหมือนไร้สติขึ้นมาแล้วพาไปส่งที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว นี่ขนาดผมแกล้งขับรถเร็วๆ เลี้ยวปาดไปซ้ายทีขวาทีแต่ยัยต้มตุ๋นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นมาเลย คงจะมืออาชีพสินะ เนียนจริงๆ เลยไอ้พวกโจรสมัยนี้!

            “ก็มีแค่รอยฟกช้ำนิดหน่อยนะครับ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว”

            “ขอบคุณครับคุณหมอ” ผมโค้งตัวลงเล็กน้อย ก่อนที่หมอจะเดินออกไปจากห้อง ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันกับเธอแล้วสินะยัยจอมต้มตุ๋น!

            “นี่! ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แล้วเธอก็ไม่ได้สลบด้วย!!”  ผมตัดสินใจพูดออกไปพร้อมกับออกแรงบีบที่ข้อมือของเธอนิดหน่อย เพราะถ้าเกิดผมไม่พูดผมเชื่อว่าเธอต้องแกล้งสลบแบบนี้จนผมกลับไปแน่ แบบนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!

            “โฮ้ย!!”  ยัยต้มตุ๋นร้องออกมาในที่สุดพร้อมกับกระเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว ฮึๆ เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด -_+!

            “ฮึ! นึกแล้วไม่มีผิด ที่แท้เธอมันก็พวกต้มตุ๋น!!”  ผมตะโกนออกไปสุดเสียงเพื่อขู่ให้เธอยอมสารภาพออกมาซะว่าเป็นพวกต้มตุ๋นขูดรีดค่าทำขวัญ และดูเหมือนแผนของผมจะสำเร็จเพราะยัยต้มตุ๋นถึงกับมองผมตาค้างด้วยความตกใจ

            “ทำไม! ตกใจที่ฉันจับผิดเธอได้ล่ะสิ” 

            “เอ่อ...ฉันไม่ใช่พวกต้มตุ๋นนะคะ ฉันกำลังเดือดร้อน...ก็เลย...” 

            “ก็เลยเสแสร้งล้มอยู่หน้ารถฉันงั้นหรอ?”  ผมต่อในส่วนที่เธอละเอาไว้ โกหกชัดๆ +_+!

            “ก็...ประมาณนั้นค่ะ ^^;”  เธอยิ้มแหยๆ ให้ผม แต่ไม่มีทางที่ผมจะเชื่อหรอกนะ!

            “เธอรู้ไหมว่าฉันต้องเสียเวลาขนาดไหนที่เธอทำเรื่องไร้สาระแบบนี้!! คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็คิดซะบ้าง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาเดือดร้อนแบบนี้!!”

            “ค่ะ Y_Y”  เธอพยักหน้าอย่างสำนึกผิด ตีสีหน้าเก่งจริงๆ นะยัยจอมลวงโลก!

            “แล้วคราวนี้ก็ให้ฉันรับผิดชอบสินะ จะเอาเท่าไหร่ล่ะ ว่ามาเลย! ค่ารักษา? ค่าทำขวัญ? หรือค่าอะไรอีก? อยากได้เท่าไหร่ห๊า!!!”  ผมตะโกนออกไปอีก เมื่อไหร่จะยอมรับสักทีเนี่ย ผมชักเหนื่อยแล้วนะ -_-;

            “มัน...มันเป็นความผิดของฉันเอง...ฉันไม่ขอรับค่าอะไรจากพี่ทั้งนั้นแหละค่ะ” 

            “ฮึ!! อยากได้ใจจะขาดล่ะสิไม่ว่า ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ ค่ายของฉันเขายินดีจะจ่ายให้ ทั้งที่จริงแล้วฉันไม่ต้องจ่ายเธอเลยสักวอนยังได้ แต่เพราะมีคนเห็นหน้าฉันแล้วเลยจำเป็นต้องรับผิดชอบ เอาเลย!! จะเอาเท่าไหร่ล่ะ ว่ามา!!!...”  ผมพูดออกไปอย่างรู้ทันความคิด แต่ผมก็ต้องอึ้งไปเพราะจากท่าทีเงียบๆ เรียบร้อยของยัยต้มตุ๋นเมื่อกี๊กลับเปลี่ยนไปยังกับคนละคน O_o?

            “โอ้ย!! ไม่ไหวแล้วโว้ย!!! นายจะตะโกนอะไรนักหนาห๊ะ!! ไม่เจ็บลูกกระเดือกบ้างเลยรึยังไง!! ฉันบอกว่าฉันไม่เอาก็ไม่เอาสิ แค่ค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องพักแค่นี้ฉันมีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว หรือจะให้จ่ายค่าเสียเวลาให้นายด้วยเลยไหม คิดนาทีละเท่าไหร่ห๊ะ!!!!!!!” 

            “เธอ...?”  ผมพูดได้แค่นี้แหละครับ เพราะผมอึ้งมาก!! ไม่นึกว่า...เธอจะเปลี๊ยนไป๋ขนาดนี้ -[]-;; แล้วที่ผ่านมาเธอทำเป็นคนติ๋มๆ เรียบร้อยๆ ไปเพื่ออะไรล่ะ -?-!

 

 

 

 

 

*************************************

Ep. ใหม่มาแล้วค่า

เปลี่ยนแนวไปเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ

ฝากติดตามด้วยนะคะ ^O^

*************************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา