นักเขียนตาบอด
8.8
เขียนโดย ปั้นปึ่งยิ้ม
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.50 น.
4 ตอน
7 วิจารณ์
15.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562 20.00 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) -
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ พลวัฒน์เก็บโทรศัพท์ลงในถุงนอนของมัน เดินโดยใช้ไม้เหล็กนำทางไปยังที่ที่คิดว่าใช่ เขาเดินมาที่โต๊ะใกล้ๆ ที่นั่งของอธิตาอย่างช้าๆ แล้วเรียก อยากให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้มาผิดทาง
"บ.ก.อธิตาครับ อยู่ตรงไหนครับ"
เสียงเรียกของเขาเรียกความประหลาดใจจากเธอได้
พลวัฒน์คือชายตาบอดคนนั้น!
"อยู่ข้างหน้าค่ะ เดินมาอีกสองสามก้าว" หญิงสาวลุกจากเก้าอี้ ช่วยประคองชายหนุ่มมาที่โต๊ะ "นั่งค่ะ ระวังนะคะ"
"ขอบคุณครับ" น่าอายจริง เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังต้องรับความช่วยเหลือจากผู้หญิง เขาคิดในใจ
เขาน่าทึ่งมาก แถมยังแพร่ความอัศจรรย์ใจใส่เธอพร้อม เขาทำได้อย่างไรไม่รู้ แต่เขาทำได้...ดีเสียด้วย หากเทียบกับอีกหลายคน มีงานเขียนมากมายส่งมายังสำนักพิมพ์ ทว่าเรื่องสั้นของ เจ้าชายกบ หรือพลวัฒน์กลับได้รับการตอบรับและลงตีพิมพ์จำนวนมากเช่นเดียวกับนักเขียนเพชรในตมอีกหลายคน
ถึงเจ้าชายกบจะเขียนเรื่องสั้นได้ดีเด่นมากเพียงใด ก็ยังมีข้อเสียอยู่...การสะกดคำ พบว่าชายหนุ่มเขียนคำผิดมากเหลือ เคยถามตัวเองเหมือนกันว่า บนโลกนี้ มีนักเขียนที่อ่อนภาษาไทยด้วยหรือ แล้วไยอธิตา บรรณาธิการจอมเนี้ยบจึงปล่อยให้ผ่านการพิมพ์เป็นหนังสือได้ ครั้งพบพลวัฒน์หรือเจ้าชายกบตัวจริงเสียงจริง ทุกอย่างก็กระจ่างใจ
เขาไม่ใช่คนธรรมดา
"คุณคือคุณพลว้ฒน์จริงๆ หรอคะ" รู้ว่าเสียมารยาทแต่ใจยังระแวง
บทสนทนาแรกเริ่มขึ้น หลังจากชายหนุ่มวางแก้วโกโก้ลงบนโต๊ะเรียบร้อย
"ครับ ผม...พลวัฒน์" เธอคงคิดว่าเขาไม่ใช่ คนตาบอดที่ไหนจะมาเขียนหนังสือ เขาอาจเป็นคนแรกด้วยซ้ำ
"คุณทำได้ยังไง หมายถึงทำไมคุณถึงเขียนหนังสือได้คะ"
เขายิ้มขัน...นี่เรานัดคุยกันเรื่องทำหนังสือรวมเรื่องสั้นมิใช่หรือ
"เขียนเรื่องสั้นสักเรื่อง นวนิยายสักเล่ม ไม่จำเป็นต้องมองเห็นหรอกครับ แค่มีความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการดีๆ ก็เขียนได้ครับ ไม่มีมือก็ยังมีเท้า ถึงจะมองไม่เห็นก็ใช้อักษรเบรลล์ช่วย หรือถ้าต้องพิมพ์งานส่ง ผมก็อาศัยการฟัง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือโทรศัพท์มือถือของผมมีระบบเสียงบรรยายไว้ช่วยคนตาบอดให้สามารถพิมพ์งานได้เหมือนคนปกติครับ
"..." เธอสบตาเขาอย่างตั้งใจฟัง
"แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แรกๆ ก็หนักหนาเอาการอยู่นะครับ"
"พิมพ์ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเองค่ะ ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดหรอก"
"ขอบคุณครับ"
"เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ ออกทะเลมาไกลแล้ว"
"ครับ"
"เรื่องรวมเล่ม..." เขามองไม่เห็นเป็นทุนเดิม เธอจึงไม่จำเป็นต้องใช้เอกสาร "คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์การรวมเล่มจากการหักค่าหนังสือที่ขายได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคุณตกลงเซ็นสัญญาเป็นนักเขียนของสังกัดเพื่อนหนังสือ นอกจากค่าลิขสิทธิ์ที่คุณจะได้รับ ทางเรายังยกกำไรที่ได้จากการขายหนังสือของคุณทั้งหมดให้เป็นของคุณด้วย..."
"สัญญากี่ปีครับ"
"สองปีค่ะ"
"ผมไม่อยากผูกมัดตัวเอง แต่เรื่องรวมเล่มผมตกลงครับ" เขาคงตาบอดจริงๆ ที่ไม่รับข้อเสนอดีๆ เช่นเซ็นสัญญา แต่ถ้าแลกกับอิสรภาพของตัวเองมันก็คุ้มค่า
"ยังไม่ต้องด่วนตัดสินใจก็ได้ค่ะ"
"บ.ก.อธิตาครับ อยู่ตรงไหนครับ"
เสียงเรียกของเขาเรียกความประหลาดใจจากเธอได้
พลวัฒน์คือชายตาบอดคนนั้น!
"อยู่ข้างหน้าค่ะ เดินมาอีกสองสามก้าว" หญิงสาวลุกจากเก้าอี้ ช่วยประคองชายหนุ่มมาที่โต๊ะ "นั่งค่ะ ระวังนะคะ"
"ขอบคุณครับ" น่าอายจริง เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังต้องรับความช่วยเหลือจากผู้หญิง เขาคิดในใจ
เขาน่าทึ่งมาก แถมยังแพร่ความอัศจรรย์ใจใส่เธอพร้อม เขาทำได้อย่างไรไม่รู้ แต่เขาทำได้...ดีเสียด้วย หากเทียบกับอีกหลายคน มีงานเขียนมากมายส่งมายังสำนักพิมพ์ ทว่าเรื่องสั้นของ เจ้าชายกบ หรือพลวัฒน์กลับได้รับการตอบรับและลงตีพิมพ์จำนวนมากเช่นเดียวกับนักเขียนเพชรในตมอีกหลายคน
ถึงเจ้าชายกบจะเขียนเรื่องสั้นได้ดีเด่นมากเพียงใด ก็ยังมีข้อเสียอยู่...การสะกดคำ พบว่าชายหนุ่มเขียนคำผิดมากเหลือ เคยถามตัวเองเหมือนกันว่า บนโลกนี้ มีนักเขียนที่อ่อนภาษาไทยด้วยหรือ แล้วไยอธิตา บรรณาธิการจอมเนี้ยบจึงปล่อยให้ผ่านการพิมพ์เป็นหนังสือได้ ครั้งพบพลวัฒน์หรือเจ้าชายกบตัวจริงเสียงจริง ทุกอย่างก็กระจ่างใจ
เขาไม่ใช่คนธรรมดา
"คุณคือคุณพลว้ฒน์จริงๆ หรอคะ" รู้ว่าเสียมารยาทแต่ใจยังระแวง
บทสนทนาแรกเริ่มขึ้น หลังจากชายหนุ่มวางแก้วโกโก้ลงบนโต๊ะเรียบร้อย
"ครับ ผม...พลวัฒน์" เธอคงคิดว่าเขาไม่ใช่ คนตาบอดที่ไหนจะมาเขียนหนังสือ เขาอาจเป็นคนแรกด้วยซ้ำ
"คุณทำได้ยังไง หมายถึงทำไมคุณถึงเขียนหนังสือได้คะ"
เขายิ้มขัน...นี่เรานัดคุยกันเรื่องทำหนังสือรวมเรื่องสั้นมิใช่หรือ
"เขียนเรื่องสั้นสักเรื่อง นวนิยายสักเล่ม ไม่จำเป็นต้องมองเห็นหรอกครับ แค่มีความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการดีๆ ก็เขียนได้ครับ ไม่มีมือก็ยังมีเท้า ถึงจะมองไม่เห็นก็ใช้อักษรเบรลล์ช่วย หรือถ้าต้องพิมพ์งานส่ง ผมก็อาศัยการฟัง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือโทรศัพท์มือถือของผมมีระบบเสียงบรรยายไว้ช่วยคนตาบอดให้สามารถพิมพ์งานได้เหมือนคนปกติครับ
"..." เธอสบตาเขาอย่างตั้งใจฟัง
"แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แรกๆ ก็หนักหนาเอาการอยู่นะครับ"
"พิมพ์ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเองค่ะ ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดหรอก"
"ขอบคุณครับ"
"เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ ออกทะเลมาไกลแล้ว"
"ครับ"
"เรื่องรวมเล่ม..." เขามองไม่เห็นเป็นทุนเดิม เธอจึงไม่จำเป็นต้องใช้เอกสาร "คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์การรวมเล่มจากการหักค่าหนังสือที่ขายได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคุณตกลงเซ็นสัญญาเป็นนักเขียนของสังกัดเพื่อนหนังสือ นอกจากค่าลิขสิทธิ์ที่คุณจะได้รับ ทางเรายังยกกำไรที่ได้จากการขายหนังสือของคุณทั้งหมดให้เป็นของคุณด้วย..."
"สัญญากี่ปีครับ"
"สองปีค่ะ"
"ผมไม่อยากผูกมัดตัวเอง แต่เรื่องรวมเล่มผมตกลงครับ" เขาคงตาบอดจริงๆ ที่ไม่รับข้อเสนอดีๆ เช่นเซ็นสัญญา แต่ถ้าแลกกับอิสรภาพของตัวเองมันก็คุ้มค่า
"ยังไม่ต้องด่วนตัดสินใจก็ได้ค่ะ"
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ