นักเขียนตาบอด
เขียนโดย ปั้นปึ่งยิ้ม
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.50 น.
แก้ไขเมื่อ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562 20.00 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) -
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพลวัฒน์เก็บโทรศัพท์ลงในถุงนอนของมัน เดินโดยใช้ไม้เหล็กนำทางไปยังที่ที่คิดว่าใช่ เขาเดินมาที่โต๊ะใกล้ๆ ที่นั่งของอธิตาอย่างช้าๆ แล้วเรียก อยากให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้มาผิดทาง
"บ.ก.อธิตาครับ อยู่ตรงไหนครับ"
เสียงเรียกของเขาเรียกความประหลาดใจจากเธอได้
พลวัฒน์คือชายตาบอดคนนั้น!
"อยู่ข้างหน้าค่ะ เดินมาอีกสองสามก้าว" หญิงสาวลุกจากเก้าอี้ ช่วยประคองชายหนุ่มมาที่โต๊ะ "นั่งค่ะ ระวังนะคะ"
"ขอบคุณครับ" น่าอายจริง เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังต้องรับความช่วยเหลือจากผู้หญิง เขาคิดในใจ
เขาน่าทึ่งมาก แถมยังแพร่ความอัศจรรย์ใจใส่เธอพร้อม เขาทำได้อย่างไรไม่รู้ แต่เขาทำได้...ดีเสียด้วย หากเทียบกับอีกหลายคน มีงานเขียนมากมายส่งมายังสำนักพิมพ์ ทว่าเรื่องสั้นของ เจ้าชายกบ หรือพลวัฒน์กลับได้รับการตอบรับและลงตีพิมพ์จำนวนมากเช่นเดียวกับนักเขียนเพชรในตมอีกหลายคน
ถึงเจ้าชายกบจะเขียนเรื่องสั้นได้ดีเด่นมากเพียงใด ก็ยังมีข้อเสียอยู่...การสะกดคำ พบว่าชายหนุ่มเขียนคำผิดมากเหลือ เคยถามตัวเองเหมือนกันว่า บนโลกนี้ มีนักเขียนที่อ่อนภาษาไทยด้วยหรือ แล้วไยอธิตา บรรณาธิการจอมเนี้ยบจึงปล่อยให้ผ่านการพิมพ์เป็นหนังสือได้ ครั้งพบพลวัฒน์หรือเจ้าชายกบตัวจริงเสียงจริง ทุกอย่างก็กระจ่างใจ
เขาไม่ใช่คนธรรมดา
"คุณคือคุณพลว้ฒน์จริงๆ หรอคะ" รู้ว่าเสียมารยาทแต่ใจยังระแวง
บทสนทนาแรกเริ่มขึ้น หลังจากชายหนุ่มวางแก้วโกโก้ลงบนโต๊ะเรียบร้อย
"ครับ ผม...พลวัฒน์" เธอคงคิดว่าเขาไม่ใช่ คนตาบอดที่ไหนจะมาเขียนหนังสือ เขาอาจเป็นคนแรกด้วยซ้ำ
"คุณทำได้ยังไง หมายถึงทำไมคุณถึงเขียนหนังสือได้คะ"
เขายิ้มขัน...นี่เรานัดคุยกันเรื่องทำหนังสือรวมเรื่องสั้นมิใช่หรือ
"เขียนเรื่องสั้นสักเรื่อง นวนิยายสักเล่ม ไม่จำเป็นต้องมองเห็นหรอกครับ แค่มีความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการดีๆ ก็เขียนได้ครับ ไม่มีมือก็ยังมีเท้า ถึงจะมองไม่เห็นก็ใช้อักษรเบรลล์ช่วย หรือถ้าต้องพิมพ์งานส่ง ผมก็อาศัยการฟัง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือโทรศัพท์มือถือของผมมีระบบเสียงบรรยายไว้ช่วยคนตาบอดให้สามารถพิมพ์งานได้เหมือนคนปกติครับ
"..." เธอสบตาเขาอย่างตั้งใจฟัง
"แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แรกๆ ก็หนักหนาเอาการอยู่นะครับ"
"พิมพ์ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเองค่ะ ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดหรอก"
"ขอบคุณครับ"
"เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ ออกทะเลมาไกลแล้ว"
"ครับ"
"เรื่องรวมเล่ม..." เขามองไม่เห็นเป็นทุนเดิม เธอจึงไม่จำเป็นต้องใช้เอกสาร "คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์การรวมเล่มจากการหักค่าหนังสือที่ขายได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคุณตกลงเซ็นสัญญาเป็นนักเขียนของสังกัดเพื่อนหนังสือ นอกจากค่าลิขสิทธิ์ที่คุณจะได้รับ ทางเรายังยกกำไรที่ได้จากการขายหนังสือของคุณทั้งหมดให้เป็นของคุณด้วย..."
"สัญญากี่ปีครับ"
"สองปีค่ะ"
"ผมไม่อยากผูกมัดตัวเอง แต่เรื่องรวมเล่มผมตกลงครับ" เขาคงตาบอดจริงๆ ที่ไม่รับข้อเสนอดีๆ เช่นเซ็นสัญญา แต่ถ้าแลกกับอิสรภาพของตัวเองมันก็คุ้มค่า
"ยังไม่ต้องด่วนตัดสินใจก็ได้ค่ะ"
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ