My dear อยากบอกว่ารักเธอ
9.7
เขียนโดย ฝนดาวตก
วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.06 น.
12 ตอน
6 วิจารณ์
13.90K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 16.41 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 4
ผมเดินกลับเข้ามาในห้องและนั่งคิดว่าเหตุใดเอล่าถึงจำผมไม่ได้ หรือว่าเอล่าโดนยึดความทรงจำเหมือนพี่นิวเยียร์กันนะ ยิ่งคิดยิ่งงง ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ โอ๊ยยยยย แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าทำไมเอล่าถึงจำผมไม่ได้ หรือว่าผมควรกลับไปหาเธอ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นใคร แล้วเธอใช่เอล่าจริงๆ หรือเปล่า แต่ท่านแม่จะยอมให้ผมกลับไปที่นั่นหรอ ยิ่งถ้ารู้ว่าผมต้องการจะกลับไปเพื่อพิสูจน์และตามหาความจริง ท่านแม่ต้องไม่ยอมให้ผมกลับไปแน่ๆ สงสัยผมคงต้องหนีไปแล้วล่ะงานนี้
ณ ร้านอาหารนับตังค์
“คุณครับ คุณครับ ผมอยากทราบว่าวันนี้แม่ครัวอยู่หรือเปล่าครับ” เมื่อผมมาถึงโลกมนุษย์ ผมก็ตรงมาที่ร้านอาหารนับตังค์ทันที
“อยู่ค่ะ ว่าแต่คุณลูกค้าหน้าคุ้นๆนะคะ เหมือนคนโรคจิตที่เคยมีเรื่องกับแม่ครัวที่ร้านเลยค่ะ”
“คงไม่ใช่ผมหรอกครับ ผมออกจะหน้าตาดี คงไม่ใช่โรคจิตหรอกนะครับ” ผมรีบแก้ตัว เพราะกลัวว่าพนักงานจะจำได้
“ค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปตามแม่ครัวให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ” พูดจบพนักงานคนนั้นก็หายไป สักครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมกับเอล่า ไม่สิเธออาจจะไม่ใช่เอล่าก็ได้
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าเรียก..... เฮ้ย!!! ไอ้โรคจิตนี่”
“โรคจิตหรอคะพี่ แต่เขาบอกว่าเขาไม่ใช่โรคจิตนะคะ”
“แล้วมีคนโรคจิตที่ไหนเขายอมรับกันบ้างล่ะว่าเป็นโรคจิตอ่ะ” ดูท่าผมจะแย่แล้วล่ะ เธอคงไม่ยอมเชื่อผมแน่ๆ เลย ว่าผมไม่ใช่โรคจิต
“เอ่อ เออ คือ ผมขอโทษนะครับที่ผมล่วงเกินคุณในครั้งก่อน สงสัยผมจะจำคนผิดนะครับ แล้วที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อมาขอโทษคุณนะครับ”
“นายแน่ใจนะว่านายมาแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง”
“ครับ คุณจะให้อภัยผมได้ไหมครับ”
“ครั้งนี้ฉันยอมให้ก็ได้นะ แต่ถ้านายยังไม่เลิกทำตัวแปลกๆ อีกล่ะก็ ฉันเอานายตายแน่”
“ครับ”
“เข้าใจง่ายๆ ก็ดี”
“คุณชื่ออะไรครับ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณ”
“อะไรกัน อยู่ๆ จะมาขอเป็นเพื่อนฉัน”
“แล้วได้ไหมล่ะ”
“อยากบอกว่าไม่ได้ย่ะ แล้วเรื่องชื่อฉันก็จะไม่บอกนายง่ายๆ หรอกนะ ไอ้โรคจิต” อ้าว นี่เธอยังคิดว่าผมเป็นโรคจิตอีกหรอเนี่ย เฮ้อ ทำไมผู้หญิงเข้าใจยากจริงๆ
“ไหนบอกว่าเชื่อแล้วว่าผมไม่ใช่โรคจิตไง”
“ใช่ ฉันยอมเชื่อ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมไว้ใจนะ”
“แล้วกัน”
“แล้วกง แล้วกันอะไร ฉันไปทำงานก่อนล่ะ ไม่ได้ว่างมาทำตัวโรคจิตใส่คนอื่นแบบนาย” พูดจบเธอก็เดิมกลับเข้าไปในครัว ทิ้งให้ผมนั่งอึ้งอยู่คนเดียว แล้วตกลงเธอจะใช่เอล่าไหมเนี่ย แต่ตอนนี้ความมั่นใจว่าใช่ของผมมันลดน้อยลงไปแล้วล่ะ แต่ผมก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นเพื่อนกับเธอเพื่อหาความจริงหรอกนะ และตอนนี้ผมก็ออกมารอเธอนอกร้าน ว่าแต่นี่ก็มืดแล้วนะ ผมนี่ทนรอนานขนาดนี้เลยหรอ แต่ทำไมเธอยังไม่ออกมากันนะ เมื่อเห็นว่าร้านกำลังจะปิด แต่เธอยังไม่ออกมา ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านเพื่อถามหาเธออีกครั้ง
“เออ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าแม่ครัวกลับไปหรือยัง”
“คือพี่เขากลับไปสักพักแล้วค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรฝากไว้หรือเปล่าคะ”
“ไม่มีครับ ขอบคุณครับ” นี่เธอจะกลับไปได้ยังไง ในเมื่อผมเฝ้าเธอตลอดทั้งวัน สงสัยผมต้องใช้เวทมนตร์ในการตามหาตัวเธอแล้วล่ะงานนี้
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย” เอ๊ะนั่นเสียงของเธอนี่ ผมคงต้องรีบหาตัวเธอก่อนที่เธอจะแย่
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เมื่อผมเจอเธอผมก็ถึงกับหัวเราะดังลั่นเลย
“นี่นาย มัวยืนหัวเราะอะไรกัน มาช่วยฉันเร็วๆ เข้า”
“ฉันไม่หัวเราะแล้วก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเข้าไปช่วยเธอหรอกนะ”
“นี่นายอย่ามากวนประสาทฉันตอนนี้ได้ไหม มาช่วยก่อนแล้วถ้านายขออะไรฉันจะให้ตามคำขอของนายเลย ฉันสัญญา”
“เธอแน่ใจนะว่าจะให้อ่ะ”
“แน่ใจ 100%” ผมยิ้มมุมปากทันทีที่เธอตอบ และรีบเข้าไปช่วยเธอจากฝูงสุนัขทันที
“ไป ไปซะ อย่ามายุ่งกับเธอ พวกหมาจอนจัด” ผมตวาดเสียงดังเพียงไม่กี่คำ พวกมันก็วิ่งหายไปในความมืดราวกับหายตัวได้ แต่น่าแปลกที่ผมไม่เคยเห็นสุนัขสายพันธุ์แบบนี้ที่โลกมนุษย์เลย
“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ฉันไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันเริ่มโอเคแล้วล่ะ ขอบใจนายมากเลยนะ ฉันไปล่ะ” เธอพูดจบก็เดินจากไป แต่ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นหรอก เพราะผมคว้าตัวเธอไว้ได้พอดี
“เดี๋ยวก่อน แค่คำพูดขอบคุณฉันไม่ต้องการ”
“แล้วนายต้องการอะไรล่ะ”
“ก็ที่เธอสัญญามาจะให้ตามที่ฉันขอไงล่ะ” ผมรีบทวงสัญญาก่อนที่เธอจะลืมในสิ่งที่เธอเคยพูดไว้
“ก็ได้ ก็ได้ ว่ามา จะขออะไร”
“ฉันจะขอให้พวกเราเป็นเพื่อนกัน ได้ไหม”
“ก็ได้ ฉันยอมเป็นเพื่อนนายก็ได้”
“เย้ๆ เธอยอมเป็นเพื่อนกับฉันแล้ว” ในที่สุดเธอก็ยอมเป็นเพื่อนกับผมแล้ว ผมดีใจมากจนเผลอเข้าไปกอดเธออีกแล้ว
“นี่ ที่ฉันยอมเป็นเพื่อนกับนายก็เพราะนายช่วยฉันไว้นะ แล้วการที่เราเป็นเพื่อนกันก็ไม่ได้แปลว่านายจะมากอดฉันได้นะ ถ้านายยังอยากจะเป็นเพื่อนกับฉันต่อไปก็อย่าล้ำเส้นกันอีก เข้าใจไหม” เธอผลักผมออก และดุผมยกใหญ่ สงสัยเธอจะไม่ใช่เอล่าจริงๆแล้วล่ะ
“เข้าใจแล้วครับคุณเพื่อน”
“เข้าใจก็ดีแล้ว งั้นฉันกลับได้แล้วใช่ไหม”
“ครับผม เดี๋ยวก่อน” แล้วเธอก็หันหลังและกำลังจะเดินไป แต่ผมนึกได้ว่าผมยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย
“มีอะไรอีกล่ะ”
“เราเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลยนะ”
“ฉันก็ไม่รู้จักชื่อนายเหมือนกันนั่นล่ะ”
“ได้ ฉันชื่อ วาเลน ที่นี้เธอก็รู้จักชื่อฉันแล้วนะ”
“ก็ได้ ก็ได้ ฉันบอกชื่อฉันก็ได้ เอลลี่ นี่ล่ะชื่อของฉัน ฉันไปได้แล้วใช่ไหม”
“ครับ” ผมยิ้มและยืนโบกมือบ๊ายบายเธออยู่ตรงนั้นจนเธอลับตาไป ผมจึงออกตามหาฝูงสุนัขฝูงนั้นเพื่อหาคำตอบให้หายข้องใจ
ผมเดินกลับเข้ามาในห้องและนั่งคิดว่าเหตุใดเอล่าถึงจำผมไม่ได้ หรือว่าเอล่าโดนยึดความทรงจำเหมือนพี่นิวเยียร์กันนะ ยิ่งคิดยิ่งงง ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ โอ๊ยยยยย แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าทำไมเอล่าถึงจำผมไม่ได้ หรือว่าผมควรกลับไปหาเธอ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นใคร แล้วเธอใช่เอล่าจริงๆ หรือเปล่า แต่ท่านแม่จะยอมให้ผมกลับไปที่นั่นหรอ ยิ่งถ้ารู้ว่าผมต้องการจะกลับไปเพื่อพิสูจน์และตามหาความจริง ท่านแม่ต้องไม่ยอมให้ผมกลับไปแน่ๆ สงสัยผมคงต้องหนีไปแล้วล่ะงานนี้
ณ ร้านอาหารนับตังค์
“คุณครับ คุณครับ ผมอยากทราบว่าวันนี้แม่ครัวอยู่หรือเปล่าครับ” เมื่อผมมาถึงโลกมนุษย์ ผมก็ตรงมาที่ร้านอาหารนับตังค์ทันที
“อยู่ค่ะ ว่าแต่คุณลูกค้าหน้าคุ้นๆนะคะ เหมือนคนโรคจิตที่เคยมีเรื่องกับแม่ครัวที่ร้านเลยค่ะ”
“คงไม่ใช่ผมหรอกครับ ผมออกจะหน้าตาดี คงไม่ใช่โรคจิตหรอกนะครับ” ผมรีบแก้ตัว เพราะกลัวว่าพนักงานจะจำได้
“ค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปตามแม่ครัวให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ” พูดจบพนักงานคนนั้นก็หายไป สักครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมกับเอล่า ไม่สิเธออาจจะไม่ใช่เอล่าก็ได้
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าเรียก..... เฮ้ย!!! ไอ้โรคจิตนี่”
“โรคจิตหรอคะพี่ แต่เขาบอกว่าเขาไม่ใช่โรคจิตนะคะ”
“แล้วมีคนโรคจิตที่ไหนเขายอมรับกันบ้างล่ะว่าเป็นโรคจิตอ่ะ” ดูท่าผมจะแย่แล้วล่ะ เธอคงไม่ยอมเชื่อผมแน่ๆ เลย ว่าผมไม่ใช่โรคจิต
“เอ่อ เออ คือ ผมขอโทษนะครับที่ผมล่วงเกินคุณในครั้งก่อน สงสัยผมจะจำคนผิดนะครับ แล้วที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อมาขอโทษคุณนะครับ”
“นายแน่ใจนะว่านายมาแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง”
“ครับ คุณจะให้อภัยผมได้ไหมครับ”
“ครั้งนี้ฉันยอมให้ก็ได้นะ แต่ถ้านายยังไม่เลิกทำตัวแปลกๆ อีกล่ะก็ ฉันเอานายตายแน่”
“ครับ”
“เข้าใจง่ายๆ ก็ดี”
“คุณชื่ออะไรครับ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณ”
“อะไรกัน อยู่ๆ จะมาขอเป็นเพื่อนฉัน”
“แล้วได้ไหมล่ะ”
“อยากบอกว่าไม่ได้ย่ะ แล้วเรื่องชื่อฉันก็จะไม่บอกนายง่ายๆ หรอกนะ ไอ้โรคจิต” อ้าว นี่เธอยังคิดว่าผมเป็นโรคจิตอีกหรอเนี่ย เฮ้อ ทำไมผู้หญิงเข้าใจยากจริงๆ
“ไหนบอกว่าเชื่อแล้วว่าผมไม่ใช่โรคจิตไง”
“ใช่ ฉันยอมเชื่อ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมไว้ใจนะ”
“แล้วกัน”
“แล้วกง แล้วกันอะไร ฉันไปทำงานก่อนล่ะ ไม่ได้ว่างมาทำตัวโรคจิตใส่คนอื่นแบบนาย” พูดจบเธอก็เดิมกลับเข้าไปในครัว ทิ้งให้ผมนั่งอึ้งอยู่คนเดียว แล้วตกลงเธอจะใช่เอล่าไหมเนี่ย แต่ตอนนี้ความมั่นใจว่าใช่ของผมมันลดน้อยลงไปแล้วล่ะ แต่ผมก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นเพื่อนกับเธอเพื่อหาความจริงหรอกนะ และตอนนี้ผมก็ออกมารอเธอนอกร้าน ว่าแต่นี่ก็มืดแล้วนะ ผมนี่ทนรอนานขนาดนี้เลยหรอ แต่ทำไมเธอยังไม่ออกมากันนะ เมื่อเห็นว่าร้านกำลังจะปิด แต่เธอยังไม่ออกมา ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านเพื่อถามหาเธออีกครั้ง
“เออ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าแม่ครัวกลับไปหรือยัง”
“คือพี่เขากลับไปสักพักแล้วค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรฝากไว้หรือเปล่าคะ”
“ไม่มีครับ ขอบคุณครับ” นี่เธอจะกลับไปได้ยังไง ในเมื่อผมเฝ้าเธอตลอดทั้งวัน สงสัยผมต้องใช้เวทมนตร์ในการตามหาตัวเธอแล้วล่ะงานนี้
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย” เอ๊ะนั่นเสียงของเธอนี่ ผมคงต้องรีบหาตัวเธอก่อนที่เธอจะแย่
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เมื่อผมเจอเธอผมก็ถึงกับหัวเราะดังลั่นเลย
“นี่นาย มัวยืนหัวเราะอะไรกัน มาช่วยฉันเร็วๆ เข้า”
“ฉันไม่หัวเราะแล้วก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเข้าไปช่วยเธอหรอกนะ”
“นี่นายอย่ามากวนประสาทฉันตอนนี้ได้ไหม มาช่วยก่อนแล้วถ้านายขออะไรฉันจะให้ตามคำขอของนายเลย ฉันสัญญา”
“เธอแน่ใจนะว่าจะให้อ่ะ”
“แน่ใจ 100%” ผมยิ้มมุมปากทันทีที่เธอตอบ และรีบเข้าไปช่วยเธอจากฝูงสุนัขทันที
“ไป ไปซะ อย่ามายุ่งกับเธอ พวกหมาจอนจัด” ผมตวาดเสียงดังเพียงไม่กี่คำ พวกมันก็วิ่งหายไปในความมืดราวกับหายตัวได้ แต่น่าแปลกที่ผมไม่เคยเห็นสุนัขสายพันธุ์แบบนี้ที่โลกมนุษย์เลย
“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ฉันไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันเริ่มโอเคแล้วล่ะ ขอบใจนายมากเลยนะ ฉันไปล่ะ” เธอพูดจบก็เดินจากไป แต่ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นหรอก เพราะผมคว้าตัวเธอไว้ได้พอดี
“เดี๋ยวก่อน แค่คำพูดขอบคุณฉันไม่ต้องการ”
“แล้วนายต้องการอะไรล่ะ”
“ก็ที่เธอสัญญามาจะให้ตามที่ฉันขอไงล่ะ” ผมรีบทวงสัญญาก่อนที่เธอจะลืมในสิ่งที่เธอเคยพูดไว้
“ก็ได้ ก็ได้ ว่ามา จะขออะไร”
“ฉันจะขอให้พวกเราเป็นเพื่อนกัน ได้ไหม”
“ก็ได้ ฉันยอมเป็นเพื่อนนายก็ได้”
“เย้ๆ เธอยอมเป็นเพื่อนกับฉันแล้ว” ในที่สุดเธอก็ยอมเป็นเพื่อนกับผมแล้ว ผมดีใจมากจนเผลอเข้าไปกอดเธออีกแล้ว
“นี่ ที่ฉันยอมเป็นเพื่อนกับนายก็เพราะนายช่วยฉันไว้นะ แล้วการที่เราเป็นเพื่อนกันก็ไม่ได้แปลว่านายจะมากอดฉันได้นะ ถ้านายยังอยากจะเป็นเพื่อนกับฉันต่อไปก็อย่าล้ำเส้นกันอีก เข้าใจไหม” เธอผลักผมออก และดุผมยกใหญ่ สงสัยเธอจะไม่ใช่เอล่าจริงๆแล้วล่ะ
“เข้าใจแล้วครับคุณเพื่อน”
“เข้าใจก็ดีแล้ว งั้นฉันกลับได้แล้วใช่ไหม”
“ครับผม เดี๋ยวก่อน” แล้วเธอก็หันหลังและกำลังจะเดินไป แต่ผมนึกได้ว่าผมยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย
“มีอะไรอีกล่ะ”
“เราเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลยนะ”
“ฉันก็ไม่รู้จักชื่อนายเหมือนกันนั่นล่ะ”
“ได้ ฉันชื่อ วาเลน ที่นี้เธอก็รู้จักชื่อฉันแล้วนะ”
“ก็ได้ ก็ได้ ฉันบอกชื่อฉันก็ได้ เอลลี่ นี่ล่ะชื่อของฉัน ฉันไปได้แล้วใช่ไหม”
“ครับ” ผมยิ้มและยืนโบกมือบ๊ายบายเธออยู่ตรงนั้นจนเธอลับตาไป ผมจึงออกตามหาฝูงสุนัขฝูงนั้นเพื่อหาคำตอบให้หายข้องใจ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ