My dear อยากบอกว่ารักเธอ

9.7

เขียนโดย ฝนดาวตก

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.06 น.

  12 ตอน
  6 วิจารณ์
  14.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 16.41 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

5) 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 5

          หลังจากที่ผมได้ยืนส่งเธอจนแน่ใจแล้วว่าเธอจะปลอดภัย ผมก็ได้ออกตามหาฝูงสุนัขฝูงนั้น เพราะผมกำลังสงสัยว่าสุนัขพวกนั้นไม่ใช่สุนัขธรรมดาแน่นอน ผมตามรอยเท้าของพวกมันไปเรื่อยๆ จนเข้าไปในป่าลึก แสดงว่าตอนนี้ผมต้องอยู่ในดินแดนของพวกมันแน่นอน เพราะโลกมนุษย์จะไม่มีป่าในลักษณะนี้ มันต้องมีทางเชื่อมระหว่างดินแดนของพวกมันกับโลกมนุษย์อยู่ที่ไหนสักแห่งแน่นอน

          “พวกเรามาตอนรับพ่อมดหนุ่มรูปงาม นามว่า วาเลน แบล็คเวฟ หน่อยเร็ว” เสียงนี้ทำไมมันถึงได้คุ้นหูของผมได้ขนาดนี้นะ หรือว่าจะเป็นไอ้พวกนั้นกันนะ

          “เสียงใคร แน่จริงก็ออกมา อย่าทำตัวเป็นหมาลอบกัดเหมือนสายพันธุ์จะดีกว่านะ” ผมพูดจาท้าทายเพื่อให้บุคคลในเงามืดเปิดเผยตัวออกมา

          “จำกันไม่ได้แล้วหรอ วาเลน นี่ข้าเอง เพื่อนเก่า เพื่อนแก่ของเจ้าไง” เสียงนี้ ต้องใช่มันแน่ๆ

          “ใครล่ะ แต่ข้าว่าข้าไม่เคยมีเพื่อนเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์นะ” ผมพูดพร้อมแสยะยิ้มที่มุมปาก

          “ฮ่าๆๆๆ ปากดีไม่เปลี่ยนเลยนะ สงสัยอยากจะเสียคนรักอีกรอบล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะแบบนี้ เป็นมันแน่นอน ผมมั่นใจ เพราะไม่มีใครหัวเราะได้ชั่วร้ายเท่ามันอีกแล้ว

          “แกออกมาดีกว่า หลบแบบนั้นมันดูขี้ขลาดไปนะ”

          “แกว่าใครขี้ขลาดกัน ข้าแค่ไม่อยากกินเนื้อพ่อมดเพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเองตอนนี้”

          “ถ้าคิดว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้ง่ายๆ ก็มาสิ ข้าไม่เคยกลัวพวกเจ้าอยู่แล้ว”

          “ข้าอยู่นี่แล้ว เจ้าหันหลังมาสิ” สิ้นเสียงนั้นลง ผมก็หันหลังไปทันที และก็พบว่าเป็นมันจริงๆ

          “ไอ้วัลดัส ไอ้หมาขี้ขลาด วันนี้ข้าเจอแกสักที ข้าจะฆ่าแกแล้วเอาหัวของแกไปให้เอล่า”

          “ข้าเห็นเจ้าพูดแบบนี้มาตั้งแต่แม่มดสาวสวยตนนั้นจากไป จนวันนี้เจ้าเพิ่งจะได้เจอข้า แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรอ เจ้าอย่าลืมนะ ว่าเจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ” คำพูดและเสียงหัวเราะของมันทำให้ผมอยากจะฆ่ามันให้ตาย แต่ผมก็ทำไม่ได้อย่างที่มันว่านั่นล่ะ

          “ใช่ ข้าไม่อาจฆ่าเจ้าได้ แต่มีคนทำได้แน่นอน ถ้าเป็นโบการ์ด เขาทำได้แน่ แกว่ายังนั้นไหม”

          “ไอ้วาเลน ที่ข้าใจเย็นกับเจ้ามากแล้วนะ ถ้าเจ้าไม่เลิกปากดี เจ้าคงได้เจ็บตัวก่อนออกไปจากที่นี่แน่นอน” วัลดัสพูดพร้อมพุ่งตัวเข้ามาหาผม แต่ผมหลบทัน มันเลยพุ่งเข้าชนต้นไม้เต็มๆ

          “เจ็บไหมว่ะ ไอ้วัลดัส แกมันไอ้หมาโง่ ต้นไม้มันอยู่ของมันดี ไปพุ่งชนมันทำไมว่ะ ฮ่าๆ” ได้ทีผมก็เยาะเย้ยมันบ้าง แต่เหมือนมันจะยิ่งหัวเสียกว่าเดิม ผมไม่น่าหาเรื่องเลย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องใหญ่อีกจนได้

          “แก แก แก ไอ้วาเลน เป็นไงเป็นกัน วันนี้ข้าต้องได้กินเลือดของเจ้า” พูดจบมันก็กลายร่างเป็นหมาป่าแล้วเตรียมจะขย้ำผม

          “หยุดเดี๋ยวนี้นะวัลดัส” นั่นเสียงของโบการ์ดนี่ โชคดีของผมที่เจ้านั่นมาแถวนี้พอดี

          “โบการ์ด!!!” เมื่อไอ้วัลดัสได้ยินเสียงของโบการ์ดมันก็หยุดทันที และกลายร่างกลับเป็นคนเหมือนเดิม ก่อนที่จะเดินไปหาโบการ์ด

          “ว่ายังไงไอ้ลูกผสม ข้าเบื่อที่จะต้องตามหาเจ้าแล้วนะ ไอ้น้องชั่ว”

          “ถ้าข้าชั่วจริงๆ แล้วเจ้าจะมายุ่งกับข้าทำไม”

          “เจ้ากลับบ้านไปซะ เพราะแม่ของเจ้าคงไม่ชอบสักเท่าไร ถ้ารู้ว่าลูกชายแอบมาก่อเรื่องอีกแล้ว”

          “ก็ได้ ข้ากลับก็ได้ ฝากไว้ก่อนนะไอ้วาเลน เรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆ แน่” วัลดัสยอมกลับไปแต่โดยดี ก็เพราะว่ามันกลัวโบการ์ดและแม่ของมันมาก

          “ขอบใจเจ้ามานะที่มาได้ทันเวลา” เมื่อวัลดัสจากไป ผมก็รีบเข้าไปขอบคุณโบการ์ดทันที

          “ไม่เป็นไร ข้าก็แค่มาตรวจพื้นที่แถวนี้เฉยๆ น่ะ แล้วบังเอิญได้ยินเสียงเหมือนมีใครอยู่แถวนี้ ก็เลยเดินมาดู แล้วก็เป็นเจ้าวัลดัสที่ชอบสร้างเรื่องได้ไม่เว้นแต่ละวัน อีกอย่างคำว่าขอบใจข้าควรเป็นคนพูดกับเจ้ามากกว่า ที่เจ้าไม่รักษาในคำสัญญาของเจ้า”

          “อือ ข้าต้องรักษาสัญญาแน่ เพราะคนในตระกูลแบล็คเวฟยึดถือเรื่องคำพูดเป็นสิ่งสำคัญ”

          “ว่าแต่เจ้าเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน ดินแดนแห่งแวร์วูล์ฟ ถูกปิดไว้ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นขึ้นแล้วนะ”

          “ข้าว่าทางเข้ามันถูกเปิดแล้วล่ะ เพราะข้าได้เจอกับฝูงหมาป่าในร่างของสุนัขในโลกมนุษย์น่ะสิ ก็เลยตามรอยมาดูให้แน่ใจว่าข้าคิดไปเองหรือว่ามันเป็นเรื่องจริง”

          “สงสัยข้าต้องเอาเรื่องนี้ไปแจ้งให้โลเวลรู้แล้วล่ะ”

          “ข้าว่าอย่าดีกว่านะ เพราะว่าน้องชายต่างมารดาของเจ้าอาจเดือดร้อนได้”

          “เจ้ากำลังหมายความว่า”

          “ใช่ วัลดัสเป็นคนเปิดประตูเชื่อมมิติของโลกมนุษย์กับดินแดนแห่งแวร์วูล์ฟ”

          “เจ้าพอจะเดาออกไหมว่าวัลดัสทำไปทำไม”

          “เจ้าเป็นพี่ชายของมัน ทำไมเจ้ายังต้องมาถามข้าซึ่งเป็นศัตรูของมันด้วยล่ะ”

          “ก็เจ้าเป็นเพื่อนที่ดีของข้ากับโลเวลมาตลอดน่ะสิ ข้าถึงอยากได้ความเห็นจากเจ้า”

          “เพื่อทำร้ายข้าอีกครั้งมั้ง เพราะข้าเจอฝูงหมาป่ากำลังจะทำร้ายมนุษย์ผู้ที่มีใบหน้าเหมือนกับเอล่าน่ะสิ”

          “นี่มันจะไม่ยอมยุติเรื่องของเอล่ากับเจ้าอีกหรอ มันจะรู้ตัวไหมว่ากำลังจะทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่”

          “ใช่แล้ว เพราะตามสนธิสัญญาของสี่ดินแดนได้ตกลงกันว่าจะไม่เข้าไปยุ่งหรือทำให้โลกมนุษย์ต้องวุ่นวาย ถ้าดินแดนใดฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษ”

          “กรรมอันใด คนในตระกูลของข้าต้องมีไอ้ลูกผสมอย่างวัลดัสด้วย”

          “ว่าแต่ทำไมเจ้าเรียกวัลดัสว่าลูกผสมล่ะ ข้าว่าจะถามเจ้าตั้งหลายทีแล้ว”

          “อ่อ เจ้าวัลดัสไม่ได้มีเชื้อสายของหมาป่า 100% น่ะ มันเป็นลูกครึ่งผสมระหว่าง หมาป่าและไลแคนท์ มันถึงได้มีขนสีขาวป่นน้ำตาลยังไงล่ะ”

          “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าแม่ของวัลดัสเป็นไลแคนท์อย่างนั้นหรอ”

          “ใช่ แม่ของวัลดัสเป็นไลแคนท์ที่ขอมาหลบภัยที่ดินแดนแห่งแวร์วูล์ฟ ตอนที่พวกเรากำลังแบ่งเผ่าพันธุ์กันน่ะ มันเกิดสงครามภายใน เลยทำให้หมาป่าต้องแบ่งเป็น แวร์วูล์ฟกับไลแคนท์น่ะ”

          “ข้าก็นึกว่าดินแดนของพวกเจ้าจะสงบเสียอีก”

          “ทุกดินแดนก็คิดเช่นนั้น แต่ข้าว่าเจ้ากลับไปได้แล้วล่ะ อยู่ที่นี่นานๆ จะไม่ดีกับตัวเจ้าเองนะ”

          “อือ งั้นข้าไปล่ะ  เออว่าแต่ข้าจะออกไปทางไหนล่ะ ในเมื่อตอนข้าเข้ามาข้าตามรอยของฝูงหมาป่ามา”

          “โทษทีข้าลืมไปว่าเจ้าไม่รู้ทางเข้าออกของพวกข้า ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าไปส่งเจ้าเอง อีกอย่างข้าอยากไปเจอมนุษย์ที่หน้าเหมือนเอล่าที่เจ้าบอกด้วย”

          “ไปสิ แต่ข้าบอกก่อนนะว่าเจอได้แต่เจ้าห้ามรักนางเด็ดขาด เพราะคนนี้ข้าจองแล้ว” ผมพูดไปอมยิ้มไป

          “เจ้านี่ยังคงรักแต่เอล่าสินะ แต่เจ้าอย่าลืมนะว่านางเป็นมนุษย์ นางไม่ใช่เอล่า ทางที่ดีเจ้าอย่าให้นางต้องเป็นตัวแทนของเอล่าเลย”

          “แต่อีกใจข้าก็แอบคิดว่านางอาจจะเป็นเอล่าก็ได้นะ เพราะนางมีทุกอย่างเหมือนเอล่า ยกเว้นความทรงจำก็เท่านั้น”

          “เจ้านี่ดื้อไม่เปลี่ยน เอาเถอะข้าจะไปส่งเจ้า และขอไปเจอนางหน่อยก็แล้วกัน”

          “ตกลง แต่เจ้าไปได้แค่แอบดูหน้าของนางเท่านั้นนะ ห้ามให้นางเห็นหน้าเจ้า เพราะถ้านางเป็นเอล่า นางต้องหนีไปแน่ๆ”

          “ได้ ข้าตกลง ว่าแต่เจ้าจะหวงอะไรขนาดนั้น ยังไม่ได้พิสูจน์เลยว่าเป็นเอล่าจริงหรือเปล่า”

          “เรื่องของข้า ไปกันได้แล้ว” เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้วโบการ์ดก็พาผมออกจากดินแดนแห่งแวร์วูล์ฟ แล้วพวกเราก็แอบไปดูเอลลี่ด้วยกันที่ร้านอาหารนับตังค์

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา