บันทึกเส้นทางในภพโลก
6.7
เขียนโดย เจ้าหญิงเกย์
วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.19 น.
5 ตอน
6 วิจารณ์
9,675 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 04.32 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) วัยเรียน (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเด็กแรง
ฉันกำลังโดนรถชน.....
โคม!! โคม!! ตึก ตึก ตึก ตึก.............
------------------------------------------------------
โลกสีขาว
''ฉัน เอ๊ะ!!....เมื่อกี๊ ไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ทำไมพื้นที่ว่างเปล่า...."
ฉันได้หันไปรอบข้าง แล้วมีคนกำลังเดินมาหาฉัน ขนาดที่ฉันกำลังยืนอยู่
'เอาละ พึ่งจบไปคนเมื่อกี้ มาอีกแล้วสินะ ดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กซะด้วย'
"ฉันหรอ<---"
'มีคนเดียว ไม่เห็นมีใครมาด้วยนิ'
"แล้วคุณคือใครหรอค่ะ"
ฉันเริ่มเดินถอยหลัง เพราะ เขาเริ่มเขามาใหล้ฉัน ฉันรู้สึกกลัว
'คุณเริ่มกลัวผมสินะ ไม่ต้องกลัวผมไม่ได้มาทำไรคุณ'
เขารู้ที่ฉันกำลังคิดเขาอ่านใจฉันได้หรอ ทำไงดีทำไงดี
"ฉันไม่ได้กลัวคุณ"
'ปากแข็งจังเลย คุณเป็นคนเข้มแข็งดีเนอะ'
"ไม่หรอก......"
คำตอบของฉันมันดูเหมือนไม่ใช่ความจริงเลย เสียใจจัง รู้สึกเจ็บใจทีละนิด
'หื้ม'
"ไม่มีไรหรอก แล้วนายเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่ที่ไหน นายรู้ไหม"
'อ่า....ผมไม่เอยนามนะครับ แต่ผมมีทางให้คุณเลือกระหว่างคุณจะไปต่อหรือจะตาย'
"คุณเป็นยมภูติหรอฉันไม่รู้หรอกว่า จะทำไร มันน่าจะจบแล้วละ"
'คุณจะบอกว่า ตาย หรอครับ'
"ไม่มีทางที่จะกลับไปได้หรอก กลับไปก็ชีวิตแย่เหมือนเดิม"
ฉันได้นึกภาพที่ฉันได้เรื่องผิดพลาดไปใหญ่จนครอบครัวเสียชื่อและตระกูล
----------------------------------------------------------------
ภาพที่นึกขึ้นในหัวฉัน
ตอนเด็กฉันอยู่ในฐานะร่ำรวย เลี้ยงเหมือนลูกผู้ดี พ่อมีบริษัทใหญ่เขารวยมาก และแม่ฉันเป็นหมอแต่.....ฉันไม่ได้ถูกเลี้ยงด้วยพ่อแม่ พ่อแม่ของฉันจ้างคนใช้มาเลี้ยงฉันแทน ฉันไม่ชอบเลยที่ให้คนอื่นมาเลี้ยงฉันแทนพ่อแม่ฉันเสียใจและร้องไห้ทุกวัน และแล้วฉันโตขึ้นฉันได้เขาไปในโรงเรียนดัง ฉันก็ไม่ได้เรียนอะไรหรอก ฉันโดดเรียนประจำ พ่อฉันก็ยัดเงินให้ไม่มีใครบอกเรื่องนี้ และฉันโดนพ่อว่า ซ้ำแล้วซ้ำเร้า ว่าฉันไม่ตั้งใจเรียน แต่ฉันไม่ได้ฟังเขาหรอกฉันก็รีบขึ้นห้องไป แต่ฉันไม่ได้ให้ใครได้รู้ว่าฉันขายของออนไลน์ไว้ เพื่อที่ฉันจะเก็บตังเอง โดยไม่ง้อใครและฉันได้เจอใบสมัครใบหนึ่งเป็นพริตตี้ขายรถ ฉันรีบรับสมัครแบบไม่ทันคิดว่ามันเป็นเรื่องแย่ และก็ไม่แย่ไปซะทุกอย่าง ตอนที่ฉันไปสมัคร ผู้บริหารรับสมัครทันทีแล้วเขาสอนฉันทุกอย่างและมีคนดูแลคนหนึ่งเป็นผู้หญิงเขารุ่นประมาณน้าแต่ฉันเรียกเขาว่าพี่ จะได้ดูเป็นมิตรดีกว่าที่เจอ และฉันได้ทำงานนี้ไปเรื่อยๆจนฉันดัง....และแล้วพ่อได้รู้เรื่องนี้ เขาให้ฉันออกจากงานนี้มันเป็นสิ่งไม่ดีเหมือนขายบริการ เสียเนื้อเสียตัวมากแค่ไหน พ่อรู้สึกเสียใจมากและเขาร้องไห้ต่อหน้าฉัน ฉันยืนนิ่งไปแล้วหนีออกจากบ้านไปขนาดที่ฉันหนีไป ฉันโทรตามพี่ให้มารับฉัน(คนดูแล) ฉันยืนนิ่งระหว่างฉัน ฉันได้เห็นพ่อของฉันร้องไห้ครั้งแรกไม่เคยเห็นใครร้องไห้ขนาดนั้นเลยฉันรู้สึกเสียใจมากๆ และแล้วพี่ก็มาถึงฉันรีบขึ้นรถแล้วบอกไปบ้านพี่เขา ฉันอยู่ที่นี้ไม่ได้พ่อของฉันเขารู้แล้วว่าฉันเป็นยังไง ฉันเล่าให้พี่เขาฟัง พี่ได้รับฟังและแล้วเขาเข้าใจความรู้สึกของฉันเขาเลยพาฉันไปนอนบ้านเขาก็แล้วค่อยหาที่พักใหม่ หลายวันผ่านไปแม่ฉันยังไม่รู้เรื่องฉันเพราะแม่ยังยุ่งกับคนป่วยยุ่งเสมอด้วย และพ่อฉันไม่ติดต่อเลย ฉันก็ยังเสียใจอยู่ดี แต่พี่(คนดูแล)ของฉัน พาฉันมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งลูกค้าติดต่อมา และได้นัดพบกัน ตอนนั้นเองเขาให้ฉันอยุ่สองต่อสองกับลูกค้า ทำให้รู้สึกหวาดกลัว และแล้วเขาก็จะทำอะไรกับฉันแบบไม่คาดฝัน แต่ฉันรุ้ทันเลยรีบหนีออกจากโรงแรมนั้นและแล้ว ตอนที่ฉันวิ่งหนี รถกระบะกำลังขับมาอย่างแรงทำให้ฉันนิ่งไปกับที่รถกำลังขับมา และแล้ว ..... ตึก ตึก ตึก
----------------------------------------------------------------
โลกสีขาว
'ผมคิดว่าคุณลองคิดอีกทีนะครับ'
เขากำลังให้ฉันหวั่นไหวอีกครั้ง
"คุณหมายถึงอะไรหรอค่ะ"
เขากำลังมองที่หน้าฉัน แล้วกำลังใบ้อะไรบางอย่าง
'มีอะไรให้ดู'
-----------------------------------------------------------------
โลกปัจจุบัน
'คุณค่ะ ไม่เป็นไรนะค่ะอย่าเศร้านะค่ะ ลูกเราปลอดภัยดีอยู่ค่ะ'
"ครับที่รัก ผมรู้สึกผิดอย่างมาก"
'ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันค่่ะ'
"ผมไม่น่าทำอย่างงั้นกับเขาเลยครับ"
'ลูกเราต้องปลอดภัยค่ะแต่ฉันไม่รู้ว่าลูกจะพิการไหม? ฉันกลัวมากเลยค่ะ'
-------------------------------------------------------------------------------
ตอนอดีตของพ่อ
ผมเป็นเด็กที่ไม่เรียนฐานะปานกลางไม่มีไรเป็นพิเศษนัก เป็นนักเลงมากกว่าจะส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนที่ร่วมไม่เรียนวิชานั้นๆมันรู้สึก สนุกๆ ในแต่ละวันของการเรียน ชวนไปห้องน้ำนั้งข้างนอก ไปคุยเรื่องสาวๆในโรงเรียนแต่ละคนสเปคไม่เหมือนกันเลย บางครั้งก็มีเรื่องกับรุ่นน้องแย่งที่นั้ง เรื่องชกต่อยตี ตอนเรียนก็ไม่ได้คิดไร แต่พอวันหนึ่งมีเด็กย้ายมาเข้าในโรงเรียน เป็นผู้หญิงที่ผมตกหลุมรัก แต่เพื่อนในกลุ่มนี้ชอบไปล้อไปแกล้ง ผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ผมก็ต้องแกล้งเขาเหมือนกันแต่ก็ไม่อยากจะแกล้งเธอเลย และตลอดเวลาที่เธอได้ย้ายเข้ามาเขารุ้สึกทุกข์ทรมาน แล้ววันหนึ่งเราได้บังเอิจเจอเฟสเขา ผมก็แอบสมัครใหม่ไปทักเขาอีกที เราก็ได้แอบคุยกัน และคบกันได้ประมาณมา 8 เดือน และแล้วเพื่อนก็รู้ว่า ผมกับเธอได้คบกัน จึงทำให้มีปัญหา มีเรื่องทะเลาะชกต่อยกัน จนถึงกับเข้าห้องปกครอง ทำให้ผมนั้นโดนปรับพฤติกรรมแย่ และ เพื่อนที่ชกต่อยกันมีเช่นกัน ผมก็ถูกโดนพักการเรียนไป 1 เดือน ระหว่างที่ผมจะตัดสินใจว่าจะลาออกดีไหม? เธอที่เป็นแฟนผมได้ บอกว่า 'ไม่เป็นไรน้า เดี่ยวมันก็ผ่านไป****' เธอได้ปลอบผม แล้วให้กำลังผมตลอดที่ผมถูกพักการเรียน เพื่อนผมตัดขาดกัน ผมได้รู้ว่าเพื่อนสนิทกลายมาเป็นศัตรูกัน และแล้ว ผ่านไป 1 เดือน ก็ไม่ถูกโดนพักการเรียนอีก ก็กลับมาเรียนปกติ แต่แล้วมันก็ไม่ปกติหรอก เพราะผมและเพื่อนต่างแยกกันอยู่ ผมก็รู้สึกเสียใจนะครับที่เสียเพื่อนไป อยากไปขอโทษเขานะครับ แต่ก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะ เขาลาออกไปแล้ว เฟสบุ๊คก็โดนบล็อกไปแล้ว ตอนนี้ผมเหลือแต่แฟนครับ เธอสอนผมระหว่างที่ถูกพักการเรียน ผมคิดว่ามันสนุกมากและบางครั้ง ผมกับเธออยู่กันสองต่อสอง ผมจะชอบคิดไม่ดีกับเธอ แต่เธอค่อยเตือนว่า 'ยังไม่ถึงเวลานั้นนะ อย่าพึ่งเลย เราเป็นแค่เด็กอารมณ์มันพาไปแค่นั้น' แล้วผมกับเธอก็อยู่ด้วยกันจนถึงมหาลัยครับ เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไหร่ ผมก็ได้เป็นเดือนครับ ฮอตสุดๆสาวมาจีบกัน ผมก็ชอบตอบไปว่า 'ผมมีแฟนแล้วครับ' และบางคนก็มาว่าแฟนผมไม่สวย เฉย หุ่นไม่ดี แต่ผมก็ไม่สนใจคำพูดนั้น ผมก็ตั้งใจเรียน และแล้วผมก็ได้เจอเพื่อนสนิทที่กลายมาเป็นศัตรู เราก็กลับมาเป็นเพื่อนกัน เพราะ ผมขอโทษเขา และ เขาก็ขอโทษผมเหมือนกัน เรื่องราวเลยดีขึ้น ผมและแฟนก็จบกันไป เธอก็ได้เป็นแพทย์ และเธอคนนี้เป็นแม่ และ ผมเป็นนักธุรกิจใหญ่ได้เป็นพ่อหลังเราแต่งงานกัน ผมและเธอ ก็ได้เลี้ยงดูเด็กน้อยที่คลอดออกมาเอ็นดูจนวันหนึ่ง ธุรกิจของผมกำลังเจอวิกิตใหญ่ทำให้ผมไม่ได้ดูแลลูกไปหลายปี และเธอก็ติดคนไข้ที่ระบาดทำให้ดูแลไม่ได้เช่นกัน และแล้วธุรกิจของผมได้กลับมาผลดีอีกครั้ง ทำให้ผมนึกถึงว่าลูกผมน่าจะโตเป็นคนที่ดี ไม่เหมือนผม แต่แล้ว ลูกผมได้เหมือนผมไป และเธอได้หนีไปจากบ้าน ทำให้ผมเสียใจ แม่เธอก็เสียใจแต่เขาก็ติดคนไข้อย่างหนัก ทำให้กังวล และผมได้ไปหาที่ลูกอยู่ และก็ไม่พบจนมาเจอในทีวี ผมก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นพริตตี้ ผมก็รู้สึกว่ามันไม่อันตรายไปหรอ ผมจึงได้ไปหาลูก และเห็นลูกสภาพที่แต่งตัวร่องมาก ผมเลยว่า 'ลูกไปทำทำไม มันเหมือนขายบริการตัวเองนะ !!! อย่าทำแบบนี้ ออกจากงานเดี่ยวนี้!!' และลูกก็ไม่ได้ฟังผมเลย ผมน้ำตาไหลออกมา มันเป็นผลเวรกรรมหรือไง ลูกผมเดินตักหน้าผมแล้วไปไหนของเธอไม่รู้ผมไม่คิดว่าผมไม่สามารถ บังคับเธอได้ แต่ผมก็นั่งร้องไห้เหมือนเด็กแล้วโทรหาแม่เธอ แม่เธอก็ปลอบใจผมว่า 'คุณไม่เป็นไรนะค่ะ คุณควรฟังที่ลูกพูด คุณควรไปหาลูกด้วยนะค่ะ เพราะ เธอคือลูก ไม่ว่ายังไง เธอเป็นลูกเราค่ะ ฉันรักคุณ' แม่เธอได้วางสายไป ผมก็เรียกคนมาช่วยหาลูกสาวผม ก็ที่ผมจะไปหาลูกผมเห็นรถคันหนึ่งที่เธอนั่งไป ผมจำทะเบียนได้ แล้วให้คนขับรถตามเธอไปอีกที แล้วผมก็พบว่าเธออยู่บ้านกับคนๆหนึ่ง และผมให้คนตามเธอตลอด ณ เวลานั้น เพราะผมไม่สามารถไปได้ มีงานด่วนเข้ามาอีกพอดี และแล้วคนของผมเห็นลูกผมไปโรงแรมก็ไม่ด้มีปฏิกิริยาอะไร จนเห็นเธอวิ่งหนี แล้วบังเอิญเหตุการณ์ไม่ดี เธอถูกรถชน คนของผมไปช่วยเธอไปโรงพยาบาล จนตอนนี้ลูกยังไม่ฟื้นเลย ผมไม่อยากให้ลูกจากไปอย่างงี้.... น้ำตาผมก็เริ่มไหลลงมา
---------------------------------------------------------------------------------------------
ณ โลกสีขาว
ฉันเห็นอะไรบางอย่างที่เห็นคือพ่อตอนเด็ก ทำไมมันอยู่ในหัวได้ละ
'สงสัยน่ะสิครับ?'
"ค่ะ มันก็ต้องสงสัยอยู่แล้ว"
'แล้วคุณว่าคุณนิสัยเหมือนใครกันแน่ครับ'
"....."
ฉันไม่ตอบอะไรเขา ฉันเงียบไว้
"ทางไปตายทางไหนหรอค่ะ??"
'คุณเลือกแล้วสินะครับ'
.... ฉันไม่ลังเลอะไรเลยฉันได้คิดว่าการที่กลับไปก็ไม่ช่วยอะไรเลย มันอาจจะแย่ลง ฉันกำลังเดินไปทางตายนั้น ฉันก้มหน้าร้องไห้มา
"เดี๋ยวก่อน!!!"
ฉันหันไปข้างหลัง ฉันได้พบกับพ่อของฉัน ฉันตกใจหนักมาก ฉันได้เดินไปหาเขา เขาเอามือสองข้างของเขามาอบกอดเขา แล้วเขาบอกฉันว่า "อย่าไปเลยนะ T_T" พ่อของฉันร้องไห้ออกมาเป็นครั้งที่สองที่ฉันเห็น และแล้วฉันก็ได้เปลี่ยนความคิดนั้น จน.....
------------------------------------------------------------------------------------------
ณ โลกปัจจุบัน ที่บ้าน
'เด็กดีของพ่อ ยืนขึ้นได้แล้ว ฮึบ'
"ค่ะคุณพ่อ"
End
ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า
ฉันกำลังโดนรถชน.....
โคม!! โคม!! ตึก ตึก ตึก ตึก.............
------------------------------------------------------
โลกสีขาว
''ฉัน เอ๊ะ!!....เมื่อกี๊ ไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ทำไมพื้นที่ว่างเปล่า...."
ฉันได้หันไปรอบข้าง แล้วมีคนกำลังเดินมาหาฉัน ขนาดที่ฉันกำลังยืนอยู่
'เอาละ พึ่งจบไปคนเมื่อกี้ มาอีกแล้วสินะ ดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กซะด้วย'
"ฉันหรอ<---"
'มีคนเดียว ไม่เห็นมีใครมาด้วยนิ'
"แล้วคุณคือใครหรอค่ะ"
ฉันเริ่มเดินถอยหลัง เพราะ เขาเริ่มเขามาใหล้ฉัน ฉันรู้สึกกลัว
'คุณเริ่มกลัวผมสินะ ไม่ต้องกลัวผมไม่ได้มาทำไรคุณ'
เขารู้ที่ฉันกำลังคิดเขาอ่านใจฉันได้หรอ ทำไงดีทำไงดี
"ฉันไม่ได้กลัวคุณ"
'ปากแข็งจังเลย คุณเป็นคนเข้มแข็งดีเนอะ'
"ไม่หรอก......"
คำตอบของฉันมันดูเหมือนไม่ใช่ความจริงเลย เสียใจจัง รู้สึกเจ็บใจทีละนิด
'หื้ม'
"ไม่มีไรหรอก แล้วนายเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่ที่ไหน นายรู้ไหม"
'อ่า....ผมไม่เอยนามนะครับ แต่ผมมีทางให้คุณเลือกระหว่างคุณจะไปต่อหรือจะตาย'
"คุณเป็นยมภูติหรอฉันไม่รู้หรอกว่า จะทำไร มันน่าจะจบแล้วละ"
'คุณจะบอกว่า ตาย หรอครับ'
"ไม่มีทางที่จะกลับไปได้หรอก กลับไปก็ชีวิตแย่เหมือนเดิม"
ฉันได้นึกภาพที่ฉันได้เรื่องผิดพลาดไปใหญ่จนครอบครัวเสียชื่อและตระกูล
----------------------------------------------------------------
ภาพที่นึกขึ้นในหัวฉัน
ตอนเด็กฉันอยู่ในฐานะร่ำรวย เลี้ยงเหมือนลูกผู้ดี พ่อมีบริษัทใหญ่เขารวยมาก และแม่ฉันเป็นหมอแต่.....ฉันไม่ได้ถูกเลี้ยงด้วยพ่อแม่ พ่อแม่ของฉันจ้างคนใช้มาเลี้ยงฉันแทน ฉันไม่ชอบเลยที่ให้คนอื่นมาเลี้ยงฉันแทนพ่อแม่ฉันเสียใจและร้องไห้ทุกวัน และแล้วฉันโตขึ้นฉันได้เขาไปในโรงเรียนดัง ฉันก็ไม่ได้เรียนอะไรหรอก ฉันโดดเรียนประจำ พ่อฉันก็ยัดเงินให้ไม่มีใครบอกเรื่องนี้ และฉันโดนพ่อว่า ซ้ำแล้วซ้ำเร้า ว่าฉันไม่ตั้งใจเรียน แต่ฉันไม่ได้ฟังเขาหรอกฉันก็รีบขึ้นห้องไป แต่ฉันไม่ได้ให้ใครได้รู้ว่าฉันขายของออนไลน์ไว้ เพื่อที่ฉันจะเก็บตังเอง โดยไม่ง้อใครและฉันได้เจอใบสมัครใบหนึ่งเป็นพริตตี้ขายรถ ฉันรีบรับสมัครแบบไม่ทันคิดว่ามันเป็นเรื่องแย่ และก็ไม่แย่ไปซะทุกอย่าง ตอนที่ฉันไปสมัคร ผู้บริหารรับสมัครทันทีแล้วเขาสอนฉันทุกอย่างและมีคนดูแลคนหนึ่งเป็นผู้หญิงเขารุ่นประมาณน้าแต่ฉันเรียกเขาว่าพี่ จะได้ดูเป็นมิตรดีกว่าที่เจอ และฉันได้ทำงานนี้ไปเรื่อยๆจนฉันดัง....และแล้วพ่อได้รู้เรื่องนี้ เขาให้ฉันออกจากงานนี้มันเป็นสิ่งไม่ดีเหมือนขายบริการ เสียเนื้อเสียตัวมากแค่ไหน พ่อรู้สึกเสียใจมากและเขาร้องไห้ต่อหน้าฉัน ฉันยืนนิ่งไปแล้วหนีออกจากบ้านไปขนาดที่ฉันหนีไป ฉันโทรตามพี่ให้มารับฉัน(คนดูแล) ฉันยืนนิ่งระหว่างฉัน ฉันได้เห็นพ่อของฉันร้องไห้ครั้งแรกไม่เคยเห็นใครร้องไห้ขนาดนั้นเลยฉันรู้สึกเสียใจมากๆ และแล้วพี่ก็มาถึงฉันรีบขึ้นรถแล้วบอกไปบ้านพี่เขา ฉันอยู่ที่นี้ไม่ได้พ่อของฉันเขารู้แล้วว่าฉันเป็นยังไง ฉันเล่าให้พี่เขาฟัง พี่ได้รับฟังและแล้วเขาเข้าใจความรู้สึกของฉันเขาเลยพาฉันไปนอนบ้านเขาก็แล้วค่อยหาที่พักใหม่ หลายวันผ่านไปแม่ฉันยังไม่รู้เรื่องฉันเพราะแม่ยังยุ่งกับคนป่วยยุ่งเสมอด้วย และพ่อฉันไม่ติดต่อเลย ฉันก็ยังเสียใจอยู่ดี แต่พี่(คนดูแล)ของฉัน พาฉันมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งลูกค้าติดต่อมา และได้นัดพบกัน ตอนนั้นเองเขาให้ฉันอยุ่สองต่อสองกับลูกค้า ทำให้รู้สึกหวาดกลัว และแล้วเขาก็จะทำอะไรกับฉันแบบไม่คาดฝัน แต่ฉันรุ้ทันเลยรีบหนีออกจากโรงแรมนั้นและแล้ว ตอนที่ฉันวิ่งหนี รถกระบะกำลังขับมาอย่างแรงทำให้ฉันนิ่งไปกับที่รถกำลังขับมา และแล้ว ..... ตึก ตึก ตึก
----------------------------------------------------------------
โลกสีขาว
'ผมคิดว่าคุณลองคิดอีกทีนะครับ'
เขากำลังให้ฉันหวั่นไหวอีกครั้ง
"คุณหมายถึงอะไรหรอค่ะ"
เขากำลังมองที่หน้าฉัน แล้วกำลังใบ้อะไรบางอย่าง
'มีอะไรให้ดู'
-----------------------------------------------------------------
โลกปัจจุบัน
'คุณค่ะ ไม่เป็นไรนะค่ะอย่าเศร้านะค่ะ ลูกเราปลอดภัยดีอยู่ค่ะ'
"ครับที่รัก ผมรู้สึกผิดอย่างมาก"
'ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันค่่ะ'
"ผมไม่น่าทำอย่างงั้นกับเขาเลยครับ"
'ลูกเราต้องปลอดภัยค่ะแต่ฉันไม่รู้ว่าลูกจะพิการไหม? ฉันกลัวมากเลยค่ะ'
-------------------------------------------------------------------------------
ตอนอดีตของพ่อ
ผมเป็นเด็กที่ไม่เรียนฐานะปานกลางไม่มีไรเป็นพิเศษนัก เป็นนักเลงมากกว่าจะส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนที่ร่วมไม่เรียนวิชานั้นๆมันรู้สึก สนุกๆ ในแต่ละวันของการเรียน ชวนไปห้องน้ำนั้งข้างนอก ไปคุยเรื่องสาวๆในโรงเรียนแต่ละคนสเปคไม่เหมือนกันเลย บางครั้งก็มีเรื่องกับรุ่นน้องแย่งที่นั้ง เรื่องชกต่อยตี ตอนเรียนก็ไม่ได้คิดไร แต่พอวันหนึ่งมีเด็กย้ายมาเข้าในโรงเรียน เป็นผู้หญิงที่ผมตกหลุมรัก แต่เพื่อนในกลุ่มนี้ชอบไปล้อไปแกล้ง ผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ผมก็ต้องแกล้งเขาเหมือนกันแต่ก็ไม่อยากจะแกล้งเธอเลย และตลอดเวลาที่เธอได้ย้ายเข้ามาเขารุ้สึกทุกข์ทรมาน แล้ววันหนึ่งเราได้บังเอิจเจอเฟสเขา ผมก็แอบสมัครใหม่ไปทักเขาอีกที เราก็ได้แอบคุยกัน และคบกันได้ประมาณมา 8 เดือน และแล้วเพื่อนก็รู้ว่า ผมกับเธอได้คบกัน จึงทำให้มีปัญหา มีเรื่องทะเลาะชกต่อยกัน จนถึงกับเข้าห้องปกครอง ทำให้ผมนั้นโดนปรับพฤติกรรมแย่ และ เพื่อนที่ชกต่อยกันมีเช่นกัน ผมก็ถูกโดนพักการเรียนไป 1 เดือน ระหว่างที่ผมจะตัดสินใจว่าจะลาออกดีไหม? เธอที่เป็นแฟนผมได้ บอกว่า 'ไม่เป็นไรน้า เดี่ยวมันก็ผ่านไป****' เธอได้ปลอบผม แล้วให้กำลังผมตลอดที่ผมถูกพักการเรียน เพื่อนผมตัดขาดกัน ผมได้รู้ว่าเพื่อนสนิทกลายมาเป็นศัตรูกัน และแล้ว ผ่านไป 1 เดือน ก็ไม่ถูกโดนพักการเรียนอีก ก็กลับมาเรียนปกติ แต่แล้วมันก็ไม่ปกติหรอก เพราะผมและเพื่อนต่างแยกกันอยู่ ผมก็รู้สึกเสียใจนะครับที่เสียเพื่อนไป อยากไปขอโทษเขานะครับ แต่ก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะ เขาลาออกไปแล้ว เฟสบุ๊คก็โดนบล็อกไปแล้ว ตอนนี้ผมเหลือแต่แฟนครับ เธอสอนผมระหว่างที่ถูกพักการเรียน ผมคิดว่ามันสนุกมากและบางครั้ง ผมกับเธออยู่กันสองต่อสอง ผมจะชอบคิดไม่ดีกับเธอ แต่เธอค่อยเตือนว่า 'ยังไม่ถึงเวลานั้นนะ อย่าพึ่งเลย เราเป็นแค่เด็กอารมณ์มันพาไปแค่นั้น' แล้วผมกับเธอก็อยู่ด้วยกันจนถึงมหาลัยครับ เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไหร่ ผมก็ได้เป็นเดือนครับ ฮอตสุดๆสาวมาจีบกัน ผมก็ชอบตอบไปว่า 'ผมมีแฟนแล้วครับ' และบางคนก็มาว่าแฟนผมไม่สวย เฉย หุ่นไม่ดี แต่ผมก็ไม่สนใจคำพูดนั้น ผมก็ตั้งใจเรียน และแล้วผมก็ได้เจอเพื่อนสนิทที่กลายมาเป็นศัตรู เราก็กลับมาเป็นเพื่อนกัน เพราะ ผมขอโทษเขา และ เขาก็ขอโทษผมเหมือนกัน เรื่องราวเลยดีขึ้น ผมและแฟนก็จบกันไป เธอก็ได้เป็นแพทย์ และเธอคนนี้เป็นแม่ และ ผมเป็นนักธุรกิจใหญ่ได้เป็นพ่อหลังเราแต่งงานกัน ผมและเธอ ก็ได้เลี้ยงดูเด็กน้อยที่คลอดออกมาเอ็นดูจนวันหนึ่ง ธุรกิจของผมกำลังเจอวิกิตใหญ่ทำให้ผมไม่ได้ดูแลลูกไปหลายปี และเธอก็ติดคนไข้ที่ระบาดทำให้ดูแลไม่ได้เช่นกัน และแล้วธุรกิจของผมได้กลับมาผลดีอีกครั้ง ทำให้ผมนึกถึงว่าลูกผมน่าจะโตเป็นคนที่ดี ไม่เหมือนผม แต่แล้ว ลูกผมได้เหมือนผมไป และเธอได้หนีไปจากบ้าน ทำให้ผมเสียใจ แม่เธอก็เสียใจแต่เขาก็ติดคนไข้อย่างหนัก ทำให้กังวล และผมได้ไปหาที่ลูกอยู่ และก็ไม่พบจนมาเจอในทีวี ผมก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นพริตตี้ ผมก็รู้สึกว่ามันไม่อันตรายไปหรอ ผมจึงได้ไปหาลูก และเห็นลูกสภาพที่แต่งตัวร่องมาก ผมเลยว่า 'ลูกไปทำทำไม มันเหมือนขายบริการตัวเองนะ !!! อย่าทำแบบนี้ ออกจากงานเดี่ยวนี้!!' และลูกก็ไม่ได้ฟังผมเลย ผมน้ำตาไหลออกมา มันเป็นผลเวรกรรมหรือไง ลูกผมเดินตักหน้าผมแล้วไปไหนของเธอไม่รู้ผมไม่คิดว่าผมไม่สามารถ บังคับเธอได้ แต่ผมก็นั่งร้องไห้เหมือนเด็กแล้วโทรหาแม่เธอ แม่เธอก็ปลอบใจผมว่า 'คุณไม่เป็นไรนะค่ะ คุณควรฟังที่ลูกพูด คุณควรไปหาลูกด้วยนะค่ะ เพราะ เธอคือลูก ไม่ว่ายังไง เธอเป็นลูกเราค่ะ ฉันรักคุณ' แม่เธอได้วางสายไป ผมก็เรียกคนมาช่วยหาลูกสาวผม ก็ที่ผมจะไปหาลูกผมเห็นรถคันหนึ่งที่เธอนั่งไป ผมจำทะเบียนได้ แล้วให้คนขับรถตามเธอไปอีกที แล้วผมก็พบว่าเธออยู่บ้านกับคนๆหนึ่ง และผมให้คนตามเธอตลอด ณ เวลานั้น เพราะผมไม่สามารถไปได้ มีงานด่วนเข้ามาอีกพอดี และแล้วคนของผมเห็นลูกผมไปโรงแรมก็ไม่ด้มีปฏิกิริยาอะไร จนเห็นเธอวิ่งหนี แล้วบังเอิญเหตุการณ์ไม่ดี เธอถูกรถชน คนของผมไปช่วยเธอไปโรงพยาบาล จนตอนนี้ลูกยังไม่ฟื้นเลย ผมไม่อยากให้ลูกจากไปอย่างงี้.... น้ำตาผมก็เริ่มไหลลงมา
---------------------------------------------------------------------------------------------
ณ โลกสีขาว
ฉันเห็นอะไรบางอย่างที่เห็นคือพ่อตอนเด็ก ทำไมมันอยู่ในหัวได้ละ
'สงสัยน่ะสิครับ?'
"ค่ะ มันก็ต้องสงสัยอยู่แล้ว"
'แล้วคุณว่าคุณนิสัยเหมือนใครกันแน่ครับ'
"....."
ฉันไม่ตอบอะไรเขา ฉันเงียบไว้
"ทางไปตายทางไหนหรอค่ะ??"
'คุณเลือกแล้วสินะครับ'
.... ฉันไม่ลังเลอะไรเลยฉันได้คิดว่าการที่กลับไปก็ไม่ช่วยอะไรเลย มันอาจจะแย่ลง ฉันกำลังเดินไปทางตายนั้น ฉันก้มหน้าร้องไห้มา
"เดี๋ยวก่อน!!!"
ฉันหันไปข้างหลัง ฉันได้พบกับพ่อของฉัน ฉันตกใจหนักมาก ฉันได้เดินไปหาเขา เขาเอามือสองข้างของเขามาอบกอดเขา แล้วเขาบอกฉันว่า "อย่าไปเลยนะ T_T" พ่อของฉันร้องไห้ออกมาเป็นครั้งที่สองที่ฉันเห็น และแล้วฉันก็ได้เปลี่ยนความคิดนั้น จน.....
------------------------------------------------------------------------------------------
ณ โลกปัจจุบัน ที่บ้าน
'เด็กดีของพ่อ ยืนขึ้นได้แล้ว ฮึบ'
"ค่ะคุณพ่อ"
End
ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ