ซะขนาดนี้หรือจะลืมลง

9.9

เขียนโดย มังกุมภ์

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 15.05 น.

  48 ตอน
  40 วิจารณ์
  52.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2558 16.39 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

33) เพื่อนลัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                       ช่วงเหตุการณ์  ม.1

 

          อ่านชื่อเรื่องแล้ว สะกดไม่ผิดหรอกครับ ลักที่ว่าไม่ใช่รัก แต่เป็นลักขโมยน่ะครับ ทุกคนที่อ่านเรื่องนี้ พูดได้เลยว่า ต้องมีเพื่อนขาจิ๊กแน่นอน แบบชอบแฮ้บของเราไปเงียบๆ บางทีก็รู้มั่งไม่รู้มั่งตามแต่จังหวะ เรื่องที่เกิดกับผมในตอนนี้เป็นเพื่อนที่นั่งเรียนติดกับผมนี่แหละ บัดดี้ซี้ปึ่กเลย ขอเรียกชื่อมันว่า เอ้ย ละกันครับ ไอ้เอ้ย เป็นเด็กรูปร่างออกไปทางท้วมผิวออกไปทางคล้ำ ถ้ายุคแฟนฉัน ก็อ้วนดำ อ้วนดำน่ะแหละ

          ผมได้จับคู่นั่งเรียนกับเอ้ยในชั้น ม.1 ซึ่งตอน ป.6 ผมดันเจือกเรียนดี พอขึ้น ม.1 ก็เลยได้ย้ายมาอยู่ในห้องเด็กเรียนดีกะเขาด้วย แต่ตามสันดานแล้วผมขี้เกียจครับ เรียกได้ว่าในห้องเด็กเรียนดีเนี่ย ผมอยู่อันดับบ๊วยเลย เพราะนอกจากหัวไม่ดีแล้วยังจะขี้เกียจอีกด้วย

          แต่ฟ้าก็คงจะเห็นใจผมที่เป็นเด็กขี้เกียจ&โง่ แต่ดันถูกส่งมาห้องเด็กเรียนเก่ง เลยประทานไอ้เอ้ยมาเป็นเพื่อนผม ซึ่งจะว่าไป มันก็มึนๆ ขี้เกียจๆ คล้ายๆผมนี่แหละ ได้บั๊ดดี้ดีขนาดนี้ จากที่เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว ก็พากันโง่ลงเหวไปเลยทีนี้ ครูสอนอะไร ไม่เข้าใจหันไปถามมัน มันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันถามผม ผมก็ไม่รู้ ก็เลยกลายเป็น ง งู สองตัว นั่งอยู่คู่กันนั่นแหละ

          ไอ้เอ้ย นอกจากมีพรสวรรค์ด้านเรียนไม่เก่งแล้ว มันยังมีนิสัยแปลกๆอีกอย่างนึงคือ "ชอบจิ๊ก"  ไอ้ที่ชอบจิ๊กเนี่ย มันไม่ได้จิ๊กไปทั้งห้องหรอกครับ แต่มันชอบจิ๊กของผมซึ่งเป็นบั้ดดี้มันเนี่ยแหละ เพราะว่าห่างแค่เพียงเอื้อมมือ อะไรๆมันก็จิ๊กง่าย ของที่มันชอบจิ๊ก ก็มีตั้งแต่ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด ซึ่งเวลาของผมหายไป ไม่ต้องไปถามใคร เรียกคืนจากไอ้เอ้ยนี่แหละ มันก็ํจะยื่นคืนมาให้พร้อมกับทำหน้าเกือบๆยิ้ม ก็ไม่เข้าใจความคิดของมันเหมือนกัน

          วันหนึ่ง ผมต้องจ่ายค่าเทอม แม่ก็กำชับมาอย่างดีว่าให้ระวังหาย แม่กลัวหายถึงขนาดจะเอาหนังยางรัดกระเป๋ากางเกงผม ซึ่งผมไม่ยินยอม เพราะคิดว่าตัวเองโตแล้ว คงไม่ทำหล่นง่ายๆหรอก เถียงกันไปเถียงกันมา ผมก็เลยเอาตังใส่กระเป๋านักเรียนนี่แหละ มันจะไม่ได้หล่น

          พอมาถึงช่วงเวลาพักเที่ยง ผมก็เอี้ยวตัวไปหยิบเงินค่าเทอมเพื่อจะลงไปจ่าย แต่ว่า มันหายไปแล้วครับ! ผมหน้าซีด นั่งนึกในใจว่า ตอนที่มาเรียน ผมเหวี่ยงกระเป๋าหรือทำไรที่เป็นการเสี่ยงต่อการทำเงินหล่นหรือป่าว คิดๆแล้วก็ไม่ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเงียบหน้าเหวอ เพื่อนๆก็ทยอยกันเดินลงไปกินข้าว ไอ้เอ้ยซึ่งนั่งกำลังเก็บของอยู่ข้างๆ เห็นผมนั่งเงียบๆ ก็ถามว่า "เอส เป็นไรวะ"

          "ตังค่าเทอมกูหาย เหี้ยเอ๊ย หายได้ไงวะ ตายแน่กู"

          เอ้ยมองหน้าผมด้วยแววตาที่เดาไม่ถูก ( ไอ้นี่เล่นเก้าเกแดกได้ทั้งวงครับ หน้านิ่งมาก) ก่อนจะล้วงมือไปในกระเป๋าเสื้อของมัน หยิบเงินปึกหนึ่งยื่นมาให้ผม แล้วบอกว่า

          "กูเอาไปเองแหละ อ่ะนี่"

          ผมรับเงินคืนจากมันมาแบบ งงๆ พร้อมกับถามมันว่า

          "มึงหยิบไปตอนไหน?"

          เอ้ยตอบพร้อมกับลุกขึ้น

          "ตอนมึงเผลอ ป๊ะ กินข้าวกัน หิว"

          ผมก็ลุกตามมันไปแบบ งงๆ ว่าอะไรของมันวะ

          เหตุการณ์เป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ เวลามีของอะไรหาย หรือตังผมหาย ถ้าผมเงียบ มันจะไม่ได้คืน แต่ถ้าผมเอ่ยปาก ไอ้เอ้ยก็จะยื่นคืนให้ตลอด ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจความคิดของมันเหมือนกันว่ามันจิ๊กแล้วคืนทำไม ปกติถ้าเป็นนักแซ๊งค์มือสมัครเล่นวัยเรียน ถ้าได้แฮ้บของใครแล้ว ต้องปิดปากเงียบกริบ เพราะถ้ารู้ตัวนี่ นอกจากขายขี้หน้า โดนตีแล้ว เครดิตก็ลดลงด้วย

          แต่กับไอ้เอ้ย มันแฮ้บได้ตลอด หรือมันชอบหน้าผมตอนเหวอที่ของหาย ก็ไม่เคยถามมันเหมือนกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง..

          มันเป็นวันหยุด ซึ่งโรงเรียนเค้าก็หยุดกัน แต่ไอ้เอ้ยซึ่งเบลอๆ ดันแต่งตัวมาเรียนซะงั้น หลังจากไปยืนอ้างว้างอยู่หน้าโรงเรียนซึ่งเงียบฉี่ไร้เงาเด็กๆอยู่พักใหญ่ ไอ้เอ้ยก็ย้อนกลับมาหาผมที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่นัก ต่างจากบ้านมัน ซึ่งต้องนั่งรถมาราวๆหนึ่งชั่วโมง

          ผมซึ่งกำลังนอนกลิ้งไปมาอย่างมีความสุข ก็ต้องตื่นขึ้นมาต้อนรับบั๊ดดี้วันหยุดไม่ยอมหยุดผู้นี้ด้วยความง่วง ผมบอกมันว่าตามสบายเลย จะทำไร ดูหนังเล่นเกมตามสะดวก ส่วนกู ขอนอนต่อก่อน เดี๋ยวตื่นแล้วไปหาไรกินกัน ( พูดเหมือนไปกินไกล ก็บ้านขายข้าวแกง ลงไปก็ได้กินแล้ว)
 ไอ้เอ้ยก็นั่งหยุกหยิกๆอยู่ปลายเตียงผมนั่นแหละ จนกระเวลาผ่านไป ผมก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับชวนมันลงไปกินข้าว ไอ้เอ้ยบอกกินเสร็จจะกลับบ้าน แต่จะแวะซื้อของที่ตลาดก่อน ผมตกลงว่าจะไปเป็นเพื่อนมันด้วย ผมเดินไปหยิบกระเป๋าตังพร้อมกับตังที่วางอยู่บนชั้นหลังทีวี แต่... เงินผมหายไป 500!

          "เชี้ยยย เงินกูหาย500 ไอ้เอ้ย มึงหยิบไปป่าววะ?"

          ผมหันไปถามมันเพราะหวังว่ามันจะยื่นเงินคืนมาให้ผมเหมือนเมื่อก่อน แต่เอ้ยส่ายหน้า ผมเลยนึกย้อนไปว่าเมื่อวานนี้ผมได้ใช้เงินไปแบบไม่รู้ตัวหรือป่าว จำได้ล่าสุดว่าผมทำเงินหล่นในห้องน้ำ มันเปียกๆน้ำยับๆย่นๆอยู่ ผมเลยวางไว้บนชั้นที่ว่านี่แหละ ซึ่งถ้าผมได้เห็นแบ๊งค์500 ใบนั้นผมต้องจำได้แน่นอน

          ผมไปติดต่างๆนาๆ สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่า คนที่จะหยิบไป คือไอ้เอ้ยนี่แหละ ผมเดินลงมานั่งกินข้าวกับเอ้ย พร้อมกับบ่นๆว่ามันหายไปไหน เอ้ัยกินเงียบๆนั่งฟังผมบ่นไป ผมลุกไปถามแม่ว่าหยิบเงินไปมั่งหรือป่าว เผื่อแม่อาจจะหยิบฉุกเฉินไปทอนตังลูกค้า ก็ได้คำตอบว่าไม่ได้หยิบ สุดท้ายผมก็สรุปในใจว่า ไอ้เอ้ยนี่แหละ หนอย วันธรรมดามึงคืน แต่วันหยุดมึงไม่คืนใช่มั๊ย

          ไอ้ครั้นจะจับมันถลกหนังตูดออกมาดูว่ามีเงินอยู่ในตัวมันไหม ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการเสียน้ำใจเพื่อนลัก ผมจึงชวนมันนั่งรถไปตลาดด้วยกัน ระหว่างทางที่ไปตลาดผมก็คิดแผนที่จะเอาเงินห้าร้อยนั่นคืนมา ว่าจะเอาคืนยังไงดี

          ไอ้เอ้ยเดินเข้าร้านเครื่องเขียน ผมก็เดินตาม ตาก็มองของในตู้โชว์ ผมเห็นปากกาด้ามหนึ่ง รูปทรงสวยถูกใจ พอเห็นราคา ก็เกิดความคิดขึ้นมาได้ในทันที ผมชี้ปากกาด้ามนั้นพร้อมกับบอกว่า ขอดูหน่อย เฮียเจ้าของร้านซึ่งคุ้นหน้ากัน ก็หยิบออกมาให้ดูพร้อมกับเชียร์เล็กน้อย ผมดูซักพักจึงตอบตกลง พร้อมกับควักกระเป๋าตังออกมา หยิบเงินออกมานับ นับอยู่สองรอบ ผมก็หันไปทางไอ้เอ้ยซึ่งยืนหน้านิ่งๆอยู่ข้างๆ

          "เฮ้ย ตังกูขาดไป500ว่ะ มึงมีมั๊ย?"

          ไอ้เอ้ย มองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะควักแบงค์500ยับๆออกมาให้ผม ซึ่งก็แน่นอนละว่ามันเป็นใบที่หายไปนั่นแหละ ผมหยิบจากมือมันมานับรวมกับของผมแล้วจ่ายให้เฮียเจ้าของร้านไป

          ผมส่งไอ้เอ้ยขึ้นรถกลับบ้านโบกมือหยอยๆ เป็นความหมายนัยๆว่า 'ไม่คืนน๊าาาา" กับบั๊ดดี้ของผม ผมกลับบ้านด้วยอารมณ์เบิกบานและภาคภูมิใจความคิดของตัวเองที่สามารถเอาเงินคืนมาได้ แต่พอคิดไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มเป็นความหดหู่

           "กูยอมเสียเงินเป็นพันเพื่อจะเอาห้าร้อยบาทคืน ส๊าดดดดด"

          คิดไปก็เริ่มเศร้าว่าตัวเองไม่น่าใจร้อนหาเรื่องใส่ตัวเลย แค่ทวงมันถี่ๆเดี๋ยวมันก็คืนเอง สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจเพราะว่ายังไงก็ซื้อมาแล้ว จะเอาไปคืนเฮียคงไม่รับคืน ผมหยิบปากกาออกมาดูพร้อมกับคิดในใจว่า

          "กูจะใช้มึงยันเรียนจบมหาลัยเลย คอยดู๊" (แต่ในความเป็นจริง ขึ้น ม.2 มันก็หายไปแล้วครับ)

 

                                        --0--

 

    
           

          

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา