ซะขนาดนี้หรือจะลืมลง
9.9
เขียนโดย มังกุมภ์
วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 15.05 น.
48 ตอน
40 วิจารณ์
52.66K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2558 16.39 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
14) โดดเดี่ยวใต้ร่มไม้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ช่วงเหตุการณ์ ม.2
ผมยอมรับว่าสมัยเด็ก ผมเป็นเด็กที่ขี้เกียจเรียนอย่างมาก เวลาไปโรงเรียนจะรู้สึกว่ากาลเวลามันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียนี่กระไร
แต่ผมก็ยังมีวิชาที่ชอบเรียนอยู่เหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือวิชา "ลูกเสือ"
ปกติแล้วโรงเรียนของผม ถ้ามีวิชาลูกเสือ ช่วงเดือนแรกของวิชา เขาจะอะลุ่มอล่วยเรื่องการแต่งกาย เพราะเด็กบางคนยังขาดอุปกรณ์ในการแต่งกายอยู่ บางคนสั่งตัดชุดยังไม่เสร็จก็มี
ในชั่วโมงแรกของวิชาลูกเสือ บังเอิญวันนั้นผมไม่สบาย จึงไม่ได้ไปโรงเรียน สัปดาห์ต่อมาในวันที่มีเรียนลูกเสือ ทุกคนตั้งแต่ ม.1-ม.3 ใส่ชุดลูกเสือกันทุกคน มีแต่ผมคนเดียวที่ใส่ชุดนักเรียน เพราะว่าชุดลูกเสือผมยังไม่ครบสูตร ใส่มาเกรงว่าจะน่าเกลียด เลยขอใส่ชุดนักเรียนก่อน ทำให้เกิดเรื่องมาเล่านี่แหละ
พอผมมาถึงโรงเรียน เพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กเรียนดี เรียบร้อย เห็นผมใส่ชุดนักเรียน ก็มองผมด้วยสายตาประหวั่นๆ พร้อมกับทักว่า
"เอส ทำไมนายใส่ชุดนักเรียนมา"
"ชุดเรายังไม่พร้อมน่ะ ใส่มากลัวน่าเกลียด" ผมตอบ
"ชั่วโมงก่อนนายไม่ได้มาเรียนนี่นะเลยไม่รู้ว่า ครูเขาสั่งไว้ว่าให้ใส่มาทุกคนใครพร้อมแค่ไหนใส่มาแค่นั้น ขาดเหลืออะไรก็ช่างมัน คนไม่ใส่มาจะโดนทำโทษหนัก"
แค่คำพูดนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกหนาวๆขึ้นมากลางแดดเปรี้ยงๆ
"เราไม่รู้จริงๆว่าครูสั่ง เดี๋ยวถึงชั่วโมงเราจะบอกครูเอง"
ผมพูดบอกเพื่อนไป
ตลอดวันนั้น ผมเจอแต่เพื่อนทักเรื่องชุด บางคนที่สนิทๆกันก็ขู่แบบขำๆว่า "มึงโดนแน่ๆ" ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆรอเวลารับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น
พอถึงชั่วโมงลูกเสือ ซึ่งก็กินเวลาบ่ายเข้าไปแล้ว แดดกำลังร้อนได้ที่ เหล่าลูกเสือทั้งหลายกำลังยืนเข้าแถวอยู่ตรงลานปูนหน้าเสาธง หลังจากจัดแถวเรียบร้อย ครูผู้กำกับก็เดินตรวจแถว แต่แล้วก็ชะงักที่ผม
"เฮ้ย มึงออกมานี่เลยไอ้เอส" (ขออนุญาติใช้ชื่อเล่นนะครับ)
ผมเดินออกมาหน้าแถว เหงื่อแตกพลั่ก ไม่รู้เพราะว่าร้อนหรือเหวอ
"ทำไมมึงไม่ใส่ชุดลูกเสือมา มึงเห็นมั๊ยเค้าใส่กันหมดทุกคน"
"คือว่าผม..."ผมกำลังจะบอกเหตุผลให้ครูผู้กำกับฟัง
"มึงดูคนอื่น ขนาดไม่พร้อมเค้ายังแต่งกันมา ไหนมึงบอกมาซิว่าทำไมมึงถึงไม่แต่งมา"
"พฤหัสที่แล้วผมป่วยครับ ไม่ได้มาเรียน เลยไม่รู้ว่าครูสั่ง"
"มึงไม่ต้องมาอ้าง มึงไม่อยากเรียนใช่มั๊ย?"
อ้าว ว่าไปนั่น ครั้นจะบอกว่าเป็นวิชาที่ชอบที่สุด ก็แลดูจะสอพลอเกินไป และที่สำคัญผมบอกเหตุผลไปแล้ว เมื่อครูท่านไม่รับฟัง ก็เกินปัญญาที่ผมจะแก้ไขได้ ผมเลยเงียบดีกว่า
"มึงไม่อยากเรียน จะไปไหนก็ไป๊!"
ครูผู้กำกับตะคอกใส่ผม
ผมเลยเดินจ๋อยๆออกจากหน้าแถวไปนั่งดูการฝึกอยู่ใต้ร่มหูกวาง ซึ่งช่วงนี้ลูกเสือชั้น ม.1 กับ ม.3 แยกย้ายไปเรียนคนละจุดกันแล้ว เหลือ ม.2 ชั้นของผมที่ยังอยู่บนลานปูน
ผมนั่งดูเพื่อนๆถูกทำโทษด้วยการวิดพื้น ถูกบังคับให้นอนตากแดดบนพื้นปูนที่ร้อนระอุด้วยความอิจฉาที่ได้เรียนวิชาลูกเสือ และด้วยความเศร้า+ร้อนและคอแห้ง ผมเลยเดินไปซื้อลูกชิ้นทอดพร้อมกับเป๊ปซี่เย็นเจี๊ยบมานั่งดูดอยู่ใต้ร่มหูกวาง กินไปดูเพื่อนๆซ้อมจัดแถวกับถูกลงโทษไปพลางๆ
พอกินหมด ตามสไตล์หนังพุงตึงหนังตาหย่อน บวกกับลมเย็นๆใต้ต้นหูกวาง ผมจึงนั่งพิงต้นหูกวางหลับไปด้วยความเศร้าแบบอิ่มๆ
กว่าจะรู้สึกตัวอีกที เหล่าลูกเสือก็เตรียมเลิกแถวแล้ว พอเลิกแถวเสร็จก็เตรียมกลับบ้านกัน
สัปดาห์ต่อมาในวันเรียนลูกเสือ ผมแต่งชุดลูกเสือกะเขาซักที ถึงจะขาดของไปสองสามอย่าง เพราะหาซื้อไม่ได้ แต่ก็ทำใจยอมรับโทษแล้ว เพราะอย่างไรก็ไม่ได้แต่งชุดนักเรียนไป คงโดนทำโทษน้อยกว่าเดิม
พอไปถึงโรงเรียน ผมก็ต้อง งง อีกครั้ง เพราะเด็ก ม.2 เกือบ 70% ใส่ชุดนักเรียน
"อ้าวเอส ใส่ชุดลูกเสือมาเหรอ?"
เพื่อนคนหนึ่งร้องทักมันก็เป็นคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักเรียนมา
"เออดิ ขืนใส่ชุดนักเรียนมากูโดนอัดแน่"
ผมตอบเพื่อนคนนั้นไป แต่ก็ไม่ได้ถามว่าทำไมถึงใส่ชุดนักเรียนมา
พอถึงวิชาลูกเสือ เข้าแถวเสร็จ ครูผู้กำกับ ก็เดินมาหน้าแถวด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมกับตะโกนว่า
"ไอ้พวกใส่ชุดนักเรียน ออกมาข้างหน้าให้หมด!"
ทุกคนที่ใส่ชุดนักเรียน เดินออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มลั้นลามาก พอตั้งแถวกันเสร็จ ครูก็ตะคอกพวกนั้นว่า
"ที่กูพูดไปคราวก่อน กูประชดโว๊ย พวกมึง วิดพื้นกันคนละ20 แล้วนอนตากแดดไป"
"อ้าว!...เฮ้ย!...ว๊า!...เอ๋า!...ฯลฯ"
เสียงนักเรียนเสื้อขาวดังกระหึ่มออกมาอย่างผิดหวัง ก่อนจะรับโทษตามคำสั่ง ซึ่งในตอนหลังวิดพื้นเสร็จ แทนที่จะให้นอนตากแดด ผู้กำกับก็สั่งให้กลับเข้าแถวเหมือนเดิม เพราะเด็กเหลือน้อย ไม่สามารถฝึกแถวได้
ระหว่างที่นักเรียนรับโทษ ผมกระซิบถามเพื่อนว่าครูเขาสั่งอะไรเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เพื่อนผมตอบมาว่า
"ครูบอกว่า ถ้าสัปดาห์หน้า ใครขี้เกียจเรียนลูกเสือ อยากนั่งใต้ร่มไม้เย็นๆเหมือนไอ้เอส ให้ใส่ชุดนักเรียนมาได้เลย"
โถ... ไม่บอกให้รู้แต่แรก ไม่งั้นจะยอมเศร้าอีก
--จบ--
ผมยอมรับว่าสมัยเด็ก ผมเป็นเด็กที่ขี้เกียจเรียนอย่างมาก เวลาไปโรงเรียนจะรู้สึกว่ากาลเวลามันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียนี่กระไร
แต่ผมก็ยังมีวิชาที่ชอบเรียนอยู่เหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือวิชา "ลูกเสือ"
ปกติแล้วโรงเรียนของผม ถ้ามีวิชาลูกเสือ ช่วงเดือนแรกของวิชา เขาจะอะลุ่มอล่วยเรื่องการแต่งกาย เพราะเด็กบางคนยังขาดอุปกรณ์ในการแต่งกายอยู่ บางคนสั่งตัดชุดยังไม่เสร็จก็มี
ในชั่วโมงแรกของวิชาลูกเสือ บังเอิญวันนั้นผมไม่สบาย จึงไม่ได้ไปโรงเรียน สัปดาห์ต่อมาในวันที่มีเรียนลูกเสือ ทุกคนตั้งแต่ ม.1-ม.3 ใส่ชุดลูกเสือกันทุกคน มีแต่ผมคนเดียวที่ใส่ชุดนักเรียน เพราะว่าชุดลูกเสือผมยังไม่ครบสูตร ใส่มาเกรงว่าจะน่าเกลียด เลยขอใส่ชุดนักเรียนก่อน ทำให้เกิดเรื่องมาเล่านี่แหละ
พอผมมาถึงโรงเรียน เพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กเรียนดี เรียบร้อย เห็นผมใส่ชุดนักเรียน ก็มองผมด้วยสายตาประหวั่นๆ พร้อมกับทักว่า
"เอส ทำไมนายใส่ชุดนักเรียนมา"
"ชุดเรายังไม่พร้อมน่ะ ใส่มากลัวน่าเกลียด" ผมตอบ
"ชั่วโมงก่อนนายไม่ได้มาเรียนนี่นะเลยไม่รู้ว่า ครูเขาสั่งไว้ว่าให้ใส่มาทุกคนใครพร้อมแค่ไหนใส่มาแค่นั้น ขาดเหลืออะไรก็ช่างมัน คนไม่ใส่มาจะโดนทำโทษหนัก"
แค่คำพูดนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกหนาวๆขึ้นมากลางแดดเปรี้ยงๆ
"เราไม่รู้จริงๆว่าครูสั่ง เดี๋ยวถึงชั่วโมงเราจะบอกครูเอง"
ผมพูดบอกเพื่อนไป
ตลอดวันนั้น ผมเจอแต่เพื่อนทักเรื่องชุด บางคนที่สนิทๆกันก็ขู่แบบขำๆว่า "มึงโดนแน่ๆ" ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆรอเวลารับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น
พอถึงชั่วโมงลูกเสือ ซึ่งก็กินเวลาบ่ายเข้าไปแล้ว แดดกำลังร้อนได้ที่ เหล่าลูกเสือทั้งหลายกำลังยืนเข้าแถวอยู่ตรงลานปูนหน้าเสาธง หลังจากจัดแถวเรียบร้อย ครูผู้กำกับก็เดินตรวจแถว แต่แล้วก็ชะงักที่ผม
"เฮ้ย มึงออกมานี่เลยไอ้เอส" (ขออนุญาติใช้ชื่อเล่นนะครับ)
ผมเดินออกมาหน้าแถว เหงื่อแตกพลั่ก ไม่รู้เพราะว่าร้อนหรือเหวอ
"ทำไมมึงไม่ใส่ชุดลูกเสือมา มึงเห็นมั๊ยเค้าใส่กันหมดทุกคน"
"คือว่าผม..."ผมกำลังจะบอกเหตุผลให้ครูผู้กำกับฟัง
"มึงดูคนอื่น ขนาดไม่พร้อมเค้ายังแต่งกันมา ไหนมึงบอกมาซิว่าทำไมมึงถึงไม่แต่งมา"
"พฤหัสที่แล้วผมป่วยครับ ไม่ได้มาเรียน เลยไม่รู้ว่าครูสั่ง"
"มึงไม่ต้องมาอ้าง มึงไม่อยากเรียนใช่มั๊ย?"
อ้าว ว่าไปนั่น ครั้นจะบอกว่าเป็นวิชาที่ชอบที่สุด ก็แลดูจะสอพลอเกินไป และที่สำคัญผมบอกเหตุผลไปแล้ว เมื่อครูท่านไม่รับฟัง ก็เกินปัญญาที่ผมจะแก้ไขได้ ผมเลยเงียบดีกว่า
"มึงไม่อยากเรียน จะไปไหนก็ไป๊!"
ครูผู้กำกับตะคอกใส่ผม
ผมเลยเดินจ๋อยๆออกจากหน้าแถวไปนั่งดูการฝึกอยู่ใต้ร่มหูกวาง ซึ่งช่วงนี้ลูกเสือชั้น ม.1 กับ ม.3 แยกย้ายไปเรียนคนละจุดกันแล้ว เหลือ ม.2 ชั้นของผมที่ยังอยู่บนลานปูน
ผมนั่งดูเพื่อนๆถูกทำโทษด้วยการวิดพื้น ถูกบังคับให้นอนตากแดดบนพื้นปูนที่ร้อนระอุด้วยความอิจฉาที่ได้เรียนวิชาลูกเสือ และด้วยความเศร้า+ร้อนและคอแห้ง ผมเลยเดินไปซื้อลูกชิ้นทอดพร้อมกับเป๊ปซี่เย็นเจี๊ยบมานั่งดูดอยู่ใต้ร่มหูกวาง กินไปดูเพื่อนๆซ้อมจัดแถวกับถูกลงโทษไปพลางๆ
พอกินหมด ตามสไตล์หนังพุงตึงหนังตาหย่อน บวกกับลมเย็นๆใต้ต้นหูกวาง ผมจึงนั่งพิงต้นหูกวางหลับไปด้วยความเศร้าแบบอิ่มๆ
กว่าจะรู้สึกตัวอีกที เหล่าลูกเสือก็เตรียมเลิกแถวแล้ว พอเลิกแถวเสร็จก็เตรียมกลับบ้านกัน
สัปดาห์ต่อมาในวันเรียนลูกเสือ ผมแต่งชุดลูกเสือกะเขาซักที ถึงจะขาดของไปสองสามอย่าง เพราะหาซื้อไม่ได้ แต่ก็ทำใจยอมรับโทษแล้ว เพราะอย่างไรก็ไม่ได้แต่งชุดนักเรียนไป คงโดนทำโทษน้อยกว่าเดิม
พอไปถึงโรงเรียน ผมก็ต้อง งง อีกครั้ง เพราะเด็ก ม.2 เกือบ 70% ใส่ชุดนักเรียน
"อ้าวเอส ใส่ชุดลูกเสือมาเหรอ?"
เพื่อนคนหนึ่งร้องทักมันก็เป็นคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักเรียนมา
"เออดิ ขืนใส่ชุดนักเรียนมากูโดนอัดแน่"
ผมตอบเพื่อนคนนั้นไป แต่ก็ไม่ได้ถามว่าทำไมถึงใส่ชุดนักเรียนมา
พอถึงวิชาลูกเสือ เข้าแถวเสร็จ ครูผู้กำกับ ก็เดินมาหน้าแถวด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมกับตะโกนว่า
"ไอ้พวกใส่ชุดนักเรียน ออกมาข้างหน้าให้หมด!"
ทุกคนที่ใส่ชุดนักเรียน เดินออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มลั้นลามาก พอตั้งแถวกันเสร็จ ครูก็ตะคอกพวกนั้นว่า
"ที่กูพูดไปคราวก่อน กูประชดโว๊ย พวกมึง วิดพื้นกันคนละ20 แล้วนอนตากแดดไป"
"อ้าว!...เฮ้ย!...ว๊า!...เอ๋า!...ฯลฯ"
เสียงนักเรียนเสื้อขาวดังกระหึ่มออกมาอย่างผิดหวัง ก่อนจะรับโทษตามคำสั่ง ซึ่งในตอนหลังวิดพื้นเสร็จ แทนที่จะให้นอนตากแดด ผู้กำกับก็สั่งให้กลับเข้าแถวเหมือนเดิม เพราะเด็กเหลือน้อย ไม่สามารถฝึกแถวได้
ระหว่างที่นักเรียนรับโทษ ผมกระซิบถามเพื่อนว่าครูเขาสั่งอะไรเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เพื่อนผมตอบมาว่า
"ครูบอกว่า ถ้าสัปดาห์หน้า ใครขี้เกียจเรียนลูกเสือ อยากนั่งใต้ร่มไม้เย็นๆเหมือนไอ้เอส ให้ใส่ชุดนักเรียนมาได้เลย"
โถ... ไม่บอกให้รู้แต่แรก ไม่งั้นจะยอมเศร้าอีก
--จบ--
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ