Psychopomp เรื่องเล่าสยองขวัญ
-
เขียนโดย api3api
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 14.52 น.
10 บท
1 วิจารณ์
14.54K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 02.22 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
7) ดอกรัก ดอกโศก ตอนที่1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ บางทีการกระทำอันแสนแปลกของฉันอาจจะมาจากการมีตัวตนของเธอ
"นิดา มาลัยกุล"
ตัวตนของเธอช่างมีสเน่ห์ ความสดใสของเธอช่างเปร่งประกาย ทำให้ชายใดได้หลงเข้ามาไกล้เธอแล้วยากที่จะถอนตัวออกมา รวมถึงฉัน
แต่ จะดีกว่าใหมที่คนจืดจางเช่นเราจะหลบออกมาจากดอกไม้ดอกนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก แม้เราจะตัดสินใจลงไปแบบนั้นแต่ใจก็ยังแอบน้อยใจ
"เราไม่สมควรสมหวังในสิ่งที่เรารักเหรอ"
ดีแล้วนะ เราควรจะมองเธอห่างๆแบบนี้ดีที่สุดแล้ว เหล่าผึ้งตอมดมเธอก็มากเกินพออยู่แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราก็จะตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยว
"บ่อยมากเลยนะที่ฉันเห็นเธอมาทำอะไรอยู่คนเดียวในโรงเพราะชำแบบนี้"
เสียงใสๆทำเอาเราสะดุ้ง ทำใมนางฟ้านางสวรรค์ถึงมาในที่สกปรกและฉ่ำแฉะแบบนี้หนอและยังมอบรอยยิ้มอันแสนมีความหวังมาที่คนอย่างเราอีกด้วย
"ดอก..ดอกไม้ ใช่ๆ เราชอบดอกไม้และมีต้นไม้ต้นนึงมันออกดอกหอมเย็นฉันจึงชอบมาที่นี่"
การเผยมือให้เธอดูต้นไม้ต้นนั้นทำให้เธอเดินเข้ามาหาและยืนข้างๆ แค่นี้ก็น่าปลื้มใจมากล้นเหลือ เธอลูบต้นไม้ต้นนั้นมันเป็นภาพที่หาดุได้ยากนัก
"หอมจัง พิกุลเหรอ"
"เปล่าไม่ใช่ ลั่นทมน่ะ"
เธอสะดุ้งมือกลับ แต่ยังเอื้อมมือไปเด็ดมาดม เธอคงชอบกลิ่นของมันเข้าแล้ว
"แปลกจัง ปกติเขาปลูกในวัด กับสุสานนี่ โรงเรียนเขาไม่ห้ามเหรอ"
ไม่รู้สิ เพราะงั้นคำตอบของเราจึงเป็นแค่การส่ายหน้าปฎิเสธ เธอพยักหน้าเหมือนเป็นการบ่งบอกว่าไม่เป็นไร และยังเอามันมาเหน็บหูให้ด้วยสิ
"หอม เธอดูแลมันสมควรที่เธอจะได้ความหอมของมันติดตัวมาด้วย"
ไพเราะ ทำใมพูดดีมีสกุลขนาดนี้กัน ทั้งที่วัยรุ่นเดี๋ยวนี้พูดจากย้อนยุคสมัยขุนรามไปแล้วมันฟังชื่นหูมากไม่แปลกใจเลยที่ชายทั้งหลายต่างหลงรัก
การตัดสินใจที่เด็ดขาดของเราพังลงแล้ว ฉันหลงสเน่ห์ของเธอเข้าแล้วและมากยิ่งขึ้นด้วย ต่อให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของฝูงแมลงดอมดมเธอก็ตาม ไม่มีอะไรหยุดความหลงใหล
"นิดา เราชอบเธอมาก ต่อจากนี้ช่วยมองเราเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่แค่เพื่อนได้ใหม"
เธอมองหน้าของเราอย่างสงสัยและยิ้มขบขันเล็กน้อยแต่ไม่ใช่การเย้ยหยัน
"บ้า เธอพูดอะไรก็ไม่รู้ เธอเป็นผู้หญิงนะ จันทร "
นั่นสิ เราเกือบลืมไปแล้ว เราเป็นหญิง แต่แค่ร่างกายเท่านั้น แต่ในจิตใจของเรานั้นมันไม่ใช่ แปลกจังทำใมเราถึงกล้ามากมายขนาดนี้นะ และดูเธอเหมือนไม่ได้ปฎิเสธเลยด้วย
"มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด ฉันไม่กล้าหักอกใครหรอก แต่สัญญากับฉันนะว่าเธอจะไม่โกรธหากฉันจะไม่เลือกที่จะสนใจแค่เธอคนเดียว และหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอฉันจะไม่ปกป้องเธอเพราะฉันคงไม่กล้าสู้ฉันกลัว"
เรารับคำด้วยความว่าง่าย และดีใจ แม้คำสัญญามันจะดูห่างเหินก็ตามแต่เธอก็ส่งยิ้มให้ทุกครั้งที่เธอเดินผ่านมา
แต่ก็แค่นั้นเพราะเหล่าผู้ชายที่รายล้อมเธอก็ได้รับมันด้วยเช่นกัน
ทำยังไงฉันจะได้เธอมาครองคนเดียว
ฉันมาใต้ต้นลั่นทมอีกแล้ว และแอบเช็ดน้ำตาเล็กน้อย ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่นอกจากรอยยิ้มเราก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะอยู่กับนิดาตามลำพังเลย
"หอม แต่ทำใมชื่อของเธอดูเศร้าสร้อยจังอยากรู้นักว่าใครตั้งชื่อให้เธอ"
"แอบมาเสียใจที่นี่เหรอจันทร ไม่โกรธฉันใช่ใหม"
เสียงนั่น เธอมาที่นี่ เธอช่วยฉันใช่รึเปล่าต้นลั่นทม แม้จะเป็นปราฎิหารย์แต่ก็มีความสุขมากๆ เรานั่งคุยกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน และบ่อยขึ้น จนกลับบ้านมืดค่ำหลายครั้งแต่มันก็แลกมาด้วยความสุขใจ
"ฉันชอบกลิ่นของดอกไม้ต้นนั้นน่ะ บางทีการไม่มีใครล้อมหน้าล้อมหลังมันก็โล่งใจดีนะ เธอคงไม่ว่าถ้าจะมารบกวนเธอ"
"ไม่ว่า ไม่ว่า แต่จะดีเหรอพวกผู้ชายพวกนั้นจะไม่โกรธเหรอ"
"ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างฉันอึดอัดนะที่มีคนติดตามเยอะๆ มืดแล้วเรากลับกันเถอะ"
เราสองคนเก็บกระเป๋า จะเดินออกจากโรงเพราะชำ แต่ต้องหยุดเพราะมีนักเรียนชายห้าคนฉันจำได้ว่าพวกนี้ติดตามนิดาอยู่ พวกเขาเดินเข้ามาแล้วปิดประตูเรือนเพราะชำ
"พวกแกหลีกไป เราจะกลับบ้าน"
พวกมันไม่พูด สองในห้าคนปรี่เข้ามาหาฉัน
"มึงนี่เองอีทอม จำไว้นิดาเป็นของพวกกู ไม่ใช่ของคนวิปริตอย่างแก"
พวกมันปรี่เข้ามาตบฉันไม่ยั้ง ฉันเหลือบไปมองนิดา เธอถูกพวกมันอีกสามคนขวางไว้เธอยืนตัวสั่นอยู่ ฉันต้องสู้ เพื่อะได้หนีไปจากที่นี่ได้
"โอ้ย อีทอมนี่มึงกล้าเอาไม้ตีหัวกูเหรอ วันนี้มึงโดนดีแน่"
พวกมันสองคนเข้ามาปลุกปล้ำฉัน ฉันขัดขืนเต็มที่แต่ฉันพึ่งเข้าใจในวันนี้นี่เองว่าแรงของฉัน ร่างกายของฉันไม่อาจสู้ผู้ชายจริงๆได้
"เป็นผู้หญิงดีๆ ไม่ชอบใช่ใหม วันนี้มึงได้เป็นหญิงสมใจแน่"
พวกสัตว์นรกนั่น ช่วยกันกระชาก ฉีก เสื้อผ้าของฉันออกแม้จะขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถยื้อไว้นาน
"โอ้ย อย่าทำกู พวกเลว โอ้ย"
พวกมันช่วยกันขืนใจฉันจนเป็นผลสำเร็จ ด้วยสถานะการณ์ที่กำลังบ้าคลั่ง ขณะที่สามคนกำลังสาระวนกับการขืนใจฉันอยู่ อีกสองคนก็หันไปสนใจนิดาที่นั่งร้องให้ตัวสั่นอยู่
"มาร่วมด้วยกันเถอะครับ อย่าขัดขีนเลย"
เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายสิบนาทีฉันหมดแรงแล้วใบหน้ามีแต่น้ำตาและความโกรธแค้นฉันมองสี่เดรัจฉานที่กำลังรุมทึ้งนิดาอย่างกับสัตว์ พวกมันไม่สนด้วยซ้ำว่าเธอจะหมดสติไปกี่รอบ
และฉันไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เพราะอีกคนมันกำลังกดทับฉันอยู่ จนพวกมันพอใจก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง
เกือบชั่วโมง เวลาอันชั่วช้า ที่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย
พวกมันกลับออกไปแล้ว เราสองคนกอดกันร้องให้ด้วยความอ่อนแรง ใต้ต้นลั่นทม
ต่อจากนี้เราจะทำยังไง อนาคตของพวกเรา ความอับอายที่จะตามมา นิดาร้องให้ไม่หยุดเหมือนคนเสียสติ ฉันก็ไม่แพ้กันเลย
ตอนนี้ฉันโกรธแค้น แค้นคนทั้งโลก เกลียดอาจารย์ภารโรงที่ไม่มีในช่วงเวลานั้น เกลียดมันทุกอย่าง
เราสองคนช่วยกันประคองร่างอันอิดโรยของพวกเราเดินกลับ แต่นิดาไม่กล้ากลับบ้านเธอจึงของนั่งลงข้างสันเขื่อนและร้องให้อย่างคนบ้าอีกครั้ง
"ฉันจะทำยังไง จันทร พ่อต้องตีฉัน แม่ต้องฆ่าฉันแน่ๆเลย ตะกูลฉันเป็นตะกูลใหญ่พวกเขาต้องไม่เอาฉันไว้แน่ ฉันกลัว"
"ไม่เป็นไรนิดา ฉันจะอยู่ข้างเธอ เราจะอยู่ข้างกัน เราต้องแจ้งตำรวจให้ช่วย"
" ไม่ ไม่ แจ้งตำรวจไม่ได้ ไม่ได้ พ่อต้องฆ่าฉันแน่ ฉันไม่กล้าเข้าบ้านแล้ว "
ฉันกอดพูดปลอบอยู่นานจนเธอเลิกร้องให้ แล้วเดินตามฉัน ฉันกำลังจะไปส่งบ้านของเธอ แต่ นิดาก็ได้ตัดสินใจที่โง่ที่สุดในชีวิตของเธอ
เธอตัดสินใจที่จะจบชีวิตของเธอด้วยการกระโดดลงเขื่อน
"นิดา ฉันจะไปช่วย"
แต่มีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นเกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูน้ำใต้เขื่อนเพื่อระบายน้ำพอดี มันกลายเป็นวังวนน้ำดูดขนาดใหญ่ ที่ฉันมองเห็นยังเข่าอ่อนขยับไม่ได้
นิดา ถูกน้ำดูดหายไปแล้ว ไปพร้อมกับความตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกของฉัน
ฉันไม่กล้าบอกใคร กลัว และโกรธแค้น ฉันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง วันรุ่งขึ้นฉันตัดสินใจมาที่โรงเรียน ตัดสินใจที่จะเปิดโปงพวกมัน พวกมันมาเรียนกันด้วย มันมองฉันอย่างดูถูกและเย้ยหยัน
พวกคงคิดว่าฉันไม่กล้าบอกใคร แต่คิดผิดแล้วพวกสัตว์นรก แกไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นและพวกแกจะได้รู้วันนี้แหละ และชดใช้กรรมของพวกแกซะ ฉันยอมเสียทุกอย่าง
แต่สิ่งที่ทำให้จิตใจที่ปริแตกแทบระเบิดออกให้กลับมาด้วยความตกตะลึงและโล่งอกในใจยิ่งกว่า คือ
การที่ได้เห็นเธอคนนั้นเดินเข้ามาเรียนตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งที่ฉันเห็นเต็มสองตาขนาดนั้น
นิดายังไม่ตาย
"ไม่ต้องแจ้งความหรอก จันทร พวกนี้กฎหมายไม่สามารถให้พวกมันชดใช้อย่างสาสมได้"
เธอเปลี่ยนไปจากนางฟ้าเป็นนางมารจนฉันหวั่นใจ สายตาที่จริงจังและเหตุการณ์นั้นยังหลอกหลอนฉัน ใช่ พวกมันต้องไม่ใช่แค่ติดคุก
เราสองคนเดินเข้ามาใต้ต้นลั่นทมต้นเดิมอีกครั้ง วันนี้มันออกดอกสะพรั่งและส่งกลิ่นหอมสะพัดกว่าทุกครั้ง ลมแรงทีพัดมาส่งผลให้กลีบของมันร่วงตามแรงลมอย่างมากมาย นิดายืนใต้นั้น เธอสวยกว่าทุกครั้ง สายตาของเธอลอดผ่านหมวกที่เธอสวมมาวันนี้สบตากับฉัน เธอขยับเสื้อแขนยาวให้กระชับและพูดคำที่ทำให้ฉันกลับมาร้องให้อีกครั้ง
"ลาก่อนกลีบดอกไม้อันบริสุทธิ์ของเราสองคน"
"นิดา มาลัยกุล"
ตัวตนของเธอช่างมีสเน่ห์ ความสดใสของเธอช่างเปร่งประกาย ทำให้ชายใดได้หลงเข้ามาไกล้เธอแล้วยากที่จะถอนตัวออกมา รวมถึงฉัน
แต่ จะดีกว่าใหมที่คนจืดจางเช่นเราจะหลบออกมาจากดอกไม้ดอกนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก แม้เราจะตัดสินใจลงไปแบบนั้นแต่ใจก็ยังแอบน้อยใจ
"เราไม่สมควรสมหวังในสิ่งที่เรารักเหรอ"
ดีแล้วนะ เราควรจะมองเธอห่างๆแบบนี้ดีที่สุดแล้ว เหล่าผึ้งตอมดมเธอก็มากเกินพออยู่แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราก็จะตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยว
"บ่อยมากเลยนะที่ฉันเห็นเธอมาทำอะไรอยู่คนเดียวในโรงเพราะชำแบบนี้"
เสียงใสๆทำเอาเราสะดุ้ง ทำใมนางฟ้านางสวรรค์ถึงมาในที่สกปรกและฉ่ำแฉะแบบนี้หนอและยังมอบรอยยิ้มอันแสนมีความหวังมาที่คนอย่างเราอีกด้วย
"ดอก..ดอกไม้ ใช่ๆ เราชอบดอกไม้และมีต้นไม้ต้นนึงมันออกดอกหอมเย็นฉันจึงชอบมาที่นี่"
การเผยมือให้เธอดูต้นไม้ต้นนั้นทำให้เธอเดินเข้ามาหาและยืนข้างๆ แค่นี้ก็น่าปลื้มใจมากล้นเหลือ เธอลูบต้นไม้ต้นนั้นมันเป็นภาพที่หาดุได้ยากนัก
"หอมจัง พิกุลเหรอ"
"เปล่าไม่ใช่ ลั่นทมน่ะ"
เธอสะดุ้งมือกลับ แต่ยังเอื้อมมือไปเด็ดมาดม เธอคงชอบกลิ่นของมันเข้าแล้ว
"แปลกจัง ปกติเขาปลูกในวัด กับสุสานนี่ โรงเรียนเขาไม่ห้ามเหรอ"
ไม่รู้สิ เพราะงั้นคำตอบของเราจึงเป็นแค่การส่ายหน้าปฎิเสธ เธอพยักหน้าเหมือนเป็นการบ่งบอกว่าไม่เป็นไร และยังเอามันมาเหน็บหูให้ด้วยสิ
"หอม เธอดูแลมันสมควรที่เธอจะได้ความหอมของมันติดตัวมาด้วย"
ไพเราะ ทำใมพูดดีมีสกุลขนาดนี้กัน ทั้งที่วัยรุ่นเดี๋ยวนี้พูดจากย้อนยุคสมัยขุนรามไปแล้วมันฟังชื่นหูมากไม่แปลกใจเลยที่ชายทั้งหลายต่างหลงรัก
การตัดสินใจที่เด็ดขาดของเราพังลงแล้ว ฉันหลงสเน่ห์ของเธอเข้าแล้วและมากยิ่งขึ้นด้วย ต่อให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของฝูงแมลงดอมดมเธอก็ตาม ไม่มีอะไรหยุดความหลงใหล
"นิดา เราชอบเธอมาก ต่อจากนี้ช่วยมองเราเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่แค่เพื่อนได้ใหม"
เธอมองหน้าของเราอย่างสงสัยและยิ้มขบขันเล็กน้อยแต่ไม่ใช่การเย้ยหยัน
"บ้า เธอพูดอะไรก็ไม่รู้ เธอเป็นผู้หญิงนะ จันทร "
นั่นสิ เราเกือบลืมไปแล้ว เราเป็นหญิง แต่แค่ร่างกายเท่านั้น แต่ในจิตใจของเรานั้นมันไม่ใช่ แปลกจังทำใมเราถึงกล้ามากมายขนาดนี้นะ และดูเธอเหมือนไม่ได้ปฎิเสธเลยด้วย
"มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด ฉันไม่กล้าหักอกใครหรอก แต่สัญญากับฉันนะว่าเธอจะไม่โกรธหากฉันจะไม่เลือกที่จะสนใจแค่เธอคนเดียว และหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอฉันจะไม่ปกป้องเธอเพราะฉันคงไม่กล้าสู้ฉันกลัว"
เรารับคำด้วยความว่าง่าย และดีใจ แม้คำสัญญามันจะดูห่างเหินก็ตามแต่เธอก็ส่งยิ้มให้ทุกครั้งที่เธอเดินผ่านมา
แต่ก็แค่นั้นเพราะเหล่าผู้ชายที่รายล้อมเธอก็ได้รับมันด้วยเช่นกัน
ทำยังไงฉันจะได้เธอมาครองคนเดียว
ฉันมาใต้ต้นลั่นทมอีกแล้ว และแอบเช็ดน้ำตาเล็กน้อย ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่นอกจากรอยยิ้มเราก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะอยู่กับนิดาตามลำพังเลย
"หอม แต่ทำใมชื่อของเธอดูเศร้าสร้อยจังอยากรู้นักว่าใครตั้งชื่อให้เธอ"
"แอบมาเสียใจที่นี่เหรอจันทร ไม่โกรธฉันใช่ใหม"
เสียงนั่น เธอมาที่นี่ เธอช่วยฉันใช่รึเปล่าต้นลั่นทม แม้จะเป็นปราฎิหารย์แต่ก็มีความสุขมากๆ เรานั่งคุยกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน และบ่อยขึ้น จนกลับบ้านมืดค่ำหลายครั้งแต่มันก็แลกมาด้วยความสุขใจ
"ฉันชอบกลิ่นของดอกไม้ต้นนั้นน่ะ บางทีการไม่มีใครล้อมหน้าล้อมหลังมันก็โล่งใจดีนะ เธอคงไม่ว่าถ้าจะมารบกวนเธอ"
"ไม่ว่า ไม่ว่า แต่จะดีเหรอพวกผู้ชายพวกนั้นจะไม่โกรธเหรอ"
"ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างฉันอึดอัดนะที่มีคนติดตามเยอะๆ มืดแล้วเรากลับกันเถอะ"
เราสองคนเก็บกระเป๋า จะเดินออกจากโรงเพราะชำ แต่ต้องหยุดเพราะมีนักเรียนชายห้าคนฉันจำได้ว่าพวกนี้ติดตามนิดาอยู่ พวกเขาเดินเข้ามาแล้วปิดประตูเรือนเพราะชำ
"พวกแกหลีกไป เราจะกลับบ้าน"
พวกมันไม่พูด สองในห้าคนปรี่เข้ามาหาฉัน
"มึงนี่เองอีทอม จำไว้นิดาเป็นของพวกกู ไม่ใช่ของคนวิปริตอย่างแก"
พวกมันปรี่เข้ามาตบฉันไม่ยั้ง ฉันเหลือบไปมองนิดา เธอถูกพวกมันอีกสามคนขวางไว้เธอยืนตัวสั่นอยู่ ฉันต้องสู้ เพื่อะได้หนีไปจากที่นี่ได้
"โอ้ย อีทอมนี่มึงกล้าเอาไม้ตีหัวกูเหรอ วันนี้มึงโดนดีแน่"
พวกมันสองคนเข้ามาปลุกปล้ำฉัน ฉันขัดขืนเต็มที่แต่ฉันพึ่งเข้าใจในวันนี้นี่เองว่าแรงของฉัน ร่างกายของฉันไม่อาจสู้ผู้ชายจริงๆได้
"เป็นผู้หญิงดีๆ ไม่ชอบใช่ใหม วันนี้มึงได้เป็นหญิงสมใจแน่"
พวกสัตว์นรกนั่น ช่วยกันกระชาก ฉีก เสื้อผ้าของฉันออกแม้จะขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถยื้อไว้นาน
"โอ้ย อย่าทำกู พวกเลว โอ้ย"
พวกมันช่วยกันขืนใจฉันจนเป็นผลสำเร็จ ด้วยสถานะการณ์ที่กำลังบ้าคลั่ง ขณะที่สามคนกำลังสาระวนกับการขืนใจฉันอยู่ อีกสองคนก็หันไปสนใจนิดาที่นั่งร้องให้ตัวสั่นอยู่
"มาร่วมด้วยกันเถอะครับ อย่าขัดขีนเลย"
เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายสิบนาทีฉันหมดแรงแล้วใบหน้ามีแต่น้ำตาและความโกรธแค้นฉันมองสี่เดรัจฉานที่กำลังรุมทึ้งนิดาอย่างกับสัตว์ พวกมันไม่สนด้วยซ้ำว่าเธอจะหมดสติไปกี่รอบ
และฉันไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เพราะอีกคนมันกำลังกดทับฉันอยู่ จนพวกมันพอใจก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง
เกือบชั่วโมง เวลาอันชั่วช้า ที่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย
พวกมันกลับออกไปแล้ว เราสองคนกอดกันร้องให้ด้วยความอ่อนแรง ใต้ต้นลั่นทม
ต่อจากนี้เราจะทำยังไง อนาคตของพวกเรา ความอับอายที่จะตามมา นิดาร้องให้ไม่หยุดเหมือนคนเสียสติ ฉันก็ไม่แพ้กันเลย
ตอนนี้ฉันโกรธแค้น แค้นคนทั้งโลก เกลียดอาจารย์ภารโรงที่ไม่มีในช่วงเวลานั้น เกลียดมันทุกอย่าง
เราสองคนช่วยกันประคองร่างอันอิดโรยของพวกเราเดินกลับ แต่นิดาไม่กล้ากลับบ้านเธอจึงของนั่งลงข้างสันเขื่อนและร้องให้อย่างคนบ้าอีกครั้ง
"ฉันจะทำยังไง จันทร พ่อต้องตีฉัน แม่ต้องฆ่าฉันแน่ๆเลย ตะกูลฉันเป็นตะกูลใหญ่พวกเขาต้องไม่เอาฉันไว้แน่ ฉันกลัว"
"ไม่เป็นไรนิดา ฉันจะอยู่ข้างเธอ เราจะอยู่ข้างกัน เราต้องแจ้งตำรวจให้ช่วย"
" ไม่ ไม่ แจ้งตำรวจไม่ได้ ไม่ได้ พ่อต้องฆ่าฉันแน่ ฉันไม่กล้าเข้าบ้านแล้ว "
ฉันกอดพูดปลอบอยู่นานจนเธอเลิกร้องให้ แล้วเดินตามฉัน ฉันกำลังจะไปส่งบ้านของเธอ แต่ นิดาก็ได้ตัดสินใจที่โง่ที่สุดในชีวิตของเธอ
เธอตัดสินใจที่จะจบชีวิตของเธอด้วยการกระโดดลงเขื่อน
"นิดา ฉันจะไปช่วย"
แต่มีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นเกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูน้ำใต้เขื่อนเพื่อระบายน้ำพอดี มันกลายเป็นวังวนน้ำดูดขนาดใหญ่ ที่ฉันมองเห็นยังเข่าอ่อนขยับไม่ได้
นิดา ถูกน้ำดูดหายไปแล้ว ไปพร้อมกับความตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกของฉัน
ฉันไม่กล้าบอกใคร กลัว และโกรธแค้น ฉันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง วันรุ่งขึ้นฉันตัดสินใจมาที่โรงเรียน ตัดสินใจที่จะเปิดโปงพวกมัน พวกมันมาเรียนกันด้วย มันมองฉันอย่างดูถูกและเย้ยหยัน
พวกคงคิดว่าฉันไม่กล้าบอกใคร แต่คิดผิดแล้วพวกสัตว์นรก แกไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นและพวกแกจะได้รู้วันนี้แหละ และชดใช้กรรมของพวกแกซะ ฉันยอมเสียทุกอย่าง
แต่สิ่งที่ทำให้จิตใจที่ปริแตกแทบระเบิดออกให้กลับมาด้วยความตกตะลึงและโล่งอกในใจยิ่งกว่า คือ
การที่ได้เห็นเธอคนนั้นเดินเข้ามาเรียนตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งที่ฉันเห็นเต็มสองตาขนาดนั้น
นิดายังไม่ตาย
"ไม่ต้องแจ้งความหรอก จันทร พวกนี้กฎหมายไม่สามารถให้พวกมันชดใช้อย่างสาสมได้"
เธอเปลี่ยนไปจากนางฟ้าเป็นนางมารจนฉันหวั่นใจ สายตาที่จริงจังและเหตุการณ์นั้นยังหลอกหลอนฉัน ใช่ พวกมันต้องไม่ใช่แค่ติดคุก
เราสองคนเดินเข้ามาใต้ต้นลั่นทมต้นเดิมอีกครั้ง วันนี้มันออกดอกสะพรั่งและส่งกลิ่นหอมสะพัดกว่าทุกครั้ง ลมแรงทีพัดมาส่งผลให้กลีบของมันร่วงตามแรงลมอย่างมากมาย นิดายืนใต้นั้น เธอสวยกว่าทุกครั้ง สายตาของเธอลอดผ่านหมวกที่เธอสวมมาวันนี้สบตากับฉัน เธอขยับเสื้อแขนยาวให้กระชับและพูดคำที่ทำให้ฉันกลับมาร้องให้อีกครั้ง
"ลาก่อนกลีบดอกไม้อันบริสุทธิ์ของเราสองคน"
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ